ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบ) [Fic Tom x Hermione] My demon รักชั่วนิรันดร์...ปีศาจของฉัน

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9 หลิน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.13K
      115
      15 ม.ค. 62

    ตอนที่ 9 หลิน


    เฮอร์ไมโอนี่นั่งทานอาหารกลางวันเงียบๆ คนเดียวท่ามกลางนักเรียนประปรายของฮอกวอต นักเรียนหลายคนยังไม่กลับจากสนามควิดดิชรวมทั้งพวกนักกีฬาจากแต่ละบ้านด้วย สงสัยนักเรียนหายตัวไปโดยที่ไม่มาทานอาหารกลางวันทั้งที่มันถึงเวลาแล้วคงจะรวมตัวกันอยู่ที่นั่น พวกนักกีฬาคงไปสังเกตกลยุทธ์ของบ้านอื่นๆ ส่วนพวกสามสาวกริฟฟินดอร์คงหายหน้าไปเชียร์เอลดริก ดิกกอรี่อยู่แน่ๆ ลูเซียน่าอาจโดนลากไปด้วย


    เฮอร์ไมโอนี่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตขณะยกแก้วน้ำฟักทองขึ้นดื่ม ส่วนหูยังคงได้รับเสียงพูดคุยพึมพำไม่เป็นภาษาจากคนอื่นๆ ทว่ากลับมีเสียงดังของคนกลุ่มหนึ่งดังชัดกว่าคนอื่นๆ ที่มาของเสียงมาจากอีกฟากหนึ่งของห้องโถง


    “แซงก์ทิส บอกหน่อย เท่าที่นายเล่ามา นายบอกว่าอยู่สวีเดนแต่ไปเรียนไกลถึงบัลแกเรียเชียวเหรอ” เสียงหนึ่งลอยดังเข้ามากระทบหูเป็นเสียงที่ไม่คุ้นหู เฮอร์ไมโอนี่จึงชำเลืองสายตาขึ้นมอง เห็นด้านหลังของเด็กหนุ่มผมยุ่งสีดำสนิท ดูจากด้านหลังแล้วกลับคุ้นตา ท่าทางการนั่งเช่นนั้นราวกับว่าเธอกำลังมองซิเรียส แบล็กผู้ที่ตายไปแล้วอยู่ คงเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นคนจากตระกูลแบล็ก


    ส่วนมัลฟอยนั้นก็ยิ้มตอบแหยๆ ให้ก่อนกุเรื่อง “พ่อฉันเป็นคนบัลแกเรียน่ะ เขาจบจากเดิร์มแสตรงก์เลยอยากให้ฉันเข้าเรียนที่นั่นเหมือนเขา”


    “งั้นทำไมนายถึงย้ายมาเรียนฮอกวอตเอากลางคัน” เอเวอรี่ถามต่อราวกับพยายามคาดคั้นคำตอบ


    เดรโกตีหน้าเศร้า “พ่อฉันเพิ่งเสียไปด้วยโรคไข้มังกรน่ะ มันเศร้าเกินไปที่จะเรียนที่นั่นต่อไปเพราะมันชวนให้ฉันนึกถึงพ่ออยู่ตลอดเวลา แม่จึงคิดว่าฉันควรย้ายมาเรียนที่ฮอกวอตจะเป็นการดีกว่า”


    “นายดูสนิทกับพ่อแม่มากเลยนะ” คอว์ริส มัลฟอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรเชิงเหยียดหยามและไม่รู้ถึงคำสั่งใหม่จากผู้นำในสมาคมลับของพวกเขา ทอมไม่รวมมัลฟอยอยู่ในแผนด้วยเพราะเขาหยิ่งทระนงตนเกินไป คิดว่าตนเป็นเลือดบริสุทธิ์อันสูงส่งและร่ำรวยที่สุดในอังกฤษ คอว์ริสจึงไม่เหมาะกับแผนตีสนิทแซงก์ทิสเสียเท่าไรนัก


