ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #74 : Chapter 56 | ตราประทับ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.57K
      165
      15 เม.ย. 63


    Chapter 56



    “ถ้าดูท่าจะล้มมันไม่ได้ก็กลับไปซะ

    —เกะกะเปล่า ๆ”


    เปรี้ยง!!

    คุเรฮะผิวปาก สายฟ้าฟาดจากเน็นสายเปลี่ยนแปลงช็อตร่างคิเมร่าแอ๊นท์ร้องเสียงหลง พร้อมกันนั้นร่างของคิรัวร์ก็ค่อย ๆ ร่วงลงสู่พื้นหลังจากกระโดดขึ้นไปโจมตีศัตรูบนความสูงหลายเมตร

    ไม่เลวเลย พัฒนาฮัทสึได้ถึงขั้นนี้แล้วหรือนี่

    “ยันยีเยา เป่า ยิ้ง ฉุบ— ค้อน!!”

    ยังไม่ทันได้เตรียมใจต่อ หมัดอัดเน็นมหาศาลของกอร์นก็ต่อยมันกระเด็นขึ้นฟ้าไป ทุกการโจมตีคือการแสดงให้ไคท์เห็นว่าพวกเขาสองคนไม่ใช่เด็กอมมือ พวกเขาดูแลตัวเองได้แม้ไม่มีคุเรฮะคอยช่วย!

    คิรัวร์ยิ้มกระหยิ่ม มันเดี้ยงแน่นอน—

    เสียงคุเรฮะแทรกมา

    “มีอีกตัวข้างบน!”

    ร่างที่ถูกเล่นงานจนเกือบหมดสภาพถูกคิเมร่าแอ๊นท์มีปีกโฉบขึ้นฟ้า สายตาของมันที่มาพาพรรคพวกหนีปะทะกับสายตาคุเรฮะในจังหวะหนึ่ง

    คิเมร่าแอ๊นท์ที่ถูกคว้าไปเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาปูดโปนด้วยความคั่งแค้นที่ถูกเล่นงาน มันอ้าปาก ตะเบ็งแหกปากสุดเสียงจนสายลมพัดกรรโชก


    “อ๊ากกกกกก!!! ข้าจะหักคอพวกแกกินให้ได้! คอยดู!!”

    จิตสังหารมันแผ่ขยายไปทุกหย่อมหญ้า


    “จะฆ่าให้ได้! จะต้องฆ่าให้ได้!! ฝากไว้ก่อนเถอะ!!!”


    เด็กสาวจ้องเขม็ง เตรียมเทเลพอร์ตขึ้นไปขวางไม่ให้หนี หากท่อนแขนของไคท์ยื่นมาปรามไว้ “ไม่ต้อง”

    มันโดนการโจมตีที่อัดเน็นไปขนาดนั้นแล้วยังตะโกนอยู่ได้ -- แสดงว่าเคี้ยวยากกว่าที่คิด และไม่รู้ว่าพวกมันที่มาพาหนีมีความสามารถอะไรซ่อนไว้อีกไหม

    ขืนเข้าไปขวาง อาจโดนมันซ้อนแผนเล่นงานเอา

    ไคท์มองตามคิเมร่าแอ๊นท์ทั้งสองตัวบินห่างออกไปจนลับสายตา

    “หัวแหลมจริง ๆ ให้ลูกน้องให้มาสู้วัดฝีมือพวกเรา” เลื่อนสายตากลับมา มองสองเด็กชายที่กลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว “จะไปด้วยกันต่อรึเปล่า?”

    “เอ๊?”

    “การโจมตีเมื่อกี้ไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า เหลือแค่จะผ่านไปได้กี่ด่านเท่านั้นแหละ -- จากนี้ไปจะเป็นสนามศึกขัดเกลาฝีมือแล้ว ถ้าประสาทไม่แข็งพอ… แค่ก้าวเดียวก็ไปต่อไม่ได้”

    ดวงตาจ้องลึก

    “จุดหมายข้างหน้า ไม่ว่าชนะหรือแพ้ก็นรกพอ ๆ กัน”

    คุเรฮะเอียงตัวมองจากด้านหลังไคท์ แววตาของทั้งคู่เริ่มส่อแววเคร่งเครียด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่คิดเปลี่ยนใจ


    "ไปสิ! "

