คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #97 : -:- Special -:- พบปะสังสรรค์ (+รูปวาด)
พบปะสังสรรค์
เสียงคัมไปดังขึ้นกึกก้อง
ตามมาด้วยเสียงชนแก้วลั่นห้องส่วนตัวในร้านอาหารดังกลางเมืองยอร์คชินซิตี้ ยามค่ำคืนในเมืองอันเป็นที่ตั้งของสถานเริงรมณ์เต็มไปด้วยแสงสีน่าประทับใจ
ด้วยสถานะของหลายคนในกลุ่ม พวกเขาเลยได้มาอยู่ในห้อง VIP ได้รับการรับรองอย่างดี เด็กเสิร์ฟรอรับการบริการอยู่ด้านนอกอย่างรัดกุม รอคอยการเรียกใช้แม้คนด้านในจะบอกว่าขอความเป็นส่วนตัวให้พวกเขาอยู่ด้วยกันเองก็ตาม
ใครจะกล้าละเลยกันล่ะ ในเมื่อคนที่อยู่ด้านในมีทั้งแพทย์มือดี หัวหน้าแก๊งนอสทราด ทายาทมือสังหารโซลดิ๊ก ทริปเปิ้ลฮันเตอร์ และ…ทายาทคราวน์สายหลักนั่นอีก
เจ้าของร้านรู้สึกเหมือนอายุสั้นลงทุกวินาที แม้จะโด่งดังและได้รับรางวัลการรับรองมาจากฮันเตอร์เลิศรสหลายเจ้าก็ตาม แต่ใครจะไปรู้ว่าทำพลาดใส่บุคคลสำคัญพวกนั้นที่แค่เห็นหน้าค่าตาก็รู้ตัวตนขึ้นมา…คออาจหลุดออกจากบ่าในเสี้ยววินาทีก็เป็นได้
ความกดดันส่งผ่านมายังเหล่าลูกจ้างในร้านโดยไม่รู้ตัว และพวกเขากำลังเอาจริงเอาจังในการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าคอยบริการทุกคนในห้องอย่างใจจดใจจ่อเพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาดอันส่งผลร้ายต่อชีวิตในทุกกรณี
— และทั้งหมดนั่นพวกเขาล้วนคิดไปเองทั้งสิ้น
“คัมปายโว้ย คัมปาย!”
แพทย์มือหนึ่งยกแก้วเหล้าขึ้นนำทุกคนจนแอลกอฮอลด้านในกระฉอกออกมาไม่น้อย ท่าทางของเลโอลีโอที่กระตือรือร้นในทุกการเติมเหล้าทำให้ทุกคนในที่นี่หัวเราะออกมาอย่างตลกขบขัน
“เลอะเทอะชะมัดเลยเลโอลีโอ ทำยังกะคนไม่เคยกินเหล้าไปได้”
เป็นคุราปิก้าที่บ่นกระปอดกระแปดออกมา ชายหนุ่มผมทองสั้นในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสุภาพ เสื้อสูทตัวนอกถูกเอาไปแขวนไว้กับไม้แขวนตรงประตูทางเข้ารวมกับเสื้อนอกของคนอื่น ๆ — ที่นอกจากเสื้อกราวน์สีขาวของเลโอลีโอกับเสื้อคลุมสีเขียวเข้มของกอร์นแล้ว ที่เหลือล้วนเป็นเสื้อนอกสีเข้มทั้งสิ้น
“ใกล้ลงแดงไง คนไข้เยอะแถมอยู่เวรเกือบทุกวันเลยต้องอดทนไม่เม้งแตกก่อนวันหยุดยาวใช่ไหม ลีโอเลโอ?”
“เลโอลีโอเฟ้ย! ไอ้นี่ก็ชอบล้อชื่อกลับหน้ากลับหลังอยู่นั่นแหละ คิดว่าตัวเองมีชื่อแค่สองพยางค์แล้วมันเจ๋งนักรึไง!”
