ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    น่านฟ้า [E-BOOK วางจำหน่ายแล้ว]

    ลำดับตอนที่ #1 : น่านฟ้า :: Intro

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.33K
      96
      3 พ.ย. 62




        

    น่านฟ้า

     

     

    สวยมักนก...ตลกมักได้ แต่ถามหน่อยเถอะ

    ทั้งสวยและตลกขนาดนี้ทำไมถึงได้อาภัพรักนัก!’


     

                    เฮงซวย!


                    ฉันยืนแข็งค้างมองสองร่างที่กำลังมีความสุขกันอย่างหน้าไม่อายที่ รังรัก ของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็น แฟน ของฉัน สองมือกำถุงเค้กที่ลงทุนให้คุณแม่สอนเป็นครั้งแรกแน่นจนมันสั่นไปหมด ไม่รู้ว่าเพราะความรู้สึกร้อนรุ่มในใจที่มันกำลังแผดเผาหรือเพราะความรู้สึกโกรธที่มีมากกว่ากันในตอนนี้ ฉันจึงทำได้เพียงแค่...ยืนตัวสั่นอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน...ทั้งๆ ที่ฉันควรต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้สองคนที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่บนโซฟาได้รู้ตัวว่ากำลังมี แขกที่ไม่ได้รับเชิญ ยืนดูอยู่


                    “อื้อ!


                    โง่ดีนะ


                    “จอม...เบาหน่อยเดี๋ยวมิ้นท์ต้องไปเรียนตอนบ่าย งื้อ!


                    “แล้ว...วันนี้...วันเกิดจอม เราต้อง...อื้อ! ไปถือเค้กให้ไหม เผื่อฟ้าไม่...ไป” ฉันเหยียดยิ้มให้กับประโยคสุดหวังดีนั่น


                    ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นโง่มากแค่ไหนถึงได้ไม่เคยรับรู้เลยว่า เพื่อนสาวที่แสนดีกำลังร่วมมือกับ แฟนที่แสนเลว หักหลังฉันได้หน้าชื่นขนาดนี้


                    “ฟ้าไม่ไปหรอก”


                    “แต่วันนี้วันเกิดจอมนะ...แฟนจะไม่ไปได้ยังไงกัน” ฉันมองร่างเล็กที่กำลังนั่งคร่อมตักเจ้าของห้องอยู่แล้วก็ได้แต่คิดอยู่ในใจว่าเพื่อนฉัน...เพื่อนสาวที่แสนดีจะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับฉันได้ลงคอเชียวหรือ ตลอดเวลาสามปีที่รู้จักกันมา...ทำได้ลงจริงๆ เหรอวะ!


                    แล้วตอนนี้ฉันต้องรู้สึกยังไง...โกรธ เกลียด หรือสมเพชตัวเองดี


                    อย่ามาอ้างว่าอารมณ์ชั่ววูบเพราะทำกันแบบนี้มันไม่น่าจะเรียกได้ว่าอารมณ์ชั่ววูบนอกจากจะเรียกว่า สันดานเสีย!


                    “ฟ้าไม่ชอบไปเที่ยวที่แบบนั้น” เฮอะ! น้ำเสียงห้าวที่คุ้นเคยพึมพำตอบกลับเพราะตอนนี้ง่วนอยู่กับการซุกซอกคอขาวผ่อง ฉันจิกเล็บเข้าไปที่ฝ่ามือก่อนจะจ้องมองสองคนที่คุ้นเคย...ถึงเวลาต้องแสดงตัวแล้วรึเปล่านะ


                    “แย่เนอะ วันเกิดแฟนทั้งที” โอ้โห...ไม่บอกก็ไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าเพื่อนฉันหวังดีกับฉันขนาดนี้!


                    ต่อหน้าก็ดูเรียบร้อยแสนดีที่ไหนได้...ลับหลังเป็นคนแบบนี้เองเหรอ


                    “จอม...แล้ว...อื้อ!” ฉันพูดอะไรไม่ออกนอกจากยืนอยู่ที่เดิม จากที่เคยอยากตรงเข้าไปหระชากร่างสองร่างให้แยกออกจากกันแล้วลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ความรู้สึกของตัวเองบ้าง แต่...ก็เหมือนเคย


                    ฉันยังคงโง่ยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกไปทั้งนั้น...ไม่มีแม้กระทั่งน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความเสียใจจากการถูกหักหลังจากคนทั้งสองคนที่ฉันรัก


                    ไม่สิ...แกคิดเองว่าสองคนนั้นรักแกทอฟ้า!


