ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destiny Love (Hermione & Malfoy) by Peterpan

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : ฝันร้ายของเฮอร์ไมโอนี่ +*

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.62K
      169
      27 ก.ย. 49


     



    + -บทที่ 1- +

    เดรโก มัลฟอย เพิ่งเคยเจอเรื่องน่าอับอาย ขนาดนี้

    "นายถูกยายหนอนหนังสือนั่นตบหน้า!" แครบเบิกตาพูดอย่างเหลือเชื่อ (ความจริงเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์สักเท่าไหร่แต่คราวนี้นับเป็นเรื่องใหญ่)

    "ยายนั่นด่านายด้วยนะ" กอยล์เสริมขึ้นบ้าง จ้องรอยนิ้วที่ครบทั้งห้านิ้วบนใบหน้าของมัลฟอย แต่มัลฟอยเพียงแต่หยิบถุงน้ำแข็งที่เสกขึ้นมาประคบใบหน้าโดยปล่อยให้ทั้งสองคนขุดคุ้ยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่มาทำให้เขาเจ็บใจ

    "แล้วยายนั่นยังด่านายว่า.." แครบยังพูดไม่ทันจบถุงน้ำแข็งในมือของมัลฟอยก็ปลิวกระแทกเข้ากับจมูกของเขาอย่างจัง

    "พอซะทีพวกแก!" มัลฟอยตวาด ไม่สนใจว่าแครบกำลังร้องโอดโอยและกอยล์กำลังตะลึงอ้าปากค้างอยู่

    "แล้วทำไมตอนนั้นนายไม่ให้พวกเราจัดการยายนั่นซะล่ะ พอตเตอร์กับวิสลีย์ด้วยก็ยังได้นะ" กอยล์ดูเหมือนจะเรียกความกล้าหาญคืนมาได้บ้าง

    แทนคำตอบมัลฟอยจ้องหน้ากอยล์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เขากัดฟันพูดอย่างเคียดแค้น

    "แล้วก็ถูกตัดคะแนนคนละ 40 คะแนนข้อหาทะเลาะวิวาทใช่ไหม"

    กอยล์อึ้งส่วนแครบตอนนี้กำลังใช้ชายเสื้อเช็ดจมูกที่เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างระมัดระวัง มัลฟอยพูดต่อ

    "มันต้องเจ็บแสบยิ่งกว่าฉัน"

    เขาเอามือจับที่รอยฝ่ามือบนหน้า ตาแทบจะลุกเป็นไฟ!

    ...+*+*+...

    มัลฟอยจัดแจงเขียนจดหมายหาพ่อของเขาหนึ่งฉบับ หลังจากที่เขาส่งนกฮูกไปแล้ว มันก็กลับมาในวันรุ่งขึ้นพร้อมห่อเล็ก ๆ ซึ่งแครบกับกอยล์อยากรู้เหลือเกินว่าข้างในเป็นอะไร เมื่อมัลฟอยแกะห่อออกก็เห็นขวดน้ำยาสีดำ เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วแสยะยิ้ม

    "น้ำยาฝันร้าย" มัลฟอยบอก

    "ถ้าใครกินเข้าไปแล้วจะฝันร้ายเห็นสิ่งที่หวาดกลัวจนจะทำให้เหน็ดเหนื่อยราวกับเรื่องจริงติดต่อกันหลายวัน"
    แครบกับกอยล์แสดงสีหน้างงงวยว่ามันจะใช้แก้แค้นได้ยังไง มัลฟอยตวาด

    "โง่จริง! ฉันจะทำให้ยายนั่นฝันร้ายแล้วก็เหนื่อยจนไม่มีเรี่ยวแรงจะช่วยเจ้าอิปโปกริฟฟ์นั่น สุดท้าย..." เขาหยุดแล้วยกขวดยาขึ้น

    ตาของแครบและกอยล์เป็นประกายอย่างสนุก แต่ก็ไม่เท่าดวงตาของมัลฟอยที่กำลังจ้องเข้าไปในขวดยาสีดำนั้น

    แต่แล้วแครบก็สะดุ้งเมื่อขวดยาถูกยัดเข้ามาในมือเขา กอยล์ก็ตกใจเช่นเดียวกัน

    "หน้าที่แกสองคน คือทำให้ยายนั่นกินยานี่เข้าไป"

    แครบขยับตัวจะแย้ง แต่มัลฟอยหันหลังให้เขาเสียแล้ว

    "หรือไม่ก็พวกแกเองที่จะฝันว่าโดนไล่ออกจากโรงเรียนแทนยายนั่นสักเจ็ดแปดคืน!!"

    + -บทที่ 2- +


    แครบกับกอยล์ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ข้างโต๊ะอาหารของบ้านสลิธีรินพวกเขาเพิ่งเคยได้รับงานที่ยากที่สุดในชิวิต (โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่ใช้สมอง) ยังไม่ได้เวลาเรียกกินข้าวแต่พวกเขาก็แอบเข้ามารอกันก่อนเพื่อดำเนินตามแผนการณ์ มือของแครบที่ถือขวดยาสั่นระริกเขากลัวว่าจะถูกจับได้พอ ๆ กับกอยล์ที่เหงื่อแตกพลั่ก

    แครบเปิดขวดยาออกอย่าระมัดระวังแล้วผสมน้ำยาลงไปในแก้วน้ำหวานสีแดงสดที่เตรียมไว้

    เมื่อได้เวลารับประทานอาหารเย็น โต๊ะทุกตัวก็เริ่มมีอาหารปราฎขึ้น แครบถลาเข้าไปที่โต๊ะของบ้านกริฟฟินดอร์ เขามีเวลาอึดใจเดียวที่จะรีบเอาแก้วน้ำหวานผสมยาไปวางที่เก้าอี้ของเฮอร์ไมโอนี่ พอไปถึงโต๊ะ - -

