ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เธอคือทาสหัวใจของฉัน [ เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย ]

    ลำดับตอนที่ #5 : บาดแผลในใจของมัลฟอย: Draco's sorrow +++มีการแก้ไขเนื้อหา+++

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 55



    คุยกันก่อนอ่านนะคะ

     

    พิกได้แก้ไขเนื้อหาในตอนที่ 5 นี้ให้เข้ากับเนื้อเรื่องในหนังสือและตอนจบที่วางไว้แล้วนะคะ  โดยเนื้อหาที่มีการแก้ไขจะเป็นตัวหนังสือสีเขียวเข้มนะคะ  ใครที่อ่านตอนที่ 5 นี้ไป [นาน] แล้ว  ลองเข้าอ่านเฉพาะตอนที่มีการแก้ไขใหม่นะคะ  จะได้เข้าใจค่ะ  ขอบคุณค่ะ





    ***Chapter 5 บาดแผลในใจของมัลฟอย: Draco’s sorrow***

     

      

    กรี๊ด!!!” เฮอร์ไมโอนี่หวีดร้องอย่างเสียขวัญ  เมื่อเธอมองเห็นร่างที่มีเลือดอาบศีรษะของมัลฟอย  เด็กสาวพยายามกระเถิบตัวออกห่าง  ในขณะเดียวกันเธอก็พยายามจะพลิกร่างของมัลฟอยขึ้นมา

    ว้าย!” เฮอร์ไมโอนี่อุทานเมื่อเห็นแผลบนศีรษะของมัลฟอยอันเกิดมาจากการกระทำของเธอ  บาดแผลนั้นไม่ใช่เล็ก ๆ เลย  แถมยังมีเลือดออกมามากจนร่างกายของเธอเปรอะเปื้อนเลือดสีแดงสดจากตัวเขาไปไม่น้อย 

    มัลฟอย  มัลฟอย!” เธอพยายามเรียกชื่อเขา  แต่ไม่มีท่าทีว่าเขาจะรู้สึกตัวแม้แต่น้อย  เฮอร์ไมโอนี่เอานิ้วอังลมหายใจที่จมูกของเด็กหนุ่มอย่างทดสอบ  และเธอก็รู้สึกโล่งอกที่ได้รู้ว่าเขายังหายใจอยู่

    ต้องไปตามใครมาช่วยนั่นคือสิ่งแรกที่เฮอร์ไมโอนี่คิดออก  เด็กสาวกวาดสายตาไปมองที่ประตูซึ่งถูกล็อคไว้  เธอจะไม่สามารถเปิดมันออกไปได้ถ้าไม่มีไม้กายสิทธิ์ 

    จริงด้วย  ไม้กายสิทธิ์! 

    สายตาของเฮอร์ไมโอนี่กวาดไปที่พื้นห้อง  เด็กสาวพุ่งไปยังไม้กายสิทธิ์ของมัลฟอยที่เขาเพิ่งโยนทิ้งไป  และคว้ามันไว้ในมือราวกับมันเป็นทางรอดสุดท้ายของเธอ  ถ้ามีสิ่งนี้  เธอก็จะสามารถออกจากห้องนี้ไปได้  ถ้ามีสิ่งนี้เธอก็จะสามารถใช้มันเปิดทางลับหลังแผนที่นั้นไปได้  และเธอก็จะหนีออกไปจากที่นี่ได้ก่อนที่มัลฟอยจะรู้

    เฮอร์ไมโอนี่มองไม้กายสิทธิ์ในมืออย่างเปี่ยมไปด้วยความหวัง  เด็กสาวก้าวไปที่ประตูห้องพร้อมกับไม้กายสิทธิ์ในมือแต่ก่อนที่เธอจะใช้มันเปิดประตูสู่อิสระของตัวเอง  เธอก็กลับหันกลับมามองที่ร่างของเด็กหนุ่มบนเตียง  ร่างที่หมดสติและมีลมหายใจรวยริน

    ถ้าเธอทิ้งเขาไปในตอนนี้เขาจะเป็นอย่างไร  บาดแผลของเขาไม่ใช้น้อย ๆ เลยทีเดียว  ไม่แน่ว่าเขาอาจจะตายได้ถ้าเธอทิ้งเข้าไว้อย่างนี้  เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นในหัวของเฮอร์ไมโอนี่

