อั่งเปาของเฮียให้เมียหมดเลยครับ (Mr. Ang Pao)
"ป๊าเฮียสอนว่ารักใครก็ให้เงินคนนั้น อั่งเปาของเฮีย เฮียยกให้หลินหมดเลย" ได้เฮียแล้วก็จะทิ้งกันใช่ไหม ใจร้าย" เขียนจดหมายรักส่งให้ไปสิบสี่ปีไม่มีความหมาย "เฮียโง่ป่ะเนี่ย"
ผู้เข้าชมรวม
299
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
นิยายวาย คลั่งรัก จบแล้ว เฟยหลง หลินหลง วาย yaoi BL boylove ชายรักชาย feelgood โรแมนติก ความรัก พระเอกคลั่งรัก Yaoi
อั่งเปาของเฮียให้เมียหมดเลยครับ
“ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ สวัสดีปีใหม่ให้ร่ำรวย เฮง เฮงกันถ้วนหน้านะ” เสียงคำอวยพรดังขึ้นก่อนที่จะถูกกลบด้วยเสียงประทัดที่ถูกจุดขึ้นนับพันนัดบริเวณลานหน้าบ้านหลังใหญ่
“เฮียเฟยอั่งเปา ตั่วๆ ไก๊ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เด็กน้อยจ่ำหม่ำวิ่งไปกอดคนที่นับว่าเป็นพี่ชายที่เขารักที่สุดพร้อมหัวเราะร่าเรียกรอยยิ้มให้แก่คนในครอบครัวไม่น้อย
“อั่งเปาของเฮียยกให้หลินหลงคนเดียวครับ” ผู้เป็นพี่ชายหยิบซองสีแดงที่เตรียมไว้เพียงซองเดียวให้คนตรงหน้าพร้อมหอมไปที่แก้มกลมสีแดงเรื่อราวมะเขือเทศสุกอย่างอดใจไม่ไหวแล้วก่อนจะอุ้มคนตัวกลมวิ่งเล่นไปกับพี่น้องคนอื่น
ความจริงทั้งคู่ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดกันเพียงแต่รุ่นอากงอาม่าหอบเสื่อผืนหมอนใบนั่งเรือสำเภามาจากเมืองจีนด้วยกันก่อนจะมาตั้งรกรากกันที่เมืองแห่งนี้จนมาถึงรุ่นของพวกเขาความสัมพันธ์ของครอบครัวก็ยังคงเหนียวแน่นไม่เปลี่ยนแปลง
“อั่งเปา ตั่วๆ ไก๊ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คนตัวกลมที่ตอนนี้ขี่คอพี่ชายต่างสายเลือดยังคงร้องขออั่งเปาไปเรื่อยอย่างสนุกสนาน
“เอาวาฟเฟิลลูกเกดราดน้ำผึ้งแทนไปก่อนนะ เฮียหมดตัวแล้ว ฮ่า ฮ่า” เฟยหลงยืนขนมแสนอร่อยส่งให้คนเป็นน้องทางด้านหลัง คนน้องก็ดี๊ดีรับไปป้อนเข้าปากไม่มีเกี่ยงงอนเขากับหลินอายุห่างกันห้าปีตอนนี้หลินแปดขวบเขาสิบสาม
ตั้งแต่นั้นมาหลินหลงจะเป็นเพียงคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่ได้รับซองแดงและขนมวาฟเฟิลลูกเกดราดน้ำผึ้งเป็นของขวัญตรุษจีนทุกปีจากเฮียเฟยหลงจนพี่น้องคนอื่นพากันพูดว่าเขาพิเศษกว่าใคร
แต่ปีนี้อย่าว่าแต่ซองแดงเลยแม้แต่เงาขนมก็ยังไม่เห็น คิดแล้วมันน้อยใจหลังจากคืนนั้นเมื่อปีที่แล้วทุกอย่างก็เหมือนไม่เคยเกิดขึ้น ไอ้คนไร้ความรับผิดชอบมีคู่หมั้นอยู่แล้วยังจะมาเจ้าชู้กับเขาอีก คิดแล้วมันน่าตัดให้เป็ดกินเสียจริงคิดแล้วโมโหเพราะคนที่เริ่มดันเป็นเขาเสียเอง