    ประสานเสียงพร้อมกันเชียว


    -----


    พอเดินทางต่อก็พบซากศพมนุษย์นอนเกลื่อนเต็มพื้นที่ บางคนลำตัวหักพาดอยู่บนกิ่งไม้สูง บางคนตับไตไส้พุงกระจายคละเลือดสีเข้ม บางคนนอนอืดในหนองน้ำใกล้ ๆ

    ไคท์หลุบตามองด้วยสายตาเวทนา

    “โหดเหี้ยมจริง ๆ”

    “ใช้กลิ่นเน่านำทางได้เลยนะเนี่ย” กอร์นยกมือขึ้นถูจมูก ยอมรับว่าคนจมูกดีอย่างเขารู้สึกภายในท้องกำลังตีมวน แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ทนได้

    หันไปหาเด็กสาวคนเดียวในกลุ่ม คุเรฮะนั่งยอง ๆ มองศพที่แร้งตัวเขื่องกำลังจิกกินซากด้วยแววตาปลาตาย ใช้ประโยชน์จากผมหางม้าตัวเองที่ทั้งยาวและหนาอุดจมูกเอาไว้อย่างน่าทึ่ง

    เจ้าตัวเงยหน้าสบตาเมื่อรู้ว่าถูกมอง มองซ้ายคิรัวร์กำลังเอาเท้าเขี่ยอะไรบางอย่างบนพื้น มองขวาไคท์กำลังสำรวจลักษณะศพที่ถูกทารุน ก่อนจะ ฟุ่บ—

    เทเลพอร์ตมาข้างหลังไคท์

    คว้าผมสีขาวยาวสลวยนั่นมาทำเป็นหนวดดุ๊กดิ๊ก

    “...”

    กอร์นกลั้นขำจนหน้าเขียว คิรัวร์ย่นหัวคิ้ว

    "เล่นกันเป็นเด็กไปได้"


    ว่าจบก็โดดเข้ามาเล่นหนวดปลอมด้วยคน


    “...”

    ไคท์เหลือบมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง

    คิรัวร์วิ่งไล่จับเด็กสาวผมสีดำแซมแดงรอบตัวกอร์นอย่างมันเขี้ยว เมินภาพน่าสะอิดสะเอียนด้านหลังไปซะเฉยชิบ -- เสียงหัวเราะของคราวน์ตัวน้อยทำให้เขาลอบแปลกใจอยู่ในที

    ช่างขัดกับชื่อเสียงที่ได้ยินราวฟ้ากับเหว


    ก่อนจะถอนหายใจยาว

    แล้วตะปบหัวเจ้าพวกตัวป่วนให้หยุดซนซะที!



    เบื้องหน้าคือกองหินสูงที่มีรูใหญ่ลึกเป็นโพรงหลายร้อยรู ผู้ใหญ่หนึ่งคนและเด็กสามคนมองอยู่บนหน้าผาห่างหลายเมตร ด้านล่างปกคลุมด้วยต้นไม้หนาทึบที่ต้องเดินทางผ่าน

    “ที่นี่...รังของคิเมร่าแอ๊นท์เหรอ?”

    ไคท์ส่ายหัวให้กอร์น “ไม่ใช่มั้ง รังพวกมันน่ะไม่ใช่แบบขุดรู แต่จะสร้างจากโคลนหรือมูลสัตว์”

    คิรัวร์หันมาหาญาติผู้พี่

    “คุเรฮะ”

    “อืม”

    เด็กสาวคว้ามือคนเรียกมาจับไว้ คิรัวร์เองก็จับกอร์นตามด้วยไคท์เป็นทอด ๆ -- ดวงตาสีแดงเสี้ยวโฟกัสที่โพรงหนึ่งจนนัยน์ตาหรี่แคบลง

    เล็งระยะทาง แล้ว—

    ฟุ่บ!

    เทเลพอร์ตพาทุกคนมายื่นอยู่ที่จุดเล็งไว้

    มันค่อนข้างไกลพอสมควร คนที่ใช้เน็นพาเคลื่อนย้ายมาจึงชะงักเล็กน้อยเมื่อส้นเท้าเหยียบหมิ่นเหม่อยู่ที่ขอบสูง หากยืนไม่ดีอาจหงายหลังร่วงลงไปคนแรก

    เจ้าสองหมาแมวดึงเข้ามาข้างในกันใหญ่


    “นี่แหละ หลังฉากของ NGL”


    เดินเข้ามาด้านในไม่นานก็พบสถานที่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ท่อรางส่งสารเคมีหลายอย่าง รวมไปถึงอาวุธปืนวางเกลื่อนเปรอะรอยเลือดเป็นหย่อม

    กอร์นเข้าใจได้ในทันที

    “โรงงานผลิตยาเสพติด!?”

