ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ความจริงที่เปิดเผย
***Chapter 20 ความจริงที่เปิดเผย***
เฮอร์ไมโอนี่เดินออกจากห้องโถงเพื่อจะไปยังห้องสมุด  แต่ระหว่างทางนั้นเธอกลับพบกับคนสองคนที่เธอไม่อยากจะเจอะเจอมากที่สุดในเวลานี้
แพนซี่กับมัลฟอยกำลังยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดินหน้าห้องโถง  ทั้งคู่มีท่าทีราวกับว่ากำลังโต้เถียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งกันอยู่  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่พอจะเดาออกว่าเป็นเรื่องอะไร
“เธอกำลังจะไปหายยายเลือดสีโคลนนั่นอีกใช่ไหม  มัลฟอย” เสียงของแพนซี่ดังขึ้น  เธอรั้งแขนของมัลฟอยไว้เพื่อไม่ให้เขาเดินหนีเธอไปไหน  มัลฟอยมีท่าทีรำคาญ
“ฉันไม่ได้จะไปหาเกรนเจอร์” เขาพูดอย่างเบื่อหน่าย  พยายามจะแกะมือของแพนซี่ออกจากแขน 
“อย่ามาโกหกฉันมัลฟอย  ฉันเห็นเธอส่งสายตาให้มันอยู่ที่โต๊ะอาหาร  เธอคงจะนัดมันไปพบกันที่ไหนสักแห่งน่ะสิ” แพนซี่คาดคั้น  มัลฟอยกรอกตาอย่างรำคาญ 
“ฉันไปจะนัดเจอเกรนเจอร์ได้ยังไง  ในเมื่อตอนนี้เธอต้องเข้าเรียน” มัลฟอยเถียง  เขาพยายามจะยุติเรื่องทั้งหมดลงโดยเร็ว  แต่แพนซี่กลับไม่ยอมให้มันเป็นเช่นนั้น
“อ๋อ  นี่เธอคงสนิทกับมันจนกระทั่งจำตารางสอนของมันได้ขึ้นใจเลยสินะ” เด็กสาวประชดประชัน  เฮอร์ไมโอนี่ที่แอบดูทั้งสองอยู่ด้านหลังรูปปั้นดอริกผู้งงงันสังเกตเห็นสีหน้าของมัลฟอยที่หมายความว่าความอดทนของเขากำลังจะหมดลงในไม่ช้า
“ถึงฉันจะสนิทกับเกรนเจอร์แค่ไหน  มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอนี่แพนซี่  เลิกยุ่งกับพวกเราเสียที” มัลฟอยพูดอย่างตัดรอน  ราวกับเฮอร์ไมโอนี่เห็นขีดจำกัดอารมณ์ของแพนซี่เป็นเส้นด้ายที่เพิ่งขาดผึงไปชั่วขณะ
“ฉันยุ่งเรื่องของเธอรึ!” เธอตะโกนเสียงดัง  ตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ “ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยพูดกับฉันอย่างนี้เลยนะมัลฟอย” แพนซี่พูดอย่างตัดพ้อ  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงความผิดหวังที่เจืออยู่ในน้ำเสียงนั้น
“เป็นเพราะนังเลือดสีโคลนโสโครกนี่ใช่ไหม  ที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้!” เสียงของแพนซี่สั่นด้วยโทสะ  น้ำตาแห่งความผิดหวังของเธอคลอเอ่อดวงตาสีดำ  มัลฟอยถอนใจอย่างรำคาญปนรู้สึกผิด
“ฟังนะแพนซี่” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นเป็นครั้งแรก แพนซี่เงยหน้ามองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ
“เธอมีอะไรเกี่ยวกับนังเลือดสีโคลนจะมาพูดกับฉันอีกล่ะ” แพนซี่ประชด  มัลฟอยถอนใจ 
“ฉันไม่ได้จะพูดอย่างนั้น” เขาพูดอย่างใจเย็นและพยายามสงบอารมณ์ 
“ฉันรู้ดีว่าเรื่องของฉันกับเกรนเจอร์มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น  และมันก็ผิดในสายตาของเธอ” มัลฟอยพูดอย่างระมัดระวัง “แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว  และฉันก็ไม่สามารถที่จะหยุดมันได้”
“เพราะฉะนั้น  ฉันขอให้เธอปล่อยเราไว้อย่างนี้ได้ไหม  อย่ามายุ่งกับเราอีกเลย”
*************************************************
เสียงของมัลฟอยราวกับสว่านที่กำลังชอนไชเข้าไปในหัวสมองของแพนซี่  เด็กสาวยืนนิ่ง  ดูตกตะลึงราวกับเธอไม่คิดว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะเป็นคนพูดคำ ๆ นี้กับเธอ  ตอนแรกมัลฟอยคิดว่าเธอจะโวยวายเมื่อเขาพูดจบ  หรือไม่ก็อาละวาดและต่อว่าเขา  แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด  แพนซี่ไม่ได้ทำเช่นนั้น 
“ได้” เด็กสาวพูดออกมาที่สุด  หลังจากเงียบกันเนิ่นนาน “ฉันจะไม่ยุ่งกับพวกเธออีก” เธอพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังหากแต่ดูสงบนิ่ง  มัลฟอยดูดีใจที่เธอสามารถเข้าใจเขาได้
“ขอบใจแพนซี่” เขาพูดออกมาจากใจจริง  แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของมัลฟอยก็ต้องหาไปเมื่อเสียงของแพนซี่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“แต่คำว่า ‘ไม่ยุ่ง’ ของฉันไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่บอกเรื่องที่เธอแอบคบกับเกรนเจอร์กับใครหรอกนะ” แพนซี่พูดด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย  ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ  มัลฟอยสะดุ้งเช่นเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่
“เธอหมายความว่ายังไงแพนซี่” มัลฟอยพูดเสียงเข้ม  เขาก็เป็นอีกคนที่เปลี่ยนท่าทีไปโดยสิ้นเชิง
“ฉันหมายความว่า  มันจะเป็นยังไงนะถ้าฉันเองเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อของเธอ” แพนซี่พูดเบา ๆ ด้วยลักษณะของคนที่ถือไพ่เหนือกว่า  มัลฟอยดูโกรธจัด 
“เธอจะขู่ฉันหรือแพนซี่” เขากัดฟันพูด  เด็กหนุ่มพุ่งเข้าประชิดตัวของเธออย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่ได้ขู่  แต่ฉันจะทำจริง ๆ ต่างหากล่ะ” แพนซี่พูด  เธอจ้องมองมัลฟอยอย่างไม่เกรงกลัว  แววตาสีดำฉายแววเด็ดเดี่ยวและร้ายกาจ
“ถ้าเธอทำอย่างนั้นเราได้เห็นดีกันแน่” มัลฟอยขู่  มือแข็งแรงของเขาบีบต้นแขนเล็ก ๆ ของแพนซี่แน่น
