ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมแค้นไฟเสน่หา

    ลำดับตอนที่ #80 : ตอนที่ 58

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.8K
      7
      19 ต.ค. 57

    รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวอย่างช้าๆเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพักหลังขนาดกลางที่ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงามเข้ากับธรรมชาติบนดอยในจังหวัดเชียงใหม่ เพราะช่วงนี้กำลังย่างเข้าหน้าหนาวจึงทำให้อากาศบนดอยค่อยข้างที่จะหนาวเย็น หญิงสาวที่พึ่งลงมาจากรถจึงกอดอกแน่นเมื่อลมเย็นๆบนดอยพักเข้ามากระทบกับผิวกาย.... หากใครคนนั้นยังอยู่ข้างกายเธอ เธอก็คงไม่ต้องหนาวเหน็บแบบนี้เพราะเขาคงจะโอบกอดเธอเอาไว้แนบอกแกร่งถ่ายถอดความความอบอุ่นจากกายเขาให้แก่เธอ.... แต่ตอนนี้มันไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว เธอมารู้ว่าเขามีค่ามากแค่ไหนก็ตอนที่ไม่มีเขาอยู่ข้างกาย นี่คงเป็นบทลงโทษของคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างเธอละมั่ง พระเจ้าถึงได้ลงโทษเธอให้ต้องอยู่อย่างเดียวดายโดยไม่มีใครเช่นนี้...

    “แก้วเป็นอะไรรึเปล่า....”

    คุณรจนาถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นลูกเลี้ยงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ทั้งๆที่ลงมาจากรถนานแล้ว แต่ก็ยังคงยืนเหม่ออยู่กับที่อยู่แบบนั้นถึงแม้เธอจะรู้ว่าแก้วมณีเป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆแต่ก็อดห่วงไม่ได้สักครั้ง ได้แต่หวังเท่านั้นหวังให้ความเจ็บปวดของลูกสาวจบสิ้นลงในเร็ววัน

    “แก้วไม่เป็นอะไรคะ.... แก้วขอไปเดินเล่นที่สวนองุ่นตรงนั้นก่อนได้ไหมคะ...”

    ตั้งแต่นั่งรถมาที่บ้านพักหลังนี้เธอก็เห็นไร่องุ่นมาตลอดทางแต่ก็ไม่สวยเท่ากับของที่นี่มันกว้างใหญ่เรียงตัวกันเป็นแถวสวยงามพอบวกกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติโดยรอบก็ยิ่งทำให้ความสวยงามของมันมากยิ่งขึ้นไป แก้วมณีเคยฝันถึงการได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายทามกลางธรรมชาตานานแล้ว เธอไม่ใช่คนที่ชอบสังคมหรือพบปะใครเพราะฉะนั้นชีวิตแบบนี้จึงเป็นในแบบที่เธอต้องการมาตลอด แต่เพราะภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลบริษัทจึงทำให้ฝันของเธอเป็นได้แค่ฝันเท่านั้น แต่พอได้มาพักผ่อนแบบนี้มันก็ทำให้เธอเริ่มที่จะกลับมาคิดทบทวนถึงความฝันตัวเองอีกครั้งว่ามันจะดีแค่ไหนหากเธอได้ใช่ชีวิตอยู่ที่นี่กับลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมา มันคงมีความสุขไม่น้อยหากได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ๆใหม่ๆที่สวยงามเช่นนี้

    “งั้นฉันไปด้วยนะแก้ว”

    “ไม่เป็นไรหรอกคะแก้วไปคนเดียวได้แก้วอยากเดินคิดอะไรเพลินคนเดียวสักพัก คุณเข้าไปพักผ่อนในบ้านก่อนเถอะนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงแก้วแก้วไม่ไปไกลหรอกคะ”

    “แต่.... อืมก็ได้งั้นเดินดีๆนะแก้วกำลังท้องกำลังไส้อยู่แล้วอย่าเดินนานเดี๋ยวตาหนูหรือยัยหนูจะไม่สบายเพราะแม่พาเดินตากน้ำค้างเอา”

    “คะ”

    แก้วมณียิ้มรับความเป็นห่วงของแม่เลี้ยงอย่างจริงใจ เมื่อเธอผลักไสเอาความโกรธแค้นออกไปจนหมดเธอก็มองเห็นอะไรหลายๆอย่างที่เธอไม่เคยสังเกตเห็น นั้นก็คือความห่วงใยและความรักจากคนที่อยู่รอบข้างเธอ เธอเสียดายวันเวลาที่ผ่านมาเหลือเกินหากเธอยอมละทิ้งทิฐิลงสักนิดละก็เธอก็คงจะพบเจอกับความสุขที่อยู่เพียงเอื้อมมือไปนานแล้ว....

