ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องห้ามระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย

    ลำดับตอนที่ #17 : เรื่องราวของโรส

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 48


    ***Chapter 17 เรื่องราวของโรส***



    “เธอว่าอะไรนะ” เฮอร์ไมโอนี่หันกลับไปถามแพนซี่

    “ฉันพูดว่าเธอไปฮอกมี้ดส์กับมัลฟอยมาใช่ไหม” แพนซี่พูด  เธอก้าวเข้ามาประชิดตัวเฮอร์ไมโอนี่

    “อะไรทำให้เธอคิดอย่างนั้น  แพนซี่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันไม่ได้ไปฮอกมี้ดส์กับมัลฟอย”

    “แต่ฉันเห็นเธอเดินกับเขาที่นั่น  ทั้ง ๆ ที่เขาบอกฉันว่าจะไปเที่ยวกับแครบและกอยล์” แพนซี่พูด  

    “เหรอ...” เฮอร์ไมโอนี่พยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปรกติ “บางทีเธออาจจะตาฝาดไปก็ได้นะแพนซี่” เด็กสาวพูดและกำลังจะเดินห่างออกจากเธอ

    “ฉันไม่ได้ตาฝาด” แพนซี่พูดเสียงดัง “ฉันก็อยากจะคิดว่าฉันตาฝาดที่เห็นเขาไปอยู่กับคนอย่างเธอ  แต่ฉันไม่ได้ตาฝาด  ฉันคิดว่าฉันเห็นเธอกับมัลฟอยอยู่ด้วยกัน” แพนซี่พูด  จ้องเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวกลืนน้ำลาย

    “และที่ฉันอยากรู้ก็คือ  เธอไปทำอะไรกับเขาที่นั่น” เธอพยายามเค้นความจริงมาจากเฮอร์ไมโอนี่  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ก็พยายามปิดบังมันอย่างสุดความสามารถ  แต่ก่อนที่จะทั้งสองจะได้ทำอะไร  ก่อนที่แพนซี่จะได้พูดอะไรออกไป  ประตูหอพรีเฟ็คก็เปิดขึ้นเสียก่อน  ตามด้วยการปรากฏตัวของบุคคลที่เธอกำลังเอ่ยถึง

    มัลฟอยมองภาพตรงหน้าอย่างแปลกใจ  

    “มัลฟอย” แพนซี่พึมพำ

    “พวกเธอทำอะไรกันอยู่” เขาถาม  หรี่ตาอย่างสงสัย

    “ฉัน...” แพนซี่อึกอัก  เธอไม่กล้าถามเขาตามตรงเรื่องที่เธอเห็นในวันนี้  แต่เธอก็ไม่อาจทนเก็บมันต่อไปได้

    “ฉันอยากรู้ว่าวันนี้เธอไปฮอกมี้ดส์กับใครมา” แพนซี่พูด

    “เธอก็น่าจะจำได้นี่ว่าฉันบอกเธอว่ายังไงแพนซี่” มัลฟอยเลิกคิ้ว “ฉันบอกว่าจะไปเที่ยวกับแครบและกอยล์ไม่ใช่รึ” เขาถาม

    “ฉันรู้  แต่ฉันเจอเขาสองคนที่ฮอกมี้ดส์  พวกเขาบอกว่าเธอไม่ได้มาเที่ยวด้วย” แพนซี่พูดออกไป  มัลฟอยมีท่าทีรำคาญ

    “ฉันคิดว่าฉันไม่จำเป็นต้องรายงานเธอทุกครั้งที่ฉันไปไหนนี่  ฉันมีสิทธิ์ที่จะไปที่ไหนก็ได้เท่าที่ฉันต้องการ” เขาพูดเสียงเข้ม  

    “รวมทั้งไปเที่ยวฮอกมี้ดส์กับเกรนเจอร์ด้วยใช่ไหม” แพนซี่พูดเสียงดัง  มัลฟอยชะงักเล็กน้อย  เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยสบตากันแวบหนึ่งราวกับต้องการปรึกษากันในใจ

    “เธอว่าเธอเห็นฉันเดินอยู่กับเกรนเจอร์หรือแพนซี่” มัลฟอยทวนคำ  

    “ฉันเห็นพวกเธออยู่ด้วยกันที่ฮอกมี้ดส์  และฉันคิดว่าเธอคงอธิบายได้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร  มัลฟอย”