คิรัวร์จิ้มปลาหมึกสีแดงชุ่มซอสเข้าปาก ยักคิ้วอย่างกวนประสาทให้กับเพื่อนตัวสูงโย่งที่อายุมากกว่าตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่หน้าตานำยุคไปก่อนใครเขาเกือบสิบปี “ชื่อเท่กว่านายแล้วกัน สรรเสริญฉันซะสิ ปะป๋าให้มาโดยเฉพาะเลยแหละ”
ปกติเรียกพ่อว่าตาแก่ด้วยซ้ำ แต่เพื่อกวนตีนเพื่อนจะให้เรียกปะป๋าหรือปะปี๊ คิรัวร์ย่อมไม่ขัดศรัทธา
กอร์นหัวเราะกว้าง ทั้งห้องครื้นเคร้งไม่หยุดหย่อน ในขณะที่มือจิ้มอาหารบนจานที่วางบนโต๊ะหมุนได้ก็หันมาหาคนข้างกาย “เอ…ชื่อคิรัวร์นี่ตามจริงต้องสามพยางค์ใช่ไหม แต่พอเรียกเร็ว ๆ ก็เลยควบเป็นสองพยางค์น่ะ”
คิรัวร์ตอบแทน “ช่าย ก็ดูชื่อพี่น้องฉันดิ อิรุมิเงี้ยะ มิรุคิเงี้ยะ เพราะงั้นชื่อฉันก็ต้อง—”
“คิรุอา”
เป็นเสียงทุ้มต่ำของคนที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างกอร์นกับคิรัวร์เอ่ยขึ้นมา “คิรุอา…ก็น่ารักดีนี่”
หญิงสาวตัวสูงพอ ๆ กันกระตุกยิ้ม ดวงตาสีแดงเลือดเสี้ยวอำพันวาววับข้างซ้ายหยีลงนิด ๆ เส้นผมสีปีกกาบางส่วนที่ลงมาคลอเคลียใบหน้าถูกชายหนุ่มผมตั้งข้างกันช่วยมัดรวบให้พอไม่เกะกะ
“จากชื่อเท่ ๆ ดูน่ารักไปเลยว่ะไอ้เหมียว”
เลโลอีโอยิ้มเยาะ ส่วนคิรัวร์สบถขรมตอนเห็นญาติผู้พี่หันมาแจมแล้วทำให้บรรยากาศพลิกกลับมาเล่นงานตัวเอง ตะเกียบในมือคีบอาหารชิ้นเผ็ดจัดจ้านยัดเข้าปากหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มอย่างรวดเร็ว สายตาเรียวรีหันไปแง่งใส่ไอ้โย่งฝั่งตรงข้าม
“อยากโดนไอ้เหมียวข่วนแขนปะล่ะไอ้หมอ ด้วนเลยนะ มาดิ”
“เฮ้ ๆ มากินข้าว ไม่ได้มาตีกัน” คุราปิก้ารับบทคนกลางทิพย์ ดูก็รู้ว่าพูดไปงั้นไม่คิดห้ามจริงจัง เขามองคุเรฮะที่ถูกยัดของเผ็ดยกข้อมือขึ้นมาไอปิดปากเบา ๆ ก็เติมเหล้าลงไปให้จนปริ่มแก้ว
กอร์นลูบหลังให้เพื่อนสนิทพลางหัวเราะเบา ๆ ในกลุ่มนี้ ถ้าไม่ใช่คนประเภทชอบกวนตีนกันกับไม่ยินดียินร้าย กอร์นจัดเป็นประเภทยิ้มแย้มและหัวเราะได้ตลอดเวลาจนใกล้บ้าก็ว่าได้
แต่ถ้าวันไหนหุบยิ้มขึ้นมา
เรียกได้ว่าแม้แต่คนที่ดื้อที่สุดในกลุ่มก็ยังไม่กล้าเถียง
วันเวลาผ่านไป — จากเด็กชายเด็กสาวเติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มและหญิงสาว รูปร่างยืดยาวเติบใหญ่ไปตามวัย ความน่าเกรงขามและรอยบิ่นร้าวถูกประดับไว้ตามร่องรอยของชีวิตที่เห็นได้จากแววตาและออร่าเน็น
หากนิสัยบางอย่างล้วนยังคงอยู่…ไม่เปลี่ยนแปลง
“ถ้าวันไหนล้ามาก ๆ ก็ควรพัก เป็นคุณหมอแล้วนะไม่ใช่ไอ้หนุ่มขี้เหล้า ทำงานหนักมากเข้าระวังวันหนึ่งจะล้มตึงแล้วตายแบบกู่ไม่กลับ”
เผ่าคูลต์คนสุดท้ายชี้ตะเกียบไปหาเลโอลีโอที่นั่งข้างกัน ปากบ่นแจ้ว ๆ เป็นคุณแม่ผิดกับมาดบอสหนุ่มผู้เย็นชาแห่งแก๊งนอสทราด — แก๊งมาเฟียที่เคยดับแล้วพุ่งทะยานขึ้นมาเหมือนเสือติดปีกเพราะเขาคนเดียว
กอร์นโบกมือเล็ก ๆ “เอาน่า นาน ๆ ทีจะว่างตรงกัน ดีนะที่คุเรย์ผ่านไปเห็นว่าเอโอลีโอเกือบเป็นลมก่อนการผ่าตัดสำคัญ พวกเราเลยได้ฤกษ์กลับมาเจอกันพอดี”
เลโอลีโอลุกขึ้นพรวด
“เป็นเธอเองเรอะที่ทำให้ผอ.สั่งพักงานฉัน!”
เจ้าของชื่อที่สวมผ้าปิดตาข้างหนึ่งยักไหล่อย่างเฉยชา “จะปล่อยให้คนตาโหลอดนอนไปผ่าตัดบ่อย ๆ ก็ใช่เรื่อง ฉันเลยเปรย ๆ ให้พี่ใหญ่ฟัง ทางนั้นคงเห็นใจนายเลยจัดการให้มั้ง”
อำนาจของคราวน์แผ่ขยายไปไกลแค่ไหนทุกคนต่างรู้กันดี แต่เลโอลีโอไม่คาดคิดว่าจะถึงขั้นเข้ามาจัดการเรื่องงานของเขาที่อยู่นอกขอบเขตประเทศที่อีกฝ่ายอยู่ได้ด้วย!
