ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (BJIN) Just Another Boy ที่รัก รักผมเถอะครับ

    ลำดับตอนที่ #9 : chapter nine สับสน!?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 219
      2
      8 พ.ย. 57

     

    CHAPTER 9



    ผมกำลังข้ามถนนไปที่มินิมาร์ทตรงข้าม จู่ๆก็มีมอไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่วิ่งเฉี่ยวซะงั้นคนขับเบรกกะทันหันจนเสียงเบรกดังจนคนออกมามุงดู ส่วนผมน่ะเหรอ หลังจากโดนเฉี่ยวเข้าเต็มๆผมก็มากลิ้งอยู่พื้นแล้วหลังจากลุกขึ้นนั่งได้ผมก็เห็นไอ้คนขับรถนั่นหายไปแล้ว

    โถ่เอ้ย เวรกรรมอะไรของผมเนี่ย



    “ฮยอง!!” พอหันไปก็เจอฮันบินที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาพร้อมเรียกชื่อผม

    “ทำไมต้องทำหน้าตื่นขนาดนั้นด้วย” ผมหันไปถามคนข้างๆเนื่องจากสีหน้าที่ตกใจโอเวอร์ของหมอนั่น
    “ฮยองเป็นไงบ้างเนี่ย เจ็บตรงไหนบ้าง”ฮันบินเข้ามาผมแล้วสำรวจตามร่างกาย

    "ไม่เป็นไรหรอก"

    "ฮยองเลือดออกด้วย" ฮันบินทำหน้าตกใจสุดขีด

    "แค่แผลถลอกน่า นายอย่าตกใจขนาดนั้นดิ"ผมพูดแล้วเอามือพยุงพื้นเพื่อจะลุกขึ้น

    "มา ผมช่วย" ฮันบินช่วยพยุงผมให้ลุกยืน "ไม่เป็นไรแน่นะ"


    “ไม่เป็นไรแค่โดนเฉี่ยวอ่ะ   อ๊ากก” พอเท้าผมเหยียบพื้นเท่านั้นแหละ รู้สึกเจ็บแปล๊บที่เท้าเลยหละครับเหมือนกระดูกจะหัก เจ็บเป็นบ้า TT

    “ฮยองขาหักเหรอ O.O ให้ผมเรียกรถพยาบาลมั้ย”

    “ไม่ต้องๆ ไม่ร้ายแรงหรอกมั้ง” ผมพูดพลางเกาะไหล่ของฮันบินไว้ ไม่งั้นผมคงร่วงไปกองที่พื้นด้วยความเจ็บปวดละ

    “งั้นเดี๋ยวผมพาไปโรงพยาบาล” ว่าแล้วฮันบินก็อุ้มผมขึ้นมาซะงั้น
    เฮ้ยๆ แกแคร์สายตาประชาชีที่มุงดูด้วยสิว้อยย

    “จะอุ้มทำไม ปล่อยๆ” ผมพยายามดิ้นแต่ฮันบินก็ไม่ยอมปล่อยผมลงเลย

    “อยากขาหักอีกเหรอครับ” ฮันบินตอบนิ่งๆแล้วเดินอุ้มผมต่อไป ด้วยใบหน้านิ่งๆนั้นทำไมนะผมถึงรู้สึกว่าหมอนั่นเป็นห่วงผมมากขนาดนี้

    ผมคงไม่ได้คิดไปเองหรอกนะ  แล้วทำไมหัวใจมันต้องเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยเนี่ย โอยย

     

     


    หลังจากทำแผลเสร็จฮันบินก็มาส่งผมที่บ้านทันที โชคดีที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลเพราะแค่กระดูกข้อเท้าร้าวนิดหน่อย เลยได้ใส่เฝือกอ่อนไว้

    แต่มันก็เจ็บเหมือนกันนะครับ T3T

    “ฮยองเป็นไรอ่ะ” ยุนฮยองถามหลังจากเห็นผมเดินเข้าบ้านมาพร้อมฮันบินด้วยสภาพนี้

    “รถเฉี่ยว”

    “แล้วไปทำอีท่าไหนอ่ะฮยอง” ไอ้น้องชายก็ยังสงสัยไม่หาย

    “กูก็เดินของกูอยู่ๆดีๆก็มีไอ้รถเวรมาจากไหนไม่รู้มาเฉี่ยวกูเต็มๆเล่นเอากูไปนอนจูบพื้นถนนเลย”

    “ขาหักเลยอ่อ?”

