ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เธอคือทาสหัวใจของฉัน [ เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย ]

    ลำดับตอนที่ #3 : วิถีชีวิตที่แตกต่าง: The difference kind of life

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.55K
      209
      9 มิ.ย. 55


    ***Chapter 3 วิถีชีวิตที่แตกต่าง: The Differnence kind of life***

     

      

     

    เฮอร์ไมโอนี่สะลึมละลือตื่นขึ้นมาด้วยเสียงปลุกจากใครบางคน

    คุณคะ คุณคะ ตื่นเถอะค่ะเสียงนั้นดูเหมือนจะดังมาจากที่ไกล ๆ เฮอร์ไมโอนี่พยายามลืมหนังตาที่หนักอึ้งขึ้นจากตาบวมเบ่งเพราะผ่านการร้องไห้มาทั้งคืนของเธอขึ้นมา  สิ่งที่เธอพบก็คือลูกกลม ๆ สีฟ้าราวกับลูกบอลชายหาดขนาดจิ๋วกำลังลอยอยู่ตรงหน้าของเธอ

    เด็กสาวขยี้ตา  และมองภาพตรงหน้าชัด ๆ อีกครั้งก่อนจะพบว่ามันเป็นเอลฟ์ตัวหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนด็อบบี้ไม่มีผิดเพี้ยน  ต่างกันตรงที่เอลฟ์ตัวนี้มีดวงตาสีฟ้าสดใส

    ตื่นเถิดค่ะคุณ  เป็นได้เวลาแล้ว  คุณตื่นเถิดค่ะเอลฟ์เขย่าตัวเฮอร์ไมโอนี่อย่างเกรง ๆ

    เด็กสาวยันตัวขึ้นจากเตียงอย่างงัวเงีย  เธอจำไม่ได้เลยว่าเมื่อคืนเธอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่  แล้วทำไมเอลฟ์ตัวนี้ถึงมาอยู่ที่นี่  ชั่วขณะนั้นเธอเผลอคิดไปว่าเธอกำลังอยู่ที่บ้านของเธอ  หรือไม่ก็ที่บ้านโพรงกระต่าย

     แต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบ ๆ ตัว ความรู้สึกเมื่อครู่ก็แตกสลายไปในพริบตา  เพราะว่าตอนนี้เธอพบว่าเธอกำลังอยู่ในคฤหาสน์มัลฟอย

    คุณคะ ได้โปรดตื่นเถิดคะเอลฟ์ตัวน้อยพูดพลางเขย่าตัวเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง  เด็กสาวหันไปสนใจมัน

    เป็นนายท่านให้อิฉันมาปลุกคุณค่ะ  เป็นได้เวลาอาหารเช้าแล้วค่ะมันพูด  เป็นการย้ำเตือนเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งว่าเธออยู่ในคฤหาสน์มัลฟอยจริง ๆ

    คุณได้โปรดลงไปที่ห้องอาหารเถอะค่ะ  เร็วค่ะ  ก่อนที่นายท่านจะโกรธเอลฟ์เพศหญิงตัวนั้นพูดแต่เฮอร์ไมโอนี่ยังคงนิ่งเฉย

    ฉันจะไม่ลงไปกินอาหารเธอตอบ  ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าการอดอาหารจะไม่เป็นประโยชน์อย่างใดก็ตาม แต่เธอไม่ต้องการลงไปเจอหน้าครอบครัวมัลฟอยที่เธอรังเกียจ

    เป็นไม่ได้นะคะ  เป็นคุณต้องลงไปทานอาหารค่ะ  เป็นนายท่านสั่งนะคะเอลฟ์พูดพลางส่ายหัวอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่จะไม่ยอมไป  แต่เด็กสาวไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ ยิ่งเมื่อเธอเห็นว่าเป็นคำสั่งของนายลูเซียสด้วยแล้ว  เธอยิ่งไม่อยากลงไปยิ่งขึ้น

