ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (จบ) [Fic Tom x Hermione] My demon รักชั่วนิรันดร์...ปีศาจของฉัน

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 หน้ากาก

    • อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 62


    ตอนที่ 10 หน้ากาก


    ทอมพาเดรโกและเฮอร์ไมโอนี่เดินทั่วปราสาทฮอกวอตจนครบและเอ่ยย้ำเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ของที่นี่อีกครั้ง ทอมสังเกตสีหน้าและท่าทางของสองนักเรียนใหม่อยู่ตลอดเวลาเพเนโลพีมีสีหน้าคงเดิมเหมือนที่เขาพบเห็นทุกครั้งแต่ที่แปลกไปคือท่าทีที่ไม่ค่อยเอ่ยเหน็บแหนมสลิธีรินอย่างเขาหรือพูดอะไรที่ขัดหูเขาออกมาแม้แต่น้อย ดูสงบเสงี่ยมเกินไปจนเขานึกแปลกใจนัก

    ส่วนแองกวิสกลับค่อนข้างแสดงสีหน้าผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งใบหน้าและริมฝีปากที่ซีดเซียวอยู่แล้ว มันดูยิ่งซีดขาวยิ่งกว่าเดิมมากนัก ทอมนึกสงสัยขึ้นอีกครั้งว่าหรือสองคนนี้จะรู้จักกันแต่ทอมกลับรีบปัดความคิดนั้นออกไปจากสมองทันทีและให้เหตุผลกับตนเองว่าคงเป็นเพราะเกือบถูกถังสีในมือพีทหกใส่

    แม้ว่าสกุลแซงก์ทิสจะไม่ใช่หนึ่งในสกุลศักดิ์สิทธิ์ของโลกเวทมนต์แห่งอังกฤษทว่าแองกวิสกลับดูมีความเป็นคุณชายจากสกุลผู้ดีของโลกเวทมนต์ ทอมจึงตีความไปเองว่าสกุลแซงก์ทิสน่าจะมีหน้ามีตาในสังคมพ่อมดแม่มดในสวีเดนไม่มากก็น้อย

    ทอมจึงไม่เก็บเรื่องของแองกวิสมาใส่ใจหรือนึกสงสัยอีก คนเดียวที่เขาสนใจในตอนนี้คือเพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์คนนี้ หากดึงมาเป็นพวกได้คงดีต่อแผนการเขาไม่น้อย

    ขณะนี้สองหนุ่มหนึ่งสาวเดินตรงมายังห้องโถงใหญ่อย่างเงียบเชียบ ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ทันทีที่ทั้งสามกำลังเดินเข้าห้องโถง สองหนุ่มเดินแยกไปอีกทางทันทีพร้อมกับอีกหนึ่งสาวเดินไปทางทิศตรงข้ามกับพวกเขา ไร้คำอำลาโดยสิ้นเชิง

    ดาโกต้าและเอมิเลียหันมาเห็นเพเนโลพีกำลังเดินตรงมาหาจึงรีบโบกไม้โบกมือให้ เฮอร์ไมโอนี่เห็นเช่นนั้นแล้วยิ้มตอบกลับไป ลูเซียน่าเงยหน้าจากสมุดบันทึกที่กำลังอ่านและมองตามมือไม้ของเพื่อนสาวไป ทันเห็นว่าทอมกับเพเนโลพีไม่พูดคุยอะไรต่อกันเลย นั่นทำให้เธอโล่งอกนัก

    เฮอร์ไมโอนี่เลือกนั่งลงข้างเพื่อนสาวผมบลอนด์โดยที่เพื่อนคนนี้ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนนั่นทำให้เธอแปลกใจมาก โดยบุคลิกส่วนตัวแล้วลูเซียน่าดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเพียงแต่มักจะทำสีหน้าเรียบเฉยอยู่เสมอและไม่ค่อยยิ้มให้ใครนัก การได้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนแบบนี้ เธอจึงนึกไปถึงเด็กสาวจากโบซ์บาตงส์คนนั้นที่ไม่เคยนึกชอบมาก่อนจนกระทั่งวันที่ต้องขอความช่วยเหลือจากหล่อน