“ก็เอาสิ  อย่างมากที่เธอจะทำได้ก็คือสาปฉัน  แต่อย่างมากที่สุดที่ฉันทำได้  ก็คือพรากยัยเลือดสีโคลนไปจากเธอชั่วนิรันด์” เธอพูดอย่างไม่เกรงกลัว  เฮอร์ไมโอนี่สังเกตุเห็นว่าแววตาที่มัลฟอยใช้จ้องมองแพนซี่นั้นแทบจะลุกเป็นไฟ  แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรลงไป  ก็กลับมีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นแทน
“อู้ว....แอบดูอย่างนี้ไม่ดีเลยนะ!” เสียงของพีฟส์ผีโพสเตอร์ไกด์ดังขึ้นข้างหลังเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวสะดุ้งโหยง  เช่นเดียวกับร่างอีกสองร่างที่อยู่ห่างกันไม่มากนัก
“พีฟส์!” เฮอร์ไมโอนี่เอ็ดมัน  แต่มันกลับไม่เกรงกลัว  พร้อมกับแผดเสียงดังเข้าไปอีก
“พรีเฟ็คน่ารักที่แสนไร้มารยาท  พรีเฟ็คสู่รู้  ชอบแอบดูชาวบ้าน!” พีฟส์ร้องเป็นทำนองอย่างถูกใจ  ก่อนจะลอยหายไปตามทางเดินพร้อมกับตะโกนคำว่า ‘ พรีเฟ็คสู่รู้  ชอบแอบดูชาวบ้าน ’ ไปตลอดทาง
สายตาของแพนซี่และมัลฟอยจับจ้องมาที่เธออย่างแปลกใจ  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าว  และอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นเสียจริง ๆ
“อ้อ  คงมาแอบฟังเราคุยกันตลอดสิใช่ไหม  ยัยเลือดสีโคลน” แพนซี่พูด  เธอจ้องมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรมากที่สุด
“ขอโทษที่มารบกวนเธอสองคน” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างอับอาย  แต่เธอก็พยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปรกติ
“ใช่  เธอมารบกวนเรามากทีเดียวเลยล่ะ  ฉันสงสัยจังว่าพ่อแม่มักเกิ้ลของเธอเคยสั่งสอนมารยาทให้เธอบ้างรึเปล่า  ” แพนซี่พูดถากถาง  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าวด้วยความโกรธ  ในขณะที่แพนซี่ย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ
“ฉันอยากรู้จริงว่ามีอะไรดีในตัวสกปรกของเธอ  มัลฟอยถึงได้หลงเธอนัก” เธอพูด  พร้อมกับมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาดูแคลน
“แพนซี่  อย่าเอาเกรนเจอร์เข้ามาเกี่ยว!” มัลฟอยห้ามด้วยน้ำเสียงดุดัน 
“แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ” แพนซี่พูดขณะที่มือของเธอกำไม้กายสิทธิ์แน่น
“ฉันไม่เอามาเกี่ยวหรอก” เธอหันไปพูดกับมัลฟอย “แค่จะสั่งสอนมันนิดหน่อยเท่านั้น  สตูเปฟาย!” ลำแสงสีแดงพุ่งตรงมายังเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวหลบได้ทันท่วงที  มันเฉียดไหล่เธอไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น  แต่มันกลับส่งผลให้สายกระเป๋าที่พาดบ่าของเฮอร์ไมโอนี่ฉีกขากออกมา  กระเป๋าของเธอหล่นลงพื้นพร้อมกันข้าวของที่กระจัดกระจายออกมาข้างนอกกระเป๋า
แพนซี่กำลังจะร่ายคาถาใส่เธอซ้ำ  แต่มัลฟอยกลับเข้ามาขวางเสียก่อน  เขาตวัดไม้กายสิทธิ์ชี้มาที่คอของเด็กสาวได้ทันท่วงที
“อย่าแม้แต่จะคิด  แพนซี่” มัลฟอยพูด  เขากดไม้กายสิทธิ์ลงบนลำคอเด็กสาว  แพนซี่ที่หมดหนทางจึงต้องลดไม้กายสิทธิ์ลงโดยดี
“แล้วก็อย่าคิดทำร้ายเกรนเจอร์อีก  ไม่อย่างนั้นเธอกับฉันได้เห็นดีกันแน่” มัลฟอยขู่  ดวงตาที่ทอประกายสีเงินของเขาฉายแววโกรธเคือง  แพนซี่เองก็เช่นกัน  เธอมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาเคียดแค้นเป็นที่สุด
“ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!” มัลฟอยสั่งเสียงกร้าว  แพนซี่มองเขาอย่างแค้นเคียงและเจ็บปวด
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง!” เด็กหนุ่มเตือน  แพนซี่กำลังจะก้าวเท้าออกไป  แต่เธอกลับทิ้งคำพูดสุดท้ายเองไว้
“แล้วเธอจะเสียใจมัลฟอย  ถ้าวันหนึ่งเธอรู้ว่าเธอโดยยัยนี่ควบคุมเธอมาตลอด” เสียงของแพนซี่นั้นเต็มไปด้วยความผิดหวังและฟังดูปวดร้าว  เด็กสาววิ่งจากทั้งสองไปทั้ง ๆ ที่น้ำตาไหลอาบแก้ม
แต่มัลฟอยไม่ได้สนใจการจากไปของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว  เพราะสิ่งเดียวที่อยู่ในความสนใจของเขาก็คือเด็กสาวที่กำลังอยู่ตรงหน้าต่างหากล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่กำลังเก็บข้าวของของเธอเข้ากระเป๋าดังเดิม  หลังจากที่เธอใช้เวทย์มนตร์ซ่อมสายกระเป๋าที่ฉีกขาดอย่างง่ายดาย 
“ฉันช่วยนะ” มัลฟอยพูด  พร้อมกับก้มลงไปเก็บหนังสือที่กระจัดกระจายของเธอ  เด็กหนุ่มยังนึกสงสัยอยู่เลยว่าเธอแบกหนังสือมากมายเหล่านี้ไว้บนบ่าได้อย่างไร
“ขอบใจ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบโดยไม่มองหน้าเขา  และเริ่มเก็บหนังสือต่อเงียบ ๆ มัลฟอยเองก็ทำเช่นเดียวกันแต่สายตาของเขากลับไปสะดุดเข้ากับห่อผ้าเล็ก ๆ ห่อหนึ่ง 
เด็กหนุ่มหยิบมันมาดู  และก็พบว่าข้างในเป็นขวดแก้วเล็ก ๆ ขนาดเท่านิ้วโป้ง  ที่บรรจุน้ำยาสีชมพูซึ่งเหลืออยู่น้อยนิดเอาไว้  เขาจ้องมองมันอย่างสนใจ  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังวุ่นวายอยู่กับการรวบรวมรายงานวิชาอักษรรูนของเธอเข้ากระเป๋า  สายตาของมัลฟอยสะดุดเข้ากับตัวหนังสือวิจิตรที่เขียนไว้รอบขวด  เขาจึงหมุนขวดเล็ก ๆ นั่นไปรอบ ๆ ขนกระทั่งอ่านข้อความนั้นจนครบ  ซึ่งมันอ่านได้ใจความว่า  ยาเสน่ห์สร้างความสัมพันธ์! 