    "พวกเธอทำอะไรกันอยู่น่ะ"

    แครบสะดุ้งโหยงส่วนกอยล์เท้าแทบจะลอยจากพื้น ศาสตราจารย์มักกอนนากัลยืนกอดอกอยู่ แครบรีบซ่อนแก้วน้ำหวานนั้นไว้ข้างหลังแล้วหันไปยิ้ม

    "พวกผมหิวเลยมาก่อนครับอาจารย์" แครบโกหก (เขาถนัดอยู่แล้ว)

    "ครับ ครับ" กอยล์เสริมแล้วหยิกแครบให้เขารีบวางแก้วน้ำนั้นลง

    "โอ๊ย!!" แครบไม่ทันตั้งตัว แก้วน้ำที่ถือมาจึงหกลงไปในชามซุปของเฮอร์ไมโอนี่แทน กอยล์รีบคว้าแก้วที่น้ำหกยังไม่หมดขึ้นมาถือ

    "น้ำหวานหก ขอโทษนะครับ" กอยล์รีบเอาแก้วมากุมไว้ พลางนึกในใจ - - ก็ยังถือว่างานสำเร็จ ศาสตราจารย์มักกอนนากัลขมวดคิ้ว แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ นักเรียนทั้งหมดก็เข้ามารวมตัวกันในห้องอาหาร ทั้งสองคนจึงเผ่นแน่บไปได้ทัน

    "ฉันนึกว่าจะโดนจับได้ซะแล้ว" แครบปาดเหงื่อ กอยล์หอบแฮ่ก ๆ วางแก้วน้ำหวานที่ยังเหลืออยู่ลงบนโต๊ะอาหารของสลิธีริน ทั้งสองหันไปมองศาสตราจารย์มักกอนนากัลอย่างหวาด ๆ

    "สำเร็จมั๊ยพวกแก"

    มัลฟอยยืนอยู่ข้างหลัง แครบพยักหน้า มัลฟอยแสยะยิ้มอย่างพอใจแต่...

    "ฉันคอแห้งจะตายอยู่แล้ว" มัลฟอยหยิบแก้วน้ำหวานที่เหลือนิดหน่อยนั้นขึ้นมาดื่ม แครบกับกอยล์อ้าปากค้างราวกับเห็นไฟกำลังไหม้บ้านต่อหน้า ดวงตาเบิกโพลง

    "ว่าแต่พวกแกใช้วิธีไหนล่ะ"

    แครบกับกอยล์มองหน้ากัน พวกเขาพร้อมใจที่จะโกหกกันอีกครั้ง

    + -บทที่ 3- +


    แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่มาถึงห้องอาหารรวม แล้วนั่งที่โต๊ะอาหารตามตำแหน่งที่แครบและกอยล์กะไว้อย่างตรงเผง เฮอร์ไมโอนี่หอบหนังสือมาด้วย เธอจัดการวางมันลงไว้ข้าง ๆ


    "ฉันพยายามหาทางช่วยบัคบีคแล้วนะ แต่ยังไม่เจอทางเลย" เฮอร์ไมโอนี่บ่นออกมาดัง ๆ

    "เราจะช่วยเธออยู่แล้ว เธอไม่ต้องไปหาหนังสือคนเดียวก็ได้นี่นา" รอนบอก เขามองชามซุปตรงหน้าแล้วเบ้ปาก

    "ซุปเหรอ เขากำลังจับเราลดความอ้วนหรือไง"

    "แต่ฉันว่ารสชาติไม่เลว" แฮร์รี่ว่า เขาตักซุปกินไปบ้างแล้ว เฮอร์ไมโอนี่หยิบช้อนขึ้นมาบ้าง

    มัลฟอย แครบและกอยล์นั่งลุ้นอยู่ที่โต๊ะอาหารของบ้านสลิธีริน เฮอร์ไมโอนี่ตักซุปขึ้นชิม แล้วบ่น

    "ฉันว่ามันหวานไปหน่อยนะ แล้วก็เฝื่อน ๆ ชอบกล"

    "นั่นแน่ะ เธอพูดอย่างนี้จะลดความอ้วนล่ะสิ ไม่กินไม่ได้นะ" รอนแหย่ เขาเป็นคนบ่นคนแรกแต่ตอนนี้กำลังตักซุปเข้าปากคำแล้วคำเล่า

    "ใครบอก!" เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง แล้วตักซุปกินอย่างรวดเร็วจนหมดชาม

    มัลฟอยยิ้มอย่างสะใจ แครบและกอยล์ก็พลอยยิ้มไปด้วย แต่ก็อดเหลือบ ๆ มองอาการของมัลฟอยไปด้วยไม่ได้เพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองก็กินน้ำยาฝันร้ายเข้าไปอีกคน - - ได้ผล เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหาว

    "ง่วงเหรอเฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่เคยง่วงตอนหัวค่ำอย่างนี้เลยนี่นา" แฮร์รี่ถามอย่างงง ๆ

    "กินมากไปล่ะสิ" รอนว่า

    เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดอีกครั้ง รวบหนังสือไว้แนบอกแล้วลุกออกไป

    "เชิญพวกนายกินกันต่อไปเถอะ ฉันจะไปอ่านหนังสือนี่อีกหน่อยเผื่อจะหาทางช่วยบัคบีคได้บ้าง"

    มัลฟอยเห็นอาการของเฮอร์ไมโอนี่ แล้วมองเธอเดินโซเซด้วยความง่วงไปที่หอจนลับตาแล้วก็หันกลับมาที่โต๊ะของตัวเองบ้าง เขาคำรามเบา ๆ

    "ราตรีสวัสดิ์นะ ยายหัวฟู!"
     
