ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF B.A.P] โปรเจ็ค :: ปิดเทอมเดอะซีรี่ย์

    ลำดับตอนที่ #3 : โปรเจ็ค :: ปิดเทอมเดอะซีรี่ย์ ๓.ติด ร. [HimJae]

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 56




    “กลับมาแล้วครับ” เสียงใสๆของเด็กหนุ่มร่างอวบดังขึ้นเมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้าน ขาเรียวก้าวฉับๆมายังโซฟาหน้าทีวีก่อนทุ่มตัวลงไปนอนอย่างเหนื่อยหน่าย

    “อ้าวยองแจกลับมาแล้วเหรอลูก แล้วไปนอนอะไรตรงนั้นล่ะจ๊ะ ไม่ไปนอนบนห้องล่ะลูก?” ผู้เป็นแม่เดินเข้ามานั่งข้างๆแล้วลูบหัวร่างที่นอนอืดอยู่บนโซฟาเบาๆ

    “ข้างบนมันร้อนอ่ะครับแม่ อยู่ข้างล่างดีกว่า”

    “แล้วนี่หิวรึยัง? แม่เตรียมกับข้าวไว้แล้วนะ”

    “หิวแล้วครับ!” ยองแจรีบกระเด้งขึ้นมานั่งตัวตรง ผู้เป็นแม่ยิ้มเอ็นดูกับท่าทางของลูกชายเล็กน้อยแล้วจึงเดินเข้าไปในครัวโดยมีร่างอวบตามไปติดๆ

    “พ่อล่ะครับแม่?”

    “เก็บกระเป๋าอยู่ด้านบนนู้น”

    “เก็บกระเป๋า?”

    “อ่อ! จริงด้วย แม่ลืมบอกยองแจไปเลยอ่ะจ่ะ” ใบหน้าอวบขมวดคิ้วเป็นปมเชิงคำถาม ...จัดกระเป๋าทำไม?...

    “แม่กับพ่อจะไปเที่ยวกัน! ดีใจมั้ย?!!

    “ห้ะ?!!! แล้วนี่จะไปกันวันไหนครับ?!!” ยองแจโผลงออกมาอย่างตกใจจนแม่ต้องสะดุ้งตามไปด้วย สองมือกุมอกไว้ก่อนจะเอื้อมไปตีแขนลูกชายเป็นการทำโทษ

    “อุ๊ย! ยูยองแจ แม่ตกใจหมดเลย..อย่าเสียงดังสิ! แล้วพ่อกับแม่ก็จะไปกันเย็นวันนี้ คุณกับคุณนายคิมจะมารับจ่ะ ไม่ต้องห่วงนะ ไปแค่ 3-4 วันเอง” คุณนายยูยิ้มหวานให้ลูกชายที่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นหินไปเรียบร้อย ...เงิบ ยูยองแจกำลังเงิบได้ที่เลย เค้าไม่ได้ห่วงเรื่องพ่อกับแม่หรอกนะ แต่เค้าห่วงตัวเองจะไม่มีอะไรกินต่างหากล่ะ!...

    “โหยแม่~ ผมตายแน่!!

    “มีอะไรกัน ดังไปถึงข้างบนเลยยองแจ” จู่ๆเสียงของผู้เป็นพ่อก็ดังขึ้นข้างหลังของร่างอวบที่ยืนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ซะให้ได้

    “ฮือออออ ทำไมไม่บอกให้ผมเตรียมใจไว้ก่อนอ่ะว่าจะไปเที่ยวกัน T^T

    “แกจะงอแงอะไรเป็นเด็กๆไปได้ กินข้าวเถอะพ่อหิวแล้ว” ว่าแล้วก็จัดการจับจองที่นั่งหัวโต๊ะทันที ร่างอวบได้แต่กระฟัดกระเฟียดอยู่ในใจก่อนจะจับจองที่ข้างๆพ่อตนเอง

    “วันนี้ไปดูผลสอบใช่มั้ยจ๊ะ..แล้วเป็นไงบ้างล่ะยองแจ” คุณนายยูพูดพร้อมกับยื่นจานข้าวให้ลูกชายที่นั่งอมลมไว้ในปากอย่างงอนๆ

    “ผ่านทุกวิชาครับ....” แค่นั้นก็ทำให้หล่อนยูยิ้มกว้างออกมาได้แล้ว เธอแทบจะกระโดดกอดยองแจที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

    “........แต่ติด ร. วิชาการงาน”

    พรวดดดดดดดดดดดดดดด~!!

    คุณยูที่กำลังดื่นน้ำอยู่ถึงกับสำลักน้ำเป็นการใหญ่เมื่อจบประโยค ลำบากให้ร่างอวบต้องรีบหยิบทิชชูมาซับน้ำที่หกเลอะเทอะให้

    “แกติด ร. วิชานี้เนี้ยนะ? ทำไมล่ะ?”

    “ก็มันไม่อยากทำ อีกอย่างผมไม่ปลื้มครูผู้สอนอ่ะ -3-“ เหตุผลเด็กๆที่เล่นเอาผู้เป็นพ่อและแม่กุมขมับด้วยความหน่ายๆ ...ให้ได้อย่างนี้สิลูกกู...

    “อุ๊ยตายแล้ว...ฉันจะเป็นลม ลูกก็รู้ว่าเค้าเป็นลูกของเพื่อนสนิทพ่อกับแม่นะ”

    “แล้วไงล่ะ ก็ผมไม่ชอบอ่ะ แล้วผมก็จะไม่แก้ด้วย -3-“ คนเป็นแม่แทบจะร้องไห้ออกมาให้ได้เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูด ...ฉันจะบ้าตาย TOT...

    “เฮ้ออออ~ ยองแจอา~ แล้วอย่างนี้พ่อจะมองหน้ากับคุณคิมติดได้เหรอ ไอลูกคนคนนี้นี่” ถึงแม้จะโดนผู้เป็นพ่อตำหนิเข้าให้แต่ยองแจก็ยังทำหน้าตาสบายๆไม่รู้สึกรู้สาอะไร

    “ไม่ได้นะยองแจ ลูกต้องแก้ให้ผ่าน ถ้าไม่ผ่าน....ทั้งปิดเทอมนี้อย่าหวังว่าจะได้ค่าขนมหรืออกไปเที่ยวที่ไหนเลย!!!

    “แม่!

    “ห้ามขัดขืน!! กินข้าวไปซะ!!” เมื่อโดนแม่ยื่นคำขาดใส่และไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้แล้วจึงต้องจำใจยอมรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น ...แค่คิดก็อยากจะเอาข้าวยัดปากตัวเองตายแล้ว...

    .

     

    .

     

    .

