ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบ) [Fic Tom x Hermione] My demon รักชั่วนิรันดร์...ปีศาจของฉัน

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8 แองกวิส แซงก์ทิส

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 61


    ตอนที่ 8 แองกวิส แซงก์ทิส


    ความตึงเครียดที่ลูเซียน่าสร้างให้เฮอร์ไมโอนี่เมื่อยามเช้าเลือนหายอย่างรวดเร็วเมื่อเด็กสาวผมบลอนด์ชวนเธอไปทานอาหารเช้าที่ห้องโถงใหญ่ซึ่งผู้คนค่อนข้างบางตา นี่ก็เกือบเก้าโมงเช้าแล้ว หลายคนยังไม่ยอมตื่น สงสัยคนเหล่านั้นคงของดอาหารเช้า


    สองสาวนั่งลงตรงหน้าเอไรออน วีสลี่ย์เหมือนเดิม เด็กหนุ่มผมสีแดงเพลิงเองก็หันมาทักทายอรุณสวัสดิ์ทั้งคู่ก่อนหันหน้ากลับไปคุยเรื่องซ้อมควิดดิชกับนักเรียนปีเจ็ดคนหนึ่งผู้มีรูปร่างสูงใหญ่


    “โชคดีกับการซ้อมเอไรออน” เฮอร์ไมโอนี่อวยพรตามมารยาทซึ่งวีสลี่ย์เองก็เอ่ยขอบคุณพร้อมรอยยิ้มกว้างมีชีวิตชีวาบนใบหน้า


    ทั้งเธอและลูเซียน่าต่างทานอาหารเช้าอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก ต่อมาสองสาวผมดำและแดงคู่หูก็โผล่มานั่งรวมกลุ่มด้วย เอมิเลียกัดฮันนี่โทสต์เข้าปากพร้อมกันกับจู่ๆ บรรยากาศทั้งโต๊ะกริฟฟินดอร์ก็เปลี่ยนไป สายตาหลายคู่คล้ายกับว่าหันตรงมาทางเฮอร์ไมโอนี่ไม่เว้นแม้แต่อีกสามสาวรอบตัวของเธอเอง เฮอร์ไมโอนี่มองทั้งสามอย่างงุนงงขณะดาโกต้าพยักเพยิดไปด้านหลังของเธอ


    เฮอร์ไมโอนี่หันมองตามท่าทางพยักเพยิดพบกับทอม ริดเดิ้ลหรือว่าที่โวลเดอมอร์กำลังยืนหลังตรงเป็นสง่าเอามือไพล่หลังเอาไว้ ใบหน้าไม่ปรากฏอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้นมีเพียงแต่ความแข็งกร้าวจากดวงตาสีดำสนิท


    “คุณเคลียร์วอเตอร์ อาจารย์ใหญ่ดิพพิทอยากให้ผมพาคุณไปพบเขาที่ห้องอาจารย์ใหญ่” ทอม กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์เช่นเดียวกับสีหน้า


    เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ลุกขึ้นโดยทันที เธอกำลังค้นหาเหตุผลพันร้อยแปดข้อมาอ้างอิง “อาจารย์ใหญ่ได้บอกคุณไหมว่าเรื่องอะไร” เธอถามด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์เช่นกันเป็นการเหน็บแหนมไปในตัว ทอมมองเมินแม้ว่าในใจจะหงุดหงิดที่เลือดสีโคลนคนหนึ่งกล้าเหน็บแหนมเขา


    “ไม่ได้บอก เขาแค่ส่งข่าวมา” ทอมตอบพร้อมยิ้มหยัน “เดี๋ยวไปถึงคุณก็รู้เองอย่าถามผมให้มากความจะดีกว่าเพราะผมเองก็ไม่ทราบเช่นกัน”


    เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจก่อนหันมาหาอีกสามสาว “เดี๋ยวเจอกัน” ทั้งลูเซียน่า เอมิเลีย ดาโกต้าต่างพยักหน้าให้เชิงเป็นกำลังใจให้ราวกับว่าเธอกำลังจะเดินเข้าสู่สงครามอันตรายต่อชีวิตมากๆ เฮอร์ไมโอนี่ซาบซึ้งในความเป็นห่วงทว่าโดยแท้จริงแล้วต่อให้อยู่กับทอม ริดเดิ้ลตัวอันตรายอย่างแท้จริงแล้ว เธอมั่นใจว่าถ้าหากจู่ๆ เขานึกครึ้มจะฆ่าเธอ เฮอร์ไมโอนี่ค่อนข้างมั่นใจมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าตนจะเอาตัวรอดได้แน่นอนแต่เมื่อเพื่อนๆ ห่วงใยเธอขนาดนี้ เฮอร์ไมโอนี่จึงได้แต่ยิ้มตอบ


    ระหว่างทางเดินไปยังชั้นเจ็ดของปราสาทเพื่อไปยังรูปปั้นหินการ์กลอยที่ที่มีบันไดวนไปห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่อย่างเงียบเชียบ สองหนุ่มสาวจากบ้านคู่อริไม่ได้เอ่ยอะไรเลยจนกระทั่งทั้งคู่เดินมาหยุดตรงหน้ารูปปั้น ทอมเอ่ยรหัสผ่านแล้วเจ้ารูปปั้นการ์กลอยก็กระโดดออกไปทางด้านข้าง กำแพงหินด้านหลังค่อยๆ แยกออกจากกันจนปรากฏบันไดเวียน


    ทั้งคู่ก้าวเข้าไปพร้อมทอมพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ “คุณเคลียร์วอเตอร์ เมื่อคืนนี้ผมต้องขออภัยที่กระทำตนไม่เป็นสุภาพบุรุษ หวังว่าคุณจะให้อภัย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด


    เฮอร์ไมโอนี่แอบเบ้ปากในใจ คนอย่างทอม ริดเดิ้ลหรือว่าที่โวลเดอมอร์น่ะหรือจะต้องอ้อนวอนขอให้ใครมาอภัย เธอเชื่อว่าคนอื่นต่างหากจะต้องขอความเมตตาจากเขา


    “คุณเคยส่องกระจกมองตัวเองบ้างไหมเวลาเอ่ยคำโกหกออกมา” เฮอร์ไมโอนี่ถาม จากประโยคนี้ทำให้ทอมต้องหันขวับมองผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาตอนนี้


    “ขอโทษนะ คุณกำลังหมายความว่าไง” ทอมถามอย่างไม่แน่ใจนักว่าจะมีใครกล้าเอ่ยคำพูดนี้กับเขา แม้แต่พวกที่ก้มหัวให้เขายังไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าขัดพวกนั้น แล้วใครหน้าไหนจะมากล้าขัดเขายกเว้น….เพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์คนนี้ เขากำลังให้โอกาสให้เธอเปลี่ยนคำพูดเพราะต่อจากนี้เขาอาจไม่ใจเย็นเหมือนเดิม


    “ฉันถามว่าคุณเคยส่องกระจกตัวเองไหมเวลาคุณกำลังโกหก” เธอเน้นย้ำทุกถ้อยคำ


    ทอมขบกรามพร้อมมือที่ไขว้อยู่ด้านหลังเองก็กำมัดแน่น ในใจคิดแต่เพียงว่าหล่อนกล้าดีอย่างไรมาพูดกับเขาแบบนี้ เธอมีสิทธิ์อะไรเพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์!


    “คุณถามผมเช่นนี้ มีเจตนาอะไรกันแน่คุณเคลียร์วอเตอร์ ผมเคยโกหกคุณเมื่อไรกัน” ทอมพูดน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ แม้ใบหน้าเขาจะยังคงความนิ่งสงบเอาไว้เหมือนทุกทีแต่จะมีใครรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วตอนนี้ในใจเขากลับร้อนรุ่มเป็นไฟราวกับหม้อน้ำที่กำลังเดือดปุดๆ


    ได้ยินเด็กหนุ่มข้างๆ พูดเช่นนี้แล้ว เฮอร์ไมโอนี่เองก็ได้แต่ถอนหายใจ “รู้ไหมคุณไม่ได้มีชีวิตอยู่โดยลำพังนะ”