กอร์นคีบอาหารใส่จานคุเรฮะให้เมื่อเห็นว่าของในจานพร่องไปเกือบหมด คุเรฮะเลยตักชิ้นเนื้อบางส่วนใส่จานคืนให้บ้าง คิรัวร์ที่ดื่มเหล้าไปช่วงหนึ่งเห็นแบบนั้นก็หันมาอ้าปากงับเนื้อที่หญิงสาวกำลังจะคีบเข้าปากอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้น้อยหน้า
คุเรฮะชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะคีบเนื้อชิ้นใหม่มาป้อนเจ้าแมวขาวขนฟูที่ตอนนี้ผมยาวจนรวบเป็นหางม้าสั้น ๆ ได้อีกคำหนึ่ง
ป้อนอีกคำหนึ่ง ตามด้วยอีกคำหนึ่ง
จนเห็นว่าปากอีกฝ่ายกลืนอาหารไม่ทันก็หัวเราะหึ ป้อนให้กอร์นที่มองตาแป๋วอยู่ข้างกันบ้างคำสองคำ จากนั้นคีบอาหารเข้าปากตัวเองบ้างอย่างราบรื่น
เหมือนเลี้ยงหมากับแมวไม่ให้น้อยหน้ากันอย่างไรอย่างนั้น
คุราปิก้าสบตากับเลโอลีโอขณะที่ภาพตรงหน้าดำเนินไปสักระยะ ก่อนจะหัวเราะพร้อมกันเบา ๆ อย่างให้พวกคนอายุน้อยกว่าตนช่วงหนึ่งอย่างเอ็นดู
“จะว่าไปช่วงนี้คุเรฮะทำงานให้กับพี่ชายสินะ…ใช่ไหม?” คุราปิก้าเอ่ยถาม จิบเหล้าไปพลาง ๆ
“แค่บางเรื่องน่ะ เน้นจัดการพวกเบื้องหลังมากกว่า”
พวกเขาได้ยินมาว่าหลายปีก่อนคุเรฮะยื่นคำตัดขาดกับวงศ์ตระกูลไปแล้วเพราะการกระทำอันผิดพลาดของนายเหนือหัวคราวน์คนก่อน แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนในตระกูลก็ยังนับสถานะกับเธอเป็นน้องสาวคนสุดท้องของคราวน์สายหลักอยู่ดี
พี่ชายและพี่สาวของเธอพยายามกันอย่างมากเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบอันเน่าเฟะในคราวน์ที่ทำให้ลูกหลานในตระกูลจับอาวุธมาฆ่ากันเอง พยายามทำในสิ่งที่พี่ชายคุเรฮะเคยคิดจะทำแต่ไม่สำเร็จ
ถึงจะเปลี่ยนไม่ได้ทั้งหมดในเร็ววัน
แต่ทุกอย่างก็ค่อย ๆ ขับเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ และคงจะดีขึ้นอีกในอนาคต
เห็นว่าพี่ชายคนโตของคราวน์ตามมาเทียวไล่เทียวขื่อคุเรฮะอยู่นานพอดู ไม่ได้ข่มขู่ แต่มาเกลี้ยกล่อมกึ่งอ้อนวอนให้กลับไปซะมากกว่า แต่พอเห็นว่าน้องสาวคนเล็กเจ็บปวดกับแผลเก่าเกินกว่าจะกลับไปอยู่อาศัยที่คราวน์ จึงตัดใจให้อิสระทุกอย่างแก่เธอตามที่หวังไว้
คุเรฮะกลายเป็นนายเหนือหัวของ ‘เงา’ เนื่องจากเงาบางส่วนเลือกที่จะยึดติดกับเธอ ไม่ยอมละทิ้งเจ้านายไปมีชีวิตของตัวเองแม้คุเรฮะจะให้อิสระแก่พวกเขาแล้วก็ตาม เป็นผลมาจากการฝึกฝนของพี่ชายคุเรฮะในอดีต
เพราะแบบนั้น งานเก็บกวาดเปื้อนเลือดที่ว่างเว้นจึงได้รับการสานต่อจากคุเรฮะอีกที เก็บกวาดศัตรูที่ซ่อนหลังม่าน เก็บกวาดพวกสายตระกูลรองที่ทรยศในกาลเก่า อยู่ในเงามืดของคราวน์อย่างอิสระเสรี
งานไหนที่อยากทำก็จัดการเรียบ งานไหนน่าเบื่อก็ปัดทิ้ง
เห็นน้องสาวมีความสุขกับการเป็นเงาและสายลมยามกลางคืน พวกพี่ชายพี่สาวก็สบายใจ
“แล้วตาข้างนั่น…”
หัวหน้าแก๊งนอสทราดหยั่งเสียง จ้องไปที่ผ้าปิดตาข้างขวา
“ก็พลาดตอนทำงานมางั้นเหรอ?”
ทุกคนหันมามองที่เธอเป็นตาเดียว
บรรยากาศในห้องเหมือนจะหยุดชะงักไปชั่วครู่ ในขณะเดียวกัน คุเรฮะกะพริบตาปริบ ร้อง “อ้อ” ออกมาคำหนึ่ง
“จะว่าไป…” กอร์นเกริ่นเสียงยาว ยื่นใบหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้านต่างจากพ่อผู้โด่งดังบนไหล่มน
“พวกฉันก็รอให้เธอพูดมาหลายเดือนแล้วนะ” ตามด้วยคิรัวร์ รวบแก้มญาติผู้พี่มาบีบเค้นด้วยมือหนาข้างเดียว “แต่เธอก็ทำมึนไม่บอกซะที เอาล่ะ คายตะขาบออกมาซะ ไปพลาดที่ไหนกับใครมา หา?”
