คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ภารกิจ
ในกลางดึกของคืนที่ส่องสว่างไปแสงเล็กๆจากดวงดาวมากมาย ลอยเปล่งแสงระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า ดวงจันทราแผ่ออร่าสีเหลืองทั่วพื้นนภายามราตรีให้สว่างไสวไปทั้งคืน
ผู้คนมากมายต่างพากันหลับใหลไปพร้อมๆกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน
ถึงจะช่วงยามวิกาลเช่นนี้เด็กหนุ่มผู้ที่ได้รับนามใหม่มาว่าฮาเดสก็ไม่ปล่อยให้ภาพความสวยงานบนท้องฟ้าผ่านพ้นไปโดยที่เขาจะไม่เชยชมให้เต็มที่เลย เขานั่งมองไปยังดวงจันทร์ที่สาดแสงแวววาวระยับตาอยู่บนหลังคาเพียงลำพัง
“แบบนี้มันดีแล้วสินะครับ คุณพ่อ คุณแม่”เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง
“ดึกป่านี้แล้วทำไมนายยังไม่นอนอีกละ”
เสียงของเนวดังขึ้นมาจากข้างหลังของฮาเดส แล้วเธอก็เดินเข้ามานั่งอยู่ข้างๆเขา
“ฉันยังไม่ง่วงนะ”
เด็กหนุ่มโน้มตัวลงไปข้างหลังเพื่อที่จะเปลี่ยนท่านั่งของตนเองไปเป็นนอนหงาย
เด็กสาวหันหน้าไปมองเด็กหนุ่ม เมื่อเธอได้เห็นสีหน้าของเขาก็ทำให้รู้ได้ในทันทีเลยว่าต้องมีเรื่องที่คิดมากอยู่แน่
“นายไม่เป็นไรนะ”
“อืม”
คอสหันหน้าไปยิ้มเล็กๆให้เด็กสาว แต่รอยยิ้มนี้ช่างแต่ต่างจากรอยยิ้มแห่งความสุขเสียจริง ซึ่งนั้นก็ทำให้เนวมั่นใจได้เลยว่า เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างเธอในตอนนี้นั้นกำลังแบกรับความสับสนมากมายไว้กับตนเองเพียงผู้เดียว
“นายเนี่ย”เนวลุกขึ้นยืน“คิดว่าตัวเองเก่งมากเลยสินะ แบกรับอะไรไว้บนหลังของตัวเองโดยไม่คิดจะแบ่งให้ใคร คิดว่าตัวเองนะเป็นผู้ที่เก่งที่สุดหรือไง เจ้าบ้า”
สายตาของเด็กหนุ่มเริ่มเปล่งประกายดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา เหมือนดั่งแสงสว่างของดวงดาราบนฟากฟ้าที่ทำให้ท้องฟ้ายามราตรีสวยงาม
แววตาคู่นั้นของเขาจับจ้องไปที่สาวน้อย พร้อมด้วยรอยยิ้มอ่อนๆและเสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นมาทำลายความกังวนที่อยู่ในจิตใจเสียจนหมด
“นั้นสินะ ไม่สมกับเป็นตัวเราเลยแหะ ต้องให้ผู้หญิงบ้าๆอย่างเธอมาเตือนสติจนได้ แย่จริงแหะ”
“ใครกันแน่ที่บ้า คนบ้าอย่างนายไม่ว่ายังไงก็คงบ้าอยู่วันยังค่ำสินะ”
ฮาเดสยังไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขายังคงจ้องมองใบหน้าของเด็กสาว
“เธอว่าฉันคู่ควรกับชื่อฮาเดสหรือเปล่า”
“นายไม่ต้องคิดอะไรให้มากหรอก แค่ทำตามที่นายเคยบอกฉันไง จะปลดปล่อยเดธเวิลด์ที่เน่าเสียแห่งนี้ให้กลับไปเป็นดังที่พ่อนายเคยทำ แล้วนายรู้สึกไงบ้างละ”เธอเงียบไปพักหนึ่ง “ทั้งเรื่องพ่อแม่ของนายที่ตาย กับการมาเป็นหัวหน้าของพวกฉัน”
คอสค่อยๆลุกขึ้นมายืนแล้วบิดร่างกายไปมา
