ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (BJIN) Just Another Boy ที่รัก รักผมเถอะครับ

    ลำดับตอนที่ #8 : chapter eight อุบัติเหตุ!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 223
      0
      8 พ.ย. 57

    CHAPTER 8


     

    “ฮัลโหล” ร่างสูงที่ถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์ตื่นขึ้นมารับสายด้วยเสียงงัวเงีย

    “กูโทรมาบอกมึงว่าอย่าลืมไปตรวจอาคารให้ด้วย ตรวจให้ครบแล้วอย่าลืมบันทึกลงในสมุดที่กูเอาให้มึงด้วย เข้าใจนะ”


    ตู้ดดด

     

    บ็อบบี้ฮยองจู่ๆก็มีธุระด่วนแล้วผลักงานตรวจอาคารมาให้ผมซะงั้น นี่มันหน้าที่ของกรรมการนักเรียนชัดๆ แต่จะปฏิเสธก็ไม่ได้ดิ เล่นขู่มาถ้าผมไม่ตรวจให้ก็จะไม่เอาแผ่นเกมมาให้ยืมน่ะสิ ผมไม่ได้ติดเกมนะครับแค่เล่นฆ่าเวลานิดหน่อย จริงจริ๊งงงง

    เผลอหลับไปตื่นมาเริ่มจะมืดแล้วผมเลยรีบเดินไปตรวจอาคารทุกอาคารอย่างละเอียด


    หลังจากตรวจดูความเรียบร้อยทุกห้องทุกอาคารเสร็จก็เหลืออาคารสุดท้าย รู้สึกจะเป็นอาคารวิทยาศาสตร์มั้งแต่ไฮเทคสุดๆ ทางเข้ามีสแกนบัตรนักเรียนด้วย เยี่ยมใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ




    พรึบบบ



    เพิ่งจะเดินเข้ามาไม่กี่ก้าวไฟในอาคารก็ดับพรึบหมด เท้าผมก็หยุดกึกทันที บรรยากาศเริ่มวังเวง หวังว่าผมคงไม่เจออะไรที่น่าขนลุกนะ ผมรีบเดินกลับไปที่ประตูทางเข้า แต่แน่นอนไฟดับไอ้เครื่องสแกนที่หน้าประตูนั่นก็ไม่ทำงาน มองไปด้านนอกก็มีเพียงแสงจากโคมไฟเล็กๆตามทางเดิน เหยดดดด ผมต้องติดอยู่ในอาคารนี่ทั้งคืนเหรอ


    แต่เดี๋ยวนะ ผมเห็นแผ่นหลังคุ้นๆกำลังเดินผ่านหน้าอาคารไป พอเพ่งดูก็จำได้ว่านั่นมันดงฮยอกหัวหน้าห้องสุดเรียบร้อยนี่หว่า พยายามเคาะเรียกแต่หมอนั่นกลับไม่ได้ยินเข็นจักรยานผ่านไปเฉยเลย ผมรีบกดหาเบอร์ดงฮยอกในมือถือเผื่อจะเมมไว้แล้วก็เจอจริงๆครับผมรีบโทรหาหมอนันทันที ไม่นานหมอนั่นก็มายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว


    “นายเข้าไปทำอะไรในนั้น ไม่รู้เหรอว่าเขาจะตัดไฟกันตอนหนึ่งทุ่ม” มาถึงก็บ่นยาว

    “ถ้ารู้จะเข้ามาอยู่ในนี้รึไงห้ะ”

    “พูดจาไม่น่าช่วยเลย”ดงฮยอกว่าพลางหันหลังจะเดินกลับ

    “เดี๋ยววว ...” จู่ๆก็แสบแปลบอยู่ในกระเพาะ ลืมไปเลยไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยง โถ่เอ้ยย

    “เป็นไรๆๆ” พอเห็นผมที่กำลังยืนกุมท้องอยู่ก็รีบเข้ามาถาม

    “โรคกระเพาะน่ะ นายช่วยรีบๆทำให้ไอ้ประตูนี่เปิดได้หน่อย ก่อนที่ฉันจะทุบกระจกออกไป”