อาจเพราะมีช่วงหนึ่งที่พวกเขาแยกย้ายกันไปคนละทางตามเส้นทางชีวิต พวกเขารู้กันหมดว่าทุกคนหายไปทำอะไรกันมา แต่มีเพียงแค่คนเดียวที่ยังเป็นปริศนา มิหนำซ้ำยังกลับมาพร้อมผ้าคาดตาขวาให้ทุกคนแตกตื่นเล่น
ถ้าไม่นับช่วงที่ทุกคนซึมเศร้าเพราะเข้าใจผิดว่าเธอล้มหายตายจาก ทุกวันนี้คุเรฮะไม่ต่างอะไรจากผีด้วยซ้ำ ร่อนเร่เหมือนสายลม ตามจับตัวยากยิ่งกว่าควัน นึกอยากมาก็มา นึกอยากไปก็ไป ถ้าไม่เรียกหาจริงจังมีหรือจะได้โผล่มาให้ได้เห็นหน้าค่าตา
ตอนนั้น — เป็นเรื่องวุ่นวายที่ใหญ่ที่สุดนับจากเรื่องที่ทุกคนคิดว่าคุเรฮะตายไป — กอร์นหลุดไปอยู่โลกคู่ขนานพักใหญ่เพราะการขอพรในช่วงสติหลุดกับนานิกะ หากเรื่องทั้งหมดก็จบลงในเวลาสั้น ๆ ด้วยมือของคุเรฮะที่ฟื้นขึ้นมาจากการรักษาลับ ๆ ของเหล่าคราวน์สายหลักที่นำร่างของเธอไปเก็บไว้ในชั้นใต้ดินลึก
พวกพี่ของคุเรฮะทุ่มทุกอย่างเพื่อรักษาเธอให้ฟื้นขึ้นมาโดยไม่บอกใคร ป้องกันอันตรายจากพวกสายตระกูลรองที่ยังกำจัดไม่หมดเหมือนหนูจรจัด ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนร่างกายที่ถูกทหารมดระดับองค์รักษ์ดัดแปลงให้กลับมาอยู่ในสภาพที่คล้ายคลึงมนุษย์มากที่สุด
แต่ตอนที่ทุกคนฉลองกับการฟื้นขึ้นมาของเธอ จำได้ว่านอกจากฟันแหลมคมกับมือเท้าที่ผิวหนังเป็นผิวสีดำไล่สีจาง ดวงตาของเธอกลับมาเป็นปกติแล้วด้วยซ้ำ เนื่องจากพลังสีดำของเน็นนอกรีตหายไปหมดแล้วกับจิตวิญญาณพี่ชายเธอที่สลายไป
จึงเข้าใจว่าดวงตาข้างขวาพลาดบาดเจ็บจากภารกิจกันมาอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่พลาดได้ยังไง กับใครต่างหากคือสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ต่อจากนั้น
คุเรฮะขยับใบหน้าออกจากการเกาะกุมของญาติผู้น้องอย่างง่ายดายแม้เจ้าตัวแทบจะจิกเล็บเค้นคำสารภาพออกมาก็ตาม ก่อนจะหัวเราะขบขันเล็กน้อยกับสายตาที่คิดจับพิรุธของทุกคน
นิ้วเรียวแตะเข้าที่คาง เอียงศีรษะเล็กน้อย ลังเลว่าจะบอกหรือไม่บอกดี
“ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนี่นะ”
แล้วปลดผ้าปิดตาออกเผยให้เห็นนัยน์ตาสัตว์ร้ายที่เป็นสีทองอำพัน พื้นที่ตาขาวเป็นสีแดงเลือดล้อมกรอบอันเป็นดวงตาที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีในอดีต
นัยน์ตาของ ‘อ็น’
หลังจากนั้นก็เป็นมหกรรมวงเหล้าแตก…ทุกคนแหกปากถามสาเหตุ ขวัญกระเจิงไปคนละทาง พวกเขารู้สาเหตุของการที่คุเรฮะนอนเป็นผักเหมือนตายเพราะพลังนอกรีตทำลายอวัยวะภายในมาเป็นปี ๆ
แล้วทำไมมันยังกลับมาได้อีก!?
ยังกะหนังสยองขวัญที่ผีร้ายผุดขึ้นมาจากหลุมตอนจบเลยชัด ๆ !
คุเรฮะยืนยันเสียงหนักแน่น แอบกลั้วหัวเราะด้วยซ้ำตอนทุกคนโวยวายซะงั้นเด็กเสิร์ฟด้านนอกตกใจกันเป็นแถบ “ฉันควบคุมมันได้”
มือสองข้างที่ยกขึ้นมาให้ทุกคนใจเย็นถูกกอร์นกับคิรัวร์คว้าหมับไปกอดคนละข้าง ดวงตาของทั้งคู่ไม่ต่างอะไรเหมือนเสือกับสิงห์ อะไรกัน ก่อนหน้านี้ยังเป็นหมากับแมวให้เกาคางเล่นอยู่เลย
ได้ยินเสียงกัดฟันแทบจะข่มขู่เอ่ยขึ้น
“อย่าบอกนะว่าที่หายไปหลังบำบัด…เธอไปเอามันกลับมา?”
กอร์นตาแข็งกร้าว แขนรัดเธอแน่นจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นออกมาเบา ๆ
“บ้าไปแล้วรึไง เธอคิดอะไรของเธออยู่!”
