คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เทวดา หรือ พญามาร
เทวดา หรือ พญามาร
คนรู้จักคนหนึ่งของปรัศนีย์ได้ติเตียนลับหลังอดีตสามีของเพื่อนคนหนึ่งซึ่งสนิทสนมกันมานาน แม้สองสามีภรรยาจะเลิกรากันไปนานมากแล้ว แต่สามีภรรยาซึ่งได้กลายสถานภาพมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ยังคงคบหากันเช่นเดิม ขณะที่ต่างคนต่างมีคนใหม่เข้ามาในชีวิตสัมพันธภาพของคนทั้งสองซึ่งดูเหมือนจะงดงามนั้นกลับไม่ได้งดงามแต่อย่างใดในสายตาของเพื่อนของฝ่ายหญิง เธอมักจะรู้สึกแย่ ๆ เสียทุกครั้งไปเมื่อได้ฟังเพื่อนของเธอกล่าวสรรเสริญเยินยออดีตสามีว่า ‘เขาคือเทวดาสำหรับฉัน’ แน่นอนล่ะหากจะพิจารณาเอาจากคำพูดคำจาหรือพฤติกรรมภายนอกนั้นเขาอาจจะดีจริงเขาดีเช่นที่อดีตภรรยาของเขาได้ยกย่องนั่นล่ะ เขาพูดดี...เขาให้ความช่วยเหลือเธอในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มีบางช่วงเวลาหลังจากการหย่าร้างและทั้งสองฝ่ายยังมิได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ คนทั้งคู่ยังคงเดินจับจูงมือกันในโรงภาพยนตร์ ในห้างสรรพสินค้าหรือในที่สาธารณะอื่น ๆ ผู้คนที่รู้จักเมื่อได้พบเห็นต่างชื่นชมในน้ำจิตน้ำใจของอดีตคู่รัก
ต่อมาไม่นานทั้งคู่ต่างเริ่มต้นชีวิตใหม่และจบชีวิตคู่ครั้งใหม่ลงในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากแยกย้ายกับคู่ชีวิตใหม่ ทั้งสองได้กลับมาเริ่มต้นชีวิตคู่กันอีกครั้ง เหตุการณ์นี้ยิ่งเป็นสิ่งตอกย้ำกับฝ่ายภรรยาว่าเขาคนนี้คือเทวดาของเธอจริง ๆ และเพียงไม่นานชีวิตคู่ของพวกเขาก็จบลงในเวลาอันรวดเร็ว...คงจะสงสัยกันล่ะซิว่า...เพราะเหตุใดคนที่ดีต่อกันเสียมากมายเช่นนี้จะไม่สามารถรักษาสถานภาพสมรสไว้ได้ถึงสองครั้งสองครา
เพื่อนของฝ่ายหญิงกล่าวกับปรัศนีย์อย่างมีอารมณ์ว่า “ก็เพราะผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เทวดาน่ะซิ แต่เขาเป็นพญามารต่างหาก” ถึงตอนนี้ปรัศนีย์รับฟังอย่างงุนงง แต่เธอก็ไม่ปล่อยให้ปรัศนีย์ได้รู้สึกงง ๆ อยู่นาน ๆ เธอรีบชี้แจงเป็นฉาก ๆ เริ่มตั้งแต่
คนรักกันเขาต้องอยู่เพื่อกันและกัน แต่นี่ ฝ่ายชายอยู่เพื่อครอบครัวตัวเอง มีภรรยาแล้วต้องทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวของตน ส่วนภรรยาก็เลี้ยงดูตัวเองเพราะประกอบอาชีพที่มีรายได้ดีและครอบครัวของเธอมีฐานะจึงไม่ต้องรับผิดชอบใคร ๆ และที่สำคัญภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวส่วนใหญ่แล้วตกเป็นของภรรยา