    แครบและกอยล์กลืนน้ำลาย และแล้ว มัลฟอยก็เริ่มหาวบ้าง

    + -บทที่ 4- +

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากเชื่อตัวเองเลยว่าจะง่วงนอนได้ในเวลาหัวค่ำเช่นนี้ เธอไม่เคยนอนหลับก่อนที่จะได้อ่านตำราหนา ๆ สักเล่ม แต่คราวนี้เธอต้องรีบเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็วก่อนที่จะฟุบหลับก่อนถึงเตียง


    "เราอาจจะอ่านหนังสือสำหรับช่วยบัคบีคมากเกินไป" เฮอร์ไมโอนี่คิด หนังตาหนักอึ้งค่อยปิดลงช้า ๆ

    ทางฝ่ายหอนอนของบ้านสลิธีริน มัลฟอยกำลังอ่านคู่มือที่แนบมากับน้ำยาฝันร้ายอย่างสะใจ โดยมีแครบและกอยล์กำลังนั่งฟังอยู่ที่เตียงของเขาด้วย

    "เดี๋ยวยายนั่นจะเป็นยังไงบ้างฉันจะอ่านให้พวกแกฟัง" เขากวาดสายตาไปบนแผ่นกระดาษ

    "ผู้ที่ดื่มน้ำยาฝันร้ายเข้าไปแค่คืนเดียวก็จะเห็นสิ่งที่ตัวเองกลัวทีละอย่าง ๆ จนถึงสิ่งที่กลัวมากที่สุด ถึงตอนนั้นอาจจะมีผลกับหัวใจและร่างกาย จึงเป็นยาต้องห้าม ผู้ที่ถูกจับได้ว่าใช้ยานี้เพื่อทำร้ายคนจะมีความผิด…"

    "ไม่มีวิธีแก้เลยเหรอ" แครบกลั้นใจถาม มัลฟอยขมวดคิ้ว

    "แกจะถามไปทำไม"

    "ก็ ก็ เผื่อว่าเกิดมีใครกินน้ำยาขวดเดียวกับยายนั่นเข้าไป" กอยล์พยายามเก็บอาการ มัลฟอยถอนหายใจหนัก ๆ เป็นเชิงรำคาญแล้วอ่านต่อไป

    "น้ำยาหนึ่งขวดควรจะใช้กับคนหนึ่งคนเท่านั้น มิฉะนั้นอาจจะส่งผลถึงคนที่กินขวดเดียวกัน…" มัลฟอยขยี้ตาไล่ความง่วงอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะอ่านประโยคต่อไป

    "อาจจะถูกพ่วงฝันร้ายนั้นเข้าด้วยกัน ความหวาดกลัวของคนสองคนจะรุนแรงกว่าคน ๆ เดียว"

    มัลฟอยอ้าปากหาวอีก - - แครบกับกอยล์หน้าซีดลงเรื่อย ๆ

    "ทำไมฉันง่วงนอนได้ขนาดนี้นะ" เขาบ่นดัง ๆ อย่างรำคาญ เขาก็เป็นอีกคนที่ไม่นอนแต่หัวค่ำ

    "แล้ววิธีแก้ล่ะ" กอยล์ถามบ้าง

    "ยาแก้ก็อยู่กับพ่อฉันสิ!" มัลฟอยพูดเสียงดัง เขาหาวอีกครั้ง แล้วอ่านคู่มือนั้นโดยไม่ออกเสียงอีก แต่ยิ่งอ่านเขาก็ยิ่งง่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาวางกระดาษทันทีที่อ่านจบแล้วขยี้ตาซ้ำ

    แครบกับกอยล์เห็นอาการของมัลฟอยก็ลุกลี้ลุกลนหาวิธีไม่ให้มัลฟอยหลับในคืนนี้ พวกเขาพยายามชวนมัลฟอยเล่นหมากรุกพ่อมด เล่นไพ่ แต่มัลฟอยก็เอาชนะได้ทุกตา ความเบื่อหน่ายทำให้มัลฟอยยิ่งง่วงหนักขึ้น ถึงแม้ว่าแครบกับกอยล์ชวนเขาเล่นซ้ำแล้วซ้ำอีก

    "พวกแกเป็นอะไรนะคืนนี้…" มัลฟอยพูด เขารู้สึกว่าหัวเริ่มหมุนด้วยความง่วง

    "ทำไมไม่ไปนอน..ซะ พรุ่งนี้ฉันมี..เรียน…" เขาพูดได้เท่านี้ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับวูบลง 

    + -บทที่ 5- +
     
    เฮอร์ไมโอนี่ฝันเห็นตัวเองนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ในห้องเล็ก ๆ ทาสีขาวสะอาด แสงแดดอบอุ่นยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ดอกไม้สีสดใส ถูกตกแต่งอย่างเป็นระเบียบ เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงนกร้องเพลงอย่างร่าเริง เธอก้มมองตัวเอง แล้วก็ยิ้ม ชุดเจ้าสาว.. สวยเหลือเกิน เธอถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่ไว้ด้วย เรากำลังจะแต่งงานสินะ เธอคิดแล้วก็ลุกขึ้นไปส่องกระจกบานใหญ่ที่พิงอยู่ที่กำแพง เธอหมุนตัวพลางยิ้มอย่างมีความสุข เธอโตเป็นสาวสวยทีเดียว สูงเพรียวและเต็มตึงไปทั้งตัว เสียงเคาะประตูดังขึ้น - - แน่นอน นั่นต้องเป็นเจ้าบ่าว เธอรีบหันหลังให้อย่างตื่นเต้นแกล้งเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ตั้งใจว่าจะหันมามองเขาเอง

    "จะเป็นใครกันนะ" เฮอร์ไมโอนี่ใจเต้นตึกตัก เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดแล้วเขาก็กำลังเดินเข้ามาหาช้า ๆ

    "อาจจะเป็นรอนหรือเปล่า....หรือว่า แฮร์รี่" เธออยากรู้จนทนไม่ไหว หันกลับมามองเขา แต่แล้วรอยยิ้มของบนหน้าก็หายไปทันที

    "เดรโก มัลฟอย!!"