รูม่านตาของคิรัวร์หดลง ออร่าความโกรธแทบจะหลุดออกไปนอกห้องจนคนด้านนอกรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกเสือตัวโตขย้ำเป็นชิ้น ๆ
เลโอลีโอกับคุราปิก้านิ่งเงียบ พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยช่วงเกิดเหตุการณ์คิเมร่าแอนท์ แต่ตอนที่เห็นสภาพคนทั้งคู่เสียศูนย์จากการเข้าใจว่าคุเรฮะตายก็พอเข้าใจว่าทำไมถึงเครียดกันขนาดนั้น
ก่อนที่เสียงดังโครมจะตามมา
ราวภาพตัดไป กะพริบตาแค่วินาทีเดียวก็เห็นร่างของชายหนุ่มตัวโตสองคนถูกกดทับลงบนโต๊ะไว้ด้วยสองมือ เกาะกุมหลังคออันเป็นจุดตายของเพื่อนสนิทเอาไว้อย่างแม่นยำ
ฝ่ามือยามไร้ถุงมือสวมเผยผิวสีดำไล่สีขึ้นมาตามข้อมือ คุราปิก้ามองเส้นเลือดที่ขึ้นมาตามท่อนแขนของเธอ เลโอลีโอสะดุ้งเล็กน้อยตอนเห็นว่าบรรยากาศราวตัวหญิงสาวเข้มขึ้นจนแทบจะเป็นความกดดันที่ข่มทับโทสะคนสองคนซะมิด
นัยน์ตาคมกริบของทายาทตระกูลอสรพิษเหลือบมองคนข้างใต้ที่กัดฟันขัดขืน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังห่างชั้นเกินไปเมื่อเทียบกับคนที่เคยผ่านความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง
“ฉันไม่ใช่โคเซย์”
ก่อนจะปล่อยมือออกจากลำคอทั้งคู่ กอร์นกับคิรัวร์เงยหน้าขึ้นมา ถึงได้เห็นว่าที่ใบหน้าไร้บาดแผลเพราะมีควันสีดำรองรับข้างใต้ไว้ให้ ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาทำให้ทั้งสองคนเงียบลงแต่ก็ใช่ว่าจะยินยอมทั้งหมด
พริบตาเดียวความกดดันอันน่าหวาดหวั่นก็หายวับไป
เจ้าของพลังอ็นขยี้หัวเจ้าหมาแมวที่ทำแง่งอน “ตอนนั้นเซย์ทำพลาดเพราะมั่นใจในตัวเองจนเกินไป ข้อมูลบางส่วนเลยยังไม่ได้คัดกรองมามากพอ แต่ฉันตรวจสอบมาดีแล้ว ไม่ต้องห่วง”
“ทำไมเธอถึงยังเอาตัวไปข้องเกี่ยวกับอ็นอีกล่ะ หลุดพ้นมาแล้วไม่ใช่เหรอ?” คุราปิก้าจิบเหล้า มองการปรับความเข้าใจตรงหน้าด้วยสายตาครุ่นคิด
เลโอลีโอพยักหน้ารัว “หมอนี่พูดถูก หรือเธออยากแข็งแกร่งขึ้น? โห แค่นี้ก็แกร่งจนไม่รู้จะแกร่งยังไงแล้วนะแม่คุณ” ถ้าเทียบกับเขาน่ะนะ
คุเรฮะคลี่ยิ้ม
ยังคงเป็นรอยยิ้มอ่านยากเสมอมา
“ฉันก็แค่สานต่อสิ่งที่พี่ชายเคยทำไว้”
แม้เซย์จะทำไม่สำเร็จก็ตาม
ครั้งหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตเธอ พี่ชายถึงได้ทำพันธสัญญากับพลังนอกรีตเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังแห่งความมืด หลายคนในตระกูลที่อยู่คนละฝั่งรุมประณามแล้วหัวเราะเยาะกับผลลัพธ์ที่นำมาซึ่งความตาย
เธอก็แค่แสดงให้พวกมันเห็นว่าใครกันแน่ที่คิดผิด
“พลังยอมรับฉันเป็นส่วนหนึ่งของมันแล้ว ไม่กัดกินตับไตไส้พุงแน่นอน รับรองได้โดยแพทย์ประจำตระกูลคราวน์ที่เก่งที่สุด” เพราะพวกพี่ ๆ เธอเองก็แตกตื่นเช่นกัน เลยหาหมอมาตรวจร่างกายกันให้วุ่นวายไปหมด
ชูสองนิ้วหน้าตาย นัยน์ตาคมปลาบมองเจ้าแมาแมวที่ยังคงกอดอก แก้มป่องกันคนละข้าง อ็นสีดำในรูปแบบของหมอกควันจึงลอยเข้าไปดึงแก้มให้ยืดออกด้วยความมันเขี้ยว
“อย่างอนสิ เพราะฉันกลัวมีคนร้องไห้ขี้มูกโป่งที่หลุมศพแม่กับพี่ฉันไง ถึงได้ทดสอบจนมั่นใจแล้วว่าพลังเข้ากันได้ไม่ต่อต้านน่ะ”
พอพูดแบบนั้นเจ้าหมาเลยยอมหันกลับมาซบกอดก่อน ส่วนเจ้าแมวยังคงเหล่มองด้วยหางตา
เธอสบตาตอบอย่างซื่อตรง บรรยากาศรอบตัวเริ่มกลับมาอบอวลด้วยความอบอุ่นตามเดิม เลโอลีโอกับคุราปิก้าโคลงหัวหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ โตแล้ว ชีวิตใครชีวิตมัน
จ้องตาสื่อจิตกันไปสักพักเจ้าแมวก็ยอมหันกลับมาประจันหน้า
“ไหนบอกมาซิว่าเธอทำยังไงถึงได้มันมา”