    แองกวิส แซงก์ทิสแค่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้โดยไม่ได้เอ่ยอะไรต่อจากนั้นอีกเพราะคงรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงในด้านลบของมัลฟอย ทอมเห็นดังนั้นแล้วจึงตวัดสายตาใส่รอนิอัส แบล็กให้เขาหยุดมัลฟอยและทำตามแผนการซะ ส่วนเด็กหนุ่มผมสีดำยุ่งๆ คนนั้น หลุบสายตาลงต่ำเป็นภาษากายบอกทอมว่าเขารับทราบคำสั่งแล้ว


    รอนิอัสเงื้อแขนกอดคอเพื่อนนักเรียนคนใหม่ “นายยังคงไม่รู้จักทุกคนในนี้ ฉันจะแนะนำให้รู้จัก” เขาว่าพลางชี้นิ้วไปยังผู้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามทุกคน “นั่นโดโลฮอฟ รู้ควู้ดและเอเวอรี่” แล้วชี้นิ้วกลับมายังฝั่งที่ทั้งสองนั่งอยู่ “นั่นทอม พรีเฟ็คปีหกบ้านเรานายคงรู้จักแล้ว” เขาหันนิ้วชี้ไปทางขวาของเขาแทน “คนนี้มัลฟอยและเลสแตรงค์”


    เดรโกโบกมือทักทาย หลายคนทักทายตอบแสดงความเป็นมิตร พวกเลือดผสมบางคนก็จำใจต้องทำเพราะไม่กล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกเลือดบริสุทธิ์หรืออาจจะยกเว้นทอม ริดเดิ้ลไว้คนหนึ่ง


    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเยาะหลังหนังสือพิมพ์เมื่อเห็นสายตาขลาดกลัวจากพวกผู้เสพความตายในอนาคต เมื่อทานอาหารจนอิ่มหนำสำราญ เฮอร์ไมโอนี่พับหนังสือพิมพ์เก็บให้เรียบร้อยและหยิบสมุดบันทึกวิชาอักษรรูณโบราณขึ้นมาอ่านพลางๆ รอเวลานัดหมายของทอม ขณะเดียวกันนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์เกือบทุกคนพากันจับกลุ่มคุยเสียงดังเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ เรียกความสนใจจากนักเรียนบ้านอื่นหลายคน


    สามสาวเดินมานั่งตรงข้ามเฮอร์ไมโอนี่สองคนส่วนลูเซียน่านั่งลงข้างเธอ ทันทีที่สามสาวเห็นสมุดบันทึกเรียนต่างก็อุทาน “ไม เธอจะมาขยันเรียนตอนนี้ไม่ได้นะ” ดาโกต้าเอ่ยก่อนคนแรก


    เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว “ทำไมตอนนี้ไม่ได้ล่ะ”


    “ไม นี่ใกล้แข่งควิดดิชนัดสำคัญแล้วนะ กริฟฟินดอร์เจอกับเรเวนคลอ ปีนี้เราจะโค่นแชมป์ ควิดดิชอย่างพวกสลิธีรินลงให้ได้ ปีนี้พวกนั้นจะต้องเสียแชมป์ ทุกคนในกริฟฟินดอร์จะเชียร์อย่างสุดกำลังกายและกำลังใจ” เอมิเลียเสริม พลางแงะไข่แดงสุกบนไข่ขาวของไข่ดาว


    “ไม่ต้องฟังสองคนนี้มากหรอกไม ขยันเรียนคือสิ่งที่สองคนนี้ทำไม่ได้เลยจะดึงเธอให้เป็นพวก” ลูเซียน่าพูดแทงใจดำสองสาวตรงข้ามเฮอร์ไมโอนี่จนทั้งสองร้องทักท้วงเสียงดัง ดาโกต้าแกล้งโยนลูกเบอร์รี่ใส่เด็กสาวผมบลอนด์ ส่วนลูเซียน่าเองก็ใช่ว่าจะยอมโดนแกล้งอยู่ฝ่ายเดียว เธอจึงโยนลูกองุ่นใส่หน้าของเด็กสาวผมแดง เป็นสงครามเล็กๆ บนโต๊ะอาหารที่นานครั้งจะได้เห็นรอยยิ้มจากเด็กสาวผมบลอนด์ผู้เคร่งเครียดกับตำราเรียนตลอดเวลา เอมิเลียและเอไรออนปรบมือหัวเราะเชียร์


