ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาวบรรดาศักดิ์ | MarkBam (THAI)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ ๖

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.69K
      318
      4 ก.ค. 59

    ลงครั้งแรก 3 กรกฎาคม 2559

     

    “คุณชายตื่นได้แล้วค่ะ”


    “ฮื่อออ..


    “ตีสี่แล้วนะคะคุณชาย เดี๋ยวหม่อมแม่มาเอ็ดเอาได้นะคะ” ดวงหน้าหวานซุกเข้าหาหมอนนิ่มพลางวาดมือกอดเกาะกำบังที่ว่าเอาไว้แน่น เสียงเล็กครางฮื่อในลำคอด้วยความง่วงงุนที่ทำให้ไม่อาจจะลืมตาตื่นขึ้นมาตอนนี้ไหวได้จริงๆ ปกติคุณชายไม่ใช่คนตื่นสาย เขามักจะตื่นไปช่วยหม่อมแม่ใส่บาตรอยู่ทุกเช้า หากแต่เมื่อวานโดนพี่สาวคนสวยเรียกไปนั่งอบรมมารยาทสำหรับงานแต่งเสียจนดึกดื่น กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปตีสาม


    ไม่ใช่เพราะออกจากห้องพี่หญิงตอนตีสามหรอก คุณหญิงกันติภาปล่อยน้องชายตัวน้อยออกมาตั้งแต่สามทุ่มแล้ว มีแต่คุณชายเองนั่นแหละที่ตื่นเต้นเสียจนนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงกว้าง กว่าจะข่มตาหลับได้ก็ปาเข้าไปเช้าวันใหม่


    เพราะแบบนั้นถึงมัวโอ้เอ้ซุกหน้าเข้าหาหมอนอยู่นี่อย่างไร


    “พี่ชายตื่นเถอะค่ะ กว่าจะแต่งตัวกว่าจะแต่งหน้า หญิงกลัวว่าจะไม่ทันถ้ายังนอนอยู่แบบนี้” คุณหญิงกานต์นพิศพยักหน้าให้ช่างแต่งหน้าช่างแต่งตัวทั้งหลายขนอุปกรณ์เข้ามาในห้องนอนของพี่ชายอย่างเงียบๆ มือเรียวพยายามอย่างยิ่งที่จะยื้อยุดฉุดกระชากหมอนหนุนใบใหญ่ออกมาจากมือเรียวของผู้เป็นพี่ แต่ก็นั่นแหละ มันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน


    “รับปากจะแต่งกับเขาแล้วจะมาดื้ออย่างนี้ไม่ได้นะคะ”


    “หญิงงงงง พี่เพิ่งจะได้นอนเองนะคะ” เพราะมัวเผลอส่งเสียงเถียงน้อง เรี่ยวแรงที่เคยรั้งหมอนเอาไว้จึงน้อยลงส่งผลให้คุณหญิงกระชากเกราะกำบังด่านสุดท้ายออกไปจากมือเล็กได้อย่างรวดเร็ว เธอส่งหมอนใบโตให้กับคุณข้าหลวงคนสนิทก่อนจะรั้งแขนเรียวของพี่ชายให้ลุกขึ้นมานั่ง หลังจากนั้นจึงดันหลังให้เข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับออกคำสั่งให้พี่ชายตัวดีอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย


    โดยไม่ลืมยืนรอคุมอยู่ด้านหน้าพร้อมกับกุญแจสำรองในมือด้วย เผื่อว่าพี่ชายนอนหลับอยู่ในนั้นเธอจะได้ไขเข้าไปลากตัวออกมาได้


    “รีบๆอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยค่ะ ไม่อย่างนั้นหญิงจะให้คุณข้าหลวงเข้าไปอาบให้!!” ตะเบ็งเสียงให้ดังขึ้นเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม วันนี้เป็นวันดีเธอก็ควรที่จะอารมณ์ดีตามไปด้วย คุณหญิงลุกขึ้นมาช่วยหม่อมแม่เตรียมเรื่องสถานที่ตั้งแต่เมื่อเช้ามืดก็คงจะเวลาเดียวกับที่หม่อมราชวงศ์กันต์พิมุกต์เพิ่งจะข่มตาหลับได้นั่นแหละ จนเมื่อตอนเกือบจะตีสี่พี่หญิงกันก็บอกกับเธอว่าจะเป็นคนดูเรื่องสถานที่และอาหารทั้งหลายต่อให้เอง เธอจึงถูกย้ายหน้าที่มาเป็นปลุกเจ้าสาวให้ตื่นขึ้นมาเตรียมตัวแทน