    เพราะเธอต้องการให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่เขาจะมาออกคำสั่งได้

    ได้โปรดเถอะค่ะ  ได้โปรดทำตามคำสั่งนายท่าน  ลงไปทานอาหารนะคะคุณเอลฟ์ยังคงพูดต่อไปเรื่อย ๆ แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจมัน  แม้ว่าปรกติแล้วเธอจะแคร์ความรู้สึกของเอลฟ์ประจำบ้านมากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ก็ตาม

    ฉันจะไม่ลงไป  ช่วยไปบอกนายท่านของเธอด้วยว่า.....” เฮอร์ไมโอนี่กำลังพูด  แต่เธอก็ต้องชะงักเมื่อประตูห้องของเธอเปิดออก  เผยให้เห็นร่างของเด็กหนุ่มผมบลอนด์ที่กำลังมองมาทางเธออย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

    พ่อฉันให้มาตามลงไปที่ห้องอาหารมัลฟอยกล่าวเรียบ ๆ กราดสายตามามองที่เธอและมาหยุดที่เอลฟ์สาว

    พ่อฉันบอกให้แกมาตามเธอไม่ใช่หรือ  แล้วแกมัวทำอะไรอยู่เขาพูด  ร่างเล็ก ๆ ของเอลฟ์ประจำบ้านสั่นเทิ้มด้วยความกลัว

    เป็นดีน่ากำลังขอให้คุณผู้หญิงลงไปทานอาหารเอลฟ์นามดีน่าพูดด้วยท่าทีหวาดกลัว เป็นคุณผู้หญิงบอกว่าเธอจะไม่ลงไป  เป็นดีน่ากำลังขอร้องเธอให้ลงไปที่ห้องอาหารดีน่าพูดรวดเร็ว  ตัวของมันสั่นมากขึ้นเมื่อมัลฟอยก้าวมาหยุดข้างเตียงที่มันและเฮอร์ไมโอนี่กำลังนั่งอยู่

    พ่อของฉันสั่งให้แกมาพายายนี่ลงไปที่ห้องอาหารมัลฟอยพูด  จ้องมองดีน่าด้วยแววตาดุดัน แต่แกกลับไปเอ้อระเหยจนฉันต้องขึ้นมาตามเองเขาพูดอย่างโกรธเคือง  เอลฟ์ประจำบ้านที่ชื่อดีน่าตัวสั่นอยู่ข้าง ๆ เฮอร์ไมโอนี่

    แกรู้ใช่ไหมว่าการขัดคำสั่งพ่อของฉันจะต้องได้รับการลงโทษอย่างไรมัลฟอยพูด  ดีน่าพยักหน้าอย่างหวาด ๆ ดวงตาสีฟ้าดวงโตมีคราบน้ำตาเอ่อ  ก่อนที่มันจะคว้าโคมไฟมาทุบหัว

    ดีน่าเลว ดีน่าเลวมันร้องพร้อมกับกระแทกหัวเข้ากับโคมไฟอย่างแรง  เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างตกใจก่อนที่จะดึงมันออกมา อย่าดีน่า! ’ แต่ดีน่ากลับไม่ยอมปล่อยมือจากโคมไฟในมือ

    อย่าห้ามดีน่าค่ะคุณผู้หญิง  เธอต้องลงโทษตัวเอง  เธอขัดคำสั่งนายมันพูดก่อนจะวิ่งเข้าชนกำแพงเมื่อเฮอร์ไมโอนี่แย่งโคมไฟมาจากมือมันได้แล้ว  เด็กสาวมองมันอย่างตกใจ  แต่มัลฟอยกลับดูภาพตรงหน้าพร้อมกับหัวเราะหึ ๆ

    นาย!” เฮอร์ไมโอนี่ร้อง หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ หยุดลงโทษดีน่าเดี๋ยวนี้

    คนรับใช้ไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับเจ้านายเกรนเจอร์มัลฟอยพูดอย่างอารมณ์ดี  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงด้วยความโกรธ