“ฉันไม่สนหรอกว่าพ่อแม่จะเป็นราชาหรือชนชั้นต่ำ สิ่งเดียวที่ฉันสนก็คือพวกท่านไม่ได้ทอดทิ้งแต่เพราะรักถึงต้องทิ้ง”น้ำตาแห่งความปิติไหลออกมาจากดวงตาที่ใสซื่อและใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของเขา “และนั้นก็คือเหตุผลที่ฉันยอมรับตำแหน่งหัวหน้า ฉันนะไม่เคยเสียใจเลยซักนิดที่มีพ่อแม่แบบนี้”
“คอส”เนวดินเข้าไปกอดเด็กหนุ่ม “ร้องออกมาเลย ร้องออกมาให้พอ ฉันไม่ล้อนายหรอก เจ้าบ้าขี้แย”
“ไหนบอกจะไม่ล้อไง”
“ก็นะ”
มือของเด็กหนุ่มค่อยๆยกขึ้นมากอดร่างกายอันบอบบางของเนวเอาไว้แน่น
“เนวในตอนนี้ฉันคือคอสหรือฮาเดสกันแน่”
“นายก็คือนาย เป็นตัวของนายตามแบบที่นายเป็นนี้แหละดีแล้ว ไม่ต้องพยายามทำอะไรให้เกินตัวหรอก”
“ขอบคุณนะ”
ช่วงเวลากับภาพแห่งน้ำตาของพวกพวกเขาสองคนเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน
เนวและคอสยืนแหงนหน้าขึ้นไปมองดวงจันทร์ทรงโตที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าที่ประดับไปด้วยหมู่ดาวนับล้านๆดวง
“สวยจังเลยนะ”
เนวเริ่มเปิดบทสนทนาขึ้น
“อืม เวลาที่ฉันมีเรื่องอะไรไม่สบายใจฉันก็ชอบหาที่สงบแล้วจ้องมองมัน นั้นแหละ”
เด็กสาวดึงมือของเธอขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง
เมื่อคอสเห็นเช่นนั้นจึงรีบหยุดมือเธอเอาไว้ไม่ให้เธอขยี้ตาต่อได้
“นี้ก็ดึกมากแล้วเราไปนอนกันเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่ห้อง
“อืม”
แล้วทั้งสองก็เดินกลับห้องของตนเองแล้วนอนหลับไปทันที
แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องสว่างแผ่ความร้อนไปทั่ว ขับไล่ความมืดมิดและหมู่ดาวที่หลงเหลือจากราตรีให้ออกไปจากฟากฟ้าที่สดใส ก้อนเมฆสีขาวขุ่นๆลอยไปมามากมาย หมู่ปีศาจก็ลืมตาตื่นขึ้นมาทักทายยามเช้าของวันใหม่
ในห้องเล็กๆซึ่งก็มีแค่เตียงที่เป็นสิ่งของที่อยู่ในนั้น ห้องที่สุดแสนจะธรรมดาและว่างเปล่า กับเด็กหนุ่มอีกหนึ่งคนที่นอนอยู่บนเตียง
ประตูของห้องถูกเปิดขึ้นโดยฝีมือของชายผู้เป็นเจ้าของเรือนผมสีม่วงอ่อนที่เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวความจริงให้กับเด็กหนุ่มผู้หลับใหลได้รับรู้เมื่อคือวานนี้
เขาเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงของคอส แล้วทำหน้าไม่พอใจเท่าไรนัก
“จะนอนไปถึงเมื่อไรครับ ท่านฮาเดส”
การพูดที่สุภาพของชายหนุ่มไม่ได้ส่งผลให้ฮาเดสเกินปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเล้าใดๆได้เลย เขายังคงนอนอมยิ้มอย่างสบายใจเหมือนเดิม
คิ้วทั้งสองข้างของชายหนุ่มเริ่มเข้ามาชิดติดกัน แต่ยังอดทนกัดฟันเก็บกลั้นอารมณ์ของตนเองเอาไว้อยู่
“นี่คอสตื่นได้แล้ว”
คอสยังคงไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งนั้นเช่นเดิม