    มัลฟอยทำหน้าเหมือนจะบอกว่า เออสิ! ฉันเอง เขาใส่สูทสีดำสนิท และก็โตเป็นผู้ใหญ่เช่นเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่ เขาสูงกว่าเธอมาก ดูแข็งแรงขึ้น แต่ดวงตาสีซีดคู่นั้นก็ยังเป็นเหมือนเดิม เขาพึมพำลอดไรฟันออกมา

    "ไอ้แครบ ไอ้กอยล์ ฉันจะฆ่าแก!"

    "หมายความว่ายังไง" เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    "ก็แค่ความฝัน" มัลฟอยยักไหล่ เขาเก็บความกลัวไว้ได้ ถึงแม้จะรู้ว่าน้ำยาฝันร้ายเริ่มออกฤทธิ์และจะยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้นอีก เฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ

    "ความฝันเหรอ เดี๋ยวก่อน ฉันเคยอ่านเกี่ยวกับยาชนิดนี้นี่นา หมายความว่า…" เธอคิดออกแล้วมองหน้าเขา

    มัลฟอยยิ้มเยาะแทนคำตอบ แต่แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ขว้างดอกไม้ในมือใส่หน้าเขาเต็มแรง

    "ฉันไม่อยากฝันแบบนี้ ฉันจะตื่น ฉันจะตื่น"

    มัลฟอยโกรธจนลมออกหู เขาตวาดใส่เฮอร์ไมโอนี่

    "เธอจะไม่มีทางตื่นได้ จนกว่าจะเช้าโน่น!!"

    เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้

    "นี่คือความฝันของเธอเหรอเนี่ย" มัลฟอยไม่สนใจ เขามองไปรอบห้องแล้วสายตามาหยุดลงที่เฮอร์ไมโอนี่

    "แต่งงาน..เฮอะ! คงกลัวว่าฉันจะเป็นเจ้าบ่าวสิ"

    "ความกลัวของเธอก็คือไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ใช่ไหม!" เฮอร์ไมโอนี่แทรกขึ้นด้วยเสียงอันดัง
    มีริ้วรอยสีแดงปรากฏขึ้น บนใบหน้าของมัลฟอย

    "เธอกลัวว่าถ้าเธอโตแล้วพ่อจะไม่ช่วยเหลือให้เธอทำอะไรเลว ๆได้อีก" เฮอร์ไมโอนี่จี้ใจดำเขาอย่างจัง

    สีหน้าของมัลฟอยเปลี่ยนจากแดงเป็นขาวด้วยความโกรธ

    "เกรนเจอร์ รู้ฐานะตัวเองไว้ด้วยนะว่าตอนนี้เธอพูดกับฉันอย่างนั้นไม่ได้"

    มัลฟอยกำหมัดย่างเข้ามาหาอย่างมุ่งร้าย

    เฮอร์ไมโอนี่คว้าไม้กายสิทธิ์ที่ไม่เคยห่างตัวขึ้นมาขู่แต่แล้วมันก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากมือ มัลฟอยเห็นท่าทางตื่นตระหนกของเฮอร์ไมโอนี่แล้วก็หัวเราะเยาะ

    "ความหวาดกลัวอย่างที่สองคือไม่มีไม้กายสิทธิ์ล่ะสิ คราวนี้เธอจะทำอะไรฉันได้"

    มัลฟอยก้าวเข้ามาจนแทบประชิดตัว

    เฮอร์ไมโอนี่ถอยหลังกรูด แต่ยังไม่ทันจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือออกมา ห้องสีขาวห้องนั้นก็สั่นสะเทือนอย่างแรง

    "อะไรกันเนี่ย" มัลฟอยชะงัก ตัวเขาโยกไปตามแรงสั่น กระถางดอกไม้น่ารักหล่นแตกกระจาย เฮอร์ไมโอนี่คว้าหาที่จับ พยายามก้มตัวลงต่ำให้มากที่สุด

    และแล้วห้องทั้งห้องก็ค่อย ๆ พร่าเลือนหายไป เพดานกลายเป็นท้องฟ้าที่มีดาวระยิบระยับ กำแพงห้องหายไปกลายเป็นป่ารกและมืดสนิท แผ่นดินหยุดไหวแล้ว มัลฟอยเข่าอ่อน ทรุดลงนั่งกับพื้นดิน เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวว่าเก้าอี้ที่เหนี่ยวไว้กลายเป็นต้นไม้ไหญ่ที่มีเถาวัลย์พันอยู่เต็มต้น เธอกล่าวขึ้นทั้งที่ยังหอบเพราะความตกใจ

    "ที่นี่ที่ไหน"

    มัลฟอยหอบเหมือนกันแต่เขาหน้าซีดเป็นสีขาว เขาพูดทั้งที่ไม่หันมา

    "ป่าต้องห้าม!"

    "ฉะฉันไม่ได้กลัวป่าต้องห้ามนี่นา ถ้าไม่ได้เข้าไป ก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วก็ดูเหมือนจะรู้คำตอบในทันที จะมีใครล่ะนอกจาก..

    "เออ! ฉันเอง! ฉันกลัว" มัลฟอยพูด เขายิ่งหอบมากขึ้นเรื่อย ๆ

    "จำได้ไหมตอนที่ฉันโดนลงโทษให้เข้ามาในนี้ กับเธอ วิสลีย์แล้วก็ พอตเตอร์!" เขาหันมาเน้นชื่อและเหตุการณ์ตอนปีหนึ่งให้เฮอร์ไมโอนี่ฟังชัด ๆ

    "ฉันกลัวก็จริง แต่มันก็ไม่มีอันตราย ว่าแต่เธอล่ะกลัวอะไรในนี้"

    "ฉะฉัน กลัว" เฮอร์ไมโอนี่ตะกุกตะกัก มัลฟอยกลั้นใจรอคำตอบ

    ทันใดนั้นเอง เซนทอร์ขนาดใหญ่ก็วิ่งเข้ามาหาเขาทั้งสองอย่างบ้าคลั่ง มัลฟอยตาเหลือก เขาตะโกน

    "วิ่ง! เร็ว!"