“กลับมาแล้วครับ” เสียงนุ่มทุ้มของหนุ่มหน้าขาวที่พึ่งเดินผ่านบานประตูกระจกเข้ามาด้านในตัวบ้านด้วยท่าทางไม่ค่อยดีนักเหมือนมีแต่ร่างเมื่อหัวใจและวิญญาณเหมือนหายสูญสิ้นไปพร้อมกับคนนั้นตั้งแต่วาเลนไทน์ปีที่แล้วตั้งแต่ที่เฟยหลงตกลงหมั้นกับอี้หลิงสำหรับเขาวาเลนไทน์ก็แค่วันหนึ่งเท่านั้นเมื่อคนที่รอหายไปไม่ติดต่อเหมือนเคยแม้แต่ตรุษจีนปีนี้อั่งเปาที่เขาเคยได้ยังขาดหาย
“มีคนเอาจดหมายกับขนมมาให้ วางไว้บนโต๊ะน่ะ” เสียงมารดาตะโกนออกมาจากในครัว ชายหนุ่มจึงหันไปให้ความสนใจกับสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวบนโต๊ะไม้สีขาวสะอาดสะอ้านมีเพียงซองอั่งเป่าสีแดงที่ถูกปิดผนึกด้วยรูปหัวใจสีทองที่วางซ้อนกับซองจดหมายสีขาวนวลลายน่ารักและขนมวาฟเฟิลลูกเกดราดน้ำผึ้งของโปรดของเขาวางอยู่ข้างๆ แม้ปีนี้หลินหลงจะอายุย่างเข้ายี่สิบสองแล้วก็ตามแต่ความเป็นเด็กในตัวเขาไม่เคยหายไปเลย
“ใครฝากให้อะม๊า” หลินหลงหันไปถามมารดาด้วยความสงสัยมือก็หยิบวาฟเฟิลเข้าปากด้วยหัวใจลิงโลดไม่น้อยเพราะน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาชอบวาฟเฟิลลูกเกดราดน้ำผึ้งร้านนี้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะซื้อมาให้เขาเป็นประจำ
“อยากรู้ลื้อก็เปิดจดหมายอ่านสิ” มารดาหัวเราะก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเจือกรุ้มกริ่มเมื่อเห็นลูกชายให้ความสนใจซองจดหมายรักตรงหน้า
“กลิ่นคุ้นๆ” พึมพำก่อนใช้จมูกโด่งขาวดมซองจดหมายขาวนวลตรงหน้าปากแดงเรื่อคลี่ยิ้มทันทีเพราะเป็นกลิ่นที่เขาคุ้นเคยมาแต่เด็ก กลิ่นของคนนั้นจริงด้วยแต่มันจะใช่จริงเหรอเพราะถ้าเป็นคนนั้นจริงสถานะของเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างจากชู้รักในละครหลังข่าวเลยนะ
“อาหลงอีถอนหมั้นกับอาหลิงแล้วนะ” เสียงมารดาที่ยืนมองดูการกระทำของลูกชายกล่าวขึ้นพลางทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้เมื่อลูกชายหน้าขึ้นสีแดงเรื่อเกิดรอยยิ้มที่ดวงตาใส
“แล้วเกี่ยวอะไรกับหลินล่ะม๊า” ลูกชายที่ตอนนี้หน้าแดงเรื่อทำทีเฉไฉกินขนมในมือสายตาก็ไล่มองไปตามเนื้อหาในซองจดหมายที่ถูกเขียนด้วยลายมือคุ้นตา กลิ่นหอมเจือจางของน้ำหอมที่มีกลิ่นเฉพาะของเจ้าตัวยังคงลอยเข้าสู่โสตประสาทราวกับเจ้าตัวยืนอยู่ข้างกายหัวใจของหนุ่มน้อยเต้นแรงดุจกลองรัวเมื่อไล่อ่านข้อความแต่ละคำที่ถูกฝากไว้บนเนื้อกระดาษสีอ่อนตรงหน้า
“ถ้ายังไม่เกี่ยวเดี๋ยวเฮียย้ำอีกรอบไหมครับว่าเราเกี่ยวข้องกันยังไง” เสียงทุ้มเย็นกระซิบที่ข้างหูทำเอาคนฟังถึงกับขนลุกซู่หันหน้ากลับไปมองคนที่มายืนซ้อนด้านหลังด้วยท่าทีตกตะลึงทำเอาคนที่ยืนมองอยู่ยิ้มหวานให้ด้วยความเอ็นดูอยู่ไม่น้อย