ทุกคนต้องการความเป็นส่วนตัว แต่นี่ไม่ใช่เช่นนั้น ฝ่ายหญิงได้เคยเล่าขานให้คนรู้จักของปรัศนีย์ฟังว่าตัวเธอเองรู้สึกขาดความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมากเมื่อบรรดาญาติพี่น้องของสามีมาที่บ้านและทำการรื้อค้นทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านของเธอ ไม่เว้นแม้แต่ห้องนอน สำคัญที่สุดฝ่ายชายไม่ได้ว่ากล่าวตักเตือนอันใด
ฝ่ายหญิงอยากได้อะไรก็ต้องได้ เป็นเช่นนี้จริง ๆ เขาไม่เคยว่ากล่าวเธออยากได้อะไร อยากซื้ออะไรก็ซื้อไป อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ไปได้ เขาไม่เคยทักท้วงห้ามปรามหรือขัดใจเธอ เพราะอะไรน่ะหรือ...ก็เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินของเธอน่ะซิ เขาไม่ได้ออกให้เธอแม้แต่บาทเดียว
ประการสุดท้ายที่คนรู้จักของปรัศนีย์ได้กล่าวติเตียนชายผู้นี้ค่อนข้างจะเป็นนิสัยที่ย่ำแย่และดูเป็นการเห็นแก่ตัวอยู่ไม่น้อย นั่นคือ เมื่อเขาอยากได้สิ่งใด หรืออยากทำอะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจเขาจะทำร้ายตัวเองต่อหน้าภรรยา (ในขณะนั้น) และเธอก็ต้องเป็นฝ่ายตามใจเขาทุกครั้งไป เธอผู้นี้ต้องเสียเงินไปมิใช่น้อยในการดำรงสถานภาพสมรสของตนเองกับสามี (ในขณะนั้น) ไว้ถึงสองครั้งสองครา พฤติกรรมนี้ของฝ่ายชายเป็นสิ่งที่คนรู้จักของปรัศนีย์รังเกียจเป็นอย่างยิ่ง เขาทำได้อย่างไรกับการใช้ความรักของเธอผู้นี้เป็นเครื่องต่อรองอันจะได้มาซึ่งสิ่งที่เขาต้องการ ปัจจุบันชายผู้นี้มีชีวิตคู่ครั้งล่าสุดซึ่งดูแล้วเขาจะมีความสุขมาก คนรู้จักของปรัศนีย์เคยเห็นรูปถ่ายของเขาถ่ายคู่กันกับภรรยาคนใหม่ในสื่อออนไลน์ อีกทั้งมีคนบอกเล่าให้ฟังว่าเขารักภรรยาสาวคนนี้มาก เขาให้เธอทุกอย่าง...เขาคือสามีที่ดี สิ่งที่เขามีให้เธอคนนี้ คือสิ่งที่เขาไม่เคยมีให้เธอคนนั้นในอดีต
คนรู้จักของปรัศนีย์เอ่ยถามปรัศนีย์ด้วยเนื้อหาเดิมอย่างมีอารมณ์ว่า “ไอ้ผู้ชายอย่างนี้หรือที่ควรเรียกเขาว่าเทวดา” และต่อด้วยการวิจารณ์ว่าเพื่อนของเธอคงจะลืมเหตุการณ์ในอดีตไปเสียแล้ว เธอเองอยากจะย้ำเตือนกับเพื่อนว่า ‘อย่าลืมตัวตนของเขาในอดีตซิ อย่าให้ความดีเพียงเล็กน้อยของเขาที่มีในวันนี้มาปิดบังหรือลบล้างอดีตคู่ที่ไม่น่าอภิรมย์ในครั้งนั้นซิ’ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนคนนั้นคนรู้จักของปรัศนีย์ทำได้เพียงการยิ้มขื่น ๆ เมื่อได้ยินคำยกย่องชายคนนั้นจากอดีตภรรยาของเขาเหตุผลเพียงเพราะเธอรักเพื่อนของเธอนั่นเอง การเป็นเพื่อนรักกันมาอย่างยาวนานทำให้เธอจำใจต้องปล่อยให้เพื่อนคนนี้ได้มีความสุขกับภาพและเรื่องราวที่เพื่อนต้องการให้เป็นไป และเพื่อเป็นการดับอารมณ์ขุ่นมัวของคนรู้จักในยามที่เธอพูดถึงเรื่องนี้ปรัศนีย์จำต้องบอกไปว่า “เขาก็เป็นเทวดาจริง ๆ นี่ แต่เป็นเทวดาของคนอื่น”
ความคิดเห็น