*************************************************
ในหัวของมัลฟอยอื้ออึงและสับสนราวกับมีพายุพัดกระหน่ำ  ทำไมเธอถึงมีของสิ่งนี้ได้  ทำไมของแบบนี้ถึงมาอยู่ในกระเป๋าของเฮอร์ไมโอนี่  มัลฟอยจ้องมองขวดเล็กจิ๋วในมืออย่างงุนงง  และจู่ ๆ เสียงของแพนซี่ที่ดังก้องอยู่ในหัวของเขาราวกับว่ามาปรากฏกายข้าง ๆ เด็กหนุ่มและพูดถ้อยคำดังกล่าวซ้ำไปมา
หรือว่ามันทำเสน่ห์เธอมัลฟอย  เธอถึงได้กลายเป็นอย่างนี้
ถ้าเป็นเธอจริง ๆ เธอจะไม่มีทางรักมันได้แน่ ๆ อย่าว่าแต่รักมันเลยมัลฟอย  แค่จะถูกตัวมันเธอยังรังเกียจเลย  แล้วเธอจะไปรักมันได้ยังไง
มัลฟอยรู้สึกสับสนเป็นที่สุด  เขาไม่อาจละสายตาไปจากขวดเล็ก ๆ ในมือได้  ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่อาจไม่คิดได้ว่าเฮอร์ไมโอนี่อาจจะใช้ยาเสน่ห์นี้กับเขา!
เฮอร์ไมโอนี่ใช้ความพยายามพอดูกว่าจะรวบรวมรายงานวิชาอักษรรูนที่กระจัดกระจายมาได้หมด  และเมื่อเธอหันมามองมัลฟอยเธอก็พบว่าเขากำลังถือขวดน้ำยาเสน่ห์สร้างความสัมพันธ์อยู่!  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เด็กหนุ่มหันมาสบตาเธอพอดี!
“ทำไมเธอถึงมีไอ้นี่” มัลฟอยถาม  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับหัวใจเธอจะหยุดเต้น  ริมฝีปากของเธอแห้งผาก  ไม่มีถ้อยคำใดเล็ดรอดออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มนั้น
“ฉันถามว่าทำไมเธอถึงมีไอ้นี่!” มัลฟอยขึ้นเสียง  เขาย่างสามขุมมาที่เด็กสาวและกระชากแขนเธออย่างแรง  เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งสุดตัว “ทำไมเธอถึงมีไอ้นี่เกรนเจอร์!”  มัลฟอยคาดคั้น   
“มีคนให้ฉันมา” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ  เสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว 
“ใคร!” มัลฟอยถามเสียงเข้ม
“ฉันไม่รู้” เธอตอบ  เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว
“ไม่รู้อย่างนั้นรึ  เธอไม่รู้อย่างนั้นรึว่าเธอได้ไอ้นี่มาจากใคร  เธอรู้ใช่ไหมว่ามันคืออะไร!” มัลฟอยตวาด  ราวกับเขาได้กลายร่างเป็นราชสีห์ที่ดุร้ายในฉับพลัน “เธอรู้ไหมว่ามันคืออะไร!”
“ฉันรู้!” เฮอร์ไมโอนี่เถียงกลับบ้าง “ฉันรู้ว่ามันคืออะไร  ฉันรู้  รู้ตั้งแต่แรกแล้ว!”
“แล้วยังจะใช้มันอีกอย่างนั้นหรือ” มัลฟอยถาม  แกว่งขวดยาที่เกือบหมดตรงหน้าของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวหลบตาเขา
“นั่นมันเรื่องของฉัน” เธอเถียงเสียงดัง  แม้ว่าในใจจะหวาดกลัวมากก็ตามที  เพราะตอนนี้มัลฟอยนั้นดูน่ากลัวกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็นมาทีเดียว
“มันเรื่องของเธอก็จริง  แต่มันก็เกี่ยวกับฉันด้วย” เขากัดฟันพูด  และเพิ่มแรงบีบที่แขนของเด็กสาว
“เธอใช้มันกับใคร” มัลฟอยถาม  เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากแน่น!
“นั่นมันเรื่องของฉัน” เธอตอบเสียงแข็ง  มัลฟอยจ้องมองเธอด้วยดวงตาสีซีดที่ดูโกรธเคือง
“เธอใช้มันกับใครเกรนเจอร์!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่านั่นเป็นคำขาด
“มันเป็นความผิดพลาด” เธอยอมเอ่ยปากบอก “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดขึ้น  ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ” เด็กสาวพูด 
แล้วก็ราวกับมีคนมากดสวิตส์ไฟในหัวสมองของมัลฟอย  ในที่สุดเขาก็นึกออก  ในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา  ทำไมเธอถึงต้องตกใจขนาดนั้นที่เขาดื่มบัตเตอร์เบียร์ของเธอเข้าไปโดยเข้าใจว่ามันเป็นของแพนซี่
“หรือว่า.....วันนั้น”  มัลฟอยพูดอย่างช้า ๆ พยายามนึกถึงเรื่องราวในคืนนั้น  แต่มันเป็นไปไม่ได้  จะเป็นไปได้ยังไงที่เขา  เขาดื่มบัตเตอร์เบียร์ผสมยาเสน่ห์ของเธอเข้าไป!