    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มตอบ ทั้งสี่สาวนั่งทานอาหารเย็นกันอย่างสนุกสนาน แม้แต่ลูเซียน่ายังเลือกที่จะหยุดจดจ่อกับสมุดบันทึกของตนเองและร่วมวงกับเพื่อนๆ ด้วย คนอื่นๆ ในกริฟฟินดอร์เห็นเช่นนั้นแล้วบางคนถึงกับย้ายมานั่งล้อมวงสี่สาวพูดคุยกันอย่างออกรสชาติ บรรยากาศของโต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์ในตอนนี้จึงมีออร่าแห่งความสุขปกคลุมอยู่ มีสายตามากมายให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปของแต่ล่ะคน

    บ้างมองด้วยสายตายินดี บ้างมองด้วยสายตาไม่ยินดียินร้ายหรือบ้างมองด้วยสายตาเหยียดหยามและดูถูก

    แม้ว่าจะมีสายตาไม่พอใจมาบ้างปะปนมาแต่นักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ก็ไม่สนใจนอกจากความสุขที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ ในตอนนี้ สี่สาวคุยกันจนเพลินและขอแยกตัวออกจากคนอื่นๆ กลับหอนอนไปด้วยกัน ระหว่างทางก็ยังไม่หยุดพูดคุยกันเลยแม้แต่น้อย

    เฮอร์ไมโอนี่เดินตามหลังดาโกต้าและเอมิเลียผู้ที่กำลังเข้าประเด็นเกี่ยวกับเอลดริก ดิกกอรี่ ลูเซียน่าหันมาชวนคุยบ้างจนเมื่อกำลังจะเดินเลี้ยวตรงเข้ารูปภาพของสุภาพสตรีอ้วน ลูเซียน่ากลับดึงแขนของเธอเอาไว้เสียก่อนแล้วลากออกมายืนประจันหน้ากัน

    “ไม ริดเดิ้ลไม่ได้ทำร้ายอะไรเธอใช่ไหม” เด็กสาวผมบลอนด์เอ่ยถามน้ำเสียงดูร้อนรนแปลกๆ

    เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าพลางตอบ “ไม่เลยลู ริดเดิ้ลแค่ทำหน้าที่พรีเฟ็คเท่านั้น”

    แม้จะได้รับคำตอบแล้วทว่าลูเซียน่ากลับยังไม่ยอมถอยหรือปล่อยมือออกจากแขนของเพเนโลพี สีหน้าเป็นกังวลของเด็กสาวทำให้เฮอร์ไมโอนี่อดใจคอไม่ดีไปไม่ได้

    “ทำไมเธอดูกังวลเกี่ยวกับริดเดิ้ลนัก” เธอหลุดปากถามโดยไม่ได้ยั้งคิดทันที เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกหวาดหวั่นเพราะกลัวว่าคำตอบที่ได้รับจะเป็นเรื่องไม่ดีที่มีทอม ริดเดิ้ลเป็นต้นเหตุ

    ลูเซียน่าปล่อยมือทันทีก่อนหันหลัง “เรื่องไม่ดีมักเกิดขึ้นเพราะเขาไม เธออย่ายุ่งกับเขาเลย” ไม่ปล่อยโอกาสใดๆ ให้เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยทักท้วงหรือสอบถามมากขึ้นกว่านี้ เด็กสาวผมบลอนด์รีบเดินผละจากทันที

     

    เมื่อก้าวเข้าห้องพักนักเรียนหญิงปีหกกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ถูกดาโกต้าและเอมิเลียพะเน้าพะนอให้เล่นไพ่สแน็ประเบิดปังด้วยกันโดยไม่ลืมชวนลูเซียน่าเข้าร่วมวงด้วย เด็กสาวผม บลอนด์ดูเหมือนลืมเรื่องที่เคยเตือนเธอก่อนเดินเข้าห้องนั่งเล่นไปอย่างสิ้นเชิง สีหน้าของหล่อนดูจดจ่อกับเกมตรงหน้า ดูไม่เหมือนเคยทิ้งเรื่องค้างคาใจเอาไว้ให้เธอเลยสักนิด