    “รอแปป เดี๋ยวไปบอกยามให้” ว่าแล้วดงฮยอกก็รีบวิ่งออกไป



    หลังจากออกจากอาคารมาได้ ผมสาบานว่าจะไม่มาเหยียบไอ้อาคารนี่อีกเลยย

    ตอนนี้ผมนั่งซ้อนท้ายจักรยานของดงฮยอกอยู่ ก็หมอนั่นพอเห็นสภาพผมก็บังคับให้ผมซ้อนท้ายมาด้วย ผมแค่ปวดท้องเองอาการเหมือนคนใกล้ตายหรือไงนะทำไมหมอนั่นต้องตื่นตูมขนาดนั้น

    “ขอบคุณ” ผมพูดออกไปเบาๆผ่านสายลม

    “ห้ะ”คนตรงหน้าถามขึ้นมา

    “เปล่า”

    “นายยังไม่ขอบคุณฉันเลยนะ”

    “ขอบคุณ”

    “นายคุยกับผีเหรอ พูดให้มันได้ยินชัดๆหน่อยดิ”

    “ขอบคุณณณณโว้ยย”ผมตะโกนแหกปากใส่หูของหมอนั่นจนรถเสียหลัก

    “จะตะโกนทำไมฟะ เดี๋ยวพาหน้าแหกเลยเนี่ย” ผมนึกว่าหมอนี่จะเป็นเด็กเรียบร้อยซะอีก แต่คำพูดช่างร้ายกาจ 

     




    [Jinhwan’s part]

     

    “ทำไมวันนี้มึงมาเช้าจังวะ เอ้านี่” แทฮยอนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องเรียนทักทายพร้อมยื่นกล่องนมให้ผม

    “วันนี้อะไรเข้าสิงวะถึงซื้อนมมาให้กู”

    “มีเด็กฝากมาให้เถอะ มึงคิดว่ากูจะหอบสังขารเดินไปซื้อมาให้มึงเรอะ”

    “เออ กูประเมินมึงผิดไปเอง” ผมมองกล่องนมในมือพลิกไปด้านหลังก็มีกระดาษโน้ตเล็กๆแปะอยู่ ‘ดื่มนมเยอะๆนะครับ จะได้แข็งแรง^^’

    ไม่บอกก็รู้ว่าใคร ไอ้เด็กม.ปลายคนนั้นนั่นแหละ

     

    วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกๆวัน พอออกมาหน้ามหาลัยก็เจอฮันบินยืนยิ้มแป้นรออยู่ที่หน้าประตู ความรู้สึกเหมือนมีผู้ปกครองมารอรับกลับบ้านเลยแฮะ ทำไมหมอนั่นต้องทำตัวเหมือนผู้ปกครองผมด้วยเนี่ย อีกอย่างผมโตแล้วนะทำไมต้องให้ใครมารับด้วยเนี่ย


    “ฮยอง ฮยอง” หลังจากที่ผมทำเป็นไม่สนใจหมอนั่นก็รีบตามมาติดๆ

    “ฮยองจะเดินหนีทำไมเนี่ย”

    “แล้วทำไมนายต้องทำตัวเหมือนเป็นผู้ปกครองฉันด้วยเล่า”

    “ก็มารับแฟนผมผิดตรงไหนล่ะ”

    “ใครแฟน?” ผมหันไปทำหน้าดุใส่ฮันบิน หมอนั่นเลยยิ้มกลบเกลื่อน

    “ว่าที่แฟนน่ะ”

     

    “โว้ะ!!” ผมสบถแล้วเดินต่อไป

    “แล้ววันนี้ฮยองจะไปไหนอ่ะ”

    “เออไม่รู้ดิ คงกลับบ้านมั้ง”

    “วันนี้ซึงฮุนฮยองให้ผมเอาของไปให้ที่ห้องซ้อมอ่ะ ฮยองไปด้วยกันมั้ย”

    “เออก็ดีเหมือนกันอยากไปทักทายพี่แกสักหน่อย” 

     

     