                    “อื้อ! จอม...อ๊ะ! ฟ้า!” นัยน์ตาหวานของ ใบมิ้นท์ เบิกกว้างขึ้นมาในจังหวะที่เจ้าหล่อนขยับตัวขึ้นเพื่อถอดชุดนอนสุดวาบหวิวให้ออกจากร่าง เราสองคนสบตากันก่อนคุณเพื่อนฉันจะกรีดร้องและลนลานขยับร่างออกจากร่างสูงที่ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่ากำลังแสดงสีหน้าอะไรเพราะเจ้าตัวหันหลังอยู่


                    “ฟ้าคือมัน...”


                    จอมปลอม! มองดูก็รู้ว่าไอ้อาการลนลานและแสดงออกทางสีหน้าว่ากำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อต่อหน้าฉันเนี่ยมันจอมปลอม...ดูก็รู้ว่าแกล้งทำ!


                    เธอไม่ได้เสียใจเลยสักนิดกับการกระทำ ติดว่าฉันมองไม่เห็นแววตาสะใจที่เผลอแสดงงออกมาตอนเราสบตากันงั้นเหรอคุณเพื่อน


                    ถึงฉันจะเคยโง่...แต่ตอนนี้เลิกโง่แล้ว


                    “ฟ้ามันไม่ได้”


                    “จะบอกว่ามันไม่ได้มีอะไรเหรอมิ้นท์ แกคงคิดว่าฉันมันโง่ขนาดมองไม่ออกเลยเหรอว่าพวกแกกำลังทำอะไรกัน”


                    “ฟ้า!


                    “ตอแหล แกทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงมิ้นท์ ฉันเป็นเพื่อนแกไม่ใช่เหรอ!


                    “ฉัน...”


                    “เพื่อนกันเค้าทำกันแบบนี้ ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละว่าแกมันจอมปลอม!


                    “ทอฟ้า!


                    “เลว...เลวทั้งคู่” ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนด่าสองคนอยู่ที่เดิม  ใช่...ตอนนี้ไม่มีแม้แต่น้ำตาที่ไหลออกมาจากตาฉันเลยสักนิด ผิดกับเพื่อนสาวตรงหน้าที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา


                    ควรเป็นฉันไม่ใช่เหรอที่ต้องเสียใจ ที่ต้องยืนร้องไห้อยู่ตรงนี้คือคนที่ถูกหักหลัง...!


                    “ฉันทำเค้กมาให้” โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมาเจอเข้ากับความจริงบางอย่าง...แหม โง่อยู่ตั้งนานนะทอฟ้า!


                    “มาคุยกันหน่อย” เสียงผู้ชายคนเดียวในห้องทำเอาฉันตวัดสายตากลับไปมอง...ใบหน้าหล่อเหลามีร่องรอยของความไม่ชอบใจแสดงออกผ่านสีหน้าที่มักจะเรียบเฉย


                    “คงไม่ต้องมีอะไรต้องคุยแล้วล่ะ”


                    “ฟ้า”


                    “อย่ามาเรียกชื่อฉัน!” ฉันขยับถอยหลังเมื่อจู่ๆ ร่างสูงก็เดินย่างสุ่มเข้ามาหา ถุงเค้กที่อยู่ในมือถูกปาออกไปด้วยแรงอารมณ์และเพื่อหยุดการคุกคาม


                    จอมทัพ ก้มมองถุงเค้กที่เละไม่มีชิ้นดีด้วยแววตาที่ฉันมองไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ไหนแต่ไรมาจอมไม่ใช่คนที่ชอบแสดงออกอะไร หรือเป็นฉันเองที่ไม่ได้ใส่ใจมากอในการอ่านความหมายของสายตาคู่คม


                    “อย่าเข้ามา!


                    “ฟ้า”


                    “เลิกกันเถอะจอม”


                    “บอกว่าอย่าพูดคำนั้นออกมาไง”


                    “แกกล้าทำแบบนี้กับเราแล้วแกยังจะกล้าเรียกร้องอย่างหน้าไม่อายอีกเหรอจอม! นั่นเพื่อนเรานะ เพื่อนสนิทเลยด้วย แกกับมันทำอะไรลับหลังเราขนาดนี้แกยังมีหน้ามาพูดแบบนี้กับเราอีกเหรอ! เลวเกินไปไหม!