    เฮอร์ไมโอนี่ร่วมวงกับสามสาวไปอีกสองสามตาก่อนจะขอผละจากเพื่อเตรียมเข้านอน ทันทีที่นั่งลงบนเตียง เฮอร์ไมโอนี่หยิบสมุดบันทึกวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ออกมาอ่านเพื่อพยายามไม่คิดมากเรื่องของลูเซียน่าแต่ดูเหมือนเรื่องของหล่อนกลับทำให้เธอเพลียเสียจนผล็อยหลับคาสมุดบันทึก

    รู้สึกตัวอีกทีก็มีแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านรอบเตียงเสียแล้วพร้อมความรู้สึกปลายแหลมของขอบหนังสือทิ่มส่วนบริเวณคาง เธอหยิบออกวางบนโต๊ะข้างเตียงก่อนตัดสินใจแต่งตัวด้วยความเงียบงัน ทุกคนในหอหญิงกริฟฟินดอร์ยังไม่มีใครตื่นแม้แต่ลูเซียน่ายังนอนหลับสนิทหันข้างใส่กำแพง หันแผ่นหลังใส่เธอ ผมสีบลอนด์สยายสวยงาม

    ขณะแต่งตัวไปด้วย เฮอร์ไมโอนี่เอาแต่จ้องมองด้านหลังของลูเซียน่าโดยไม่รู้ตัวพลางคิดถึงเรื่องที่เธอเอาแต่พูดว่าอยู่ให้ห่างจากริดเดิ้ลและเขาเป็นตัวอันตรายหรือเอาแต่ถามว่าถูกเขาทำร้ายใช่ไหม มันทำให้เธอเอาแต่พะวงแต่เรื่องนี้จนทำให้ทั้งเพลียและหงุดหงิดนัก ลูเซียน่าพลิกตัวนอนหงาย เฮอร์ไมโอนี่จึงได้สติ เก็บสายตากลับคืนก่อนหยิบหนังสือกับสมุดบันทึกสองสามวิชาเข้ากระเป๋า วันนี้ตั้งใจจะอ่านหนังสือทบทวนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ อักษรรูณโบราณและปรุงยาให้จบภายในวันนี้ให้ได้

    เธอตั้งใจจะอ่านตลอดทั้งวันหยุด พักเมื่อถึงเวลาอาหารและกลับมาอ่านหนังสือต่อ เฮอร์ไมโอนี่สำรวจตัวเองหน้ากระจกครั้งสุดท้ายก่อนจะสวมเสื้อกันหนาวที่อากาศเริ่มจะหนาวเข้าทุกที หยิบกระเป๋าพาดไหล่ ย่องออกจากหอนอนอย่างเงียบๆ

    ที่ห้องโถงใหญ่ บรรยากาศยังเหมือนเดิมกับเมื่อวาน คนบางตา แต่ล่ะโต๊ะยาวมีนักเรียนรวมกันแล้วยังไม่ถึงสิบคนแม้แต่น้อย นี่เพิ่งเจ็ดครึ่ง ไม่แปลกนักที่หลายคนยังไม่ยอมลุกจากเตียงทว่าที่โต๊ะของบ้านสลิธีริน ทอมนั่งอยู่แล้ว แยกตัวออกจากคนอื่นๆ ในบ้าน เขาทานอาหารอย่างเรียบร้อยตามแบบผู้ดีทุกประการ

    เฮอร์ไมโอนี่มองภาพนั้นแล้วนึกขัน โวลเดอเมอร์ในตอนนี้ช่างพยายามกระทำตนให้เสมือนพวกเลือดบริสุทธิ์ที่สูงส่งหยิ่งยโส เธอถอนสายตาออกจากตัวทอมอย่างรวดเร็วเมื่อทอมเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีดำสนิทสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะผละจากทันที เฮอร์ไมโอนี่เดินไปนั่งบนโต๊ะกริฟฟินดอร์ ทานอาหารเช้าอย่างเรียบร้อยเช่นกันและพยายามบังคับตนเองไม่ให้หันไปมองทอมเพราะตัวเธอรู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมายังเธอตลอดเวลาอาหารเช้าซึ่งตัวเธอเองก็มั่นใจอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าต้องเป็นสายตาของเขาแน่นอน

    เฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้นทุกทีจึงผลักจานออก คว้ากระเป๋าพาดบ่า อยากไปห้องสมุดเต็มแก่ ขณะกำลังเดินเลี้ยวไปยังห้องสมุด เธอได้ยินเสียงลมหวีดหวิวดังขึ้นข้างหูพร้อมปลายผมปลิวไสวเล็กน้อย ร่างเงาสีดำขวางทางข้างหน้า เฮอร์ไมโอนี่หยุดตัวเองเกือบไม่ทัน เกือบได้ลมคะมำใส่ร่างนั้นเสียแล้ว

    เธอพรูหายใจอย่างโล่งอกก่อนเงยหน้ามองเจ้าของร่างด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ทันทีที่เงยหน้าก็พบกับใบหน้าเย็นชาของทอม ริดเดิ้ล หัวใจเธอเกือบหยุดเต้นเมื่อว่าที่โวลเดอมอร์ในอนาคตมายืนตรงหน้าแบบนี้ เธอตีสีหน้าเคร่งขรึมทันที ยกมือกอดอก ว่าท่าทางหยิ่งยโสใส่เขา ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบช้า

    “คุณขวางทางฉัน”

    ทอมยักไหล่ “แล้วอย่างไร” เขาตอบ

    เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว เขาหมายความว่าอย่างไร? ต้องการปั่นหัวหรือไง? เธอส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เพื่อไม่ให้เขาสมใจ เธอจึงไม่สนใจเขาอีก กำลังเดินอ้อมไปอีกทาง ทอมกลับยื่นแขนขวางเอาไว้ เวลานี้นักเรียนเริ่มลุกจากเตียงมาทานอาหารเช้าแล้ว การกระทำของทอมเช่นนี้ได้เรียกสายตาสอดรู้สอดเห็นจากใครหลายคนให้มองมาด้วยความสงสัย

    เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วหนักขึ้น ถามด้วยน้ำเสียงเริ่มไม่พอใจ “คุณต้องการอะไร”

    “วันอาทิตย์เช่นนี้เป็นวันที่เหมาะมากกับการอ่านหนังสือ เพราะฉะนั้นในฐานะนักเรียนใหม่อย่างคุณและแซงก์ทิสจะต้องเรียนให้ทันเพื่อน ผมจึงจำต้องรับคำสั่งจากศาสตราจารย์ดิพพิทให้ช่วยพวกคุณเรียนให้ทันเพื่อนๆ ในชั้นเรียน” ทอมอธิบายด้วยใบหน้าเย็นชามึนตึงแบบเดิม

    เธอยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมจนหัวคิ้วแทบจะชนกันอยู่แล้ว เขาพูดเรื่องอะไร? เรียนให้ทันเพื่อนๆ? เขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เธอเข้าใจการเรียนยิ่งกว่าคนในชั้นเรียนอื่นๆ เกือบทั้งหมด เธอจะเรียนตามเพื่อนไม่ทันได้อย่างไร? นี่คือข้ออ้างหรือเปล่า? เขาต้องการทำร้ายฉันเพราะเป็นผู้เกิดจากมักเกิ้ลหรือ?

    ในสมองของเฮอร์ไมโอนี่มีคำถามมากมายนับไม่ถ้วนผุดเต็มไปหมด จนลืมเอ่ยปากเหน็บแหนมเขาเหมือนทุกครั้งไปเสียสนิท ทอมเองก็เหลือบตามองลงล่าง สำรวจและสังเกตเด็กสาวตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน ทั้งปากที่เผยอ ดวงตาที่เบิกกว้างและคิ้วที่ขมวดแทบจะเป็นผูกกันได้ เขาลอบอุทานในใจ เธอรู้เจตนาของเขาหรือ? เขานั้นเพียงต้องการจับตาดูเพเนโลพีเอาไว้เท่านั้นเพราะเมื่อเช้า เขารู้ดีว่าหล่อนแอบมองเขาพร้อมรอยยิ้มเยาะ เขาอยากจะรู้นักว่าตัวเขาผู้เพียงพร้อมทุกอย่างมีอะไรให้น่าหัวเราะนัก!!

