ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพบุตรแวมไพร์ VS เจ้าชายอสูร

    ลำดับตอนที่ #3 : PART--> 2 เทพบุตรแวมไพร์-->>คนอันตรายหมายเลข 1 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.99K
      3
      8 ม.ค. 57

                                                        PART  2

                                      เทพบุตรแวมไพร์-->>คนอันตรายหมายเลข 1



     

                                                                                                                                                                                   



     
                                        
    "นี่คือห้องเรียนใหม่ของเธอนะจ๊ะต้นหอม"

                มิสซิสแอนหันมาบอกฉันด้วยใบหน้าปลอบใจหลังจากพาฉันออกมาจากห้องพักครูแล้วเดินวนผ่านตึกเรียนทางฝั่งเหนือซึ่งเป็นฝั่งของเด็กคลาสเอมาหลายตึกซึ่งกินเวลาไปเกือบๆสองชั่วโมง ใช่แล้วที่ฉันบอกว่าสองชั่วโมงนะได้ยินกันไม่ผิดหรอก ทำไมฉันถึงใช้เวลาในการมาห้องเรียนนานขนาดนี้นะเหรอก็อย่างที่บอกว่าฉันนะเป็นคนซุ่มซ่ามและเพราะไอ้ความซุ่มซ่ามของฉันนั่นละที่ทำให้ฉันเดินหลงอยู่ในโรงเรียนจนเกือบจะข้ามฝั่งจากเขตคลาสเอไปยังส่วนของเขตคลาสบีซะแล้ว แต่โชคยังดีที่ฉันได้เจอกับประธานนักเรียนของคลาสเข้าซะก่อนและก็เป็นประธานนักเรียนอีกนั่นแหละที่เป็นคนพาฉันไปห้องพักครู จนกระทั่งฉันได้เจอกับมิสซิสแอนในที่สุด  เราทั้งคู่ถึงได้เดินมาถึงตึกของเด็กเกรดสิบสองได้แบบนี้  และที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้ก็คือห้องเรียนใหม่ของฉัน เกรดสิบสอง ห้องบี

    นี่ฉันคงยังไม่ได้แนะนำโรงเรียนใหม่ของฉันซินะ โรงเรียนใหม่ของฉันที่ว่านี่คือ ซานตามาเรีย โรงเรียนเอกชนชื่อดังติดอันดับของประเทศและเป็นโรงเรียนที่พิเศษกว่าที่อื่นๆ ที่ว่าพิเศษกว่าที่อื่นๆก็คือ ทั้งๆที่เป็นโรงเรียนเอกชนแต่ว่าซานตามาเรียกลับมีการแบ่งคลาสเรียนเป็นสองคลาสคือ คลาสเอ และคลาสบี โดยคลาสเอจะเป็นตึกทางด้านฝั่งเหนือ เป็นคลาสเรียนสำหรับเด็กที่ครอบครัวมีฐานะอยู่ในระดับที่คนทั่วไปเรียกว่ารวยและรวยมากและเด็กที่มีระดับการเรียนสูง ซึ่งเด็กฝั่งนี้จะได้รับการศึกษาและการปฏิบัติที่พิเศษกว่าเด็กคลาสบีเป็นเท่าตัว ส่วนคลาสบีนั้นจะเป็นตึกทางฝั่งตะวันออก เป็นคลาสเรียนสำหรับเด็กที่มีระดับการเรียนและฐานะอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งการดูแลและแตกต่างจากเด็กคลาสเอโดยสิ้นเชิง  โดยที่คลาสเรียนทั้งสองจถูกกั้นให้แยกส่วนกันโดยมีรั้วพุ่มไม้หนาทึบสูงสองเมตรเป็นตัวกั้น 

    ฉันเองกยังไม่เข้าใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมโรงเรียนนี้จะต้องมีการแบ่งคลาสเป็นฝั่งๆแบบนี้ด้วยทั้งๆที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันแท้ๆ

    แล้วทำไมฉันถึงได้มาอยู่คลาสเอนะเหรอ เพราะพี่ชายของฉันต้องย้ายที่ทำงานมาเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยในเครือของซานตามาเรีย ฉันก็เลยได้สิทธิ์เข้าเรียนที่ซานตามาเรียและได้อยู่คลาสเอโดยปริยาย

    “เกรดสิบสองห้องบี”

    ฉันบ่นเงียบๆขณะจ้องไปยังป้ายสีทองสุดอลังการหน้าห้อง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วก้มหน้าเดินตามมิสซิสแอนเข้าไปในห้องเรียนที่เหมือนจะเป็นอีกโลกหนึ่งสำหรับฉัน