    ซึ่งตอนนี้หม่อมราชวงศ์กานต์นพิศนึกอยากจะลงไปช่วยจัดสถานที่ข้างล่างเหมือนเดิมเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ชายกลายเป็นคนขี้เซาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่ลากร่างน้อยนั่นขึ้นมาจากเตียงเธอก็เสียพลังงานราวกับปีนต้นไม้ขึ้นไปจัดไฟประดับเองแล้ว


    “พี่ชาย!!


    ร่างบอบบางที่กำลังจะหลับคาอ่างอาบน้ำสะดุ้งจนตัวโยนหลังจากได้ยินเสียงของน้องหญิงตะโกนผ่านประตูห้องน้ำเข้ามา มือเรียวสวยตบลงไปบนหน้าของตนเองเบาๆพร้อมกับพยายามจะลืมตาขึ้นมาอาบน้ำอย่างที่น้องสาวตัวดีเจ้ากี้เจ้าการสั่งให้เขาทำ


    ง่วง.. ง่วงมากจนอยากจะนอนหลับอยู่ตรงนี้..


    สายน้ำเย็นที่ไหลวนอยู่รอบกายทำให้คุณชายกันต์พิมุกต์รู้สึกว่าตนเองตาสว่างขึ้นมาบ้าง มือเรียวลูบไล้ไปทั่วร่างกายอ้อนแอ้นเกินชายของตนอย่างแผ่วเบาแต่ก็เร่งรีบไปในที หากช้ากว่านี้น้องหญิงคงจะได้ไขประตูเข้ามาแล้วให้คุณข้าหลวงอาบน้ำให้เขาจริงๆอย่างที่ว่าแน่


    ซึ่งราชนิกุลหนุ่มไม่มีวันยอม! จะให้คนอื่นมาเห็นร่างกายของตนได้อย่างไรกัน อายุอานามก็ไม่ใช่ว่าน้อยๆแล้ว


    น่าอายจะตายไป!


    “คุณชายมาใส่ชุดทางนี้เลยค่ะ”หลังจากที่ลากสังขารออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเสื้อผ้าบางส่วนที่ใส่ออกมาแล้ว ร่างบอบบางก็ถูกช่างแต่งตัวผู้จะว่าว่าเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ผู้ชายก็ไม่เชิงลากไปยังตู้เสื้อผ้าพร้อมกับส่งมอบชุดไทยประยุกต์ตามแบบสมัยรัชกาลที่ห้ามาให้ ด้านบนเป็นเสื้อราชประแตนสีครีมพอดีตัวสวมเข้าชุดกันกับโจงกระเบนผ้าตาดสีชมพูอ่อน ดูแล้วทำให้คุณชายเหมือนเจ้าชายตัวน้อยๆที่วิ่งเล่นอยู่ในรั้วในวังสมัยนั้น


    “นั่งเลยค่ะคุณชาย”


    “ครับ” ครางรับออกไปเสียงเบาก่อนปิดเปลือกตาสีไข่ปอกของตนลงให้ช่างแต่งหน้าละเลงเครื่องสำอางที่เตรียมมาลงบนใบหน้าหวานราวกับกำลังระบายสีน้ำอยู่บนผ้าใบ กันต์พิมุกต์แทบจะปล่อยให้ตนเองนอนหลับไปทั้งๆที่ยังนั่งอยู่ ไม่สิ เขาหลับไปแล้วต่างหาก ถ้าไม่มีมือของคุณข้าหลวงดันหลังเอาไว้ให้ร่างน้อยคงหงายตัวตกเก้าอี้ไปแล้ว


    ความง่วงนี่มันไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ


    “โอ๊ยพี่ชาย!! หญิงไม่รู้จะปลุกยังไงแล้วนะคะ!!



     

    ในขณะที่อีกฝ่ายนอนหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอีกคนกลับเตรียมตัวทุกอย่างเรียบร้อยแล้วอย่างชนิดที่ว่าไม่ต้องมีใครมาเรียกหรือมาปลุกให้เสียแรง นายทหารหนุ่มนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกเพื่อรอสมาชิกในครอบครัวที่ไม่รู้ว่าจะแต่งตัวช้าอะไรกันนักหนา


    หัวใจของเขามันลอยละล่องไปจนถึงวังโรจนรัตติกรแล้วด้วยซ้ำในตอนนี้น่ะ!