    เฮอร์ไมโอนี่เห็นเพื่อนสนุกสนานแล้วตนเองก็อดที่จะยิ้มและหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้ มันนานเท่าไรแล้วนะตั้งแต่โวลเดอมอร์กลับสู่อำนาจและศาสตร์มืดแผ่ขยายปกคลุมโลกเวทมนต์ นานเท่าไรแล้วนะที่เธอเริ่มออกตามหาฮอร์ครักซ์กับแฮร์รี่และรอน นานเท่าไรแล้วนะที่เธอไม่ได้ยิ้มและหัวเราะกับเพื่อนๆ แบบนี้ อาจจะเรียกได้ว่าครั้งนี้คือครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา


    +---+

     

    ณ อีกฟากหนึ่งของห้องโถง นักเรียนบ้านสลิธีรินหันมองบรรยากาศของบ้านกริฟฟินดอร์ก่อนหันมาพึมพำนินทากันสนุกสนาน แม้แต่กลุ่มของทอมเองก็ไม่เว้น


    “พวกเลือดชั้นต่ำ ส่งเสียงดังน่ารำคาญ!” มัลฟอยพูดน้ำเสียงแทบจะคำราม


    “เฮอะ นายจะสนใจทำไมมัลฟอย เมื่อไรก็ตามที่เราประสบความสำเร็จ พวกนั้นจะต้องเปลี่ยนจากหัวเราะเป็นกรีดร้องแทนล่ะนะ” เลสแตรงค์ว่าพลางหัวเราะเสียงเย็น มัลฟอยหันมาเอ่ยสนับสนุนเพื่อนเลือดบริสุทธิ์เต็มที่


    ทอมมองสีหน้าหยิ่งทระนงจากสองคนนั้นแล้วรู้สึกภายในกายเริ่มคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะ รอนิอัสคงรู้สึกได้จึงสงบปากสงบคำอย่างยิ่ง ทอมรวบช้อนส้อมก่อนลุกขึ้นยืน


    “ถึงเวลาที่ฉันต้องแนะนำปราสาทให้นายรู้จักแล้ว” เขาพูดกับแซงก์ทิสโดยตรง ดวงตาสีเทาซีดปรากฏร่องรอยหวาดหวั่น เดรโกพยักหน้าและลุกขึ้นยืนตามทอมไปรอที่ประตูทางเข้าของห้องโถงขณะว่าที่จอมมารเดินไปที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ ตำแหน่งที่เพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์นั่งหัวเราะกับเพื่อนอยู่


    เขาเดินมาหยุดด้านหลังเด็กสาว กริฟฟินดอร์ทุกคนหยุดหัวเราะ บรรยากาศสนุกสนานเมื่อสักครู่เปลี่ยนเป็นมืดทะมึน รังสีของความเป็นศัตรูพุ่งปะทุออกมาจากตัวกริฟฟินดอร์ทุกคนทว่ามีหรือที่คนอย่างทอม ริดเดิ้ลจะสนใจหรือสะทกสะท้าน


    “คุณเคลียร์วอเตอร์ ถึงเวลาแล้ว” ทอมเอ่ยเสียงเรียบ เพเนโลพีถอนหายใจอีกแล้ว! ทำไมแทบจะทุกครั้งที่เขาเข้าคุยด้วย หล่อนถึงต้องถอนหายใจราวกับเบื่อหน่ายเขายังงั้นแหละ! เพลิงโทสะที่แต่เดิมกำลังคุกรุ่นคราวนี้ดูท่าจะปะทุเสียแล้วและมันแสดงออกมาทางสีหน้าของเขา ใบหน้าที่แต่เดิมเองก็เรียบเฉยอยู่แล้วกลับยิ่งเฉยชามากขึ้นไปอีก


    เพเนโลพีหันไปกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของลูเซียน่าก่อนลุกขึ้นเดินผ่านเขาไปยืนตรงหน้าห้องโถง ยืนกันคนละฝั่งกับแองกวิส แซงก์ทิสและสองนักเรียนใหม่ปีหกก็ไม่มองหน้ากันเลยแม้แต่น้อย อย่างน้อยทอมคงมั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าสองคนนี้ไม่มีทางรู้จักกันมาก่อนแน่นอน


    ทว่าทอมกลับคาดคะเนผิดไปอย่างมหันต์


    +---+

     

    เฮอร์ไมโอนี่กำลังเดินตามหลังสองหนุ่มพลางมองพฤติกรรม ท่าทางแสร้งเป็นประหลาดใจหรือหวาดกลัวในความกว้างขวางใหญ่โตของปราสาทหรือป่าต้องห้ามพื้นที่ที่ซึ่งค่อนข้างอันตรายต่อนักเรียนทุกคนถึงชีวิต ขณะมองเฮอร์ไมโอนี่ได้เหลือบตามองขึ้นบนไปไม่ต่ำกว่าสิบรอบแล้ว เมื่อหันมองไปหาทอมก็ดูเขาไม่ได้ระวังตัวหรือระแคะระคายสงสัยในตัวของแองกวิส แซงก์ทิสเลยแม้แต่น้อย


    ไม่ได้ผิดไปกับที่คาดไว้สักเท่าไร ทอมหรือโวลเดอมอร์มีนิสัยที่เรียกได้ว่ามั่นใจในตัวเองสูง เขามักจะประเมินคนอื่นๆ หรือคู่ต่อสู้ต่ำกว่าเสมอ บางครั้งก็อาจทำให้เขาพลาดได้หลายครั้ง ดูจากผลลัพธ์ในตอนนี้สิ


    ทอมและเดรโกหันกลับมามองเธอ เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้วตอบกลับ ทอมถอนหายใจ “คุณเคลียร์วอเตอร์ ศาสตราจารย์ดิพพิทได้มอบหน้าที่ดูแลพวกคุณสองคนให้ผม ผมมีหน้าที่รับผิดชอบพวกคุณสองคน เพราะฉะนั้นคุณควรให้ความร่วมมือสักหน่อยไหม แค่เสแสร้งก็คงดี”


    เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะ เดรโกขมวดคิ้วสงสัย ส่วนทอมนั้นดูหน้าตึงไปเล็กน้อยเมื่อโดนเด็กสาวคนหนึ่งหัวเราะใส่


    “คุณเคลียร์วอเตอร์ไม่ทราบว่ามีอะไรน่าขำนัก” ทอมเอ่ยถามด้วยความสุภาพทว่ากลับเอ่ยลอดไรฟันด้วยกรามที่ขบแน่นจนเห็นสันนูนบนใบหน้า นั่นยิ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่บิดมุมปากให้ยกขึ้นสูง


    “ให้ความร่วมมือเหรอ คุณไม่ได้อยากรับผิดชอบหน้าที่นี้อยู่แล้วจริงไหม คุณคงแค่อยากได้ตำแหน่งประธานนักเรียนในปีหน้าและการได้ทำหน้าที่นี้ก็คงเพื่อให้ตัวเองได้ขยับเข้าใกล้เสียมากกว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องช่วยคุณเพราะคุณคงไม่มีอะไรมาแลกเปลี่ยน”


    เดรโกขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม ส่วนทอมนั้นจากที่ความโกรธคุกรุ่น ตอนนี้เขากลับเผยรอยยิ้มเย็นชาผสมกับความเจ้าเล่ห์


    “คุณอยากได้อะไรแลกเปลี่ยนเล่า” ทอมถามด้วยรอยยิ้มเหี้ยม


    ส่วนเดรโกได้แต่วิตกกังวลในใจ ฝ่ามือชื้อเหงื่อโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้เลยว่าเกรนเจอร์กำลังจะทำอะไรถึงได้เลือกที่จะเอ่ยคำพูดท้าทายจอมมารในอนาคตในขณะที่ตัวเขาได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกกลัวเอาไว้ตลอดเกือบบ่ายของวันนี้ ความกลัวที่ต้องมาอยู่ใกล้กับจอมมารผู้โหดร้าย ทั้งกดขี่พ่อแม่เขาต่างนานา บังคับให้เขาพาผู้เสพความตายเข้าไปในโรงเรียนฮอกวอต แม้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คนนี้ไม่ใช่จอมมารที่เดรโกรู้จักทว่ากลับมีรังสีแผ่อายเหมือนจอมมารทีเขารู้จักไม่มีผิด