    นายต้องหยุดดีน่าเดี๋ยวนี้นะมัลฟอย  นายจะทำมันตายเอาเธอพูดอย่างร้อนรน

    ไม่ถึงกับตายหรอก  แต่อาจจะสาหัสหน่อยนึงเขาตอบกลับมาอย่างกวน ๆ  เฮอร์ไมโอนี่ถลึงตาใส่เขาในขณะที่ดีน่ากำลังเอาหัวโขกกำแพงอย่างเอาเป็นเอาตาย

    ฉันไม่จำเป็นต้องห้ามไม่ให้มันทำโทษตัวเอง  เว้นแต่........มัลฟอยพูดลากเสียงพร้อมกับมองมาทางเฮอร์ไมโอนี่

    เว้นแต่อะไรเธอถามทันที

    เว้นแต่เธอจะขอร้องฉัน

     

    ……………………………………………………………

     

    อะไรนะ!” เธอพูดซ้ำทันที  มัลฟอยเบ้หน้า

    ขอร้องเกรนเจอร์  ขอร้องอ้อนวอนฉัน  เธอก็รู้นี่ว่าฉันเป็นคนเดียวที่หยุดมันได้มัลฟอยพูดอย่างอย่างอารมณ์ดี

    นายมันทุเรศที่สุดเธอพูดอย่างมีโมโห  มัลฟอยยิ้มมุมปาก

    ก็ได้  ถ้าไม่พูดฉันก็จะปล่อยไว้อย่างนี้แหละเขาว่า  ปรายตามองไปทางดีน่าที่เริ่มเอาหัวหนีบประตู เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิดอย่างชั่งใจ

    ก็ได้  ฉันขอร้องให้นายช่วยดีน่าเธอพูดเสียงกระด้าง

    นี่หรือคำขอร้องของเธอ  มันเรียกว่าตะคอกมากกว่ามั้ง  พูดดี ๆ ไม่เป็นหรือไงมัลฟอยบ่น

    ฉันก็พูดเป็นแต่อย่างนี้แหละเฮอร์ไมโอนี่โต้ บอกให้ดีน่าหยุดได้แล้ว

    ไม่  เธอต้องพูดใหม่  คำว่า ได้โปรดน่ะ พูดเป็นไหมมัลฟอยสั่ง  เฮอร์ไมโอนี่อยากจะสาปใบหน้ายียวนของเขาให้เต็มไปด้วยฝีหนองเสียเหลือเกิน  แต่เธอไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะทำเช่นนั้นได้

    มัลฟอย ช่วยดีน่าด้วย เด็กสาวว่า ได้โปรดเฮอร์ไมโอนี่กัดฟันพูดคำที่กระดากปากที่สุดในชีวิตของเธอออกไป  มัลฟอยมองเธออย่างพอใจ  ก่อนที่จะหันไปพูดกับเอลฟ์สาว

    พอได้แล้วเขาว่า  ดีน่าชะงักการกระทำทันที มั นค่อย ๆ ดึงหัวของมันออกมาจากประตูตู้เสื้อผ้าอย่างยากลำบาก  หูของมันยับไปข้างหนึ่งก่อนที่มันจะเดินเอียง ๆ มาหามัลฟอย

    ขอบคุณนายน้อยมันพึมพำพร้อมกับก้มศีรษะลงต่ำ  แต่มัลฟอยไม่สนใจมัน

    เอาล่ะ  ทีนี้เธอก็ลงไปที่ห้องอาหารได้แล้วมัลฟอยหันมาสั่งเฮอร์ไมโอนี่

    ใครบอกว่าฉันจะลงไป  ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้นเด็กสาวพูด  เชิดหน้านึ่งอย่างถือดี  มัลฟอยมองเธอแล้วเขาก็แสยะยิ้มมุมปาก

    ถ้าเธอไม่ยอมไปล่ะก็  ฉันจะสั่งให้มันไปกระโดดทะเลสาบเสียเลย!”

