ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    น่านฟ้า [E-BOOK วางจำหน่ายแล้ว]

    ลำดับตอนที่ #2 : น่านฟ้า :: CHAPTER 1

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ค. 62



    น่านฟ้า


    1

     

    ฟ้าจะไปทะเล...ไม่ได้อยากมาสวนสนุก!’


     

                    ถ้าถามว่าทั้งชีวิตคุณเคยมีความรู้สึกอยากจะกรีดร้องให้สมกับความบัดซบของชีวิตไหม อารมณ์แบบทำอะไรไม่ได้นอกจากกรีดร้องให้มันหายคับแค้นใจ และใช่ค่ะ! ดิฉันอยากจะไปกรีดร้องแบบสวยๆ ที่ทะเลตามแบบฉบับนางเอกที่กำลังอกหักจากมนุษย์เลวๆ ที่ชื่อว่าแฟนเก่า


                    ไปกรีดร้องด่าทอมันให้สมกับความรักงี่เง่าและโง่งมที่เพิ่งพังทลายลงไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน และเหมือนกับว่าทุกอย่างมันกำลังจะเป็นไปตามนั้น ถ้าไม่ติดว่า...อีเฮียน่านมันลากฉันออกจากความเพ้อเจ้อ


                    ปัญญาอ่อน


                    เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเฮียมันด่าฉันตอนที่เราสองคนยังเลือกไม่ได้ว่าจะไปที่ไหนกัน


                    จะไปทำไมทะเล


                    ก็น้องอยากไปกรี๊ด


                    เหรอ


                    ใช่!’


                    ได้! เดี๋ยวกูจัดให้น้องรัก!’


                    และนั่นแหละคือบทสนทนาอันสุดแสนจะสร้างความคับแค้นใจให้กับผู้หญิงตัวน้อยๆ อย่างฉัน แน่นอนว่าที่ที่คนขับรถส่วนตัวบอกกับฉันว่าจะพามากรี๊ดนั้นไม่ได้เฉียดใกล้กับสถานที่ที่ฉันอยากไปเลยสักนิด!


                    “ไม่เอาฟ้าไม่ขึ้นไป!


                    “อยากกรี๊ดไม่ใช่เหรอวะ” ฉันร้องเฮอะให้ลำคอพร้อมกับเตรียมที่จะขยับหนีออกมาจากบริเวณเครื่องเล่น ไวกิ้ง ที่ฉันสุดแสนจะเกลียดเพราะมันสร้างความรู้สึกเฉียดตายให้กับฉันเป็นอย่างมาก


                    เล่นปุ๊บรู้สึกความตายอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น!


                    “อย่ามาเยอะ”


                    “เฮีย! ฟ้าเล่นไม่ได้หรอก!” ฉันส่ายหน้าหวือเพื่อคิดว่าจะได้รับความเห็นใจจากพี่ชายบ้าน...ใบหน้าหล่อเหลาที่ช่างโดดเด่นยามยืนอยู่ท่ามกลางเด็กๆ ในสวนสนุกนิ่วหน้าเมื่อเห็นว่าฉันกำลังจะร้องไห้อยู่ตรงหน้า


                    “นั่งไหนดีวะ หลังเลยละกัน!


                    แม่มันเถอะ!


                    ไม่เอาจ้า! ไม่เล่นอะไรทั้งนั้นนนนนนนน


                    “เฮียน่านนนนนน”


                    “ป่ะ! ถึงเวลาแล้ว!” มือใหญ่ขยับเข้ามาจับแขนฉันเอาไว้แบบรู้ทันว่าฉันคิดจะวิ่งหนีแบบคนปอดแหก แน่นอนว่าฉันแม้จะดูถึกไปบ้างแต่ถามว่าสู้แรงเฮียน่านที่แรงเยอะอย่างกับอะไรได้ไหม...ไม่จ้า!


                    ฉันกำลังโดนลากขึ้นไปนั่งเครื่องเล่นโดยมีสีหน้าชอบใจของผู้ชายตัวสูงทั้งยังโรคจิตที่มองมาด้วยแววตาเป็นประกายของความชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าใกล้จะตายของฉัน


                    “อยากกรี๊ดไม่ใช่...นี่แหละ กรี๊ดเลยฟ้า”


                    “แม่...!


