ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องห้ามระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย

    ลำดับตอนที่ #29 : ความเจ็บปวดของมัลฟอย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.9K
      93
      24 ต.ค. 48

    ***Chapter 29  ความเจ็บปวดของมัลฟอย***



    เฮอร์ไมโอนี่ยังคงต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพยาบาลอีกหลายวัน  รวมทั้ง  รอน  จินนี่  และเนวิลล์ด้วย  มาดามพรอมพรีย์ไม่ยอมแม้กระทั่งปล่อยพวกเด็ก ๆ ออกไปทานอาหารที่ห้องโถง  ราวกับเธอมองเห็นว่าการเดินออกจากห้องพยาบาลลงไปรับประทานอาหารที่ห้องโถงนั้นเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง  แต่เธอก็ให้สัญญากับเด็ก ๆ ว่าพวกเขาจะสามารถออกจากห้องพยาบาลได้ก่อนวันปิดภาคเรียน

    หลังจากรับประทานอาหารที่มาดามพรอมพรีย์จัดมาให้จนอิ่มหนำแล้ว  หล่อนก็จัดแจงแจกจ่ายยาให้เด็กทั้งสี่คนคนละถ้วย ซึ่งยาแต่ละตัวนั้นมีคุณสมบัติในการรักษาแตกต่างกันไป  แต่รสชาติของมันนั้นเลวร้ายไม่ผิดกันเลย

    มาดามพรอมพรีย์เดินมาที่เตียงของเฮอร์ไมโอนี่เป็นเตียงสุดท้าย  และยื่นถ้วยยาที่บรรจุของเหลวสีเขียวข้น ๆ ที่มีควันลอยกรุ่นให้เธอ

    “รีบทานก่อนจะเย็นนะมิสเกรนเจอร์  ยาตัวนี้สามารถรักษาอาการบาดเจ็บจากคาถาได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว” หล่อนอธิบาย  เฮอร์ไมโอนี่กลั้นใจกลืนยาที่มีรสชาติเหมือนน้ำฟักทองเน่า ๆ ผสมกับซากตัวแมนติคอร์ลงคอไปภายในอึกเดียว  หลังจากนั้นมาดามพรอมพรีย์ก็หยิบถ้วยยาไปเก็บและกำชับเฮอร์ไมโอนี่ว่าห้ามลุกออกจากเตียงเด็ดขาด

    “ถ้าเธอต้องการอะไรก็สั่นกระดิ่งเรียกฉันได้นะ  ฉันจะอยู่ตรงห้องทำงาน” หล่อนพูด  ก่อนจะเดินออกจากเตียงของเฮอร์ไมโอนี่และดึงผ้าม่านมาปิด  

    หลังจากมาดามพรอมพรีย์ออกไป  เฮอร์ไมโอนี่ก็ล้มตัวลงนอนพลางขบคิดเรื่องต่าง ๆ  แต่เด็กสาวก็ทำอย่างนั้นได้ไม่นานเท่าไหร่นัก  เพราะเมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์  เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้สึกง่วงงุนจนไม่สามารถคิดอะไรต่อได้แล้ว  ไม่นานนักเด็กสาวก็จมดิ่งลงสู่ห้วงนิทรา

    .................................................

    เวลาล่วงเลยไปจนถึงกลางดึก  โรงเรียนทั้งโรงเรียนนั้นก็เงียบสงัด  ไม่มีสรรพเสียงใดจะให้ได้ยินนอกเสียจากเสียงร้องของคุณนายนอร์ริสและเสียงลากฝีเท้าพร้อมกับเสียงหายใจของฟิลซ์ที่กำลังเดินตรวจโรงเรียนยามค่ำคืนเท่านั้น

