ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบ) [Fic Tom x Hermione] My demon รักชั่วนิรันดร์...ปีศาจของฉัน

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7 ปีศาจในคราบพ่อมด

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 61


    ตอนที่ 7 ปีศาจในคราบของพ่อมด


    ยามนี้รัตติกาลกำลังคืบคลานกลืนกินแสงสว่างจากดวงตะวันอาบย้อมทุกอย่างให้ตกอยู่ในความมืด เอลฟ์ประจำบ้านตนหนึ่งปรากฏตัวพร้อมเสียงป๊อปจนทุกคนในที่นั้นตกใจกันยกใหญ่โดยเฉพาะพวกคนขวัญอ่อน ก่อนจะลงมือดีดนิ้วจนจานอาหารซึ่งประกอบด้วยสเต๊กเนื้อแกะรมควันราดซอสกีวี่หอมกรุ่นลอยมาตั้งอยู่ตรงหน้าทุกคนแล้วเอลฟ์ตนนั้นก็ดีดนิ้วอีกครั้ง คราวนี้เทียนไขทั้งหลายที่ตั้งอยู่บนเชิงเทียนและโคมไฟระย้าสว่างพรึ่บอย่างพร้อมเพรียง


    ซลักฮอร์นเอ่ยขอบใจเพื่อสินน้ำใจ เอลฟ์ประจำบ้านยิ้มกว้างก่อนโค้มตัวเสียจนจมูกยาวๆ ของมันเกือบจะแตะพื้นและดีดนิ้วหายตัวไปพร้อมเสียงป๊อปอีกครั้ง มอร์แกนเพื่อนร่วมชั้นปีจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟตกใจเสียจนทำส้อมหลุดกระทบกับจานส่งเสียงดังเคร้งคร้าง


    พวกสลิธีรินหันไปส่งสายตาตำหนิ ดูแคลนให้หล่อน จนเด็กสาวผมแดงจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟต้องก้มหน้างุดอย่างกลัวเกรง ทอมมองภาพนั้นด้วยความสำราญใจ รอยยิ้มคลี่เพียงนิดบนใบหน้าแข็งกร้าว เขาแสร้งทำเป็นยกน้ำชาขาวขึ้นดื่มเพื่อปกปิดรอยยิ้มสุขใจ


    ระหว่างทานอาหารซลักฮอร์นก็ยังคงเอ่ยชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยก่อนจู่ๆ เขาจะร้องว่าตายจริงออกมาพร้อมสีหน้าตกอกตกใจ


    “ผมลืมแนะนำสมาชิกในที่นี้ให้คุณเคลียร์วอเตอร์!” เขาว่าสีหน้าโอเวอร์เกินจริงเล็กน้อย


    “ไม่จำเป็นหรอกครับ เราไม่สุงสิงกับพวกเลือดสีโคลนอยู่แล้วล่ะ” มัลฟอยถากถางทันทีตามด้วยเสียงหัวเราะพรืดจากนักเรียนบ้านสลิธีรินคนอื่นๆ


    ศาสตราจารย์สอนวิชาปรุงยาหันไปส่งสายตาตำหนิติเตียนให้เด็กหนุ่มหน้าเสี้ยมแหลมแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรเพราะเขาคงรู้ดีว่าเตือนไปคงไม่ช่วยอะไรเสียเท่าไรนัก เขาเลื่อนสายตามาทางเฮอร์ไมโอนี่แทนและยิ้มกว้าง


    “คุณคงรู้จักบางคนในที่นี้แล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าตามมารยาทแล้วเขาก็เริ่มรายยาวแนะนำชื่อทีล่ะคนไปเรื่อยๆ จนถึงคนสุดท้ายซึ่งเป็นเด็กหนุ่มจากบ้านเรเวนคลอผู้สวมแว่นหนาเตอะและไว้ผมรกรุงรัง นอกจากนี้เธอยังได้รู้จักกับฟีบี มอร์แกนเด็กสาวคนนั้นจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟผู้อัธยาศัยดีอย่างเป็นทางการ ฟีบีเป็นแม่มดจากครอบครัวมักเกิ้ลเหมือนเธอ ไม่แปลกเท่าไรนักหากจะเป็นเป้าหมายที่พวกสลิธีรินจะใช้กลั่นแกล้ง