“วันนั้นเธอ....” มัลฟอยพูดไม่ออก  เขาไม่อยากจะเชื่อในเรื่องที่เกิดขึ้น
“ฉันใส่มันลงไปในบัตเตอร์เบียร์” เฮอร์ไมโอนี่สารภาพ  ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปิดปังเขาอีกต่อไป
“แต่มันไม่ใช่สำหรับเธอ  มัลฟอย”
*************************************************
มัลฟอยไม่รู้ว่าเขาควรจะดีใจหรือเสียใจกับคำพูดนี้ดี  แต่เท่าที่รู้  เขารู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายไปต่อหน้าต่อมาเมื่อเขาได้มารับรู้ในเรื่องที่เขาไม่ควรรู้  เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ต้องการให้เขาดื่มบัตเตอร์เบียร์ใส่ยาเสน่ห์ของเธอไปตั้งแต่แรกแล้ว  แต่เขากลับหลงรักเธอเพราะเหตุผลนี้  แล้วใครกันเล่าที่เธอตั้งใจให้ดื่มมันเข้าไป
“เธอต้องการให้ใครดื่มมันเกรนเจอร์” มัลฟอยถามเสียงแผ่วเบา  เขารู้สึกว่าริมฝีปากของเขาแหบแห้งเป็นผง  เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่น  จนมันเกือบจะเป็นเส้นบางเฉียบก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“แฮร์รี่” เธอตอบ
“อะไรนะ!” มัลฟอยดูมีทีท่าตกใจ  แต่ความจริงแล้วเขาก็กลัวมาตลอดว่าเธอต้องเอ่ยชื่อนี้ออกมา
“ฉันต้องการให้เขาดื่มมัน  เพราะฉันหลงรักเขามานานแล้ว” เธอตอบอย่างชัดเจน  จนมัลฟอยรู้สึกราวกับไม่หลงเหลือสิ่งใดระหว่างเขากับเธออีกต่อไปแล้ว
“แต่เธอกลับมาดื่มมันเข้าไป  ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น  ฉันขอโทษ  ฉัน.....” เฮอร์ไมโอนี่ละล่ำละลั่ก  น้ำตาใส ๆ คลอเอ่อดวงตา  แต่มัลฟอยกลับไม่สนใจที่จะปาดมันให้เธอ
ผู้หญิงคนนี้มันคนอื่นอยู่ในใจตั้งแต่แรกแล้ว  เธอไม่ได้รักเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วเพราะว่าเธอรักคนอื่น  เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและเธอเป็นเพียงความผิดพลาดเท่านั้น
แค่ความผิดพลาดเท่านั้นเองหรือ.......? 
เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของมัลฟอยพร้อมกับภาพต่าง ๆ ในความทรงจำของเขาที่ไหลเวียนเข้ามาในหัวของเขาราวกับหนังที่ฉายซ้ำ  ภาพที่เขากับเฮอร์ไมโอนี่อยู่ด้วยกัน  ภาพที่พวกเขาทะเลาะกัน  จูบกัน  ภาพเหล่านั้นวนเวียนอยู่ในหัวสมองของมัลฟอยราวกับมันไม่ต้องการจะจากเขาไปไหน
แต่เขาไม่ได้ต้องการภาพเหล่านี้!  มัลฟอยเถียง  เขาเองก็ไม่ได้ต้องการเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่  ที่เขาคิดว่าเขาต้องการเธอก็เพราะยานี่เท่านั้น  และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขารู้สึกจริง ๆ เสียหน่อย
เพราะถ้าเป็น  เดรโก  มัลฟอย  จริง ๆ แล้ว  เขาจะไม่มีวันรักใครได้เลย  ไม่มีวัน!
“มัลฟอย” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ราวกับลอยมาจากที่แสนไกล  มัลฟอยหันไปสบตากับดวงตาสีน้ำตาลที่มีน้ำตาคลอเอ่อ “ฉันขอโทษ  ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรู้สึกผิด
“และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว  ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร  นอกจากปล่อยให้มันดำเนินไปเรื่อย ๆ  แต่พอตอนที่เราอยู่ด้วยกันฉันกลับรู้สึกดี  ราวกับว่าเรามีช่วงเวลาที่พิเศษ  ฉันก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร  แต่ฉันขอโทษ  ฉันผิดเองที่ปิดปังเรื่องนี้กับเธอ” เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ เอื้อมมือที่สั่นเทามาแตะแขนมัลฟอยเบา ๆ
“เรื่องของพวกเรามันไม่ได้มีอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่หรือเกรนเจอร์” เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนเฮอร์ไมโอนี่ใจหาย
“เธอก็ไม่ได้รักฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  และฉันก็ไม่ได้คิดจะรักเธอเหมือนกัน” มัลฟอยไม่กล้าสบดวงตาสีน้ำตาลที่ดูเปี่ยมไปด้วยความผิดหวังคู่นั้น  ทำไมนะเขาต้องรู้สึกเจ็บปวดถึงเพียงนี้
“ความจริงเราควรจะยุติเรื่องราวที่ไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรกลงในตอนนี้ดีกว่า” มัลฟอยพูดและค่อย ๆ เอื้อมมือไปแกะมือที่สั่นเทาของเธอออกจากแขนของเขา
ราวกับคำพูดนั้นเป็นสิ่งที่ตัดเส้นด้ายแห่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ขาดสะบั้นลง!  เด็กหนุ่มสบดวงตาสีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยน้ำตาเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนที่จะหันหลังกลับและเดินไปอีกทาง
เฮอร์ไมโอนี่มองแผ่นหลังของมัลฟอยที่เดินจากไปด้วยความเจ็บปวด  เธอรู้สึกราวกับว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาที่เคยงอกงามกลับแตกสลายลงภายในพริบตา!  เสียงของมัลฟอยยังคงดังก้องอยู่ในหูของเฮอร์ไมโอนี่แม้ว่าร่างของเขาจะเดินจากเธอไปแล้วก็ตาม
เรื่องราวของพวกเรามันไม่ได้มีอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!
*************************************************
มาลงให้แร้วค่า  เหอะ ๆ ช่วงนี้วุ่น ๆ หน่อยเพราะว่าเรียนหนักมากเลย  เน็ตก็ไม่ค่อยมีเวลามาเล่น  แต่เราก็สัญญาว่าจะมาอัพให้ทุก ๆ อาทิตย์  ยังไงก็ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่อัพบ่อยกว่านี้ไม่ได้เพราะไม่มีเวลาจริง ๆ
อ้อ  มีเรื่องอยากจะขอร้องนักอ่านทุกท่านค่ะ  คือช่วยเม้นกันหน่อยเถ้ออออ......... ช่วงนี้รู้สึกว่าคนเม้นน้อยเหลือเกิน  แหมบางทีเราก็ต้องการกำลังใจจากคนอ่านบ้างค่ะ  แล้วถ้าไม่ชอบตรงไหนก็ติชมได้เน้อ 
แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่ง  เราเขียน Short FiC เรื่องใหม่ขึ้นมาหนึ่งเรื่อง  เป็นคู่ของพี่เดรกะนู๋เฮอร์เหมือนเดิม  แต่ไม่ได้เอามาลงที่เด็ดดีเพราะว่ามันติดเรทอ่า  เลยเอาไปเอาไปลงไว้ที่บอร์ดตัวกวนกะบอร์ดของเรา ( ที่ไม่ค่อยได้อัพ ) ที่ยิ้มสยามจ้า  ชื่อเรื่อง My Tear ยังไงก็ตามไปอ่านที่บอร์ดแระกันเน้อ  แต่ลืม URL อ่า  เอาเป็นว่าเข้าเวปยิ้มสยามแล้ว Search คำว่า Emma_Fanclub เอาแล้วกันนะ  อ้อ  ส่วนเรื่อง you are my servant ที่เอาไปลงไว้ก็อัพใหม่แล้วด้วยนะ  ยังไงก็ตามไปอ่านกันนะจ๊ะ  แหมพูดมาซะยาวเชียว  เท่านี้ดีกว่าค่ะ
เฮอร์ไมโอนี่เดินออกจากห้องโถงเพื่อจะไปยังห้องสมุด  แต่ระหว่างทางนั้นเธอกลับพบกับคนสองคนที่เธอไม่อยากจะเจอะเจอมากที่สุดในเวลานี้
แพนซี่กับมัลฟอยกำลังยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดินหน้าห้องโถง  ทั้งคู่มีท่าทีราวกับว่ากำลังโต้เถียงเรื่องใดเรื่องหนึ่งกันอยู่  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่พอจะเดาออกว่าเป็นเรื่องอะไร
“เธอกำลังจะไปหายยายเลือดสีโคลนนั่นอีกใช่ไหม  มัลฟอย” เสียงของแพนซี่ดังขึ้น  เธอรั้งแขนของมัลฟอยไว้เพื่อไม่ให้เขาเดินหนีเธอไปไหน  มัลฟอยมีท่าทีรำคาญ
“ฉันไม่ได้จะไปหาเกรนเจอร์” เขาพูดอย่างเบื่อหน่าย  พยายามจะแกะมือของแพนซี่ออกจากแขน 
“อย่ามาโกหกฉันมัลฟอย  ฉันเห็นเธอส่งสายตาให้มันอยู่ที่โต๊ะอาหาร  เธอคงจะนัดมันไปพบกันที่ไหนสักแห่งน่ะสิ” แพนซี่คาดคั้น  มัลฟอยกรอกตาอย่างรำคาญ 
“ฉันไปจะนัดเจอเกรนเจอร์ได้ยังไง  ในเมื่อตอนนี้เธอต้องเข้าเรียน” มัลฟอยเถียง  เขาพยายามจะยุติเรื่องทั้งหมดลงโดยเร็ว  แต่แพนซี่กลับไม่ยอมให้มันเป็นเช่นนั้น
“อ๋อ  นี่เธอคงสนิทกับมันจนกระทั่งจำตารางสอนของมันได้ขึ้นใจเลยสินะ” เด็กสาวประชดประชัน  เฮอร์ไมโอนี่ที่แอบดูทั้งสองอยู่ด้านหลังรูปปั้นดอริกผู้งงงันสังเกตเห็นสีหน้าของมัลฟอยที่หมายความว่าความอดทนของเขากำลังจะหมดลงในไม่ช้า
“ถึงฉันจะสนิทกับเกรนเจอร์แค่ไหน  มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอนี่แพนซี่  เลิกยุ่งกับพวกเราเสียที” มัลฟอยพูดอย่างตัดรอน  ราวกับเฮอร์ไมโอนี่เห็นขีดจำกัดอารมณ์ของแพนซี่เป็นเส้นด้ายที่เพิ่งขาดผึงไปชั่วขณะ
“ฉันยุ่งเรื่องของเธอรึ!” เธอตะโกนเสียงดัง  ตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ “ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยพูดกับฉันอย่างนี้เลยนะมัลฟอย” แพนซี่พูดอย่างตัดพ้อ  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงความผิดหวังที่เจืออยู่ในน้ำเสียงนั้น
“เป็นเพราะนังเลือดสีโคลนโสโครกนี่ใช่ไหม  ที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้!” เสียงของแพนซี่สั่นด้วยโทสะ  น้ำตาแห่งความผิดหวังของเธอคลอเอ่อดวงตาสีดำ  มัลฟอยถอนใจอย่างรำคาญปนรู้สึกผิด
“ฟังนะแพนซี่” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นเป็นครั้งแรก แพนซี่เงยหน้ามองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ
“เธอมีอะไรเกี่ยวกับนังเลือดสีโคลนจะมาพูดกับฉันอีกล่ะ” แพนซี่ประชด  มัลฟอยถอนใจ 
“ฉันไม่ได้จะพูดอย่างนั้น” เขาพูดอย่างใจเย็นและพยายามสงบอารมณ์ 
“ฉันรู้ดีว่าเรื่องของฉันกับเกรนเจอร์มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น  และมันก็ผิดในสายตาของเธอ” มัลฟอยพูดอย่างระมัดระวัง “แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว  และฉันก็ไม่สามารถที่จะหยุดมันได้”
“เพราะฉะนั้น  ฉันขอให้เธอปล่อยเราไว้อย่างนี้ได้ไหม  อย่ามายุ่งกับเราอีกเลย”
*************************************************
เสียงของมัลฟอยราวกับสว่านที่กำลังชอนไชเข้าไปในหัวสมองของแพนซี่  เด็กสาวยืนนิ่ง  ดูตกตะลึงราวกับเธอไม่คิดว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะเป็นคนพูดคำ ๆ นี้กับเธอ  ตอนแรกมัลฟอยคิดว่าเธอจะโวยวายเมื่อเขาพูดจบ  หรือไม่ก็อาละวาดและต่อว่าเขา  แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด  แพนซี่ไม่ได้ทำเช่นนั้น 
“ได้” เด็กสาวพูดออกมาที่สุด  หลังจากเงียบกันเนิ่นนาน “ฉันจะไม่ยุ่งกับพวกเธออีก” เธอพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังหากแต่ดูสงบนิ่ง  มัลฟอยดูดีใจที่เธอสามารถเข้าใจเขาได้
“ขอบใจแพนซี่” เขาพูดออกมาจากใจจริง  แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของมัลฟอยก็ต้องหาไปเมื่อเสียงของแพนซี่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“แต่คำว่า ‘ไม่ยุ่ง’ ของฉันไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่บอกเรื่องที่เธอแอบคบกับเกรนเจอร์กับใครหรอกนะ” แพนซี่พูดด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย  ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ  มัลฟอยสะดุ้งเช่นเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่
“เธอหมายความว่ายังไงแพนซี่” มัลฟอยพูดเสียงเข้ม  เขาก็เป็นอีกคนที่เปลี่ยนท่าทีไปโดยสิ้นเชิง
“ฉันหมายความว่า  มันจะเป็นยังไงนะถ้าฉันเองเรื่องนี้ไปบอกกับพ่อของเธอ” แพนซี่พูดเบา ๆ ด้วยลักษณะของคนที่ถือไพ่เหนือกว่า  มัลฟอยดูโกรธจัด 