คุเรฮะยิ้มมุมปาก แกล้งเชยคางเจ้าเหมียวขี้วีนอย่างหยอกล้อ
“ความ-ลับ”
พูดจบก็จุ๊บเหม่งเหมียวไปหนึ่งที หันไปจูบแก้มเจ้าหมาที่ทำตาละห้อยซบไหล่ไม่ให้น้อยใจด้วย ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มอย่างสุขสันต์ เมินเสียงโวยวายแก้เขินของคนข้าง ๆ ไปอย่างหน้าตายที่สุด
☼
หยดน้ำพร่างพราวเกาะตามลำตัวหลังก้าวออกมาจากห้องน้ำ หญิงสาวที่ส่วนสูงเกินมาตรฐานผู้หญิงทั่วไปสวมกางเกงขายาวหมิ่นเหม่จะหลุดจากสะโพก ร่างเปลือยท่อนบนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นใต้ร่มผ้า มีเพียงผ้าขนหนูผืนจ้อยห้อยคอลงมาปิดหน้าอกสองข้างพอดิบพอดี
ท่ามกลางรอยสักงูสีดำรัดดอกพลับพลึงแดงกลางแผ่นหลัง ประปรายไปด้วยรอยแผลเป็นน้อยใหญ่ ลวดลายแห่งการใช้ชีวิตแสดงผ่านศิลปะตามลำตัวอย่างเปิดเผยและภาคภูมิใจ
[มาจิบ่นอีกแล้วว่าอยากเจอเธอ]
ข้อความในโทรศัพท์ล่าสุดส่งมาโดยผู้ส่งปริศนาไร้ชื่อ แต่เธอรู้ดีว่าใครเป็นเจ้าของข้อความนี้
เธอหัวเราะในลำคอ ถ่ายรูปกระป๋องเบียร์ในตู้เย็นที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ส่งตอบไปแทนข้อความปกติ บางส่วนตั้งกองไว้บนโต๊ะ แม้จะกลับมาจากงานสังสรรค์แล้วเธอก็ยังคงดื่มไปอีกนิดหน่อย
โทรศัพท์สั่นครืด ทางนั้นส่งมาอีกหนึ่งข้อความ
[ฉันก็ด้วย]
หญิงสาวยักไหล่แล้วกดปิดหน้าจอ โยนโทรศัพท์ไปไว้บนเตียงก่อนจะเปิดเบียร์อีกกระป๋องขึ้นมาดื่มต่อ ระหว่างนั้นก็เดินไปยังระเบียง จ้องมองเมืองแห่งแสงสีที่ระยิบระยับไปด้วยแสงจากตึกรามบ้านช่องตอนกลางคืนด้วยแววตาอ่านไม่ออก
ดื่มแอลกอฮอล์เย็น ๆ ลงคอรวดเดียว ก่อนจะเอนตัวหลบอะไรบางอย่างที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงที่ตาเปล่ามองไม่เห็น
ฉึก!
ดวงตาคมปรายมองไพ่โจ๊กเกอร์ที่ปักผนัง เส้นผมสีปีกกาปลายแดงที่ยาวถึงสะโพกถูกตัดฉับตั้งแต่บ่าลงไป ก้มลงมองก็เห็นเส้นผมที่ร่วงผล็อยไปกองกับพื้นระเบียงอย่างน่าสงสาร
เธอผิวปากสั้น ๆ
“หงุดหงิดอยู่รึไง”
เป็นคำทักทาย เงยหน้าขึ้นก็เห็นเงาชายหนุ่มตัวโตคร่อมร่างไว้ สองเท้าเขย่งนั่งทับส้นบนราวระเบียงอย่างชำนาญ ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มตัวตลกที่เห็นจนชินตาตั้งแต่พบกันในตรอกร้างก่อนถึงทางเข้าสนามสอบฮันเตอร์
แต่แววตาไม่ยิ้ม
พรายกระซิบทำหน้าที่ของมันอย่างดีแม้จะไม่ได้สั่งการไว้ คอยรายงานเรื่องน่าสนใจให้ฟังไม่ขาด ได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในช่วงเห่อของใหม่ เหมือนจะไปเจอกันในสังเวียนใต้ดินผิดกฏหมายที่อีกฝ่ายชอบลอยหน้าลอยตาไปหาเหยื่อ
เห็นว่าเป็นเด็กสาวตระกูลดังอายุ 16 ปี แอบพ่อแม่ออกมาหวังจะมีชื่อเสียงในวงการใต้ดินด้วยเหตุผลส่วนตัว การพบเจอของเด็กหญิงกับโจ๊กเกอร์ผู้รักการเฉียดเป็นเฉียดตายไม่ต่างอะไรไปจากเธอและสองหมาแมวในวัยเยาว์
แต่สงสัยของเล่นที่คาดหวังไว้จะทำได้ไม่ดีพอ เจ้าตัวเลยเม้งแตกเชือดคออีกฝ่ายไป
เห็นว่าเทียวไล้เทียวขื่อมาเกือบ 3 ปี อีกทั้งเด็กน้อยคนนั้นยังหลงรักเจ้าตัวตลกไปหมดใจแล้วแท้ ๆ
น่าสงสารซะจริง
ยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อก็ถูกมือหยาบกร้านผลักร่างเข้าไปในห้อง เธอเอี้ยวตัวหลบคมไพ่ที่พุ่งเข้ามาหาอย่างไม่มีสัญญาณ ก่อนจะถูกกระชากตัวกลับไปด้วยบันจี้กัมสีหวาน
หญิงสาวแอบขำคนอารมณ์เสียเพราะขนมที่อยากได้มันรสชาติไม่ถูกปาก
ร่างสูงโปร่งเทเลพอร์ตหลบอาวุธที่ถูกปาเข้าใส่เป็นสิบ ๆ ใบหมายจะเอาเลือดเนื้อให้กระเซ็นสักหยดสองหยด เอื้อมคว้าเสื้อรัดรูปแขนกุดขึ้นมาสวมท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังก่อตัว