    เมื่อแนะนำสมาชิกในที่นี้จนครบแล้ว ซลักฮอร์นแสร้งอ้าปากหาวและหันมองนาฬิกา


    “โอ้! นี่ดึกขนาดนี้แล้วหรือนี่ ผมควรจะปล่อยพวกคุณกลับได้แล้วก่อนจะถึงเวลาเคอร์ฟิวส์ ไปเสีย! ราตรีสวัสดิ์ทุกคน” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงทว่าคำพูดกลับเป็นไปในทางไล่แขก เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นทำท่าจะตามลูเซียน่าไปด้วยแต่บางอย่างรั้งเธอเอาไว้ เฮอร์ไมโอนี่เอื้อมมือออกไปแกะต่างหูของตนเองออกก่อนจะจงใจปล่อยมันลงพื้น


    เฮอร์ไมโอนี่ดึงไหล่ลูเซียน่าเอาไว้และบอกว่าจะตามกลับหอนอนเพราะว่าต้องก้มหาต่างหูที่หล่นลงไปเสียก่อน ลูเซียน่าพยักหน้ารับรู้และทึกทักเอาเองว่าเพเนโลพีคงจดจำเส้นทางได้แล้วระหว่างที่พามาที่นี่ก่อนออกจากห้องไปเกือบคนสุดท้าย ส่วนเฮอร์ไมโอนี่เองก็ก้มลงไปหยิบต่างหูจนภายในห้องตกอยู่ในความเงียบกริบ เมื่อมุดเข้าไปใต้โต๊ะที่มีผ้าปูโต๊ะสีขาวปูทับไว้อยู่ เธอก็ได้ยินเสียงสองเสียงลอยมาจากที่ใกล้ๆ


    เธอหยุดนิ่งอยู่ใต้โต๊ะนั่นและเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ


    “ทอม ถ้าเธอไม่รีบกลับหอนอนตอนนี้เดี๋ยวจะโดนกักบริเวณเอาได้นะ” ซลักฮอร์นเตือนด้วยความหวังดี


    “ผมทราบครับศาสตราจารย์แต่เมื่อไม่นานมานี้มีเรื่องที่ทำให้ผมค้างคาใจเหลือเกิน เมื่อหลายวันก่อนผมได้เข้าไปอ่านเจอเรื่องหนึ่งจากหนังสือเล่มหนึ่ง มันเกี่ยวกับ” ทอม ริดเดิ้ลยังเอ่ยไม่ทันจบ เสียงร้องแหลมด้วยความดีใจดังลอดออกมาจากใต้โต๊ะที่สมาชิกสโมสรซลักนั่งพูดคุยกันเมื่อสักครู่นี้ เขาชะงักก่อนหันขวับไปตามที่มาของเสียง ค่อยๆ เห็นร่างหนึ่งกำลังมุดออกมา


    เป็นหล่อนเพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์!


    ทอมบดกรามอย่างไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะจากการพยายามล้วงข้อมูลจากตาแก่นี่!


    “เอ้า! คุณเคลียร์วอเตอร์ ทำไมคุณยังอยู่อีกล่ะ” ซลักฮอร์นถามเสียงฉงน


    เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นยืนก่อนตอบด้วยใบหน้าใสซื่อบริสุทธิ์ “ขอโทษค่ะศาสตราจารย์เผอิญต่างหูฉันหลุดไปใต้โต๊ะเลยต้องหานานหน่อย ขอโทษที่รบกวนค่ะ” เธอพูดราบเรียบไร้แววโกหกแม้แต่น้อยทว่ามีหรือคนช่างสร้างภาพอย่างทอม ริดเดิ้ลจะมองไม่ออก! ทำไมเธอต้องโกหก?! เธอรู้หรือว่าเขาจะถามอะไรตาแก่นี่?! ไม่หรอกๆ ทอมคิดกับตนเอง เพเนโลพีก็แค่มนุษย์จะมามีอำนาจพยากรณ์ได้อย่างไร


