คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ ๗
ลงครั้งแรก 4 กรกฎาคม 2559
๗
ร่างบอบบางในชุดที่ดูสบายตัวกว่าเมื่อเช้าเดินตามแผ่นหลังกว้างของคนเป็นสามีไปช้าๆ
ดวงหน้าหวานที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของชายหนุ่มเจ้าของบ้านประดับด้วยเหงื่อเม็ดเล็กที่ผุดออกมาด้วยความประหม่า
มือเรียวสวยแสนเย็นเฉียบกระชับจับกันเอาไว้แน่น เรียวปากสีสดขบเม้มเข้าหากันอย่างเคยตัว
ฆนากรขับรถไปรับอดีตคุณชายตัวน้อยที่วังหลังจากที่ให้เวลาคุณหม่อมภรรยาเก็บข้าวเก็บของเตรียมย้ายเข้ามาอยู่บ้านของเขาเสียหลายชั่วโมง
เรียวขายาวหยุดลงเมื่อพาร่างของตนและภรรยาคนสวยเดินมาจนถึงห้องโถงรับรองแขกแล้ว
เจ้าสัวชญตว์นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สักตัวใหญ่โดยมีคุณนายนวลอยู่ข้างกาย
ถัดจากนั้นไปก็เป็นบุตรชายคนเล็กของวิรุฬห์ธนกิจกับว่าที่ภรรยาของเขา
มือใหญ่แตะเข้าที่แขนเล็กของภรรยาอย่างแผ่วเบาเพื่อให้ร่างบางขยับตัวเดินขึ้นมาอยู่เคียงข้างกันหลังจากที่แอบอยู่ด้านหลังของเขาราวกับเด็กน้อยที่กำลังเล่นซ่อนแอบมาตั้งแต่ก้าวเข้าสู่บ้านหลังใหญ่
เรียวปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางเบาส่งไปให้กับทุกคนพร้อมกับยกมือขึ้นกระพุ่มไหว้อย่างนอบน้อม
ท่านเจ้าสัวและคุณนายยกมือขึ้นรับไหว้ลูกสะใภ้ตัวน้อยก่อนที่ร่างบอบบางของคุณนายนวลจะลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วอ้าแขนออกราวกับรอให้ลูกสะใภ้คนโตเดินเข้าไปสู่อ้อมแขนของเธอ
กันต์พิมุกต์ดูลังเลใจเสียจนไม่กล้าจะเดินเข้าไปหาคุณนายที่ยืนรออยู่
ทำให้ฆนากรที่อยู่ข้างกันต้องก้มลงกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา “ไปสิครับ
คุณแม่ผมท่านใจดี”
เรียวขายาวค่อยๆก้าวเดินไปด้านหน้าอย่างระแวดระวัง
ดวงตากลมโตช้อนมองใบหน้าหวานสวยของหญิงสาวตรงหน้าที่ยังดูไม่แก่เลยสักนิดทั้งๆที่ลูกชายคนโตของเธอจวนจะอายุเข้าเลข
3 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้แล้ว
ความอบอุ่นอย่างน่าประหลาดจากอ้อมแขนของแม่สามีทำให้แบมแบมลดความเกร็งและความหวาดกลัวลงไปได้บ้าง
ก่อนหน้าที่จะมาบ้านหลังนี้เขาก็กังวลอะไรไปมากมาย
คิดไปเรื่อยว่าฝั่งครอบครัวของฆนากรจะชอบตนไหม
จะรังเกียจกันหรือเปล่าที่คุณชายเป็นเพียงเจ้าสาวที่ได้มาตามสนธิสัญญาของทั้งสองตระกูลเท่านั้น
แต่ในวันนี้ความกังวลและความกลัวทั้งหลายมันกำลังถูกทำลายไปเพียงเพราะอ้อมแขนที่เหมือนเป็นการต้อนรับสมาชิกคนใหม่ของบ้านจากคุณนายตรงหน้านี้
ฆนากรยกยิ้มให้กับเด็กน้อยของเขาที่ตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรจากเด็กตัวเล็กกำลังซุกเข้าหาอ้อมอกของผู้เป็นแม่หลังจากที่เธอไปรับกลับมาจากโรงเรียน
“ยินดีต้อนรับนะลูก..”