    ร่างบางที่ตอนนี้ดูมีน้ำมีนวลขึ้นเล็กน้อยเพราะอายุครรภ์ที่ย่างใกล้เข้าเดือนที่สี่เดินอย่างช้าๆทามกลางไร่องุ่นที่เรียงตัวกันเป็นแถวสวยงาม มือบางลูบไล้หน้าท้องที่นูนออกมาเพียงเล็กน้อยด้วยความรัก ใจของเธอรู้สึกสงบอย่างประหลาดอาจจะเป็นเพราะธรรมชาติรอบข้างที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนี้ เพราะเดินใจลอยมากเกินไปเธอจึงไม่ทันเห็นท่อนไม้ท่อนเล็กๆที่ขวางทางอยู่ข้างหน้า และเมื่อเธอสะดุดเข้ากับมันก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากมือของเธอกอดรัดหน้าท้องเอาไว้แน่นเหมือนต้องการจะปกป้องไม่ในหนึ่งชีวิตเล็กๆนั้นเป็นอะไรหากร่างเธอร่วงลงสู้พื้นแต่แล้วก็มือใครบ้างคนเข้ามาโอบรับร่างของเธอเอาไว้ก่อนทำให้ร่างบางไม่หกล้มกระทบกับพื้น แก้วมณีค่อยๆลืมตาขึ้นมาน้อยๆก่อนจะเห็นว่าตัวเองกำลังอยู่ในวงแขนของชายแปลกหน้าคนหนึ่ง.... เธอเบี่ยงตัวออกห่างจากเขาเมื่อได้สติเพราะไม่ต้องการให้ชายอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของหัวใจมาถูกเนื้อต้องตัว

    “กะ... เอ่อคุณไม่เป็นอะไรนะครับ”

    ชายหนุ่มร่างกายกำยำสูงใหญ่ผิวสีแทนใบหน้าคมเข้มถามเธอด้วยความเป็นห่วงและพยายามมองตรวจตราตามร่างกายของเธอว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อแน่ใจแล้วว่าเธอปกติดีครบทุกอย่าง

    “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณ....”

    แก้วมณีเอ่ยขอบคุณห้วนๆ ก่อนจะทำท่าหันเดินไปทางอื่นเพราะไม่อย่าสุงสิงกับเขา แต่ยังไม่ทันเดินไปไกลเธอก็ร้อยออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้งทำเอาคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลรีบถลาเข้าไปประคองร่างบางเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง

    “โอ้ย!

    “สงสัยขาคุณจะแพงเพราะสะดุดท่อนไม้เมื่อกี้.... ไม่รู้คนงานทำงานกันยังไงถึงได้ปล่อยให้มีท่อนไม้มาอยู่แถวทางเดินตรงนี้ได้สงสัยพรุ่งนี้คงต้องอบรมกันหน่อย”

    ชายหนุ่มบ่นอย่างไม่พอใจทั้งๆที่รู้ดีว่าไม่ได้เป็นความตั้งใจของของคนงานที่ปล่อยให้มีเศษไม่หรือท่อนไม้มาขวางทางแบบนี้ แต่มันก็อดหัวเสียไม่ได้เมื่อคิดว่าท่อนไม้ท่อนเล็กๆนี้หวิดทำให้คนในอ้อมแขนเขาตอนนี้เกือบล้มและเท้าแพง จึงพาลความหงุดหงิดใส่คนนู้นคนนี้ไปเรื่อยตามประสา

    “เดี๋ยวผมอุ้มคุณไปส่งนะสภาพแบบนี้คุณเดินไม่ไหวหรอก”

    “เอ่อ... ไม่ต้องไม่เป็นไรฉันไปเองได้”

    แก้วมณีพยายามขืนตัวออกแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเข้าช้อนตัวอุ้มร่างบางของเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแล้วและดูเหมือนกับว่าเขานั้นจะไม่ยมปล่อยเธอไปง่ายๆ ทั้งๆที่เธอทั้งดิ้นทั้งทุบตีเขาแต่ร่างหนาก็ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด

    “อย่าดิ้นได้ไหมคุณได้ไหมคุณเดี๋ยวก็ได้ล้นลงไปทั้งแม่ทั้งลูก...”