“เฮียมาได้ยังไง” เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรเขาจึงได้แค่ถามคนที่มายืนด้านหลังตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ด้วยน้ำเสียงที่ปกปิดความตื่นเต้นดีใจไว้ไม่มิดรอยยิ้มยังคงประดับเต็มใบหน้าขาวราวกับหยกเนื้อดีของหลินหลงเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อเฟยหลงขยับกายเดินเข้ามาประชิดมากยิ่งขึ้น
“อาหลินคุยกับเฮียให้รู้เรื่องอย่าหนีอีกนะม๊าจะไปรับอาจินที่โรงเรียนก่อน” มารดายิ้มเปิดทางให้ว่าที่ลูกเขยได้ปรับความเข้าใจกับลูกชายจอมดื้อรั้นของตน โดยไม่วายคาดโทษลูกชายจอมดื้อไปพร้อมกันดื้อจนวุ่นวายไปหมดเด็กคนนี้
“ม๊า” เมื่อไร้ที่พึ่งหลินหลงก็ได้แต่หน้าง้ำเพราะทำตัวไม่ถูกเมื่อคนที่กำลังแอบคิดถึงอยู่ทุกค่ำคืนตอนนี้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ามิหนำซ้ำตอนนี้ยังถอนหมั้นกับคู่หมั้นนั่นแล้วด้วยเท่ากับว่าตอนนี้เขามีสิทธิ์ที่จะคิดที่จะรักเฮียได้เต็มที่แล้วสิไม่ใช่ชู้รักในละครหลังข่าวแล้วจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ
“ไม่ต้องเรียกม๊าหันหน้ามาคุยกับเฮียให้รู้เรื่อง ตกลงคำตอบว่าไง” มือหนาจับไหล่ของคนตรงหน้าให้หันมาเผชิญหน้ากับตนใกล้จนปลายจมูกแทบชิดกันสองแขนแกร่งโน้มลงยันฝ่ามือกับพื้นไม้เนื้อดีกักคนตัวเล็กกว่าไว้ในอ้อมแขนไม่ให้หนีไปได้อีก
“แล้วไปพูดยังไงเขาถึงยอมถอนหมั้นล่ะ” คนปากดีเมื่อหมดหนทางหนีจึงหาทางถ่วงเวลา ใช่เขาดีใจจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะแต่มันไวมากจนตั้งตัวไม่ทันจริงๆ
“ก็บอกว่าเฮียมีเมียแล้ว” สายตาคมจับจ้องที่ใบหน้าขาวของหลินหลงอย่างหลงใหลไม่ปิดบังทำให้คนด้านล่างถึงกับทำหน้าไม่ถูกมันเขินมันดีใจมันตื่นเต้นเขาไม่รู้จะรู้สึกอะไรก่อนแล้วตอนนี้
“แค่เนี๊ย แล้วทำไมม๊าถึงยอมล่ะ” คนตรงหน้ายังคงไม่ลดละถามคำถามที่อยากรู้ต่อไปมันเร็วไปไหมล่ะ
“ถามมากจัง” คนพี่ทำท่ายิ้มแยกเขี้ยวใส่คนตัวเล็กกว่าแต่ไม่มีวี่แววของความรำคาญรให้เห็นพร้อมใช้นิ้วบิดข้างแก้มสีแดงเหมือนลูกพีทนั้นอย่างมันมือ
“ถามไม่ได้หรอ โอ๊ยอย่าบิดสิเจ็บ อือ” เสียงนุ่มถูกหยุดไว้เพียงแค่นั้นเมื่อคนเป็นพี่ตัดรำคาญด้วยการกดริมฝีปากลงไปปิดริมฝีปากสีแดงเรื่องที่กำลังจะเอ่ยคำถามออกมาอีก
“เดี๋ยวค่อยถาม” พูดเสร็จเฟยหลงก็ยกตัวคนตัวเล็กกว่าขึ้นนั่งบนโต๊ะกินข้าวอย่างเบามือแม้ว่าหลินจะตัวไม่ได้เล็กเลยเมื่อเทียบกับผู้ชายปกติที่สูงถึง175เซนติเมตรและออกกำลังกายเป็นประจำจนมีกล้ามเนื้อสวยแต่เมื่อเทียบกับเขาที่สูงถึง185และเป็นถึงเจ้าของฟิตเนทชื่อดังแล้วหลินหลงถือว่ากำลังพอดี