    5 โมงเย็น

    “พ่อกับแม่ไปก่อนนะยองแจ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ในตู้เห็นแล้วใช่มั้ย? ถ้ามีอะไรก็โทรหาแม่ได้นะจ๊ะ” รำลาลูกจบก็จัดการแบกกระเป๋าเดินทางใบโตของตัวเองเข้าท้ายรถ โดยมีหน้าหงิกงอของลูกชายมองตามอยู่ตลอด

    “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิยองแจ แกโตแล้วนะ อ่อ...หรือว่าจะเป็นเรื่องที่สัญญากับแม่แก? อย่าลืมล่ะ” ใบหน้าของยองแจเริ่มหงิกงอมากกว่าเดิมเมื่อคิดถึงเรื่องที่แม่เขาพูดขึ้นมา คนเป็นพ่อเดินเข้ามาตบบ่าปุๆเป็นการให้กำลังใจ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลูกตัวเองมีนิสัยดื้อรั้นขนาดไหน...มันก็ต้องบังคับกันด้วยวิธีนี้แหละ

    “ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะยองแจ เดี๋ยววันนี้น้าจะให้ฮิมชานจะมาหานะ” ....จะพามันมาทำไมครับ ไม่ต้อง ยูยองแจไม่อยากเจอมัน!...

    “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณน้า ผมอยู่คนเดียวได้”

    “ให้พ่อฮิมชานเค้ามาอยู่เป็นเพื่อนก็ดีแล้วนี่ยองแจ จริงมั้ยจ๊ะ? ....แกจะได้ทำตามสัญญาของแม่” ประโยคหลังคุณนายยูต้องแอบเข้าไปกระซิบกับยองแจเพื่อที่จะได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น ใบหน้าหวานแสดงความไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามไม่ให้คุณและคุณนายคิมสังเกตเห็น

    “พรุ่งนี้ไม่ได้เหรอแม่”

    “ไม่ได้ วันนี้ก็เคลียร์ๆกันไปก่อนไง อย่างุ้งงิ้งสิยองแจ ...แม่ไปก่อนนะ บ๊ายบาย” โบกมือลาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่กำลังทำหน้าตาบอกบุญไม่รับเยี่ยงนางงามเกาหลีก่อนจะเดินขึ้นรถที่จอดรออยู่ตรงหน้า ยองแจปลายตามองตามจนกระทั่งรถเคลื่อนตัวออกไปจนลับตาแล้วจึงเดินคอตกเข้าบ้าน

    “ให้ตายเหอะยูยองแจ นี่มันเวรกรรมอะไรของแกวะเนี้ย ฮือออออ TOT

     

    ตกดึก

    ครืดดดดดดด~ ครืดดดดด~

    “หือ?” ร่างอวบหันไปตามต้นตอของเสียง เป็นเสียงโทรศัพท์ของเขาเองที่กำลังสั่นจนหมุนเป็นวงกลมอยู่บนโต๊ะข้างที่นอน มือเรียวหยิบขึ้นมาดูว่าสายที่เข้ามานั้นเป็นของใคร ...ซึ่งมันเป็นสายที่เค้าไม่อยากรับเอาซะเลย

    #สลัสครูเหยิน#

    “เหอะ!” เขากดตัดสายทันทีอย่างไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง ..ก็ไม่อยากรับไง..

    ครืดดดดดดด~ ครืดดดดด~

    แต่ไม่ทันไรบุคคลที่เพิ่งโดนตัดสายไปก็โทรเข้ามาอีกครั้งเล่นเอาคนที่กำลังแสยะยิ้มอย่างสะใจถึงกับสะดุ้ง และกดตัดสายไปอีกครั้ง

    ครืดดดดดดดด~ ครืดดดดดดด~

    รอบที่สามสำหรับสายเรียกเข้าและเป็นคนเดิมที่โทรเข้ามา คนตัวอวบจิ๊ปากอย่างรำคาญก่อนจะกดตัดสายไป

    “ชิ! ไอครูบ้านี่ความพยายามเป็นเลิศ แต่ขอโทษนะ...ฉันไม่อยากรับเว้ย!

    ปิ๊บๆ ปิ๊บๆ

    ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงเรียกเข้าแต่กลับกลายเป็นเสียงข้อความเข้าแทนซึ่งคนส่งก็เป็นคนเดียวกันกับคนที่เขาเพิ่งตัดสายทิ้งไปไม่นานนี้นี่เอง ...ขอคาราวะให้กับความพยายามจริงๆ...

    -ถ้าไม่รับสายฉัน เรื่องนี้ถึงหูแม่นายแน่ ยูยองแจ-

    “คิดว่าฉันกลัวรึไงห้ะไอเหยินคิมฮิมชาน...ไม่มีทาง...”

    ครืดดดดดดดด~ ครืดดดดดดดด~

    “โทรมาอยู่ได้ น่ารำคาญเข้าใจป่ะ ว่างมากไง?!!” ยองแจตวาดเสียงดังใส่ปลายสายทันทีที่กดรับ ตาเรียวกลอกไปมาอย่างเซ็งๆ ...ไม่ไดกลัวไอครูนี่แต่กลัวแม่ เข้าใจนะ...

    กล้าดียังไงตัดสายฉันห้ะ?!! ฉันครูแกนะเว้ย!!’แต่ดูเหมือนว่าทางปลายสายก็คงจะเดือดอยู่ไม่น้อยกับสิ่งที่อีกคนทำกับเขา

    “ทำไม? ไม่ว่างไง กำลังอ่านการ์ตูนอยู่”

    ไอเด็กนี่หนิ เฮ้อออ...ลงมาเปิดประตูให้หน่อย

    “เปิดทำไม?”

    โธ่ไอเด็กคว้ายยย~!! ฉันอยู่หน้าบ้านแกเนี้ย ช่วยแหกตาดูหน่อย!’ จบแค่นั้นยองแจก็รีบกุลีกุจอไปเปิดผ้าม่านดูทันที ภาพที่เห็นเป็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนเกาะรั้วบ้านทำหน้าตาดุดันใส่เขา ...ทำตัวเป็นผีอาฆาตไปได้...

    “พูดงี้ก็อยู่หน้าบ้านไปเหอะ ไม่เปิดให้เว้ย!!” พูดจบก็ตัดสายไปอย่างไม่สนใจ ..ถ้าพูดดีๆหน่อยสาบานว่าเขาจะลงไปเปิดให้แน่ แต่พูดแบบนี้ก็ยืนฟันยื่นข้างนอกไปเลย!...