“…”
“ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรานะคะ”
ใบหน้าหวานพยักรับคำของคุณแม่สามีด้วยหัวใจที่อบอุ่นตามร่างกายไป
หางตาของเขาชื้นขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความตื้นตัน
แขนเรียวขยับไปกอดตอบหญิงสาวอย่างแผ่วเบา
ซึ่งคุณนายนวลก็เต็มใจเหลือเกินที่จะน้อมรับอ้อมกอดตอบกลับจากสะใภ้คนโตของเธอ
“คุณมาร์คคะ ส่งกระเป๋ามาให้ป้าเถอะค่ะ”
“อ่อ ครับ”ฆนากรที่มัวดูภาพตรงหน้าเพลินๆส่งมอบกระเป๋าเสื้อผ้าใบไม่ใหญ่มากของภรรยาไปให้กับแม่บ้านคนสนิท
เธอรับมันไปก่อนจะหายขึ้นชั้นสองไปอย่างรวดเร็ว
ถ้าให้เดาก็คงจะเอาไปจัดเรียงไว้ให้ในอีกฝั่งหนึ่งของตู้เสื้อผ้าในห้องนอนของเขานั่นแหละ
“พอแล้วดีไหมครับแม่ มานี่เถอะครับคุณหม่อม”
“หึ.. ตาเด็กขี้หวงเอ๊ย!!” แก้มนวลขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารักจากคำพูดของแม่สามี
ร่างน้อยเดินเตาะแตะเข้าไปหาสามีตัวสูงที่นั่งลงบนเก้าอี้ไม้สักอีกตัวหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว
มือใหญ่แตะลงที่ที่ว่างข้างกายราวกับบอกตำแหน่งที่คุณชายตัวน้อยควรจะไปทิ้งตัวลงนั่งแล้วคุยเรื่องที่เป็นสาเหตุให้ทุกคนต้องมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อเย็นเสียที
ก็คงจะไม่แคล้วเรื่องตอนรับสมาชิกคนใหม่ของบ้านนั่นแหละ
“สวัสดีครับพี่สะใภ้
ผมฆนรุจนะครับหรือจะเรียกว่าโจอี้ก็ได้”
โจอี้ยกมือขึ้นกระพุ่มไว้พี่สะใภ้ของตนด้วยอาการเกร็งเสียจนฆนากรนึกอยากจะเอ่ยล้อเจ้าน้องชายตัวดีออกมานัก
เรียวปากสีสดของคนถูกเรียกว่าพี่สะใภ้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มแสนใจดีส่งไปให้น้องชายของฆนากรเสียจนฆนรุจถึงกับเสียการทรงตัว
เขาก็เพิ่งจะรู้สึกในวันนี้ที่ได้มองพี่สะใภ้คนสวยใกล้ๆขนาดนี้นี่แหละว่าไม่น่ารีบหมั้นไปเลยจริงๆ!!
เขาพลาดมาก!
พลาดอย่างชนิดที่จะไม่มีวันให้อภัยความพลาดนี้ของตนเองเลย
งามหมดจดอย่างที่คนเขาลือกันไปทั่วพระนครจริงๆ
“ไม่ต้องเกร็งหรอกครับคุณฆนรุจ”
จะไม่ให้เกร็งอย่างไรไหว
คนที่กำลังคุยด้วยนี่เป็นถึงลูกเจ้าลูกนาย
ถ้าจะมองแค่ยศตัวคุณหม่อมเองก็ยังไม่ถือว่าไกลกันเท่าไหร่นัก
แต่พอมองไปถึงพ่อของคนตัวเล็กแล้วท่านตฤณก็เป็นถึงหม่อมเจ้า และถ้าย้อนกลับถัดจากนั้นขึ้นไปอีกเสด็จพ่อของท่านตฤณหรือปู่ของคุณชายก็เป็นถึงพระองค์เจ้า
ขืนทะเล่อทะล่าทำอะไรผิดไป หัวของเขาจะไม่ต้องกระเด้งหลุดออกไปจากบ่าหรอกหรือ
แค่คิดฆนรุจก็ขนลุกแล้ว..