“เธอจะขู่ฉันหรือแพนซี่” เขากัดฟันพูด  เด็กหนุ่มพุ่งเข้าประชิดตัวของเธออย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่ได้ขู่  แต่ฉันจะทำจริง ๆ ต่างหากล่ะ” แพนซี่พูด  เธอจ้องมองมัลฟอยอย่างไม่เกรงกลัว  แววตาสีดำฉายแววเด็ดเดี่ยวและร้ายกาจ
“ถ้าเธอทำอย่างนั้นเราได้เห็นดีกันแน่” มัลฟอยขู่  มือแข็งแรงของเขาบีบต้นแขนเล็ก ๆ ของแพนซี่แน่น
“ก็เอาสิ  อย่างมากที่เธอจะทำได้ก็คือสาปฉัน  แต่อย่างมากที่สุดที่ฉันทำได้  ก็คือพรากยัยเลือดสีโคลนไปจากเธอชั่วนิรันด์” เธอพูดอย่างไม่เกรงกลัว  เฮอร์ไมโอนี่สังเกตุเห็นว่าแววตาที่มัลฟอยใช้จ้องมองแพนซี่นั้นแทบจะลุกเป็นไฟ  แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรลงไป  ก็กลับมีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นแทน
“อู้ว....แอบดูอย่างนี้ไม่ดีเลยนะ!” เสียงของพีฟส์ผีโพสเตอร์ไกด์ดังขึ้นข้างหลังเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวสะดุ้งโหยง  เช่นเดียวกับร่างอีกสองร่างที่อยู่ห่างกันไม่มากนัก
“พีฟส์!” เฮอร์ไมโอนี่เอ็ดมัน  แต่มันกลับไม่เกรงกลัว  พร้อมกับแผดเสียงดังเข้าไปอีก
“พรีเฟ็คน่ารักที่แสนไร้มารยาท  พรีเฟ็คสู่รู้  ชอบแอบดูชาวบ้าน!” พีฟส์ร้องเป็นทำนองอย่างถูกใจ  ก่อนจะลอยหายไปตามทางเดินพร้อมกับตะโกนคำว่า ‘ พรีเฟ็คสู่รู้  ชอบแอบดูชาวบ้าน ’ ไปตลอดทาง
สายตาของแพนซี่และมัลฟอยจับจ้องมาที่เธออย่างแปลกใจ  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าว  และอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นเสียจริง ๆ
“อ้อ  คงมาแอบฟังเราคุยกันตลอดสิใช่ไหม  ยัยเลือดสีโคลน” แพนซี่พูด  เธอจ้องมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรมากที่สุด
“ขอโทษที่มารบกวนเธอสองคน” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างอับอาย  แต่เธอก็พยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปรกติ
“ใช่  เธอมารบกวนเรามากทีเดียวเลยล่ะ  ฉันสงสัยจังว่าพ่อแม่มักเกิ้ลของเธอเคยสั่งสอนมารยาทให้เธอบ้างรึเปล่า  ” แพนซี่พูดถากถาง  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าวด้วยความโกรธ  ในขณะที่แพนซี่ย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ
“ฉันอยากรู้จริงว่ามีอะไรดีในตัวสกปรกของเธอ  มัลฟอยถึงได้หลงเธอนัก” เธอพูด  พร้อมกับมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาดูแคลน
“แพนซี่  อย่าเอาเกรนเจอร์เข้ามาเกี่ยว!” มัลฟอยห้ามด้วยน้ำเสียงดุดัน 
“แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ” แพนซี่พูดขณะที่มือของเธอกำไม้กายสิทธิ์แน่น
“ฉันไม่เอามาเกี่ยวหรอก” เธอหันไปพูดกับมัลฟอย “แค่จะสั่งสอนมันนิดหน่อยเท่านั้น  สตูเปฟาย!” ลำแสงสีแดงพุ่งตรงมายังเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวหลบได้ทันท่วงที  มันเฉียดไหล่เธอไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น  แต่มันกลับส่งผลให้สายกระเป๋าที่พาดบ่าของเฮอร์ไมโอนี่ฉีกขากออกมา  กระเป๋าของเธอหล่นลงพื้นพร้อมกันข้าวของที่กระจัดกระจายออกมาข้างนอกกระเป๋า
แพนซี่กำลังจะร่ายคาถาใส่เธอซ้ำ  แต่มัลฟอยกลับเข้ามาขวางเสียก่อน  เขาตวัดไม้กายสิทธิ์ชี้มาที่คอของเด็กสาวได้ทันท่วงที
“อย่าแม้แต่จะคิด  แพนซี่” มัลฟอยพูด  เขากดไม้กายสิทธิ์ลงบนลำคอเด็กสาว  แพนซี่ที่หมดหนทางจึงต้องลดไม้กายสิทธิ์ลงโดยดี
“แล้วก็อย่าคิดทำร้ายเกรนเจอร์อีก  ไม่อย่างนั้นเธอกับฉันได้เห็นดีกันแน่” มัลฟอยขู่  ดวงตาที่ทอประกายสีเงินของเขาฉายแววโกรธเคือง  แพนซี่เองก็เช่นกัน  เธอมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาเคียดแค้นเป็นที่สุด
“ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!” มัลฟอยสั่งเสียงกร้าว  แพนซี่มองเขาอย่างแค้นเคียงและเจ็บปวด
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง!” เด็กหนุ่มเตือน  แพนซี่กำลังจะก้าวเท้าออกไป  แต่เธอกลับทิ้งคำพูดสุดท้ายเองไว้
“แล้วเธอจะเสียใจมัลฟอย  ถ้าวันหนึ่งเธอรู้ว่าเธอโดยยัยนี่ควบคุมเธอมาตลอด” เสียงของแพนซี่นั้นเต็มไปด้วยความผิดหวังและฟังดูปวดร้าว  เด็กสาววิ่งจากทั้งสองไปทั้ง ๆ ที่น้ำตาไหลอาบแก้ม
แต่มัลฟอยไม่ได้สนใจการจากไปของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว  เพราะสิ่งเดียวที่อยู่ในความสนใจของเขาก็คือเด็กสาวที่กำลังอยู่ตรงหน้าต่างหากล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่กำลังเก็บข้าวของของเธอเข้ากระเป๋าดังเดิม  หลังจากที่เธอใช้เวทย์มนตร์ซ่อมสายกระเป๋าที่ฉีกขาดอย่างง่ายดาย 
“ฉันช่วยนะ” มัลฟอยพูด  พร้อมกับก้มลงไปเก็บหนังสือที่กระจัดกระจายของเธอ  เด็กหนุ่มยังนึกสงสัยอยู่เลยว่าเธอแบกหนังสือมากมายเหล่านี้ไว้บนบ่าได้อย่างไร
“ขอบใจ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบโดยไม่มองหน้าเขา  และเริ่มเก็บหนังสือต่อเงียบ ๆ มัลฟอยเองก็ทำเช่นเดียวกันแต่สายตาของเขากลับไปสะดุดเข้ากับห่อผ้าเล็ก ๆ ห่อหนึ่ง 
เด็กหนุ่มหยิบมันมาดู  และก็พบว่าข้างในเป็นขวดแก้วเล็ก ๆ ขนาดเท่านิ้วโป้ง  ที่บรรจุน้ำยาสีชมพูซึ่งเหลืออยู่น้อยนิดเอาไว้  เขาจ้องมองมันอย่างสนใจ  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังวุ่นวายอยู่กับการรวบรวมรายงานวิชาอักษรรูนของเธอเข้ากระเป๋า  สายตาของมัลฟอยสะดุดเข้ากับตัวหนังสือวิจิตรที่เขียนไว้รอบขวด  เขาจึงหมุนขวดเล็ก ๆ นั่นไปรอบ ๆ ขนกระทั่งอ่านข้อความนั้นจนครบ  ซึ่งมันอ่านได้ใจความว่า  ยาเสน่ห์สร้างความสัมพันธ์! 