    ร่างอวบล้มตัวลงบนที่นอนแล้วคว้าหนังสือการ์ตูนที่อ่านค้างอยู่ขึ้นมาอ่านต่ออย่างอารมณ์ แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อมีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา

    ยูยองแจ!!! เปิดประตูให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ!!! ไอหมู!!” ยองแจเด้งตัวขึ้นมาอย่างเคืองๆก่อนจะเดินออกไปยังระเบียงบ้าน

    หุบปากเดี๋ยวนี้นะไอครูเหยิน!!! อย่าคิดว่าพ่อแม่ไม่อยู่แล้วจะทำตัวกร่างได้นะเว้ย!!!” ร่างอวบเท้าสะเอวชี้หน้าด่าไอคนที่เกาะรั้วบ้านตะโกนเรียกเขาอย่างไม่กลัวชาวบ้านชาวช่องคนอื่นจะรำคาญ

    “ถ้านายไม่ลงมาเปิดประตูให้ดีๆ ฉันก็จะตะโกนอยู่ตรงนี้แหละ อย่าคิดว่าไม่กล้านะเว้ยยูยองแจ!!!!!

    “ฉันไม่มีทางเปิดให้แน่! เงียบไปซะ! อยากให้บ้านอื่นเค้าตื่นมาด่าก่อนรึไงถึงจะเงียบ!!!

    “เอาเลย เค้าจะได้รู้ว่าแกน่ะใจร้ายกับครูบาอาจารย์!!! แกมันศิษย์อกตัญญู!! เปิดเดี๋ยวเน้!!! ถ้าไม่เปิดปีนนะเว้ย!!

    “คิมฮิมชาน!!!

    “ยูยองแจ!!!

    “อ๊ากกกกก!!” ได้แต่กรีดร้องออกมาเหมือนคนบ้าโดนขัดใจ ยังไงซะก็ต้องลงไปเปิดประตูบ้านให้แขกผู้ไม่รับเชิญเข้ามาอยู่ดี ร่างอวบเดินตึงตังออกไปยังรั้วก่อนจะเปิดประตูให้ฮิมชานที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างอารมณ์ดีซึ่งมันแตกต่างกับเขาอย่างสิ้นเชิงเลยน่ะสิ...

    “เป็นเด็กดีจริงๆเลย ^[++++]^” ฉีกยิ้มยิงฟันสามสิบสองซี่ให้คนที่หน้าบึ่งดูแต่มันก็ไม่ช่วยสถานการณ์ดีขึ้นมาเลย.....สักนิด

    “มาทำไม”

    “แม่นายใช้ให้มา”

    “งั้นก็กลับไปซะ เดี๋ยวบอกแม่ให้ว่ามาแล้ว” แขนอวบๆพยายามจะดันอีกคนออกนอกเขตรั้วเสียตรงที่ว่าอีกฝ่ายไม่ยอมออกไปง่ายน่ะๆสิ แต่กลับเป็นเขาซะงั้นก็เป็นฝ่ายโดนดึงให้เข้าบ้านแทน ...ตกลงนี่บ้านใคร?...

    “ฉันอุตส่าห์ขับรถมาเหนื่อยๆไม่คิดจะพาเข้าบ้านหน่อยรึไง ไอเด็กใจดำ” จัดการเหวี่ยงเด็กปากเสียลงโซฟาส่วนตัวเองก็เดินเข้าครัวไปและกลับออกมาพร้อมขวดน้ำเย็นๆในมือ ...ตกลงบ้านไอเหยินนี่ใช่มั้ย?... ยองแจได้แต่มองการกระทำของคนตัวสูงตรงหน้าอย่างหน่ายๆ สายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างมากถูกส่งไปให้คนที่กำลังกระดกน้ำเข้าปาก

    “อะไร อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นนะ”

    “ไม่รู้จักคำมารยาทรึไง? เป็นครูซะเปล่า เรียนจบปะเนี้ย?”

    “จบสิเว้ย เพิ่งจบเลยด้วย!

    “เหอะ! ใครตาถั่วให้จบมาวะ..”

    “อ..ไอเด็กนี่หนิ เดี๋ยวตบให้หายบวมเลย” ร่างสูงเดินเข้ามาผลักหัวคนที่นั่งหน้างออยู่บนโซฟาเบาๆก่อนจะจับจองที่ข้างๆไอเด็กตัวอวบเพื่อพักเหนื่อย ยองแจรีบกระเถิบออกไปเกือบสุดขอบแสดงท่าทางรังเกียจออกมาชัดเจนจนฮิมชานต้องใช้เท้าถีบเข้าให้ด้วยความหมั่นไส้ ...เว่อร์แล้วไออ้วน...

    “ไออ้วนเอ๊ย!

    “ไม่ได้อ้วนเว้ย! เค้าเรียกอุดมสมบูรณ์!” ...ถ้าไม่ติดว่ามีศักดิ์เป็นครู จะต่อยเหยินหุบจริงด้วย...

    “สมบูรณ์จนพองแล้วอ่ะดิ!

    “พองพ่องดูดีขนาดนี้....” ยองแจพยายามพูดเสียงเบาแต่ก็ไม่วายที่คนข้างๆจะได้ยินอยู่ดี ...โซฟามันสั้นหรือหูไอครูเหยินนี่มันดีเกินวะ...

    “ใครสั่งใครสอนให้พูดกับครูแบบนี้ห้ะ?!!

    “ก็หัดทำตัวให้สมเป็นครูหน่อยดิวะ!

    “ไอเด็กบ้านี่....”

    “อะไร? ถ้าจะมาเพื่อหาเรื่องกันก็กลับไปเลยไป”

    “...รู้ใช่มั้ยว่าติด ร. วิชาฉันอยู่” ฮิมชานเริ่มเบี่ยงเข้าสู่ประเด็นหลักที่เขามาหายองแจในวันนี้ ร่างอวบหันไปมองแต่ก็ต้องเบี่ยงหลบเพราะสายตาคมที่จ้องมา ...พอโดนจ้อง แล้วมันรู้สึกทำไม่ถูกแปลกๆ...

    “อือ”

    “แล้วทำไมไม่ยอมแก้วะ?”

    “ก็ไม่อยากแก้ไง อยากมีไว้ประดับผลการเรียนบ้างอะไรบ้าง” คนตัวอวบยักไหล่ไม่สนใจ ทำเอาฮิมชานที่นั่งมองอยู่ถึงกับคันเท้าอยากถีบขึ้นมาอีกรอบ

    “ไอปัญญาอ่อน อย่าทำตัวติสท์หน่อยเลย ยังไงซะแกก็ต้องแก้ ร. วิชาฉันซะ...”

    “ไม่ม..”