มองเข็มขัดที่พาดอยู่บนเก้าอี้ มันเสียบเข็มแหลมไว้เป็นระเบียบ มือเธอปัดผ่านครั้งหนึ่ง เข็มนับร้อยก็ลอยขึ้นกลางอากาศ ล้อมรอบคนเอาแต่ใจท่ามกลางความกดดัน
ริมฝีปากคลี่ยิ้มรับกับกรอบตาคมที่หยีขึ้น
“สมน้ำหน้า”
แล้วดีดนิ้วดังเป๊าะ
ห้องพักหรูใจกลางเมืองยอร์คชินซิตี้กลายเป็นซากในพริบตา ทั้งคนที่เยาะเย้ยและคนที่อาละวาดนอนหอบอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ขาดรุ่ย ร่างของหญิงสาวคร่อมทับเจ้าตัวตลกที่ใบหน้าหล่อเหลามีทั้งรอยช้ำที่ตาและรอยแตกที่ปาก ส่วนใบหน้าของเธอเกลี้ยงเกลา มีเพียงลำตัวที่ถูกไพ่บาดจนเลือดซิบเล็ก ๆ สองสามรอยเท่านั้น
เสียงหัวเราะในลำคอดังคลอเบา ๆ ท่ามกลางความเงียบงัน เธอมองลวดลายไพ่ข้างแก้มที่เป็นถูกปาดเป็นรอยปื้นเลอะรอยเลือดแล้วพอใจมาก กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งทั้งเธอและเขา
เจ้าของนัยน์ตาคมเสยผมสีดำปลายแดงชื้นเหงื่อขึ้น พริบตาเดียวเรือนผมที่ถูกไพ่ตัดขาดก็ค่อย ๆ ยาวลงมาปกคลุมใบหน้าคนข้างใต้ด้วยพลังฟื้นฟูของเน็นนอกรีต ฮิโซกะมองทุกการเปลี่ยนแปลงไม่วางตา
เขาเอื้อมมือขึ้นมาคล้องคอหญิงสาว ปลายนิ้วไล้ตามสันกระดูกหลังคอเบา ๆ
ก่อนจะคว้าเธอลงไปจูบเต็มรัก
— สุดท้ายก็ต้องขอย้ายห้อง
คุเรฮะโยนให้อีกคนที่ก่อเรื่องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายรวมทั้งค่าปรับหฤโหดไปอย่างไหลรื่น แล้วจัดการเข้าพักห้องใหม่ที่สะอาดตาและเฟอร์นิเจอร์จัดไว้เป็นระเบียบ
หลังเข้าไปอาบน้ำล้างตัวกันอีกรอบ เธอคลานขึ้นไปนอนคว่ำเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงราวกับคนที่ตามหลังมาเป็นแค่ธาตุอากาศ ไม่นานนักก็รู้สึกได้ถึงเตียงที่ยุบลงข้าง ๆ พร้อมกับท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสอดเข้ามาที่เอว
ฮิโซกะดึงเธอเข้าไปกอด ซุกไซ้ใบหน้าที่ล้างเครื่องสำอางออกหมดจดลงบนแผ่นหลังคนอายุน้อยกว่าเกือบรอบหนึ่ง แม้ใบหน้าจริง ๆ จะเว้าแหว่งเป็นผีเพราะการต่อสู้ไปแล้ว แต่บันจี้กัมก็ทำหน้าที่ในการสร้างเนื้อเยื่อและผิวหนังให้กับเจ้านายของมันอย่างดี
“สลีปปี้อ่า คิดถึงจาง”
เธอกลอกตายามฝ่ามือปลาหมึกเลื้อยขึ้นมาวุ่นวายใต้ร่มผ้า ดูเหมือนอารมณ์ชายหนุ่มจะกลับมาคงที่แล้ว น้ำเสียงถึงระริกระรี้น่าหมั่นไส้ได้ขนาดนี้
เน็นสีดำฟาดกลางกระหม่อมคนมือซนดังเพี้ยะ ไม่จริงจังนัก
กลิ่นแชมพูอาบน้ำที่ใช้ด้วยกันหอมฟุ้งไปทั่วกาย จมูกโด่งก้มลงไปฟอดตรงนั้นทีตรงนี้ทีด้วยความรื่นเริง งานครั้งล่าสุดทำให้หญิงสาวขาดการติดต่อกันไปหลายเดือน เธอไม่คิดบอกและเขาไม่สนที่จะถามไถ่ เป็นแบบนั้นมาตลอดในความสัมพันธ์อันน่าพิศวงนี้
ทั้งอารมณ์ สีหน้า ท่าทาง พลังและการเคลื่อนไหว รวมไปถึงกลิ่นของความเป็นความตายที่ใกล้เคียงกับความบ้าคลั่งของคุเรฮะ เรียกได้ว่าของเล่นชิ้นอื่นเป็นเพียงของแก้ขัด ไม่มีชิ้นไหนถึงอกถึงใจได้เท่าคนในอ้อมกอดนี้เลย
ความคิดถึงของเขาแตกออกเป็นริ้ว ไล่ลงไปตามหลังคอขาว ลามไปยันเส้นโค้งของกระดูกสันหลังที่เรียงเป็นแนวสวย ไม่ว่าจะขวนขวายอย่างไรก็ไม่เคยเจอที่สองหรือที่สาม
อาจเพราะของเล่นชิ้นนี้มีเพียงชิ้นเดียวในโลก
ฮิโซกะเลยต้องทรมาณกับความสุขสมทั้งยามพบหน้าและยามออกห่างไปพร้อม ๆ กันอย่างเต็มใจ
หลังดมดอมและกัดทำรอยเป็นจุด ๆ จนหนำใจ ชายหนุ่มก็ยันตัวขึ้นมองคนข้างใต้ แววตาหวานเชื่อม คำบ่นถูกระบายออกหมดไปกับการต่อสู้ในห้องพักก่อนหน้านี้เกลี้ยงหมดแล้ว
“วันนี้นอนกอดกันเฉย ๆ ดีกว่า”
คุเรฮะเลิกคิ้ว ถามซ้ำด้วยสีหน้าท้าทายถึงแม้เปลือกตาจะเริ่มปรือ “แน่ใจนะ?”