    แต่ถ้าเธอไม่หนีไปตอนนี้เธอก็จะหมดโอกาสที่จะหนีตลอดไปเลยนะ  เพราะนี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเธอที่จะออกไปจากที่นี่ได้  เสียงอีกเสียงพยายามต่อสู้กับเสียงเมื่อครู่อยู่ในหัวสมองของเธอเอง

     

    ถ้าเธอทิ้งเขาไปในตอนนี้เธอก็จะสามารถหนีไปจากที่นี่ได้  เพื่อกลับไปพบเพื่อน ๆ ของเธอและคนที่เธอรักอีกครั้ง  แต่ถ้าหากเธอทำเช่นนั้น  เธออาจจะต้องกลายเป็นฆาตกรไปโดยที่เธอไม่ตั้งใจ!’

     

    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกสับสน  เธอไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่  แต่เธอก็ไม่อยากจะฆ่าใคร  แม้ว่าจะเป็นคนที่สมควรตายเช่นเขาก็ตาม  เฮอร์ไมโอนี่มองไม้กายสิทธิ์ในมือสลับกับมองร่างของมัลฟอยบนเตียงอย่างลังเลสับสน  แต่ในไม่นานเธอก็ตัดสินใจได้  เด็กสาวพุ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า  และคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับเสื้อผ้าขาดลุ่ยของเธออย่างลวก ๆ ก่อนจะก้าวเท้าไปที่ประตูในขณะที่มือของเธอกำไม้กายสิทธิ์ของมัลฟอยไว้แน่น  เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจก่อนที่จะร่ายคาถาเปิดประตูห้องออก

    มีใครอยู่บ้างข้างนอกบ้าง!”

     

    ……………………………………………………………

     

    แม้ว่าพวกเอลฟ์ประจำบ้านจะตกใจไม่น้อยที่รู้ว่านายน้อยของพวกมันโดนทำร้าย  แต่พวกมันก็ไม่ได้สนใจสิ่งใดมากไปกว่าการช่วยรักษาพยาบาลมัลฟอยเป็นอันดับแรก  ร่างของเด็กหนุ่มถูกย้ายมาที่ห้องนอนของเขาอย่างทุลักทุเลด้วยฝีมือของเอลฟ์ประจำบ้านเกือบสิบตน  หลังจากนั้นเอลฟ์ประจำบ้านก็ต่างกระวีกระวาดไปเอายาวิเศษต่าง ๆ มารักษาเดรโกเสียยกใหญ่จนแทบจะหอบตู้ยามากองทีเดียว  เฮอร์ไมโอนี่มองดูเหล่าเอลฟ์วิ่งพล่านไปทั้งคฤหาสน์อย่างวุ่นวาย  ในขณะที่ดีน่ากำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ เตียงและมองมัลฟอยที่กำลังหมดสติพร้อมกับร้องไห้ด้วยความเป็นห่วง

    ทำไมถึงไม่พาเขาส่งโรงพยาบาลล่ะเฮอร์ไมโอนี่ถามดีน่าในขณะที่เอลฟ์ตัวอื่น ๆ กำลังรวบรวมยาวิเศษมาอยู่  เอลฟ์สาวทำท่าตกใจสุดขีดที่ได้ยินเช่นนั้น

    ไม่ได้เจ้าค่ะ  พานายน้อยส่งโรงพยาบาลไม่ได้เด็ดขาด!” มันร้องเสียงแหลม  น้ำตาใส ๆ ไหลออกมาจากดวงตากลมโตสีฟ้า  เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว

    ทำไมล่ะ  ก็มัลฟอยบาดเจ็บนี่  ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้จะไม่ดีนะเฮอร์ไมโอนี่พูดพลางก้มลงดูบาดแผลที่ศีรษะของเขา  ดูท่าจะลึกเอาการ

    ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ  แค่นายท่านสั่งไว้เด็ดขาดว่าห้ามใครออกจากคฤหาสน์ระหว่างที่นายท่านไม่อยู่ค่ะดีน่าตอบ แล้วดีน่าก็ไม่อาจฝ่าฝืนคำสั่งของนายท่านได้ค่ะ  นายท่านคือเจ้านายของดีน่า  คำสั่งของเจ้านายถือเป็นประกาศิตเอลฟ์สาวตอบอย่างหวาดหวั่น  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกไม่พอใจที่ได้ยินเช่นนั้น  เธอกำลังจะอ้าปากพูดถึงเรื่องสิทธิของเอลฟ์ประจำบ้านให้ดีน่าฟัง  หากแต่ถูกขัดจังหวะเสียก่อน