    “ไม่ปฏิเสธ! โอเคดีมาก!” ไม่ทันที่ยองจะพูดจบร่างสูงก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน แถมยังเป็นการพูดเองเออเองเสียด้วย ตาเรียวหันไปจิกใส่อย่างเคืองๆแต่ฮิมชานไม่ได้สนใจเลยสักนิดกลับยิ้มยิงฟันกลับมาให้อีกคนได้กระฟัดกระเฟียดเล่น

    “ไม่แก้!

    “ไม่แก้ฟ้องแม่ อยากให้ฟ้องใช่ป่ะ? ได้ๆ” มือหนารีบควักโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงท่าทางจะเอาจริงยองแจก็รีบพุ่งเข้ามาคว้ามือเอาไว้

    “เห้ยๆ แหม..เรื่องแค่นี้เราคุยกันได้หน่า”

    “ตกลงจะแก้ใช่มั้ย?”

    “อื้อ!” เมื่อได้ฟังคำตอบที่พึ่งพอใจแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับผลงานของตัวเอง ...รู้งี้ใช้ไม้นี้ตั้งนานแล้ว...

    “แล้วมืออ่ะปล่อยได้แล้ว แน่ะๆ อยากจับก็บอกมาเหอะ!

    “หลงตัวเองเหอะ!” ยองแจรีบเด้งตัวออกไปนั่งริมโซฟาดั่งเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่ลืมแยกเขี้ยวใส่คนตัวสูงที่ยิ้มฟันยื่นอยู่ข้างๆ

    “เจอกันที่โรงเรียนพรุ่งนี้ 10 โมง โอเค้?”

    “งั้นผมไป 11 โมงนะ”

    “ตลกแล้วไอพอง บอก 10 โมงก็ 10 โมงดิ”

    “เออๆ”

    “ตอบให้มันดีๆหน่อยเดะ”

    “ครับ!” กระแทกเสียงเป็นการตอบรับแบบประชดประชันเรียกเสียงหัวเราะจากฮิมชานไปได้ไม่น้อย ...มันน่ารักดีนะ ว่ามั้ย?...

    “กินไรยัง?”

    “ยังเลย มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ในตู้แต่ขี้เกียจทำอ่ะ หาไรให้กินหน่อยดิ”

    “ออกไปหาไรข้างนอกกินกัน! เดี๋ยวเลี้ยงเอง” ฮิมชานลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะคว้ามือคนที่นั่งอืดอยู่ให้ลุกขึ้น ร่างอวบลุกขึ้นตามแรงดึงของอีกคนแบบไม่ขัดขืน

    “มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้วแหละ” พูดจบก็เดินหน้าบึ้งออกจากบ้านไปโดยมีคนตัวสูงเดินตามไปติดๆ

    .

    .

    .

    เช้าวันต่อมา

    ร่างสองร่างกำลังจับมือเดินกันเข้ามาในโรงเรียนเหมือนเด็กน้อยที่กลัวเพื่อนหาย ตลอดทางก็มีการเปิดประเด็นต่างๆขึ้นมาแต่ก็ไม่พ้นประเด็นเผาครูในโรงเรียน ยองแจมองนาฬิกาข้อมือบ่งบอกเวลาเกือบ 10 โมงแล้ว เขาจึงโบกมือลาเพื่อนตัวขาวโอโม้พลัสที่เดินมาด้วยกันแล้ววิ่งขึ้นตึกไปยังห้องพักครูการงาน

    แยกกันตรงนี้นะ กูไปหาครูเหยินคิมฮิมชานล่ะ

    “อือๆ”

     

    ขาเรียวก้าวพาเจ้าของมายังจุดหมาย ยองแจรีบเปิดประตูเข้าไปทันทีโดยไม่มีการเคาะให้สัญญาณใดๆทั้งสิ้นก่อนจะเดินไปยังโต๊ะของฮิมชานแล้วกระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเต็มแรง

    “กระแทกแรงๆเดี๋ยวไขมันก็แตกหรอก”

    “อย่าทำให้อารมณ์เสียแต่เช้าได้ปะ?” ใจจริงเขาอยากจะเอาเก้าอี้ฟาดหน้าไอครูเหยินจอมแขวะนี่ด้วยซ้ำ แต่ด้วยภาพพจน์เด็กเรียบร้อยที่สร้างมาเขาจะทำให้มันป่นปี้ไม่ได้ ...เย็นไว้ ไประบายที่บ้าน...

    “แซวแค่นี้ทำรมณ์เสีย โด่...”

    “กวนตีน...”

    “ฮัลโหลครับคุณนายยู...”

    “เห้ย!!” มือเรียวรีบแย่งโทรศัพท์มาจากคนตรงหน้าที่ทำท่าจะโทรหาแม่เขาและกดตัดสายทิ้งไป

    “อะไร ยังไม่ทันโทรเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” ...อยากจะควักเอาไขมันตัวเองตะปปหน้าไอครูเหยินนี่จริงๆ...

    “ไหน..ให้แก้ยังไงก็บอกมา พูดนอกเรื่องอยู่ได้”

    “ทำงานที่ยังไม่ได้ส่งมาซะ”

    “แล้วมีอะไรบ้างล่ะ?”

    “แล้วตัวเองไม่ได้ทำอะไรบ้างล่ะ?”

    “จะรู้เหรอ” ...นั่นสิ จำไม่ได้หรอก เพราะงานเกือบทุกอย่างที่ฮิมชานสั่งเขาจ้างให้เพื่อนทำทั้งนั้น...

    “กวนตี-นแล้วยูยองแจ”

    “มองโลกในแง่ลบไปป่ะคิมฮิมชาน...” ตาคมมองใบหน้าใบหน้าหวานเคืองๆแล้วหยิบใบคะแนนขึ้นมาดู

    “......สวนจิ๋ว” ยื่นใบคะแนนให้คนตรงข้าม นิ้วยาวๆชี้ไปยังช่องว่างที่ไร้รอยขีดเขียนและเป็นช่องเดียวซะด้วย ยองแจขมวดคิ้วด้วยความสงสัยกับสิ่งที่ได้ยิน ...เรียนด้วยเหรอวะ ทำไมไม่เห็นรู้เลย...

    “เรียนด้วยอ่อ? ทำไมไม่เคยรู้”

    “เหอะ จะรู้ได้ไง...พอถึงคาบฉันทีไรนายก็หลับทุกที!