                    “ฟ้า ฉันอธิบายได้”


                    “ไม่ต้อง! ฉันไม่อยากรู้เท่าไหร่ว่าตัวเองโง่ขนาดไหน” ฉันตวัดสายตาไปมองใบหน้าสวยหวานที่เป็นเพื่อนกันมาเนิ่นนาน


                    “หลังจากนี้เราอย่ามาเป็นเพื่อนกันอีกเลยนะมิ้นท์ เจอหน้ากันก็ไม่ต้องมาทักทาย อยู่ให้ห่างกันเข้าไว้” ฉันเชิดหน้าขึ้นก่อนจะหันไปมองหน้าผู้ชายคนเดียว


                    “อย่ามาให้เราเห็นหน้าอีก”


                    “เพราะเธอเป็นแบบนี้ไงฟ้า ชอบใช้อารมณ์เป็นที่หนึ่ง”


                    “แล้วแกจะให้เราทำยังไงเหรอจอม ฟังแก้อธิบายน่ะเหรอ ตลก! และต่อให้เราชอบใช้อารมณ์แต่แกก็ไม่มีสิทธิ์เอาความรัก ความไว้ใจของเราไปเหยียบย่ำแบบนี้ นับจากนี้เราสองคนอย่าได้มาข้องเกี่ยวกันอีก อยากจะรักกันขนาดไหนก็เชิญ!” ฉันเชิดหน้าขึ้นก่อนจะกวาดตามองสองร่างที่ฉันเคยให้ความรักความไว้ใจแล้วถูกทำลายทิ้งอย่างย่อยยับราวกับมันช่างไร้ค่า!


                    “เราจะถือว่าเราปล่อยควายกับควายไปอยู่ด้วยกัน!” พอกันที...นับจากนี้ฉันจะไม่รักใครอีกแล้ว

     



                    “โทรเรียกมาที่คิดว่ากูเป็นคนขับรถเหรอวะฟ้า” ฉันเงยหน้าขึ้นมองรถคันหรูที่ขับเทียบเข้ามาจอดอยู่ด้านหน้า ก่อนจะมองใบหน้าของ คนขับรถส่วนตัว ที่ฉันโทรเรียกให้ออกมาทันทีที่ก้าวขาออกจากห้องนั่น


                    “เงียบ นี่กำลังกวนตีนอยู่ช่ะ?”


                    “ก็เฮียน่านเป็นคนบอกว่าถ้ามีอะไรให้โทรหา” เฮีย น้ำน่าน กวาดตามองสภาพใบหน้ากวนตีนแบบหน้าตายแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยปากเรียกฉันให้ขึ้นรถ


                    “ขึ้นมา” ฉันจึงยอมลุกขึ้นเดินไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย หลังจากปิดประตูรถเรียบร้อยแล้วเฮียน่านก็ยังคงไม่ยอมออกรถ คนขับทำหน้ายุ่งกับอาการนิ่งเงียบผิดวิสัยของฉันก่อนจะยอมเอ่ยปากถาม


                    “แล้วจะไปไหน กลับบ้านเลยไหม?” ฉันหันไปมองเฮียน่านก่อนจะเบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกว่าขอบตาตัวเองกำลังร้อนอย่างห้ามไม่อยู่


                    แค่เฮียถามว่าจะไปไหน...ทำไมต้องอยากร้องไห้ด้วยนังบ้า! ฉันก่นด่าตัวเองในใจก่อนจะหลุดปากเอ่ยประโยคบ้าบอออกมา


                    “คนที่เลิกกับแฟนเค้าต้องไปไหนกัน” เพราะตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับบ้านด้วยสภาพจิตใจที่กำลังหม่นหมองได้รึเปล่า


                    ถ้าไปเจอแม่ในตอนนี้...ฉันต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ


                    “ฮะ?”


                    “ไปทะเลก็แล้วกัน มีคนเคยบอกว่าถ้าอกหักให้ไปตะโกนดังๆ ที่ทะเล งั้นเราไปทะเลกัน”




    มาค่ะ ไรท์คัมแบคคคคคคคคค

    และเฮียน่านก็คัมแบคเช่นกันนนนนนนนนนนน

    อย่างที่แจ้งเอาไว้ที่เพจนะคะว่าจะกลับมาอัพสองเรื่องของเฮียน่านและเฮียเหนือให้เพราะไรท์แต่งไว้เกินครึ่งแล้ววววว

    ใครรอบ้าง เม้นต์มาหวีดเฮียน่านหน่อยเร็ววววววว













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×