    “คุณรู้.... คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังท้องอยู่”

    ในใจของคนถูกอยากจะบอกเหลือเกินว่าทำไมเขาถึงรู้ว่าเธอกำลังตั้งท้อง แต่ก็บอกไม่ได้เพราะมันยังไม่ใช่เวลาที่สมควรเขาจึงต้องอ้างโน่นอ้างนี่ไปก่อนเพื่อเอาตัวรอดจากข้อสงสัยของเธอ

    “ผมชื่อเมฆเป็นหลานของเจ้าของไร่และบ้านพักที่คุณกับแม่มาพักอยู่ คุณตาผมบอกว่าเพื่อนของท่านจะมาพักที่นี่สักระยะกับลูกสาวที่กำลังท้องอ่อนๆ และก็เห็นคุณตั้งแต่ลงมาจากรถแล้วก็เลยรู้”

    “หลานเจ้าของที่นี่”

    “คุณไม่เชื่อผมหรอ... คุณจะตะโกนเรียกคนงานที่อยู่แถวนี้มาถามก็ได้นะถ้าไม่มั่นใจ ถึงผมจะไม่หล่อไม่ดูดีเหมือนหนุ่มๆในเมืองแต่ผมก็มั่นใจนะว่าหน้าผมหน้าไม่ได้เหมือนมหาโจน”

    “ฉันไม่ชอบให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มาถูกเนื้อต้องตัวฉัน.... ขอร้องคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก”

    “กลัวสามีคุณหึงหรอ...”

    เขาถามทีเล่นทีจริงอย่างไม่ตั้งใจนั้นแต่มันกับแทงเข้าตรงกลางใจคนฟังอย่างจังจนทำให้แผลที่กักหนองอยู่แล้วมีเลือดซึมขึ้นมาอีกครั้ง

    “ใช่... แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว...”

    แก้วมณีพูดเสียงสั่นเมื่อนึกถึงเจ้าของหัวใจที่จากเธอไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา

    “ผมไม่รู้ขอโทษด้วยนะที่พูดออกไปแบบนั้น...”

    “ไม่เป็นไรช่างมันเถอะคุณไม่รู้หนิ...”

    เมื่อมาถึงภายในบ้านคุณรจนาที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกก็รีบวิ่งเข้ามาหาลูกสาวของตัวเองทันทีด้วยความตกใจ ทั้งๆที่เมื่อกี้เธอเดินออกไปดีๆแต่ทำไมตอนกลับมาถึงได้มีคนอุ้มกลับมาแบบนี้

    “แก้ว! เป็นอะไรไปทำไมถึงได้กลับมาสภาพนี้”

    “เธอเท้าแพงเพราะสะดุดท่อนไม้ที่พื้นไร่หน่ะครับ”

    “อะไรนะสะดุดท่อนไม้แล้วนี่เป็นอะไรมากรึเปล่า... ฉันว่าเราไปหาหมอกันดีกว่าเพื่อมีอะไรผิดปกติหรือเป็นอันตรายต่อตาหนูยัยหนูได้ สนเอารถออกสิ”

    “ไม่ต้องหรอกคะแก้วไม่เป็นอะไรพอดีคุณ.... คุณเมฆเขาเข้ามารับแก้วเอาไว้ทันหน่ะคะแก้วเลยไม่ได้กระแทกลงพื้น ไม่ต้องเอารถออกหรอกคะลุงสนแก้วไม่เป็นอะไรจริงๆแค่ข้อเท้าแพงนิดหน่อยเท่านั้น”

    “จริงนะแก้วไม่เป็นอะไรจริงๆนะ ถ้าเกิดเธอเจ็บหรือปวดท้องขึ้นมาละก็รีบบอกฉันเลยทันทีนะแก้ว”

    “คะ...”

    “แล้วนี่เจอกันแล้วหรอ.... เธอกับคุณเมฆ”

    “ครับถึงจะเป็นการเจอที่ตื่นเต้นไปหน่อยก็ตาม”

    เมฆบอกอย่างคนอารมณ์ดี เขาตั้งใจจะเข้าไปแนะนำตัวกับเธอแบบธรรมดาทาม
    กลางบรรยากาศของธรรมชาติที่งดงามแต่แล้วกลับกลายเป็นว่าต้องมาแนะนำตัวกันแบบเร่งด่วนเมื่อสาวน้อยดันเดินไปสะดุดท่อนไม้เข้า ภาพการเปิดตัวที่คิดเอาไว้เลยเป็นหมันไป มันน่าตีจริงๆที่เธอดันซุ่มซ่ามพังแผนของเขาได้

    “ปล่อยฉันลงได้แล้ว...”

