คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : ฝันร้ายของเฮอร์ไมโอนี่ +*
+ -บทที่ 1- +
เดรโก มัลฟอย เพิ่งเคยเจอเรื่องน่าอับอาย ขนาดนี้
"นายถูกยายหนอนหนังสือนั่นตบหน้า!" แครบเบิกตาพูดอย่างเหลือเชื่อ (ความจริงเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์สักเท่าไหร่แต่คราวนี้นับเป็นเรื่องใหญ่)
"ยายนั่นด่านายด้วยนะ" กอยล์เสริมขึ้นบ้าง จ้องรอยนิ้วที่ครบทั้งห้านิ้วบนใบหน้าของมัลฟอย แต่มัลฟอยเพียงแต่หยิบถุงน้ำแข็งที่เสกขึ้นมาประคบใบหน้าโดยปล่อยให้ทั้งสองคนขุดคุ้ยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่มาทำให้เขาเจ็บใจ
"แล้วยายนั่นยังด่านายว่า.." แครบยังพูดไม่ทันจบถุงน้ำแข็งในมือของมัลฟอยก็ปลิวกระแทกเข้ากับจมูกของเขาอย่างจัง
"พอซะทีพวกแก!" มัลฟอยตวาด ไม่สนใจว่าแครบกำลังร้องโอดโอยและกอยล์กำลังตะลึงอ้าปากค้างอยู่
"แล้วทำไมตอนนั้นนายไม่ให้พวกเราจัดการยายนั่นซะล่ะ พอตเตอร์กับวิสลีย์ด้วยก็ยังได้นะ" กอยล์ดูเหมือนจะเรียกความกล้าหาญคืนมาได้บ้าง
แทนคำตอบมัลฟอยจ้องหน้ากอยล์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขากัดฟันพูดอย่างเคียดแค้น
"แล้วก็ถูกตัดคะแนนคนละ 40 คะแนนข้อหาทะเลาะวิวาทใช่ไหม"
กอยล์อึ้งส่วนแครบตอนนี้กำลังใช้ชายเสื้อเช็ดจมูกที่เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างระมัดระวัง มัลฟอยพูดต่อ
"มันต้องเจ็บแสบยิ่งกว่าฉัน"
เขาเอามือจับที่รอยฝ่ามือบนหน้า ตาแทบจะลุกเป็นไฟ!
...+*+*+...
มัลฟอยจัดแจงเขียนจดหมายหาพ่อของเขาหนึ่งฉบับ หลังจากที่เขาส่งนกฮูกไปแล้ว มันก็กลับมาในวันรุ่งขึ้นพร้อมห่อเล็ก ๆ ซึ่งแครบกับกอยล์อยากรู้เหลือเกินว่าข้างในเป็นอะไร เมื่อมัลฟอยแกะห่อออกก็เห็นขวดน้ำยาสีดำ เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วแสยะยิ้ม
"น้ำยาฝันร้าย" มัลฟอยบอก
"ถ้าใครกินเข้าไปแล้วจะฝันร้ายเห็นสิ่งที่หวาดกลัวจนจะทำให้เหน็ดเหนื่อยราวกับเรื่องจริงติดต่อกันหลายวัน"
แครบกับกอยล์แสดงสีหน้างงงวยว่ามันจะใช้แก้แค้นได้ยังไง มัลฟอยตวาด
"โง่จริง! ฉันจะทำให้ยายนั่นฝันร้ายแล้วก็เหนื่อยจนไม่มีเรี่ยวแรงจะช่วยเจ้าอิปโปกริฟฟ์นั่น สุดท้าย..." เขาหยุดแล้วยกขวดยาขึ้น
ตาของแครบและกอยล์เป็นประกายอย่างสนุก แต่ก็ไม่เท่าดวงตาของมัลฟอยที่กำลังจ้องเข้าไปในขวดยาสีดำนั้น
แต่แล้วแครบก็สะดุ้งเมื่อขวดยาถูกยัดเข้ามาในมือเขา กอยล์ก็ตกใจเช่นเดียวกัน
"หน้าที่แกสองคน คือทำให้ยายนั่นกินยานี่เข้าไป"
แครบขยับตัวจะแย้ง แต่มัลฟอยหันหลังให้เขาเสียแล้ว
"หรือไม่ก็พวกแกเองที่จะฝันว่าโดนไล่ออกจากโรงเรียนแทนยายนั่นสักเจ็ดแปดคืน!!"