    เฮอร์ไมโนี่ไม่ต้องรอให้สั่งซ้ำ เธอใช้พลังทั้งหมดที่มีวิ่งสุดแรงเกิด

    "กลัวแม้กระทั้งเซนทอร์ ยายเพี้ยนเอ๊ย!" มัลฟอยตะโกนพลางวิ่งไล่หลังมา

    "ฉันไม่ได้กลัว ถ้ามันไม่ดุร้าย! แต่นี่...." เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนขาทั้งสองวิ่งได้อย่างยากเย็นเพราะความเหนื่อย

    ทั้งสองกระโจนเข้าไปในพุ่มไม้หนาเพื่อหลบ เซนทอร์ที่ตอนนี้ดูเหมือนเสือครึ่งม้ามากกว่าคนครึ่งม้า ทั้งสองเบียดกันเต็มที่แทบจะกลั้นหายใจ จนเซนทอร์ตัวนั้นเดินหายไป

    ต่างฝ่ายต่างถอนหายใจออกมา ทันใดนั้นเฮอร์ไมโอนี่ดูเหมือนได้ยินเสียงแฮร์รี่ รอน และแฮกริดตะโกนเรียกเธอเหมือนในวันนั้น

    "เฮอร์ไมโอนี่ เธออยู่ไหน เรามาช่วยแล้ว"

    นั่นเสียงแฮร์รี่! เฮอร์ไมโอนี่ใจเต้นด้วยความดีใจ เธอลุกพรวดขึ้นจากพุ่มไม้นั่นทันที

    "แฮร์รี่ฉันอยู่ตร...."

    มัลฟอยตะครุบปากของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ฉับพลัน

    "ชู่ว อย่าไปเรียกมันนะ!" เขาพูดเหมือนขู่

    เฮอร์ไมโอนี่ร้องอึกอักในลำคอ เธอเริ่มดิ้นออกจากวงแขนของมัลฟอย

    "อย่าดิ้นซี่ อย่าร้องด้วย!" เขาตวาดขู่

    ช้าไป....เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากงับลงไปบนมืออีกฝ่ายเต็มแรง!

    "โอ๊ย!!" มัลฟอยปล่อยเธอทันที เฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกแฮร์รีเสียงหลง คราวนี้มัลฟอยไม่ยอมแล้ว เขาคว้าเฮอร์ไมโอนี่ไว้ทั้งตัวแล้วปิดปากไว้แน่นกว่าเก่า

    "ฉันบอกว่า..." เขาคำรามลอดไรฟันออกมา ปวดแผลที่เฮอร์ไมโอนี่กัดตุ้บ ๆ เลือดไหลซึมออกมา

    "อย่าร้อง!!.." 

    + -บทที่ 6- +
     
    เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นออกจากวงแขนของมัลฟอยไม่ได้เพราะคราวนี้เขาบีบกรามเธอไว้แน่นจนปวดระบมไปทั้งหน้า เธอน้ำตาไหลเพราะความเจ็บและต้องการร้องเรียกแฮร์รี่ และทุก ๆ คนให้ช่วย

    มัลฟอยรู้สึกว่าน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่ไหลลงมาอาบมือของเขาด้วย แต่เขาก็ไม่ลดแรงบีบ พูดว่า
    "ดูซะ นั่นไงเจ้าพอตเตอร์ของเธอ!"

    นั่นใช่แฮร์รี่ไม่ผิดแน่ รอน และแฮเกร็ด แต่ว่าทั้งสามคนเดินมาพร้อม กับเซนทอร์ตัวเมื่อครู่ ท่าทางสนิทสนม แฮร์รี่พูดกับเซนทอร์ตัวนั้น

    "ฉันจะหลอกให้ออกมาเอง เดี๋ยวนายจะได้กินเธอแน่"

    รอนและแฮเกร็ดหัวเราะอย่างสะใจ แล้วก็เรียกเฮอร์ไมโอนี่ต่อไป

    เฮอร์ไมโอนี่ตะลึงแล้วร้องไห้หนักขึ้นสะอึกสะอื้นจนตัวโยน มัลฟอยยิ่งรัดแน่นขึ้น กัดฟันพูด

    "ความหวาดกลัวอย่างที่สาม.."

    "คือกลัวเพื่อนทรยศ" เขาพูดจบแล้วกดตัวให้เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงในพุ่มไม้ตามเดิม รอจนเสียงฝีเท้าเงียบไป มัลฟอยรู้สึกตัวว่ารัดเธอแน่นเกินไปแล้วจึงค่อยปล่อยออก เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าร้องไห้ทันที

    "จะร้องไปทำไมกันนะ!" เขาว่า

    แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจ เธอร้องไห้เหมือนหัวใจจะแตกสลายลง มัลฟอยจนปัญญาจะห้าม ทันใดนั้น

    "เจอแล้ว อยู่นี่เอง" แฮร์รี่แหวกพุ่มไม้ที่ทั้งสองซ่อนตัวอยู่เขายิ้มกว้างเหมือนสะใจ

    มัลฟอยรู้สึกหัวใจเหมือนจะหยุดเต้น เพราะข้างหลังของแฮร์รี่คือเจ้าเซนทอร์ตัวนั้น!