    เด็กสาวก้าวเท้าตามมาเป็นคนท้าย ๆ ดวงตามองไปยังกระสอบที่ถูกกรีดจนมีผงขาวละเอียดโผล่มาเตะตา

    “ถูกต้อง” ไคท์พยักหน้าขณะเดินสำรวจต่อ

    “มันคือโรงงานผลิตยา D ยาเสพติดชนิดกินที่แพร่หลายตามเมืองท่าในตอนนี้ ใกล้ ๆ กันนี้ต้องมีไร้ต้นบีร่าที่เป็นวัตถุดิบแน่ หนอย เขตสงวนธรรมชาติเรอะ? จะขำตาย—


    คุเรฮะ วางมันลง”


    กึก

    เจ้าตัวป่วนอีกคนที่กำลังจะเลียผงขาวจากนิ้วชะงัก

    “มานี่เลย!” คิรัวร์ปรี่เข้ามาแว๊ดใส่ คว้านิ้วไปเช็ดออกจนแดงเถือกแล้วล็อกแขนตามไคท์ไปติด ๆ กอร์นหัวเราะขำก่อนจะเดินคุมหลังเหมือนผู้ปกครองจำเป็น

    คุเรฮะเดาะลิ้นเซ็ง

    แค่จะลองนิดเดียวเอง

    “พวกที่รู้เรื่องนี้คงมีแค่พวกหัวหน้าระดับสูงของ NGL เท่านั้นแหละ พวกที่ไม่ได้อยู่ในวงในก็คงนอนใจคิดว่าเป็นการอยู่กับธรรมชาติจริง ๆ”

    ทายาทโซลดิ๊กเงยหน้ามองคนอธิบายที่เดินนำ

    “หมายถึงนี่เป็นอาคารใจกลางของ NGL? แต่ที่นี่ร้างแบบนี้ก็แสดงว่า...”

    “ตายเรียบ”

    คุเรฮะโคลงหัวไปทางรอยเลือดกระเซ็นอย่างรู้กัน

    ไคท์พยักหน้า “อืม คงถูกจัดการไปหมดแล้ว แสดงว่าพวกมือใหม่ถึงจะติดอาวุธก็สู้อะไรพวกมันไม่ได้หรอก”

    กอร์นเริ่มขมวดคิ้ว “แล้วบอสของ NGL ล่ะ”

    “คงหนีไม่ก็ถูกกินไปแล้ว ไม่ว่าจะทางไหนก็ยุ่งยากทั้งนั้น”

    “เอ๊ะ หมายความว่าไง?”

    ไคท์ชี้นิ้วไปทางโพรงใหญ่ตรงหน้า


    “มากันหลายตัวเชียว”


    !!

    “มันมาอุโมงค์กลาง”

    คุเรฮะหรี่ตาลง เสริมจากไคท์ “ซ้ายกับขวาก็มี”

    คิรัวร์หันมา ...เอ็น? “ค้นหาในรัศมีกี่เมตรเหรอ”

    เขาเดาว่าคุเรฮะน่าจะไม่เกิน 15 เมตร ส่วนไคท์…

    “ประมาณ 45 เมตร จะมาหรือน้อยกว่าก็ราว 2-3 เมตร ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ” ชายตัวสูงบอกอย่างไม่ปิดบัง “—มาแล้ว”

    บางอย่างคลานออกมาจากเงามืดในอุโมงค์


    “หือ พวกแกเป็นใคร? บังอาจบุกรุกอาณาเขตของฉัน”


    คิเมร่าแอ๊นท์ที่ท่อนล่างเป็นลำตัวม้าก้าวกีบเท้าทั้งสี่ออกมา มือกำโซ่เอาไว้ ปลายโซ่คือมนุษย์ผู้ชายสองคนที่เปลือยกายคลานสี่เท้าออกมาอย่างหมดสภาพ

    หนึ่งในนั้นร้องโอดครวญน้ำตานอง

    “ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย! ช่วย—”

    “หนวกหูจริงเจ้าตูบ!”

    โผละ!