    เพียงแค่นึกถึงว่าที่เจ้าสาวผู้สูงศักดิ์ของตนหัวใจมันก็เต้นตึกตักขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้


    บอกได้อย่างเต็มปากว่าฆนากรเฝ้ารอวันนี้มาตลอดหลายอาทิตย์ เฝ้ารอตั้งแต่วันที่ได้เจอกับว่าที่เจ้าสาวของตนครั้งแรก


    มันจึงไม่แปลกอะไรที่วันนี้เขาจะลุกจากที่นอนในเวลาเช้าตรู่ชนิดที่ไม่ต้องให้สาวใช้ไปเคาะประตูเรียกแต่อย่างใด


    “อื้อหืออ นี่มันคุณฆนากรจริงๆใช่ไหมเนี่ย”สมชายเอ่ยทักเสียงดังหลังจากที่เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของพี่ชายคนสนิทพร้อมกับรวีวิทที่เดินเข้ามาเคียงข้างกัน ใบหน้าหล่อเหลาของว่าที่เจ้าบ่าวดูเบิกบานเสียจนเพื่อนสนิททั้งสองอดจะหมั่นไส้ไม่ได้


    ทีตอนอยู่ในค่ายผู้บัญชาการเรียกเข้าพบเช้าหน่อยทำไม่พอใจ แต่พองานแต่งของตัวเข้า ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อเจ้าประคุณตื่นขึ้นมาเตรียมตัวตั้งแต่กี่โมงกี่ยาม แต่ดูแล้วก็น่าจะก่อนไก่ตื่นขึ้นมาขันเสียอีก เล่นแต่งซะเรี่ยมเร้เรไรนั่งรอคนอื่นได้ตั้งแต่เช้าแบบนี้น่ะ


    “วะไอ้นี่ งานแต่งกู มึงจะให้กูแต่งตัวมอซอไปรับภรรยาเข้าบ้านหรือยังไง!


    “แน่ะ อย่ามาเสียงดังใส่แขกนะเฮีย แล้วนี่พร้อมหรือยังผมกับพี่บีมารับไปที่งาน”


    “กูน่ะพร้อมแล้ว”นายหทารหนุ่มกวาดสายตาไปมองทั่วห้องรับแขกแต่ก็ยังไร้เงาของบุคคลในครอบครัวที่ควรจะลงมาเตรียมตัวกันได้แล้ว ฆนากรถอยหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน


    “มองหาใครวะ?”


    “ก็บ้านกูน่ะสิ ไม่รู้ว่าแต่งตัวช้าอะไรกันนักหนา” เพียงได้ยินคำตอบรวีวิทและสมชายก็หันไปมองหน้ากันก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเสียจนเจ้าบ่าวได้แต่นั่งงง ในหัวคิดแต่ว่ามันหัวเราะอะไรกันแต่ก็ยังไม่คิดจะถามให้ตัวเองดูฉลาดน้อยว่าพวกมันสองคนออกไปตอนนี้


    “รอไปจนเย็นเค้าก็ไม่ลงมาหรอกเฮีย”


    “หือ??”


    “เค้าไปบ้านเจ้าสาวกันตั้งแต่เมื่อเช้ามืดนู่นแล้ว!!



     

    พิธีตอนเช้าไม่มีอะไรมาก บ่าวสาวเพียงทำบุญเลี้ยงพระด้วยกันก่อนจะรอให้ถึงฤกษ์ตอนเจ็ดโมงครึ่งเพื่อแห่ขบวนขันหมากเท่านั้น  แขกเหรื่อที่มาในงานมีทั้งบรรดาราชนิกุลฝั่งของทางท่านชายตฤณกฤติและเหล่าคู่ค้าของท่านเจ้าสัว ทุกคนต่างก็พากันเข้ามาแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่เรื่อยๆ มือเรียวของคุณชายถูกกอบกุมเอาไว้ด้วยมือใหญ่ของเจ้าบ่าวตัวสูงตลอดเวลาแทบไม่ห่างไปไหนแม้แต่วินาทีเดียว