    "วิ่งเร็ว!" เขากระชากแขนเฮอร์ไมโอนี่ที่ดูเหมือนตัวจะแข็งค้างไปหมดแล้ว แฮร์รี่ รอนและแฮเกร็ดตะโกนไล่หลังมาพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ

    "อย่าหนี เธอหนีไม่พ้นหรอก ฮ่า ฮ่า"

    "อย่าไปฟังมัน!" มัลฟอยตะโกนบอกเฮอร์ไมโอนี่ ตอนนี้เขากำลังลากเฮอร์ไมโอนี่ที่ดูเหมือนจะไม่มีแรงวิ่งเหลืออีกแล้ว มัลฟอยวิ่งตัดพุ่มไม้ราบเป็นทาง เขากำลังจะหมดแรงอยู่เดียวนี้แล้ว

    แต่...

    "อ๊ะ! น้ำ" เขาหยุดไม่ทันทั้งสองจึงตกตูมลงไปในหนองน้ำที่ถูกบังไว้ด้วยพุ่มไม้หนา

    เฮอร์ไมโอนี่ตะเกียกตะกายว่ายสุดแรง เธอวิ่งมาข้างหลังจึงตกลงไปในที่ไม่ลึกนัก ไม่นานก็ปีนขึ้นฝั่งมาได้ เธอหอบเหมือนจะขาดใจและกินน้ำเข้าไปมาก แต่..มัลฟอยหายไปแล้ว

    ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเขาร้องตะโกน

    "ช่วยฉันด้วย!" 

    + -บทที่ 7- +
     
    มัลฟอยโผล่พรวดขึ้นจากน้ำ เขาพยายามตะเกียกตะกายตัวขึ้นเพื่อหายใจ

    "ช่วยฉันด้วย เกรนเจอร์!" เขาร้องซ้ำ

    "เธอว่ายน้ำเป็นไม่ใช่เหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ตกใจ เธอเองก็ไม่มีแรงเหลือจะว่ายไปช่วยเขาอีกแล้ว

    "ตัวอะไรก็ไม่รู้ดึงขาฉัน!" เขาตะโกนก่อนจะสำลักน้ำอย่างแรง เขาพยายามดิ้นรนสุดกำลัง

    เฮอร์ไมโอนี่เหมือนได้ยินเสียงม้าร้องอย่างดีใจดังมาจากในหนองน้ำนั้น

    เสียงม้า...หนองน้ำ...หรือว่า ตัวเคลปี!!

    เสียงม้าร้องดังขึ้นอีก ใช่แน่ ๆ ในหนังสือสัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่เขียนบรรยายเอาไว้น่ากลัวมาก (หน้า7)
    มัลฟอยอาจจะกลัวตัวเคลปี!!

    "น้ำจะท่วมปอดฉันอยู่แล้ว!" มัลฟอยกำลังจะจมน้ำหายไป เสียงม้าร้องดังขึ้นทุกที ๆ

    "ฉันไม่มีไม้กายสิทธิ์นี่นา!" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนอย่างร้อนรน ในสมองคิดอย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็นึกได้ มัลฟอยกลัว แต่ฉันไม่!

    "ฉันไม่กลัวตัวเคลปี ฉันไม่กลัว!" เธอตะโกนดังลั่น

    เสียงม้าเงียบหายไป พร้อม ๆ กับมัลฟอยที่หายไปกับสายน้ำแล้ว เฮอร์ไมโอนี่กระโจนลงน้ำทันที

    "มัลฟอย เธออยู่ไหน!"

    แล้วเธอก็เห็นมัลฟอยลอยขึ้นสู่ผิวน้ำช้า ๆ โชคดีที่น้ำไม่ลึกมากแต่อาจจะเป็นเพราะโดนดึงขาไว้มัลฟอยจึงจมน้ำ เฮอร์ไมโอนี่รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายคว้าชายเสื้อคลุมของมัลฟอยไว้ แล้วลากเขาขึ้นมาเกยบนฝั่ง

    มัลฟอยนอนแน่นิ่ง เฮอร์ไมโอนี่เขย่าตัวเขาอย่างร้อนรน

    "มัลฟอย เธออย่าใจเสาะไปหน่อยเลย ตื่นสิ! ตื่น!"

    ไม่มีเสียงตอบจากเขา เฮอร์ไมโอนี่ทาบศรีษะลงไปที่อกเขาอย่างร้อนรน เธอได้ยินเสียงหัวใจของมัลฟอยเต้นแผ่วลงเรื่อย ๆ
    "มัลฟอย!" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนลั่นป่า 


    "มัลฟอย เธออย่าแกล้งฉันสิ!" เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งเขย่าตัวเขาแรงขึ้น แต่ร่างของมัลฟอยก็ยังนิ่งอยู่

    ไม่ได้...จะปล่อยไว้เฉย ๆ ไม่ได้ เธอนึก...

    คิดสิ คิด คิด! ตอนเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษา ต้องทำยังไง ใช่! ต้องผายปอด แต่จะดีเหรอ? ไม่ได้ ไม่มีเวลาแล้ว

    เฮอร์ไมโอนี่ลงมือกระชากเสื้อคลุมของมัลฟอยจนขาด แล้วดึงเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาออก กระดุมเสื้อหลุดกระจาย
    ยกคอขึ้น..แล้วอ้าปากออก นวดหัวใจให้เป็นจังหวะเฮอร์ไมโอนี่ทำตามวิธีที่เรียนมา แต่พอถึงขั้นที่ต้องประกบปากก็เบ้หน้า มองเรียวปากซีดเซียวของเขาแล้วก็กลั้นใจประกบปากลงไป

    แขนของมัลฟอยเริ่มขยับขึ้นมาโอบเฮอร์ไมโอนี่ไว้ เขารั้งร่างเด็กหญิงเข้ามาแนบอกแล้ว....เป็นฝ่ายขยับริมฝีปาก!

    เฮอร์ไมโอนี่ตกใจผงะออก แต่ก็ไม่พ้นวงแขนอีกฝ่าย

    "นาย..!" เฮอร์ไมโอนี่ขยับตัวออกเต็มแรง จะโวยวาย แต่มัลฟอยก็ยกศรีษะตามขึ้นมาจูบเธออีก

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่ปล่อยเขาตามใจอีกแล้ว...