+ -บทที่ 2- +
แครบกับกอยล์ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ข้างโต๊ะอาหารของบ้านสลิธีรินพวกเขาเพิ่งเคยได้รับงานที่ยากที่สุดในชิวิต (โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่ใช้สมอง) ยังไม่ได้เวลาเรียกกินข้าวแต่พวกเขาก็แอบเข้ามารอกันก่อนเพื่อดำเนินตามแผนการณ์ มือของแครบที่ถือขวดยาสั่นระริกเขากลัวว่าจะถูกจับได้พอ ๆ กับกอยล์ที่เหงื่อแตกพลั่ก
แครบเปิดขวดยาออกอย่าระมัดระวังแล้วผสมน้ำยาลงไปในแก้วน้ำหวานสีแดงสดที่เตรียมไว้
เมื่อได้เวลารับประทานอาหารเย็น โต๊ะทุกตัวก็เริ่มมีอาหารปราฎขึ้น แครบถลาเข้าไปที่โต๊ะของบ้านกริฟฟินดอร์ เขามีเวลาอึดใจเดียวที่จะรีบเอาแก้วน้ำหวานผสมยาไปวางที่เก้าอี้ของเฮอร์ไมโอนี่ พอไปถึงโต๊ะ - -
"พวกเธอทำอะไรกันอยู่น่ะ"
แครบสะดุ้งโหยงส่วนกอยล์เท้าแทบจะลอยจากพื้น ศาสตราจารย์มักกอนนากัลยืนกอดอกอยู่ แครบรีบซ่อนแก้วน้ำหวานนั้นไว้ข้างหลังแล้วหันไปยิ้ม
"พวกผมหิวเลยมาก่อนครับอาจารย์" แครบโกหก (เขาถนัดอยู่แล้ว)
"ครับ ครับ" กอยล์เสริมแล้วหยิกแครบให้เขารีบวางแก้วน้ำนั้นลง
"โอ๊ย!!" แครบไม่ทันตั้งตัว แก้วน้ำที่ถือมาจึงหกลงไปในชามซุปของเฮอร์ไมโอนี่แทน กอยล์รีบคว้าแก้วที่น้ำหกยังไม่หมดขึ้นมาถือ
"น้ำหวานหก ขอโทษนะครับ" กอยล์รีบเอาแก้วมากุมไว้ พลางนึกในใจ - - ก็ยังถือว่างานสำเร็จ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลขมวดคิ้ว แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ นักเรียนทั้งหมดก็เข้ามารวมตัวกันในห้องอาหาร ทั้งสองคนจึงเผ่นแน่บไปได้ทัน
"ฉันนึกว่าจะโดนจับได้ซะแล้ว" แครบปาดเหงื่อ กอยล์หอบแฮ่ก ๆ วางแก้วน้ำหวานที่ยังเหลืออยู่ลงบนโต๊ะอาหารของสลิธีริน ทั้งสองหันไปมองศาสตราจารย์มักกอนนากัลอย่างหวาด ๆ
"สำเร็จมั๊ยพวกแก"
มัลฟอยยืนอยู่ข้างหลัง แครบพยักหน้า มัลฟอยแสยะยิ้มอย่างพอใจแต่...
"ฉันคอแห้งจะตายอยู่แล้ว" มัลฟอยหยิบแก้วน้ำหวานที่เหลือนิดหน่อยนั้นขึ้นมาดื่ม แครบกับกอยล์อ้าปากค้างราวกับเห็นไฟกำลังไหม้บ้านต่อหน้า ดวงตาเบิกโพลง
"ว่าแต่พวกแกใช้วิธีไหนล่ะ"
แครบกับกอยล์มองหน้ากัน พวกเขาพร้อมใจที่จะโกหกกันอีกครั้ง
+ -บทที่ 3- +
แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่มาถึงห้องอาหารรวม แล้วนั่งที่โต๊ะอาหารตามตำแหน่งที่แครบและกอยล์กะไว้อย่างตรงเผง เฮอร์ไมโอนี่หอบหนังสือมาด้วย เธอจัดการวางมันลงไว้ข้าง ๆ
"ฉันพยายามหาทางช่วยบัคบีคแล้วนะ แต่ยังไม่เจอทางเลย" เฮอร์ไมโอนี่บ่นออกมาดัง ๆ
"เราจะช่วยเธออยู่แล้ว เธอไม่ต้องไปหาหนังสือคนเดียวก็ได้นี่นา" รอนบอก เขามองชามซุปตรงหน้าแล้วเบ้ปาก
"ซุปเหรอ เขากำลังจับเราลดความอ้วนหรือไง"
"แต่ฉันว่ารสชาติไม่เลว" แฮร์รี่ว่า เขาตักซุปกินไปบ้างแล้ว เฮอร์ไมโอนี่หยิบช้อนขึ้นมาบ้าง
มัลฟอย แครบและกอยล์นั่งลุ้นอยู่ที่โต๊ะอาหารของบ้านสลิธีริน เฮอร์ไมโอนี่ตักซุปขึ้นชิม แล้วบ่น
"ฉันว่ามันหวานไปหน่อยนะ แล้วก็เฝื่อน ๆ ชอบกล"
"นั่นแน่ะ เธอพูดอย่างนี้จะลดความอ้วนล่ะสิ ไม่กินไม่ได้นะ" รอนแหย่ เขาเป็นคนบ่นคนแรกแต่ตอนนี้กำลังตักซุปเข้าปากคำแล้วคำเล่า
"ใครบอก!" เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง แล้วตักซุปกินอย่างรวดเร็วจนหมดชาม
มัลฟอยยิ้มอย่างสะใจ แครบและกอยล์ก็พลอยยิ้มไปด้วย แต่ก็อดเหลือบ ๆ มองอาการของมัลฟอยไปด้วยไม่ได้เพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองก็กินน้ำยาฝันร้ายเข้าไปอีกคน - - ได้ผล เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหาว
"ง่วงเหรอเฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่เคยง่วงตอนหัวค่ำอย่างนี้เลยนี่นา" แฮร์รี่ถามอย่างงง ๆ
"กินมากไปล่ะสิ" รอนว่า
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดอีกครั้ง รวบหนังสือไว้แนบอกแล้วลุกออกไป
"เชิญพวกนายกินกันต่อไปเถอะ ฉันจะไปอ่านหนังสือนี่อีกหน่อยเผื่อจะหาทางช่วยบัคบีคได้บ้าง"
มัลฟอยเห็นอาการของเฮอร์ไมโอนี่ แล้วมองเธอเดินโซเซด้วยความง่วงไปที่หอจนลับตาแล้วก็หันกลับมาที่โต๊ะของตัวเองบ้าง เขาคำรามเบา ๆ
"ราตรีสวัสดิ์นะ ยายหัวฟู!"