    เมื่อใกล้ฤกษ์ฆนากรจึงโดนพาตัวออกไปนอกวังโรจนรัตติกรอีกครั้ง ส่วนคุณชายก็ถูกพาไปนั่งรออยู่ที่ห้องนอนของตนเอง ดวงตากลมมองตามแผ่นหลังกว้างของว่าที่เจ้าบ่าวไปพลางคิดไปด้วยว่าอีกคนจะตื่นเต้นเหมือนที่เขาเป็นไหม เจ้าสาวตัวน้อยมือเย็นเฉียบเสียจนเพื่อนสนิทอย่างหม่อมหลวงจิณภัทรต้องลูบแผ่นหลังบางเบาๆเพื่อปลอบโยน


    “ใจเย็นๆก่อนคุณเจ้าสาว”


    ขบวนขันหมากถูกแห่เข้ามาในเขตของวังโรจนรัตติกรอย่างยิ่งใหญ่ ประตูเงินประตูทองถูกกั้นเอาไว้ด้วยบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนสนิททางฝั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ส่วนใหญ่ก็เป็นของทางฝั่งเจ้าสาว  มีเพียงประตูแรกสุดเท่านั้นที่สองทหารหนุ่มยืนถือเข็มขัดทองเส้นใหญ่กั้นเอาไว้


    รวีวีทยืนส่งยิ้มบางเบาไปให้เจ้าบ่าว ความจริงแล้วเขาควรจะไปช่วยทางฝั่งนั้นแบกข้าวของอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ในขบวน ถ้าไม่ติดว่าโดนสมชายลากมายืนอยู่ตรงนี้ก่อนแล้ว


    “เอามาสองซองเลยเฮีย ฝั่งละสองซอง”


    “เค้ากั้นกันเอาแค่คนละซองเท่านั้นแหละ”


    “ก็ผมจะเอาสอง” ยกนิ้วขึ้นมาสองนิ้วตามที่เอ่ยปากขอ ฆนากรส่ายหน้าแต่ก็หันไปบอกกับบิดาว่าให้ส่งซองแดงนี่ไปให้เพื่อนสนิทของตนสองซองอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ มัวเถียงกับไอ้สมชายเขาได้เจอหน้าเจ้าสาวคนสวยอีกทีตอนบ่ายแน่ๆ ประตูก็มีอีกตั้งเยอะ..


    “มึงล่ะ”


    “กูขอให้มึงตอบคำถามอะไรสักอย่างออกมาก็พอ” รวีวิทส่ายหน้าปฏิเสธซองเงินที่ท่านเจ้าสัวยื่นให้ ใบหน้าหล่อเหลาประดับไปด้วยรอยยิ้มแบบที่มีมาตั้งแต่เช้า เรียวปากบางขยับเป็นคำพูดแค่ไม่กี่พยางค์แต่กลับทำให้คนทั้งงานนิ่งงันรอฟังได้อย่างไม่ยาก


    “รักคุณหม่อมจริงๆใช่ไหม ถ้ารักก็ตะโกนดังๆให้ว่าที่เจ้าสาวมึงที่อยู่บนห้องได้ยินหน่อยสิ” ฆนากรหูเหอแดงไปหมดเพียงแค่เพื่อนขอให้ทำอะไรบางอย่าง ถามว่ามั่นใจในความรู้สึกของตนไหม เขามั่นใจตั้งแต่ที่หนีไปบินลาดตระเวนตอนนั้นแล้ว ต้องการหนีไปให้เขานึกถึงแต่กลับกลายเป็นคิดถึงเขาจนนับเวลากลับอยู่ทุกวี่ทุกวัน


    “คุณหม่อมครับ!! ผมรักคุณ!!


    ” เสียงทุ้มต่ำของนายทหารหนุ่มดังรอดเข้ามาในห้องนอนกว้างที่มีเจ้าสาวต้วน้อยนั่งอยู่ มือเรียวยกขึ้นกอบกุมแก้มนุ่มของตนเอาไว้แบบที่ชอบทำเวลาหน้าเห่อร้อน ตะโกนขึ้นมาแบบนี้สงสัยเจ้าบ่าวตัวสูงคงจะโดนแกล้งเข้าให้เสียแล้วล่ะสิ


    “แหม.. มีบอกรักกันด้วยเนอะ”


    “เงียบเลยนะจิณ” ตวัดดวงตาไปมองคาดโทษเพื่อนรักที่นั่งอยู่เป็นเพื่อน จิณภัทรยักไหล่ไม่ได้เกรงกลัวเท่าไหร่นักหรอกกับสายตาลูกแมวจอมขู่นั่น