    "โอ๊ย!" มัลฟอยร้องแล้วผลักเธอออกไปเสียเอง เฮอร์ไมโอนี่ถอยออกไปห่าง เธอหอบจนเจ็บหน้าอก หน้าเป็นสีแดงจัด

    "กัดลิ้นฉันทำไม" เขาเช็ดปาก ขมวดคิ้วมองเฮอร์ไมโอนี่

    "ฉันไม่กัดนายให้ปากแหว่งก็ดีเท่าไหร่แล้ว!" เธอตะโกนทั้งที่เสียงยังสั่นอยู่

    "ก็เธอจูบฉันก่อนนี่" เขาเถียง แล้วจับเสื้อเชิ้ตของตัวเอง

    กระดุมหายไปไหน? มัลฟอยอ้าปากค้างแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องเฮอร์ไมโอนี่

    "ก็นายกำลังจะตายนี่นา" เฮอร์ไมโอนี่รีบแก้ หน้าของเธอแดงขึ้นอีก

    "ฉันเหรอตาย..ฉันแค่หมดแรงจนขยับตัวไม่ได้ต่างหาก แล้วเธอก็มา..จูบ...ฉันเอง!" เขาโวยมั่งหน้าเริ่มเป็นสีชมพูบ้างเมื่อเห็นสารรูปตัวเอง เพิ่งเคยมีคนกล้าฉีกเสื้อผ้าเขา

    "หัวใจนายเต้นเบามาก แล้วก็กำลังจะหยุดด้วยนะ" เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมแพ้ เธอรู้สึกขายหน้ามาก

    "หัวใจใครอยู่ข้างขวากันมั่ง!" มัลฟอยพูดเสียงดัง เขาจำได้ว่ารู้สึกเหมือนมีใครเอาหัวมาแนบอกเขา

    เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างแล้วนึกขึ้นได้ว่าเธอรีบร้อนเกินไปจนลืม

    มัลฟอยยังคงจ้องเธอเขม็ง..! มีบางสิ่งเกิดขึ้นในแววตาสีซีดของเขา

    + -บทที่ 8- +

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าสบตามัลฟอย เธออายเกินกว่าจะทำได้ มัลฟอยเม้มปากแล้วหยิบเสื้อคลุมเปียกน้ำของเขามาบิดก่อนจะคลี่สวม พอเห็นรอยฉีกบนเสื้อแล้วก็อดเหลือบ ๆ มองเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้

    "ยังไงก็ขอบใจ.." มัลฟอยว่า เขารู้สึกว่าตัวเองเสียงเบาลงมาก

    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนแขนขากะปลกกะเปลี้ยไปหมด เธอไม่มีแรงแม้แต่จะนั่งอีกต่อไป โลกหมุนวนเ เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ร่างเล็ก ๆ นั้นหงายหลังทันที

    "เอ๊ย! เกรนเจอร์" มัลฟอยคว้าไหล่ข้างหนึ่งของเธอไว้ได้ทัน

    "ฉันไม่ไหวแล้ว" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงสะอื้น เธอนึกภาพไม้กายสิทธิ์หายไป เซนทอร์ที่บ้าคลั่ง และ แฮร์รี่ รอน แม้กระทั่งแฮกริดก็ยังหลอกลวงเธอ คิดถึงตรงนี้เธอก็ก้มหน้าร้องไห้อีก

    "จะบ้าเหรอ มัน...มันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย" มัลฟอยพยายามพูดให้เหมือนปลอบ

    เฮอร์ไมโอนี่หันมามองหน้าเขา และ...ไม่ทันตั้งตัวมัลฟอยก็โน้มหน้าเข้ามาจูบเธออย่างแผ่วเบา

    "มัลฟอย!" เฮอร์ไมโอนี่ทั้งตกใจและตกตะลึงพอกัน เด็กหญิงเอาหลังมือแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง

    มัลฟอยกัดริมฝีปาก เขาดึงตัวเฮอร์ไมโอนี่เข้ามาหาแล้วคว้าไหล่อีกข้างของเธอไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะเบี่ยงตัวออก

    "มัลฟอย เธอทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ!"

    "ทำไม!" เขากัดฟันพูด

    "ต้องเป็นเจ้าพอตเตอร์คนเดียวงั้นสิ!"

    มัลฟอยพูดเหมือนประชด เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างเมื่อได้ยินที่เขาพูด

    "ไม่ใช่! ไม่ว่าใครก็ทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้" เธอว่า

    "นี่ไม่ใช่ตัวเธอสักหน่อย" มัลฟอยเถียง

    "ตัวเธอจริง ๆ ยังนอนอยู่ที่หอนอน รอให้เจ้าพอตเตอร์มาจูบปลุกโน่น!" มัลฟอยเน้นชื่อของแฮร์รี่ชัดเจน แล้วเขาก็ดึงเฮอร์ไมโอนี่เขามาใกล้อีกครั้ง

    + -บทที่ 9- +

    "เฮอร์ไมโอนี่ เธอเป็นอะไร ไปตามอาจารย์มาเร็ว ๆ เข้า"

    เสียงหนึ่งดังขึ้นจากท้องฟ้าอันมืดมิดของป่าต้องห้ามมัลฟอยชะงัก เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้ยินเสียงนั้นเช่นกัน

    "เธอได้ยินเสียงอะไรไหม" เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    มัลฟอยพยักหน้าและแหงนหน้าขึ้นดูท้องฟ้า

    เมื่อมัลฟอยสนใจอย่างอื่นมากกว่าเฮอร์ไมโอนี่จึงเบี่ยงตัวออกมาจากเขาได้ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นอีก

    "มัลฟอย ทำใจดี ๆ ไว้ เราได้ยาแก้มาแล้ว"