*************************************************
ในหัวของมัลฟอยอื้ออึงและสับสนราวกับมีพายุพัดกระหน่ำ  ทำไมเธอถึงมีของสิ่งนี้ได้  ทำไมของแบบนี้ถึงมาอยู่ในกระเป๋าของเฮอร์ไมโอนี่  มัลฟอยจ้องมองขวดเล็กจิ๋วในมืออย่างงุนงง  และจู่ ๆ เสียงของแพนซี่ที่ดังก้องอยู่ในหัวของเขาราวกับว่ามาปรากฏกายข้าง ๆ เด็กหนุ่มและพูดถ้อยคำดังกล่าวซ้ำไปมา
หรือว่ามันทำเสน่ห์เธอมัลฟอย  เธอถึงได้กลายเป็นอย่างนี้
ถ้าเป็นเธอจริง ๆ เธอจะไม่มีทางรักมันได้แน่ ๆ อย่าว่าแต่รักมันเลยมัลฟอย  แค่จะถูกตัวมันเธอยังรังเกียจเลย  แล้วเธอจะไปรักมันได้ยังไง
มัลฟอยรู้สึกสับสนเป็นที่สุด  เขาไม่อาจละสายตาไปจากขวดเล็ก ๆ ในมือได้  ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่อาจไม่คิดได้ว่าเฮอร์ไมโอนี่อาจจะใช้ยาเสน่ห์นี้กับเขา!
เฮอร์ไมโอนี่ใช้ความพยายามพอดูกว่าจะรวบรวมรายงานวิชาอักษรรูนที่กระจัดกระจายมาได้หมด  และเมื่อเธอหันมามองมัลฟอยเธอก็พบว่าเขากำลังถือขวดน้ำยาเสน่ห์สร้างความสัมพันธ์อยู่!  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เด็กหนุ่มหันมาสบตาเธอพอดี!
“ทำไมเธอถึงมีไอ้นี่” มัลฟอยถาม  เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับหัวใจเธอจะหยุดเต้น  ริมฝีปากของเธอแห้งผาก  ไม่มีถ้อยคำใดเล็ดรอดออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มนั้น
“ฉันถามว่าทำไมเธอถึงมีไอ้นี่!” มัลฟอยขึ้นเสียง  เขาย่างสามขุมมาที่เด็กสาวและกระชากแขนเธออย่างแรง  เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งสุดตัว “ทำไมเธอถึงมีไอ้นี่เกรนเจอร์!”  มัลฟอยคาดคั้น   
“มีคนให้ฉันมา” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ  เสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว 
“ใคร!” มัลฟอยถามเสียงเข้ม
“ฉันไม่รู้” เธอตอบ  เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว
“ไม่รู้อย่างนั้นรึ  เธอไม่รู้อย่างนั้นรึว่าเธอได้ไอ้นี่มาจากใคร  เธอรู้ใช่ไหมว่ามันคืออะไร!” มัลฟอยตวาด  ราวกับเขาได้กลายร่างเป็นราชสีห์ที่ดุร้ายในฉับพลัน “เธอรู้ไหมว่ามันคืออะไร!”
“ฉันรู้!” เฮอร์ไมโอนี่เถียงกลับบ้าง “ฉันรู้ว่ามันคืออะไร  ฉันรู้  รู้ตั้งแต่แรกแล้ว!”
“แล้วยังจะใช้มันอีกอย่างนั้นหรือ” มัลฟอยถาม  แกว่งขวดยาที่เกือบหมดตรงหน้าของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวหลบตาเขา
“นั่นมันเรื่องของฉัน” เธอเถียงเสียงดัง  แม้ว่าในใจจะหวาดกลัวมากก็ตามที  เพราะตอนนี้มัลฟอยนั้นดูน่ากลัวกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเห็นมาทีเดียว
“มันเรื่องของเธอก็จริง  แต่มันก็เกี่ยวกับฉันด้วย” เขากัดฟันพูด  และเพิ่มแรงบีบที่แขนของเด็กสาว
“เธอใช้มันกับใคร” มัลฟอยถาม  เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากแน่น!
“นั่นมันเรื่องของฉัน” เธอตอบเสียงแข็ง  มัลฟอยจ้องมองเธอด้วยดวงตาสีซีดที่ดูโกรธเคือง
“เธอใช้มันกับใครเกรนเจอร์!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่านั่นเป็นคำขาด
“มันเป็นความผิดพลาด” เธอยอมเอ่ยปากบอก “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดขึ้น  ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ” เด็กสาวพูด 
แล้วก็ราวกับมีคนมากดสวิตส์ไฟในหัวสมองของมัลฟอย  ในที่สุดเขาก็นึกออก  ในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา  ทำไมเธอถึงต้องตกใจขนาดนั้นที่เขาดื่มบัตเตอร์เบียร์ของเธอเข้าไปโดยเข้าใจว่ามันเป็นของแพนซี่
“หรือว่า.....วันนั้น”  มัลฟอยพูดอย่างช้า ๆ พยายามนึกถึงเรื่องราวในคืนนั้น  แต่มันเป็นไปไม่ได้  จะเป็นไปได้ยังไงที่เขา  เขาดื่มบัตเตอร์เบียร์ผสมยาเสน่ห์ของเธอเข้าไป!