    แก้วมณีร้องโวยเมื่อชายหนุ่มกึ่งแปลกหน้ายังคงอุ้มเธออยู่ ทำให้เขาต้องวางเธอลงที่โซฟาภายในห้องนั่งเลยก่อนจะนั่งลงข้างๆ แต่หญิงสาวกลับกระเถิบกายหนีก่อนจะส่งสายตาแบบจิกๆมาให้เขาแต่มีหรือที่คนอย่างเขานั้นจะกลัวไม่มีทางซะหรอก

    “เป็นไงบ้างครับชอบที่นี่ไหม”

    “ก็ดีคะสวยมากเลย ยิ่งพอคุณเมฆปลูกดอกกุหลาบรอบๆบ้านเพิ่มด้วยแล้วยิ่งสวยมากขึ้นไปกว่าคราวที่แล้วอีก”

    “ครับ... ผมสั่งให้คนงานเอามันมาลงเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ให้เลือกต้นที่ออกดอกมาลงแล้วจะได้ทันเวลาที่คุณมะ... เอ่อป้ามา”

    “คะก็ว่าอยู่เหมือนกันว่าทำไมมันถึงได้ออกดอกเร็วนักทั้งๆที่ไม่กี่อาทิตย์นี่เอง”

    “แสดงว่าที่คุณบอกว่ามาทำธุระต่างจังหวัดเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนก็คือมาที่นี่หรือคะ”

    “ใช่จ๊ะพอดีฉันมีธุระสำคัญกับคุณตาของคุณเมฆท่านก็เลยต้องมาถึงที่นี่”

    “ธุระ...”

    “ฉันตั้งใจว่าจะมาสร้างบ้านที่นี่หน่ะจ๊ะเลยวานให้คุณตาท่านหาที่หาทางให้พอดีท่านเจออยู่ที่หนึ่งก็เรียกฉันขึ้นมาดูก่อนที่คนอื่นจะตีตราจอง”

    “คุณจะมาทำบ้านที่นี่หรือคะไม่เห็นเล่าให้ฉันฟังบ้างเลย”

    “จ๊ะกะว่าจะเซอร์ไพรเธอเอาไว้เป็นของขวัญรับขวัญหลานคนแรกสักหน่อยแต่ว่าตอนนี้คงไม่เป็นความลับแล้วล่ะสิ”

    คุณรจนาว่าพลางยิ้มๆ เธอตั้งใจสร้างบ้านที่นี่จริงๆเพราะอยากให้ลูกหลานมีที่มีทางอยู่ในธรรมชาติบ้างไม่ใช่อุดอู้อยู่กันแต่ในเมือง และเธอเองก็จะได้มาใช้ชีวิตบั่นปลายอยู่ที่นี่ด้วยเพราะเธอเองก็เบื่อเมืองใหญ่ที่วุ่นวายเต็มที

    “ขอบคุณนะคะ... ใจเราตรงกันเลยคะแก้วเองพอลงจากเครื่องมาแล้วได้เห็นบรรยากาศที่นี่ก็มีความคิดอยู่เหมือนกันว่าอยากจะมีบ้านสักหลังที่นี่เอาไว้สูดอากาศบริสุทธิ์กับตาหนูยายหนูเพราะที่นี่สวยมากเลยคะ สวยซะจนหนูตกหลุมรักมันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น”

    “หรอครับ...ผมดีใจนะครับที่ยังมีคนเมืองมาชอบบ้านนอกอย่างบ้านเรา ถือว่าหาได้น้อยมากเลยในสังคมที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและการพัฒนาแบบนี้ เพราะทุกคนก็มักแต่จะแสวงหาแต่ความเจริญกันทั้งนั้นจนลืมความสุขแบบธรรมดาๆกับธรรมชาติไป”

    “คะ... ฉันหน่ะฝันมาตลอดว่าจะได้มาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในที่แบบนี้แต่ก็ไม่มีโอกาสสักทีเพราะงานที่ต้องดูแล”

    แก้วมณีพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแต่เมื่อเธอเห็นรอยยิ้มของชายหนุ่มข้างๆกายที่ส่งกลับมาหัวใจของเธอก็เต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นี่มันอะไรกันทำไมเธอถึงใจสั่นเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา รอยยิ้มที่เธอรู้สึกคุ้นเคยอย่างหน้าประหลาด แถมยังกลิ่นกายเข้าที่ลอยมาเตะจมูกนี่อีก ตอนที่เขาอุ้มเธอเดินมายังบ้านพักเธอไม่ทันได้ใส่ใจกับสัมผัสและกลิ่นกายของเขาเพราะมั่วแต่กังวลใจเรื่องที่เขามาจับเนื้อต้องตัวและอุ้มเธออย่างสนิทสนมแบบนั้น แต่พอได้มานั่งใกล้ๆได้เห็นหน้าเขาชัดๆมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกคุ้น ถึงสีผิวเข้มและใบหน้าที่ออกไปทางเอเชียเต็มตัวของเขาจะตรงข้ามกลับใครบ้างคนในใจของ นี่มันอะไรกันทั้งๆที่แตกต่างกันทุกอย่างแต่เธอกับมีความรู้สึกเช่นเดียวกับที่รู้สึกกับสามี

