ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เธอคือทาสหัวใจของฉัน [ เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย ]

    ลำดับตอนที่ #2 : นรกที่เลวร้ายกว่า: The place worst than hell

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 55




    ***Chapter 2 นรกที่เลวร้ายกว่า: The place worst than hell***

     

       

     

    มัลฟอยเฮอร์ไมโอนี่พึมพำอย่างแปลกใจที่เห็นเขาอยู่ที่นี่  แต่เด็กหนุ่มผิวซีดไม่พูดว่าอะไรมากไปกว่าจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่ฉายแววขบขัน  เขาก้าวยาว ๆ สองสามก้าวและมายืนอยู่ที่ข้างเตียงของเธอ

    ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอเธอที่นี่เด็กสาวพูด  เธอคิดเช่นนั้นจริง ๆ  แต่พอลองคิดดูอีกทีแล้วมันก็ไม่แปลกอะไรที่เธอจะพบลูกชายของลูเซียส  มัลฟอยในศูนย์บัญชาการศาสตร์มืดแห่งนี้

    ฉันก็ไม่คิดว่าจะเจอเธอในสภาพนี้เหมือนกันมัลฟอยพูด  มองเธอหัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก  เฮอร์ไมโอนี่ใบหน้าร้อนผ่าว  แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปากพูดอะไรออกไปเด็กหนุ่มก็ชิงพูดเสียก่อน

    ลุกขึ้นเกรนเจอร์มัลฟอยสั่ง  เฮอร์ไมโอนี่ไม่ขยับ

    ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งของนายด้วยเธอพูดอย่างไม่เกรงกลัว  มัลฟอยมองเธออย่างขัดใจ

    เธอต้องทำตามคำสั่งของฉันเกรนเจอร์  นับจากนี้และตลอดไปมัลฟอยพูดอย่างมีเลศนัย  เด็กสาวขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

    จะทำตามที่ฉันพูดดี ๆ หรือต้องให้ฉันใช้กำลังบังคับเธอเด็กหนุ่มขู่  พร้อมกับชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่เธอ เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีโอกาสขัดขืน  เธอลุกขึ้นจากเตียงช้า ๆ

    มัลฟอยพาเธอเดินออกจากห้องไปตามทางเดินเก่า ๆ ภายในคฤหาสน์  หลังจากที่พวกเขาขึ้นบันไดสองสามครั้ง  และเดินผ่านประตูที่กั้นระหว่างส่วนกลางกับปีกตะวันตกของคฤหาสน์  มัลฟอยก็พาเฮอร์ไมโอนี่เดินขึ้นบันไดอีกครั้งหนึ่ง  จนในที่สุดเขาและเธอก็มาหยุดอยู่หน้ารูปภาพรูปงูที่กำลังแยกเขี้ยวอย่างชั่วร้าย

    ศาสตร์มืดมัลฟอยบอกรหัสผ่าน  งูในรูปขดตัวลงบนพื้นอย่างเกียจคร้านและปล่อยให้พวกเขาเดินทะลุรูปภาพไปได้  ข้างในเป็นห้องรับแขกที่โอ่โถง  ถึงแม้จะดูเก่าแก่ไปบ้างก็ตาม  เฮอร์ไมโอนี่เดาว่าเดิมมันคงเป็นห้องรับแขกของครอบครัวริดเดิ้ลมาก่อน  แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นห้องสำหรับต้อนรับผู้เสพความตายที่แวะเวียนเข้ามาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย

    ในห้องนั้นลูเซียส  มัลฟอยกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ข้างเตาผิง  เปลวไฟลุกไหวราวกับกำลังเต้นรำ เดรโกพาเฮอร์ไมโอนี่เดินไปหาพ่อเขา

    ที่นี่เป็นอย่างไรบ้างเกรนเจอร์ ลูเซียส  มัลฟอยถามพลางมองไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น  ภาพเก่าคร่ำคร่าของครอบครัวริดเดิ้ลยังคงแขวนอยู่บนผนัง พอจะเหมือนบ้านของมักเกิ้ลที่เธอเคยอยู่ไหม เขาว่า

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบ  แต่เด็กสาวก็มองไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น  เช่นเดียวกับที่เธอพยายามทำทุกครั้งเมื่อเธอมีโอกาสได้ออกไปจากห้องนอน  เธอต้องการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้อย่างละเอียด  เพราะถ้าเธอบังเอิญรอดออกไป  แม้ว่ามันจะแทบเป็นไปไม่ได้ก็ตาม  เธอก็จะได้บอกรายละเอียดเหล่านี้กับเพื่อนรักของเธอรวมทั้งภาคีด้วย

    ดูเข้าไปให้เต็มตาเถอะเกรนเจอร์ เสียงของนายมัลฟอยดังขึ้นราวกับรู้ทัน เธออยากจะจดจำอะไรก็ตามใจเธอเถอะนะ  ไหน ๆ เธอก็จะอยู่ที่นี่เป็นวันสุดท้ายแล้ว นายลูเซียสพูด  เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสงสัย แต่ไม่นานเธอก็สามารถเข้าใจได้  พวกเขากำลังจะฆ่าเธอ!!!