    ตะเกียงน้ำมันในมือของภารโรงชรานั้นสาดแสงไปทั่วทางเดินแคบ ๆ ในปราสาท  ตั้งแต่เสร็จสิ้นการสอบฟิลซ์ก็ออกเดินตรวจโรงเรียนอย่างเคร่งครัด  เพราะเหตุการณ์หลายอย่างนั้นทำให้เด็กนักเรียนนอกคอกนั้นเริ่มฮึกเหิมขึ้นทุกขณะ  อัมบริดจ์หายตัวไปจากโรงเรียนขณะเข้าไปในป่าต้องห้าม  หน่วยสอบสวนถูกทำร้าย  และมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งหนีออกไปจากโรงเรียนภายใต้อุ้งมือของเขา  นี่ยังไม่รวมกับการที่มีเด็กจำนวนมากก่อความวุ่นวายในโรงเรียนเพื่อฉลองการสอบที่เสร็จสิ้นลง  และนั่นยิ่งทำให้ฟิลซ์อยากจะจับพวกนอกคอกเหล่านี้ให้ได้นักเชียว  

    “เอาล่ะเราต้องหามันให้เจอแม่หวานใจ  น่าจะมีนักเรียนไม่รักดีสักคนลุกออกมาจากเตียงบ้างแหละน่า” ฟิลซ์พูดกับคุณนายนอร์ริส  เขากระชับแส้หนังในมือไว้ในท่าเตรียมพร้อม  ราวกับว่าจะมีนักเรียนแหกคอกโผล่มาให้จับเสียเดี๋ยวนั้น  ดวงตาเหมือนตะเกียงของฟิลซ์สอดส่องไปทุกซอกมุม  เผื่อว่าเขาจะเจอใครบางคนแอบซ่อนตัวอยู่ตามทางเดิน  โดยฟิลซ์หารู้ไม่ว่า  มีนักเรียนคนหนึ่งที่ลุกออกมาจากเตียงและเล็ดรอดสายตาเขาไปได้อย่างหวุดหวิด  แถมร่างลึกลับนั้นกำลังตรงไปยังห้องพยาบาลท่ามกลางความมืด

    ภายในห้องพยาบาลยามดึกนั้นเงียบสงัด  จนกระทั่งมีเสียงเปิดประตูดังขึ้นอย่างแผ่วเบา  ราวกับว่าผู้ที่ต้องการเข้ามาในห้องนี้กลัวว่าคนที่อยู่ในห้องจะรับรู้การมาเยือนของเขา  เสียงฝีเท้าดังกระะทบพื้นไปตลอดทางเดิน  ร่างที่มาใหม่นั้นมองหาคนที่เขาต้องการพบจากเตียงทั้งสี่  และในไม่ช้า  เขาก็เลี้ยวไปยังเตียงหนึ่งที่มีม่านสูงกั้นอยู่  

    มัลฟอยเลิกม่านขึ้น  และเขาสิ่งที่เขาพบก็คือเฮอร์ไมโอนี่กำลังนอนหลับไหลอยู่บนเตียง  แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่างทำให้ผิวของเธอดูนวลเนียน  ผมสีน้ำตาลสยายไปทั่วหมอน  มัลฟอยเดินเข้าไปใกล้เตียงเธออย่างเงียบเชียบ  เขาจ้องมองเด็กสาวอย่างพิจารณา

    เธอดูปรกติดี  และดูเหมือนกำลังหลับไหลอย่างมีความสุข  ร่างบางซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม  โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังยืนมองเธออยู่  มัลฟอยเอื้อมมือของเขาเพื่อจะไปสัมผัสตัวเธอ  แต่ไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้ทำเช่นนั้น  เฮอร์ไมโอนี่ก็ลืมตาขึ้น

    ดวงตาสีน้ำตาลปรือขึ้นมาอย่างช้า ๆ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับความมืดรอบด้าน  ก่อนจะสังเกตุเห็นร่างที่กำลังยืนอยู่ข้างเตียงของเธอ

    “มัล....”