    “ก็ก่อนหน้านั้นมันเป็นคาบห้องประชุมนี่!....ไปนั่งฟังคนบ่นๆก็ต้องง่วงเป็นธรรมดา ให้ร้องเพลงอยู่ได้ ร้อนก็ร้อน หนังตาจะปิดอยู่แล้ว หลับก็โดนครูหมายหัวอีก อิจฉาคนที่หลับเนียนชิบห-าย มันทำไงวะ แถมก่อนคาบนี้เป็นคาบคณิตอีก สมองแทบแตกไม่รู้จะสอนเร็วไปไหน รีบไปไล่ควายรึไงห้ะ...บอกว่าไม่เข้าใจถามได้ พอถามก็ถูกว่ากลับมาอีกว่าไม่ฟังที่สอนไปรึไง สมองช้า แล้วไหนบอกว่าถามได้ไงวะ?!! ส่วนคาบวรรณคดีครูแม่-งขี้งอนชิบห-าย ไม่ได้ดั่งใจนิดหน่อยก็งอนและ ยังไม่รวมวิชาอังกฤษนะ นี่ก็โคตรอคติกับเด็ก คนไหนส่งการบ้านช้าหน่อยก็หมายหัว ให้ทำใหม่บ้าง คัดใหม่บ้าง ส่งไม่ทันเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ คัดกันจนมือหงิกเอ็นปูดแทบจะไปแข่งขันยกน้ำหนักทีมชาติด้วยนิ้วเดียวแล้วเนี้ย! กลับบ้านไปการบ้านอื่นก็ไม่ได้ทำต้องมานั่งคัดตัวงอถึงตีหนึ่งตีสอง ไม่พอยังต้องรีบตื่นเช้ามาโรงเรียนเพื่อมาส่งวิชานี้ เด็กทั้งห้องแทบจะเป็นโรคจิตตาย! สอนก็ไม่ค่อยได้สอน เขียนก็ตัวโคตรเล็กเท่าแบคทีเรียในตี-นมด ใครจะไปอ่านออกวะ!! แล้วสูตรเคมีเนี่ย..จะท่องไปทำไมนักหนา สอบนู้นสอบนี้เด็กตกกันระเนระนาด ออกไปก็น้อยคนนักที่จะได้ใช้กันจริงๆ เวลาทำกับข้าวต้องใช้สูตรเคมีเหรอถามจริง สูตรสมดุล ผัดผักบุ้งเท่ากับกระทะบวกตะหลิวงั้นดิ? โด่...คอยดูนะผมจะไปตั้งเพจแอนตี้นิวตัน!! ฮึ่ย!!!” ...แล้วมึงไปยุ่งอะไรกับค้าววววววว?!! ปล่อยเขาอยู่กับต้นแอปเปิ้ลต่อไปเถ้ออออ... ฮิมชานได้แต่นั่งกลืนน้ำลายลงคออึกๆให้กับความในใจของยองแจที่เจ้าตัวระบายออกมาอย่างออกรส ไม่เพียงแต่เขา ครูคนอื่นๆที่อยู่ในห้องก็หันมามองเจ้าเด็กตัวกลมนี่ด้วยสายตาหวาดๆ ใบหน้าคมยิ้มให้ผู้ร่วมห้องทีละคนก่อนจะหันไปดีดหน้าผากยองแจเบาๆ

    “ไอเด็กบ้า พอได้บ่นทีล่ะว่าวติดลมเลยนะ เบาๆหน่อยก็ได้ ครูคนอื่นอยู่ด้วยนะเว้ย”

    “เออว่ะ...ขอโทษครับ” ร่างอวบรีบลุกขึ้นก้มหัวขอโทษบรรดาคุณครูการงานที่อยู่ภายในห้อง และได้รับการพยักหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรกลับมา ...โชคดีที่อยู่กันแค่สองสามคน...

    “ตกลงมีแค่สวนจิ๋วอย่างเดียว?”

    “อือ”

    “งั้นไปล่ะ..”

    “ไปไหน?”

    “ไปซื้อของไง อยากให้ผ่านป่ะเนี้ย?” ว่าแล้วก็จัดการสะพายกระเป๋าของตัวเองและเตรียมจะเดินออกจากห้องไป ถ้าไม่มีเสียงหนึ่งมาขัดเอาไว้ก่อน

    “เดี๋ยวววววว...ไปเป็นเพื่อน”

    “ไปทำไม ไม่ต้อง”

    “แล้วรู้รึไงว่าเตรียมอะไรบ้าง ในคาบฉันแกไม่เคยเรียนเลยไม่ใช่อ่อ เพราะงั้นฉันควรไปกับแกด้วย เค้?”

    “เออๆ” ยองแจตอบออกมาแบบรำคาญก่อนจะเดินตึงตังแบกกระเป๋าออกจากห้องไป ไม่พอยังส่งสายตาขู่คนที่กลังเก็บของอยู่เป็นเชิงบอกให้เร็วๆ

    “ไอพองนี่...พูดดีๆไม่เป็นรึไงวะ..”

    “เด็กคนนี้อ่ะเหรอที่มึงเล่าให้กูฟังบ่อยๆ ที่เป็นลูกเพื่อนแม่.มึงใช่ป่ะ?” ฮิมชานหันไปมองเพื่อนผิวคล้ำไปทางดำซะมากที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ไหล่หนายักขึ้นยักลงไปมาแบบไม่ใส่ใจแล้วรีบกวาดของใส่กระเป๋าเป้ของตนเองต่อ

    “จะกินเด็กเหรอวะ เด็กนักเรียนด้วยนะนั่นน่ะ กูไม่อยากไปเยี่ยมมึงที่คุกหรอกนะ ......โอ๊ะ!” ร่างสูงปาปากกาใส่ไอเพื่อนปากดีไปทีหนึ่งเพื่อให้หยุดแพร่น้ำลายสู่อากาศ ...พูดมากไปแล้วมึง...

    “เงียบไปเลยไอดำเอ็น คนนี้กูจองตั้งแต่เรียนประถมแล้วเว้ย! ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดนะ..กูจะฟ้องแฟนมึง”

    “มึงจะฟ้องอะไร”

    “กูจะฟ้องว่ามึงมีกิ๊ก”

    “กิ๊กพ่อง เค้าไม่เชื่อมึงหรอก”

    “งั้นกูขอแช่งให้ไอเลโอมีกิ๊ก”

    “กล้ามีดิ กูจะตอนทั้งมันทั้งมึงเลย! ไอสัสเหยิน! ไอปากหมา! ...มึงไปให้พ้นๆหน้ากูเลยไป”

    “ฮ่าๆๆๆๆ กูไปแล้วนะ เคลียร์งานพวกนี้ให้ด้วยนะ ขอบใจมาก บ๊ายบายยยย~” เมื่อโดนเพื่อนรักสะบัดมือไล่แล้วคนที่เชื่อฟังอย่างฮิมชานก็รีบวิ่งออกจากห้องยอมไสหัวไปตามคำขอ ไม่พอยังทิ้งภาระอันยิ่งใหญ่ไว้ให้อีกคนดูต่างหน้าด้วย