ร่างกลายของชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิดๆ
ท้องของเขาค่อยๆพองโตขึ้นเรื่อยๆเหมือนอึ้งอ้างที่กำลังพองตัวสู้กับวัว ผมสั้นๆของเขาก็เริ่มยาวขึ้นแล้วม้วนหยิกพันกันไปมาจนยุ้งเหยิงเหมือนฝอยขัดหม้อไม่มีผิด และร่างกายที่มาดแมนสมชายชาตรีนั้นก็แปรเปลี่ยนไปเป็นหญิงอ้วนตัวใหญ่เหมือนโอ่งไปในทันที
“คอส ตื่นซะที”
เด็กหนุ่มที่หลับใหลอยู่บนเตียงสะดุ้งตื้นขึ้นมา แล้วกลิ้งตกเตียงไปทันที
ฮาเดสแหงนหน้าขึ้นไปมองว่าผู้ใดที่บังอาจมาปลุกเขาในยามนิทราเช่นนี้ แต่เมื่อได้สบแต่เพียงแวบเดียวหน้าตาของเด็กหนุ่มก็ซีดเป็นไข่ต้มไปเลย
ร่างกายของชายหนุ่มที่อยู่ในสภาพของคุณแมรี่ค่อยๆเปลี่ยนสภาพเป็นผู้ชายตามเดิม
เด็กหนุ่มสลัดความง่วงที่ติดมากับการตื่นนอนออกไป แล้วเริ่มนึกเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวของเขาเองเมื่อวาน
“ปลุกผมแบบนี้อีกแล้วนะครับ คุณโรคจิต”
“รุยต่างหากไม่ใช่โรคจิต ข้ามีชื่อว่ารุย”
“ก็อยู่ในร่างผู้หญิงมาตลอดหลายปีจะไม่ให้ผมเรียกว่าโรคจิตได้ไงกันครับ”
ฮาเดสยักคิ้วแสดงความกวนโอ๊ยส่งไปให้รุย
รุยหันหลังแล้วเดินกลับไปทางประตู แล้วเปิดทันออก แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกไป รุยก็หันหน้ากลับมามองฮาเดสเพื่อบอกกล่าวอะไรซักอย่าง
“รีบไปแต่งตัวได้แล้ว วันนี้ท่านมีเรียนต้องทำอีกมาก แล้วเจอกันที่ห้องโถงใหญ่ห้องเดียวกันกับที่คิดพาท่านไปเมื่อคืน”
พุดจบรุยก็เดินออกไปทันที
เดินหนุ่มยังคงนั่งเกาหัวอยู่บนเตียงไม่ไปไหนเพราะความขี้เกียจ แล้วกวาดสายตามองไปทั่วห้องทั้งที่รู้ว่ามันไม่ได้มีอะไรอยู่เลย
เขาถอนหายใจออกมาเบา แล้วลุกหยิบเสื้อที่กองอยู่ปลายเตียงขึ้นมาสวมทับร่างกายที่เปลือยเปล่าไร้ซึ่งสิ่งใดปกปิด เพราะผ้าพันแผลและเสื้อผ้าที่ได้ถูกแกะออกจนหมดด้วยฝีมือของเขาเอง
เด็กหนุ่มเดินออกไปนอกห้อง เขาเดินไปตามเส้นทางที่เคยเดินคู่กับคิดตามที่รุยบอกจนมาถึงประตูบานใหญ่
คอสยืนนิ่งอยู่หน้าประตูซักพัก แล้วผลักประตูให้เปิดออกไป
ภาพที่อยู่หลังประตูนั้นผิดกับที่คอสคิดเอาไว้มาก
กลุ่มคนขนาดเล็กที่มีสมาชิกแค่เพียงห้าคนเท่านั้นกำลังรอการมาของเขาอยู่ และสมาชิกทุกคนที่อยู่ที่นี้ต่างก็เป็นบุคลที่ได้เคยพบปะกับคอสแล้วทุกคน
คอสกวาดสายตามองไปหาพวกเขาเริ่มตั้งแต่คิด เนว รุย เรฟ และลุค
“ไม่ได้เจอกันซะตั้งนานนะ เจ้าหนุ่มหัวหน้า”ลุคเริ่มทักทาย
“ดูถ้าวันนี้จะดวงไม่ดีแหะ เริ่มมาก็เห็นสิ่งที่ไม่อยากเลย”
“เจ้าหัวแดงจอมกวนกับเจ้าหน้าจืดนี้เอง ขอแสดงความไม่ยินดีที่พบกันอีกครั้งนะครับ”
คอสยืนมือทั้งสองข้างของเขาไปหาเรฟและลุค