    “เงียบ!” มัลฟอยกระซิบเสียงดุ  และรีบเข้ามาปิดปากเธอ  เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างตกใจ  แต่เด็กสาวก็ไม่ได้ดิ้นรนหรือขัดขืนอะไร  มัลฟอยเงี่ยหูฟังเสียงใครบางคนที่นอนอยู่เตียงข้าง ๆ เฮอร์ไมโอนี่กำลังพลิกตัว  และเด็กหนุ่มก็ดูโล่งใจเมื่อเขาได้ยินเสียงกรนของคน ๆ นั้นตามมา

    มัลฟอยคลายมือที่ปิดปากเฮอร์ไมโอนี่ออกหลวม ๆ ดวงตาสีน้ำตาลของเด็กสาวฉายแววตกใจ

    “เธอมาทำอะไรที่นี่มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบถาม  ถึงแม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบ  แต่ในกลางดึกที่เงียบสงัดเช่นนี้  มัลฟอยจึงได้ยินมันชัดเจน  แต่เขากลับไม่ตอบอะไรออกมา

    “ทำไมเธอถึงไม่เชื่อฉันเกรนเจอร์” เด็กหนุ่มพูด

    “เธอว่าอะไรนะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ถามซ้ำ  บัดนนี้เธอลุกจากเตียงและมาอยู่ในท่านั่งแล้ว

    “ฉันถามว่าทำไมเธอถึงไม่เชื่อฉัน  ทำไมเธอถึงไม่เชื่อที่ฉันเตือนเธอบ้าง” มัลฟอยพูด  แววตาสีเงินของเขามองเฮอร์ไมโอนี่ราวกับต้องการหาคำตอบ

    “มัลฟอย  ฉัน........” เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก  เธอไม่รู้เลยว่าจะต้องตอบไปว่าอะไรดี

    “ทั้ง ๆ ที่ฉันเตือนเธอแล้ว  แต่เธอกลับไม่เชื่อฉันเลย!” มัลฟอยพูดด้วยเสียงดังกว่าเก่า  มือแข็งแรงของเขาคว้าเข้าที่แขนบอบบางของเฮอร์ไมโอนี่ “เธอกลับออกไปจากโรงเรียนกับเจ้าพอตเตอร์!”

    “งั้นเธอก็รู้ล่วงหน้าแล้วน่ะสิ  เธอรู้ใช่ไหมว่ามันเป็นกับดักน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    “มันไม่สำคัญหรอกว่าฉันจะรู้อะไรมาบ้าง  แต่มันสำคัญที่เธอว่าฉันอุตส่าห์มาเตือนเธอ  ฉันอุตส่าห์เป็นห่วงเธอ  แต่เธอกลับเห็นพอตเตอร์สำคัญกว่าคำเตือนของฉัน” เด็กหนุ่มพูดอย่างตัดพ้อ

    “แฮร์รี่เป็นเพื่อนของฉันนะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “ฉันแตะต้องมันไม่ได้เชียวนะ” มัลฟอยพูด  น้ำเสียงของเขานั้นดูราวกับต้องการเย้ยหยันตัวเอง “คำก็พอเตอร์  สองคำก็พอตเตอร์  เธอคงรักมันมากใช่ไหม”

    “เขาเป็นเพื่อนฉันนะมัลฟอย  ฉันปล่อยให้เขาไปเผชิญอันตรายคนเดียวไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่เถียง  ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงด้วยอารมณ์โกรธ

    “เธอก็เลยเลือกที่จะไปเสี่ยงอันตรายกับมันใช่ไหม  เธอก็เลยเลือกที่จะเอาชีวิตไปทิ้งกับมันใช่ไหมเกรนเจอร์!” มัลฟอยพูด น้ำเสียงของเขานั้นดูน่ากลัวและฟังดูผิดหวังอยู่ในทีเดียวกัน  จนมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าสบดวงตาสีเงินนั้นเลย