    กระโหลกศีรษะแตกละเอียดใต้กีบเท้าสัตว์

    “อ๊ะ ว้า...เผลอไปหน่อย” มันยกเท้าที่ชุ่มเลือดขึ้นมา แลบลิ้นสองแฉกไม่สนใจ “เออ ช่างเหอะ ไง ๆ ก็เบื่อเจ้าพวกนี้แล้ว กำจัดทิ้งดีกว่า”

    อีกคนที่ผมร่วงหัวโกร๋นสะดุ้งตัวโยน รีบหันไปร้องเสียงเลียนแบบสุนัข ครวญครางแลบลิ้นประจบหมายให้สัตว์ประหลาดเอ็นดูไว้ชีวิต

    มันยกกีบเท้าขึ้นสูง เตรียมจะเหยียบลงมา

    กอร์นเป็นฝ่ายทนไม่ไหว ตะโกนลั่น “หยุดนะ!!”

    ไคท์คว้าท่อนแขนเด็กชายที่คิดจะเขาไปช่วย ไม่ต่างจากคุเรฮะที่ยื่นแขนมากันไว้ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง คิรัวร์ที่ไม่สะเทือนใจอะไรมองสังเกตการณ์อยู่ข้างกัน

    ชายหนุ่มจ้องสัตว์ประหลาดพันธุ์ผสมไม่วางตา

    “อย่าลงมือซี้ซั้ว ศัตรูไม่ได้มีแค่ตัวเดียว โดดเข้าไปก็เข้าทางมัน”

    เอ่ยจบคิเมร่าแอ๊นท์อีกสองตัวก็ก้าวออกมาจากก้าวมืด ยิ้มแสยะอย่างถูกใจเหยื่อที่หลงเข้ามาใหม่ คิเมร่าแอ๊นท์ครึ่งม้าหัวเราะเฮอะ ยกเท้าบดขยี้สัตว์เลี้ยงตัวเก่าดังกร๊อบ

    เด็กชายผมตั้งที่ไม่เคยเจออะไรไร้ความปราณีขนาดนี้หันหน้าหนี หลับตาอย่างทนดูไม่ได้

    ไคท์เตือน “อย่าคลาดสายตา เดี๋ยวมันอาศัยช่องโหว่นี่พุ่งเข้าใส่เอา”

    “ตัดสินใจแล้ว”

    มันที่เปรียบเสมือนหัวหน้าในอาณาเขตนี้สะบัดโซ่ในมือออก ตวัดลิ้นยาวถูกใจ “พวกแกสามตัวจะต้องเป็นหมาให้ฉัน”


    “จับตัวมันมา!!”

    ลูกสมุนสองตัวพุ่งเข้าใส่ทันที!


    ออร่าเน็นครอบคลุมตัวทุกคนอัตโนมัติเพื่อตั้งรับ

    ไคท์มองประเมินคิเมร่าแอ๊นท์ทั้งหมด

    “คิเมร่าแอ๊นท์เองเป็นมดที่รักการต่อสู้อยู่แล้ว ยิ่งมาผสมกับพวกเลวร้ายก็ยิ่งเพิ่มความร้ายกาจเป็นทวีคูณ ถ้าไม่หยุดพวกมันซะที่นี่ต้องมีผู้คนล้มตายมากกว่าที่คิดแน่”

    เหลือบตามองเด็กอีกคนที่คราแรกยังไม่ได้เข้าร่วมสู้กับคิเมร่าแอ๊นท์กับสองเด็กชาย ท่าทางอีกฝ่ายไม่ยี่หระอะไรนัก

    “—คุเรฮะ เจ้าตัวหลังสุดเธอรับมือไหวไหม?”

    เด็กสาวอ้าปากหาวหวอด “ไหวอยู่”

    “งั้นสู้ให้ฉันวางใจหน่อย ส่วนอีกสองตัวที่พุ่งเข้ามากอร์นกับคิรัวร์จัดการซะ -- อย่าลังเลล่ะ ฆ่ามันได้ไม่ต้องรีรอ”

    “โอ๊ส!!”