    “ไอเชี่ยเหยินนนนนน!! มึงอย่าทำกับเอ็นผู้น่ารักแบบเน้~!!!! กูเกลียดมึงงงง~ กลับมาเอางานมึงปายยยยยย~!! TOT

     

    รถเต่าสีชมพูน่ารักของฮิมชานเคลื่อนเข้ามาจอดยังหน้าร้านขายเครื่องเขียนและอุปกรณ์การเรียนการสอน ยองแจก้าวออกจากรถเดินตรงเข้าร้านไปโดยไม่รออีกคนที่ตะโกนเรียก ขายาวรีบสาวเท้าตามร่างอวบไปติดๆแต่กลับต้องเป็นคนจูงมือเดินแทนเพราะไอเด็กตัวบวมนี่เดินทั่วไปหมด เข้าช่องนู้นวกมาช่องนี้

    “ช่องนี้...เดินมั่วอยู่นั่นแหละ”

    “รู้แล้วน่า แค่เดินดูของอย่างอื่นหรอก” ฮิมชานขำให้กับข้อแก้ตัวของยองแจ ใบหน้าอูมๆงอลงเล็กน้อยแสดงความขัดใจ ...แถเก่งจังนะ...

    “เหรอออออ.. อ่าๆ ของที่ใช้เนี้ยก็มี ขวดโหล ดิน หินภูเขาไฟ แล้วก็พวกพืชที่ไม่ต้องโดนแสงมาก”

    “ต้องซื้อหมดนี่เลยอ่ะนะ? แพงตาย..”

    “ไอหมูบื้อเอ้ยยย ซื้อแค่ขวดโหลกับหินภูเขาไฟก็พอ ส่วนที่เหลือค่อยไปหาเอาแถวบ้านก็ได้”

    “ใครหมู? ไอหนูแฮมเตอร์...ไปไกลๆเลย” พูดแล้วก็ผลักฮิมชานออกไป ด้วยสัญชาตญาณการกวนตีนที่มีมาแต่กำเนิดทำให้ร่างสูงยังคงคอยตามรังควานคนที่เลือกซื้อของตลอด ช่วงเวลาที่ยองแจคิดว่าแย่ที่สุดคือการสอบ..แต่ช่วงเวลาที่อยู่กับคิมฮิมชานมันแย่ยิ่งกว่า เขาทำอะไรไม่ได้เลย ผลักไสไล่ส่งไปเท่าไหร่ก็ไม่พ้น ยิ่งพยายามออกห่างมันเหมือนว่าทั้งสองยิ่งใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ ...ไม่ดีเอาซะเลย...

    “นี่หมูอ้วน! ดูอะไรอยู่น่ะ” คนตัวอวบสะดุ้งและรีบซ้อนมือไว้ข้างหลังทันที ใบหน้าคมขมวดคิ้วส่งสายตาสงสัยไปให้ทำเอาอีกคนต้องเสมองไปทางอื่นเพื่อเลี่ยงการจ้องตา

    “อะไร? เปล่า”

    “แล้วกำอะไรไว้ในมือ เอามาดูหน่อย”

    “ไม่! ไม่ให้ดู มันเป็นความลับ!

    “ก็ได้ แต่อย่าให้รู้นะว่าเป็นอะไร” ยองแจกำของในมือไว้ตลอดไม่ยอมปล่อยจนกระทั่งนำของทั้งหมดมาจ่ายเงิน เขาไล่ฮิมชานให้ออกไปรออยู่ที่รถก่อน แรกๆก็ถูกค้านแต่ยองแจเป็นเด็กหัวดื้อทำให้ต้องยอมออกไปรอแต่โดยดี ...ร่างสูงยืนพิงประตูรถมองดูคนที่เดินยิ้มหน้าบานออกจากร้านอย่างหมั่นไส้ ...แก้มมากองรวมกันเป็นก้อนเชียว...

    “ยิ้มอะไรนักหนา มีความลับใช่มั้ย?”

    “ไม่บอก!” ยองแจแลบลิ้นให้คนตัวสูงหนึ่งทีก่อนจะรีบยัดตัวเองเข้าไปในรถ ฮิมชานเบปากงอนๆแต่ก็ต้องจำใจก้าวขึ้นรถตามไปแล้วขับพาเด็กอ้วนไปส่งที่บ้าน

     

    “หาไรกินกันก่อนป่ะหมู เที่ยงแล้วอ่ะ” ฮิมชานถามคนที่นั่งยิ้มให้กับถุงกระดาษเล็กๆในมือ ใจจริงอยากจะกระชากมาดูด้วยซ้ำว่ามันมีอะไรอยู่ข้างในแต่ติดตรงที่ว่าเขาไม่อยากกินตีนหมู

    “กินเนื้อย่างกันครู!

    “ไม่เอา กินจาจังดีกว่า”

    “เนื้อย่าง”

    “ย่อยยาก”

    “เนื้อย่างงงง”

    “เหม็นควันไม่เอาหรอก”

    “เนื้อย่างงงงงงงง”

    “ไม่เอา”

    “ถ้าครูไม่ให้กิน ผมจะกลั้นหายใจตายในรถนี่แหละ แอ่กก..” มือเรียวยกขึ้นมาบีบคอตัวเองและทำตาเหลือกชักกระแด่วๆ ฮิมชานที่เห็นอย่างนั้นก็แทบอยากจะเอาพวงมาลัยรถยนต์รัดคอตัวเอง ...บอกว่าจะกลั้นหายใจตายแต่เอามือบีบขอคือเห้ไรครับไอหมูควาย - -...

    “เออๆ! เนื้อย่างก็เนื้อย่าง หยุดบีบคอแล้วนั่งให้เรียบร้อย! ...ไอดื้อ” ยองแจยิ้มแฉ่งให้กับชัยชนะของตัวเองพร้อมพรรณนาถึงความวิเศษของเนื้อตลอดทาง รถเต่าสีชมพูเลี้ยวเข้าไปยังร้านเนื้อย่างเล็กๆ ร่างอวบรีบวิ่งดุ๊กดิ๊กๆเข้าไปจับจองที่ทันทีและจัดการสั่งนู้นสั่งนี้เรียบร้อยโดยที่ฮิมชานไม่ต้องทำอะไรเลย ประมาณว่ามึงมีหน้าที่กินและจ่ายตังค์อย่างเดียวเป็นพอ

    “ถามจริงๆเถอะ ทำไมถึงติดร.วิชาฉันล่ะ” พูดแล้วก็คีบชิ้นเนื้อเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆก่อนจะใช้ตะเกียบชี้ไปยังคนที่นั่งตรงข้าม

    “เอาความจริงหรือโกหก”

    “เอาความจริง”

    “เพื่อนมันไม่ยอมทำให้เหมือนครั้งก่อนๆ”

    “ห้ะ? นี่แกใช้เพื่อนทำวิชาของฉันเหรอ?!