    ถ้าเขาคิดจะกลัวนะ คงเป็นเพื่อนกับหม่อมราชวงศ์กันต์พิมุกต์มาไม่ได้นานขนาดนี้หรอก


    วางสินสอดทองหมั้นลงกับพื้นกระเบื้องเนื้อดีหน้าโซฟาตัวใหญ่เรียบร้อย ฆนากรก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตามหม่อมมารตีผู้เป็นมารดาของคนรักขึ้นมายังห้องนอนใหญ่ที่ภายในมีใครบางคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว แม้จะได้เจอกันเมื่อเช้าหนหนึ่งแล้ว แต่ฆนากรก็อดจะตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เจอหน้าเจ้าสาวตัวน้อยของเขาไม่ได้


    วันนี้คุณชายน่ารักมาก มากเสียจนเขารู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้คนที่งามเพียบพร้อมเยี่ยงนี้มาเป็นศรีภรรยา


    “แบมลูก คุณฆนากรมารับแล้ว”


    ประตูบานหนาถูกเปิดออกด้วยแรงของหม่อมหลวงจิณภัทร ดวงหน้าหวานสวยเงยขึ้นมองใบหน้าของคนตรงหน้าก่อนจะยกยิ้มบางเบาที่ริมฝีปากไปให้ ฆนากรยื่นมือไปเบื้องหน้าของตนรอคอยให้อีกคนวางมือของตนลงซึ่งกันต์พิมุกต์ก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง มือเรียวสวยข้างซ้ายที่วันนี้ไม่มีแหวนทองเหลือประดับเอาไว้ที่นิ้วเรียวแล้ววางลงบนมือใหญ่ของเจ้าบ่าวตัวสูง


    มาร์คกระชับมือน้อยแน่นพร้อมกับจับจูงว่าที่ภรรยาให้เดินตามกันลงไปด้านล่างเพื่อเริ่มพิธีต่อไปเสียที


    สินสอดทองหมั้นถูกจัดมาอย่างสมเกียรติอย่างที่ท่านเจ้าสัวกล่าวเอาไว้เมื่อวันที่มาสู่ขอ จะว่าไปมันออกจะดูเยอะเกินไปสำหรับงานแต่งงานเสียด้วยซ้ำ คู่บ่าวสาวสวมแหวนให้กันต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่ง แหวนแต่งงานประดับเพชรเม็ดเล็กถูกสวมเข้าที่นิ้วเรียวสวยราวกับลำเทียน กันต์พิมุกต์ยกมือขึ้นไว้คนที่สวมให้อย่างนอบน้อม ก่อนจะหยิบแหวนเรียบๆวงหนึ่งในกองขันหมากขึ้นมาสวมกลับไปให้บนนิ้วยาวเรียวของอีกคน


    พิธีแต่งงานผ่านไปอย่างชื่นมื่น เจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกพามานั่งที่โต๊ะสำหรับรดน้ำสังข์ ภาพของคนทั้งสองที่นั่งอยู่เคียงกันถูกช่างภาพฝีมือดีที่ฆนรุจเป็นฝ่ายติดต่อมาให้บันทึกเอาไว้เสียจนครบถ้วน


    “อยู่กันด้วยความเข้าใจนะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะ” ท่านชายตฤณกฤติรดน้ำสังข์ลงที่มือเรียวของลูกรักก่อน ใบหน้าอ่อนเยาว์ของหม่อมราชวงศ์กันต์พิมุกต์ประดับไปด้วยรอยยิ้มทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกผิดน้อยลงมาบ้าง อย่างน้อยลูกก็ไม่ร้องไห้ในวันแต่งงานล่ะนะ


    “ผมฝากลูกชายผมด้วยนะครับคุณฆนากร”


    “หม่อมฉันให้คำสัตย์ว่าจะดูแลคุณชายด้วยชีวิตของหม่อมฉันกระหม่อม” ท่านชายหยักหน้ารับ พร้อมกับเดินกลับไปส่งคืนสังข์ที่ได้รับมาและเวียนให้แขกผู้ใหญ่คนอื่นๆได้ขึ้นมารดน้ำสังข์ให้บ่าวสาวบ้าง ตลอดพิธีฆนากรและเจ้าสาวของเขาได้รับคำอวยพรมากมาย ทั้งบอกให้อยู่กันดีๆ อภัยให้กัน เปิดใจให้กัน รวมถึงเรื่องมีทายาท ใบหน้าหวานของคุณหม่อมตัวน้อยเห่อร้อนอย่างน่ารักหลังจากได้รับคำอวยพรอย่างนั้น