    เฮอร์ไมโอนี่ส่งยิ้มให้ซลักฮอร์นเสร็จแล้วจึงเลื่อนสายตามายังว่าที่จอมมารก่อนกล่าว “คุณริดเดิ้ลจะเป็นอะไรไหมถ้าหากฉันจะขอรบกวนให้คุณพาฉันไปส่งที่หอคอยกริฟฟินดอร์ได้ไหม เผอิญฉันไม่อยากรบกวนลูเพื่อนของฉันให้มานั่งรอน่ะ เลยขอให้เธอกลับไปแล้วและฉันยังเป็นแค่นักเรียนใหม่คนหนึ่ง ยังจดจำเส้นทางไม่ได้มากนัก จะเป็นการดีมากถ้าหากคุณจะช่วยชี้แนะเส้นทาง”


    ทอมมองสายตาวิงวอนจากเด็กสาวตรงหน้าด้วยอารมณ์สองขั้วซึ่งตรงข้ามกัน ด้านหนึ่งเขารู้สึกโมโห หงุดหงิด โทสะพวยพุ่งท่วมร่างเขาแต่อีกด้านเขากลับชอบมองแววตาแบบนั้นจากหล่อน สายตาขอร้องมันช่างชวนให้รู้สึกสงบอย่างน่าแปลก


    ซลักฮอร์นหันมองทอมกันหันไปกลับไปมองเพเนโลพีแล้วเอ่ยสนับสนุนเต็มที่ “นั่นสิทอม เธอเองก็เป็นพรีเฟ็ค ช่วยเหลือนักเรียนใหม่คนนี้หน่อยนะ” ชายวัยกลางคนกล่าวแล้วระบายยิ้มแฉ่งบนใบหน้าก่อนเอ่ยไล่ทั้งสองออกไปจากห้องแบบอ้อมค้อม


    เพราะเหตุนี้ทั้งหนึ่งสาวหนึ่งหนุ่มต้องออกมายืนอยู่หน้าห้องตรงหน้าคือระเบียงทอดยาวมีเชิงเทียนพร้อมเทียนคอยให้ความสว่างหลัวๆ ทอมถอนหายใจก่อนหันยื่นแขนให้เด็กสาวข้างตนเองตามธรรมเนียมมารยาทของสุภาพบุรุษตะวันตกชาวอังกฤษ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นมองแขนที่ยื่นออกมาด้วยสายตางุนงง ทำไมว่าที่โวลเดอมอร์ถึงต้องยื่นแขนให้เธอด้วยล่ะ


    ทอมมองสีหน้างุนงงของอีกฝ่ายแล้วนึกรำคาญในใจอย่างอดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยเหน็บแหนม “คุณเคลียร์วอเตอร์ ผมยื่นแขนให้คุณตามมารยาท คุณไม่จับเอาไว้นั่นถือว่าหักหน้าผมนะ ครอบครัวมักเกิ้ลของคุณไม่เคยสอนเรื่องนี้หรือ”


    ได้ยินเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่แอบเบ้ปากในใจ โวลเดอมอร์ก็คือโวลเดอมอร์อยู่วันยังค่ำจริงๆ ต่อให้เขาเสแสร้งเป็นสุภาพชนหรือปัญญาชนผู้หนึ่งหรือนักเรียนชายดีเด่นของฮอกวอตในยามนี้ ลึกๆ ในใจแล้วเขายังคงชิงชังมักเกิ้ลไม่เคยเปลี่ยน แล้วแบบนี้เธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตหรือขัดขวางเขาได้ไหมนะ เฮอร์ไมโอนี่เผลอเหม่อลอยกับความคิดของตนเอง จนเด็กหนุ่มผู้หล่อเหลาอย่างทอมหงุดหงิดไม่น้อย