    ทอมหันขวับเมื่อเพเนโลพีกล่าวคำนั้นออกมา ใจหนึ่งเขาโกรธเกรี้ยวทว่าอีกใจกลับรู้ดีว่าเพเนโลพีพูดถูก เขาไม่ได้ลำพังแต่จากประสบการณ์ชีวิตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาเข้าใจดีว่าทำไมการอยู่ตัวคนเดียวและมีอำนาจจะรู้สึกดีขนาดไหนที่ใครๆ ก็ต้องหมอบกราบแทบเท้าเขา ร้องขอความเมตตาจากทอมหรือแม้แต่อกสั่นขวัญแขวนทุกครั้งที่ได้ยินนามของเขาทว่ามีหรือว่าคนอย่างเขาจะยอมให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะมาพูดจาราวกับรู้จักเขาดี


    ทอมหันไปกำลังจะเอ่ยแย้งคำพูดของเพเนโลพีเมื่อสักครู่แต่บันไดหินกลับเลื่อนจนมาหยุดตรงทางเดินไปสู่ประตูห้องอาจารย์ใหญ่ฮอกวอต


    เฮอร์ไมโอนี่ชิงก้าวออกไปก่อนเพื่อจะได้ไม่ต้องได้ยินเขาแย้งหรืออะไรอีก ส่วนทอมเมื่อเห็นอีกฝ่ายก้าวออกไปก่อนโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เอ่ยอะไรก็ได้แต่กำหมัดแน่นยิ่งกว่าเดิมจนเล็บฝังเข้าเนื้อบนฝ่ามือ เด็กสาวจับที่จับทองเหลืองเคาะและได้ยินเสียงหัวเราะจากศาสตราจารย์ดิพพิทดังลอดออกมาขณะประตูค่อยๆ แง้มเปิดออก


    ภาพแรกที่สองหนุ่มสาวเห็นคือเด็กหนุ่มคนหนึ่งผู้มีผมสีบลอนด์ซีดจากทางด้านหลัง หลังของเขาขยับไหวๆ ส่วนอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตก็เอ่ยชมเชยอะไรบางอย่างและมีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า เมื่อชายวัยชราสังเกตเห็นนักเรียนคนโปรดและนักเรียนใหม่จากโบซ์บาตงส์เดินเข้ามา เขาก็เอ่ยทักทายทันที เด็กหนุ่มผมบลอนด์คนนนั้นหันตามเสียงของชายชรา


    “เข้ามาๆ ทอมและคุณเคลียร์วอเตอร์” ดิพพิทร้องเรียก กวักมือไหวๆ


    ทอมเดินเข้าไปหาทว่าเฮอร์ไมโอนี่กลับได้แต่ยืนอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกขณะเด็กหนุ่มคนนั้นหันมายักคิ้วให้ ท่าทางกวนประสาท ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองสำรวจไปทั่วใบหน้าไม่หยุด แม้ว่าในใจลึกๆ จะรู้ดีอยู่แล้วว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือใครทว่าไม่ว่ายังไงเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง


    ผมบลอนด์ซีด ดวงตาสีเทาอ่อน ผิวซีดขาว ใบหน้าออกแหลมลักษณะแบบนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจากเดรโก มัลฟอย ศัตรูตลอดกาลของโกลเด้นทรีโอและคนที่เธอลืมไปเสียสนิทว่าครั้งหนึ่งนาฬิกาย้อนเวลาได้พาไปพบเขาโดยบังเอิญที่ห้องเรียนร้างของปราสาทฮอกวอตและการสนทนาของทั้งคู่จบลงด้วยการใช้กำลังกัน ไม่อาจใช้วาจาพูดคุยกันได้


    ต้องยอมรับว่าเธอลืมเรื่องของเดรโกไปเสียสนิทเลย มัวแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับเรื่องอื่นๆ จนลืมไปว่ามีคนจากโลกอนาคตย้อนเวลากลับมาเหมือนเธอเช่นกัน