    “ฉันไม่มีอะไรต้องอธิบาย  เพราะว่าฉันไม่ได้ไปเที่ยวกับเกรนเจอร์” มัลฟอยตอบ  

    “แต่ฉันเห็นเธอเดินด้วยกัน!” แพนซี่เถียง “เธอจะบอกฉันว่าฉันคิดไปเองงั้นหรือ”

    “เปล่า  ฉันแค่จะบอกว่าเธออาจจะดูผิดไป  บางทีฉันอาจจะเดินสวนกับเกรนเจอร์บนถนนก็เท่านั้น  เธออาจจะเห็นแค่นั้นและเอาไปตีความเอาเองทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย” มัลฟอยพูดเสียงดัง  แพนซี่ชะงัก  เธอมีท่าทีเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

    “แต่...”

    “เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะไปเดทกับคนอย่างเกรนเจอร์หรือ” มัลฟอยพูด  เขามองมาทางเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาเย็นชา

    “เอ่อ  ไม่” แพนซี่พูดด้วยท่าทีที่ดูโล่งอก  แม้เธอจะยังรู้สึกติดใจอยู่บ้างก็ตาม

    “ถ้าอย่างนั้นก็ดี” มัลฟอยพูด  เขาก็ดูโล่งอกเช่นเดียวกัน

    “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับฉันแล้วใช่ไหม” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น  มัลฟอยไม่ตอบ  เขามองเธออย่างรู้สึกผิดเล็กน้อยก่อนที่เด็กสาวจะหมุนตัวและเดินออกจากห้องไป

    “เกรน....” ร่างของเฮอร์ไมโอนี่หายลับไปจากประตูแล้วเมื่อมัลฟอยเอ่ยชื่อของเธอ

    “ฉันขอโทษนะมัลฟอย” แพนซี่พูดอย่างออดอ้อน  แต่มัลฟอยไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย  สายตาของเขามองตามแผ่นหลังของเฮอร์ไมโอนี่ที่หายลับไปจากหอ  เมื่อครู่มัลฟอยเกือบจะเรียกชื่อของเธอเพื่อรั้งตัวเธอไว้ แต่เด็กหนุ่มห้ามตัวเองทัน

    บางทีเรื่องของเขาสองคนอาจจะไม่ไช่เรื่องที่ควรจะเปิดเผยให้คนอื่นรู้



    *************************************************



    เฮอร์ไมโอนี่ตรงดิ่งกลับหอนอนและขังตัวเองอยู่บนห้อง  เธอจมอยู่กับความคิดของเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่  มันราวกับความฝัน  แวบหนึ่งที่มัลฟอยทำให้เธอฝันดีและมีความสุขที่สุด  แต่ในไม่ทันข้ามวันเขาก็กลับพูดกับเธอด้วยท่าทีไม่สนใจและกลับไปเป็นมัลฟอยคนเดิม

    บางทีที่เขาอาจจะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเราก็ได้

    เฮอร์ไมโอนี่คิดในใจและหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น

    หลายวันต่อมา  เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้พบหน้ามัลฟอยไม่บ่อยครั้งนัก  และไม่ได้อยู่กับเขาตามลำพังเลย  โดยเฉพาะตอนที่โรงเรียนกำลังวุ่นวายเช่นนี้ไม่มีใครมัวมาใส่ใจเรื่องการตรวจบริเวณ  ศาสตราจารย์มักกอนนากัลสั่งยกเลิกงานของพรีเฟ็คบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป  ประกอบกับเฮอร์ไมโอนี่นั้นกำลังหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบว.พ.ร.ส.ที่ใกล้เข้ามา  มันเลยทำให้เธอแทบไม่ได้เจอกับมัลฟอยเลย

    ในเช้าของวันอาทิตย์  เฮอร์ไมโอนี่ตื่นแต่เช้าเพื่อหาหนังสืออ่าน  เช่นเดียวกับแฮร์รี่ที่ต้องตื่นขึ้นมาเพื่อทำการบ้านในที่ต้องส่งในวันรุ่งขึ้น  ส่วนรอนนั้นโดนแอนเจลิน่าลากตัวไปซ้อมควิดดิชตั้งแต่ก่อนรุ่งสางแล้ว