    เขาไม่เอาแขนลง ไม่รอให้เด็กสาวยื่นมือมาจับแล้ว! ทอมเอื้อมมือออกไปคว้ามือของเพเนโลพีเอาไว้ก่อนกึ่งลากกึ่งถูเธอไปตามระเบียงทางเดิน นั่นช่วยให้เฮอร์ไมโอนี่หลุดจากความคิดของตนเองและก้มมองมือของตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง นี่เธอกำลังฝันหรืออะไร?! ทอม ริดเดิ้ล ว่าที่จอมมารหรือลอร์ดโวลเดอมอร์ในอนาคต พ่อมดฝ่ายมืดที่ร้ายกาจที่สุดแห่งศตวรรษจับมือเธอเนี่ยนะ?! เขาเกลียดพวกเกิดจากมักเกิ้ลอย่างเธอไม่ใช่เหรอ


    เมื่อสติกลับมาทำงานเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่พยายามดึงมือของตนกลับมาทว่าทอมเป็นนักกีฬาควิดดิชซึ่งนั่นทำให้เขามีรูปร่างสูงโปร่ง มีกล้ามเนื้อกำยำและแข็งแรงจนแรงเล็กๆ ของเพเนโลพีไม่อาจสู้กับแรงของเขาได้เลยแม้แต่น้อย พื้นรองเท้านักเรียนของเด็กสาวครูดไปกับพื้นหินของระเบียงทางเดินเกิดเสียงเสียดหู ถึงตรงนี้ทอมหมดความอดทนกับผู้หญิงคนนี้แล้ว!


    ทอมหันไปสะบัดมือของหล่อนออกจนร่างของเด็กสาวเซถลาล้มไปนั่งกองกับพื้นก่อนแสร้งที่หน้าใสซื่อและดวงตาไม่รู้อิโหน่อิเหน่


    “อ้าว คุณเคลียร์วอเตอร์ คุณไปนั่งคลุกฝุ่นบนพื้นทำไม” เขาพูดเสียงฉงนแต่ในใจกลับยิ้มแย้มอย่างมีความสุข “ผมจะแนะนำคุณว่าเมื่อถึงบันไดเมื่อไรให้คุณเดินตรงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงหอคอยชั้นเจ็ดแล้วเลี้ยวไปทางขวา หอนอนกริฟฟินดอร์อยู่ทางนั้น ผมหวังว่าจะได้ช่วยเหลือคุณอีกนะ” พูดจบไม่รอให้อีกฝ่ายทักท้วงหรือเอ่ยขอบคุณอะไร ทอมสะบัดเสื้อคลุมตนเองหันหน้าลงบันไดไป ไม่แม้แต่จะเหลียวมองกลับมา


    หลับสายตาผู้คน เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอมองมือที่มือเย็นเฉียบของว่าที่โวลเดอมอร์เคยสัมผัสเมื่อสักครู่ นี่ยังไม่เข้าต้นฤดูหนาวเลย ทำไมมือของเขาถึงได้เย็นเฉียบไร้ความอบอุ่นขนาดนั้นนะ อีกอย่างเธอเองก็ไม่ได้อยากจะแวะข้องเกี่ยวกับว่าที่พ่อมดฝ่ายมืดที่ร้ายกาจที่สุดสักเท่าไรแต่เพราะความรู้สึกตอนที่อยู่ในห้องพักของซลักฮอร์นที่เหนี่ยวรั้งเธอเอาไว้


    ช่วยให้เธอนึกได้ว่าตอนที่เธอยังอยู่ปีหกในชีวิตจริงของเธอ ปีที่แล้วดัมเบิลดอร์ให้แฮร์รี่ดูความทรงจำที่ได้มาจากซลักฮอร์นเรื่องฮอร์ครักซ์ แล้วนำสิ่งที่ตนเห็นกลับมาเล่าต่อให้เธอและรอนฟัง เพราะแบบนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงจงใจแกะต่างหูตนเองออกแล้วโยนมันเข้าไปใต้โต๊ะเพื่อแอบฟังว่าแท้จริงแล้วทั้งคู่จะคุยเรื่องฮอร์ครักซ์กันรึเปล่า