“เฮียจะทำอะ อือ” เสียงทุ้มนุ่มเงียบลงทันทีที่ริมฝีปากหนากดลงไปจูบซับเอาความหอมหวานทันทีไม่ให้ตั้งตัวอีกครั้ง ลิ้นร้อนค่อยๆ ละเลียดชิมความหวานจากกลีบปากสีแดงเรื่ออย่างใจเย็นก่อนจะส่งต่อความโหยหาจากเบื้องลึกในหัวใจให้อีกคนได้รับรู้ซึ่งจากการตอบรับของอีกฝ่ายทำให้เฟยหลงถึงกับอมยิ้มแล้วบรรจงจูบเร่าร้อนก่อนจะผละออกอย่างเสียดาย
“คิดถึง” คำบอกเล่าหวานทั้งตาทั้งปากรวมถึงน้ำเสียงที่ส่งมาทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นคลอนได้ไม่ยาก หลังจากที่หวังจนเลิกหวัง รอจนเลิกรอแต่วันนี้เฮียมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ามาบอกคิดถึงเขาอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างคือเรื่องจริง
“คิดถึงเหมือนกันครับ” คนน้องยิ้มทั้งตาทั้งปากประจบคนเป็นพี่ก่อนจะรีบจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากหนา
“ยังหวานเหมือนเดิม” เฟยหลงยกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะเมื่อคนตรงหน้าใช้สองแขนโอบรอบคอของเขา
“ไหนล่ะคำตอบเฮีย” เฟยหลงไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเฉไฉนานวันนี้เขาต้องได้คำตอบ
“คำตอบอะไรอะเฮีย” หลินหลงทำหน้างงจริงจังจนทำให้เฟยหลงถึงกลับหน้าเสียรีบหยิบกระดาษใบน้อยที่ถูกทิ้งไว้บนโต๊ะขึ้นมาอ่านย้ำให้หลินหลงฟังอีกรอบ
“ส่งจดหมายรักให้มาตลอด 14 ปี รอบนี้เฮียจะไม่ถามหาคำรักจากปากหลินแล้ว แต่งงานกับเฮียนะ” เฟยหลงทำท่าอ่านข้อความที่ตนตั้งใจเขียนในกระดาษใบน้อยทีละคำอย่างชัดถ้อยชัดคำให้คนตรงหน้าฟังเสร็จแล้วบังคับสายตาขอออีกฝ่ายให้สบกับตนโดยตรงไม่ให้หลบหนีเหมือนเช่นทุกครั้ง
“ส่งจดหมายรักมา 14 ปี ตอนไหนอะเฮียหลินไม่เห็นเคยได้เลย” หลินหลงโพรงถามไปอย่างแปลกใจจนเฟยหลงถึงกับทำหน้างงจริงจังตามไปด้วย
“เฮียก็ส่งให้หลินทุกปีตั้งแต่ตอนหลินแปดขวบไง” เฟยหลงยึดตัวตรงจ้องหน้าค้นหาความจริงจากสายตาคนเป็นน้องด้วยสายตาจ้องจับผิด
“เฮียเอามาให้หลินตอนไหน หลินไม่เคยได้เลย” คนเป็นน้องจ้องตากลับยังคงยืนยันคำตอบเดิม
“ก็เฮียเขียนบอกรักหลินใส่ไปในอั่งเปาให้หลินทุกปี” เฟยหลงยังคงยืนยันสิ่งที่ตนทำด้วยท่าทีจริงจัง
“เฮียเอาอั่งเปาที่เฮียได้ทั้งหมดใส่ซองให้หลินทุกปีเลยนะตั้งแต่ตอนนั้นน่ะ” เฟยหลงยังคงพูดด้วยท่าทางที่ดูหงุดหงิดไม่น้อยที่คนน้องยังคงทำท่าทางไม่รับรู้ถึงความจริงใจของเขาที่ส่งให้มาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้