    เพราะข้ออ้าง เขาจึงจำเป็นต้องชวนแองกวิสและรอนิอัสมาด้วย ในบรรดาสมาชิกสมาคมของเขา รอนิอัสเป็นผู้ที่ขยันมากที่สุดรองจากเขา ถ้าไม่มีเพเนโลพี รอนิอัสย่อมได้อันดับสองของชั้นแต่ตอนนี้เธอเล่นเบียดผู้อื่นจนตกจากอันดับรวมถึงรอนิอัสด้วยและบังอาจตีตนคู่กับเขาและดูพยายามจะแย่งตำแหน่งที่หนึ่งของชั้นเรียนไปเสียด้วย ในใจเขาจึงยิ่มสุมกองไฟโทสะเอาไว้มากมาย

    เขาแค่ต้องการให้ดูเหมือนอยากจะช่วยนักเรียนใหม่ของฮอกวอตให้มากที่สุดในสายตาของคนอื่น เขาจึงต้องดึงรอนิอัสมาด้วยเพราะอาจจะโยนหน้าที่นี้ให้แบล็กแทนได้

    ยิ่งเฮอร์ไมโอนี่เงียบ ทอมยิ่งหงุดหงิด รอนิอัสผู้ยืนรออยู่ด้านหลังของเพเนโลพีเห็นทอมกำลังจะระเบิดอารมณ์ เขาแสร้งกระแอมไอเสียงดังตบหน้าอกหลายๆ ครั้งราวกับมีอะไรติดคอ มัลฟอยรีบก้มหน้ามองเท้าตัวเอง เหงื่อผุดซึมตามไรผม ใบหน้ายิ่งซีดขาวกว่าเดิมหลายเท่า เขากลัวกลัวเหลือเกินว่าถ้าเกรนเจอร์ทำให้ทอมโกรธจะยกไม้กายสิทธิ์ฆ่าเธอทันที

    ได้ยินเสียงไอไม่หยุดของรอนิอัสแล้วเฮอร์ไมโอนี่ถึงได้สติว่าเวลานี้ตนเองกำลังยืนอยู่หน้าทอมและทอมกำลังจะเอ่ยชวนช่วยติวหนังสือให้เธอซึ่งเป็นข้อเสนออันยากยิ่งจากทอมผู้เป็นนักเรียนดีเด่น นักเรียนคนอื่นๆ โดยเฉพาะนักเรียนหญิงกำลังกระซิบกระซาบกับเพื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุดพร้อมด้วยสายตาอิจฉาพุ่งตรงดิ่งมารวมกันที่เฮอร์ไมโอนี่

    เธอเม้มริมฝีปาก เธอไม่ได้ต้องการให้ใครที่ไหนมาช่วยเธอด้านการเรียนเพราะเธอเรียนด้วยตัวเองได้เสมออยู่แล้ว เฮอร์ไมโอนี่อยากตอบปฏิเสธทอมแต่เมื่อเห็นสายตาอิจฉาของคนอื่นๆ พร้อมความมุ่งร้ายแล้ว เฮอร์ไมโอนี่จึงมีความคิดอยากจะสั่งสอนพวกหล่อนเสียหน่อย เธอไม่ใช่คนอ่อนแอที่จะยอมให้ใครมารังแกง่ายๆ เธอไม่กลัวใครทั้งนั้นแม้แต่ว่าที่โวลเดอมอร์ตรงหน้าคนนี้ด้วย

    เฮอร์ไมโอนี่จึงพยายามคลี่ยิ้มอย่างอ่อนหวานที่สุดเท่าที่จะทำได้และแกล้งทำเสียงสูงล้อเลียนทั้งทอมและนักเรียนหญิงพวกนั้น “แน่นอน ฉันยินดีให้นักเรียนอันดับหนึ่งของชั้นช่วยติวหนังสือให้” คราวนี้เธอก้มหน้าลงแสร้งแสดงสีหน้าเสียอกเสียใจและกังวล “มีหลายวิชาเลยด้วยที่ทั้งยากและต้องจำเยอะมาก ฉันเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ยังไม่คุ้นเคยกับการเรียนการสอนของที่นี่เลยเรียนไม่ทันเพื่อนๆ คนอื่นๆ ถ้าได้คุณริดเดิ้ลช่วยคงจะดีไม่น้อยเลยล่ะ” ทีนี้เธอแสร้งเงยหน้าพร้อมรอยยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายสดใส

    คนแรกที่แสดงอาการตกอกตกใจจนขนาดอ้าปากค้างอย่างลืมตัวคือเดรโก มัลฟอย เขาคือคนแรกที่ได้เห็นเฮอร์ไมโอนี่แสดงละครแบบนี้ ตั้งแต่ได้รู้จัก เขาทั้งรังเกียจ ขยะแขยงและกลั่นแกล้งแต่เกรนเจอร์ก็โต้ตอบเขาด้วยการเสกคาถาใส่และต่อยจมูกเขาตอนปีสามที่ส่งผลให้เขามีจมูกเบี้ยวนานเกือบสัปดาห์เพราะกลัวเจ็บจากการรักษาของมาดามพรอมฟรีย์

    กระนั้นก็ไม่ใช่แค่เดรโกเท่านั้นที่อ้าปากค้าง เกือบทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกตะลึงกันไปเพราะการแสดงแสนยอดแย่ของเพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์ เธอกล้าพูดได้อย่างไร? ทั้งที่ทุกวิชาที่เธอลงเรียนล้วนได้คะแนนดีและดีเยี่ยมแล้วเพเนโลพีคนนี้จะเรียนไม่ทันได้อย่างไร?

    บางทีกรณีนี้อาจยกเว้นได้เพียงทอม ริดเดิ้ลเท่านั้นเพราะเขานั้นไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเลยเหมือนกับคนอื่นแลย ไม่แม้แต่แววตาจะเปลี่ยนไปแต่ก็คงไม่มีใครนอกจากทอมเองเท่านั้นจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเขาเองกำลังตกตะลึงเหมือนคนอื่นๆ แต่เพียงเพราะต้องรักษาภาพลักษณ์จึงจะแสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด

    ทอมเหลือบมองนักเรียนหญิงหลายคนผู้เพิ่งส่งสายตามุ่งร้ายใส่เพเนโลพี ได้เห็นสีหน้านิ่งค้าง ปากอ้าค้าง พูดอะไรไม่ออก เขายิ่งรู้สึกอยากดึงเพเนโลพีเข้าเป็นพวกยิ่งกว่าเดิม ถ้าหากใช้งานหล่อนได้คงดีต่อแผนการหลายอย่างที่เขาเตรียมเอาไว้ไม่น้อย เขาต้องเร่งมือดึงเธอเป็นพวกเสียแล้ว ทอมคิดกับตนเองอย่างมุ่นมั่นและทำให้อารมณ์ในตอนนี้ของเขาดีไม่น้อย

    เขายิ้มกว้างส่งให้เพเนโลพีและเพราะตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดีสุดๆ เขาจึงลืมจุดประสงค์แรกของตนเองไปเสียสิ้น เขาต้องการจะช่วยเธอจริงๆ ไม่ใช่เพราะต้องการให้เพเนโลพีเรียนตามเพื่อนๆ ทัน เขาเพียงต้องการให้เพเนโลพีไว้ใจเขาหรือมีความรู้สึกว่าติดหนี้เขาเพื่อสักวันเขาจะได้ใช้ข้ออ้างนี้กับเพเนโลพีเพื่อให้เธอล้วงความลับจากดัมเบิลดอร์มาให้ได้

    มันย่อมเป็นประโยชน์ต่อเขาเหลือเกิน

    ทอมหมุนตัวและเดินไปตามทางเดินของปราสาท เส้นทางที่จะไปยังห้องสมุด เขากวักมือให้คนอื่นๆ เดินตามมา รอนิอัสรั้งรอและพยักเพยิดให้แองกวิสเดินตามทอมไปก่อน เดรโกเข้าใจสัญญาณนั้น แม้ว่าจะอยากคุยกับเกรนเจอร์แต่เวลานี้มันไม่ปลอดภัยเลยจริงๆ เขาจึงได้แต่ทำตามที่แบล็กบอก รอนิอัสเมื่อเห็นว่าแองกวิสเดินตามทอมไปแล้ว