แครบและกอยล์กลืนน้ำลาย และแล้ว มัลฟอยก็เริ่มหาวบ้าง
+ -บทที่ 4- +
เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าจะง่วงนอนได้ในเวลาหัวค่ำเช่นนี้ เธอไม่เคยนอนหลับก่อนที่จะได้อ่านตำราหนา ๆ สักเล่ม แต่คราวนี้เธอต้องรีบเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็วก่อนที่จะฟุบหลับก่อนถึงเตียง
"เราอาจจะอ่านหนังสือสำหรับช่วยบัคบีคมากเกินไป" เฮอร์ไมโอนี่คิด หนังตาหนักอึ้งค่อยปิดลงช้า ๆ
ทางฝ่ายหอนอนของบ้านสลิธีริน มัลฟอยกำลังอ่านคู่มือที่แนบมากับน้ำยาฝันร้ายอย่างสะใจ โดยมีแครบและกอยล์กำลังนั่งฟังอยู่ที่เตียงของเขาด้วย
"เดี๋ยวยายนั่นจะเป็นยังไงบ้างฉันจะอ่านให้พวกแกฟัง" เขากวาดสายตาไปบนแผ่นกระดาษ
"ผู้ที่ดื่มน้ำยาฝันร้ายเข้าไปแค่คืนเดียวก็จะเห็นสิ่งที่ตัวเองกลัวทีละอย่าง ๆ จนถึงสิ่งที่กลัวมากที่สุด ถึงตอนนั้นอาจจะมีผลกับหัวใจและร่างกาย จึงเป็นยาต้องห้าม ผู้ที่ถูกจับได้ว่าใช้ยานี้เพื่อทำร้ายคนจะมีความผิด
"
"ไม่มีวิธีแก้เลยเหรอ" แครบกลั้นใจถาม มัลฟอยขมวดคิ้ว
"แกจะถามไปทำไม"
"ก็ ก็ เผื่อว่าเกิดมีใครกินน้ำยาขวดเดียวกับยายนั่นเข้าไป" กอยล์พยายามเก็บอาการ มัลฟอยถอนหายใจหนัก ๆ เป็นเชิงรำคาญแล้วอ่านต่อไป
"น้ำยาหนึ่งขวดควรจะใช้กับคนหนึ่งคนเท่านั้น มิฉะนั้นอาจจะส่งผลถึงคนที่กินขวดเดียวกัน
" มัลฟอยขยี้ตาไล่ความง่วงอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะอ่านประโยคต่อไป
"อาจจะถูกพ่วงฝันร้ายนั้นเข้าด้วยกัน ความหวาดกลัวของคนสองคนจะรุนแรงกว่าคน ๆ เดียว"
มัลฟอยอ้าปากหาวอีก - - แครบกับกอยล์หน้าซีดลงเรื่อย ๆ
"ทำไมฉันง่วงนอนได้ขนาดนี้นะ" เขาบ่นดัง ๆ อย่างรำคาญ เขาก็เป็นอีกคนที่ไม่นอนแต่หัวค่ำ
"แล้ววิธีแก้ล่ะ" กอยล์ถามบ้าง
"ยาแก้ก็อยู่กับพ่อฉันสิ!" มัลฟอยพูดเสียงดัง เขาหาวอีกครั้ง แล้วอ่านคู่มือนั้นโดยไม่ออกเสียงอีก แต่ยิ่งอ่านเขาก็ยิ่งง่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาวางกระดาษทันทีที่อ่านจบแล้วขยี้ตาซ้ำ
แครบกับกอยล์เห็นอาการของมัลฟอยก็ลุกลี้ลุกลนหาวิธีไม่ให้มัลฟอยหลับในคืนนี้ พวกเขาพยายามชวนมัลฟอยเล่นหมากรุกพ่อมด เล่นไพ่ แต่มัลฟอยก็เอาชนะได้ทุกตา ความเบื่อหน่ายทำให้มัลฟอยยิ่งง่วงหนักขึ้น ถึงแม้ว่าแครบกับกอยล์ชวนเขาเล่นซ้ำแล้วซ้ำอีก
"พวกแกเป็นอะไรนะ
คืนนี้
" มัลฟอยพูด เขารู้สึกว่าหัวเริ่มหมุนด้วยความง่วง
"ทำไม
ไม่ไปนอน..ซะ พรุ่งนี้
ฉัน
มี..เรียน
" เขาพูดได้เท่านี้ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับวูบลง
+ -บทที่ 5- +
เฮอร์ไมโอนี่ฝันเห็นตัวเองนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ในห้องเล็ก ๆ ทาสีขาวสะอาด แสงแดดอบอุ่นยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ดอกไม้สีสดใส ถูกตกแต่งอย่างเป็นระเบียบ เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงนกร้องเพลงอย่างร่าเริง เธอก้มมองตัวเอง แล้วก็ยิ้ม ชุดเจ้าสาว.. สวยเหลือเกิน เธอถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่ไว้ด้วย เรากำลังจะแต่งงานสินะ เธอคิดแล้วก็ลุกขึ้นไปส่องกระจกบานใหญ่ที่พิงอยู่ที่กำแพง เธอหมุนตัวพลางยิ้มอย่างมีความสุข เธอโตเป็นสาวสวยทีเดียว สูงเพรียวและเต็มตึงไปทั้งตัว เสียงเคาะประตูดังขึ้น - - แน่นอน นั่นต้องเป็นเจ้าบ่าว เธอรีบหันหลังให้อย่างตื่นเต้นแกล้งเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ตั้งใจว่าจะหันมามองเขาเอง
"จะเป็นใครกันนะ" เฮอร์ไมโอนี่ใจเต้นตึกตัก เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดแล้วเขาก็กำลังเดินเข้ามาหาช้า ๆ
"อาจจะเป็นรอนหรือเปล่า....หรือว่า แฮร์รี่" เธออยากรู้จนทนไม่ไหว หันกลับมามองเขา แต่แล้วรอยยิ้มของบนหน้าก็หายไปทันที
"เดรโก มัลฟอย!!"