“อั่งเปาเนี่ยนะแล้วมันเกี่ยวอะไรกับบอกรักหลินล่ะเฮีย เฮียไปเอาความคิดนี้มาจากไหน” หลินหลงยังคงทำสับสนมองจ้องเฮียด้วยสายตาเคลือบแคลงสงสัย
“ก็ป๊าเฮียบอกว่าม๊าชอบเงินที่สุดถ้าเรารักใครให้คนนั้นถือเงินเขาจะรู้ว่าเรารักเขามาก เฮียก็เลยเอาแต๊ะเอียที่เฮียได้ทั้งหมดทุกปีใส่ซองให้หลินเก็บไว้ทั้งหมดไงเขียนจดหมายน้อยบอกทุกปีด้วยหลินก็ยังใจร้ายไม่ยอมตอบอะไรเฮียสักคำปล่อยให้เฮียคิดไปเองต่างๆ นาๆ ทั้งที่เฮียก็มั่นใจว่าหลินรู้สึกไม่ต่างจากเฮียแต่พอเฮียจะหมั่นหลินก็ยังไม่สนใจอีก” เฟยหลงทำน้ำเสียงตัดพ้อราวกับทุกอย่างเป็นความผิดของอีกฝ่ายจนหลินหลงถึงกับปล่อยขำพรืดออกมาอย่างไม่เกรงใจคนเป็นพี่สักนิด
“เฮีย บ้าป่ะเนี่ย” คนน้องจ้องมองหน้าพี่ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม มองดูคนตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณาอีกครั้งนี่ใช่เฟยหลงลูกชายมาดนิ่งของเจ้าสัวชัยพรตัวจริงใช่ไหมเนี่ย คนที่ทุกคนบอกว่าเขาเด็ดขาดที่สุด เยือกเย็นและเลือดเย็นทุกสุด ดุที่สุด เพอเฟคที่สุด แต่ตอนนี้เขาเห็นเพียงหนุ่มน้อยธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อความรักเหมือนย้อนวัยไปตอนสิบสี่อีกคร้งเลย
“เฮียอายุยี่สิบเจ็ดจริงป่ะเนี่ย ฮ่า ฮ่า” หลินหลงถอนหายใจก่อนจะดึงคนที่ตอนนี้ทำตัวเหมือนเด็กน้อยเข้ามากอดก่อนจะจูงมือพาคนเป็นพี่ขึ้นไปด้านบนห้องนอนของเขาพื้นที่หวงห้ามที่ไม่เคยมีใครได้เข้ามาอีกเลยหลังจากเรื่องคืนนั้น
“หรือหลินจะไม่รับผิดชอบเฮีย ใช่สิได้เฮียแล้วก็จะทิ้งกันคนใจร้าย” คนเป็นพี่ทำท่าบ่นกระปอดกระแปดจนคนเป็นน้องค้อนเป็นวงใหญ่ด้วยความหมั่นไส้เรียกรอยยิ้มมุมปากจากคนหน้านิ่งได้ทันทีใช่ปกติเขาหน้านิ่งแต่ไม่เคยทำได้สักทีเวลาอยู่กับจอมป่วนของเขา
“เอ้าดูเอาเองว่าใครกันแน่ใจร้าย หลินไม่เคยแกะซองแดงของเฮียเลยสักซองเหอะ ก็สำคัญเลยเก็บไว้อย่างดี” หลินหลงยู่หน้าใส่คนเป็นพี่ก่อนจะยัดกล่องที่ล๊อกกุญแจอย่างดีที่บัดนี้ถูกไขกุญแจออกเรียบร้อยแล้วให้คนตรงหน้าที่ตอนนี้นั่งลงบนเตียงนอนของเขาเป็นที่เรียบร้อย
“หลิงหลง โอ๊ยตีเฮียทำไมครับ” คนเป็นพี่ไล่สายตามองซองสีแดงของเขาทั้งหมดที่วางเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่ภายในไม่มีร่องรอยการฉีกแกะออกแม้แต่น้อยก็ได้แต่ถอนใจมองหน้าคนที่ยืนจ้องหน้าเขาอยู่อย่างพูดอะไรไม่ออกจะให้พูดอะไรเนี่ยโอ๊ยทำไมน่ารักแบบนี้
“ก็เฮียโง่อ่ะ” หลินหลงชักสีหน้าหงุดหงิดใส่คนพี่ที่ตอนนี้ยิ้มหน้าเจื่อนสำนึกผิดกับความคิดประหลาดของตัวเองที่ไม่ยอมพูดกับน้องโดนตรงจนทำให้เกือบเสียคนสำคัญตรงหน้าไป