    “แก้ว.... แก้ว... คุณแก้ว”

    เมฆร้องเรียกหญิงสาวอยู่หลายครั้งเมื่อเห็นเธอเหม่อลอยก่อนจะเขย่าแขนเธอนิดๆเพื่อให้เธอได้สติ

    “คะ... เอ่อฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะรู้สึกเหนื่อยๆ คุณรจนาพาฉันไปห้องหักหน่อยได้ไหมคะฉันเพลียๆอยากพักผ่อน”

    “ได้จ๊ะ... งั้นขอตัวนะคะคุณเมฆและขอบคุณสำหรับที่พักและที่คุณช่วยแก้วเอาไว้”

    “ไม่เป็นไรครับเพราะถ้าหากคุณแก้วล้มลงไปผมคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆที่ปล่อยปะละเลยเธอจนทำให้เธอต้องเป็นอันตราย”

    คำพูดของเขาฟังดูเผินเหมือนกับไม่มีอะไรก็แค่ความเป็นห่วงของเจ้าบ้านเท่านั้น แต่ถ้าหากฟังดีๆละก็คนฟังก็จะรู้ว่ามันไม่ได้หมายความแค่นั้น แต่มันมากกว่านั้นอีกมาก

    “คะ...เอาไว้พรุ่งนี้หากแก้วดีขึ้นฉันจะขอเลี้ยงข้าวคุณเป็นการตอบแทนหวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธนะคะ”

    “ครับไม่ปฏิเสธอยู่แล้วครับแต่ยินดีเลยมากกว่า ผมหน่ะกินไม่เยอะหรอกครับรับลองไม่เปลือย”

    “คะ...งั้นฉันกับลูกขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ”

    “ครับ.. เอ่อแต่ให้ผมช่วยพยุงไปที่ห้องดีกว่าไหมครับ”

    “ไม่ต้องคะ ขอบคุณแค่คุณอุ้มฉันมาส่งที่บ้านก็มากพอแล้ว ต้องขอบคุณในน้ำใจของคุณมากนะคะแต่ฉันขอปฏิเสธดีกว่า”

    “แก้ว.... ขอโทษนะคะคุณเมฆแก้วเขาเป็นคนพูดตรงไปหน่อย”

    “ไม่เป็นไรครับผมทราบดี...”

    “งั้นขอตัวนะคะ”

    “ครับ”

    เมฆยืนมองสองแม่ลูกจนลับตาเข้าไปภายในห้อง เขายิ้มบางๆก่อนจะสูดดมเสื้อของตัวเองที่มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของหญิงสาวติดอยู่อย่างโหยหา

    “ที่รักรู้ไหมว่าพี่คิดถึงแก้วมากเหลือเกิน หวังว่าแผนของคุณแม่กับนายทรงจะทำให้พี่พิสูจน์ใจแก้วได้นะว่าแก้วหน่ะรักพี่จริงๆรึเปล่า พี่เพียงต้องการความมั่นใจเท่านั้นที่รักแต่ถึงแม้ว่าผลจะออกมาว่าแก้วไม่ได้รักพี่ พี่ก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้นพี่จะทิ้งแก้วไปไหนอีก อดทนอีกนิดนะที่รักของพี่”
    """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
            หว่ชาดดีจร้ามารายงานตัวครับผม วันนี้เป็นยังไงกันบ้างคร้า อิอิแต่บอกไว้ก่อนเลยว่าต่อจากนี้พี่อเล็กของเราจะเอาคืนน้องแก้วบ้างแล้วแหละ แต่คงเป็นการเอาคืนที่น่ารัก แต่จะน่ารักแบบไหนเอาใจช่วยกันนะคะ 
    ปล.ประกาศหนูเนสงดอัพเรื่อง "ปฏิหาริย์รัก" เอาไว้ก่อนนะคะเพื่อมาปั่นเรื่องเกมรักให้จบ ยังไงก็อย่างพึ่งทิ้งกันไปน้าคร้า รับรองได้เรื่อง "ปฏิหาริย์รักแห่งกาลเวลา" จะทำให้เพื่อนๆแปลกใจกันแน่ๆคะ ฝากติดตามผลงานของหนูทันบี หรือหนูเนสด้วยน้าคร้า ขอบคุณคร้า
             ฝันดีนะคะทุกคนนนนนนน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×