    นี่ยาทั้งหมดที่พอจะหาได้เอลฟ์ตัวหนึ่งที่มีดวงตาสีน้ำตาลพูดกับดีน่า  พร้อมกับยื่นกล่องยาวิเศษให้  ซึ่งภายในบรรจุยาไว้มากมาย  ส่วนเอลฟ์อีกตัวหนึ่งก็วางผ้าขนหนูกับอ่างใส่น้ำลงข้าง ๆ กล่องยา

    ขอบใจ  ดีน่าจะดูแลนายน้อยเองดีน่ารับคำ  มันเริ่มเอาผ้าในอ่างขึ้นมาบิด  และกำลังจะเช็ดแผลให้มัลฟอย  แต่สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าของดีน่ากลับเปลี่ยนไปเป็นสีหน้าหวาดกลัวแทน  มันขืนมือที่จะลงไปเช็ดหน้าให้มัลฟอย  แต่ในขณะเดียวกันมันก็พยายามฝืนความรู้สึกของตัวเองเพื่อจะเช็ดตัวให้เขาราวกับมันกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่

    เป็นอะไรไปเหรอดีน่าเฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจ  เมื่อดีน่าทิ้งผ้าในมือและเอามือปิดหน้าอย่างหวาดกลัว

    ดีน่ากลัวเลือดค่ะคุณผู้หญิงมันละล่ำละลักออกมาอย่างรู้สึกผิด ความจริงดีน่าต้องทำแผลให้นายน้อย  แต่เธอกลัวเลือด  เธอเห็นมันไม่ได้เอลฟ์สาวร้องไห้โฮและเอามือทั้งสองข้างปิดตา

    ถ้าเธอกลัวก็ให้คนอื่นทำก็ได้นี่เฮอร์ไมโอนี่ปลอบมันอย่างสงสาร

    ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ  ดีน่าต้องทำ  เพราะว่าดีน่ารับปากเอลฟ์ตัวอื่นไว้แล้วว่าเธอจะทำ  ดีน่าต้องทำค่ะคุณผู้หญิงดีน่าพูดพร้อมกับเอามือปิดหน้าอย่างหวาดกลัว  ในขณะที่มันเริ่มทำท่าทีต่อสู้กับตัวเองอีกครั้ง

    พอเถอะดีน่า  เธอไม่ต้องทำแล้วเฮอร์ไมโอนี่พูดในที่สุด  เธอคว้าผ้ามาจากมือของมัน

    แต่ดีน่าต้องทำค่ะ  คุณผู้หญิงมันพูดเสียงอ่อน  เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้มัน 

    เธอไปทำอย่างอื่นเถอะ  เดี๋ยวฉันทำแผลให้เขาเอง

     

    ……………………………………………………………

     

    เฮอร์ไมโอนี่ใช้เวลาไม่นานนักในการทำแผลให้มัลฟอย  แม้ว่าเธอจะไม่ได้ใช้เวทย์มนตร์ช่วยแต่เพราะฤทธิ์ของยาสมานแผลวิเศษบวกกับความชำนาญในการทำแผลแบบมักเกิ้ลของเธอจึงทำให้บาดแผลของมัลฟอยไม่น่าจะมีอะไรต้องเป็นห่วงอีกต่อไป  ที่เหลือก็เพียงแค่รอให้เขาฟื้นเท่านั้นเอง

    ในคืนนั้นขณะที่เฮอร์ไมโอนี่อยู่เฝ้าไข้มัลฟอย  สายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาและมัลฟอยก็ยังคงไม่รู้สึกตัว 

    ตัวร้อนนี่เฮอร์ไมโอนี่พูดเมื่อเธอเอามือทาบหน้าผากของเด็กหนุ่ม  ใบหน้าขาวซีดกลายเป็นสีแดงเพราะพิษไข้  แต่ถึงกระนั้นมัลฟอยก็ยังไม่รู้สึกตัว  เขายังคงหลับสนิท  แต่มีท่าทีทุรนทุรายราวกับตกอยู่ในฝันร้าย