    “ว่าแต่ ชุดนี้ใส่ได้พอดีไม่อึดอัดใช่ไหมจ๊ะต้นหอม”

    มิสซิสแอนหันมาถามฉันก่อนจะก้มสำรวจฉันด้วยความเป็นห่วงอีกรอบ หลังจากที่ถามคำถามนี้กับฉันเป็นรอบที่สิบแล้วตั้งแต่อยู่ห้องพักครู

    “หนูโอเคค่ะอาจารย์”

    ฉันตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆออกไป ก่อนจะก้มลงสำรวจสภาพตัวเองที่ตอนนี้กำลังอยู่ในชุดวอร์ม พร้อมกับรองเท้าแตะ ที่สวมอยู่ ก็ยังดีกว่าต้องใส่ชุดเดิมที่เลอะโคลนเปื้อนฝุ่นแถมมีรอยขาดก็แล้วกัน มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้วละ

    “งั้นเราก็เข้าไปข้างในกันที่ถอะ”

    มิสซิสแอนยิ้มบางๆกับคำตอบของฉัน ก่อนจะเดินนำฉันเข้าไปในห้องเรียนที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม

       "เงียบๆกันหน่อยจ้าเด็กๆ"
      มิสซิสแอนใช้หนังสือเคาะโต๊ะเสียงดังเพื่อเป็นสัญญานบอกให้เหล่านักเรียนที่กำลังเล่นและคุยกันอยู่ในห้องให้เงียบพร้อมๆกับไปนั่งที่ของตัวเองทันทีที่เข้าไปถึงห้องเรียน

       "วันนี้อาจารย์จะมีเด็กนักเรียนใหม่ที่พึ่งย้ายเข้ามาเรียนกับพวกเธอมาแนะนำให้รู้จัก รู้จักเพื่อนใหม่กันไว้นะทุกคน ”
       มิสซิสแอนบอกเด็กนักเรียนด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง ก่อนจะหันมายิ้มแลเรียกฉันให้เดินเข้าไปแนะนำตัว
       "เอาละต้นหอมแนะนำตัวเองหน่อยซิจ๊ะ"
       "ค่ะ"
                    ฉันได้แต่เดินก้มหน้าก้มตาไปยืนอยู่หน้าชั้นเรียนข้างๆมิสซิสแอนก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองรอบๆห้องด้วยความรู้สึกประหม่า ก็ดูคนพวกนี้แต่ละคนแต่งตัวซิ ต่างกับฉันราวฟ้ากับเหวเลย

       "เอ๊ามัวยืนอ้ำอึ้งอะไรอยู่ละต้นหอมแนะนำตัวกับเพื่อนๆเร็วซิจ๊ะ”
      เสียงของมิสซิสแอนเรียกสติอันน้อยนิดของฉันที่กำลังเลื่อนลอยไปให้กลับเข้าที่พร้อมๆกับที่สั่งให้ฉันแนะนำตัวเองกับเด็กที่อยู่ในห้อง
       "สวัสดีค่ะ ต้นหอมนะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน ยังไงก็ขอฝากตัวด้วย -_-"
    “พวกเราไม่ยอมรับยัยบ้านนอกแบบเธอเข้ามาอยู่ในห้องหรอกเข้าใจไหม”

    เสียงของผู้ชายผมทรงสกินเฮดคนนึงที่อยู่กลางห้องร้องตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจ  ฉันมัวเอาแต่ก้มหน้าแนะนำตัวได้แต่ค่อยๆแหงนหน้าขึ้นมาดูและยังไม่ทันได้ตั้งตัวจู่ๆก็มีแปรงลบกระดานบินว่อนจากกลางห้องตรงดิ่งเข้ามายังหน้าของฉัน ใช่แล้วแปรงลบกระดาน พวกคุณได้ยินไม่ผิดหรอกของต้อนรับวันย้ายโรงเรียนวันแรกสำหรับฉันก็คือแปรงลบกระดาน!!! ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนหลับตากอดกระเป๋าในมือไว้แน่น เพราะเตรียมใจแล้วว่ายังไงๆฉันก็คงหลบไม่พ้นและมันก็คงจะโดนหน้าฉันเต็มๆ

      "ตุ๊บ"

     เสียงของแปรงลบกระดานที่ประทะเข้ากับหน้าฉันดังตุ๊บเล่นเอาฉันถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่เอ๊ะทำไมฉันถึงไม่รู้สึกเจ็บตรงหน้าเลยละทั้งๆที่เสียงมันดังซะขนาดนั้น  -O-^

     เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้เกิดมีอาการชาที่หน้าเพราะโดนแรงอัดของแปรงลบกระดานเลยฉันเลยค่อยๆลืมตาขึ้นมองหาวัตถุที่ปะทะกันกับแปรงลบกระดานทันทีก็ถ้าไม่ใช่หน้าฉันที่รับแปรงลบกระดานแล้วอะไรกันละที่รับมันแทนหน้าฉัน

      พระเจ้าช่วย!!สิ่งแรกที่ฉันเห็นหลังจากลืมตาขึ้นมานั่นก็คือมือของใครบางคนที่มารับแปรงลบกระดานแทนฉันและเมื่อฉันหันไปมองหน้าเจ้าฝ่ามือที่รับแปรงลบกระดานแทนหน้าฉันนั้น ฉันก็ถึงกับอึ้งแทบช็อคจนพูดอะไรไม่ออก  นั่นเพราะ นั่นเพราะเจ้าของฝ่ามือหนานั่นมันคือนายอีกาหนึ่งในอันธพาลที่ตีกันต่อหน้าฉันเมื่อเช้านั้นเอง!!!!!!!!!!!!!!!!O[]O

    “มาร์คัส!!!!!!!!!"

    ทุกคนในห้องต่างพากันตะโกนออกมาพร้อมๆกัน หลังจากที่เห็นว่าใครเป็นคนรับแปรงลบกระดานแทนฉัน ไม่เว้นแม้แต้มิสซิสแอนที่ยืนอยู่หน้าห้อง

     "ใครเป็นคนปาแปรงลบกระดานนี่มา ฉันถามว่าใครเป็นปาไอ้แปรงลบกระดานนี่มาหูแตกไม่ได้ยินกันรึไง -*-"
      มาร์คัสตะโกนเสียงดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมๆกับชูแปรงลบกระดานที่อยู่ในมือขึ้นอย่างหัวเสีย เพื่อถามหาตัวการที่เป็นคนปาแปรงลบกระดาน 
          "
    หูแตกกันหมดไปแล้วรึไงถึงไม่มีใครตอบคำถามฉันนะห๊ะ "
          "............"

    มาร์คัสตะโกนถามย้ำอีกครั้งหลังจากที่เห็นว่าไม่มีใครยอมรับออกมา ก่อนจะกวาดสายตาแล้วจ้องไปยังผู้ชายคนที่ตัดผมสกินเฮดคนนั้น คนที่ปาแปรงลบกระดานใส่ฉัน ใช่แล้วมันนั่นละ ไอ้หัวเกรียนนั่นละที่เป็นคนปาแปรงลบกระดานใส่ฉัน
          "O_O!!!"
          "
    แกใช่ไหมไอ้ไทค์ที่เป็นคนปาแปรงลบกรดานนี่มา"
    เขาถามพร้อมกับชี้หน้านายคนนั้น ทำเอานายปากเก่งคนนั้นถึงกับหน้าซีดตัวสั่นพยายามส่ายหน้าปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างกลัวตาย

          "มะมะไม่ใช่ฉันนะมาร์คัส ฉันไม่ได้ทำ"

          "นี่แกยังปากแข็งกล้าปฏิเสธอีกเหรอว่ะ แกคิดว่าฉันไม่เห็นรึไงไอ้ไทค์"
          
    มาร์คัสตะโกนออกมาอีกครั้งพร้อมกับใช้เท้าถีบไปยังโต๊ะนักเรียนตัวที่อยู่ตรงหน้าอย่างแรงด้วยความโมโห เมื่อเห็นว่านายไทค์อะไรนั่นยังไม่ยอมรับผิด จนผู้ชายที่ชื่อไทค์รีบรับสารภาพออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกักเพราะความกลัว
      “ฉะ ฉันเองมาร์คัส ฉันยอมรับแล้ว ฉันเป็นคนปาแปรงลบกระดานใส่ยัยนี่เอง”
       "แกกล้ามากดียังไงที่มายุ่งกับเหยื่อของฉันแบบนี้"
    “กะก็ฉันไม่พอใจแล้วก็รับไม่ได้ที่ยัยเอ๋อนี่ได้สิทธิ์เข้ามาเรียนที่นี่ก็เพราะพี่ชายเป็นอาจารย์ของมหาลัยซานตามาเรีย แทนที่จะเป็นคนในระดับเดียวกับพวกเรา”

    ทันทีที่นายไทค์อะไรนั่นพูดจบฉันที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องก็ได้แต่ยืนก้มหน้ากอดกระเป๋าไว้แน่นอย่างทำใจ คิดไว้แล้วไม่มีผิด ว่าคนพวกนี้ไม่ยอมรับฉันแน่ๆ แต่ว่าทำไม แค่การที่ฉันไม่ใช่คนในระดับเดียวกับพวกเขา  ฐานะทางบ้านไม่ได้ครึ่งของพวกเขา ฉันถึงกับไม่มีสิทธิ์ยืนอยู่ที่นี่เลยรึไงพวกเขาใช้แค่เรื่องนี้มาตัดสินกันงั้นเหรอ