    “เธอไม่เข้าใจฉันมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแผ่วเบา

    “เธอก็ไม่เชื่อใจฉันเกรนเจอร์” มัลฟอยโต้ทันควัน  เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองเขา  แต่มัลฟอยกลับหลบตาเธอ

    “ทั้ง ๆ ที่ฉันคิดว่าเราอาจจะไม่ต้องมายืนอยู่ตรงจุดนี้แล้วแท้ ๆ” เด็กหนุ่มเริ่มพูด  โดยไม่มองเฮอร์ไมโอนี่

    “ฉันคิดว่าฉันจะสามารถกันเธอออกจากเรื่องเหล่านี้ได้  แต่ผลกลับกลายเป็นว่าเธอกับไอ้หัวแผลเป็นนั่น  ทำให้พ่อฉันต้องติดคุก!”



    *************************************************



    เกิดความเงียบที่น่าอึดอัดขึ้นระหว่างเธอและมัลฟอย  ความอึดอัดที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้  ทั้งสองต่างไม่มองสบตากัน  แต่กลับทอดสายตาไปอีกด้านหนึ่งแทน  ทั้งสองทำราวกับอีกฝ่ายหนึ่งไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น

    แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะมองว่าสิ่งที่  ลูเซียส  มัลฟอย  ได้รับนั้นสาสมกับสิ่งที่เขาทำแล้ว  แต่เมื่อเธอได้ฟังน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและฟังดูแสนเศร้าของมัลฟอย  เฮอร์ไมโอนี่จึงจำต้องกลืนคำพูดนั้นลงคอไป

    “ฉันเสียใจด้วยนะ  กับเรื่องพ่อของนายน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเบา ๆ มัลฟอยเงยหน้ามามองเธอ

    “เธอสนใจด้วยเหรอเกรนเจอร์” มัลฟอยพูดอย่างตัดพ้อ “ฉันนึกว่าเธอจะสนแต่เจ้าเพื่อนรักของเธอ  กับไอ้ชมรมป้องกันตัวจากศาสตร์มืดบ้า ๆ บอ ๆ ของเธอเสียอีก” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มฟังดูประชดประชัน

    “แต่พ่อเธอก็ผิดจริงนี่มัลฟอย  เขาเกือบจะฆ่าพวกเราทั้งหมดแล้วนะ” เฮอร์ไมโอนี่ท้วง  แต่เด็กหนุ่มไม่สนใจเธอ

    “อย่างนั้นหรือ  ถ้าอย่างนั้นเธอก็เห็นว่าเขาสมควรจะติดคุกแล้วใช่ไหม!” น้ำเสียงของมัลฟอยฟังดูโกรธเคือง

    “ฉันไม่สนหรอกนะว่าเขาจะผิดจริงหรือไม่  แต่สิ่งที่ฉันพยายามจะทำนั้น  เธอไม่เคยเห็นมันอยู่ในสายตาของเธอเลยใช่ไหมเกรนเจอร์  คำพูดของฉันมันไม่มีค่าพอเมื่อเทียบกับของไอ้เพื่อนหัวแผลเป็นของเธอเลยใช่ไหม  และถ้าเธอคิดอย่างนั้นล่ะก็  เห็นทีเราคงจะยืนอยู่คนละข้างกันจริง ๆ เสียแล้วหล่ะ!” มัลฟอยระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างสุดจะกลั้น  เขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าจะมีใครตื่นมาได้ยินหรือไม่  ที่ต้องการตอนนี้คือเขาอยากรู้ว่าทำไม ทำไมเขาถึงไม่มีค่าพอจะสู้ไอ้เจ้าเพื่อนรักของเธอได้เลยใช่ไหม!