    “เธอต้องทำการบ้านมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ” แฮร์รี่พูด  มองไปที่กองหนังสือ  ม้วนกระดาษ  แผ่นตัวเลข  พจนานุกรมอักษรรูน  และแผนที่ดวงดาวของเฮอร์ไมโอนี่อย่างทึ่ง ๆ

    “อ้อ  ใช่  ก็ฉันลงเรียนเยอะกว่าพวกเธอนี่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบขณะกำลังควานหาตำราแปลงร่างในกระเป๋า

    “เธอน่าจะพักบ้างนะ” แฮร์รี่เตือน “เธอไม่เหนื่อยหรือ”

    “อ้อไม่เลย  สนุกออก” เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมา “ความจริงการบ้านของเธอก็เยอะเหมือนกันนะ”

    “อ้อ  นี่มีของรอนด้วย” แฮร์รี่พูด  มองไปที่กองม้วนกระดาษตรงหน้า “ฉันกะว่าจะช่วยเขาตรวจทานน่ะ เธอก็รู้ว่ารอนต้องซ้อมควิดดิชทั้งวัน แล้วไหนจะการบ้านพวกนี้อีก”

    “งั้นฉันช่วยเธอด้วยนะ  ส่งแผนที่ดูดาวของเขามาสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับที่เฟร็ดกับจอร์จกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นรวม  แฮร์รี่มองเธออย่างขอบคุณ

    “ขอบใจมาก เฮอร์ไมโอนี่”

    “เฮ้  หวัดดีพวกเธอนะ  กินอิ่มกันแล้วสิ” เฟร็ดทักพวกเขาหลังจากที่เขาเพิ่งกลับจากห้องโถง  เด็กทั้งสองทักเขาตอบ

    “รู้ไหมว่าเราแอบเอาครีมคีรีบูนลงไปในถาดขนมของพวกสลิธีรินด้วยล่ะ  แครบกับกอยล์กินเข้าไป  แล้วพวกเขาก็กลายเป็นนกคีรีบูนตัวบิ๊กที่สุดที่เราเคยเห็นมาเลย” จอร์จพูด  ดวงตาเป็นประกายอย่างนึกสนุก

    “แล้วเราก็ใส่ลงไปในชามของมัลฟอยด้วยเหมือนกัน  แต่ว่าเขาไม่ยอมกินเพราะเห็นว่าลูกน้องของเขากลายร่างเป็นนกคีรีบูนเสียก่อนน่ะ” เฟร็ดพูดอย่างเศร้าสร้อยที่หมดโอกาสแกล้งมัลฟอย

    “เอาล่ะ  เรากะว่าจะลองคิดค้นของเล่นใหม่ ๆ ดู  ดูซิว่าเราจะได้อะไรมาทดลองกับพวกหน่วยสืบสวนบ้าง” จอร์จพูดบ้าง  เฮอร์ไมโอนี่มองพวกเขาทั้งสองราวกับพวกเขาพูดอะไรที่หยาบคายที่สุดออกมา

    “พวกเธอคงไม่คิดจะทดลองมันตอนนี้หรอกนะ” เฮอร์ไมโอนี่เตือน  เฟร็ดกับจอร์จยิ้ม

    “ใช่  เราคิดว่าเราจะทดลองมันตอนนี้เดี๋ยวเลย” เฟร็ดพูด  “เฮ้  ลี  พร้อมหรือยัง” เขาหันไปพูดกับลี  จอร์ดัน

    “โอ้  ไม่นะ” เฮอร์ไมโอนี่ครางเมื่อเสียงระเบิดดังปุงปังเริ่มขึ้นเมื่อเฟร็ด  จอร์จ  และลี  จอร์จดันเริ่มทดลองดอกไม้ไฟชุดใหม่ในห้องนั่งเล่นรวม  เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าบูดและมองพวกอย่างรำคาญ ก่อนที่เธอจะเก็บหนังสือและการบ้านทั้งหมดลงในกระเป๋าทันที

    “เธอคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าฉันจะมาตรวจทานงานให้พวกเธอทีหลังน่ะ  ตอนนี้ฉันต้องการที่สงบ ๆ สำหรับแปลเรียงความภาษารูนให้จบ” เธออธิบาย