มัลฟอยทำหน้าเหมือนจะบอกว่า เออสิ! ฉันเอง เขาใส่สูทสีดำสนิท และก็โตเป็นผู้ใหญ่เช่นเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่ เขาสูงกว่าเธอมาก ดูแข็งแรงขึ้น แต่ดวงตาสีซีดคู่นั้นก็ยังเป็นเหมือนเดิม เขาพึมพำลอดไรฟันออกมา
"ไอ้แครบ ไอ้กอยล์ ฉันจะฆ่าแก!"
"หมายความว่ายังไง" เฮอร์ไมโอนี่ถาม
"ก็แค่ความฝัน" มัลฟอยยักไหล่ เขาเก็บความกลัวไว้ได้ ถึงแม้จะรู้ว่าน้ำยาฝันร้ายเริ่มออกฤทธิ์และจะยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้นอีก เฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ
"ความฝันเหรอ เดี๋ยวก่อน ฉันเคยอ่านเกี่ยวกับยาชนิดนี้นี่นา หมายความว่า
" เธอคิดออกแล้วมองหน้าเขา
มัลฟอยยิ้มเยาะแทนคำตอบ แต่แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ขว้างดอกไม้ในมือใส่หน้าเขาเต็มแรง
"ฉันไม่อยากฝันแบบนี้ ฉันจะตื่น ฉันจะตื่น"
มัลฟอยโกรธจนลมออกหู เขาตวาดใส่เฮอร์ไมโอนี่
"เธอจะไม่มีทางตื่นได้ จนกว่าจะเช้าโน่น!!"
เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้
"นี่คือความฝันของเธอเหรอเนี่ย" มัลฟอยไม่สนใจ เขามองไปรอบห้องแล้วสายตามาหยุดลงที่เฮอร์ไมโอนี่
"แต่งงาน..เฮอะ! คงกลัวว่าฉันจะเป็นเจ้าบ่าวสิ"
"ความกลัวของเธอก็คือไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ใช่ไหม!" เฮอร์ไมโอนี่แทรกขึ้นด้วยเสียงอันดัง
มีริ้วรอยสีแดงปรากฏขึ้น บนใบหน้าของมัลฟอย
"เธอกลัวว่าถ้าเธอโตแล้วพ่อจะไม่ช่วยเหลือให้เธอทำอะไรเลว ๆได้อีก" เฮอร์ไมโอนี่จี้ใจดำเขาอย่างจัง
สีหน้าของมัลฟอยเปลี่ยนจากแดงเป็นขาวด้วยความโกรธ
"เกรนเจอร์ รู้ฐานะตัวเองไว้ด้วยนะว่าตอนนี้เธอพูดกับฉันอย่างนั้นไม่ได้"
มัลฟอยกำหมัดย่างเข้ามาหาอย่างมุ่งร้าย
เฮอร์ไมโอนี่คว้าไม้กายสิทธิ์ที่ไม่เคยห่างตัวขึ้นมาขู่แต่แล้วมันก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากมือ มัลฟอยเห็นท่าทางตื่นตระหนกของเฮอร์ไมโอนี่แล้วก็หัวเราะเยาะ
"ความหวาดกลัวอย่างที่สองคือไม่มีไม้กายสิทธิ์ล่ะสิ คราวนี้เธอจะทำอะไรฉันได้"
มัลฟอยก้าวเข้ามาจนแทบประชิดตัว
เฮอร์ไมโอนี่ถอยหลังกรูด แต่ยังไม่ทันจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือออกมา ห้องสีขาวห้องนั้นก็สั่นสะเทือนอย่างแรง
"อะไรกันเนี่ย" มัลฟอยชะงัก ตัวเขาโยกไปตามแรงสั่น กระถางดอกไม้น่ารักหล่นแตกกระจาย เฮอร์ไมโอนี่คว้าหาที่จับ พยายามก้มตัวลงต่ำให้มากที่สุด
และแล้วห้องทั้งห้องก็ค่อย ๆ พร่าเลือนหายไป เพดานกลายเป็นท้องฟ้าที่มีดาวระยิบระยับ กำแพงห้องหายไปกลายเป็นป่ารกและมืดสนิท แผ่นดินหยุดไหวแล้ว มัลฟอยเข่าอ่อน ทรุดลงนั่งกับพื้นดิน เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวว่าเก้าอี้ที่เหนี่ยวไว้กลายเป็นต้นไม้ไหญ่ที่มีเถาวัลย์พันอยู่เต็มต้น เธอกล่าวขึ้นทั้งที่ยังหอบเพราะความตกใจ
"ที่นี่ที่ไหน"
มัลฟอยหอบเหมือนกันแต่เขาหน้าซีดเป็นสีขาว เขาพูดทั้งที่ไม่หันมา
"ป่าต้องห้าม!"
"ฉะฉันไม่ได้กลัวป่าต้องห้ามนี่นา ถ้าไม่ได้เข้าไป ก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วก็ดูเหมือนจะรู้คำตอบในทันที จะมีใครล่ะนอกจาก..
"เออ! ฉันเอง! ฉันกลัว" มัลฟอยพูด เขายิ่งหอบมากขึ้นเรื่อย ๆ
"จำได้ไหมตอนที่ฉันโดนลงโทษให้เข้ามาในนี้ กับเธอ วิสลีย์แล้วก็ พอตเตอร์!" เขาหันมาเน้นชื่อและเหตุการณ์ตอนปีหนึ่งให้เฮอร์ไมโอนี่ฟังชัด ๆ
"ฉันกลัวก็จริง แต่มันก็ไม่มีอันตราย ว่าแต่เธอล่ะกลัวอะไรในนี้"
"ฉะฉัน กลัว" เฮอร์ไมโอนี่ตะกุกตะกัก มัลฟอยกลั้นใจรอคำตอบ
ทันใดนั้นเอง เซนทอร์ขนาดใหญ่ก็วิ่งเข้ามาหาเขาทั้งสองอย่างบ้าคลั่ง มัลฟอยตาเหลือก เขาตะโกน
"วิ่ง! เร็ว!"