    เดรโกกลัวว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เขาจึงเอาแต่มองตาของเกรนเจอร์อยู่ตลอดเวลาหวังว่าหล่อนจะสังเกตเห็นและเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะสื่อผ่านทางดวงตา เขาเกือบลิงโลดในใจเมื่อเกรนเจอร์สบกับดวงตาสีเทาซีดของเขาแวบหนึ่งทว่าก็เลื่อนสายตาไปอีกทางอย่างรวดเร็วก่อนเอ่ยคำพูดที่ทำให้เขาต้องเสียวสันหลังวาบทันที


    “ความซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยพร้อมรอยยิ้มยียวน “คุณให้ได้ไหมล่ะ”


    ทอมรู้สึกไฟที่ดับมอดในใจกลับมาลุกโชติช่วงอีกครั้ง ดวงตาแทบจะพ่นไฟออกมา หากสายตาสามารถฆ่าคนตายได้ล่ะก็ป่านนี้เพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์คนนี้คงไม่ยืนพูดจาโอหังแบบนี้ใส่เขาหรอก คงได้ไปนอนในโลงศพกลับบ้านในโลกมักเกิ้ลโสโครกไปแล้ว แม้ว่าทอมอยากจะร่ายคาถากรีดแทงหรือคาถาพิฆาตใส่หล่อนแค่แต่เพื่อแผนการดึงมาเป็นพวกเขาต้องทำให้สำเร็จ


    ทอมจึงได้แต่สูดลมหายใจเข้าออกเพื่อสะกดตนเองขณะกำลังเอ่ยปากอีกครั้งเสียงหัวเราะร่าเริงพร้อมเอ่ยเรียกชื่อของทอมดึงขึ้งข้างหลังเขา เมื่อหันไปมองก็พบฮอเรซ ซลักฮอร์นกำลังยิ้มกว้างและพูดบางอย่างกับทอมอย่างออกรสชาติ ส่วนสีหน้าแข็งกระด้างเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มสดใสเสียแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ส่ายศีรษะพร้อมรอยยิ้มที่สมเพสในตัวทอม


    เดรโกหันไปสบกับดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งแกมตำหนิ เฮอร์ไมโอนี่ยักไหล่และสังเกตเห็นว่ามือข้างหนึ่งของศัตรูโกลเด้นทรีโอกำลังกำไม้กายสิทธิ์เอาไว้ตรงกระเป๋าเสื้อคลุม เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างพร้อมส่ายหน้าแรงๆ ไปมา ทำปากห้ามโดยไร้เสียง สีหน้าของเดรโกเรียกได้ว่ามุ่งมั่นที่จะเสกคาถาใส่ทอมจากด้านหลังเอามากๆ


    ถ้าหากเธอปล่อยให้เดรโกทำแบบนั้นล่ะก็มีโอกาสสูงมากที่เขาจะทำไม่สำเร็จ ผลที่ตามมาก็จะร้ายแรงด้วย จอมมารเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการพินิจใจ หากจอมมารเข้าไปในความทรงจำของเดรโกได้ล่ะก็ เขาต้องรู้แน่ว่าทั้งเธอและเดรโกเป็นศัตรูของเขาและย้อนเวลามาจากอนาคตเพื่อทำอะไร เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่ได้วางแผนใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อทำลายเขาเลยจะปล่อยให้จอมมารรู้เรื่องของเธอไม่ได้เด็ดขาด!