    “แค่กระดูกร้าวน่ะ นี่มึงจะถามอะไรนักหนากูเหนื่อยจะไปนอนละ” ว่าแล้วผมก็พยุงไม้ค้ำที่หมอให้มาขึ้นไปบนห้อง

    “ฮยอง งั้นผมกลับก่อนนะแล้วพรุ่งนี้จะมาหา” ฮันบินเรียกผมอีกครั้ง

    “อืม” ผมโบกมือปัดๆพร้อมหอบสังขารพาร่างตัวเองขึ้นบันไดอย่างยากลำบาก






    “เฮ้ยไปทำอะไรมาวะ” หลังจากผมเล่าเรื่องเมื่อวานให้ไอ้เพื่อนรักสองคนฟังมันก็รีบมาหาผมที่บ้านทันทีที่เรียนเสร็จ

    “มึงไหวปะเนี่ย ไม่ไหวเดี๋ยวกูจดเลกเชอร์มาให้มึงก็ได้นะ” ไอ้นัมแทถามด้วยความเป็นห่วง กูเพิ่งรู้ว่าพวกมึงรักกูก็ตอนนี้แหละ ซึ้งว่ะ

    “หมอบอกไม่ให้เดินเยอะว่ะ แต่พรุ่งนี้เดี๋ยวกูก็ไปเรียนได้ละ”

    “พรุ่งนี้เชี้ยอะไรล่ะ หมอบอกไม่ให้เดินเยอะเดี๋ยวมึงก็ได้กระดูกหักจริงๆอ่ะ”

    “เออ มึงอยู่บ้านเถอะ หายแล้วค่อยไปเรียนเดี๋ยวพวกกูลาให้” ซึงยุนเสริม

    “กูเพิ่งรู้ว่าพวกมึงรักกูขนาดนี้”

    “มึงกับพวกกูก็มีกันแค่นี้หละนะ ฮ่าๆ” ซึงยุนว่าแล้วก็เดินเข้าไปในครัว

     “ฮยอง ได้ข่าวว่าขาหักเหรอ” จุนฮเวเด็กข้างบ้านโผล่มาจากหลังบ้าน หมอนั่นชอบเข้ามาจากที่คนอื่นเขาไม่มากัน

    “แค่กระดูกร้าวเว้ย”

    “อ้าวก็บ็อบบี้ฮยองบอกผมว่า..”

    “จะไปเชื่อความอะไรกับไอ้พวกนั้นล่ะ”

    “ผมเล่าความจริงให้ให้บ็อบฟังนะแต่มันเอาไปแต่งเพิ่มเองอ่ะ” จู่ๆฮันบินก็โผล่มา นี่คนพวกนี้ไม่รู้จักกดกริ่งหรือเคาะประตูหรือไงนะ

    “ถึงว่า บ็อบบี้ฮยองบอกว่าฮยองอ่ะโดนเฉี่ยวไปไกลตั้งหลายเมตรแถมเลือดท่วมตัวอีกต่างหาก ผมก็ตกใจแทบแย่”

    “ขี้โม้ชิบ” ไอ้บ็อบบี้เห็นตาตี่ๆหงิมๆนี่ก็ขี้โม้เบอร์หนึ่งเลยสินะ เหอะ

     
    “เดี๋ยวๆ มึงเดี้ยงงี้แล้วปาร์ตี้วันเกิดมึงอ่ะ”ซึงยุนถามหลังจากออกมาจากในครัว

    “กูไปได้น่า”ผมตอบไป

    “มึงจะเข้าผับสภาพนี้อ่ะนะ” จริงสิ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดผมแล้วสินะ ตอนแรกผมก็สัญญากับพวกมันแล้วว่าจะพาไปเลี้ยงเหล้า

    แต่สภาพผมตอนนี้คงไม่ไหว มีหวังได้โดนคนในผับเหยียบเท้าแหงมๆ

    “งี้ผมก็อดกินของฟรีอ่ะดิ” จุนฮเวบ่น

    “น้อยๆหน่อยมึง อายุเท่าไหร่กัน”ผมด่ามันไป ไอ้เด็กนี่แก่แดดชะมัด

    “งั้นพวกกูมาจัดบ้านเจ้าของวันเกิดแล้วกัน”

    “ก็ดีนะ แต่พวกมึงต้องทำความสะอาดด้วยนะเว้ย”

    “แต่สัญญาของเรายังเหมือนเดิมนะเว้ย” ไอ้ยูนพูดทวงสัญญา

    “เออรู้แล้ว ไม่ต้องห่วงเครื่องดื่มกูเหมายกลังเลยดีมั้ย”ผมตอบไป ไอ้พวกนี่เห็นแก่ของฟรีชะมัด

     