เฮอร์ไมโนี่ไม่ต้องรอให้สั่งซ้ำ เธอใช้พลังทั้งหมดที่มีวิ่งสุดแรงเกิด
"กลัวแม้กระทั้งเซนทอร์ ยายเพี้ยนเอ๊ย!" มัลฟอยตะโกนพลางวิ่งไล่หลังมา
"ฉันไม่ได้กลัว ถ้ามันไม่ดุร้าย! แต่นี่...." เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนขาทั้งสองวิ่งได้อย่างยากเย็นเพราะความเหนื่อย
ทั้งสองกระโจนเข้าไปในพุ่มไม้หนาเพื่อหลบ เซนทอร์ที่ตอนนี้ดูเหมือนเสือครึ่งม้ามากกว่าคนครึ่งม้า ทั้งสองเบียดกันเต็มที่แทบจะกลั้นหายใจ จนเซนทอร์ตัวนั้นเดินหายไป
ต่างฝ่ายต่างถอนหายใจออกมา ทันใดนั้นเฮอร์ไมโอนี่ดูเหมือนได้ยินเสียงแฮร์รี่ รอน และแฮกริดตะโกนเรียกเธอเหมือนในวันนั้น
"เฮอร์ไมโอนี่ เธออยู่ไหน เรามาช่วยแล้ว"
นั่นเสียงแฮร์รี่! เฮอร์ไมโอนี่ใจเต้นด้วยความดีใจ เธอลุกพรวดขึ้นจากพุ่มไม้นั่นทันที
"แฮร์รี่ฉันอยู่ตร...."
มัลฟอยตะครุบปากของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ฉับพลัน
"ชู่ว อย่าไปเรียกมันนะ!" เขาพูดเหมือนขู่
เฮอร์ไมโอนี่ร้องอึกอักในลำคอ เธอเริ่มดิ้นออกจากวงแขนของมัลฟอย
"อย่าดิ้นซี่ อย่าร้องด้วย!" เขาตวาดขู่
ช้าไป....เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากงับลงไปบนมืออีกฝ่ายเต็มแรง!
"โอ๊ย!!" มัลฟอยปล่อยเธอทันที เฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกแฮร์รีเสียงหลง คราวนี้มัลฟอยไม่ยอมแล้ว เขาคว้าเฮอร์ไมโอนี่ไว้ทั้งตัวแล้วปิดปากไว้แน่นกว่าเก่า
"ฉันบอกว่า..." เขาคำรามลอดไรฟันออกมา ปวดแผลที่เฮอร์ไมโอนี่กัดตุ้บ ๆ เลือดไหลซึมออกมา
"อย่าร้อง!!.."
+ -บทที่ 6- +
เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นออกจากวงแขนของมัลฟอยไม่ได้เพราะคราวนี้เขาบีบกรามเธอไว้แน่นจนปวดระบมไปทั้งหน้า เธอน้ำตาไหลเพราะความเจ็บและต้องการร้องเรียกแฮร์รี่ และทุก ๆ คนให้ช่วย
มัลฟอยรู้สึกว่าน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่ไหลลงมาอาบมือของเขาด้วย แต่เขาก็ไม่ลดแรงบีบ พูดว่า
"ดูซะ นั่นไงเจ้าพอตเตอร์ของเธอ!"
นั่นใช่แฮร์รี่ไม่ผิดแน่ รอน และแฮเกร็ด แต่ว่าทั้งสามคนเดินมาพร้อม กับเซนทอร์ตัวเมื่อครู่ ท่าทางสนิทสนม แฮร์รี่พูดกับเซนทอร์ตัวนั้น
"ฉันจะหลอกให้ออกมาเอง เดี๋ยวนายจะได้กินเธอแน่"
รอนและแฮเกร็ดหัวเราะอย่างสะใจ แล้วก็เรียกเฮอร์ไมโอนี่ต่อไป
เฮอร์ไมโอนี่ตะลึงแล้วร้องไห้หนักขึ้นสะอึกสะอื้นจนตัวโยน มัลฟอยยิ่งรัดแน่นขึ้น กัดฟันพูด
"ความหวาดกลัวอย่างที่สาม.."
"คือกลัวเพื่อนทรยศ" เขาพูดจบแล้วกดตัวให้เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงในพุ่มไม้ตามเดิม รอจนเสียงฝีเท้าเงียบไป มัลฟอยรู้สึกตัวว่ารัดเธอแน่นเกินไปแล้วจึงค่อยปล่อยออก เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าร้องไห้ทันที
"จะร้องไปทำไมกันนะ!" เขาว่า
แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจ เธอร้องไห้เหมือนหัวใจจะแตกสลายลง มัลฟอยจนปัญญาจะห้าม ทันใดนั้น
"เจอแล้ว อยู่นี่เอง" แฮร์รี่แหวกพุ่มไม้ที่ทั้งสองซ่อนตัวอยู่เขายิ้มกว้างเหมือนสะใจ
มัลฟอยรู้สึกหัวใจเหมือนจะหยุดเต้น เพราะข้างหลังของแฮร์รี่คือเจ้าเซนทอร์ตัวนั้น!