    คราวนี้ทั้งสองคนได้ยินชัดเจน เฮอร์ไมโอนี่จำเสียงได้

    "ฉันได้ยินเสียงเหมือน...เหมือนเสียงแครบกับกอยล์นะ!" เธอว่า

    และแล้วป่าทั้งป่าก็สั่นสะเทือนเหมือนถูกเขย่า มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่พยายามยึดพุ่มไม้เตี้ย ๆ ไว้ เมื่อแผ่นดินไหวเบาลง เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นว่าตัวของเธอกำลังจะค่อย ๆ หายไป

    "ฉันกำลังจะตื่น!" เธอพูดอย่างดีใจ มัลฟอยเองก็เป็นเช่นเดียวกับเธอ

    "ฉันด้วย"

    ร่างของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มกระพริบหายไป เธอจึงพูดกับมัลฟอยอีกครั้ง

    "ลาก่อน ฉัน..หมายถึงเราคงไม่มีโอกาสได้มาเจอกันอย่างนี้อีกแล้ว"

    มัลฟอยกัดริมฝีปาก เขาไม่ยอมสบตาเฮอร์ไมโอนี่

    "ใช่ จะไม่มีอีก เมื่อฉันตื่น ฉันเกลียดเจ้าพอตเตอร์ยังไงก็ยังเกลียดอย่างนั้น...ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม"

    มัลฟอยเบือนสายตาออกจากร่างสีจาง ๆ ของเฮอร์ไมโอนี่ที่ยังจ้องเขาอยู่ แล้วพูด

    "และฉันก็เกลียดเธอ..เกลียด..เหมือนเดิม!"

    มัลฟอยหันหลังให้เธอโดยสิ้นเชิง เขากัดฟันพูด

    "ไปให้พ้น.."

    "พวกเลือดสีโคลน!"

    ทุกประโยคราวกับว่าเขาพูดย้ำให้ตัวเองฟัง ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิท......

    มัลฟอยสำลักตื่นที่หอนอนของเขา แครบกับกอยล์กำลังช่วยกันกรอกยาแก้ลงไปในปากเขา

    "ตื่นแล้ว! ตื่นแล้ว! ไชโย!" แครบกับกอยล์แทบจะกระโดดกอดกัน

    "นายนอนกระสับกระส่ายทั้งคืน ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ฉันเลยส่งนกฮูกไปหาพ่อนาย นี่มันเพิ่งกลับมาเมื่อเช้านี้เอง" แครบรายงาน

    "ได้ข่าวว่ามาดามพอมฟรีย์กำลังปรุงยาแก้ให้ยายเกรนเจอร์อยู่ มีคนเห็นยายนั่นนอนทุรนทุราย เขาก็เลยไปตามอาจารย์มาดู แต่ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นฝีมือคนนอก โชคดีที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือเรา" กอยล์รายงานบ้าง

    มัลฟอยไม่พูดอะไร ตาของเขายังคงเหม่อลอยมองเพดาน แครบกับกอยล์มองหน้ากันแล้วถามมัลฟอย พร้อมกัน

    "นายฝันว่าอะไรบ้างล่ะ"

    มัลฟอยกุมขมับ

    "ฉันจำไม่ได้" เขาโกหก

    "ฉันจำได้แต่ว่า ในฝันฉันสาบานกับตัวเองไว้ว่า ถ้าฉันตื่น..."

    แล้วเขาก็หันมามองตัวการทั้งสองคนด้วยสายตาที่ทำให้แครบกับกอยล์ผมแทบตั้ง!

    "ฉันจะฆ่าพวกแกทั้งสองคน!" 

    ...+*+*+...

    มีเสียงโหยหวนดังมาจากหอนอนของบ้าสลิธีริน รอนกับแฮร์รี่ที่กำลังเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ที่ห้องพยาบาลได้ยินไม่ชัดนัก

    "ยังกับใครถูกเชือด" รอนว่า เฮอร์ไมโอนี่กำลังยกถ้วยยาขึ้นดื่ม

    "เขาว่าเธอโดนน้ำยาฝันร้ายเข้าไป นอนกระสับกระส่ายทั้งคืนมีคนเห็นเข้าก็เลยไปตามอาจารย์" แฮร์รี่พูด

    "เธอฝันว่าอะไรบ้างล่ะ" รอนถามเรียบ ๆ แต่น้ำยาในถ้วยของเฮอร์ไมโอนี่กระฉอกออกมาโดนเขา

    "โอ๊ย! ร้อนนะเนี่ย"

    "ฉัน....จำไม่ได้" เฮอร์ไมโอนี่พยายามไม่แสดงอาการ แต่ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู เธอดื่มยาต่อ

    "จำไม่ได้จริง ๆ"

    "ช่างมันเถอะ วันนี้เธอพักผ่อนนะ เดี๋ยวฉันกับรอนจะลาอาจารย์ให้" แฮร์รี่ว่าแล้วก็พารอนออกไปด้วย ปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่ทิ้งตัวลงนอน

    ...+*+*+...

    เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ทุกคนพากันลืมเหตุการณ์นั้นไปหมด เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้พูดถึงมัลฟอยบ่อยนัก มัลฟอยเองก็ไม่พยายามจะหาเรื่องอะไรพวกของแฮร์รี่อีก(อย่งน้อยก็พักหนึ่งล่ะ)

    แต่ที่ไม่มีใครรู้ก็คือบางครั้ง แครบกับกอยล์สังเกตเห็นว่ามัลฟอยเผลอลูบริมฝีปากของตัวเองในยามที่ไม่มีใครเห็นทุกครั้งไป

    แล้วเรื่องราวทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม อ้าว..? คุณไม่เชื่อรึ ก็กลับไปอ่านแฮร์รี่พอตเตอร์ใหม่เถอะ มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่ยังคงเป็นเหมือนเดิมอย่างที่พวกเขาเคยพูดไว้จริง ๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×