    เขาก็ผายมือให้เพเนโลพีเดินก่อนตามหน้าที่สุภาพบุรุษ แน่นอนว่าในสายตาคนนอกเท่านั้น เขาเพียงต้องการสังเกตทุกการกระทำของหล่อนจึงแสดงมารยามแกมบังคับให้เพเนโลพีเดินก่อน ส่วนเขารั้งรออยู่ก่อน เมื่อหล่อนออกเดินแล้วเขาจึงเดินตามด้านหลังอย่างเงียบเชียบ ไม่ลืมทำตามคำสั่งของทอมเลย

     

    เฮอร์ไมโอนี่กำลังตั้งหน้าตั้งตาแปลอักษรรูณโบราณพร้อมจดความหมายในบริบทอื่นๆ เสียงของทอม ริดเดิ้ลขณะกำลังอธิบายคำศัพท์และความหมายประโยคนี้ให้แองกวิสไม่ได้เข้าหูเธอเลย เฮอร์ไมโอนี่สามารถเรียนได้ด้วยตนเองจริงๆ เพราะฉะนั้นเฮอร์ไมโอนี่เองก็ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องให้ทอมช่วยเลยแม้แต่น้อย การกระทำเช่นนี้ช่วยยั่วโมโหให้ทอมเพราะ เธอรู้สึกได้สายตาที่เต็มไปด้วยรังสีเยือกเย็นส่งตรงมายังเธอแต่มีหรือที่คนอย่างเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ผู้นี้จะใส่ใจ

    ตั้งแต่ทั้งสี่คนมาถึงห้องสมุด เฮอร์ไมโอนี่เห็นทอมส่งสายตาให้มัลฟอยผู้ที่ทีแรกกำลังจะเดินอ้อมโต๊ะเพื่อนั่งตรงข้ามกับว่าที่จอมมารแต่เมื่อมัลฟอยเห็นสายตานั้นจึงหันกลับมานั่งข้างทอม เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองรอนิอัสผู้ที่ผายมืออีกครั้งให้เธอนั่งตรงข้ามกับทอม เธอถอนหายใจอย่างหงุดหงิด

    ผ่านมาสามชั่วโมงแล้วที่ทั้งสี่คนนั่งอยู่ในห้องสมุดนี่ ใกล้ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว เฮอร์ไมโอนี่อยากจะใช้โอกาสนี้เพื่อปลีกตัวกลับไปทานอาหารและแยกตัวไปอ่านหนังสือเพียงลำพังที่อื่น อาจจะเป็นริมทะเลสาบหรือไม่ก็ห้องนั่งเล่นกริฟฟินดอร์

    เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าเมื่อเห็นรอนิอัสลุกขึ้นดันเก้าอี้ไปด้านหลังจนเกิดเสียงครูด

    “ฝากด้วยรอส” ทอมเอ่ยเสียงเบาแต่ก็ดังพอให้ทุกคนบนโต๊ะได้ยิน “แซงก์ทิส นายไปช่วยรอสหน่อยได้ไหม” ทอมหันไปเอ่ยกับแองกวิส แซงก์ทิสด้วยความสุภาพ ไม่แผ่กลิ่นอายชวนขนลุกออกมาครั้งที่เขาอยู่ตามลำพังกับคนในสมาคมลับของตนเอง

    แซงก์ทิสพยักหน้าแม้จะไม่เต็มใจ สายตาเขามองเพเนโลพีเพียงชั่วครู่ก่อนจะออกเดินไปยังชั้นหนังสือพร้อมกับแบล็ค ทอมพอใจเมื่อได้อยู่ตามลำพังกับเคลียร์วอเตอร์เพราะเขามีแผนอยู่ในใจ เขาต้องการให้เพเนโลพีไว้ใจเขาและเพียงดึงเข้ากลุ่ม

    ทอมหันมาเอ่ยกับเพเนโลพีผู้หันกลับไปก้มหน้าก้มตาจดสมุดบันทึกอีกครั้ง “คุณเคลียร์วอเตอร์ คุณมีส่วนไหนที่ไม่เข้าใจหรือไม่ ผมยินดีช่วย”

    เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองทอมพร้อมเลิกคิ้วหนึ่งข้าง “ไม่จำเป็นคุณริดเดิ้ล” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยก่อนกลับไปก้มหน้ามองสมุดอีกครั้ง

    ทอมยังไม่ยอมแพ้ “งั้น ผมมีเรื่องหนึ่งอยากจะบอกคุณ”

    เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าอีกครั้งด้วยความรำคาญใจ “เรื่องอะไรหรือคุณริดเดิ้ล”

    ทอมคลี่รอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่มักจะมัดใจผู้คนได้เสนอ “ผมกับเพื่อนๆ มีกลุ่มลับกลุ่มหนึ่งที่จะได้รับเชิญ….

    ยังไม่ทันที่ทอมจะพูดจนจบ เฮอร์ไมโอนี่ก็ปิดสมุดบันทึกและเก็บปากกาขนนกและขวดหมึกรวมทั้งหนังสือสมุดทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะเข้ากระเป๋าไปอย่างรวดเร็ว ทอมรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมากกับการกระทำแบบนี้ของเพเนโลพี ไม่เพียงแค่ปฏิเสธเขาเท่านั้นแต่ราวกับปฏิเสธพร้อมกับตบหน้าเขาไปด้วย โทสะในใจพวยพุ่งจนแทบล้นออกจากอก เขากัดฟันกรอด เอ่ยลอดไรฟัน

    “นั่นคุณจะไปไหนหรือคุณเคลียร์วอเตอร์”

    เฮอร์ไมโอนี่เพียงเลือบมองขณะเก็บหนังสือเรียนเล่มสุดท้ายเข้ากระเป๋า “ฉันหิวแล้ว”

    “แต่ผมยังพูดไม่จบคุณเคลียร์วอเตอร์ ไม่เสียมารยาทไปหน่อยหรือเมื่อคนอื่นกำลังพูดแต่คุณกลับแสดงท่าทีไม่อยากฟังและไปที่อื่นทั้งที่คนอื่นยังพูดไม่จบ” ทอมพูดพร้อมกำหมัดแน่น

    “ขอโทษด้วยแต่ฉันหิวแล้วจริงๆ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเรียบพลางจะลุกขึ้นก่อนทอมจะเอ่ยเสียงเยือกเย็นและเฉียบขาด หมดความอดทนต่อเพเนโลพี เคลียร์วอเตอร์ ดวงตาของทอมเรืองแสงสีแดงวาบ รอยยิ้มทรงเสน่ห์แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่เย็นชาชวนขนลุก

    “นั่งลง!” ทอมเอ่ยคำสั่ง

    เฮอร์ไมโอนี่ทรุดนั่งลงตามเดิมมิใช่เพราะทอมนั้นสั่งแต่เป็นเพราะเขากำลังแผ่รังสีอำมหิตและกลิ่นอายของศาสตร์มืดออกมาปกคลุมตัวเธอซึ่งนั่นทำให้เธออึดอัดและหวาดผวา แม้จะต่อสู้กับศาสตร์มืดข้างแฮร์รี่มาตลอดแต่ก็อยากที่จะทำใจให้ชินกับศาสตร์มืดที่พยายามจะครอบงำจิตใจทุกชั่วขณะ

    โทสะในใจทอมเบาบางลงเมื่อเห็นเพเนโลพีนั่งลงตามเดิม เขาคิดว่านั่นเป็นเพราะหล่อนเริ่มกลัวเขาเข้าแล้ว ทอมจึงพยายามปรับน้ำเสียงให้นุ่มนวลตามเดิม แสงสีแดงที่ลุกวาบนั้นพลันหายไปทันใดพร้อมกับรอยยิ้มเย็นชาและสีหน้าที่เยือกเย็นของทอมหายไปแทนที่ด้วยหน้ากากอีกครั้ง

     

     *Talking*

    สวัสดีค่ะ คราวนี้ดองนิยายยาวเลยแต่งานเยอะมากจ้า ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและรอคอยกันอยู่นะคะ ขอขอบคุณจากใจเลยจริงๆ ค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×