"วิ่งเร็ว!" เขากระชากแขนเฮอร์ไมโอนี่ที่ดูเหมือนตัวจะแข็งค้างไปหมดแล้ว แฮร์รี่ รอนและแฮเกร็ดตะโกนไล่หลังมาพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ
"อย่าหนี เธอหนีไม่พ้นหรอก ฮ่า ฮ่า"
"อย่าไปฟังมัน!" มัลฟอยตะโกนบอกเฮอร์ไมโอนี่ ตอนนี้เขากำลังลากเฮอร์ไมโอนี่ที่ดูเหมือนจะไม่มีแรงวิ่งเหลืออีกแล้ว มัลฟอยวิ่งตัดพุ่มไม้ราบเป็นทาง เขากำลังจะหมดแรงอยู่เดียวนี้แล้ว
แต่...
"อ๊ะ! น้ำ" เขาหยุดไม่ทันทั้งสองจึงตกตูมลงไปในหนองน้ำที่ถูกบังไว้ด้วยพุ่มไม้หนา
เฮอร์ไมโอนี่ตะเกียกตะกายว่ายสุดแรง เธอวิ่งมาข้างหลังจึงตกลงไปในที่ไม่ลึกนัก ไม่นานก็ปีนขึ้นฝั่งมาได้ เธอหอบเหมือนจะขาดใจและกินน้ำเข้าไปมาก แต่..มัลฟอยหายไปแล้ว
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเขาร้องตะโกน
"ช่วยฉันด้วย!"
+ -บทที่ 7- +
มัลฟอยโผล่พรวดขึ้นจากน้ำ เขาพยายามตะเกียกตะกายตัวขึ้นเพื่อหายใจ
"ช่วยฉันด้วย เกรนเจอร์!" เขาร้องซ้ำ
"เธอว่ายน้ำเป็นไม่ใช่เหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ตกใจ เธอเองก็ไม่มีแรงเหลือจะว่ายไปช่วยเขาอีกแล้ว
"ตัวอะไรก็ไม่รู้ดึงขาฉัน!" เขาตะโกนก่อนจะสำลักน้ำอย่างแรง เขาพยายามดิ้นรนสุดกำลัง
เฮอร์ไมโอนี่เหมือนได้ยินเสียงม้าร้องอย่างดีใจดังมาจากในหนองน้ำนั้น
เสียงม้า...หนองน้ำ...หรือว่า ตัวเคลปี!!
เสียงม้าร้องดังขึ้นอีก ใช่แน่ ๆ ในหนังสือสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่เขียนบรรยายเอาไว้น่ากลัวมาก (หน้า7)
มัลฟอยอาจจะกลัวตัวเคลปี!!
"น้ำจะท่วมปอดฉันอยู่แล้ว!" มัลฟอยกำลังจะจมน้ำหายไป เสียงม้าร้องดังขึ้นทุกที ๆ
"ฉันไม่มีไม้กายสิทธิ์นี่นา!" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนอย่างร้อนรน ในสมองคิดอย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็นึกได้ มัลฟอยกลัว แต่ฉันไม่!
"ฉันไม่กลัวตัวเคลปี ฉันไม่กลัว!" เธอตะโกนดังลั่น
เสียงม้าเงียบหายไป พร้อม ๆ กับมัลฟอยที่หายไปกับสายน้ำแล้ว เฮอร์ไมโอนี่กระโจนลงน้ำทันที
"มัลฟอย เธออยู่ไหน!"
แล้วเธอก็เห็นมัลฟอยลอยขึ้นสู่ผิวน้ำช้า ๆ โชคดีที่น้ำไม่ลึกมากแต่อาจจะเป็นเพราะโดนดึงขาไว้มัลฟอยจึงจมน้ำ เฮอร์ไมโอนี่รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายคว้าชายเสื้อคลุมของมัลฟอยไว้ แล้วลากเขาขึ้นมาเกยบนฝั่ง
มัลฟอยนอนแน่นิ่ง เฮอร์ไมโอนี่เขย่าตัวเขาอย่างร้อนรน
"มัลฟอย เธออย่าใจเสาะไปหน่อยเลย ตื่นสิ! ตื่น!"
ไม่มีเสียงตอบจากเขา เฮอร์ไมโอนี่ทาบศรีษะลงไปที่อกเขาอย่างร้อนรน เธอได้ยินเสียงหัวใจของมัลฟอยเต้นแผ่วลงเรื่อย ๆ
"มัลฟอย!" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนลั่นป่า
"มัลฟอย เธออย่าแกล้งฉันสิ!" เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งเขย่าตัวเขาแรงขึ้น แต่ร่างของมัลฟอยก็ยังนิ่งอยู่
ไม่ได้...จะปล่อยไว้เฉย ๆ ไม่ได้ เธอนึก...
คิดสิ คิด คิด! ตอนเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษา ต้องทำยังไง ใช่! ต้องผายปอด แต่จะดีเหรอ? ไม่ได้ ไม่มีเวลาแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่ลงมือกระชากเสื้อคลุมของมัลฟอยจนขาด แล้วดึงเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาออก กระดุมเสื้อหลุดกระจาย
ยกคอขึ้น..แล้วอ้าปากออก นวดหัวใจให้เป็นจังหวะเฮอร์ไมโอนี่ทำตามวิธีที่เรียนมา แต่พอถึงขั้นที่ต้องประกบปากก็เบ้หน้า มองเรียวปากซีดเซียวของเขาแล้วก็กลั้นใจประกบปากลงไป
แขนของมัลฟอยเริ่มขยับขึ้นมาโอบเฮอร์ไมโอนี่ไว้ เขารั้งร่างเด็กหญิงเข้ามาแนบอกแล้ว....เป็นฝ่ายขยับริมฝีปาก!
เฮอร์ไมโอนี่ตกใจผงะออก แต่ก็ไม่พ้นวงแขนอีกฝ่าย
"นาย..!" เฮอร์ไมโอนี่ขยับตัวออกเต็มแรง จะโวยวาย แต่มัลฟอยก็ยกศรีษะตามขึ้นมาจูบเธออีก
เฮอร์ไมโอนี่ไม่ปล่อยเขาตามใจอีกแล้ว...