    แสงแดดอ่อนยามเย็นเริ่มหมดไป เผยให้เห็นแสงของดวงจันทร์ที่เข้ามาแทนที่

    ปาร์ตี้เล็กๆถูกจัดขึ้นในสวนเล็กๆหลังบ้าน โดยเด็กหนุ่มทั้งหลาย

    บาร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายชนิดถูกตั้งกลางปาร์ตี้ เครื่องเสียงก็ก็กำลังบรรเลงเพลงจังหวะฮิปฮอปที่พวกเขาชอบกัน ทุกคนต่างกินและดื่มกันอย่างสนุกสนาน เว้นแต่เจ้าของปาร์ตี้เท่านั้นที่กำลังรอใครบางคน

     

    “มึงทำไมไม่ไปร้องเพลงกับพวกกู” ไอ้ซึงยุนเข้ามาทัก

    “เออเดี๋ยวไป พวกมึงร้องไปก่อนเลย”

    “มึงรอใคร รอไอ้ฮันบินเหรอ” ซึงยุนถามอีกครั้ง

    “รอเรออะไร กูแค่มาสูดอากาศตรงนี้เฉยๆ”

    “ทำอย่างกับว่าอากาศตรงพวกกูอยู่ไม่บริสุทธิ์งั้นแหละ”

    “กูอยากมาดื่มด่ำแสงจันทร์คนเดียวมีไรปะ”

    “มึงนิอารมณ์ไหนวะ ฮ่าฮ่า แต่ถ้ารอไอ้เด็กนั่นวันนี้มันไม่มาหรอก” ว่าแล้วซึงยุนก็เดินเข้าไปร่วมวงกับคนอื่น


    ไม่มา? หมอนั่นไม่มาได้ไงนี่วันเกิดผมเชียวนะ เออแล้วทำไมผมต้องมารอมันด้วยเนี่ย

    ไม่มาก็ไม่มาสิไม่สนหรอก งั้นผมควรจะเข้าไปร่วมวงกับเพื่อนได้แล้ว





    หนึ่ง

     






    สอง

     








    สาม

     


    ผมหันไปที่ประตูอีกครั้งแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครมาเลย

    โอเคไม่มาก็ไม่มา ผมจะไปสนทำไมเนี่ย

     

    “เป็นไรฮยองหน้าบูดเชียว” จุนฮเวกับยุนฮยองเข้ามาถาม

    “ไม่เป็นไรเว้ย”

    “สงสัยงอนไอ้ฮันบินไม่มามั้ง ฮ่าๆ” พี่มินโฮเสริม

    “ไม่ใช่หรอกพี่ ผมจะไปงอนมันทำไมล่ะ” นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นพี่ผมต่อยไปแล้วนะเนี่ย ผมจะไปงอนมันเพื่อ

    “ฮันบินฮยองงง”

    จู่ๆจุนฮเวก็ทำท่าทางเหมือนทักทายใครอีกคน ไหนว่าไม่มาไง

    ผมหันไปด้านหลังทันที พบแต่ความว่างเปล่า

    “ฮยองรอฮันบินฮยองจริงด้วยอ่ะ”

    “แน่ะแน่ะ มีซัมติงอะไรหรือเปล่าเนี่ย” พี่ซึงฮุนเสริม

    “ไม่ได้รอ”

    “ก็เห็นอยู่ตะกี้เรียกฮันบินปุ๊บมึงรีบหันเลยอ่ะ” ไอ้นัมพูดบ้าง

    “พวกมึงและพวกฮยองเลิกพูดกันเถอะครับ ผมไม่ได้ชอบเด็กนั่นซะหน่อย” ผมตอบแล้วเดินไปหาอะไรดื่มแทน คนพวกนี้นี่จริงๆเลยท่าทางผมมันเหมือนว่าผมชอบฮันบินขนาดนั้นเลยหรือครับ (ยังไม่รู้ตัวอีก : คนอ่าน)

     

     


    นี่ก็จะเที่ยงคืนแล้วไอ้พวกเพื่อนผมและพวกพี่มินโฮก็พากันเมาเละนอนแอ้งแม้งอยู่ในห้องโถงเรียบร้อยแล้ว

    ผมก็ควรจะไปนอนได้แล้วสินะ น่าแปลกที่วันนี้ผมไม่เมาแฮะ ก็ดีเหมือนกัน ฮ่าๆๆ

     



    ตื้ดด


    จู่ๆก็มีข้อความเข้าผมเลยเปิดอ่าน


    ฮยองออกมาที่หน้าบ้านหน่อยสิ


    จากฮันบินเหรอ ถ้าเดินออกไปแล้วไม่เจอใครผมฆ่าหมอนั่นจริงๆนะ - -

     

    ผมเดินออกไปเปิดประตูหน้าบ้านก็เห็นร่างสูงยืนพิงรั้วอยู่


    “ฮันบินเหรอ”