    โวลเดอมอร์คงมองไม่เห็นหนทางที่จะทำให้เธอเปิดปากพูดอะไรออกมา  เช่นเดียวกับที่เขาไม่คิดว่าเธอจะเป็นประโยชน์ต่อเขาอีกต่อไป  เขาเลยต้องการกำจัดเธอทิ้ง  แถมนายลูเซียสยังเรียกลูกชายของเธอมาดูความตายของเธอเสียด้วย!

    แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับไม่รู้สึกกลัวความตายแต่อย่างใด  บางทีดัมเบิลดอร์อาจจะพูดถูก  สำหรับจิตใจที่จัดระเบียบดีแล้วความตายเป็นเพียงการผจญภัยอย่างหนึ่งเท่านั้น  แต่สำหรับเธอแล้วความตายของเธอกลับเป็นหนทางที่เธอจะหลุดพ้น  หลุดพ้นจากสถานที่นี้  หลุดพ้นจากความทรมาน  และหลุดพ้นจากนรกแห่งนี้เสียที

    และเธอก็จะได้เจอพ่อและแม่ของเธออีกครั้ง

    พร้อมหรือยังเกรนเจอร์เสียงของนายมัลฟอยปลุกเธอให้ตื่นขึ้นจากภวังค์  เด็กสาวหันไปมอง  และเธอก็เห็นว่าเขาชี้ไม้กายสิทธิ์มาทางเธอ

    เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรมของตัวเอง

     

    ……………………………………………………………

     

    นายลูเซียสพึมพำอะไรบางอย่างที่แผ่วเบาจนเฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถได้ยิน  และก็เกิดแสงสว่างจ้าบาดตาก่อนที่แรงดึงดูดมหาศาลจะดูดร่างของเธอเข้าไป  เด็กสาวรู้สึกว่าร่างกายแผ่วเบาอย่างแปลกประหลาดราวกับเหมือนเธอไม่ได้ยืนอยู่บนพื้นแต่กำลังลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศ

    สายลมวิ่งผ่านร่างกายของเฮอร์ไมโอนี่อย่างรวดเร็ว  หรือถ้าคิดในอีกด้านหนึ่งร่างกายของเธอต่างหากที่กำลังเดินทางผ่านอากาศด้วยความเร็ว  จนในที่สุดเมื่อถึงจุดหมายปลายทางทุกอย่างก็หยุดลง  เด็กสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองไปรอบ ๆ

    เธอกำลังอยู่ในห้องโถงที่กว้างใหญ่และมีบรรยากาศทึบทึมที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา  เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีโอกาสสำรวจรอบกายได้นานนักเพราะเสียงป็อปที่ดังขึ้นแทบจะทันทีที่ร่างของเธอมาถึงพื้นตามมาด้วยการปรากฏตัวของลูเซียสและเดรโก

    เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่พวกเขาอย่างงุนงง  และดูเหมือนว่านายมัลฟอยจะอ่านใจเธอออก

    ที่นี่คือคฤหาสน์มัลฟอยเขาพูด และที่นี่คือที่อยู่ใหม่ของเธอเฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

    จอมมารไม่ต้องการฆ่าเธอ แต่ท่านก็ไม่ต้องการให้เธอออกไปแพร่งพรายความลับเกี่ยวกับกองบัญชาการของเราลูเซียส  มัลฟอยอธิบายต่อ ท่านจึงยกเธอมาให้ฉัน  เป็นรางวัลที่ฉันนำตัวเธอกลับไปที่กองบัญชาการ

    หมายความว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไป  เธอคือทาสรับใช้ของฉันและครอบครัวนี้

     

    ……………………………………………………………

     

    ราวกับสายฟ้าฟาดลงตรงกลางกระหม่อม  เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยรู้สึกตกใจเท่านี้มาก่อนในชีวิตเลย  เด็กสาวมองไปที่มัลฟอยพ่อลูกอย่างไม่อยากเชื่อในชะตากรรมของตัวเอง

    เธอต้องมาเป็นทาสรับใช้ครอบครัวมัลฟอย นี่มันบัดซบอะไรกันนี่!!!