                    “พูดจาไม่เพราะ” เฮียมันพูดเพราะตายแหละ! ฉันมองค้อนคนที่เอื้อมมือมาดีดหน้าผากฉันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้


                    “เป็นสาวเป็นนาง”


                    “เป็นนางสาวต่างหาก!


                    “มุขแบบนี้เป็นกูกูไม่เล่นนะฟ้า” ง่ะ...! ฉันมองเสียงห้าวที่เปล่งเสียงหัวเราะทันทีเมื่อเห็นอาการแค้นใจแต่ทำอะไรไม่ได้ของฉัน


                    “ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ...เรากำลังจะเริ่มกันอีกภายในไม่กี่นาทีที่จะถึง ไหนใครพร้อมขอเสียงหน่อยเร็วววววววว”


                    ไม่พร้อมเว้ยยยยยยยย!


                    “ฮื่อออออ ฟ้าไม่เล่นนนนนนน”


                    “ได้ไงวะ ขึ้นมาแล้ว เอ้า! กรี๊ดหน่อยเร็วววววว”


                    “กรี๊ดดดดดด!


                    “ฮ่า!


                    “อีเฮียน่านนนนนนน!


                    “ดังๆ หน่อย เราร้องดังได้มากกว่านี้อีก!” ฉันกรีดร้องด่าทอคนที่พามาอยู่ในใจ ก่อนจะจับบาร์เอาไว้แน่นเมื่อไวกิ้งเริ่มกำลังไต่ระดับเข้าทำมุมสูงสุด รสชาติของความตายขยับเข้ามาครอบงำความคิดฉันทันที ตอนนี้คือร้องไม่ออกแล้วนอกจากปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมา!


                    “ร้องเร็ว จะด่าใครตอนนี้ก็ได้...มันทำเหี้ยอะไรก็ด่ามันออกมา ไม่มีใครว่าอะไรหรอก” เฮียน่านขยับมาดึงฉันไปกอดเอาไว้พร้อมกับตะโกนบอก ตอนนี้เชื่อเถอะว่าไม่มีใครมีสติพอในการฟังว่าเฮียน่านกำลังพูดอะไร


                    “ฮึก!” แต่ฉันรู้และได้ยินชัดเต็มสองหูเลย แต่ตอนนี้มันกลัวเว้ย!


                    “ฟ้า...เร็ว พูดมันออกมา!


                    มันด่าไม่ออกเว้ยยยยย


                    เฮียน่านทำการดึงฉันไปกอดเอาไว้เมื่อฉันเริ่มลอยเพราะแรงลม แน่นอนว่าตอนนี้เฮียน่านคือที่พึ่งหนึ่งเดียวยามกำลังเฉียดใกล้ความตาย


                    “ฟ้า...ด่ามัน!” มือใหญ่ที่ยังคงลูบหลังและกดฉันเอาไว้แนบกับอกกว้างสามารถเรียกความกล้าบางอย่างของฉันท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้


                    จะบอกว่าแพ้ความอ่อนโยนในแบบของเฮียน่านก็ได้...เอาวะ! ด่าก็ได้


                    ด่าก็ด่า!


                    “เหี้ยยยยยย” กล้าทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงกัน!


                    “เออ ด่าอีกกกก” เสียงสนับสนุนพร้อมกับอ้อมแขนแกร่งที่ยังคงทำหน้าที่ปกป้องฉันได้เป็นอย่างดีทำเอาฉันมีความกล้ามากกว่าเดิมจึงเปล่งเสียงตะโกนออกไป


                    “แกมันเลววว!


                    “ยังไงอีก”


                    “เลิกกันแล้วก็ดีกูจะได้มีผัวใหม่!” แน่นอนว่าเฮียน่านหัวเราะดังมากจากประโยคนี้!


                    มันผิดตรงไหนเหรอ...หรือน้องจะหาผัวใหม่ไม่ได้อ่ะเฮีย!


                    “อ่ะโอเค ต่อได้ เร็วใกล้จะจบแล้ว!


                    “เลวมาก แกมันไม่มีอะไรดีนอกจากหน้าตา!


                    “มันหล่อตรงไหนวะ กูยังมองไม่เห็น” แน่นอนว่า...ไม่รู้เว้ยเฮีย ตอนนั้นสงสัยหลงผิดไป!