    โดยที่ไม่มีใครจะคาดคิด มาร์คัสที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าฉันจู่ๆก็กระโดดเข้าไปต่อยผู้ชายคนนั้นอย่างไม่ยั้งมือ  ทำเอาทุกคนในห้องเรียนรวามทั้งฉันและมิสซิสแอนถึงกับร้องกรี้ดออกมาด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อะ อะ ไอ้หมอนี่จะบ้าเลือดไปไหนเนี่ย

    “ไอ้สาระเลว”

       "กรี้ด"

    “ตุ๊บ”  “ผั๊วะ” “โอ๊ย”
    “พอได้แล้วมาร์คัส หยุดเดี๋ยวนี้นะถ้าเธอไม่หยุด อาจารย์จะสั่งพักการเรียนพร้อมเชิญผู้ปกครองเธอมาพบที่โรงเรียนนะได้ยินไหม”
    มิสซิสแอนรีบตะโกนห้ามพร้อมวิ่งมารั้งแขนมาร์คัสให้หยุดอาละวาดด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆไม่แพ้เด็กนักเรียนที่อยู่ในห้อง เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นมีหวังผู้ชายโชคร้ายที่กำลังโดนมาร์คัสเล่นงานอยู่นั้นมีหวังได้นอนโรงพยาบาลเป็นเดือนแน่ๆ
       ทันทีที่มิสซิสแอนพูดจบ มาร์คัสที่กำลังเล่นงานหนุ่มโชคร้ายคนนั้นก็หยุดมือที่กำลังเงื้อมหมัด พร้อมกับหันไปมองมิสซิสแอนที่เข้ามาห้ามเขาไว้เพราะกลัวจะเกิดเหตุฆ่าตกรรมในห้องเรียนด้วยแววตาขวางๆแบบเย็นชาก่อนจะหันไปตะโกนใส่คนในห้องพร้อมๆกับชี้นิ้วมาที่ฉันท่ามกลางเด็กนักเรียนในห้องที่กำลังอึ้งอยู่เพราะความกลัว

       "จำใส่หัวของพวกนายไว้ไม่ว่าใครก็ตามห้ามมายุ่งกับยัยนี่เป็นอันขาดเพราะยัยนี่เป็นเหยื่อของฉันไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง ถ้ายังมีใครกล้ายุ่งกับเหยื่อของฉันอีกละก็ฉันจะจัดการเองกับมือและจะมีสภาพไม่ต่างจากไอ้ไทค์แน่จำไว้"

     ทันทีที่พูดจบมาร์คัสก็สะบัดแขนที่ถูกมิสซิสแอนดึงไว้ออกอย่างไม่ใยดีพร้อมกับหันไปมองทุกคนในห้องก่อนจะเดินไปนั่งยังโต๊ะของเขาที่อยู่มุมมืดสุดตรงหลังห้องโดยไม่สนใจสายตาของทุกคนที่กำลังมองมาที่เขา

       "ปังๆๆ"

       "เอาละๆจบเรื่องแล้วทุกคนไปนั่งที่กันตามเดิมได้แล้วนะค่ะเด็กๆ"

     มิสซิสแอนเดินมาทุบโต๊ะเสียงดังก่อนจะตะโกนบอกให้เด็กนักเรียนที่อยู่ในห้องให้กลับไปนั่งที่เดิมของตนให้เรียบร้อยแล้วจึงหันมาบอกให้ฉันไปนั่งโต๊ะว่างข้างๆเด็กสาวสวมแว่นคนหนึ่ง 

       "
    เอาละหมดเรื่องแล้วต้นหอมเธอไปนั่งโต๊ะตัวที่ว่างข้างๆ เซียมซีนั่นก็แล้วกันนะจ๊ะ - -"

       "
    ค่ะอาจารย์"

    ฉันขานรับคำสั่งของมิสซิสแอนก่อนจะเดินก้มหน้าไปยังโต๊ะเรียนตรงที่ถูกชี้ให้ดูนั่นทันทีท่ามกลางสายตาของเหล่าเด็กนักเรียนในห้องที่กำลังมองมาที่ฉันเป็นตาเดียวด้วยความสมเภชว่าอย่างยัยนี่ไม่มีทางอยู่ที่รอดเกินสามวันแน่นอนยิ่งโดนมาร์คัสหมายหัวด้วยตัวเองแบบนี้แล้วยิ่งแล้วใหญ่ 






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×