    ทั้งทอมและอาจารย์ใหญ่ดิพพิทมองเพเนพี เคลียร์วอเตอร์ยืนนิ่งแบบปากเผยออ้าค้างด้วยสายคนงล่ะอย่าง ขณะที่ดิพพิทมองด้วยสายตาในชนิดที่คิดว่าเด็กสาวคนนี้กำลังตกตะลึงกับความหล่อเหลาของแองกวิส แซงก์ทิสอยู่แน่นอนทว่าทอมกลับมองสลับกับเพเนโลพีและเด็กหนุ่มที่ไม่คุ้นหน้าคนนี้ ในใจสงสัยว่าเพเนโลพีรู้จักกับเด็กหนุ่มผมบลอนด์คนนี้หรือไม่เพราะทั้งสายตาและสีหน้ามันบ่งบอกไปในทางนั้น


    ศาสตราจารย์ดิพพิทกระแอมไอ “คุณเคลียร์วอเตอร์ ผมรู้ว่านักเรียนใหม่ของเราหล่อเหลาไม่แพ้กับคุณริดเดิ้ลแต่คุณควรเก็บอาการและมานั่งได้แล้วว” อาจารย์ใหญ่ฮอกวอตในยุคสมัยนี้เอ่ยน้ำเสียงล้อเลียน


    ได้ยินเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็หุบปากฉับพร้อมขึงตาใส่อมานโด ดิพพิทไปรอบหนึ่งก่อนย่างก้าวพร้อมยืดหลังให้ตรงแน่วแน่ ไม่สะทกสะท้านกับคำล้อเลียน นั่งลงข้างเดรโก มัลฟอยมไม่แสดงความสนใจใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อตบตาให้เนียนที่สุด คงไม่เป็นผลดีเท่าไรนักถ้าหากว่าที่จอมมารจะรู้ว่าคนสองคนที่มีประวัติไม่เกี่ยวข้องกันเลยจะรู้จักกัน ส่วนทอม ริดเดิ้ลนั่งลงที่อีกด้านข้างของมัลฟอย


    อาจารย์ใหญ่ดิพพิทกวาดสายตามองนักเรียนทั้งสามคนพลางคลี่รอยยิ้มแล้วเอ่ย


    “ที่เรียกพวกคุณมาก็ไม่ได้มีธุระเรื่องใหญ่อะไรทว่าแค่เวลานี้เรามีนักเรียนเพิ่มเข้ามาในฮอกวอตอีกคนแล้ว ผมขอแนะนำให้พวกคุณสองคนรู้จักกับคุณแองกวิส แซงก์ทิส” ทอมหันมองเด็กหนุ่มผมบลอดน์ซีดคนนี้ก่อนยื่นมือให้เขาจับ


    “ทอม ริดเดิ้ลพรีเฟ็คบ้านสลิธีริน” เขาแนะนำตัว เดรโกยื่นมืออกไปจับตามธรรมเนียมด้วยความหวาดกลัวแต่พยายามสะกดกลั้นเอาไว้ทว่าไม่พอที่จะตบตาคนฉลาดและเจ้าเล่ห์อย่างทอมได้


    “อย่างที่คุณรู้คุณแซงก์ทิส ทอมเป็นพรีเฟ็คบ้านสลิธีริน บ้านที่คุณได้รับการคัดสรร เขาจะช่วยแนะนำอะไรต่างๆ เกี่ยวกับวิชาเรียนและฮอกวอตได้ดี ส่วนไหนคือส่วนหวงห้าม เขาจะเป็นคนบอกคุณเอง ส่วนคนที่อยู่ข้างคุณอีกคนคือนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาเรียนที่โบซ์บาตงส์คนนี้คือคุณเพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์ ตอนนี้เธอคือนักเรียนดีเด่นที่ได้คะแนนสูสีกับทอมมากทีเดียว”


    เฮอร์ไมโอนี่ยื่อมือให้จับตามมารยาท “ยินดีที่ได้รู้จัก”