    ดีน่าไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาหน่อยสิ  เราต้องเช็ดตัวให้เขาเฮอร์ไมโอนี่พูด  ตั้งแต่เกิดเรื่องเธอก็อยู่เฝ้ามัลฟอยไม่ได้ห่างไปไหนเลย  แต่นั่นเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่เธอทำร้ายเขา  เธอไม่สามารถทิ้งเขาไปในตอนนี้ได้

    ไม่นานนักดีน่ากลับมาพร้อมกับของที่เฮอร์ไมโอนี่ต้องการ  แต่เอลฟ์สาวกลับบอกเธอว่ามันต้องไปดูแลนางมัลฟอยต่อหลังจากนี้  เพราะว่าเดรโกกำชับกับมันไว้ว่าช่วงที่พ่อของเขาไม่อยู่ให้มันดูแลแม่แทนเขาด้วยถ้าเขาไม่ว่าง

    ดีน่าจะลองไปถามเอลฟ์ตัวอื่นให้มาดูแลนายน้อยแทนคุณบ้างนะคะดีน่าเสนอ  แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับส่ายหน้า 

    ไม่ต้องหรอก  ฉันเช็ดตัวให้เขาเองก็ได้เฮอร์ไมโอนี่พูดกับมันอย่างอ่อนโยน  เป็นครั้งแรกที่เธอเต็มใจจะทำอะไรเพื่อผู้ชายคนนี้  แต่เด็กสาวกลับย้ำเตือนกับตัวเองเสมอว่าที่เธอต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าเธอเป็นคนทำให้เขาเป็นเช่นนี้ต่างหาก

     

    เฮอร์ไมโอนี่หยิบผ้าขึ้นมาจากอ่างน้ำ  และบิดมันหมาด ๆ ก่อนที่จะเริ่มแกะกระดุมเสื้อของมัลฟอย  แผ่นอกแข็งแกร่งปรากฏสู่สายตาของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวใจเต้นแรงอย่างไม่รู้สาเหตุ  แต่เธอพยายามไม่สนใจมัน  เฮอร์ไมโอนี่วางผ้าเปียกน้ำลงบนหน้าอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั้นและเริ่มเช็ดตัวให้เขา  มัลฟอยขยับตัวเล็กน้อยเมื่อมีผ้าเย็น ๆ มาถูกตัว 

     

    เด็กสาวเช็ดร่างกายส่วนอกของเขาก่อนเป็นอันดับแรก  และเมื่อเธอเปลี่ยนไปเช็ดที่แขนทั้งสองข้างของเขา  เฮอร์ไมโอนี่ก็พบว่าบนแขนซ้ายของเดรโกมีตรามารอันเป็นสัญลักษณ์ของผู้เสพความตายปรากฏอยู่  แต่เธอก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก  เพราะเด็กสาวรู้มาอยู่ก่อนหน้านี้แล้วว่าเขาเป็นผู้เสพความตายจากการที่เขาเป็นคนนำผู้เสพความตายตนอื่น ๆ เข้ามาในโรงเรียนเมื่อเทอมที่แล้วเพื่อสังหารดัมเบิลดอร์  ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่สามารถลงมือเองปลิดชีวิตดัมเบิลดอร์ได้ด้วยตัวเองก็ตาม 

     

    หลังจากเช็ดบริเวณแขนของเด็กหนุ่มเสร็จโดยพยายามจะไม่สนใจตรามารที่ท้องแขนของเขาแล้ว  เธอก็เลื่อนกลับไปเช็ดที่ลำตัวของเขาอีกครั้ง  ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปยังลำคอของเขาไปไล่ไปจนกระทั่งถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าวและเป็นสีแดง  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังนำผ้าชุบน้ำเช็ดที่หน้าผากของเด็กหนุ่มอยู่นั้น

    “.........” มัลฟอยพึมพำออกมาเบา ๆ เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสงสัย  เพราะเธอไม่อาจจับใจความนั้นในสิ่งที่เขาพูดออกมาได้  แต่ก่อนที่เด็กสาวจะได้พูดอะไรออกไป  มัลฟอยก็ละเมอขึ้นมาอีกรอบ 

    ม.....แม่ครับเขาพึมพำ  เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างแปลกใจ  เด็กสาวไม่นึกเลยว่าคุณชายเลือดบริสุทธิ์ที่แสนจะเย่อหยิ่งอย่างมัลฟอยจะเป็นเด็กติดแม่ถึงขนาดต้องละเมอออกมาอย่างนี้

    แม่ครับ!.....อย่า...... พ่อครับ......อย่าทำอย่างนั้นกับแม่......แม่ครับตอบผมสิครับ........แม่!!!” มัลฟอยเพ้อออกมาด้วยพิษไข้  มือของเขาเอื้อมออกมาเบื้องหน้าราวกับหาที่ยึดเหนี่ยว  เด็กหนุ่มคว้าเอาร่างของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ได้  มือแข็งแรงกระชากร่างบางของเธอลงไปหาอ้อมอกของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว! 