“ตอนนี้ผมเป็นแค่พี่สะใภ้ของคุณเท่านั้น ไม่ต้องไปคิดถึงยศหม่อมราชวงศ์ที่ผมเคยมีหรอกครับ”
เอ่ยปลอบด้วยรอยยิ้ม ฆนรุจพยักหน้ารับตามแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เลิกเกร็งอยู่ดี
กันต์พิมุกต์ส่ายหน้ายิ้มๆให้กับการกระทำน่ารักๆนั่น
หากอีกคนเป็นเอาขนาดนี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรแล้ว
จะทำอะไรก็แล้วแต่ใจของคุณฆนรุจเธอก็แล้วกัน
ให้เวลาผ่านไปสักพักเดี๋ยวอาการเกร็งพวกนี้ก็คงจะหายไปเอง
แบมแบมคิดว่าอย่างนั้น
แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้ว่าที่ว่านั่นน่ะต้องใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่
อาจจะสักเดือนสองเดือน หรือไม่ก็อาจจะต้องเป็นปีไปเลย
“คุณชายงามจังค่ะ งามอย่างที่คนเขาล่ำลือกันจริงๆ”เดือนดาราที่นั่งอยู่ข้างคู่หมั้นของตนเอ่ยชมขึ้นมาบ้างซึ่งคุณชายก็เพียงแค่ตอบกลับไปเสียงเบาว่าขอบคุณ
วันนี้เขาเหนื่อยเหลือเกิน เวลานอนก็น้อยแสนน้อย งานแต่งก็มีเกือบจะทั้งวัน
ลากยาวตั้งแต่ตีสี่มาจนถึงตอนนี้อดีตหม่อมราชวงศ์ยังไม่ได้งีบหลับเลยสักงีบนึง
เปลือกตาที่เริ่มหนักขึ้นทำให้ดวงตาคู่สวยดูปรือๆลงอย่างห้ามไม่ได้
ฆนากรที่เห็นทุกอย่างได้ชัดเจนจึงต้องเอ่ยตัดบทสนทนาของทุกคนและพาภรรยาตัวน้อยของเขาขึ้นไปพักผ่อนเสียที
“พักผ่อนก็ให้พักผ่อนจริงๆนะตามาร์ค
สงสารคุณหม่อมเธอหน่อยตัวหรือก็มีเท่านี้ จะทำอะไรก็อย่าให้มันหนักมากนัก”
นับว่าเป็นโชคดีอยู่ไม่น้อยที่คุณหม่อมตัวน้อยเผลอหลับพิงไหล่ของเขาไปแล้วเลยไม่ต้องมาได้ฟังถ้อยคำหยอกล้อของคุณนายนวลผู้เป็นแม่ของเขา
ชายหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ
ไอ้อยากจะทำน่ะมันก็อยากอยู่หรอก
แต่ถ้าจะให้ทำทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ตกลงใจหรือทำทั้งที่หลับใหลไม่รู้เรื่องอย่างนี้
ฆนากรก็ทำไม่ลง เขาอยากให้คุณหม่อมเปิดใจให้กันก่อน อย่างน้อยก็อยากให้อีกฝ่ายมีความสุขไปด้วยกัน
ไม่ใช่ไปข่มเหงเขาเพียงเพราะเรามีทะเบียนสมรสอย่างนี้
ฆนากรช้อนร่างน้อยขึ้นมาแนบอกก่อนจะก้าวเท้าเดินไปยังห้องนอนของตน
มือใหญ่ค่อยๆวางร่างน้อยของภรรยาที่ดูเหนื่อยอ่อนจากงานวิวาห์มาทั้งวันลงบนที่นอนกว้าง
ใบหน้าหวานสวยของคุณหม่อมยังคงเหมือนเดิมกับที่เขาหลงรักในวันแรก
ชายหนุ่มผู้มักมีรอยยิ้มประดับอยู่ที่ริมฝีปากเสมอ
มันเป็นรอยยิ้มที่ฆนากรคิดว่าช่างสดใสกว่าดอกไม้ดอกใดบนโลกนี้
นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมนุ่มที่ร่วงลงมาจนเกือบจะถึงดวงตาคู่สวยไปทัดหูเอาไว้ให้
ดวงหน้าหวานดูอิดโรยเสียจนเขาได้แต่สงสาร นายทหารหนุ่มเองก็เหนื่อยไม่น้อยกับงานใหญ่ที่เกิดขึ้น
แล้วจะไปนับประสาอะไรกับราชนิกุลร่างบาง อดทนมาจนถึงตอนนี้ได้ก็เก่งมากแล้ว
จมูกโด่งรั้นถือวิสาสะกดลงที่ข้างแก้มนุ่มอย่างแผ่วเบา
หัวใจดวงน้อยที่เคยปิดตายมาตลอดหลายปีกับความเจ็บปวดกลับมาเต้นแรงเพียงเพราะร่างน้อยตรงหน้านี้
เขายอมคุณหม่อมแล้วจริงๆ
ยอมให้ทั้งตัวทั้งหัวใจเลย
ฆนากรลุกขึ้นยืนเสียจนเต็มความสูงหลังจากที่จัดให้ภรรยานอนได้อย่างสบายตัวแล้ว
กายโปร่งหายเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่ถูกชุบเสียจนชุ่ม
มือใหญ่ลากผ้าผืนน้อยไปตามโครงหน้าหวานอย่างอ่อนโยน หากให้หลับไปแบบนี้คงจะไม่สบายตัวเท่าไหร่นักหรอก
“อะ อื้อ”
เสียงหวานครางแผ่วในลำคอพลางปัดป่ายมือไปทั่วเหมือนต้องการเอาความเย็นที่แนบผ่านลำคอขาวผ่องออกไป
“ผมแค่เช็ดตัวให้เอง อดทนหน่อยครับ”
“ฮื่อ..”
ริมฝีปากสีสดเผยอออกเล็กน้อยพร้อมกับยังไม่หยุดครางออกมา ฆนากรกำมือของตนแน่น
สงสัยเขาควรจะต้องหยุดการเช็ดตัวเอาไว้เพียงเท่านี้
เพราะไม่อย่างนั้นคุณหม่อมคนดีคงไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างที่ต้องการแน่
นายทหารแห่งกองทัพอากาศกำลังจะเดินหลบออกไปจากเตียงกว้างถ้าไม่ติดว่ามือน้อยของใครบางคนคว้าหมับเข้าที่แขนแกร่งเสียก่อน
คนง่วงนอนปรือตามองคุณสามีที่ไม่รู้ว่าเผลอปากเรียกเขาว่าคุณสามีออกไปได้ยังไง
ริมฝีปากคู่สวยขยับไปมาเบาๆเป็นคำพูด
“จะไปไหนหรือครับ??”
“ผะ ผมจะไปอาบน้ำ ใช่! อาบน้ำครับ!!”
“หือ..
ไหนบอกว่าเพิ่งอาบก่อนออกไปรับผมไง?”
เอียงคอมองเสียจนคอเสื้อเชิ๊ตที่ถูกปลดกระดุมเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเช็ดตัวตกลงไปที่ข้างลำแขนเสียจนเป็นการอวดไหปราล้ากดลึกและหัวไหล่กลมกลึงออกมาอย่างไม่ตั้งใจ
ฆนากรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
แม้จะเป็นสุภาพบุรุษขนาดไหนเขาก็ยังเป็นผู้ชาย
รู้ดีว่าคุณหม่อมไม่ได้ตั้งใจ
แต่ในหัวเขามันจินตนาการไปจนถึงไหนต่อไหนแล้ว ช่วงไหล่ยังขาวผ่องอมชมพูขนาดนี้
ฆนากรอดคิดไปถึงส่วนอื่นไม่ได้หรอกว่าจะขาวและนุ่มมือขนาดไหน
โว้ยยย!! อาบน้ำ ต้องไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย!!
“ร้อนครับ มันร้อนเลยว่าจะไปอาบอีกสักที..”