    เด็กสาวตัวสูงก้าวออกมา


    ผมสีดำแซมแดงปลิวสะบัดคล้ายเปลวเพลิงจนมันที่มีสถานะใหญ่สุดในนี้เหลอผงะไป ลิ่วล้อตัวหนึ่งประจันหน้ากับเด็กชายผมตั้งด้วยท่าทีลุกลน ส่วนอีกตัวระริกระรี้ตั้งชื่อสุนัขตัวใหม่ให้เด็กชายผมสีเงินฟูฟ่อง

    มนุษย์ตัวเต็มวัยอีกคนกอดอกยืนมองนิ่งอยู่ด้านหลัง มันร้องเฮอะ เหยียดหยามด้วยใบหน้ากวนประสาท

    “หึหึหึ นี่ไม่มีปัญหาสู้จนต้องส่งไอ้ตัวจ้อยมาแทนเลยรึ ได้เลย จะสงเคราะห์ให้เอง!”

    คุเรฮะถอนหายใจยาว

    “ให้ตายสิ”

    สบถพลางเชิดหน้ามองไอ้ทหารมดตรงหน้าไม่ต่างจากหนอนแมลง นาน ๆ ทีจะใช้สายตาที่สืบทอดต่อกันมาทางพันธุกรรมมองคนอื่น วันนี้เอามาใช้กับคิเมร่าแอ๊นท์ตรงหน้าบ้างก็ไม่เลว

    เปรี๊ยะ

    พลังสีดำแผ่จากฝ่ามือขาวซีด ขยับขยายยืดออกไปราวกับไม้พลอง ส่วนปลายจรดเข้าหากันกลายเป็นคมหอกแหลมชี้ไปยังคิเมร่าแอ๊นท์ครึ่งม้า

    ก่อนเธอจะหายวับไป


    ฉึก—!!


    หางปลายแหลมของสัตว์กลายพันธุ์แทงเข้าที่แผ่นหลังคิรัวร์เต็มรัก สมุนของคอนจูหัวเราะเสียงสูงอย่างสะใจ ไอ้เด็กนี่โดนมันซ้อนแผน เหล็กในที่ทะลุออกมาจากแมสปิดปากก็แค่กลลวง!

    “คั่กคั่กคั่ก โง่ที่สุด! นี่ต่างหากเหล็กในของจริง!!”

    ร่างของเด็กชายล้มตึง มันฮัมเพลงลั้ลลา “อืมมม เห็นผลทันใจดีจริง แค่ล่ามโซ่เข้าก็กลายเป็นมนุษย์สุนัขแล้ว -- ทางนั้นล่ะเสร็จรึยัง?”

    เงยหน้าไปหาพรรคพวกอีกทาง

    “อ้าว ยังอีกเหรอ—”

    กร๊อบ

    ทายาทโซลดิ๊กกระโดดลงมาจากคอคิเมร่าแอ๊นท์ ท่าทางสบายดีไร้อาการเจ็บใด สวนทางกับมันที่ถูกบิดคอจนภาพทุกอย่างกลับหัวไปหมด

    “ร่างฉันน่ะต้านพิษได้ทุกอย่าง อยู่นิ่ง ๆ ซะ แล้วจะให้ตายสบาย”

    มือเกร็งกรงเล็บแหลมคม ย่าวเท้าเข้าไปหา ...หากมันเอ่ยเสียงแหบ

    ไร้อาการกลัวตายโดยสิ้นเชิง

    “ช่วยไม่ได้แฮะ ก็ฉัน...อ่อนแอกว่าเองนี่นา”


    ฉั้วะ!!


    ดาบเน็นพวยพุ่งออกมาเป็นออร่าคมผ่านสองนิ้ว ฟันคิเมร่าแอ๊นท์หลายสิบมือไหล่ขาดสะพายแล่ง กอร์นหายใจเข้าลึกหลังใช้ ‘กรรไกร’จากสายแปรสภาพครั้งแรก

    มันแม้จะตื่นตกใจกับดาบไร้รูปร่าง แต่ก็ตั้งสติไว้ได้ทันท่วงที คิดแสร้งตายหมายกระโดดลอบกัดคอเด็กชายจากด้านหลังทีเผลอ

    ปัง!