     

    ……………………………………………………………

     

    เฮอร์ไมโอนี่เดินตามมัลฟอยลงมาที่ห้องอาหารอย่างไม่เต็มใจนัก  ตลอดทางที่เธอเดินนั้นมีเสียงซุบซิบดังขึ้นทุกย่างก้าวของเธอ  บรรดารูปภาพต่างพากันกระซิบและชี้ให้กันดูเด็กสาว  รูปบางรูปทำหน้ารังเกียจเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้  ราวกับว่าเธอเป็นกองขยะเดินได้ที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นอย่างร้ายกาจ  แต่เด็กสาวก็รู้ดีว่าไม่มีอะไรในบ้านนี้ต้อนรับแม้เพียงเศษเสี้ยวของเธอ

    เดรโกพาเธอลงมายังห้องโถงอีกครั้ง แต่เมื่อพวกเขามาถึงนายลูเซียสก็กำลังจะออกไปทำงานเสียแล้ว

    ฉันนึกว่าแกจะไม่ลงมาเสียแล้วเขาหันไปตำหนิลูกชาย ฉันบอกให้แกไปตามหล่อนลงมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือนายลูเซียสพูด  เขากำลังยืนอยู่หน้าเตาผิงอันใหญ่ข้าง ๆ เขาก็คือนางนาร์ซิสซา ภรรยาของลูเซียส

    ขอโทษครับพ่อมัลฟอยเอ่ยอย่างเกรง ๆ นายลูเซียสโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ

    ช่างเถอะ ฉันจะออกไปทำงานแล้วเขาพูด  ขณะที่เอลฟ์อีกตัวหนึ่งส่งเสื้อคลุมสีดำไปให้นายลูเซียส  เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าคำว่า ไปทำงาน ของนายมัลฟอยนั้นหมายความว่าอย่างไร

    ฉันต้องออกไปทำงานซักระยะหนึ่ง  อาจจะกลับมาที่บ้านไม่ได้เป็นอาทิตย์นายลูเซียสกล่าว แกอยู่ดูแลแม่แกให้ดี ๆ ด้วยก็แล้วกันเขาพูด  เดรโกพยักหน้ารับ นายลูเซียสเดินเข้ามาใกล้ลูกชายเพื่อจะพูดอะไรบางอย่าง

    แล้วก็อย่าให้เธอหนีไปได้ จอมมารต้องการใช้เธอ เข้าใจไหมนายมัลฟอยกระซิบ  เดรโกพยักหน้ารับ

    ครับพ่อเมื่อลูกชายรับคำนายมัลฟอยหันไปทางภรรยาของเขา

    ฉันไปนะเขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่สุดเท่าที่เฮอร์ไมโอนี่เคยเห็นสามีพูดกับภรรยาตัวเอง

    ค่ะนางมัลฟอยตอบด้วยน้ำเสียงเช่นเดียวกัน  นายมัลฟอยถอนใจเบา ๆ ก่อนที่จัดแจงก้าวเข้าไปในเตาผิง  แต่เขาก็กลับชะงักฝีเท้าและหันมาทางเฮอร์ไมโอนี่แทน

    แล้วเธอ ยายเลือดสีโคลนเขาเอ่ย ระหว่างที่ฉันไม่อยู่เธออย่าคิดว่าจะหนีไปไหนได้  ฉันร่ายคาถาป้องกันไว้รอบบ้านแล้วนายมัลฟอยพูด  เฮอร์ไมโอนี่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรไป  นางนาร์ซิสซาหันมามองเธอแวบหนึ่งอย่างไม่ค่อยสนใจ  จนในที่สุดนายลูเซียสก็เข้าไปในเตาผิงและหายไปกับเปลวไฟสีมรกต