    มัลฟอย!” เฮอร์ไมโอนี่อุทานด้วยความโกรธปนตกใจ  ตอนนี้ร่างของเธอสัมผัสอยู่กับแผ่นอกเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มจนเธอสามารถสัมผัสถึงความร้อนจากร่างกายของเขาได้

    แม่......ตอบผมสิครับ............ได้โปรด...........อย่ามองผมแบบนี้!” เสียงของมัลฟอยที่เปล่งออกมาฟังดูปวดร้าว  ไม่มีแววเย่อหยิ่งและถือตัวดังเดิมเลยแม้แต่น้อย  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ได้มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ  แต่เป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่ต้องการความอบอุ่นทางใจมากกว่าสิ่งใด

    ไม่เป็นไรนะมัลฟอย  ไม่เป็นไร  ฉันอยู่นี่เฮอร์ไมโอนี่พูดเบา ๆ และจับมือของเขามากุมไว้หลวม ๆ อย่างนึกสงสาร  จนในที่สุดเด็กหนุ่มก็หลับไปอีกครั้งด้วยท่าทีสงบมากกว่าเดิม 

    เฮอร์ไมโอนี่ยันกายขึ้นมาจากเตียง  เธอห่มผ้าห่มให้เขาและจุ่มผ้าขนหนูที่ใช้แล้วลงในอ่างน้ำ  เด็กสาวกลับมานั่งลงข้าง ๆ เตียงของเขาตามเดิม  แววตาสีน้ำตาลมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากเดิม

    เธอมีบาดแผลอะไรอยู่ในใจนะมัลฟอย

     

    ……………………………………………………………

     

    เช้าวันต่อมาพระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้ากว่าปรกติหลังจากที่ท้องฟ้าผ่านความเหน็บหนาวจากสายฝนมาทั้งคืน  เดรโก  มัลฟอย  ลืมตาขึ้นอีกครั้งในเช้าวันใหม่  ดวงตาสีซีดของเขามองไปรอบด้านก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ร่างเล็ก ๆ ที่ฟุบหน้าลงกับที่นอนของเขา  ผมสีน้ำตาลพองฟูกระทบกับแสงแดดที่ส่องมาจากหน้าต่างเป็นประกายสวย

    ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่นะ  นั่นคือคำถามแรกในใจของมัลฟอย  ทันใดนั้นเองเด็กหนุ่มก็รู้สึกปวดหัวจี๊ด  เขายกมือกุมศีรษะตามสัญชาติญาณ  และก็พบว่ามันถูกพันด้วยผ้าพันแผลอันโต 

    เรื่องราวของเมื่อคืนหลั่งไหล่เข้ามาในหัวสมองของเขาอย่างช้า ๆ ราวกับสายน้ำที่เอ่อทะลัก  เขาจำได้ดีว่าหลายวันก่อนเขาออกไปสร้างข่ายเวทย์มนตร์เพื่อไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่หนีออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้ได้  แต่เธอก็กลับพยายามจะหาทางหนีอยู่ดี  มัลฟอยจำได้ว่าเธอตบเขาไปฉาดหนึ่ง  ตอนนั้นอารมณ์ของเขามันพลุ่งพล่านอย่างระงับไม่อยู่  ราวกับทั้งโทสะทั้งความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดมารวมอยู่ที่เดียวกัน  เขาจึงพลักเธอลงบนเตียงและคิดจะสั่งสอนเธอด้วยบทเรียนที่เธอจะลืมไม่ลงไปชั่วชีวิต  และเธอก็พยายามขัดขืน  เธอพยายามขัดขืนเขาสุดกำลัง  แต่เขาก็พยายามล่วงเกินร่างกายของเธอ  จนในที่สุด  เขาก็รู้สึกราวกับมีของแข็งมากระทบศีรษะของเขาอย่างแรง  หลังจากนั้นเขาก็มาอยู่ที่นี่แล้ว