                    “ปิดท้ายหน่อยเร็ว” ฉันเงยหน้ามองเสี้ยวหน้าคมคายที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เฮียน่านก็กำลังก้มมองมาพอดี เราสองคนสบตากันอยู่เสี้ยววินาทีก่อนที่ฉันจะหันไปตะโกนเป็นครั้งสุดท้าย


                    “ไปตายซะ!” แน่นอนว่าหลังจากนี้...นังทอฟ้าคนนี้จะโสดแบบเฉิดฉายแล้วจ้า! เพราะฉะนั้นหลบหน่อยค่ะแม่จะไปอ้วก!



                    “โอ๊กกกกกก!” หลังจากที่เครื่องเล่นหยุดเล่นฉันก็รีบวิ่งไปพุ่งตัวอ้วกที่มุมหนึ่งทันที และใช่ค่ะ...คนที่พามาไม่ได้รู้สึกผิดใดๆ สักนิด


                    เพราะฉันได้ยินเสียงเฮียน่านหัวเราะตามหลังด้วยความชอบใจ!


                    “ไหวไหมวะนั่น” เสียงห้าวที่ดังขึ้นด้านหลัง พร้อมกับมือใหญ่ที่เลื่อนมาลูบหลังให้กับฉัน ในขณะที่ขวดน้ำเย็นที่ไม่รู้ว่าเฮียน่านวิ่งไปซื้อมาให้ตอนไหนถูกยื่นมาให้ตรงหน้า


                    ฉันเช็ดปากลวกๆ พร้อมกับรับขวดน้ำเย็นมาบ้วนปากและล้างหน้าเพื่อเรียกความรู้สึกสดชื่นให้กับตัวเอง ได้ยินเฮียน่านหัวเราะในลำคอก่อนจะลากฉันให้ไปนั่งบริเวณม้านั่งที่มุมหนึ่งของสวนสนุก เมื่อนั่งพักให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นแล้วฉันจึงอดไม่ได้ที่จะโวยวายกับคนที่พามาแทน


                    “เกือบตายแล้วไหมเฮีย!


                    “ก็ไม่เห็นว่าจะตายนี่” ฉันมองหน้าคนตอบแล้วก็ได้แต่ร้องเฮอะออกมาด้วยความเหลือเชื่อ ใบหน้าคมคายยังคงดูดีเสมอแม้ตอนนี้ผมสีดำสนิทจะไม่เป็นทรงไปบ้างเพราะเครื่องเล่น แต่เฮียน่านยังรอดจ้า!


                    “เฮียมันขี้แกล้ง!” แกล้งตั้งแต่เด็กจนโตก็ยังไม่เลิกแกล้ง...ไม่รู้ว่าเพราะพื้นเพนิสัยเฮียน่านรึเปล่าจึงได้ชอบแกล้งคนรอบตัวนัก!


                    “แกล้งตรงไหนวะ ก็อยากกรี๊ดไม่ใช่?” เฮียน่านยังคงตอบกลับได้แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอาการเฉียดตายของฉัน


                    “ฟ้าอยากไปทะเล...ไม่ได้อยากมาสวนสนุก!” คนอายุมากกว่ายักไหล่แบบไม่สนใจอาการโวยวายของฉันเลยสักนิดและถามกลับหน้าตาย


                    “ไปเล่นอีกไหม?” พูดเป็นเล่น?


                    ดูสภาพหน้าน้องก่อนอีเฮียน่านนนนนนน...หน้าฉันมันยังซีดไม่พอสินะ!


                    “ไม่!


                    ทำดีมากทอฟ้า...หล่อนปฏิเสธได้เสียงแน่วแน่มากกกกก!


                    “ไว้ไปเล่นฝั่งโน้นกัน” ฉันกลอกตามองบนด้วยความระอา...ไม่ได้ฟังกันเลยยยยยยยย


                    ทำไมเป็นพี่ที่ประเสริฐขนาดนี้นะ!