    พอเปิดประตูห้องซ้อมออกภาพตรงหน้าทำผมหยุดกึก

    มินโฮฮยองผู้หล่อเหลากำลังเต้นท่าปลาหมึกหรืออะไรสักอย่างที่ดูประหลาดๆ

    รู้สึกอยากจะขำก๊ากกไปตรงนั้นแต่ก็ต้องกลั้นขำไว้กลัวฮยองแกจะหมดความมั่นใจ แต่พอหันไปด้านข้างเด็กนั่นลงไปขำกลิ้งที่พื้นเรียบร้อยแล้ว - -


    “ฮ่าๆๆ เฮียทำไรโคตรจี้เลยว่ะ วะฮะฮ่า กร๊ากกก” ฮันบินหัวเราะจนน้ำตาเล็ด ผมก็อยากขำนะแต่ต้องรักษามารยาทนิดนึง

    “มึงขำไร กูกำลังหาวิธีง้อแฟนอยู่เว้ย เจอจินฮวานก็ดีละมานี่หน่อยดิ” ว่าแล้วก็กวักมือเรียกผมเข้าไปหา

    “มีไรครับ” 

    “แทฮยอนงอนพี่เรื่องไรไม่รู้ จู่ๆก็เงียบไป ไลน์ไปก็ไม่ค่อยตอบ พี่จะง้อยังไงดี”

    “เมนมามั้งพี่”

    “จริงดิ 0.0” 
    "ผมล้อเล่น ฮยองเชื่อคนง่ายจัง"
    "ซีเรียสนะเนี่ย"
    "มันก็เป็นงี้แหละพี่ อารมณ์ติส เดี๋ยวมันก็หายเองแหละ"
    "แน่ใจนะ"
    "ถ้าฮยองไม่ได้ทำอะไรให้มันโกรธนะ"
    "หรือว่าแทฮยอนรู้แล้วว่าฉันแอบขโมยตุ๊กตาเป็ดจากห้องเขามา" มินโฮฮยองทำท่าครุ่นคิด เครียดสุดๆ
    ผมว่า 2 คนนี้ก็เข้ากันดีนะครับ คนนึงก็ติสเกิน อีกคนก็ติ๊งต๊อง 555555
    "ฮยองก็ลองบอกมันสิครับ"

     

    “โอเคขอบใจมาก^^

    “แล้วเฮียซึงฮุนไปไหนอ่ะ” ฮันบินถามหลังจากที่ไม่เห็นคนที่พูดถึงตั้งแต่เดินเข้ามา

    “ไปซื้อของมั้งเดี๋ยวก็คงมา”พี่มิโนตอบแล้วหันไปวุ่นกับการเขียนเพลงตามสไตล์พี่แก

    “งั้นผมเอากีตาร์ไว้ตรงนี้นะฝากบอกเฮียด้วย” ว่าแล้วฮันบินก็วางกีตาร์พิงผนังไว้ แล้วก็มาลากผมออกไป

    “เฮ้ยๆ จะรีบไปไหนยังไม่ได้ทักพี่ซึงฮุนเลย” ผมสะบัดแขนออก 

     

    “เดี๋ยวเฮียแม่งมาเต๊าะแฟนผมอีกอ่ะ”

    “ห้ะ อะไรนะ” ผมต้องเอ่ยปากถามอีกครั้งเมื่อหมอนั่นไม่สามารถพูดอะไรที่ผมได้ยินได้

    “ผมบอกว่าหิวข้าวแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ^^

    “เออๆ เริ่มหิวเหมือนกัน” ว่าแล้วผมก็เดินตามไปที่รถ 

     
     

     

    ไม่นานนักเราก็มานั่งอยู่ในร้านเนื้อย่างแห่งหนึ่ง เนื้อย่างเนี่ยนะ ผมเพิ่งกินไปเมื่อไม่กี่วันมาเองนะ

    แต่ผมปฏิเสธได้ที่ไหนล่ะก็หมอนั่นมันคนขับรถ ชิ - -


     “กินเยอะๆนะฮยอง ผมเลี้ยง^^

    “นึกไงมาเลี้ยงเนื้อย่างเนี่ย”  

     