    เมื่อคำพูดของโวลเดอมอร์ในวัยหนุ่มเหมือนที่แฮร์รี่เคยเล่าให้เธอฟังทุกประการ เฮอร์ไมโอนี่จึงมั่นใจว่าทอม ริดเดิ้ลกำลังพยายามล้วงข้อมูลเกี่ยวกับฮอร์ครักซ์มากกว่านี้จากศาสตราจารย์ซลักฮอร์นผู้ใสซื่อ หลอกง่ายและไม่ทันเล่ห์กลของว่าที่โวลเดอมอร์ แล้วก็เกือบพลั้งปากบอกไปเสียแล้วถ้าไม่ใช่เพราะเธอจงใจทำเสียงดังและแสดงตัวตนออกมา ไม่งั้นว่าที่โวลเดมอร์คงได้สิ่งที่ต้องการไปแล้วเริ่มต้นทำฮอร์ครักซ์แน่นอน


    แต่ว่าเธอจะขัดขวางเรื่องนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกันล่ะ


    ระหว่างตกอยู่ในห้วงความคิดที่ไม่รู้ว่านานเท่าไรจนกระทั่งเสียงเรียกชื่อเธอหลายครั้งของลูเซียน่า เชฟีคค์ถึงสติเธอกลับมา


    “ไม!” เด็กสาวผมบลอนด์เอ่ยเสียงเรียกพร้อมเขย่าตัวเธอไม่หยุด สีหน้าวิตกกังวล เฮอร์ไมโอนี่กะพริบตาสองสามครั้ง ก่อนตอบ


    “ว่าไงลู เธอมาทำอะไรที่นี่”


    “ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอ! เห็นเธอไม่กลับหอนอนมาสักทีและก็ใกล้เวลาเคอร์ฟิวแล้วด้วย ฉันเลยออกมาตามหาเธอน่ะสิ แล้วก็มาเจอเธอนั่งกองอยู่บนพื้นตรงนี้เนี่ย!” ลูเซียน่าร่ายยาว น้ำเสียงนึกเป็นห่วงคล้ายน้ำเสียงของแม่ที่เธอคุ้นเคยก่อนลบความทรงจำของพ่อแม่เธอแล้วจากไป จู่ๆ ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแม่ของเธอ เรื่องของพวกเขาทำให้เธอขอบน้ำตาเธอรื้นอย่างห้ามไม่ได้


    ลูเซียน่าเห็นน้ำตารื้นท่วมขอบตาของเพื่อนสาวก็อดตกใจไม่น้อย แม้ปกติสีหน้าจะราบเรียบขนาดไหนแต่ครั้งนี้เรียกได้ว่าใบหน้าเธอตอนนี้สื่ออารมณ์ออกมได้ชัดเจน


    “เรารีบกลับหอกันก่อนพรีเฟ็คคนอื่นๆ จะมาเจอตัวเราดีกว่าแล้วเราค่อยพูดถึงเรื่องนี้กัน” ลูเซียน่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเบาลง ก่อนค่อยๆ พาตัวเฮอร์ไมโอนี่กลับหอนอนที่ๆ ดาโกต้าและเอมิเลียกำลังนั่งจับเข่านินทาเรื่องนักเรียนคนนู้นทีคนนี้ที ทันทีที่สองสาวผมแดงและดำเห็นเพื่อนสาวผมบลอนด์ค่อยๆ ประคองเพเนโลพีเข้ามานั่งบนเตียงของหล่อนเองก็นึกใจหายอยู่หน่อยๆ