    เธอคือเด็กที่เขาจับมาอย่างนั้นหรือนางนาร์ซิสซาพูดกับเธอ  เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากทีเดียว และเธอก็ไม่ทำหน้าเหมือนมีของเหม็นมาจ่ออยู่ใต้จมูกอีกแล้ว  ใบหน้าของเธอดูสวยอย่างหมดจด  ผมสีทองรวบเป็นมวยตึงอยู่บนศีรษะแบบเดียวกับศาสตราจารย์มักกอนนากัล  เธอสวมชุดสีดำทั้งชุด  แววตาสีฟ้าของเธอออกจะดูเหม่อลอย

    ค่ะเฮอร์ไมโอนี่ตอบ  น่าแปลกที่เธอไม่ได้รู้สึกว่านางมัลฟอยดูชั่วร้ายอย่างที่ควรจะเป็น  อาจจะเป็นเพราะนางไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์เฮอร์ไมโอนี่ออกมาทางแววตาที่นางใช้มองเธอ แต่นาร์ซิสซากลับมองเธอด้วยแววตาสีฟ้าที่ดูเหมือนไร้ความรู้สึก  ราวกับเธอไม่ได้ตั้งใจมองเฮอร์ไมโอนี่  นางมัลฟอยขยับริมฝีปากจะพูดอะไรบางอย่าง  แต่เดรโกลูกชายของเธอมาดึงตัวเธอไปก่อน

    แม่ขึ้นไปพักดีกว่า เดรโกพูด  มองแม่ของเขาด้วยแววตาห่วงใยที่หาได้ยากนักขณะที่นางมัลฟอยมีท่าทีเหม่อลอย

    มีใครอยู่แถวนี้บ้างไหม เขาตะโกน  และทันใดนั้นเองก็มีเสียงป็อปเบา ๆ ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเอลฟ์ประจำบ้านตัวหนึ่ง

    พานายหญิงไปที่ห้องนอน เด็กหนุ่มสั่ง  เอลฟ์เข้ามาประคองนางมัลฟอยขึ้นไปชั้นบนตามคำสั่งของเดรโก  เมื่อแม่ของเขาและเอลฟ์ประจำบ้านเดินลับตาไปแล้ว  เด็กหนุ่มก็หันมาทางเฮอร์ไมโอนี่

    อย่าคิดมายุ่งกับแม่ฉันเกรนเจอร์ มัลฟอยเตือน  เฮอร์ไมโอนี่ตาโต

    ใครยุ่งกับแม่นายกัน เห็นชัด ๆ ว่าแม่นายมาพูดกับฉันก่อน เธอโต้  มัลฟอยมองเธอด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

    ถึงอย่างไรก็ห้ามเธอยุ่งกับแม่ของฉันอีก  นี่เป็นคำสั่ง เขาพูดอย่างเฉียบขาด  เฮอร์ไมโอนี่เชิดหน้า

    ฉันจะไม่ฟังคำสั่งของใคร  โดยเฉพาะเธอและพ่อของเธอ  มัลฟอย เด็กสาวพูดอย่างถือดี  มัลฟอยยิ้มเหี้ยมเกรียม

    เธอต้องฟังคำสั่งของฉัน  เพราะตอนนี้เธอเป็นทาสรับใช้ของฉันเขาพูด และวันนี้ฉันต้องการให้เธอไปทำความสะอาดห้องนอนสำรองต่าง ๆ ที่ปีกตะวันออก  โดยไม่ใช่เวทย์มนตร์

    ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่มีวันทำตามคำสั่งนาย!” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน  เธอมองมัลฟอยอย่างไม่เกรงกลัว

    ดี!” เขาพูดรอดไรฟัน ดีน่ามานี่ซิ!” สิ้นเสียงของมัลฟอยก็มีเสียงป็อปดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการปรากฏตัวของเอลฟ์สาวนามว่าดีน่า

    นายน้อยมีอะไรให้ดีน่ารับใช้หรือเจ้าคะดีน่าถาม  เอามือลูบหูยับยู่ยี่ของมันซึ่งมาจากการลงโทษตัวเองเมื่อเช้า

    เอาหัวโขกกำแพงมัลฟอยสั่งเรียบ ๆ ดีน่ามีท่าทีตกใจกับคำสั่งที่ได้รับ  แต่เอลฟ์สาวก็เดินไปที่กำแพงและเริ่มเอาศีรษะโขกมันพร้อมกับตะโกนด่าตัวเอง ดีน่าเลว!”