    “แค่ตัวขาดอย่างเพิ่งชะล่าใจ”

    ชายตัวสูงลดปืนยาวรูปร่างประหลาดลง คู่ต่อสู้ของกอร์นนอนแน่นิ่งสนิทก่อนจะได้พุ่งโจมตี “ไอ้พวกนี้มีพลังชีวิตมากขนาดที่หัวขาดแล้วยังอยู่ได้เป็นวัน ต้องเล่นงานหัวมันให้แหลก”


    “และถ้าทำได้ ตอนที่ฆ่าน่ะ”


    ดวงตาสีอำพันปกคลุมด้วยสีแดงเข้มสบมองกลับ มือตวัดอาวุธ สะบัดรอยเลือดออกจากคมหอกเป็นครึ่งวงกลม ภาพคิเมร่าแอ๊นท์ครึ่งม้านอนฟุบกับพื้นอยู่ด้านหลังมือสังหารคราวน์

    หัวขาดสะบั้นเป็นชิ้น ๆ


    “—ต้องทำให้เร็ว และให้เงียบที่สุด”


    ไคท์ขยับหมวก

    “จำเอาไว้ให้ดี”



    หลังจากจัดการทหารมดทั้งสามก็มองมาทางไคท์

    ฮัทสึของชายผมยาวคือ ‘เครซี่ปิเอโร่’

    เป็นหัวของเล่นตัวตลกอ้าปากกว้างพูดได้ มันจะแปะอยู่บนส่วนใดส่วนหนึ่งของอาวุธ ข้างในปากคือหมายเลขหนึ่งถึงเก้า สุ่มเลือกอาวุธตามหมายเลขที่ออก

    ไคท์ทำหน้าเบื่อหน่ายยามพูดถึงมัน

    ‘แถมอาวุธที่ออกมาถ้ายังไม่ใช้ก็จะไม่ยอมหายไปอีกต่างหาก มีไปก็รำคาญเปล่า ๆ’

    เด็กน้อยทั้งสามมองหน้ากัน

    แล้วจะเลือกความสามารถนี้มาทำม๊าย—

    “เทียบกับฉันแล้ว ความสามารถของพวกเธอสองคนดีกว่าเยอะ จะใช้เมื่อไหร่ก็ได้”

    เขาชี้มาทางเด็ก ๆ หลังจากดูการต่อสู้ที่ผ่านไปจึงวิเคราะห์ออกมาอย่างแม่นยำ “กอร์นดูเหมือนจะใช้ความสามารถสายเสริมพลัง สายเปลี่ยนแปลง สานแผ่พุ่งออกมาในรูปแบบเป่ายิ้งฉุบ”

    กอร์นพยักหน้าหงึก “อื้อ! สายที่ผมถนัดคือสายเสริมพลัง!”

    “คิรัวร์เป็นสายฟ้า...สายเปลี่ยนแปลงรึ?”

    คิรัวร์ดีดนิ้ว สายฟ้าช็อตเปรี๊ยะ “อื้อ แต่พลังยังไม่มี ชาร์ตแป๊บเดียวก็หมดแล้วล่ะ”

    “คุเรฮะสายพิเศษแน่ ส่วนนั่น—”

    เด็กสาวควงอาวุธขนาดกลางด้วยมือข้างเดียว ก่อนมันจะสลายหายไป ทิ้งไว้เพียงเสี้ยวพลังสีดำจาง ๆ

    ไคท์หรี่ตา ท่าทางเอะใจกับสีตาที่เปลี่ยนไปมา ส่วนทางคุเรฮะก็แค่ยักไหล่บอกสั้น ๆ ว่า “อ็น”

    น้อยคนที่จะรู้เรื่องพลังนี้ เขาจึงแค่พยักหน้ารับ เหมารวมว่าเป็นเน็นของคราวน์ตัวน้อยไป

    เพื่อไม่ให้เสียเวลา อีกทั้งเข้าใกล้รังของคิเมร่าแอ๊นท์พอสมควร พวกเขาทั้งหมดจึงเร่งเดินทางต่อทันที


    -----


    ย้อนกลับไปหลายปีก่อน ตอนเปิดอ่านเรื่องคิเมร่าแอ๊นท์ในงานวิจัย ทายาทคราวน์นั่งไขว้ห้าง วางหนังสือเล่มหนาไว้บนหน้าขาพลางเอนหลังพิงพนักโซฟาหรู

    วงหน้าราบเรียบไล่สายตาอ่านตัวหนังสือ

    ไล่เรียงไป หน้าแล้ว...หน้าเล่า

    คิเมร่าแอ๊นท์แบ่งแยกย่อยเป็น 5 ระดับชั้น -- แน่นอนว่าราชินีอยู่จุดสูงสุด


    แต่หากราชาถือกำเนิดขึ้นมา

    ระดับสังคมของมดกลายพันธุ์จะเปลี่ยนใหม่ทันที


    ราชินีจะอยู่ในปราสาทตลอดไป รายล้อมด้วยองค์รักษ์ระดับสูงอารักขา ให้กำเนิดราชาคนใหม่ตามวงจรชีวิต -- ส่วนราชาจะได้รับทหารมดทุกระดับชั้นมาเป็นลิ่วล้อ ออกจากปราสาทมุ่งสู่โลกกว้าง