    “อือ หมดเลยด้วย”

    “ไอ...” ฮิมชานอยากจะเอาตะเกียบจิ้มแก้มบวมๆของไอบวมตรงหน้าด้วยซ้ำแต่ก็ต้องอดทนไว้เพราะยังไงซะมันก็เป็นเด็ก(ของเขา)

    “แล้วถ้าโกหกล่ะ”

    “ก็...ขี้เกียจ” ...แล้วมันต่างจากความจริงตรงไหนวะ...

    “เรียกว่าพี่ได้มั้ย..” ยองแจเงยหน้าจากเตาย่างเนื้อขึ้นมาสบตาฮิมชานที่นั่งเท้าคางจ้องตัวเองอยู่

    “หือ? อารมณ์ไหนอีกเนี่ย”

    “แต่ก่อนเรายังเรียกพี่ว่าพี่อยู่เลย”

    “ก็ตอนนี้เป็นครูแล้ว ผมก็เรียกว่าครูสิ”

    “นะ...” คำขอร้องถูกส่งมาพร้อมกับสายตาอ้อนๆเล่นเอายองแจชะงักกึก ไม่พอมือหนายังค่อยๆเลื่อนเข้ามากอบกุมมือนิ่มๆเอาไว้มันยิ่งทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก!

    “อ..อะไร”

    “เรียกพี่นะ ...นะ”

    “ทำไมจู่ๆถึงอยากให้เรียกพี่ล่ะ ผมก็เรียกแบบนี้มาตลอดนี่นา”

    “ก็เวลาที่นายเรียกฉันว่าครูทีไร มันทำให้รู้สึกว่านายกับฉันเหินห่างกันยังไงก็ไม่รู้ ...เจ็บ”

    “จ..เจ็บบ้าอะไรล่ะ ถ้าเจ็บก็ไปหาหมอ แก่แล้วอ่ะดิ”

    “นะยองแจ นะนะนะนะน้า~ หมูน้อยของพี่~

    “ไม่!!” เมื่อได้รับคำปฏิเสธเสียงแข็งจากคนตัวอวบ ใบหน้าก็ฮิมชานก็บึ่งตึงทันที ยองแจแลบลิ้นใส่ฮิมชานด้วยความสะใจที่เปียมล้น

    “ชิ...กินให้กระเพาะพังไปเลยไออ้วน!!

    “พูดเองนะ...งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ” ...แกเคยเกรงใจฉันด้วยรึไง...

    “เออ! ....นี่แหนะๆๆ ฮึ่ย!” ฮิมชานเอื้อมไปจับคางยองแจแล้วยัดชิ้นเนื้อใส่ปากเอาเป็นเอาตายจนอีกคนเกือบอ้วก

    “แหวะ..แค่กๆๆๆ ไอหนูแฮมเตอร์โรคจิต! เดี๋ยวเอาตะเกียบจิ้มตาบอดเลย”

    .

    .

    .

    หลังจากที่มาส่งเด็กตัวอวบเสร็จ ฮิมชานก็คลุกอยู่แต่ในบ้านของยองแจ ไม่ยอมไสหัวกลับไปสักที ร่างสูงนอนคว่ำแผ่หลาไปกับโซฟาฮึมฮัมเพลงสบายอารมณ์

    “บ้านช่องไม่มีให้กลับรึไง”

    “มี แต่ไม่อยากกลับ อยากอยู่บ้านนี้มากกว่า”

    “บ้านผมไม่ใช่สถานหลี้ภัยนะ” ฮิมชานไม่ตอบเพียงแต่สั่นหัวให้ ยองแจเบ้ปากให้คนที่นอนยึดพื้นที่โซฟาทั้งหมดก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อคิดอะไรดีๆที่ดูชั่วไปสักหน่อยออก...

    “ลาลาล้า~ .............อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!! หมูทับบบบ!!” ร่างสูงดิ้นไปมาพยายามจะดันตัวเองขึ้นแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะน้ำหนักที่ทับเขาอยู่มันไม่ได้น้อยเลย

    “ใครหมู!!! ตายซะ!” ยองแจขย่มไปมาบนหลังของฮิมชานแบบเต็มแรงและดูเหมือนว่าจะเพิ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ

    “อ๊ากกกกก!! หลังจะหักอยู่แล้วววววววววววววววว~

    “เออดี!!

    “ไออ้วน!! ลุกกกกก!!

    “ไม่ลุก!!

    “อ๊ากกกกกก!!” ร่างสูงสูดลมเข้าปอดลึกๆก่อนจะคว้าแขนบวมๆไว้ ใช้แรงทั้งหมดดันตัวเองขึ้นมาทำให้ยองแจเสียการทรงตัวล้มลงไปนอนกองกับพื้นและลากคนที่จับแขนลงมาด้วย ร่างของฮิมชานหล่นมาทับยองแจพอดิบพอดี ยูยองแจจะไม่อยากกรี๊ดขนาดนี้ถ้า...ปากเขาไม่จุ๊บแก้มของครูเหยินนี่อยู่!! ...แม่จ๋าาาาาาาา ยองแจอยากร้องไห้ กรี๊ดดดดดดดดดดด T[]T...

    “...ข..ขอโทษ” ฮิมชานรีบเด้งขึ้นมานั่ง สายตามองไปยังคนตัวอวบที่ค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกและไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองเขา

    “...อ..ออก..ออกไปตักดินข้างนอกนะ!” ว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดออกจาบ้าน ร่างสูงกระพริบตาปริบๆด้วยความงงแต่ก็เดินตามยองแจออกไป

    “นี่ ออกมาแล้วก็หามอสด้วยสิ แล้วก็พวกต้นไม้เล็กๆ มีมั้ย?”

    “ต้นไม้เล็กๆน่ะมี แต่มอสคืออะไร?” ฮิมชานขำพรืดออกมากับคำถามที่คนตัวอวบถามเชา ...โตป่านนี้แล้วยังไม่รู้อีกว่ามอสคืออะไร...

    “มันก็เหมือนหญ้าอ่ะ แต่มันเล็กกว่ามาก อธิบายไม่ถูก”

    “ชิ เรียนจบมาได้ไง”

    “ฉันไม่ใช่ครูวิทย์นะ”

    “หาให้หน่อยได้ป่ะล่ะ นะๆ”

    “หาเองสิ”

    “มอสคืออะไรผมยังไม่รู้เลย แล้วจะให้หาเองเนี้ยนะ? วันนี้ทั้งวันคงเจอหรอก”

    “ครับๆ กระผมหาให้ก็ได้ครับ ..ตกลงฉันเป็นครูหรือเพื่อนกันแกแน่วะ” ยองแจยิ้มตาหยีให้อย่างน่ารักจนฮิมชานต้องยิ้มตามไปด้วย ...น่ารักอย่างนี้ไงถึงไม่เคยขัดใจได้เลย...