“อาบน้ำตอนดึกๆในหน้าหนาวเดี๋ยวเป็นหวัดนะครับ”
เป็นหวัดก็ยอมครับ
ฆนากรยอมให้ตัวเองป่วยดีกว่าทำให้ภรรยาตัวน้อยป่วยเสียจนลุกไปไหนไม่ได้ในวันพรุ่งนี้
ชายชาติทหารพยายามข่มใจของตัวเองแต่สัมผัสนุ่มที่แขนนี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้เลย
ไม่หนำซ้ำมันกลับขัดขวางการข่มใจของเขาอีกด้วย
คุณหม่อมยังไม่พร้อม คุณหม่อมยังพร้อม
จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับการสะกดจิตตัวเองอย่างไรไม่รู้
ปากก็พึมพำออกมาเสียงเบา มือก็ลูบหน้าของตนแรงๆ
ฆนากรไม่อยากให้คุณหม่อมมองกันไม่ดี
เขาไม่อยากรังแกอีกคนตอนที่ยังไม่รู้สึกตัวแบบนี้
แต่เขาก็ตื่นแล้วนะ.. ไม่สิเว้ยย!! เธอแค่กำลังง่วงเลยอ้อนไปทั่วก็เท่านั้น
“ร้อนมากหรือครับ เหงื่อเต็มเลย”
ชี้นิ้วไปที่หน้าผากแคบของอีกคนที่ตอนนี้มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมามากมาย
ฆนากรรีบพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆตอบคำถาม คุณหม่อมรั้งคอเสื้อเชิ้ตของตัวเองขึ้นแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนของเขาอยู่ดีแถมยังจะมาช้อนตามองหน้ากันอย่างนี้อีก
ดวงตากลมปรือน้ำตาอย่างนั้นมันช่างยั่วยวนได้เสียยิ่งกว่าอะไรบนโลกนี้
และพอประกอบไปกับริมฝีปากแดงฉ่ำเพราะถูกขบเม้มแทบจะตลอดเวลานั่นอีก
ฆนากรกำลังจะตบะแตกแล้วจริงๆให้ตายสิ!
“ระ ร้อนมากเลยครับ”
“งั้นไปอาบน้ำแล้วรีบมานอนนะครับ”
“…”
“ผมแบ่งเตียงให้คุณครึ่งหนึ่งก็แล้วกัน
ไหนๆนี่ก็ห้องของคุณ” เอ่ยจบก็ยอมละฝ่ามือออกจากแขนแกร่งของผู้เป็นสามี
ร่างน้อยพลิกตัวกลิ้งไปอีกฝั่งของเตียงเพื่อเว้นที่ให้กับเจ้าของห้องที่อยากจะไปอาบน้ำอีกสักรอบค่อยกลับมานอน
ชายเสื้อเลิกขึ้นไปเสียจนเผยแผ่นหลังบางอย่างไม่ตั้งใจ
นายทหารหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ
คืนนี้เขาจะต้องเข้าๆออกๆห้องน้ำไปอาบน้ำอีกกี่รอบกัน!
“เต้นช้าๆหน่อยสิวะไอ้หัวใจบ้านี่!!