    “นี่คือนักเรียนใหม่จากประเทศสวีเดน เขามีจดหมายแนะนำตัวจากสถาบันเดิร์มสแตรงก์ ผลการเรียนเป็นที่น่าพอใจ ฮอกวอตจึงจะรับเขาไว้เป็นนักเรียน เหตุผลที่ผมเรียกคุณมาทั้งสองคนก็เพราะคุณ” เขาชี้นิ้วมาที่เฮอร์ไมโอนี่ “คุณเป็นนักเรียนใหม่เช่นเดียวกันกับคุณแซงก์ทิส คุณอาจยังไม่คุ้นชินโรงเรียนไปมากกว่าคุณแซงก์ทิส จะเป็นการดีกว่าถ้าหากให้คุณริดเดิ้ลช่วยดูแลทั้งคุณและคุณแซงก์ทิสไปพร้อมกัน”


    สีหน้าทอมไม่พอใจขึ้นมาทันทีแต่ก็เก็บอาการได้อย่างรวดเร็ว ตัวเขาไม่อยากจะมานั่งดูแลนักเรียนใหม่เท่าไรนักแต่ก็ช่วยไม่ได้ถ้าต้องการตำแหน่งประธานนักเรียนในปีหน้า เขาก็ต้องกระทำตนเป็นพรีเฟ็คที่ดี “ผมยินดีรับผิดชอบให้ดีที่สุดครับศาสตราจารย์”


    อมานโดยิ้มกว้างเอ่ยว่าเยี่ยมๆ ก่อนให้นักเรียนทั้งสามคนออกไป ให้ทอมและเพเนโลพีช่วยกันพาแองกวิสเที่ยวฮอกวอต ทั้งสามคนเดินออกมาจากหอคอยตรงไปยังห้องโถงใหญ่ก่อนโดยทอมอ้างว่าจะพาแซงก์ทิสไปทำความรู้จักกับเพื่อนในบ้านสลิธีรินเสียก่อนแล้วจึงจะพาไปยังห้องนั่งเล่นสลิธีรินก่อนจะพาทำความรู้จักกับฮอกวอตหลังอาหารเที่ยง


    เมื่อทั้งสามมาถึงหน้าห้องโถงทอมจึงนัดกับเธอว่าให้เธอทานอาหารเที่ยงให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่ห้องโถงใหญ่และให้รอเขากับแองกวิสอยู่ที่นี่ ตอนบ่ายทอมจะพาทั้งเธอและแองกวิสแนะนำสถานที่หวงห้ามพร้อมกันแม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เธอรู้อยู่แล้วแต่เขาก็ยังยืนกรานคำเดิมก่อนเดินตรงไปทางบันได ลงไปยังชั้นใต้ดินอันเป็นที่ตั้งของหอนอนบ้านสลิธีริน


    เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่ถอดถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย ยิ่งหลีกหนีออกห่างกลับยิ่งถูกดึงเข้าใกล้ เพื่อสร้างความเสียหายต่อโลกเวทมนต์ในอดีตให้น้อยที่สุด เฮอร์ไมโอนี่จึงไม่คิดอยากจะสนิทกับใครมากเกินไปแม้แต่สามสาวกริฟฟินดอร์เหล่านั้นเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เธอเป็นเพื่อนกับพวกเขาและพวกเขาก็คือเพื่อนพวกแรกที่ได้พบครั้งแรกเมื่อย้อนเวลากลับมา แม้จะอยากสนิทสนมเพียงใดทว่าเธอก็ไม่อาจทำทุกสิ่งได้ตามใจชอบได้

     

    +---+


    ณ ชั้นใต้ดินของปราสาทฮอกวอต หนุ่มผมบลอนด์ซีดขาวกำลังเดินตามอยู่ด้านหลังเด็กหนุ่มผมสีดำสนิท ใบหน้าแข็งกร้าวด้วยสีหน้าหวาดระแวง


    ทอมรู้สึกถึงสายตาจากด้านหลังจึงหันไปทันเห็นสีหน้าระแวงของแองกวิสพอดิบพอดี ส่วนเดรโกในชื่อปลอมนั้นเปลี่ยนสีหน้าแทบจะทันที เมื่อเห็นคิ้วดำเลิกขึ้น เขาจึงได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อน


    “ทำไมถึงพาฉันมายังชั้นใต้ดินล่ะ” เดรโกเอ่ยถาม ซ่อนน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความกลัวเอาไว้