    มัลฟอยมองไปยังร่างของเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังหลับอย่างมีความสุข  ถ้าเขาจำไม่ผิดเธอคงทำร้ายเขาเพื่อป้องกันตัว  แต่ดูจากที่เขาเห็นแล้ว  เฮอร์ไมโอนี่น่าจะเฝ้าไข้เขามาทั้งคืน  แล้วทำไมเธอต้องทำเช่นนั้นด้วย 

    เด็กหนุ่มมองร่างของเด็กสาวตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ  ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปหาเธอ

    เกรนเจอร์ตื่น!” มัลฟอยตะโกนและเขย่าร่างของเฮอร์ไมโอนี่แรง ๆ เด็กสาวงัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างตกใจ

    เธอฟื้นแล้วหรือมัลฟอย  เด็กสาวพูดพลางขยี้ตา  มัลฟอยยันกายขึ้นจากเตียง

    เธอคิดว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่  ยัยเลือดสีโคลน!” มัลฟอยถาม 

    ฉันคิดว่านายควรจะพูดกับฉันดี ๆ หน่อยนะมัลฟอย  ฉันเป็นคนช่วยนายไว้นะเฮอร์ไมโอนี่โต้กลับ 

    ฉันไม่ได้ต้องการความช่วยเหลืออะไรจากคนอย่างเธอเลยเกรนเจอร์เขาพูดอย่างเย็นชา 

    อ้อ  แล้วก็ลุกออกไปจากเตียงของฉันด้วยนะ  ก่อนที่โคลนจากตัวเธอจะมาเปรอะที่นอนราคาแพงของฉันมัลฟอยพูดดูถูก  เฮอร์ไมโอนี่ใบหน้าร้อนผ่าว  ไม่นึกเลยว่าเธอจะทำคุณบูชาโทษ  ถ้าเธอรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ล่ะก็สู้ปล่อยให้เขาตาย ๆ ไปเสียดีกว่า!

    ขอบอกไว้นะมัลฟอย  ถ้าฉันไม่ช่วยนายไว้ป่านนี้นายคงตายไปแล้วล่ะ เธอตอกกลับ

    ฉันยอมตายดีกว่าที่ต้องมาติดหนี้บุญคุณคนอย่างเธอเกรนเจอร์  แล้วก็กรุณาออกไปจากห้องนอนฉันด้วยมัลฟอยพูดแล้วชี้ไปที่ประตู  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบด้วยอารมณ์โกรธ 

    นายคิดว่าตัวเองเข้มแข็งนักรึไง  ถึงไม่ต้องการให้ใครมาช่วยน่ะ  จะบอกให้รู้นะว่าคนที่เข้มแข็งจริง ๆ น่ะเขาไม่ละเมอถึงแม่ออกมาตอนหลับหรอกเฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงดัง  แต่เธอกลับต้องชะงักเมื่อเห็นสีหน้าของมัลฟอยเมื่อเธอพูดจบ

    เธอว่าอะไรนะเขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ หากแต่ดูน่ากลัวจับใจ

    ฉัน....ก็ฉันพูดจริง ๆ นี่เฮอร์ไมโอนี่เถียง  เธอพยายามทำเป็นโมโหเพื่อกลบเกลื่อนความกลัวของตัวเอง  แต่เด็กสาวก็รีบถอยออกห่างจากมัลฟอยทันที  เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาจะทำกับเธออย่างที่เขาทำเมื่อคราวก่อนหรือเปล่า 

    แต่คราวนี้มัลฟอยกลับไม่ได้ทำอะไรเลย  เขาไม่ได้ด่าว่าหรือลงโทษเธอแม้แต่น้อย  แต่เขากลับนิ่งเฉยอย่างน่าประหลาด  ครู่หนึ่งเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอเห็นแววตาสีเงินของมัลฟอยดูอ่อนลง  หากแต่ดูเศร้าสร้อยยิ่งนัก

    ออกไปเขาพูดออกมาเบา ๆ

    หา.....