ฆนากรกำลังคิดอยู่ว่าระหว่างก้นหม้อกับขอบตาของเขาอะไรมันดำกว่ากัน
“ตื่นได้แล้วค่ะคุณมาร์ค
คุณหม่อมลงไปทำอาหารเช้าเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ”
แม่บ้านคนสนิทเดินเข้ามาส่งเสียงเรียกอยู่ที่ข้างเตียงของคุณหนูคนโตของบ้าน
ฆนากรลุกขึ้นจากเตียงด้วยสภาพที่ไม่ได้ต่างอะไรจากซากศพ
ขอบตาช้ำเล็กน้อยจากการที่นอนเบิกตาโพลงมาเกือบจะทั้งคืน
เขานึกอยากจะบอกคุณแม่บ้านนักว่าเขารู้แล้วว่าภรรยาตัวน้อยลุกจากที่นอนตอนหกโมงเช้า
เข้าไปอาบน้ำสักพักหนึ่ง แต่งตัวอย่างรวดเร็วและลงไปทำอาหารที่ด้านล่าง
ฆนากรบอกได้ด้วยซ้ำว่าคุณหม่อมทำทุกอย่างเสร็จตั้งแต่ตอนหกโมงครึ่งแล้ว
รู้ทั้งหมดนั่นแหละเพราะตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถข่มตาหลับลงไปได้เลย
ดีหน่อยที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด
ไม่อย่างนั้นเขาเองก็ไม่อยากจะคิดว่าจะหอบสังขารสภาพนี้ไปทำงานได้ไหม
“ห้องนอนแขกว่างไหมครับป้าพิมพ์”
“คะ?” หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วด้วยความฉงน
“ไม่ครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ”
ผมอยากนอนห้องนอนแขกครับ
อยากจะตอบออกไปแบบนั้นแต่ก็ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธไปว่าตนไม่ได้มีอะไร
ฆนากรไม่คิดว่าการนอนร่วมห้องกันมันจะปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว
ไม่คุณหม่อมก็เขาต้องได้มีใครสักคนที่อ่อนเพลียเสียจนไม่อยากจะลุกจากเตียงไปทำอะไรแน่ๆ
ซึ่งคิดไปคิดมาก็ได้คำตอบว่าคงจะเป็นเขานี่แหละ
อ่อนเพลียเพราะไม่ได้นอนเนี่ย!!
“แปลกคนเสียจริงคุณฆนากร”
อาหารหน้าตาแปลกๆบนโต๊ะอาหารเรียกความสนใจจากบรรดาสมาชิกในบ้านแต่ละคนได้เป็นอย่างดี
ร่างน้อยที่วันนี้ตื่นนอนแต่เช้าได้อย่างปกติเพราะเมื่อคืนได้นอนหลับเต็มอิ่มเป็นคนลงมือทำอาหารทั้งหมดด้วยตนเองเพราะบรรดาสาวใช้ในครัวต่างก็ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่มีใครทำเมนูพวกนี้เป็น
พวกเธอจึงเป็นได้แค่ลูกมือคอยหั่นผักหั่นหมูหยิบนู่นหยิบนี้ให้เท่านั้น
“อาหารหน้าตาน่าทานจังเลยลูก”
“คุณแม่นั่งเลยครับเดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง”
สะใภ้คนโตเอ่ยกับคุณแม่สามีด้วยรอยยิ้ม
คุณนายนวลหยักหน้าตกลงก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำของตนที่ตอนนี้มีจานชามถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ไม่นานท่านเจ้าสัวและลูกชายคนเล็กก็เดินมาจนถึงโต๊ะอาหาร
อดีตคุณชายตัวน้อยขมวดคิ้วมุ่น บนโต๊ะนี่ขาดเพียงคนเดียวก็คือสามีของเขาเท่านั้น
เมื่อคืนก็เห็นไปอาบน้ำแล้วก็กลับมานอนหลับอยู่ข้างๆกัน
แถมยังนอนปุ๊บหลับปั๊บอีกด้วย แล้วทำไมเช้านี้ถึงได้ตื่นสายนัก
“เดี๋ยวผมไปตามคุณฆนากร..”
“ผมมาแล้วครับ”
ร่างโปร่งในชุดเสื้อโปโลสบายตัวกับกางเกงแค่เข่าเดินลงมาจากชั้นบนด้วยใบหน้าอ่อนเพลียเสียจนจับสังเกตได้
คุณชายทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งถัดจากตัวที่ว่างเอาไว้เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรที่ตนต้องทำอีกแล้ว
ฆนากรตวัดดวงตาไปมองน้องชายที่ส่งสายตาล้อเลียนมาให้ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น
‘เงียบเลย’
ขยับปากออกไปแบบไร้เสียงให้คนเป็นน้องนั่งกินข้าวดีๆไปแล้วเลิกล้อเลียนเขาสักที
รอให้ถึงคราวของตัวเองก่อนเถอะ
พ่อจะล้อยันลูกบวชเลย
“เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหมลูก คุณหม่อม”
“สบายครับคุณแม่”
ใช่สิ..