    แต่โชคดียิ่งนักที่ไม่มีใครตื่นขึ้นมาได้ยินสิ่งที่มัลฟอยพูดเลยแม้แต่คนเดียว  เพราะเด็กคนอื่น ๆ ต่างหลับไปเพราะยาของมาดามพรอมฟรีย์กันไปหมดแล้ว  และห้องทำงานของมาดามนั้นก็ร่ายคาถากันรบกวนไว้  ยกเว้นแต่จะมีนักเรียนคนไหนสั่นกระดิ่งที่หัวเตียงเท่านั้น  เธอถึงจะได้ยิน

    “มัลฟอย  ฉันเสียใจ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแผ่วเบา  น้ำเสียงของเธอฟังดูเศร้าสร้อยและตกใจปนกัน “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไม่ฟังนายนะ  แต่ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น  ฉันไม่มีทางเลือก” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    มัลฟอยไม่ฟัง  เขามองเลยออกไปนอกหน้าต่าง  ดวงดาวสีเงินทอแสงอยู่บนฟากฟ้าสีดำเหนือป่าต้องห้าม  เด็กหนุ่มถอนใจ  ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามจะบอกตัวเองหลายต่อหลายครั้งว่าระหว่างเขากับผู้หญิงคนนี้มันเป็นไปไม่ได้  แต่ราวกับว่าตัวเขาเองจะไม่ยอมเชื่อคำเตือนนั้นแม้แต่น้อย



    นับพันครั้งที่เขาเฝ้าบอกตัวเองว่าเธอเป็นเลือดสีโคลนที่เขารังเกียจ

    นับร้อยครั้งที่เขาเตือนตัวเองว่าเธอเป็นศัตรูของเขาและเป็นเพื่อนรักของเด็กชายสองคนที่เขาเกลียดที่สุดในโรงเรียน

    นับสิบครั้งที่เขาย้ำต่อตัวเองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่หลอกลวงเขาและเธอเคยหลงรักแฮร์รี่พอตเตอร์มาก่อน

    และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มัลฟอยย้ำเตือนกับตัวเองว่าเธอกับเพื่อนของเธอ  เป็นคนทำให้พ่อของเขาต้องเข้าคุก!

    “เก็บคำว่าเสียใจของเธอไปเถอะเกรนเจอร์  พูดไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว” มัลฟอยพูดเบา ๆ

    “เธอน่าจะเข้าใจฉันบ้างนะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างอดทน  ทั้ง ๆ ที่ความอดทนของเธอใกล้จะหมดลงอยู่แล้ว “เราเองก็โดนพ่อของเธอเล่นงานนะ  ฉันก็บาดเจ็บ  พ่อของเธอทำร้ายพวกเราเพียงเพราะลูกแก้วอันเดียว  และนั่นเป็นสิ่งที่เขาสมควรจะได้รับ” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกไปก่อนที่จะห้ามปากตัวเองทัน



    แววตาสีซีดของมัลฟอยตวัดมาทางเฮอร์ไมโอนี่ทันที  และคราวนี้มันดูราวกับจะลูกเป็นไฟ!

    “เธอบอกว่าพ่อของฉันสมควรจะติดคุกแล้วอย่างนั้นหรือ!” มัลฟอยพูด  เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ความอดทนเพิ่งจะหมดลง

    “เขาทำผิดจริงไม่ใช่รึ!” เฮอร์ไมโอนี่ย้อน  ตอนนี้เธอไม่อาจเก็บอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้ว  และที่เธอทำก็เพียงแค่การพูดความจริงเท่านั้น!

    “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่สนว่าเขาจะผิดจริงหรือไม่!” มัลฟอยโต้กลับทันควัน  

    “ถ้าอย่างนั้นช่วยบอกฉันหน่อยสิ  ว่าเธอสนอะไรกันแน่มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างประชดประชัด  แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเคืองของมัลฟอยที่มองเธออยู่กลับหลุบต่ำลงอย่างน่าประหลาด

    เขาสนอะไรอย่างนั้นหรือ  แน่ล่ะเขารู้ว่าเขาสนอะไร  

    ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นความคิดที่ผิด  แต่เขาก็ไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้คิดขึ้นได้  เพราะหลังจากที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น  

    สิ่งที่ทำให้เขากังวลจนแทบบ้า  นอกจากเรื่องของพ่อแล้วก็คงเป็นความปลอดภัยของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้านี่แหละ

    .................................................