    “ฮยองง” พอเห็นผมเท่านั้นแหละ หมอนั่นก็เดินเข้ามากอดผมแน่น

    “เฮ้ยๆ อะไรของนาย”

    “สุขสันต์วันเกิดครับ” ฮันบินคลายกอดออกแล้วยิ้มจนตาหยี จะว่าไปมันก็น่ารักเหมือนกันนะ -///-

    “ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะ”

    “ผมไปธุระกับแม่มาอ่ะ ฮยองอย่างอนผมน้าา”

    “ทำไมฉันต้องงอนนายล่ะ”

    “นั่นสิครับ ฮ่าๆๆ อ่ะนี่ผมให้ฮยอง” หมอนั่นยิ้มกวนก่อนจะยื่นกล่องสีดำเล็กๆมาให้ผม

    “หืม คงไม่ใช่ของมาแกล้งใช่ปะ” ผมพลิกกล่องไปมา

    “ไม่ใช่หรอกน่า ฮยองเปิดดูดิ” ฮันบินทำสีหน้าลุ้นสุดๆ



     ผมค่อยๆเปิดกล่องออก ภายในกล่องมีเพียงแหวนสีเงินที่ถูกสลักชื่อ ‘Hanbin’ ไว้ด้านใน

     แหวน?


    “นายให้ผิดหรือเปล่า” ผมชูแหวนที่มีชื่อหมอนั่นให้ดู

    “ไม่ผิดหรอก แหวนวงนั้นแทนตัวผมให้ฮยองใส่ไว้จะได้มีผมอยู่ใกล้ๆ”

     

    “ห้ะ!!” ผมไม่อยากจะเชื่อคำอธิบายของคนตรงหน้า มีหมอนั่นอยู่ใกล้ๆน่ะเหรอ ใครอยากได้กัน

     

    “ของผมสลักชื่อฮยอง ฮยองจะได้อยู่ใกล้ผมตลอดเวลา ^^” ว่าแล้วก็ชูแหวนบนมือที่เหมือนกับของผมเป๊ะขึ้นมาให้ดู

     

    “บ้าไปกันใหญ่แล้ว” ผมโวยวาย แหวนคู่อะไรผมกับหมอนั่นยังไม่เป็นอะไรกันเลย 

    “ฮยองยังไม่ต้องใส่ก็ได้”  

    “ไม่ต้องใส่ แล้วจะให้ทำไมห้ะ! ผมถาม คนตรงหน้า ทำไมต้องเอาของอะไรที่แปลกๆมาให้ด้วย ถ้าแหวนเป็นชื่อผมนี่จะไม่เครียดเลย

    “ก็..” ฮันบินขยับมาใกล้ขึ้น

    “อะไร - - 

    “ถ้าฮยองใส่แหวนนั่นเมื่อไหร่แสดงว่าฮยองตกลงคบกับผมแล้วนะ” ฮันบินก้มลงกระซิบที่ข้างหู

    “ฉันไม่มีวันใส่มันเด็ดขาด” ผมยื่นกล่องคืนเจ้าของแต่หมอนั่นไม่ยอมรับ

    “ไม่รับคืนครับ และฮยองห้ามทิ้งด้วยไม่งั้นผมเสียใจจริงๆด้วย” น้ำเสียงที่นิ่งๆของหมอนั่นบางทีก็ทำผมกลัวจริงๆ หมอนี่เปลี่ยนอารมณ์เร็วชะมัด บางทีบ้าบอ จู่ๆก็ทำเสียงนิ่ง ทำเอาผมตามอารมณ์ไม่ทันจริงๆ

    “เออๆ กลับบ้านได้ละ” ผมพูดพลางหมุนตัวเข้าบ้านทันที

    “หูยยย ยังไม่ได้กู้ดไนท์คิสเลยอ่า” ได้ยินเสียงไอ้เด็กนั่นตามหลังมาแล้วก็หัวเราะ บ้าปะนั่น

     

    หลังจากขึ้นห้องมาผมก็รู้สึกว่าตัวเองเอาแต่ยิ้มไม่หยุด ตอนแรกผมก็รู้สึกเฉยๆกับปาร์ตี้วันเกิด แต่ทำไมพอหมอนั่นมา ทำไมผมถึงดูมีความสุขจังล่ะ หรือผมจะเริ่มชอบหมอนั่นซะแล้ว โอยยย พูดไปแล้วใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะหมอนั่นเลย มาทำให้ผมสับสนทำไมกันเนี่ยยย

    ถ้าผมเกิดชอบหมอนั่นขึ้นมาจะทำยังไงดีล่ะ

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×