    ได้ยินคำถามเช่นนั้น ทอมก็ยิ้มเยือกเย็นตอบ “หอนอนบ้านสลิธีรินของเราตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของปราสาทฮอกวอตน่ะ ถ้านายเห็นห้องนั่งเล่นแล้วล่ะก็ นายจะชอบแน่นอน”


    เดรโกพยักหน้า “อดใจรอจะเห็นไม่ไหวเลยล่ะ”


    “ขอถามหน่อย นายอาศัยอยู่ประเทศสวีเดนมาตลอดตั้งแต่เกิดเลยหรือ” คราวนี้ทอมถามด้วยน้ำเสียงจับผิด เป็นน้ำเสียงที่ชวนกดดันไม่น้อยจนเดรโกเหงื่อผุดขึ้นตามไรผมและฝ่ามือเองก็เปียกชื้น หันใจเต้นระรัวพลางคิดคำโกหก แต่งเรื่องราวที่ดูสมเหตุสมผลให้ได้มากที่สุด


    “ไม่หรอกๆ ฉันเกิดที่อังกฤษและอยู่ที่นี่จนกระทั่งอายุราวห้าขวบถึงย้ายไปอยู่ประเทศสวีเดนก่อนเรียนที่เดิร์มแสตรงก์ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งตอนนี้ ฉันอยากย้ายกลับมาอยู่ที่อังกฤษ พ่อแม่เลยส่งฉันมาก่อน” เดรโกโกหกคำโตได้แต่หวังว่าจะตบตาว่าที่เจ้าแห่งศาสตร์มืดได้ ทอมเพียงร้องอ้อออกมา


    “เรื่องราวของนายช่างเหมือนเรื่องราวของคุณเคลียร์วอเตอร์” ทอมพูดหยั่งเชิง


    เดรโกงุนงงไปชั่วครู่ “ใครคือเคลียร์วอเตอร์หรือ” คราวนี้เขาไม่ได้แสร้งทำจริงๆ เขาลืมไปจริงๆ ว่าชื่อปลอมของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์คือเพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์


    “เพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์ คนที่นั่งอยู่ข้างนาย คนที่นายเจอเมื่อสักครู่นี้ไง” ทอมพูดพลางขมวดคิ้วมุ่น พยายามอ่านสีหน้าแววตาของเด็กหนุ่มคนนี้ให้ได้ อยากรู้ว่าแสร้งทำจริงหรือไม่ทว่าเมื่ออ่านแล้วบทสรุปคือ แองกวิส แซงก์ทิส ไม่ได้โกหก พลางคิดว่าเรื่องที่เขาสงสัยเมื่อยามอยู่ในห้องอาจารย์ใหญ่ดิพพิทในคราวนั้นคงจะเป็นเขาที่คิดมากไปเอง


    เดรโกแสร้งร้องอ๋อ “หล่อนน่ะเองน่ะเหรอจะว่าไปแล้วหล่อนหน้าตาดีไม่น้อยนะ” เดรโกพูดให้ดูเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รู้อะไรเลยเกี่ยวกับฮอกวอต ไม่ได้รู้ด้วยว่ากริฟฟินดอร์กับสลิธีรินเป็นศัตรูกันมาช้านานราวพันปี


    ทอมเองก็ไม่ได้ฉุกใจคิดไปอีกทางกับคำพูดของแองกวิสเลย เขาเพียงยิ้มเยาะนักเรียนใหม่คนนี้ “เป็นฉันจะไม่พูดแบบนั้นกับคนในสลิธีรินคนอื่นๆ เด็ดขาด”


    “ทำไมล่ะ” เดรโกถามต่อ


    “นายคงไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับฮอกวอตเลยสินะ นักเรียนบ้านสลิธีรินและกริฟฟินดอร์ถือเป็นศัตรูกันมายาวนานตั้งแต่ยุคสมัยก่อตั้งโรงเรียนแล้วล่ะ เรียกได้ไม่มีใครจะสองบ้านนี้จะมาญาติดีกันได้เลยแม้แต่นิดเดียว ถ้านายเอ่ยเรื่องพวกนี้ต่อหน้านักเรียนบ้านสลิธีรินคนอื่นๆ พวกเขาอาจไม่อยากคบนายเป็นเพื่อนก็ได้และฉันขอแนะนำว่านายคงไม่อยากตัวคนเดียวในบ้านนั้นแน่นอน”