“ก็ใครจะไปคิดว่าหลินจะไม่แกะดูเล่าเห็นม๊าหลินบอกว่าหลินชอบเงินที่สุดเลยให้เงินนี่ไง” เฟยหลงยังคงเถียงข้างๆ คู่ๆ ดึงคนอายุน้อยกว่ามานั่งลงบนตักแข็งแรงก่อนจะกอดร่างของอีกฝ่ายไว้แนบอกเหมือนกลัวจะหลุดมือไปอีกครั้ง
“ก็โง่พอกันแหละ” หลินหลงว่าพลางออกแรงใช้แผ่นหลังตัวเองดันให้คนเป็นพี่นอนหงายไปกลับเตียงนุ่มก่อนที่ตัวเขาจะรีบพลิกคล่อมอีกฝ่ายอยู่ด้านบนกักให้คนพี่อยู่ใต้ร่างอย่างไม่ทันตั้งตัวมือหนาของเฟยหลงยกขึ้นตะบบบั้นท้ายแกร่งของคนด้านบนโดยอัตโนมัติ ก้มลงมองจ้องตาสีรัตติกาลที่ไม่อาจปกปิดความรักใคร่ในตัวเขาไว้ได้อีกต่อไปซึมซับความรู้สึกนั้นด้วยสัมผัสแผ่วเบาของริมฝีปากอุ่นร้อนที่โน้มเข้าหากันอย่างกับมีแรงดึงดูดจนไม่อาจต้านทานได้ เฟยหลงไม่อาจทัดทานความต้องการภายในจึงจับร่างของหลินหลงให้นอนหงายไปกับเตียงแทนก่อนที่ตัวเองจะขึ้นคล่อมเป็นฝ่ายคุมเกมส์จูบไซร้ไปตามเนื้อตัวอีกฝ่ายด้วยความโหยหาและรักใคร่สุดหัวใจ จูบที่ล้ำลึกดึงคนน้องให้โอนอ่อนได้ไม่อยากไม่นานหลินหลงก็จูบตอบคนพี่ด้วยท่าทีไม่ต่างกันเขาก็คิดถึงอีกฝ่ายไม้แพ้กัน ตั้งแต่วันที่อีกฝ่ายบอกจะไปจัดการเรื่องราวต่างๆ ให้เรียบร้อยเขาก็รอมาโดยตลอด
“เดี๋ยวก่อน” คนใต้ร่างหอบกระเซ่าแต่ยังคงดื้อดึงให้มือห้ามมือหนาที่ตอนนี้ฟอนเฟ้นไปทั่วร่างของตนและเบี่ยงคอหลบหนีอีกฝ่ายที่กำลังจูบไซร้ซอกคอเขาอย่างหลงไหลพร้อมทิ้งร่องรอยไว้ทุกส่วนสัดที่ริมฝีปากร้อนลากผ่าน
“อ่า ครับ” เฟยหลงไม่เคยขัดใจหลินหลงได้สักครั้งครั้งนี้ก็เช่นกันแม้อารมณ์ของเขาจะปะทุขึ้นจากความโหยหาจนแทบจะต้านทานไว้ไม่อยู่แต่เมื่อคนน้องขอร้องเขาพร้อมหยุดให้เสมอ
“แล้วเจ้หลิงยอมถอนหมั้นได้ไง ไม่ใช่แค่ไปบอกเขาว่ามีเมียแล้วใช่ไหม” หลินหลงหลี่ตามองคนเป็นพี่ด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจเพรามั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจด้วยเรื่องแค่นี้แน่นอน
“ความจริงหลิงเขามีแฟนอยู่แล้วแค่ยอมหมั่นเพราะเจ้าสัวบังคับ เราเปิดใจคุยกันแต่เจอกันครั้งแรกดีแลนแฟนเขาก็มาด้วยวันที่เฮียไปเจอเขาไม่ได้มีการหมั่น แค่ประกาศออกสื่อเพื่อผลประโยชน์ของการรวมหุ้นในบริษัทตอนนั้น ถึงเฮีบกับหลิงไม่แต่งกันผู้ใหญ่เขาก็เข้าหุ้นกันอยู่แล้วแต่ต้องการสร้างความมั่นใจให้บรรดาผู้ร่วมลงทุน อีกอย่างเฮียก็น้อยใจหลินด้วยแหล่ะที่ไม่ตอบรับรักเฮียเสียที แต่เรื่องตอนนั้นก็ดีนะเพราะถ้าไม่มีเรื่องนั้น หลินคงไม่เมาจนปล้ำเฮียหรอกใช่ไหม โอ้ย เจ็บนะครับ”