ชายหนุ่มเอียงคอ ชักจะไม่แน่ใจแล้วสิ ก้มลงไปจูบปลายจมูกคนใต้ร่าง ก่อนจะลามไปยันแก้ม มุมปาก เงยขึ้นไปแตะริมฝีปากกับใบหูขาวกระจ่าง เสียงจุ๊บจั๊บดังออกมาไม่หยุดจนคุเรฮะกลั้นหัวเราะไม่ไหวอยู่ทั้งที่ปลายหูแดกเถือก “ฮิ-โซ-กะ” เลิกเล่นกับจุดอ่อนไหวของเธอตรงนั้นซะทีเถอะ
คนแก่กว่าหัวเราะร่วนก่อนจะคว้าร่างคนตัวหอมเข้ามากอด
“เอ่เอ๊~ นอนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมามอร์นิ่งคิส”
ได้ยินเสียงคนถอนหายใจ เจือเสียงหัวเราะแผ่วเบาช่วงท้าย ปลายเท้านอกผ้าห่มที่ใหญ่กว่าขยับเข้าไปอิงแอบเท้าอีกคนที่เย็นเจี๊ยบตามอุณหภูมิร่างกายเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นานเสียงลมหายใจคนในห้องก็ผสานกันยามเข้าสู่นิทรา
☼
แต่สุดท้ายสิ่งที่หลงเหลือไว้ยามเช้ามืดกลับเป็นเพียงโพสอิสสั้น ๆ แปะไว้กลางหน้าผาก
[มีนัดเที่ยวกับหมาแมวแล้ว บาย]
เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นว่าเด็กมันเอาเครื่องเขาไปถ่ายเซลฟี่ก่อนออกไปเที่ยว ดวงตาจันทร์เสี้ยวมองคาดโทษเจ้าเด็กในรูปที่หลับตาจูบมอร์นิ่งคิสเขาตอนหลับแถมทิ้งกันไปหน้าตาเฉย
คนแก่ผู้ตื่นขึ้นมาพบเพียงความว่างเปล่าและกลิ่นกายติดตามเครื่องนอนเคี้ยวฟันอย่างมันเขี้ยว ก็รู้อยู่เต็มอกว่าฝีมือของเด็กมันไปไกลแล้ว ไหนจะการลบตัวตนด้วยเซ็ตสึของเน็นสีดำนั่นอีก จับไม่ได้ไล่ไม่ทันเก่งเหลือเกินนะเดี๋ยวนี้
แล้วก็กอร์นกับคิรัวร์ ไอ้พวกนั้นนี่เองที่ส่งข้อความมาตอนตีสาม มันรู้แน่ ๆ ว่าเขาอยู่กับสลีปปี้ถึงจงใจชวนตอนเขาเผลอ! ไม่ยุติธรรม!
โจ๊กเกอร์หนุ่มสับเท้าเข้าห้องน้ำ หมายมั่นว่าต้องไล่ตามไปก่อกวนแล้วฉกเจ้างูน้อยออกมาจากอ้อมอกของหมาแมวที่พัฒนาไปเป็นเสือกับสิงห์ออกมาให้ได้ ไฟลุกโชนในแววตาประหนึ่งเจอคู่ต่อสู้ในศึกสังเวียน
สามีเด็กแบ่งเวลาให้ฮูหยินน้อยอย่างเขาไม่เท่ากัน!
เขาจะฟ้อง! เขาจะฟ้อง!
_______________________________
คนแก่ที่เพิ่งตื่น:
แถมรูปที่วาดเล่น
โตแล้ว ความสูงโดยรวม 181 เซนฯ
จิบิคุเรฮะ!
ฟันเขี้ยวคม ๆ
(จากตอนที่แล้ว แต่ชอบมาก ลงอีก!)
รูปสีตอนคุเรฮะต่อสู้
ʕᵔᴥᵔʔ
แวะเวียนมาทักทายด้วยความคิดถึง
รัก.
(เด็กดีอ๊องมาก กดอัพทีหนึ่งโหลดไม่ไปสักที อัพอีกทีขึ้นหน้าเว็บไม่ครบ โอ้ย อยากหยุมหัว5555)
ความคิดเห็น