"โอ๊ย!" มัลฟอยร้องแล้วผลักเธอออกไปเสียเอง เฮอร์ไมโอนี่ถอยออกไปห่าง เธอหอบจนเจ็บหน้าอก หน้าเป็นสีแดงจัด
"กัดลิ้นฉันทำไม" เขาเช็ดปาก ขมวดคิ้วมองเฮอร์ไมโอนี่
"ฉันไม่กัดนายให้ปากแหว่งก็ดีเท่าไหร่แล้ว!" เธอตะโกนทั้งที่เสียงยังสั่นอยู่
"ก็เธอจูบฉันก่อนนี่" เขาเถียง แล้วจับเสื้อเชิ้ตของตัวเอง
กระดุมหายไปไหน? มัลฟอยอ้าปากค้างแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องเฮอร์ไมโอนี่
"ก็นายกำลังจะตายนี่นา" เฮอร์ไมโอนี่รีบแก้ หน้าของเธอแดงขึ้นอีก
"ฉันเหรอตาย..ฉันแค่หมดแรงจนขยับตัวไม่ได้ต่างหาก แล้วเธอก็มา..จูบ...ฉันเอง!" เขาโวยมั่งหน้าเริ่มเป็นสีชมพูบ้างเมื่อเห็นสารรูปตัวเอง เพิ่งเคยมีคนกล้าฉีกเสื้อผ้าเขา
"หัวใจนายเต้นเบามาก แล้วก็กำลังจะหยุดด้วยนะ" เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมแพ้ เธอรู้สึกขายหน้ามาก
"หัวใจใครอยู่ข้างขวากันมั่ง!" มัลฟอยพูดเสียงดัง เขาจำได้ว่ารู้สึกเหมือนมีใครเอาหัวมาแนบอกเขา
เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างแล้วนึกขึ้นได้ว่าเธอรีบร้อนเกินไปจนลืม
มัลฟอยยังคงจ้องเธอเขม็ง..! มีบางสิ่งเกิดขึ้นในแววตาสีซีดของเขา
+ -บทที่ 8- +
เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าสบตามัลฟอย เธออายเกินกว่าจะทำได้ มัลฟอยเม้มปากแล้วหยิบเสื้อคลุมเปียกน้ำของเขามาบิดก่อนจะคลี่สวม พอเห็นรอยฉีกบนเสื้อแล้วก็อดเหลือบ ๆ มองเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้
"ยังไงก็ขอบใจ.." มัลฟอยว่า เขารู้สึกว่าตัวเองเสียงเบาลงมาก
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนแขนขากะปลกกะเปลี้ยไปหมด เธอไม่มีแรงแม้แต่จะนั่งอีกต่อไป โลกหมุนวนเ เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ร่างเล็ก ๆ นั้นหงายหลังทันที
"เอ๊ย! เกรนเจอร์" มัลฟอยคว้าไหล่ข้างหนึ่งของเธอไว้ได้ทัน
"ฉันไม่ไหวแล้ว" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงสะอื้น เธอนึกภาพไม้กายสิทธิ์หายไป เซนทอร์ที่บ้าคลั่ง และ แฮร์รี่ รอน แม้กระทั่งแฮกริดก็ยังหลอกลวงเธอ คิดถึงตรงนี้เธอก็ก้มหน้าร้องไห้อีก
"จะบ้าเหรอ มัน...มันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย" มัลฟอยพยายามพูดให้เหมือนปลอบ
เฮอร์ไมโอนี่หันมามองหน้าเขา และ...ไม่ทันตั้งตัวมัลฟอยก็โน้มหน้าเข้ามาจูบเธออย่างแผ่วเบา
"มัลฟอย!" เฮอร์ไมโอนี่ทั้งตกใจและตกตะลึงพอกัน เด็กหญิงเอาหลังมือแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง
มัลฟอยกัดริมฝีปาก เขาดึงตัวเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาหาแล้วคว้าไหล่อีกข้างของเธอไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะเบี่ยงตัวออก
"มัลฟอย เธอทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ!"
"ทำไม!" เขากัดฟันพูด
"ต้องเป็นเจ้าพอตเตอร์คนเดียวงั้นสิ!"