                    “เฮียน่าน! ฟ้าไม่เล่น เมื่อกี้เกือบตายแล้วไม่สงสารน้องเหรอ!” ฉันยกมือฟาดแขนเฮียน่านไปที โดยที่เฮียน่านไม่ทันได้ระวังตัว คนโดนฟาดจึงทำการดีดหน้าผากฉันจนหน้าหงายเป็นการแก้แค้น ก่อนจะถามเสียงเข้ม


                    “แล้วเจ็บไหม”


                    อะไรเจ็บ?


                    โดนดีดหน้าผากเมื่อกี้หรือว่าที่โดดเฮียน่านลากขึ้นไปเล่นเครื่องเล่นจนเกือบตาย?


                    “อะไร?” ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉันเองที่ยังคงทิ้งสติไว้ที่เครื่องเล่นหรือเพราะเฮียน่านเองที่พูดไม่รู้เรื่อง จู่ๆ เฮียน่านถามขึ้นมาแบบไม่บอกไม่เกริ่นนำใดๆ ทั้งสิ้นแบบนี้นังทอฟ้าคนนี้คืองงแล้วจ้า!


                    เฮียน่านต้องการอะไรจากน้องงงงงง


                    “โดนทิ้งน่ะเจ็บไหม” นัยน์ตาดุที่มองมาทำเอาฉันเชิดหน้าขึ้นก่อนจะรีบแก้ตัวอย่างรวดเร็ว


                    ฉันไม่ได้โดนทิ้งสักหน่อย!


                    “น้องไม่ได้โดนทิ้ง! ฟ้าเป็นคนทิ้งผู้ชายคนนั้นเอง!” เฮียน่านร้องเฮอะอยู่ในลำคอก่อนจะโยกหัวฉันเล่นแล้วเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก


                    “เออ ทิ้งผู้ชายคนนั้นเอง ไม่ได้โดนทิ้งแล้วร้องไห้ทำไมวะ” คนที่ร้องไห้เพราะเป็นคนทิ้งก่อนเริ่มพูดไม่ออกนอกจากใช้ความหน้ามึนของตัวเองตอบกลับไป


                    “อะไร ใครที่ไหนมันร้องไห้! ไม่มี!


                    เฮียน่านมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเหยียดหยาม...และแบะปากเป็นการประณามที่ยังคงหน้ามึนไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองร้องไห้


                    “ตอนที่อยู่ในรถ ร้องไห้ทำไม” เฮียน่านมองมาไม่ยอมให้ฉันตีมึนอีก แต่มีเหรอที่น้องคนนี้จะยอมเสียเชิง...ก็ที่ร้องไห้ในรถไม่ได้เสียใจนะที่เลิกเป็นควาย แต่ที่ร้องเพราะเห็นหน้าเฮียน่านต่างหาก ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองรู้สึกอะไรกันแน่ในตอนนั้นถึงได้ร้องไห้ต่อหน้าเฮียน่าน


                    แต่ไม่บอกเฮียน่านหรอก...บอกไปแล้วโดนด่าชัวร์!


                    “ข้ออ้างปัญญาอ่อน” อ่ะ...ลืมคิดไปว่าเฮียน่านก็ยังคงเป็นเฮียน่านที่ยังคงปากร้ายไม่เปลี่ยนแปลง


                    โดนด่าอีกแล้วจ้า!


                    “เฮีย!” ฉันหันไปถลึงตาใส่ผู้ชายตัวโตที่อยู่ข้างๆ เฮียน่านส่ายหัวด้วยความเอือมระอาก่อนจะถามอย่างนักเลงว่าให้ไปจัดการให้รึเปล่า


                    “ให้ไปกระทืบมันให้ป่ะ?” ฉันกวาดตามองใบหน้าหล่อเหลาที่คนมักจะบอกว่าพระเจ้าช่างลำเอียงมอบแต่ความดูดีให้กับสามพี่น้องแล้วก็ได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่าทำไมเฮียน่านชอบทำอะไรที่มันขัดกับหน้าตาและนิสัยฝาแฝดตัวเองขนาดนี้


                    คิดว่าจะไปกระทืบคนอื่นง่ายๆ เหรอเฮีย!