เฟยหลงแกล้งโอดโอยทันทีที่พูดจบเพราะคนใต้ร่างหยิกเขาอย่างจังด้วยความหมั่นไส้แต่ใบหน้าขาวนั้นเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มสุขใจ
“ใช่ไม่มีเรื่องวันนั้นหลินคงไม่กล้าทำอะไรบ้าๆ แบบนั้น” หลินหลงดึงคนเป็นพี่ลงมาจูบอย่างดูดดื่มเพื่อส่งต่อความรู้สึกทั้งหลายทั้งมวลที่อัดอั้นอยู่ภายในใจเขามาหลายปีนับตั้งแต่รู้จักผู้ชายชื่อ เฟยหลง คนนี้
“คำตอบเฮียล่ะ” เฟยหลงยังคงทวงคำตอบที่ถามไปในจดหมายรักฉบับล่าสุดของตัวเอง
“แต่งครับ” หลินหลงตอบอย่างไม่บิดพลิ้วอีกต่อไป
“เฮียรักหลินนะรักที่สุด” หวานไปอีกพร้อมจุมพิศเบาๆ ที่ริมฝีปากแดงเรื่อ
“รักเหมือนกันครับ แต่ปีนี้ให้เท่าไรครับ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเมื่อแกล้งอีกฝ่ายได้
“ยกให้หมดเลยครับ” เฟยหลงแกล้งลากเสียงยาวก่อนจูบปิดปากคนด้านล่างไม่ให้พูดขัดอะไรอีกความเร่าร้อนของคนเด็กกว่าปะทุขึ้นอีกครั้งหลังจากเรื่องราวคืนนั้นที่เฟยหลงประกาศหมั่นกับอี้หลิงหลังงานฉลองหลินหลงกินเหล้าเคล้าน้ำตาจนเมามายจนเฟยหลงทนไม่ได้ต้องขอตัวพาน้องกลับมาส่งที่บ้านในห้องนอนห้องนี้ เมื่อเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คนน้องเสร็จก็นั่งมองคนที่แอบรักด้วยสายตาเจ็บปวดใจไม่น้อยเพราะคนน่ารักไม่เคยตอบรับสารที่เขาส่งไปเลยสักครั้งไม่ว่าเขาจะเขียนบอกรักและอ้อนวอนขนาดไหนสิ่งที่ได้รับกลับมาคือเหมือนเดิมทุกอย่าง แม้แค่มองตาก็รู้ว่าความคิดความรู้สึกของเราสองคนไม่ต่างกันแต่เมื่อไม่มีคำพูดยืนยันให้แน่ใจเขาก็ไม่อาจฝืนใจอีกฝ่ายได้ เมื่อคิดได้กำลังจะกลับก็ขอฉวยโอกาสก้มลงจูบคนเป็นน้องอย่างเอาแต่ใจสักครั้งใครจะคิดว่าคนเป็นน้องไม่ได้หลับอย่างที่คิดหลินหลงจูบตอบและยั่วยวนเขาจนเขาทนไม่ไหว ปล่อยอารมณ์ไปตามความต้องการส่วนลึกภายในจิตใจของคนทั้งคู่จนเกิดสัมพันธ์เกินเลยล่วงล้ำในที่สุด คืนนั้นหลินหลงเร่าร้อนแค่ไหนต้องการเขาแค่ไหนมีแต่เขาที่รู้และเก็บไว้ส่วนลึกของจิตใจ ด้วยความเห็นแก่ตัวเขาจึงยังไม่ยอมบอกความจริงกับอีกฝ่ายว่างานหมั่นคือของปลอมยังคงลักลอบได้เสียกับน้องอยู่ร่ำไปจนคนน้องทนกับความสัมพันธ์เฉกเช่นชู้รักไม่ไหวขอร้องเขาให้หยุดพบกัน ทำตัวเหมือนนักวางแผนผู้ยิ่งใหญ่ที่ไหนได้เขาก็เด็กน้อยที่หัดรักก็เท่านั้น
ถึงหลินหลงที่รัก
เฮียส่งจดหมายรักให้หลินมา 14 ปี แล้ว
รอคำตอบจากหลินทุกปี
ปีนี้เฮียไม่รอแล้วนะ
แต่งงานกับเฮียซะดีๆ
รักนะเด็กดื้อ
เฟยหลง
มันคือจดหมายรักรึจดหมายขู่กันแน่นะเฮียเฟย
END
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ณชญ (นะ-ชะ-ยะ) 🌸 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ณชญ (นะ-ชะ-ยะ) 🌸
ความคิดเห็น