    ฉันจะไม่มีวันเป็นทาสรับใช้แก!” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน  นายลูเซียสยิ้มที่มุมปาก

    แล้วเธอจะทำอะไรได้  เกรนเจอร์ลูเซียส  มัลฟอยพูดพลางชี้ไม้ของเขามาที่เธอ เลือดสีโคลนอย่างเธอน่ะถ้าไม่มีไม้กายสิทธิ์ก็เป็นเพียงมักเกิ้ลธรรมดาเท่านั้นรอยยิ้มของนายมัลฟอยฉายแววดูถูก

    ไหนลองบอกสิว่าเธอจะเอากำลังที่ไหนมาขัดขืนฉันนายลูเซียสพูดอย่างร้ายกาจ  เดรโกเองก็ยิ้มเยาะเธอตามพ่อของเขาไปด้วย  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยรู้สึกโกรธเท่านี้มาก่อน

    พวกแกมัน...........ไม่ใช่คน!” เด็กสาวตะโกน  น้ำตาคลอเอ่อดวงตา  นายมัลฟอยมองเธอด้วยแววตาดุดัน

    อย่าบังอาจอวดดีกับฉัน  นังเด็กเลือดสีโคลนสกปรก!!!” นายลูเซียสแผดเสียงก่อนที่ไม้เท้าของเขาจะฟาดเข้าที่แก้มของเฮอร์ไมโอนี่อย่างจัง  เด็กสาวล้มลงกับพื้นทันที

    ตอนนี้เธอเป็นทาสรับใช้ฉัน  ชีวิตเธอเป็นของฉันนายลูเซียสพูด  เขาก้าวยาว ๆ ไปทางเฮอร์ไมโอนี่และเอาไม้เท้าในมือเคยชางของเธอขึ้นมา

    เด็กสาวจ้องตาเขาอย่างไม่เกรงกลัว  ถึงแม้ริมฝีปากจะบวมช้ำและมีเลือดออกก็ตาม  แต่เหมือนกับเธอไม่สนใจความเจ็บปวดของตัวเองเลย  เธอและนายมัลฟอยต่างจ้องหน้ากันอยู่นาน  จนกระทั่งลูเซียส  มัลฟอยสะบัดไม้เท้าออกจากใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่อย่างรังเกียจ  เขามองเธอด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะก้าวยาว ๆ ผ่านเธอไปหาเดรโกลูกชาย

    เฝ้าไว้ให้ดี  อย่าให้หนีไปไหนได้

     

    ……………………………………………………………

     

    มัลฟอยรับคำและทำตามคำสั่งของพ่ออย่างเคร่งครัด

    ลุกขึ้นเกรนเจอร์เขาพูด เฮอร์ไมโอนี่นั่งนิ่งไม่ไหวติง  ราวกับว่าเข่าของเธอจมลงไปในพื้นหินอ่อน มัลฟอยมองเธออย่างโมโหก่อนจะเข้ามาลากตัวเธอขึ้นจากพื้น

    มานี่!” เขาพูดพลางดึงแขนเด็กสาว  เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นรนทันที

    นายจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ!” เธอร้อง  มัลฟอยเลิกคิ้ว

    คิดว่าฉันอยากสัมผัสร่างกายโสโครกของเธอนักเหรอมัลฟอยพูดดูถูก แค่ต้องทนสูดอากาศร่วมโลกกับคนอย่างเธอฉันก็แทบจะหายใจไม่ออกแล้วเขาพูดพลางเบ้หน้าอย่างรังเกียจ

    แล้วนึกเหรอว่าฉันอยากจะอยู่ร่วมโลกกับคนเลว ๆ อย่างพวกนายน่ะ  เลือดชั่ว ๆ ของนายก็ไม่ได้ต่างจากสายเลือดของฉันที่นายคิดว่ามันสกปรกเลยเฮอร์ไมโอนี่โต้กลับอย่างเผ็ดร้อน  มัลฟอยชะงัก  เขาบีบแขนเธอแน่น

    เธอควรจะสงบปากสงบคำเสียจะดีกว่านะเกรนเจอร์มัลฟอยแนะนำ หรือเธอลืมไปแล้วว่าเธอกำลังอยู่ในฐานะอะไรเขาพูด  เฮอร์ไมโอนี่เม้มริมฝีปากแน่น  น้ำตาคลอเอ่อดวงตา เธอรู้ตัวดีว่าตอนนี้เธอเป็นทาสรับใช้พวกเขา

    ฉันจะไม่อยู่ที่นี่ตลอดไปหรอก  สักวันแฮร์รี่กับรอนต้องมาช่วยฉันเด็กสาวกัดฟันพูด  มัลฟอยมองเธอพร้อมกับยิ้มเยาะ

    อ้อ อย่างนั้นหรือ  เธอคิดว่าพอตตี้กับวีเซิ่ลจะมาช่วยเธอออกไปจากที่นี่ได้หรือมัลฟอยหัวเราะในลำคอราวกับมันเป็นเรื่องสนุกสนาน คิดเสียใหม่เถอะนะเกรนเจอร์ จะไม่มีใครสามารถช่วยเธอออกไปจากที่นี่ได้