                    “ไม่ต้อง เป็นนักเลงเหรอชอบไปกระทืบคนเนี่ย” คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนักเลงได้แต่หัวเราะด้วยความชอบใจ


                    “พูดเหมือนหวานเลยว่ะ”


                    “ก็มันจริง” แสดงว่าน้ำหวานก็เห็นว่าพี่ชายตัวเองนักเลงสินะ


                    “ถ้าไม่อยากให้ไปกระทืบมันก็อย่าร้องไห้อีกเข้าใจไหม” ฉันหันไปสบตากับเฮียน่านแล้วก็ได้แต่ชะงักไป ความจริงจังที่แสดงออกมาทางสีหน้าและแววตาทำเอาฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมากับท่าทางเป็นห่วงเป็นใยแต่แสดงออกไม่เป็นของเฮียน่าน โตมาด้วยกันขนาดนี้แล้วทำไมจะไม่เข้าใจว่าเฮียที่ปากร้ายๆ เนี่ย จริงๆ แล้วเป็นผู้ชายที่น่ารักขนาดไหน


                    “อื้อ” ฉันเบนสายตาออกจากการจ้องตากับเฮียน่านเพราะรู้สึกว่ามันไม่ควรที่จะมองนานๆ ไม่นานสัมผัสแผ่วเบาที่กลุ่มผมก็ทำเอาฉันชะงักค้างไปเพราะเฮียน่านกำลังลูบหัวฉัน


                    “รู้ว่าการเลิกรักใครสักคนเนี่ยมันเจ็บ แต่มันก็ไม่ตาย” น้ำเสียงราบเรียบที่ไม่ได้เปลี่ยนโทนเอ่ยบอกฉัน


                    “เฮียน่านเคยรักใครรึไง”


                    “ไม่ใช่คนไม่มีหัวใจนี่วะ ก็ต้องเคยรักอยู่แล้วดิ” คำตอบที่ได้กลับมาทำเอาฉันอึ้งและตะลึงจนต้องตั้งสติอยู่สักพักก่อนจะรีบหันไปเค้นถามคนข้างๆ ด้วยความอยากรู้


                    เฮียน่านเคยรักใครด้วยเหรอ?


                    “ใครอ่ะ!” ทำไมฉันไม่รู้!


                    “ไม่บอก” ฉันหน้างอเมื่อได้รับคำตอบซึ่งแน่นอนจ้าว่าโดนเฮียมันใช้สายตามองกลับมาว่าสอดรู้สอดเห็น...ก็คนมันอยากรู้อ่ะ


                    เฮียน่านชอบผู้หญิงแบบไหน?


                    “เอ้า!


                    “สรุปคือไม่เสียใจแล้ว?” คำถามใหม่ของเฮียน่านทำเอาฉันชะงักไปเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว...ไม่เสียใจแล้วงั้นเหรอ?


                    ก็คง...ไม่รู้สิ ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าตอนนี้ฉันควรรู้สึกยังไง คนที่เพิ่งเลิกกับแฟนที่เพิ่งรู้ว่ามันแอบคบกันกับเพื่อนเรานี่เราต้องรู้สึกยังไงเหรอ?


                    ผิดหวัง?


                    เสียใจ?


                    หรือดีใจที่หลุดพ้นสักที?


                    “ทอฟ้า” ชื่อเต็มของฉันถูกเอ่ยขึ้น ฉันจึงถอนหายใจก่อนจะบอกเฮียน่านไป ตามความสัตย์จริงตอนนี้ฉันอธิบายไม่ได้จริงๆ นะว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกอะไรกันแน่


                    “ก็...ไม่รู้สิเฮียน่าน ฟ้าไม่รู้ว่าตัวเองต้องรู้สึกอะไรกันแน่ คงยังหน่วงๆ ล่ะมั้ง แต่ช่างมันเถอะเฮีย ฟ้าจะถือว่าฟ้าปล่อยให้ควายกับควายได้ไปอยู่ด้วยกัน” ฉันเชิดหน้าแล้วบอกเฮียแบบคนใจกากแต่ปากเก่ง เฮียน่านหัวเราะชอบใจก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย


                    “ใช่ อย่าไปขวางทางบุญ”


                    “อื้อ” เฮียน่านลูบหัวฉันอีกครั้ง


                    “รู้ไหม...ว่าการเลิกกันมันก็เหมือนกับการเล่นไวกิ้งเมื่อกี้นี้แหละ” ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ


                    เหมือนเล่นไวกิ้งงั้นเหรอ?