    และระหว่างที่เร่ร่อนไปเรื่อย ราชาจะผสมสายพันธุ์กับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่หลากหลายชนิดเพื่อสร้างราชินีรุ่นต่อไป

    ปึก

    หนังสือปิดลง ดวงตาคมกริบเลื่อนไปทางเตาผิงที่ลุกไหม้ให้ความอบอุ่นแก่คนขี้หนาวในช่วงฤดูใกล้ขึ้นปีใหม่ เปลวเพลิงพลิ้วไหวในแววตาไร้อารมณ์

    เสียงของพ่อบ้านประจำตัวพูดถึงภารกิจใหม่ เด็กน้อยจึงวางหนังสือบนโต๊ะข้าง ๆ ก้าวออกไป ไร้ความสนใจกับงานวิจัยเล่มนี้อีก


    ‘ถ้าจะป้องกันไม่ให้พวกมันเพิ่มประชากร ก็ต้องจัดการราชินีก่อนให้กำเนิดราชา’


    ผู้ใช้เน็นสี่คนวิ่งตรงไปข้างหน้า ภาพรอบข้างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนแทบจะเป็นภาพเบลอ

    มือขาวซีดของเธอกำแน่น แล้วคลายออก


    ‘แต่การจะกำจัดราชินีนั้น ต้องปราบพวกองค์รักษ์ระดับสูงที่อารักขาโดยรอบซะก่อน’


    ราชาของเหล่ามด

    คิเมร่าแอ๊นท์ที่ผสานยีนของสัตว์และผู้ใช้เน็น


    —ประเมินยังไงความเสี่ยงก็มีแต่จะพุ่งสูงทั้งนั้น


    “เฮ้”

    กอร์นกับคิรัวร์หันมามองคนตรงกลาง คุเรฮะยังคงวิ่งด้วยความเร็วคงที่ ดวงตาสีแดงเสี้ยวอำพันมองตรงไร้ความวอกแวก

    เธอยื่นมือขาวซีดออกมา จับข้อมือพวกเขาเอาไว้

    เสี้ยวพลังสีดำฟุ้งจาง ๆ ก่อนจะปรากฏเป็นรอยสักอสรพิษตัวน้อย มันเลื้อยวนรอบข้อมือเด็กชายทั้งคู่ ตราประทับเน็น -- ที่ตั้งแต่จบเรื่องแมงมุมในยอร์คชิน -- ก็ไม่ได้เห็นคุเรฮะใช้มันอีกเลย

    จนมาวันนี้

    “ฉันทำตราประทับอีกอันไว้ที่ต้นไม้ทางเข้า NGL”

    เอ่ยแค่นั้นพวกเขาก็เข้าใจ

    หากเกิดอะไรขึ้น เธอจะเทเลพอร์ตพวกเขาไปยังตราประทับอีกที่หนึ่งทันที เพราะอย่างไรไคท์ก็เป็นฮันเตอร์มืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่าสองหมาแมว

    ไม่น่าห่วงเท่าเด็กน้อยทั้งสองคนรวมถึงเธอด้วย

    ไคท์มองมา เอ่ยชมด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

    “ความคิดดีนี่”

    “มีหมาดื้อกับแมวซนก็ต้องล่ามปลอกคอหน่อยนี่นะ”

    “วะ ว่าไงนะ!”

    “คุเรฮ้—า!”


    โอดครวญกันใหญ่


    __________C H E C K M A T E__________


    ไคท์ - พี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว

    ว่าจะวาดรูปประกอบให้ด้วย

    แต่ช่วงนี้นอนน้อย เดี๋ยวจะวาดให้ทีหลังนะ!

    __________________________

    เห็นมีคนถามว่าฮิโซกะจะมีบทในภาคคิเมร่าแอ๊นท์ไหม เขาไปเห็นแฟนอาร์ตฮิเวอร์ชั่น NGL มา บอกเลยว่าไม่มีค่ะ แต่น่าสนใจดีนะ!

    ถ้าฮิโซกะมา NGL พร้อมน้องคงปั่นป่วนน่าดู ฮา







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×