    มัลฟอยจำได้ดีว่าหลังจากเกิดเรื่องที่กองปริศนา  แม่ของเขาก็ได้รับจดหมายจากพี่สาวแท้ ๆ ของเธอซึ่งก็คือ  เบลลาทริกซ์  เลสแสตรงค์  ซึ่งเธอมีศักดิ์เป็นป้าของมัลฟอยด้วย  ซึ่งเบลลาทริกซ์ก็หนีรอดไปได้เพราะจอมมารช่วยไว้

    หลังจากนั้นแม่ของเดรโกก็ส่งจดหมายมาหาเดรโกทันที  และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่าพ่อของเขาทำงานล้มเหลว  ลูกแก้วพยากรณ์แตกละเอียด  เขาและผู้เสพความตายคนอื่น ๆโดนมือปราบมารจับได้  และโดนมัดไว้ด้วยเชือกป้องกับการหายตัวทันทีที่ดัมเบิลดอร์มาถึง  แต่เด็ก ๆ ที่มากับแฮร์รี่  พอตเตอร์ก็บาดเจ็บหลายคน  ลูกของแฟรงค์  ลองบอตท่อมบาดเจ็บที่หน้า  และมีเด็กผู้หญิงเลือดสีโคลนโดนคาถาเข้าที่หน้าอกจนสลบไม่ได้สติ  และมีพวกภาคีถูกฆ่าตาย  ซึ่งนั่นก็คือซีเรียส  แบล็ก  นั่นเอง

    แม้ว่ามัลฟอยจะรู้ดีว่าพ่อของเขาต้องถูกจับส่งกระทรวง  ต้องถูกสอบสวนและถูกส่งเข้าอัซคาบัน  แต่มัลฟอยก็อดเป็นห่วงเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้  เท่าที่เขารู้จากแม่ในตอนนั้นก็คือ  เธอบาดเจ็บและไม่ได้สติ  และตั้งแต่เธอกลับมาที่โรงเรียนนั้นมาดามพรอมฟรีย์ก็ห้ามเด็กคนอื่น ๆ เข้ามาเยี่ยมเธอเลย  ยกเว้นแต่แฮร์รี่เพื่อนสนิทของเธอเท่านั้น

    แม้มัลฟอยจะรู้ดีว่าถ้าเฮอร์ไมโอนี่กลับมาถึงมือมาดามพรอมฟรีย์แล้ว  คงยากที่เธอจะเป็นอะไรไปได้  แต่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้  ทั้ง ๆ ที่เขามีเรื่องพ่อเขาให้คิดอยู่แล้วแท้ ๆ แต่มัลฟอยสั่งให้ตัวเองเลิกคิดที่เป็นห่วงเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เขารู้อยู่เต็มอกว่าเธอเลือกเพื่อนของเธอมากกว่าเขา  และเธอกับไอ้เจ้าเพื่อนรักของเธอนั้น  เป็นตัวการทำให้พ่อของติดคุก  แต่เด็กหนุ่มก็ไม่อาจลบภาพเธอออกไปจากหัวสมองได้  พอ ๆ กับที่เขาไม่อาจสั่งให้ตัวเองหยุดคิดไปต่าง ๆ นานาไม่ได้  ว่าเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง  เพราะฉะนั้นมัลฟอยจึงตัดสินใจลงมาที่ห้องพยาบาลในกลางดึกคืนนี้เพื่อมาดูให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัย

    “เธอรู้ไหมเกรนเจอร์” มัลฟอยเริ่มพูดขึ้นมา  หลังจากที่เขานิ่งเงียบไปนาน  น้ำเสียงของมัลฟอยฟังดูเบาโหวงอย่างแปลกประหลาด

    “ว่าตอนนี่ฉันรู้ข่าวนี้  สิ่งที่ฉันคิดกังวลนอกจากเรื่องพ่อของฉันก็คือ  เรื่องของเธอ!”