                    “ยังไง?”


                    “แรกๆ ก็ทรมาน เหมือนว่าเรากำลังจะตายไปให้ได้...แม้ว่ามันจะทรมาน เราจะกรีดร้อง หรือร้องไห้ออกมาเท่าไหร่มันก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอเพราะความทรมานมันยังคงอยู่ไม่หายไปไหน แต่สุดท้ายพอเครื่องเล่นหยุดลง...เราก็จะค้นพบว่ามันก็ไม่ตาย เรายังมีชีวิตอยู่ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเราจะทรมานจนเกือบจะตาย แต่ก็ไม่มีใครตายเพราะไวกิ้ง เช่นเดียวกับเราที่จะไม่มีวันตายเพียงเพราะผู้ชายที่ไม่มีค่าคนหนึ่ง แรกๆ ตอนนี้เราอาจจะรู้สึกทรมาน มันอาจจะแย่ไปหมด พี่อยากให้เรารู้เอาไว้ว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ น้องฟ้ายังมีน้าฝนที่รอเราอยู่ที่บ้าน ยังมีอนาคตรอฟ้าอยู่ข้างหน้า มีพวกพี่ที่ไม่ได้หายไปไหน และที่สำคัญฟ้ายังมีตัวฟ้า...คนที่ฟ้าควรจะนึกถึงให้มากๆ เสียใจได้แต่อย่าให้ความเสียใจนั้นมันกลับมาทำร้ายตัวฟ้าเอง” เฮียน่านส่งยิ้มพร้อมกับเอื้อมมือมาปาดน้ำตาให้กับฉันโดยไม่ได้ดุอะไร และการกระทำนั้นของเฮียน่านมันยิ่งทำให้ฉันน้ำตาไหลไม่หยุด


                    “จำความรู้สึกวันนี้เอาไว้...เวลาที่มันกลับมาขอคืนดีก็นึกถึงวันที่มันทำเหี้ยๆ ใส่เรา แล้วอย่าได้โง่ไปให้อภัยมันอีก จำไว้ว่าเราไม่ตายเพราะเล่นไวกิ้ง เราก็อย่าได้ตายเพราะทิ้งผู้ชายเหี้ยๆ คนหนึ่งออกไปจากชีวิต”


                    “เฮียน่าน”


                    “อื้อ...ร้องไห้น่าเกลียดชะมัดเลยเราเนี่ย” แน่นอนว่าคนร้องไห้ได้น่าเกลียดคนนี้กลับถูกเฮียน่านโอบกอดเอาไว้พร้อมกับลูบหลังให้เบาๆ


                    “ฮื่ออออออออออออ”


                    “อ่ะ เรื่องร้องไห้น่าเกลียดพี่ก็พอจะเข้าใจได้ แต่ขออย่างเดียวฟ้าอย่าเอาขี้มูกมาสั่งใส่เสื้อพี่ก็พอ...เข้าใจไหมวะ”


                    “ฮื่อออออออ!” ทำไมเฮียน่านมันปากร้อยอย่างงี้อ่ะ...! น้ำมูกอะไรเดี๋ยวสั่งใส่เสื้อตามที่พูดซะเลย!






    ********************************************


    มาค่ะ มากรีดร้องให้กับความน่ารักของเฮียน่านกันเร็ววววววว

    ก็คือเป็นห่วงน้องแต่การแสดงออกมันก็ไม่ค่อยปกติอ่ะเนอะ

    ใครไหวไปก่อนเลยจ้าาาาาาาาา

    ไรท์ว่าไรท์ไม่ไหววววววว

    ผู้ชายแบบเฮียน่านซื้อได้ที่ไหนคะถามหน่อยยยยยยย

    นิยายเซ็ตนี้มี 2 เล่มนะคะ ไรท์จะปล่อยพร้อมกันเลย คือเล่ม  น่านฟ้า และ  เหนือดาว

    ใครอยากได้เล่มแนะนำเก็บเงินรอเลยน้า

    ท้ายที่สุดนี้เม้นต์เงียบเหงาเหลือเกินใครอยากเป็นเมียเฮียน่านรบกวนมากรีดร้องกันหน่อยเร็ววววว

    อิอิ

    รัก...เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ   











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×