เรฟกัดฟันแสยะยิ้มออกมาแล้วยื่นมือไปจับมือของคอส ส่วนทางด้านลุคก็ยืนมือไปจับโดยไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา
“ข้าเอาแกตายแน่”
“พร้อมเสมอไอ้บ้าหัวแดง”
การพบกันของทั้งสองราวกับว่ามือที่ทั้งสองคนกำลังจับกันอยู่นั้นมีเปลวเพลิงกำลังฉุกโชนอยู่ตลอดเวลายังไงยังงั้น
“เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”
การพูดขึ้นของรุยทำให้สงครามประสาทที่กำลังดำเนินอยู่ต้องพักรบกันก่อนช่วยคราว
คอสดึงมือของตัวเองทั้งสองข้างกลับมา แล้วเอามือที่จับกับเรฟไปเช็ดเสื้อของตัวเอง พร้อมยักคิ้วใส่ จากนั้นจึงหันไปตั้งใจฟังที่รุยพูด
ส่วนเรฟก็ยืนแยกเขียวใส่คอสก่อนแล้วหันไปหารุยเช่นกัน
“งั้นเริ่มกันเลยนะ”รุยกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อให้สามารถมองเห็นใบหน้าของทุกคนได้ “พวกนายทุกคนยกเว้นท่านฮาเดสคงรู้สินะ ว่าเรื่องที่ชั้นรับฝากมาจากองค์ราชานั้นมีอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือให้ช่วยดูแลบุตรชายของท่าน ที่ข้าเคยบอกพวกเจ้าไปหลังจากที่พบเจอกับท่านฮาเดสครั้งแรก และส่วนอีกเรื่องคือตามหามงกุลเพชรเจ็ดอัญมณีเครื่องหมายแห่งกษัตริย์ให้พบ”
คอสถึงกับเปิดตาออกกว้างภาพในความฝันนั้นลอยกลับเข้ามาในหัวเขาอีกแล้ว แต่ครั้งนี้กลับไม่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจหรือสงสัยอะไรอีก
“นายรู้เหรอ ว่ามงกุลซ่อนอยู่ที่ไหน”
“รู้สิครับ”คิดตอบขึ้นมา “อยู่ในโรงเรียนมหาเวทย์อิดินเบิคไงละครับ”
“โรงเรียนมหาเวทย์อิดินเบิค”
คอสพูดชื่อโรงเรียนทวนซ้ำอีกครั้ง เขาแทบจะไม่เชื่อในการได้ยินของหูตัวเองเลยที่เดียว นั้นก็เพราะว่าโรงเรียนอิดินเบิคเป็นโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดและเหล่าปีศาจมากมายก็อยากเข้ามากที่สุดในเดิธเวิลด์ ซึ่งหนึ่งในปีศาจมากมายนั้นก็มีตัวเขาปนอยู่ด้วย
ดวงตาที่เปล่งประกายอย่างตื่นเต้นของเขามองไปยังใบหน้าของคิดและรุยซึ่งทั้งสองก็รู้ถึงความฝันของเขาดี
“ท่านฮาเดสข้าจะส่งท่านเข้าไปเรียนที่นั้นพร้อมๆกับคิดและเนวเพื่อตามหาที่ซ่อนของมงกุลเพชรเจ็ดอัญมณีที่ราชาองค์ก่อนเป็นคนซ่อนเอาไว้ให้พบ”
“ครับ / ค่ะ”
เด็กหนุ่มสาวทั้งสามคนขานรับหน้าที่ที่ตนเองได้รับมาพร้อมกันโดนมิได้นัดหมาย
“เนวกับคิดพวกเธอออกไปพักผ่อนข้างนอกก่อน”
เด็กทั้งสองเดินออกไปตามคำสั่งของรุยโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทำให้ในห้องแห่งนี้เหลือก็เพียงแต่รุยคอสเรฟและลุคเท่านั้น
“มีอะไรงั้นเหรอคุณรุย”
“ยังเหลือเวลาอยู่อีกสองวันก็คือวันนี้และพรุ่งนี้ นายจะต้องฝึกใช้พลังเวทย์ให้ได้เมากกว่าตอนที่สู้กับเจ้าเลือดสีเขียวครั้งนั้นให้ได้”
เด็กหนุ่มฉีกยิ้มออกมาน้อยๆที่มุมปากของเขา
“กำลังจะขอร้องแบบนั้นอยู่พอดีเลย”
ความคิดเห็น