    สามสาวเข้ามารุมล้อมเสียจนเฮอร์ไมโอนี่ตาลายแล้วต้องโกหกว่าเพราะหกล้มเลยเจ็บก็เลยนั่งอยู่เฉยๆ สักครู่ เมื่อถูกถามอีกว่าแล้วไหนแผลล่ะ เธอก็ต้องโกหกอีกว่าเธอได้เสกคาถารักษาไปแล้ว สาวผมแดงและดำเชื่อสนิทใจทว่าลูเซียน่ากลับแสดงสีหน้าไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไรแต่ก็ไม่ได้เอ่ยคาดคั้นอะไรอีก จากนั้นก็เป็นเฮอร์ไมโอนี่ที่ชวนสามสาวคุยถึงเรื่องของทอม ริดเดิ้ลพรีเฟ็คบ้านสลิธีรินปีหกว่าเขามีลักษณะนิสัยเป็นยังไงบ้างจากเพื่อนๆ


    “เจ้าหมอนั่นน่ะเหรอ” เอมิเลียหันไปขอความเห็นจากดาโกต้า


    ดาโกต้าส่ายหน้าไปมา “เราไม่ค่อยรู้เรื่องเขาสักเท่าไรหรอก เคยได้ยินมาว่าตอนปีหนึ่งทอม ริดเดิ้ลค่อนข้างไม่เป็นที่ยอมรับเสียเท่าไรและมักจะถูกพวกเลือดบริสุทธิ์รังแกแต่ทว่าพอปีสามได้ ดูเหมือนพวก สลิธีรินคนอื่นๆ ก็ยอมรับเขามากขึ้นและก็กลายเป็นว่าทอมกลายเป็นดาวเด่นจากบ้านสลิธีรินไปเลยและตั้งแต่นั้นมา บ้านดีเด่นก็ตกเป็นของสลิธีรินทุกปีเลยล่ะ”


    เอมิเลียพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเพราะว่าเขาทั้งหล่อเหลา รูปงามและมีเสน่ห์มากแถมเรียนเก่งด้วย คว้าอันดับหนึ่งของชั้นเรียนทุกปี ใครๆ ต่างก็อยากได้เขาเป็นสามีในอนาคตทั้งนั้นล่ะ” เด็กสาวผมดำสนับสนุนแต่ไม่วายแอบชื่นชมเขาในฐานะเด็กสาวคนหนึ่งจนดาโกต้าต้องกระแอมไอขัดจังหวะความคิดเหล่านั้นก่อนจะเตลิดไปไกล


    “ยังไงเจ้าหมอนั่นก็สู้เอลดริกไม่ได้หรอก” ดาโกต้าแย้งซึ่งเอมิเลียก็สนับสนุนด้วย


    “ฉันเห็นด้วยในเรื่องนี้”


    “มีแค่นี้เหรอ เรื่องเกี่ยวกับทอม ริดเดิ้ลน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามเพราะอยากรู้ว่าเพื่อนสาวรู้อะไรบ้าง


    สามสาวพยักหน้าแทนคำตอบ “มีแค่นี้”


    “ทำไมถึงถามถึงเขาล่ะไม” ลูเซียน่าถามนึกเป็นห่วง หรี่ตาด้วยความจับผิด เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะแห้งส่งให้ๆ ลูกำลังปะติดปะต่อเรื่องราวเมื่อครู่เข้าด้วยกันสินะและตอนนี้หล่อนกำลังเดาว่าสาเหตุเป็นเพราะทอม ริดเดิ้ลหรือเปล่า


    “ไม่มีอะไรหรอก เผอิญว่าฉันแค่อยากรู้เขาเป็นคนยังไงนะ จำได้ไหมว่าวันที่เรียนวิชาปรุงยาด้วยกัน เขาเข้ามาทำความรู้จักกับฉัน เพราะฉันเห็นว่าที่นี่กริฟฟินดอร์และสลิธีรินค่อนข้างไม่ถูกกัน แต่พรีเฟ็คสลิธีรินกลับเข้าหาฉันซึ่งเป็นกริฟฟินดอร์ เลยอยากรู้เรื่องของเขามากกว่านี้เพื่อฉันจะได้ระวังตัวมากขึ้นก็เท่านั้นเองน่ะนะ”