    นี่นายจะทำอะไรน่ะ  อย่าเอาดีน่ามาเกี่ยวได้ไหมเฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงแหลม  มัลฟอยยิ้มเยาะ

    ฉันจะไม่ให้มันหยุดโขกจนกว่าเธอจะยอมทำงานแทนมันเกรนเจอร์  หรือฉันอาจจะเปลี่ยนใจให้มันเอาหัวหนีบเตาอบก็ได้เขาพูดอย่างถือไพ่เหนือกว่า เ ฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่น  เธอมองดีน่าที่กำลังเอาหัวโขกกำแพงอย่างสงสารจับใจ  ก่อนที่จะปรายสายตาไปมองมัลฟอยอย่างเคียดแค้น  แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น

    ได้  ฉันจะยอมทำตามที่นายสั่ง!”

     

    ……………………………………………………………

     

    นับจากวันนั้นเป็นต้นมาเฮอร์ไมโอนี่ก็กลายเป็นคนรับใช้ของตระกูลมัลฟอยอย่างเต็มรูปแบบ แต่ครอบครัวมัลฟอยไม่ยอมให้เธอแตะต้องอาหารหรือเสื้อผ้าของพวกเขา  เขาวางใจจะให้เอลฟ์ประจำบ้านเป็นคนซักรีดเสื้อผ้าและปรุงอาหารมากกว่าเลือดสีโคลนอย่างเธอ  หน้าที่ของเฮอร์ไมโอนี่ก็คือทำความสะอาดคฤหาสน์หลังยักษ์ของครอบครัวมัลฟอย  โดยเริ่มตั้งแต่ห้องนอนสำรองสำหรับแขก  ห้องนั่งเล่นที่มีมากมายจนนับไม่ถ้วน ห้องเก็บของ  ห้องถ้วยรางวัล  และอื่น ๆ อีกสารพัด  ซึ่งแน่นอนว่ามัลฟอยไม่ยอมให้เธอเข้าไปใกล้ห้องที่สำคัญต่าง ๆ เช่นห้องนอนของเขา  ห้องหนังสือ  ห้องเก็บเอกสาร ซึ่ งเฮอร์ไมโอนี่เดาเอาว่ามันคงจะมีความลับแอบซ่อนเอาไว้

    ผ่านไปสามวันหลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่มาอยู่ที่นี่  เธอเริ่มชินกับวิถีชีวิตแบบนี้มากกว่าเดิม  แน่นอนว่าเธอต้องทำงานในทุก ๆ วัน  แต่มัลฟอยก็ไม่ได้โหดร้ายอะไรกับเธอมากนัก  ทุก ๆ เช้าดีน่าจะเป็นคนมาปลุกเธอเพื่อให้เธอลงไปทานอาหารที่ห้องครัว (ครอบครัวมัลฟอยไม่อยากให้เฮอร์ไมโอนี่ร่วมโต๊ะอาหารด้วย)  หลังจากนั้นเดรโกจะเป็นคนสั่งเธอว่าเธอต้องทำอะไรบ้างในวันนี้  จากนั้นเขาก็จะปล่อยเธอทำงานเงียบ ๆ แต่คอยดูเธออยู่ห่าง ๆ  ความจริงเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าที่มัลฟอยไม่ได้หาเรื่องกลั่นแกล้งเธออย่างที่เขาต้องการอาจจะเป็นเพราะว่าเธอยังมีประโยชน์กับพวกเขาอยู่ก็ได้

    อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความรำคาญใจให้เฮอร์ไมโอนี่ก็คือทางเดินที่คดเคี้ยวและวกวนของคฤหาสน์หลังนี้ รวมทั้งความกว้างใหญ่ของมันด้วย  แม้ว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่หลายวันแล้วแต่เด็กสาวก็ยังไม่เคยชินกับมันสักที เด็กสาวหวังว่าเธอจะมีแผนที่ของคฤหาสน์หลังนี้สักใบเพื่อว่าเธอจะได้ไม่หลงทางอีก  แต่ถ้าลองคิดอีกอย่างหนึ่งการหลงทางก็ดีไม่ใช่น้อย เ พราะมันสามารถเป็นข้ออ้างในการเดินสำรวจคฤหาสน์ของเธอได้

    ในวันที่สามที่เฮอร์ไมโอนี่มาอยู่ที่นี่  นายมัลฟอยยังคงไม่กลับมาบ้าน  เฮอร์ไมโอนี่ไม่เห็นนางมัลฟอยทำอะไรนอกจากขลุกอยู่ในห้องหรือไม่ก็ลงมารับลมที่สวนหลังบ้าน  ซึ่งทุกฝีก้าวของนางล้วนแต่มีเอลฟ์ประจำบ้านคอยดูแลตลอด  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจเรื่องของนางเท่าไหร่นัก  ที่เธอสนใจก็คือการสำรวจคฤหาสน์หลังนี้ต่างหาก  และเฮอร์ไมโอนี่ก็ทำสำเร็จ  หลังจากที่เธอหลงทาง  ลองผิดลองถูกมาหลายต่อหลายครั้ง  เด็กสาวก็พบอะไรบางอย่างที่คุ้มค่าแก่การเดินวนเวียนอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้เป็นชั่วโมง

    ในบ่ายวันนั้นเฮอร์ไมโอนี่พบห้องหนังสือของนายลูเซียสเข้าโดยบังเอิญ  ระหว่างที่เธอพยายามจะหาห้องเก็บถ้วยรางวัลให้เจอ  ห้องหนังสือแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากทีเดียว  และมันถูกล้อมรอบด้วยชั้นหนังสือสูงจรดเพดาน  ซึ่งปรกติเฮอร์ไมโอนี่คงวิ่งเข้าหาพวกมันแล้วถ้าไม่ติดที่ว่ามันเป็นหนังสือที่อยู่ในคฤหาสน์มัลฟอย  ซึ่งเธอพนันได้เลยว่าของเกือบทุกอย่างที่อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืด

    ใจกลางห้องมีโต๊ะเขียนหนังสือตัวใหญ่  บนโต๊ะมีปากกาขนนกและขวดหมึกกับม้วนกระดาษสองสามม้วน  เฮอร์ไมโอนี่พยายามจะเปิดลิ้นชักโต๊ะออกแต่มันถูกล็อคเอาไว้  เด็กสาวก็เลยสำรวจรอบ ๆ ห้องแทน  มันเป็นห้องที่ใหญ่พอดูทีเดียว  ในห้องมีเพียงแสงสว่างจากเทียนไขบนโคมไฟที่ห้อยลงมาจากเพดานเหนือโต๊ะเขียนหนังสือพอดิบพอดี แ ต่ที่สะดุดตาเฮอร์ไมโอนี่ก็คือม่านอันเบ้อเริ่มที่อยู่หลังโต๊ะเขียนหนังสือ  มันมีขนาดใหญ่และเป็นมีเขียวเข้ม  ตอนแรกเด็กสาวคิดด้านหลังม่านจะเป็นหน้าต่าง  และเมื่อเธอตัดสินใจเลิกม่านออกเฮอร์ไมโอนี่จึงรู้ว่าแท้จริงมันแล้วข้างในนั้นคืออะไร

     

    ……………………………………………………………

     

    มันคือแผนที่!