    .

    .

    “เริ่มไงก่อนอ่ะ” ยองแจวางของทุกอย่างสำหรับทำจัดสวนจิ๋วไว้บนโต๊ะโดยมีเจ้าของวิชานั่งคุมอยู่

    “ใส่หินลงไปก่อนตามด้วยดิน แล้วก็ลงต้นไม้ พรมด้วยมอส จากนั้นก็ตกแต่งให้ดูเป็นธรรมชาติ” ได้ยินแค่นั้นคนตัวอวบก็จัดการเทหินใส่ขวดโหลจนพูนและใส่ดินลงไปเกือบเต็มโหล มือเรียวดึงต้นจิ๋วจากกระถางขึ้นมาจับยัดลงไปในดินอย่างลวกๆ ตบท้ายด้วยการโปรยมอสพรมดินเป็นอันจบพิธี

    “เห้ยๆทำอะไรวะเนี้ย?!

    “ทำงานส่งไง เสร็จและ ง่ายว่ะ”

    “ใครเค้าทำกันแบบนี้วะ นี่มันไม่ต่างอะไรกับยำรวมมิตรเลยนะเว้ย”

    “อ่าว ผมก็ทำตามที่ครูบอกทุกอย่างเลยนะ!

    “ฉันไม่ให้ผ่านหรอก”

    “ครูนี่แม่.งโคตรไม่มีศิลปะในหัวใจเลย”

    “ฉันเป็นครูการงานไม่ใช่ครูศิลปะ”

    “แต่ผมตั้งใจทำมากเลยนะ!

    “ตั้งใจ? ฉันเห็นแกจับยัดๆๆๆกันเข้าไปขวด ถ้าเขย่าได้คงเขย่าแล้วมั้ง”

    “ตกลงจะให้ทำใหม่ว่างั้น?”

    “เออ”

    “งั้นครูกลับบ้านไปก่อนได้ป่ะล่ะ”

    “ทำไม”

    “ก็ถ้าครูผมก็ไม่มีสมาธิในการทำอ่ะดิ กลับไปเหอะ”

    “ถ้าฉันไม่คุมแล้วแกจะทำได้เหรอ”

    “ทำได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา ระดับยูยองแจซะอย่าง”

    “เพราะระดับยูยองแจนี่ไงถึงได้ห่วง”

    “เออน่า กลับไปเหอะ” ฮิมชานเหล่มองคนที่ดึงดันผลักไสให้เขากลับบ้านให้ได้ มีเหรอที่จะขัดใจไอเด็กดื้ออย่างยองแจได้...ไม่มีทาง

    “ก็ได้ๆ ต้องเอางานมาส่งฉันพรุ่งนี้นะ”

    “ชัวร์!” เสียงยืนยันหนักแน่นของคนตัวอวบทำให้ฮิมชานพอเบาใจขึ้นบ้างแต่ยังไงซะเขาก็ยังห่วงอยู่ดี...ไอเด็กนี่ยิ่งไม่ค่อยน่าไว้ใจอยู่ด้วย... ยองแจเดินออกมาส่งร่างสูงที่หน้าบ้านและโบกมือหยอยๆเมื่อรถแล่นออกไปก่อนจะกลับไปทำงานของตัวเองต่อ ...มันต้องออกมาดีมากแน่ๆ มั่นใจเกินร้อย...

    .

    .

    .

    เช้าวันต่อมา

    ร่างอวบเดินเข้าโรงเรียนมาด้วยรอยยิ้มชื่นบานราวสาวน้อยแรกแย้มที่กำลังเปล่งประกาย ในมือถือถุงใส่ขวดโหลของงานสำหรับส่งครูไว้แน่น เขาตรงไปยังห้องพักครูการงานอย่างเคยแถมเปิดประตูโผงผางเข้าไปเหมือนเดิมอีกต่างหาก สายตากวาดมองหาเป้าหมายซึ่งมันมองเห็นได้ง่ายมากเพราะมีฟันเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว อีกอย่างคือในห้องนี้มีครูอยู่แค่คนเดียว...

    “อ่ะ” ยองแจวางถุงขวดโหลไว้ตรงหน้าฮิมชานแล้วยิ้มแฉ่งให้

    “มันจะออกมาดูได้มั้ย ไม่ใช่ว่ายำรวมมิตรอีกนะ”

    “เดี๋ยวเอาขวดซัดหน้าหงาย มันโคตรสวยเลยจะบอกให้ ในชีวิตนี้ไม่เคยทำอะไรสวยขนาดนี้มาก่อนและไม่คิดว่าจะได้ทำด้วย”

    “เหรอออออออ” เขาค่อยๆเปิดถุงขวดโหลออกดูและมันทำให้ฮิมชานยิ้มกว้างขึ้นมาเมื่อเห็นสวนจิ๋วของยองแจ

    “ผมตั้งใจทำมากเลยนะ ลงทุนเปิดหาวิธีทำในเน็ต ยากชิบ”

    “ไปซื้อมาตอนไหน?”

    “อะไร”

    “ไอตุ๊กตาสองตัวเนี้ย” นิ้วยาวๆชี้ไปยังตุ๊กตาจิ๋วที่อยู่ภายใน มันเป็นตุ๊กตาหนูแฮมเตอร์สีชมพูกับลูกหมูสีเหลืองกำลังหันหน้าเข้ากัน ...เหมือนจุ๊บกันเลย...

    “ก็...ตอนที่ไปซื้อของพวกนี้อ่ะแหละ”

    “อย่าบอกนะว่าที่นายแอบๆไม่ฉันเห็นคือไอตุ๊กตาสองตัวนี้?”

    “อื้อ!” หน้าของของแจเริ่มขึ้นสีเมื่อตอบคำถาม ยิ่งคิดก็ยิ่งเขิน ...ทำไปได้ยังไง...

    “อ๋า~ ยองแจอา  นายนี่น่ารักจังเลย” ฮิมชานเอื้อมไปหยิกแก้มนิ่มของยองแจอย่างหมั่นเขี้ยว ...ใจจริงอยากทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำเหอะ...

    “ย..ย้า! เจ็บนะ”

    “นี่ยองแจ”

    “อะไร?”

    “รอให้นายเข้ามหาลัยก่อนเถอะ...”

    “ทำไม?”

    “...........นายเสร็จฉันแน่”

    “หึ!!.............

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                                                     .....................................แล้วจะรอนะ พี่ฮิมชาน




    :) Shalunla</
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×