    เฮอร์ไมโอนี่เชิดหน้าขึ้นอย่างไม่หวั่นไหวต่อคำพูดของมัลฟอย

    ฉันมั่นใจว่าแฮร์รี่กับรอนต้องมาช่วยฉันมัลฟอยเฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างหนักแน่น และเขากับสมาชิกภาคีคนอื่น ๆ จะต้องโยนครอบครัวนายเข้าอัซคาบัน!!!” เด็กสาวแผดเสียง  มีริ้วรอยแดง ๆ ปรากฏขึ้นบนแก้มของมัลฟอยทันทีที่เฮอร์ไมโอนี่พูดจบ  มือสองข้างของเด็กหนุ่มบีบไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่อย่างแรง

    พ่อฉันจะไม่มีวันกลับไปที่อัซคาบันอีก  รวมถึงตัวฉันด้วยมัลฟอยพูดอย่างเกรี้ยวกราด แต่เธอต่างหากเกรนเจอร์ เธอต่างหากที่ต้องถูกขังอยู่ที่นี่

    ตลอดไป!!!”

     

    ……………………………………………………………

     

    มัลฟอยพาเฮอร์ไมโอนี่ไปที่ห้องนอนของเธอที่อยู่ที่ทางปีกด้านตะวันตกของคฤหาสน์  ห้องนอนที่เธอต้องอยู่นั้นก็เหมือนกับห้องสำหรับรับรองแขกธรรมดา  ในห้องมีเตียง  ตู้เสื้อผ้า  และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพียงพอที่จะพักอาศัยอยู่ได้

    เฮอร์ไมโอนี่เดาเอาว่าครอบครัวพ่อมดแม่มดแท้ ๆ เช่นครอบครัวมัลฟอยคงไม่เคยรับคนรับใช้ที่เป็นคนมาทำงาน  พวกเขาจึงไม่สามารถหาห้องนอนที่เก่าและสกปรกสมกับฐานะของเธอมาให้เธอได้  ถึงแม้ว่าห้องนี้จะไม่กว้างขวางมากนัก  แต่ก็จัดว่าดีกว่าห้องที่เธออยู่ในบ้านริ้ดเดิ้ลตลอดหนึ่งสัปดาห์วันที่ผ่านมามากทีเดียว

    มัลฟอยไม่ยอมเข้ามาในห้อง  เขาแค่พาเฮอร์ไมโอนี่มาส่งและก็โยนเธอเข้าไปพร้อมกับอธิบายอะไรสองสามอย่าง

    เธอต้องพักอยู่ที่นี่ เขาเริ่มพูด ในตู้มีเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็นอยู่  พอถึงเวลาอาหารจะมีเอลฟ์มาพาไปที่ห้องอาหาร  และฉันจะมาหาทีหลังถ้าต้องการเรียกใช้ พอพูดจบมัลฟอยที่กำลังจะหมุนตัวเดินออกจากห้องก็ชะงักฝีเท้าไว้ก่อน

    ที่สำคัญคือ อย่า-คิด-หนี เขาเน้น เพราะฉันมีวิธีมากมายที่จะทำให้เธอหลาบจำว่าการไม่เชื่อฟังคำสั่งของฉันเป็นอย่างไรมัลฟอยพูดอย่างชัดเจนก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป  ตามด้วยเสียงปิดประตูอย่างแรง

    ทันทีที่ประตูปิดลง  เฮอร์ไมโอนี่ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น  น้ำตามากมายเปรอะเต็มสองแก้ม  เด็กสาวทิ้งตัวลงบนเตียงร้องไห้จนตัวโยน

     

    นี่เธอจะต้องอยู่ที่นี่ตลอดไปอย่างนั้นหรือ!’

     

    เด็กสาวคิดอย่างขมขื่น  เธอสู้อุตส่าห์จากนรกที่บ้านริ้ดเดิ้ลมาเพื่อเจอนรกที่เลวร้ายกว่าหรือนี่  เด็กสาวสะอื้น  เอามือปิดใบหน้าและร้องไห้หนักที่สุดเท่าที่เธอเคยร้องมาก่อน

    พ่อคะ แม่คะเฮอร์ไมโอนี่รำพัน หนูอยากพบพ่อกับแม่เด็กสาวล้มตัวลงนอน  เธอซบใบหน้ากับหมอนใบโตซึ่งกำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของเธอ

    แฮร์รี่.........รอน...........ใครก็ได้เธอสะอื้น ได้โปรดมาช่วยฉัน ช่วยฉันออกไปจากที่นี่ที

     

     

    *************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×