สบายมากเสียจนทำให้คนอื่นไม่ได้นอนเลย
“ตามาร์คไม่ได้ลุ่มล่ามอะไรกับหนูใช่ไหม”
“ไม่เลยครับ”ตอบออกไปด้วยรอยยิ้มสดใสประหนึ่งดอกทานตะวันที่ส่งยิ้มต้อนรับพระอาทิตย์ในเช้าวันใหม่
ฆนากรได้แต่ส่งยิ้มแหยๆไปให้ผู้เป็นมารดา
เกือบแล้วเหมือนกันนั่นแหละ
แต่ไม่ใช่แค่เกือบลุ่มล่ามหรอกนะ เกือบล่วงเกินไปแล้วด้วยซ้ำ..
“ดีแล้วลูก ชื่นตักข่าวเถอะ ฉันหิวแล้ว”
“ค่ะ คุณนาย”
เด็กรับใช้วัยเกือบยี่สิบปีขานรับพร้อมกับยกโถข้าวขึ้นมาตักข้าวใส่จานให้กับคุณๆในบ้านเสียจนครบทุกคน
บรรยากาศการรับประทานอาหารเช้าในวันนี้ดูเป็นกันเองและอบอุ่นมากกว่าทุกวันเมื่อได้มีลูกสะใภ้คนโตของบ้านมานั่งทางด้วยแบบนี้
เสียงพูดคุยกันดังขึ้นบ้างเป็นระยะๆ
ส่วนมากก็แค่ถามนั่นแหละว่าเมนูชาววังอันนี้เรียกว่าอะไร หรือไม่ก็เอ่ยชมเปาะว่าลูกสะใภ้ของบ้านทำอาหารได้อร่อยเหลือเกิน
ฆนากรยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงเท่าที่ร่างกายจะเอื้ออำนวยด้วยความภาคภูมิใจในตัวของภรรยา
เขาได้เห็นคุณหม่อมเข้ากันกับที่บ้านได้ดีขนาดนี้ก็สบายใจ
“ทานเยอะๆนะลูก
ร่างกายหนูจะได้แข็งแรงมีหลานให้แม่ไวๆ”
“แค่ก แค่ก!!”
แทนที่คนเขินอายจะเป็นคุณหม่อมตัวน้อยแต่กลับกลายเป็นลูกชายคนโตของบ้านแทนที่สำลักน้ำดื่มเสียจนหน้าดำหน้าแดง
กันต์พิมุกต์วางมือลงบนแผ่นหลังกว้างพร้อมกับลูบขึ้นลูบลงเบาๆ
สัมผัสแผ่วเบาทำให้ฆนากรหันไปยิ้มให้ก่อนจะส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้ว
“เจ้าลูกคนนี้หนิ เดี๋ยวก็สำลักน้ำตายไปหรอก.!!”
“ค่อยๆทานนะครับ ใจเย็นๆ”
อดีตหม่อมราชวงศ์เอ่ยออกไปเสียงหวานกับคนเป็นสามีเรียกรอยยิ้มจากคนทั้งโต๊ะได้เป็นอย่างดี
เห็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันเป็นห่วงเป็นใยกันขนาดนี้ก็ปลื้มใจ
สงสัยวิรุฬห์ธนกิจคงจะได้มีคุณหนูตัวน้อยออกมาวิ่งเล่นเร็วๆนี้เสียแล้วล่ะ
ก็คุณหม่อมน่ารักขนาดนี้
ถ้าฆนากรยังปล่อยเอาไว้ได้นานก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว
TALK
มาแล้ววววๆๆๆ สงสารคุณทหารจังเค้ายังไม่ได้นอนเลย
55555555555555
ขอบคุณทุกเม้น ทุกสกรีมนะคะ
มีความนั่งอ่านแล้วเพลินมาก
ยังไงก็ฝากคุณหม่อมกับคุณทหารด้วยนะคะ ^^
เล่นสกรีมในทวิตเตอร์ได้ที่ #จสบดศ เหมือนเดิมนะคะคนดี ^^
ความคิดเห็น