    “อ้อ….อย่างงี้นี่เองเหรอ” ลูเซียน่าตอบทว่าก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อเสียทีเดียวแต่หล่อนไม่ใช่คนชอบบีบบังคับผู้อื่นๆ เมื่อไรที่เพเนโลพีอยากเล่าความจริงออกมา เธอคงเล่าออกมาเองเพราะฉะนั้นลูเซียน่าและอีกสองสาวจึงยอมล่าถอยและปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ใช้เวลากับตนเอง ส่วนพวกหล่อนก็หันไปใช้เวลาของตนเองเช่นกัน


    +++

     

    เช้าวันใหม่ ณ ฮอกวอตในปี 1943


    วันเสาร์ซึ่งไม่มีเรียน หลายคนภายในหอนอนหญิงปีหกกริฟฟินดอร์ส่วนใหญ่เลือกจะตื่นสายยกเว้นเพียงลูเซียน่า เชฟีคค์ผู้ตื่นนอนเรียบร้อยแล้วกำลังนั่งอ่านหนังสือทบทวนบนโต๊ะเรียน เมื่อหล่อนเห็นเฮอร์ไมโอนี่ตื่นแล้วก็เอ่ยทักทายอรุณสวัสดิ์พร้อมรอยยิ้มบางๆ และเธอยิ้มตอบก่อนเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวไป


    เมื่อเดินออกจากห้องน้ำ ลูเซียน่าลุกขึ้นยืนจากโต๊ะหนังสือเข้ามานั่งลงบนเตียงของเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งเธอก็ส่งสายตางุนงงให้เด็กสาวผมบลอนด์คนนี้


    “ไม” ลูเซียน่าเอ่ย “ระหว่างเธอกับทอมมีอะไรหรือเปล่า”


    เฮอร์ไมโอนี่ไร้สุ้มเสียงที่จะตอบโดยฉับพลัน สมองของเธอกำลังประมวลผลว่าสิ่งที่เพื่อนสาวคนนี้ถามหมายถึงอะไรกันแน่ ระหว่างเธอกับทอมมีอะไรหรือเปล่า? ลูหมายถึงเรื่องที่เขาเข้ามาแนะนำตัวกับเธองั้นเหรอ?


    “ถ้าเธอหมายถึงเรื่องที่ว่าทำไมทอม ริดเดิ้ลเข้ามาทำความรู้จักกับฉันล่ะก็คงเป็นเพราะเขาเป็นพรีเฟ็คล่ะมั้ง” เธอตอบน้ำเสียงราบเรียบเสียจนเด็กสาวผมบลอนด์หรี่ตาไม่อยากจะเชื่อ


    “ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นเลยไม อันที่จริงฉันคงต้องขอบอกว่าไม่แปลกใจเลยสักนิด” ลูเซียน่ากล่าวพลางขึ้นมานั่งตรงปลายเตียงอย่างถือวิสาสะ


    “เธอหมายความว่าไงกันแน่เหรอ”


    “เมื่อทอม ริดเดิ้ลเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในหมู่นักเรียนสลิธีริน เขาดูเหมือนเริ่มแผ่ขยายอะไรบางอย่างมายังบรรดาอาจารย์และนักเรียนรุ่นหลังด้วย ฉันไม่แน่ใจว่าสิ่งที่แผ่ออกมาจากตัวเขาคืออะไรหรอกนะแต่ว่าเมื่อปีก่อนตอนพวกเราอยู่ปีห้า มันมีเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นเรื่องที่เลวร้ายกับพวกที่เกิดจากมักเกิ้ล” ลูเซียน่ากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมจนบรรยากาศรอบตัวทั้งคู่เปลี่ยนไปในเชิงลบชวนกดดัน


    “ฟังดูเหมือนเขาพยายามชวนนักเรียนกริฟฟินดอร์รุ่นใหม่ที่เข้ามาไปเป็นพวกของเขา” เฮอร์ไมโอนี่ลองหยั่งเชิงถามแม้ว่าเรื่องนี้เธอจะพอรู้อยู่แล้วว่า ว่าที่โวลเดอมอร์ในอนาคตพยายามปูทางไปสู่อำนาจ พ่อมดศาสตร์มืดที่ชั่วร้ายที่สุดแห่งศตวรรษตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่ฮอกวอต