    ฉันบอกให้ออกไปไงเล่า  ฉันอยากอยู่คนเดียว!” มัลฟอยตะโกน  เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งสุดตัว  แววตาสีเงินของเด็กหนุ่มกลับมาดูน่ากลัวดังเดิม  เด็กสาวจำใจเดินออกไปจากห้องของเขาโดยดี  โดยเธอยังคงสงสัยว่ามัลฟอยมีเรื่องใดในใจถึงทำให้เขามีท่าทีที่แปลกไปเช่นนั้น

    ในขณะเดียวกันเดรโกเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเหตุใดเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีตของเขาถึงฝังรอยแผลลึกในใจของเขาตราบจนทุกวันนี้

     

    ……………………………………………………………

     

    เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาจากห้องนอนของมัลฟอยด้วยท่าทีอารมณ์เสีย  เพราะคำพูดจาอวดดีและไม่สำนึกบุญคุณของเขา  แต่อีกใจหนึ่งเธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเด็กหนุ่มจึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปเพียงเพราะเธอพูดเรื่องที่เขาละเมอถึงแม่ออกมาเท่านั้น

    แม้จะสงสัย  แต่เด็กสาวก็ไม่อยากเก็บเอามาใส่ใจ  เธอตัดสินใจตรงกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง  หลังจากที่เหนื่อยกับการเฝ้าไข้มัลฟอยมาทั้งคืน

    เฮอร์ไมโอนี่ล้มตัวลงบนเตียงยับยู่ยี่ที่มัลฟอยเกือบจะใช้กำลังขืนใจเธอในเมื่อวาน  เศษแจกันที่แตกถูกเก็บกวาดไปเรียบร้อยแล้วโดยฝีมือของเอลฟ์ประจำบ้าน  เด็กสาวนอนล้มตัวลงบนเตียงด้วยความเหนื่อย  เธอดึงถ้าห่มขึ้นมาจนถึงคางก่อนจะซุกตัวลงไปในผ้านวมผืนหนา  ดวงตาสีน้ำตาลเหม่อลอยไปบนเพดาน  เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนหวนกลับมาสู่ความทรงจำของเธออีกครั้งราวกับภาพฉาย

    ภาพที่เด็กหนุ่มกำลังใช้กำลังข่มเหงเธอ !!!

    เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลง  และพยายามจะไล่ภาพที่ติดตรึงในหัวสมองของเธอไปไกล ๆ  แม้ว่าเธอจะพยายามทำเช่นนั้น  แต่ภาพดวงตาสีเงินที่ฉายแววเจ้าเล่ห์กับริมฝีปากบางที่กำลังเหยียดยิ้มก็มาปรากฏอยู่ในหัวสมองของเธอทุกครั้งไป !

    อย่าคิดถึงมันอีกเฮอร์ไมโอนี่เด็กสาวสั่งตัวเองเสียงดัง  ก่อนจะพลิกตัวมานอนตะแคง  และละสายตาจากเพดานสีเทามายังโต๊ะข้างเตียงแทน

    เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ ลุกจากเตียงและเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักที่โต๊ะข้างเตียงออก  ภายในลิ้นชักนั้นไม่มีอะไรอยู่เลยนอกเสียจากไม้กายสิทธิ์อันหนึ่ง 

    เด็กสาวหยิบไม้กายสิทธิ์ของมัลฟอยมาถือไว้ในมือ  ไม้ที่เธอแอบขโมยมาเมื่อตอนที่เขาบาดเจ็บ  ไม้ที่เจ้าของของมันยังไม่รู้ตัวว่ามันหายไป  และไม้ที่เป็นความหวังเดียวของเธอในการหนีออกไปจากที่นี่ !

    เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจเก็บไม้กายสิทธิ์ลงในลิ้นชักเหมือนเดิม  ก่อนที่จะหาผ้าขนหนูเล็ก ๆ สองสามผืนมาวางทับมันเอาไว้  แน่นอนว่าเธอคิดจะหนี  และแน่นอนว่าเธอต้องใช้ไม้กายสิทธิ์เพื่อจะหนีออกจากที่นี่  ซึ่งความจริงเด็กสาวอยากจะหนีออกไปจากขุมนรกนี่เสียเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ  แต่ที่เธอไม่ทำเช่นนั้นก็เพราะเธอคิดว่าการหนีของเธอต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ  และแน่นอนว่าเธอจะต้องออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้ได้ก่อนที่มัลฟอยจะรู้ตัวและตามไปลากตัวเธอกลับมาทัน  เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้น  ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรนั้นเฮอร์ไมโอนี่ย่อมรู้ดี!

     

    *************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×