“วันนั้นเธอ....” มัลฟอยพูดไม่ออก  เขาไม่อยากจะเชื่อในเรื่องที่เกิดขึ้น
“ฉันใส่มันลงไปในบัตเตอร์เบียร์” เฮอร์ไมโอนี่สารภาพ  ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปิดปังเขาอีกต่อไป
“แต่มันไม่ใช่สำหรับเธอ  มัลฟอย”
*************************************************
มัลฟอยไม่รู้ว่าเขาควรจะดีใจหรือเสียใจกับคำพูดนี้ดี  แต่เท่าที่รู้  เขารู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายไปต่อหน้าต่อมาเมื่อเขาได้มารับรู้ในเรื่องที่เขาไม่ควรรู้  เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ต้องการให้เขาดื่มบัตเตอร์เบียร์ใส่ยาเสน่ห์ของเธอไปตั้งแต่แรกแล้ว  แต่เขากลับหลงรักเธอเพราะเหตุผลนี้  แล้วใครกันเล่าที่เธอตั้งใจให้ดื่มมันเข้าไป
“เธอต้องการให้ใครดื่มมันเกรนเจอร์” มัลฟอยถามเสียงแผ่วเบา  เขารู้สึกว่าริมฝีปากของเขาแหบแห้งเป็นผง  เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่น  จนมันเกือบจะเป็นเส้นบางเฉียบก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“แฮร์รี่” เธอตอบ
“อะไรนะ!” มัลฟอยดูมีทีท่าตกใจ  แต่ความจริงแล้วเขาก็กลัวมาตลอดว่าเธอต้องเอ่ยชื่อนี้ออกมา
“ฉันต้องการให้เขาดื่มมัน  เพราะฉันหลงรักเขามานานแล้ว” เธอตอบอย่างชัดเจน  จนมัลฟอยรู้สึกราวกับไม่หลงเหลือสิ่งใดระหว่างเขากับเธออีกต่อไปแล้ว
“แต่เธอกลับมาดื่มมันเข้าไป  ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น  ฉันขอโทษ  ฉัน.....” เฮอร์ไมโอนี่ละล่ำละลั่ก  น้ำตาใส ๆ คลอเอ่อดวงตา  แต่มัลฟอยกลับไม่สนใจที่จะปาดมันให้เธอ
ผู้หญิงคนนี้มันคนอื่นอยู่ในใจตั้งแต่แรกแล้ว  เธอไม่ได้รักเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วเพราะว่าเธอรักคนอื่น  เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและเธอเป็นเพียงความผิดพลาดเท่านั้น
แค่ความผิดพลาดเท่านั้นเองหรือ.......? 
เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของมัลฟอยพร้อมกับภาพต่าง ๆ ในความทรงจำของเขาที่ไหลเวียนเข้ามาในหัวของเขาราวกับหนังที่ฉายซ้ำ  ภาพที่เขากับเฮอร์ไมโอนี่อยู่ด้วยกัน  ภาพที่พวกเขาทะเลาะกัน  จูบกัน  ภาพเหล่านั้นวนเวียนอยู่ในหัวสมองของมัลฟอยราวกับมันไม่ต้องการจะจากเขาไปไหน
แต่เขาไม่ได้ต้องการภาพเหล่านี้!  มัลฟอยเถียง  เขาเองก็ไม่ได้ต้องการเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่  ที่เขาคิดว่าเขาต้องการเธอก็เพราะยานี่เท่านั้น  และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขารู้สึกจริง ๆ เสียหน่อย
เพราะถ้าเป็น  เดรโก  มัลฟอย  จริง ๆ แล้ว  เขาจะไม่มีวันรักใครได้เลย  ไม่มีวัน!
“มัลฟอย” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ราวกับลอยมาจากที่แสนไกล  มัลฟอยหันไปสบตากับดวงตาสีน้ำตาลที่มีน้ำตาคลอเอ่อ “ฉันขอโทษ  ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรู้สึกผิด
“และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว  ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร  นอกจากปล่อยให้มันดำเนินไปเรื่อย ๆ  แต่พอตอนที่เราอยู่ด้วยกันฉันกลับรู้สึกดี  ราวกับว่าเรามีช่วงเวลาที่พิเศษ  ฉันก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร  แต่ฉันขอโทษ  ฉันผิดเองที่ปิดปังเรื่องนี้กับเธอ” เฮอร์ไมโอนี่ค่อย ๆ เอื้อมมือที่สั่นเทามาแตะแขนมัลฟอยเบา ๆ
“เรื่องของพวกเรามันไม่ได้มีอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่หรือเกรนเจอร์” เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนเฮอร์ไมโอนี่ใจหาย
“เธอก็ไม่ได้รักฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  และฉันก็ไม่ได้คิดจะรักเธอเหมือนกัน” มัลฟอยไม่กล้าสบดวงตาสีน้ำตาลที่ดูเปี่ยมไปด้วยความผิดหวังคู่นั้น  ทำไมนะเขาต้องรู้สึกเจ็บปวดถึงเพียงนี้
“ความจริงเราควรจะยุติเรื่องราวที่ไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรกลงในตอนนี้ดีกว่า” มัลฟอยพูดและค่อย ๆ เอื้อมมือไปแกะมือที่สั่นเทาของเธอออกจากแขนของเขา
ราวกับคำพูดนั้นเป็นสิ่งที่ตัดเส้นด้ายแห่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ขาดสะบั้นลง!  เด็กหนุ่มสบดวงตาสีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยน้ำตาเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนที่จะหันหลังกลับและเดินไปอีกทาง
เฮอร์ไมโอนี่มองแผ่นหลังของมัลฟอยที่เดินจากไปด้วยความเจ็บปวด  เธอรู้สึกราวกับว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาที่เคยงอกงามกลับแตกสลายลงภายในพริบตา!  เสียงของมัลฟอยยังคงดังก้องอยู่ในหูของเฮอร์ไมโอนี่แม้ว่าร่างของเขาจะเดินจากเธอไปแล้วก็ตาม
เรื่องราวของพวกเรามันไม่ได้มีอยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!
*************************************************
มาลงให้แร้วค่า  เหอะ ๆ ช่วงนี้วุ่น ๆ หน่อยเพราะว่าเรียนหนักมากเลย  เน็ตก็ไม่ค่อยมีเวลามาเล่น  แต่เราก็สัญญาว่าจะมาอัพให้ทุก ๆ อาทิตย์  ยังไงก็ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะที่อัพบ่อยกว่านี้ไม่ได้เพราะไม่มีเวลาจริง ๆ
อ้อ  มีเรื่องอยากจะขอร้องนักอ่านทุกท่านค่ะ  คือช่วยเม้นกันหน่อยเถ้ออออ......... ช่วงนี้รู้สึกว่าคนเม้นน้อยเหลือเกิน  แหมบางทีเราก็ต้องการกำลังใจจากคนอ่านบ้างค่ะ  แล้วถ้าไม่ชอบตรงไหนก็ติชมได้เน้อ 
แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่ง  เราเขียน Short FiC เรื่องใหม่ขึ้นมาหนึ่งเรื่อง  เป็นคู่ของพี่เดรกะนู๋เฮอร์เหมือนเดิม  แต่ไม่ได้เอามาลงที่เด็ดดีเพราะว่ามันติดเรทอ่า  เลยเอาไปเอาไปลงไว้ที่บอร์ดตัวกวนกะบอร์ดของเรา ( ที่ไม่ค่อยได้อัพ ) ที่ยิ้มสยามจ้า  ชื่อเรื่อง My Tear ยังไงก็ตามไปอ่านที่บอร์ดแระกันเน้อ  แต่ลืม URL อ่า  เอาเป็นว่าเข้าเวปยิ้มสยามแล้ว Search คำว่า Emma_Fanclub เอาแล้วกันนะ  อ้อ  ส่วนเรื่อง you are my servant ที่เอาไปลงไว้ก็อัพใหม่แล้วด้วยนะ  ยังไงก็ตามไปอ่านกันนะจ๊ะ  แหมพูดมาซะยาวเชียว  เท่านี้ดีกว่าค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น