    *************************************************



    “พอฉันรู้ว่าเธอบาดเจ็บในตอนที่ต่อสู้กับผู้เสพความตาย” มัลฟอยพูด “ฉันก็เองแต่เป็นห่วงเธอต่าง ๆ นานา ๆ กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป  ทั้ง ๆ ที่ฉันรู้ว่าฉันควรจะเป็นห่วงพ่อที่ต้องเข้าคุกมากกว่า  แต่ฉันกลับไม่ทำ  ทั้ง ๆ ที่ฉันรู้ว่าเธอเป็นต้นเหตุทำให้พ่อฉันติดคุก  แต่ฉันกลับอดเป็นห่วงคนอย่างเธอไม่ได้!” มัลฟอยพูดทุกอย่างออกมาจากใจจริง  น้ำเสียงของเด็กหนุ่มฟังดูปวดร้าวและสับสน  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นไม่ได้พูดอะไรออกมา  ราวกับว่าเธอยังตกใจกับเรื่องที่มัลฟอยพูดอยู่

    “รู้ไหม  ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันพยายามจะลืมเธอครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ฉันไม่เคยทำสำเร็จเลยสักครั้ง  ทั้ง ๆ ที่ฉันคิดว่ามีคนที่เหมาะสมกับฉันอยู่แล้ว  แต่ฉันกลับคิดถึงแต่เธอ  เป็นห่วงแต่เธอ  และฉันไม่เคยลืมเธอได้เลย!” มัลฟอยพูดเรื่องทั้งหมดออกมาอย่างอัดอั้น  กี่ครั้งกันแล้วนะที่เขาเฝ้าคิดถึงผู้หญิงตรงหน้าของเขานี้  ทั้ง ๆ ที่เขาคอยสั่งตัวเองไม่รู้ต่อกี่ครั้งให้ลืมเธอ  

    “มัลฟอย.........” เฮอร์ไมโอนี่พูดได้อยู่แค่นั้น  และเสียงของเธอกลับถูกแทนที่ด้วยเสียงสะอื้นเบา ๆ  ทั้ง ๆ ที่เธออยากจะบอกให้เขารู้แทบตายว่าเธอก็เป็นหมือนกัน  เธอเองก็เฝ้าบอกกับตัวเองเป็นพัน ๆ ครั้งเหมือนกัน  แต่เธอไม่เคยลืมเขาได้เลยแม้แต่น้อย

    “ทำไมกันเกรนเจอร์  ทำไมเธอถึงต้องใช้ยาเสน่ห์นั่นกับฉันด้วย  ทำไมเธอถึงไม่ใช้มันกับพอตเตอร์  ทำไมฉันถึงต้องดื่มมันเข้าไปด้วย!” เด็กหนุ่มพูดออกมา  แววตาสีซีดของเขาดูสับสันยิ่งนัก

    “ถ้าเกิดเธอไม่ใช้มันกับฉัน  มันก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอก ฉันคงไม่ต้องมาทุกข์ทรมานอย่างนี้” มัลฟอยพูดอย่างอัดอั้นตันใจ  “และฉันคงไม่ต้องมารักเธออย่างนี้!”

    “มัลฟอย  ฉันเสียใจ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ย

    “เหรอ  ถ้าอย่างนั้นเธอทำให้ฉันกลับไปเป็นอย่างเดิมได้ไหมเกรนเจอร์  เธอคืนทุกอย่างให้ฉันได้ไหม  ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเดิมได้ไหม  ทำให้ฉันเกลียดเธอเหมือนเมื่อก่อนได้ไหมล่ะ” มัลฟอยพูดอย่างสิ้นหวัง  เพราะเขารู้ว่า  ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไร  เขาก็ไม่มีทางลืมเธอ  และเลิกคิดถึงเธอได้

    แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่อยากจะบอกมัลฟอยเหลือเกินว่าเธอรักเขามาก  และเธอก็ลืมเขาไม่ได้เช่นกัน  แต่เธอพูดกับเขาไม่ได้  เพราะเธอไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดได้ต่างหาก  เพราะเธอเป็นคนที่ไม่เชื่อใจเขา  เพราะเธอเป็นคนที่ทำให้พ่อของเขาถูกถีบเข้าอัซคาบัน  และเธอจะมีหน้าไปบอกรักเขาอีกอย่างนั้นหรือ  เธอทำไม่ได้จริง ๆ

    เพราะว่าตอนนี้เธอและมัลฟอย  ต่างยืนอยู่คนละฝ่ายกันจริง ๆ เสียแล้ว

    มีเสียงดังมาจากห้องทำงานของมาดามพรอมฟรีย์  พร้อมกับแสงไฟที่ลอดออกมาจากหน้าต่างห้องทำงานของเธอ  เห็นได้ชัดว่ามาดามคงตื่นขึ้นมากลางดึก  แต่เพราะอะไรนั้น  เฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจเดาได้

    มัลฟอยมองไปยังต้นทาง  เขาจะอยู่ที่นี่อีกไม่ได้แล้ว  เพราะเขาไม่รู้ว่ามาดามพรอมฟรีย์จะออกมาเดินตรวจภายในห้องพยาบาลเมื่อไหร่กัน  ทางที่ดีที่สุดของเขาก็คือ  ออกไปจากที่นี่อย่างเร็วที่สุดก่อนที่หล่อนจะมาเจอเขาเข้า!

    มัลฟอยหันมาสบตาเฮอร์ไมโอนี่เป็นครั้งสุดท้าย  แววตาสีซีดของเขาฉายแววปวดร้าวออกมาอย่างชัดเจน  เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีโอกาสที่จะพูดอะไรเขาเลย  เพราะมัลฟอยนั้นหันหลังให้เธอแทบจะทันทีที่เธอมองสบตาเขา  เด็กหนุ่มเดินไปยังผ้าม่านและเลิกมันขึ้น  ก่อนจะเดินหายลับไปท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน

    เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่น  น้ำตาของเธอคลอเบ้า  แต่เด็กสาวกลับไม่สนใจที่จะปาดมันทิ้ง  

    เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเธอไม่อาจปล่อยให้เรื่องระหว่างเธอและมัลฟอยเป็นอย่างนี้ต่อไปได้อีกแล้ว  และเธอก็นึกอะไรออก  ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววมุ่งมั่นออกมาอย่างชัดเจน  ริมฝีปากบางเริ่มขยับ  แม้สิ่งที่ออกมาจะเป็นเพียงเสียงแผ่วเบาที่มีเพียงตัวเฮอร์ไมโอนี่เองเท่านั้นที่ได้ยิน  แต่มันกลับฟังดูหนักแน่นยิ่งนัก

    “ฉันจะคืนทุกอย่างให้เธอ  มัลฟอย”



    *************************************************



        

    อืม  ขอโทดทีนะที่มาลงช้า  เพราะตอนนี้เขียนยากมาก ๆ ต้องใช้เวลาจิ้นสุด ๆ เฮ้ย  กว่าจะเสร็จก็เล่นเอาเหนื่อยเลย



    ไม่มีไรจะบอกแล้วแหละ  ช่วยเม้นหน่อยนะ  อ้อ  ที่อยู่บอร์ดใหม่ที่ใคร ๆ หลายคนถามถึงกันนะคะ นี่เลยค่ะ



    http://www.yimwhan.com/board/board.php?user=emma-fanclub



    อ้อ  สำหรับเพื่อน ๆ ที่ถามกันมาอีกซักหลายตอนนะคะกว่าคู่นี้จะดูกัน  อืม  คงต้องรอลุ้นกันต่อไปค่ะ  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×