    ฆนากรนึกอยากจะกระซิบที่ข้างหูน้อยๆนั่นเหลือเกินว่าเขาพร้อมเสมอ


    ถ้าคุณหม่อมอยากมีเมื่อไหร่ก็ขอแค่ให้บอกกัน


    เขารับรองได้เลยว่าไม่มีทางจะทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน


    หลังจากรดน้ำสังข์กันเสร็จเจ้าหน้าที่จากอำเภอก็ถูกเรียกมาให้มาทำหน้าที่ พอถึงตรงนี้หม่อมราชวงศ์กันต์พิมุกต์กลับรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างไรไม่รู้ หัวใจดวงน้อยวูบโหวงเพียงแค่ได้เห็นใบคำขอจดทะเบียนสมรสตรงหน้า หากเอกสารสำคัญนี้มีทั้งลายเซ็นของเขา ลายเซ็นของฆนากร และลายเซ็นของนายอำเภอทุกอย่างก็จะเสร็จเรียบร้อย


    หลังจากวันนี้จะไม่มีหม่อมราชวงศ์กันต์พิมุกต์ โรจนรัตติกรอีกแล้ว จะหลงเหลือก็เพียงแค่ นายกันต์พิมุกต์ วิรุฬห์ธนกิจเท่านั้น


    ดวงตากลมเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ฆนากรรวบมือน้อยของเจ้าสาวตัวบางมากุมเอาไว้ ดวงตาคมจ้องผ่านม่านน้ำตาของอีกคนเข้าไป เขาเข้าใจดีว่าคุณหม่อมคงใจหายและเสียใจไม่น้อยกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น


    “ผมสัญญาว่าต่อจากนี้ไปผมจะทำให้คุณมีความสุขที่สุด”



    “สิ่งเดียวที่ผมรักษาเอาไว้ให้คุณไม่ได้คือยศนำหน้าชื่อเท่านั้น..


    ฮึก..” ร่างน้อยสะอื้นเสียจนตัวโยน แขกเหรื่อทั้งหลายที่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าดีก็ได้แต่เฝ้ามองร่างบางพลางส่งกำลังใจไปให้ รวมถึงท่านชายตฤณกฤติด้วย หัวใจของท่านเจ็บปวดไม่ได้ต่างอะไรจากลูกชายเลย มาได้เห็นว่าคุณชายตัวน้อยจะต้องถูกถอดยศกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาแบบนี้ ท่านเองก็เสียพระทัยไม่น้อย หม่อมมารตรีลูบแขนแกร่งของพระสวามีเบาๆ


    อย่างไรก็คงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว


    “ไว้ใจผมนะครับ ไว้ใจผมนะคนดี” ร่างน้อยของหม่อมผู้สูงศักดิ์ถูกดึงเข้ามากอดเอาไว้แน่น คุณชายตัวเล็กซบใบหน้าลงกับอกแกร่งของอีกคนจนแทบจะจมหายไปกับมัน ใบหน้าหวานพยักรับคำของอีกคนอย่างจำยอม มือเรียวรับปากกาจากคุณเจ้าหน้าที่มาถือเอาไว้ ช้อนดวงตากลมมองท่านพ่อที่ประทับอยู่บนโซฟาไม่ไกลกันนักเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะจรดปากกาลงไปบนกระดาษเพื่อเซ็นชื่อและยอมรับการถูกถอดยศอย่างเป็นทางการ


    ฆนากรเซ็นลงไปในช่องที่ว่างเอาไว้สำหรับตนหลังจากที่เจ้าสาวของเขาเซ็นในส่วนของตัวเองลงไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนยกเอกสารสำคัญของทั้งคู่ขึ้นในระดับสายตา ระบายยิ้มออกเพื่อแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่อย่างจริงใจ


    “ยินดีด้วยนะครับ จากนี้ต่อไปคุณสองคนคือสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของกันและกันแล้ว..