    เฮอร์ไมโอนี่ก้าวเท้าออกไปหวังหยุดเดรโกแต่เสียงแหลมเล็กเสียงหนึ่งทำให้ทั้งสองคนจากอนาคตต้องสะดุ้งไปตามๆ กัน เดรโกรีบปล่อยไม้กายสิทธิ์กลับสู่กระเป๋าเสื้อคลุมทันที ก่อนจะหันไปมองตามที่มาของเสียงพบเด็กสาวคนหนึ่งใส่เสื้อคลุมฮอกวอตและปักตราประจำบ้านสลิธีรินมีรูปร่างที่บางและเล็ก เรียกได้ว่าผอมแห้ง ผมดำยาวปล่อยสยายและไว้หน้าม้าปัดไปทางด้านขวาและมีใบหน้าที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดีเมื่อเขาแข่งควิดดิชที่บางครั้งสลิธีรินต้องปะทะกับเรเวนคลอบ้างเป็นครั้งคราว


    ในฐานะที่ตนเป็นซีกเกอร์เช่นกัน เขารู้จักเจ้าของเสียงแหลมเล็กคนนั้นได้เป็นอย่างดี โช แชงหรือซีกเกอร์บ้านเรเวนคลอ ผู้หญิงที่หน้ามืดตามัวไปคบกับเจ้าพอตเตอร์นั่น หากเขายังอยู่ในช่วงที่เขากำลังเรียนอยู่ในฮอกวอตในอนาคตล่ะก็เขาจะไม่แปลกใจเลยที่ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้แต่นี่เขาอยู่ในช่วงเวลาห้าสิบปีก่อนนะ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนที่ยังไม่เกิดจะมาปรากฏตัวตรงหน้าเขา อีกทั้งหน้าเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นราวกับแฝด!


    ไม่ใช่แค่เดรโกเท่านั้นที่กำลังสับสน เฮอร์ไมโอนี่เองก็สับสนไม่แพ้กัน เธอเอาแต่คิดแล้วก็คิดว่าโช แชงที่เธอรู้จักมาโผล่ในฮอกวอตเมื่อห้าสิบปีก่อนได้อย่างไร ส่วนเด็กสาวที่ทั้งสองคนเข้าใจว่าเป็นโช แชงก็แสดงสีหน้างงงวยก่อนเอ่ยสวัสดีอีกครั้งด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจเหมือนครั้งแรกที่เอ่ย


    เฮอร์ไมโอนี่ได้สติกลับมาก่อนเอ่ยทักตอบพร้อมรอยยิ้ม “สวัสดี เธอเป็นใครน่ะ”


    เด็กสาวดูแสดงสีหน้าไม่พอใจเมื่อเธอเป็นคนตอบ “หลิน ฉันชื่อหลิน จำไว้ด้วยนะเด็กใหม่แห่งกริฟฟินดอร์” หล่อนพูดพร้อมเผยรอยยิ้มเหยียดแต่นั่นไม่ได้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่พอใจเหมือนทุกครั้งที่เวลาพวกสลิธีรินมาเอ่ยถากถางใส่


    เฮอร์ได้แต่สับสนและสับสนในขณะที่เด็กสาวที่บอกว่าตนเองชื่อหลินหันไปทางเดรโกพร้อมรอยยิ้มกว้างก่อนยื่นมือออกไป “หลิน ฟาง สวัสดีแองกวิส ยินดีต้อนรับสู่ฮอกวอต” เดรโกที่ยังคงงุนงงยื่นมือออกไปจับมือเล็กๆ นั่นเอาไว้พร้อมกับหลินเขย่าไปมาพร้อมรอยยิ้มที่ดูสดใส


    เมื่อเห็นว่าเดรโกยังนิ่งเงียบไม่เอ่ยอะไร “นายเป็นอะไรหรือเปล่า” หล่อนถาม


    เดรโกจึงได้สติกลับมาสักที “ฉันสบายดี เธอเป็นใครนะ”


    เด็กสาวผมดำกลอกตา “ฉันบอกนายไปแล้วว่าฉันชื่อหลิน ฟาง นายไม่เป็นอะไรแน่ใช่ไหมเนี่ย”


    เดรโกรีบกลบเกลื่อน “ไม่ๆ ฉันสบายดี ขอโทษที่ถามอะไรโง่ๆ ออกไป”


    หลินยิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรแองกวิส แล้วเจอกันที่ห้องนั่งเล่นนะ” หล่อนว่าก่อนหันหลังเดินไปอีกทางก่อนแผ่นหลังจะหายวับพร้อมกับที่ซลักฮอร์นปล่อยทอมให้ทำหน้าที่ต่อในที่สุด ทอมหันกลับมาเห็นสีหน้าแปลกของทั้งคู่ ในใจบังเกิดความสงสัยขึ้นมา ทั้งคู่ทำสีหน้าราวกับเห็นผีพร้อมกับเสียงเล็กๆ กำลังหัวเราะอยู่เหนือศีรษะทั้งสามคน


    ทั้งสามเงยหน้ามองที่มาของเสียงพบผีพีทกำลังแกว่งถังสีไปมาอยู่ ความสงสัยทั้งหมดในใจของทอมพลันหายไป ที่แท้พวกนั้นก็เห็นผีจริงๆ นี่เอง พวกนักเรียนใหม่คงยังไม่รู้จักกับผีพีทที่มีกิจวัตรประจำวันคือการแกล้งนักเรียนให้ตกใจอยู่สม่ำเสมอ เห็นเช่นนั้นทอมจึงทำหน้าที่พรีเฟ็นที่ดี


    “พีท! ถ้านายทำถังสีนั่นหกใส่พวกเราล่ะก็บารอนจะรีบมาจัดารกับนายทันทีข้อหาทำร้ายนักเรียนใหม่ของบ้านสลิธีริน”


    พีทชักสีหน้าเทาๆ เลือนๆ ก่อนเบ้ปากใส่ทอมพร้อมบินจากไปพร้อมถังสีหันไปเล่นงานนักเรียนปีสองบ้านฮัฟเฟิลพัฟสองคนที่กำลังเดินกลับห้องนั่งเล่นอยู่พอดี


    เมื่อทอมหันกลับมามองเพเนโลพีและแองกวิสอีกครั้ง คราวนี้สีหน้าของทั้งคู่ดีขึ้นมาก ทอมจึงมั่นใจว่าเมื่อสักครู่ทั้งสองคงตกใจกับผีพีทอยู่เป็นที่แน่นอน


    “นั่นพีท เป็นผีในปราสาทฮอกวอตที่รักการกลั่นแกล้งนักเรียนเป็นชีวิตจิตใจ ระวังมันไว้บ้างเพราะพวกเราจะไม่มีวันรู้ว่าพีทจะทำอะไรกับพวกนายซึ่งอาจทำให้พวกนายไปเรียนสายหรือโดนสั่งกักบริเวณเอาได้เข้าใจไหม” ทอมอธิบายยืดยาวพร้อมกล่าวเตือน


    สองนักเรียนใหม่ต่างบ้านพากันพยักหน้าหงึกหงักและทอมก็ได้แต่สงสัยอีกครั้งว่าทำไมคราวนี้เพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์ถึงได้ยอมฟังและทำตัวดี ไม่เหมือนตัวตนของหล่อนเมื่อสักครู่นี้เลยแม้แต่น้อยแต่ว่าไม่ว่าจะเป็นเพเนโลพีแบบไหน เขาก็ชอบที่หล่อนยอมทำตัวว่าง่ายแบบนี้ที่สุด


    *Talking*

    สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วค่ะ หายไปนานอีกแล้ว อันนี้ออกมายอมรับว่าหลังสอบเสร็จจู่ๆ เราจะกลับมาเขียนดันเขียนต่อไม่ออกซะงั้นแล้วก็ไม่ได้เขียนอีกยาวเลยค่ะจนไปต้องไปต่างประเทศก็ยิ่งยืดยาวไปอีกไม่ได้กลับมาเขียนเสียที คราวนี้กลับมาเขียนอีกรอบก็ต้องเขียนๆ หยุดๆ จนในที่สุดก็เขียนจนจบตอนนี้จนได้ ยังไงก็ต้องขออภัยค่ะและขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะที่ยังไม่ได้ทิ้งไปไหนและยังตามอยู่เรื่อยๆ  

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×