    มันเป็นแผนที่ขนาดใหญ่ที่ดูเก่าคร่ำคร่าถูกปิดไว้บนกำแพงหลังผ้าม่าน  เด็กสาวจ้องมองแผนที่แผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าอย่างสนอกสนใจ มีตัวหนังสือสีเงินทอประกายอยู่ด้านบนสุดของมัน

     

    ตระกูลมัลฟอย ครอบครัวพ่อมดแม่มดที่บริสุทธิ์ที่สุด

    แผนที่คฤหาสน์มัลฟอย

     

    หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่จนแทบจะหลุดออกนอกอก  เธอค้นพบแผนที่ของคฤหาสน์หลังนี้ซึ่งมันจะบอกเธอถึงห้องทุกห้องในคฤหาสน์แห่งนี้  เด็กสาวจ้องดูแผนที่อย่างสนอกสนใจ  หัวใจของเธอยิ่งเต้นแรงขึ้นเมื่อเธอเห็นห้องที่เธอกำลังอยู่ขณะนี้มีป้ายชื่อขึ้นมาพร้อมกับจุดเล็ก ๆ ที่แสดงตำแหน่งที่เธอยืน ป้ายชื่อนั้นเขียนว่า เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์เด็กสาวสำรวจแผนที่ซึ่งคล้าย ๆ กับแผนที่ตัวกวนอย่างกระตืนรือร้นและพบว่าป้ายชื่อของนางนาร์ซิสซานั้นกำลังอยู่ในห้องนอนชั้นบน  ส่วนเอลฟ์สาวดีน่านั้นกำลังอยู่ในห้องครัวพร้อมกับเอลฟ์ตัวอื่น ๆ เพื่อเตรียมอาหารค่ำ

    เฮอร์ไมโอนี่ไล่นิ้วไปตามแผนที่สีเหลืองเก่าแก่  และเธอก็พบอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงกว่าเก่า  เพราะว่ามันคือทางลับออกไปนอกคฤหาสน์ซึ่งมีอยู่ราว ๆ 4 5 ทาง  และทางที่ใกล้ที่สุดซึ่งจะนำเธอออกไปข้างนอกก็คือทางลับที่อยู่ด้านหลังแผนที่ตรงหน้าของเธอ

    เด็กสาวมองแผนที่อย่างระทึก  นี่เป็นทางรอดทางเดียวของเธอ  เป็นทางที่เธอจะกลับไปพบเพื่อนรักของเธอและสมาชิกภาคีได้  เฮอร์ไมโอนี่รีบคลำหาทางเข้าทางลับนั้นทันที  แต่หลังจากพยายามอยู่นานและไม่ประสบความสำเร็จดูเหมือนว่าแผนที่จะรู้ใจเธอ  มันบอกเคล็ดลับบางอย่างมาให้โดยการแสดงให้เธอเห็นแผ่นป้ายเล็ก ๆ ในแผนที่อ่านได้ว่า นอร์โมโรอัส

     

    นอร์โมโรอัส เฮอร์ไมโอนี่พึมพำตามคำที่อ่านจากแผ่นป้าย  ตาจ้องมองแผนที่

    แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แผนที่ขนาดยักษ์ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด บางทีอาจจะต้องใช้ไม้กายสิทธิ์ในการเปิดมัน  เด็กสาวครุ่นคิด  แต่เธอจะทำได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่มีไม้กายสิทธิ์  ไม้ของเธอถูกริบไปตั้งแต่เธอถูกลูเซียส มัลฟอยจับตัวได้  

    เด็กสาวพยายามสำรวจแผนที่นั้นอีกครั้งเพื่อหาทางเปิดทางลับนั้นให้ได้  แต่เมื่อเธอสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเด็กสาวก็ตกใจอย่างมาก  หัวใจเธอเต้นแรงยิ่งกว่าครั้งที่เธอเจอทางลับ  มันไม่ใช่เพราะความตื่นเต้น แต่เป็นเพราะความหวาดกลัว

    ป้ายชื่อหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่หน้าห้องหนังสือที่เธออยู่  ซึ่งมันบอกชื่อของเดรโก มัลฟอย

     

     

    *************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×