    “ขอบคุณที่แนะนำ ฉันจะระวัง” เดรโกพูดพยักหน้าคล้อยตามคำพูดของทอมอย่างว่าง่าย ส่วนทอมก็ได้แต่ยิ้มเยาะเมื่อเห็นว่านักเรียนใหม่หลงเชื่อคำพูดเขาง่ายดายเหลือเกิน


    สองหนุ่มไม่ได้เอ่ยอะไรกันอีกจนกระทั่งเมื่อใกล้ถึงกำแพงหินอันเป็นทางเข้าหอนอนสลิธีริน ทอมเอ่ยรหัสผ่านเลือดบริสุทธิ์และหันมาบอกให้แซงก์ทิสจดจำเอาไว้ รหัสผ่านจะเปลี่ยนทุกเดือน เมื่อก้าวเข้าไปยังห้องนั่งเล่นที่มีแสงจากเทียนพร้อมด้วยแสงสีเขียวจากทะเลสาบดำส่องสะท้อนผ่านหน้าต่างเข้ามาสมทบ บรรยากาศเช่นนี้ช่างชวนให้เดรโกราวกับได้กลับบ้านแล้ว


    นักเรียนบ้านสลิธีรินคนอื่นๆ หยุดการกระทำทุกอย่าง สายตาทุกคู่จับจ้องมายังทั้งสองไม่วางตา ทอมเอ่ยเสียงก้องกังวานท่ามกลางความเงียบเพื่อแนะนำนักเรียนใหม่บ้านสลิธีริน หลายคนเมื่อเห็นว่าเขาเป็นพวกเลือดบริสุทธิ์จากสวีเดนจึงเข้ามาทักทายล้อมหน้าล้อมหลังทีเดียว ส่วนทอมดึงพวกคนในสมาคมลับของตนเองออกมาจากกลุ่ม เดินแยกไปอีกทาง


    “ทำตัวดีกับแซงก์ทิสเข้าไว้ เราจะดึงเขามาเป็นพวก นายคนนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนเราเพื่อดึงเพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์ให้เป็นพวกของเรา สายลับหนึ่งเดียวจากบ้านกริฟฟินดอร์” ทอมกระซิบบอกคนในสมาคมลับทั้งหลายอย่างแบล็ก โรซิเออร์และเอเวอรี่ก่อนพวกนี้จะพยักหน้ายอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี ส่วนเอเวอรี่พยายามทำใจกล้าสู้เสือเอ่ยสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจมาเนิ่นนานตั้งแต่รับรู้แผนการขั้นต่อไปของทอม


    “นายท่านคิดดีแล้วจริงหรือว่าจะดึงเลือดสีโคลนมาเป็นพวกของเราน่ะ”


    ทอมตวัดมองเอเวอรี่ด้วยสายตาลุกวาบ “ฉันบอกไปแล้วไงเอเวอรี่ว่าเราแค่จะหลอกใช้งานเลือดสีโคลนเท่านั้น เมื่อไรก็ตามที่มันหมดประโยชน์ ฉันจะส่งหล่อนให้พวกนายทรมานเล่นดีไหมเล่า” ทอมเอ่ยน้ำเสียงเยือกเย็นพร้อมยิ้มเหี้ยมเกรียม


    ผู้คนในสมาคมลับคนอื่นๆ ยิ้มตาม รอคอยเวลาที่จะได้ทรมานพวกเลือดสีโคลนที่บังอาจได้เข้าเรียนเวทมนต์ที่ฮอกวอตทั้งที่มันควรจะสงวนไว้เพื่อผู้วิเศษแท้ๆ



    *Talking*

    กลับมาแล้วค่ะ ขออภัยที่หายไปนานเพราะยุ่งจริงๆ ค่ะ ตอนนี้ก็ใกล้จะสอบแล้วอาจหายไปนานเหมือนเดิม คาดว่าอาจหายไปนานถึงปีใหม่เลยค่ะ ขออภัยด้วยค่ะ ขอให้สนุกนะคะ 

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×