     



    ร่างบอบบางยืนชิดอยู่ที่ริมหน้าต่างในห้องนอนของตน ผมนุ่มสลวยปลิวไปตามแรงลมฤดูหนาวที่พัดมาตลอดทั้งวัน ดวงตากลมเหม่อมองออกไปไกลแสนไกล ช่างเป็นภาพที่ดูเด็ดเดี่ยวเสียเหลือเกิน


    อ้อมแขนอบอุ่นของเจ้าบ่าวที่ก้าวเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้โอบกระชับร่างน้อยให้อิงแอบเข้าหาอกกว้างสมชายชาติทหารของตน มือใหญ่ลูบเรือนผมนิ่มอย่างแผ่วเบา ฆนากรระบายยิ้มให้กับภรรยาคนสวยในอ้อมกอด กันต์พิมุกต์ไม่ได้ขัดขืนอะไร เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ผิด ในเวลานี้ฆนากรได้ชื่อว่าเป็นสามีของเขาแล้ว เป็นสามีที่ถูกต้องตามกฏหมายอย่างครบถ้วน


    หากคนเป็นสามีจะอยากกอดภรรยาบ้างก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร


    “ขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน แต่ผมว่าคุณคงจะอุ่นกว่าถ้าได้อยู่ในอ้อมกอดของผมแบบนี้”


    “มะ ไม่เป็นไร” อ้อมแอ้มตอบเจ้าของอ้อมแขนกว้างออกไปเสียงเบา


    “ผมรู้สึกผิดที่ทำให้คุณถูกถอดยศแบบนี้”



    “แต่ผมไม่เสียใจเลยที่ผมได้คุณมาเป็นภรรยา” มือใหญ่กระชับต้นแขนบางของคนในอ้อมกอดเบาๆ เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกไปในขณะที่ดวงตาคู่สวยก็จับจ้องเข้าไปในดวงตากลมของภรรยาตัวน้อยตลอดการพูด



    “ขอโทษที่รักษายศของคุณเอาไว้ให้ไม่ได้ แต่คุณหม่อม คุณคือคุณหม่อมของผมตลอดไปนะครับ”


    ” มันเป็นดวงตาที่ทำให้ความหนาวเย็นและเจ็บปวดในหัวใจสลายหายไป


    “ไม่ว่าตอนนี้คุณจะเป็นคุณชายหรือเป็นคนธรรมดาที่ไม่มียศศักดิ์ แต่คุณก็เป็นเจ้าสาวบรรดาศักดิ์ของผมเสมอ”


    ..ขอบคุณ ขอบคุณนะครับ” และดวงตาคู่นั้นก็มอบความอบอุ่นเข้ามาสู่หัวใจดวงนี้ได้อย่างไม่ต้องทำอะไรเลย..


    “อย่าเสียใจกับการแต่งงานของเราเลยนะครับ” ภรรยาตัวน้อยพลิกตัวหันหน้าเข้าหากายแกร่งของอีกคนเบาๆ มือเรียวโอบกระชับตอบร่างสูงของคุณทหารพร้อมกับแนบใบหน้าลงกับหน้าอกตำแหน่งที่ภายใจมีหัวใจดวงน้อยกำลังเต้นอยู่ เมื่อได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้ แบมแบมก็ได้รู้ว่าหัวใจของเขาทั้งสองคนมันเต้นแรงไม่ได้ต่างกันเลย


    “ยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเสียใจ..



    “รับปากว่าจะแต่งงานกับเค้าไปแล้วจะเสียใจทำไม ผมก็แค่ใจหายที่ต้องเปลี่ยนนามสกุลก็เท่านั้นแหละน่า..

     


    ฆนากรได้รู้ซึ้งก็วันนี้แหละว่าคุณหม่อมของเขาไม่ใช่แค่น่ารัก

    แต่น่ารักมากๆเลยต่างหาก..

     


    “คิดไปเองเรื่อยเปื่อยจริงๆเลยคุณสามี..







    TALK

    งานฉลองตอนกลางคืนไม่มีนะคะ งบหมด 555555555

    แต่เดี๋ยวพี่เขาก็มาคุณภรรยาไปบ้านแน่นอนค่ะ รอฉากเข้าหอกันอยู่ล่ะสิ 5555 ยังหรอกกก เค้ายังไม่ผลิตน้องกันเร็วๆนี้หรอกกก 

    ไปหวีดความหวานของคุณสามีและคุณภรรยากันได้ที่ #จสบดศ เหมือนเดิมนะคะ เรารออ่านอยู่ 5555

    คำผิดมีไหมไม่รู้นะเพราะยังไม่ได้ตรวจ -O- 5555 ด้วยรักนะคะคนดี ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×