มัลฟอยพูดเหมือนประชด เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างเมื่อได้ยินที่เขาพูด
"ไม่ใช่! ไม่ว่าใครก็ทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้" เธอว่า
"นี่ไม่ใช่ตัวเธอสักหน่อย" มัลฟอยเถียง
"ตัวเธอจริง ๆ ยังนอนอยู่ที่หอนอน รอให้เจ้าพอตเตอร์มาจูบปลุกโน่น!" มัลฟอยเน้นชื่อของแฮร์รี่ชัดเจน แล้วเขาก็ดึงเฮอร์ไมโอนี่เขามาใกล้อีกครั้ง
+ -บทที่ 9- +
"เฮอร์ไมโอนี่ เธอเป็นอะไร ไปตามอาจารย์มาเร็ว ๆ เข้า"
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากท้องฟ้าอันมืดมิดของป่าต้องห้ามมัลฟอยชะงัก เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้ยินเสียงนั้นเช่นกัน
"เธอได้ยินเสียงอะไรไหม" เฮอร์ไมโอนี่ถาม
มัลฟอยพยักหน้าและแหงนหน้าขึ้นดูท้องฟ้า
เมื่อมัลฟอยสนใจอย่างอื่นมากกว่าเฮอร์ไมโอนี่จึงเบี่ยงตัวออกมาจากเขาได้ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นอีก
"มัลฟอย ทำใจดี ๆ ไว้ เราได้ยาแก้มาแล้ว"
คราวนี้ทั้งสองคนได้ยินชัดเจน เฮอร์ไมโอนี่จำเสียงได้
"ฉันได้ยินเสียงเหมือน...เหมือนเสียงแครบกับกอยล์นะ!" เธอว่า
และแล้วป่าทั้งป่าก็สั่นสะเทือนเหมือนถูกเขย่า มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่พยายามยึดพุ่มไม้เตี้ย ๆ ไว้ เมื่อแผ่นดินไหวเบาลง เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นว่าตัวของเธอกำลังจะค่อย ๆ หายไป
"ฉันกำลังจะตื่น!" เธอพูดอย่างดีใจ มัลฟอยเองก็เป็นเช่นเดียวกับเธอ
"ฉันด้วย"
ร่างของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มกระพริบหายไป เธอจึงพูดกับมัลฟอยอีกครั้ง
"ลาก่อน ฉัน..หมายถึงเราคงไม่มีโอกาสได้มาเจอกันอย่างนี้อีกแล้ว"
มัลฟอยกัดริมฝีปาก เขาไม่ยอมสบตาเฮอร์ไมโอนี่
"ใช่ จะไม่มีอีก เมื่อฉันตื่น ฉันเกลียดเจ้าพอตเตอร์ยังไงก็ยังเกลียดอย่างนั้น...ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม"
มัลฟอยเบือนสายตาออกจากร่างสีจาง ๆ ของเฮอร์ไมโอนี่ที่ยังจ้องเขาอยู่ แล้วพูด
"และฉันก็เกลียดเธอ..เกลียด..เหมือนเดิม!"
มัลฟอยหันหลังให้เธอโดยสิ้นเชิง เขากัดฟันพูด
"ไปให้พ้น.."
"พวกเลือดสีโคลน!"
ทุกประโยคราวกับว่าเขาพูดย้ำให้ตัวเองฟัง ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิท......
มัลฟอยสำลักตื่นที่หอนอนของเขา แครบกับกอยล์กำลังช่วยกันกรอกยาแก้ลงไปในปากเขา
"ตื่นแล้ว! ตื่นแล้ว! ไชโย!" แครบกับกอยล์แทบจะกระโดดกอดกัน
"นายนอนกระสับกระส่ายทั้งคืน ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ฉันเลยส่งนกฮูกไปหาพ่อนาย นี่มันเพิ่งกลับมาเมื่อเช้านี้เอง" แครบรายงาน
"ได้ข่าวว่ามาดามพอมฟรีย์กำลังปรุงยาแก้ให้ยายเกรนเจอร์อยู่ มีคนเห็นยายนั่นนอนทุรนทุราย เขาก็เลยไปตามอาจารย์มาดู แต่ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นฝีมือคนนอก โชคดีที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือเรา" กอยล์รายงานบ้าง
มัลฟอยไม่พูดอะไร ตาของเขายังคงเหม่อลอยมองเพดาน แครบกับกอยล์มองหน้ากันแล้วถามมัลฟอย พร้อมกัน
"นายฝันว่าอะไรบ้างล่ะ"
มัลฟอยกุมขมับ
"ฉันจำไม่ได้" เขาโกหก
"ฉันจำได้แต่ว่า ในฝันฉันสาบานกับตัวเองไว้ว่า ถ้าฉันตื่น..."
แล้วเขาก็หันมามองตัวการทั้งสองคนด้วยสายตาที่ทำให้แครบกับกอยล์ผมแทบตั้ง!
"ฉันจะฆ่าพวกแกทั้งสองคน!"
...+*+*+...
มีเสียงโหยหวนดังมาจากหอนอนของบ้าสลิธีริน รอนกับแฮร์รี่ที่กำลังเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ที่ห้องพยาบาลได้ยินไม่ชัดนัก
"ยังกับใครถูกเชือด" รอนว่า เฮอร์ไมโอนี่กำลังยกถ้วยยาขึ้นดื่ม
"เขาว่าเธอโดนน้ำยาฝันร้ายเข้าไป นอนกระสับกระส่ายทั้งคืนมีคนเห็นเข้าก็เลยไปตามอาจารย์" แฮร์รี่พูด
"เธอฝันว่าอะไรบ้างล่ะ" รอนถามเรียบ ๆ แต่น้ำยาในถ้วยของเฮอร์ไมโอนี่กระฉอกออกมาโดนเขา
"โอ๊ย! ร้อนนะเนี่ย"
"ฉัน....จำไม่ได้" เฮอร์ไมโอนี่พยายามไม่แสดงอาการ แต่ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู เธอดื่มยาต่อ
"จำไม่ได้จริง ๆ"
"ช่างมันเถอะ วันนี้เธอพักผ่อนนะ เดี๋ยวฉันกับรอนจะลาอาจารย์ให้" แฮร์รี่ว่าแล้วก็พารอนออกไปด้วย ปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่ทิ้งตัวลงนอน
...+*+*+...
เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ทุกคนพากันลืมเหตุการณ์นั้นไปหมด เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้พูดถึงมัลฟอยบ่อยนัก มัลฟอยเองก็ไม่พยายามจะหาเรื่องอะไรพวกของแฮร์รี่อีก(อย่งน้อยก็พักหนึ่งล่ะ)
แต่ที่ไม่มีใครรู้ก็คือบางครั้ง แครบกับกอยล์สังเกตเห็นว่ามัลฟอยเผลอลูบริมฝีปากของตัวเองในยามที่ไม่มีใครเห็นทุกครั้งไป
แล้วเรื่องราวทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม อ้าว..? คุณไม่เชื่อรึ ก็กลับไปอ่านแฮร์รี่พอตเตอร์ใหม่เถอะ มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่ยังคงเป็นเหมือนเดิมอย่างที่พวกเขาเคยพูดไว้จริง ๆ
ความคิดเห็น