    ลูเซียน่าพยักหน้าสนับสนุนความคิดเห็นของเพเนโลพี “มันก็ทำนองนั้นล่ะทว่าเธอคงรู้ดี กริฟฟินดอร์เป็นพวกยอมหักไม่ยอมงอ หลายคนไม่สนใจเขาจนแม้แต่ตอนนี้เขายังไม่ล้มเลิกความคิด ข้อพิสูจน์คือเธอไม ทอม ริดเดิ้ลยังไม่หยุดเรื่องนี้และเพราะเรื่องที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วกับพวกที่เกิดจากมักเกิ้ลมันน่ากลัวมาก ฉันเลยอยากจะเตือนอีกครั้งว่าระวังทอม ริดเดิ้ลเอาไว้ให้ดี ฉันไม่อยากให้เธอพบจุดจบแบบนั้น”


    “เธอกำลังพูดถึงเรื่องเลวร้ายในระดับไหน” เฮอร์ไมโอนี่ถามต่อแม้ในใจจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อห้าสิบปีก่อน เมื่อนักเรียนหญิงคนหนึ่งตายในห้องน้ำหญิง ความผิดนั้นถูกโยนไปใส่หัวของแฮกริดทั้งที่ความจริงแล้วเป็นฝีมือของบาซิลิสซึ่งมีทอม ริดเดิ้ลอยู่เบื้องหลัง


    ลูเซียน่าเม้มริมฝีปากแน่น “ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เอาเป็นว่าระวังริดเดิ้ลเอาไว้ให้ดีนะไม ฉันไม่อยากให้เพื่อนของฉันอีกคนต้องลงเอยแบบนั้น” หล่อนพูดตัดบทรวบรัดก่อนเดินกลับไปนั่งลงตรงหน้าโต๊ะหนังสือเรียน กางสมุดหนังสือเรียนอ่านต่อราวกับว่าไม่เคยพูดอะไรออกมาก่อนเลย


    เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เมื่อสักครู่นี้ลูว่าอย่างไรนะ ไม่อยากให้เพื่อนอีกคนเป็นแบบนั้นเหรอ เธอรู้ดีว่าเมื่อปี 1942 ภายในฮอกวอตแห่งนี้เคยมีนักเรียนถูกฆ่าตายในห้องน้ำหญิงและสิงสถิตอยู่ที่นั่นตั้งแต่นั้นมาเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ ลูเซียน่าเคยเป็นเพื่อนของเมอร์เทิลเหรอ ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย! ถ้าหากเธอได้กลับไปอนาคต ได้กลับไปเรียนปีเจ็ดหลังจากที่สงครามระหว่างโวลเดอมอร์กับแฮร์รี่จบลง ได้เจอเมอร์เทิลอีกครั้ง ถ้าหากเล่าว่าเธอได้เจอเพื่อนคนหนึ่งของเมอร์เทิล ผู้หญิงคนนั้นจะเชื่อเธอไหมนะ


    ในใจเธอเริ่มสงสารเมอร์เทิลขึ้นมาบ้างซะแล้ว ถ้าหากทอมไม่ได้ปล่อยบาซิลิสออกมาหล่อนก็จะไม่ตายใช่ไหม ทำไมทอม ริดเดิ้ลหรือว่าที่จอมมารที่ร้ายกาจที่สุดในอนาคตถึงได้เห็นชีวิตของผู้อื่นเป็นเรื่องไร้ค่าแบบนี้ เขาเป็นปีศาจในคราบของพ่อมดจริงๆ ใช่ไหม



    *Talking*

    สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะ ขออภัยที่หายไปนานเพราะติดสอบกลางภาคและก็โปรเจ็คหลังกลางภาคทั้งหลายแหล่เลยไม่ค่อยได้มีโอกาสเขียนสักเท่าไรเพื่อเป็นการไถ่โทษเราเลยลงเรื่องนี้กับฟิคแปลอีกเรื่องพร้อมกันเลยนะคะ

    ขอให้สนุกกับนิยายนะคะ

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×