    “นึกอยากกิน.. อ่า” พูดพลางคีบเนื้อจากเตาเข้าปาก แต่ต้องรีบอ้าปากเอามือพัดเพื่อระบายความร้อนออก

    “ฮ่าๆ สมน้ำหน้าตะกละนัก”

    “โหย ลิ้นพองแล้วมั้ง ฮยองดูให้หน่อย” ว่าแล้วไอ้เด็กตรงหน้าก็แลบลิ้นออกมาให้ผมดู

    “เฮ้ย เคี้ยวให้หมดดิเว้ย น่าเกลียดชิบ” ผมว่าพลางเอาช้อนเคาะหัวอีกคน ก็มันเล่นแลบลิ้นออกมาทั้งที่เนื้อยังเต็มปากอยู่น่ะสิ

    “ทำไมเล่าไม่เห็นเป็นไรเลย” หลังจากโดนด่าไปหมอนั่นก็ก้มหน้าก้มตากินต่อไม่สนใจใคร

    “สั่งมาเยอะๆกินให้หมดนะเว้ย” ผมมองเนื้อที่และเครื่องเคียงที่ถูกนำมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ ถ้ากินหมดนี่ก็ไม่ใช่คนละ

    “ฮยองก็กินเยอะๆนะ จะได้โตไวๆ” ว่าพลางลูบหัวอีกคน

    “ฉันเป็นพี่นายนะเว้ย” ผมโวยวายแล้วตบหัวไอ้เด็กลามปามไปที

    “ฮยองรุนแรงง่ะ T3T

     

    “เหอะ ไม่ต้องมาทำหน้างั้น ไม่สงสารเฟ้ย” แล้วผมก็ก้มลงย่างเนื้อต่อ

    “ทำร้ายร่างกายผู้เยาว์ ผมแจ้งตำรวจดีมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆ” ผู้เยาว์? หมอนั่นยังกล้าพูดว่าตัวเองเป็นผู้เยาว์หรือนี่ ถึงจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ

    “ตามสบายครับ ^___^” ผมตอบไปก่อนจะยิ้มตอแหล(?)ให้หมอนั่น

     

    “เวลายิ้มฮยองน่ารักอ่ะ >< คึคึ” ฮันบินทำท่าทางเขินกระดี๊กระด๊า ลองนึกสภาพนะครับเด็กมอปลายตัวโตกำลังทำท่าทางยังกับเด็กประถม มันจะน่าเกลียดขนาดไหน(ก็ไม่อยากยอมรับหรอกนะว่าน่ารักอ่ะ)

     “แม่งพูดมากว่ะ -///-” ผมก้มหน้าก้มตากินต่อ ไม่รู้ทำไมรู้สึกร้อนที่ใบหน้าและหู สงสัยความร้อนจากเตามั้งครับ    

     

     

    ไม่นานเราสองคนก็จัดการเนื้อสองชุดใหญ่จนหมด ไม่น่าเชื่อว่าผมจะกินเข้าไปเยอะขนาดนั้นแต่ทำไมไม่ยักจะสูงซักที โถ่วว พนักงานที่มาเก็บตังถึงกับมองหน้าผมกับฮันบินสลับกัน ไม่เคยเห็นมนุษย์กระเพาะช้างสินะ ฮ่าๆ

    “เออเดี๋ยวฉันออกไปซื้ออะไรที่มินิมาร์ทตรงข้ามนะ”

    “ฮยองยังจะกินอีกเหรอ” ฮันบินถามขณะกำลังหยิบตังในกระเป๋าออกมาจ่ายค่าอาหาร

    “จะไปซื้อของนิดหน่อย"ผมพูดแล้วเดินออกมาจากร้าน

    “ครับผม เดี๋ยวตามไป”









     

    เอี๊ยดดดด โครมมม

     










    ชายหนุ่มร่างสูงที่เพิ่งออกมาจากร้านอาหารถึงกับดวงตาเบิกกว้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างหน้า

    นั่นทำให้ใจเขาหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลยทีเดียว เขาพยายามรวบรวมสติแล้วรีบวิ่งไปยังฝั่งตรงข้ามทันที

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×