    “ได้  ตามสบายเลย” แฮร์รี่พูด  และเฮอร์ไมโอนี่ก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นรวมไป



    *************************************************



    เฮอร์ไมโอนี่มาที่ห้องสมุดเพื่อทำการบ้าน  แต่เมื่อเธอกำลังจะเริ่มมันเธอก็พบว่าเธอหยิบหนังสือมาผิด  เธอหยิบหนังสือวิชาพยากรณ์ของรอนมาแทนหนังสือวิชาแปลงร่างของเธอเพราะว่ามันมีปกสีเดียวกัน

    “ให้ตายสิ” เฮอร์ไมโอนี่บ่น  และกำลังจะนำมันกลับไปคืน  แต่ลมที่พัดมาจากหน้าต่างที่เปิดไว้พัดหนังสือและจนเรียงความของเธอกระจาย  เฮอร์ไมโอนี่รีบกดเรียงความไว้อักษรรูนของเธอไว้บนโต๊ะ  ในขณะที่ลมพัดหนังสือวิชาพยากรณ์ของรอนเปิดอย่างรัวเร็วจนมันมาหยุดอยู่ที่หน้า ๆ หนึ่ง    

    และสายลมก็หยุดนิ่งในทันใด  เฮอร์ไมโอนี่เหลียบตามองหน้ากระดาษนั้น



    ประวัติศาตร์การพยากรณ์  

    โดย  ไดแอน  วิลตัน



    เราเชื่อกันมาตลอดว่าการพยากรณ์เป็นศาสตร์ลี้ลับที่ยากแก่การเข้าถึง  ซึ่งมันจะพาเราเจาะเข้าสู่โลกลี้ลับแห่งอนาคตที่ยากจะเปิดเผย  การพยากรณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อนคริสต์ศักราช  โดยการวิธีการพยากรณ์จะแตกต่างกันไปตามลักษณะของชนเผ่านั้น ๆ อียิปต์เองก็มีการพยากรณ์มาหลายพันปีแล้ว  ชาวบาบิโลเนียนั้นใช้การเคลื่อนที่ของดวงดาวในการทำนายอนาคต  ในขณะนั้นเองก็มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับการพยากรณ์มากมาย  ในจำนวนเหล่านั้นมีการเอาความเชื่อเรื่องเทพเจ้าเข้าไปเกี่ยวด้วย  ในอดีตกาล  มีเทพเจ้าหลายองค์ที่มนุษย์นักถือและเชื่อว่าคำพยากรณ์นั้นมาจากการบอกเล่าของพระผู้เป็นเจ้า  โดยแต่ละชนเผ่าก็จะนับถือเทพเจ้าที่แตกต่างกันไป...



    สายตาของเฮอร์ไมโอนี่ไล่ไปตามรายชื่อของเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ อย่างไม่ใสใจ  จนกระทั่งไปหยุดที่หน้ากระดาษอีกหน้าหนึ่ง  ซึ่งเป็นรูปวาดของหญิงสาวคนหนึ่ง  ผู้มีผมสีดาวยาวถึงกลางหลัง  ดวงตาสีดำทอประกายคล้ายลูกปัด  เธอสวมชุดคลุมสีดำที่ปักทอลาย  ริมฝีปากสีแดงกำลังแย้มยิ้ม



    โรส  หญิงสาวผู้รักษาคำพยากรณ์



    เธอเป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้าที่เป็นที่นับคือของชาวแอคแทก  พวกเขาเชื่อกันว่าชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกคนถูกกำหนดไว้โดยเทพเจ้า  และถูกเก็บรักษาไว้ในลูกแก้ว  ซึ่งลูกแก้วหนึ่งอันจะบรรจุชะตาชีวิตของมนุษย์เพียงหนึ่งคนเท่านั้น  และบรรดาลูกแก้วทั้งหลายจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยที่หอคอยอันศักดิ์สิทธิ์  เชื่อกันว่าหากลูกแก้วลูกทำลาย  ชะตาชีวิตของบุคคลนั้นจะต้องถูกทำลายเช่นกัน  โชคชะตาถูกกำหนดมาตั้งแต่มนุษย์ผู้นั้นเกิดแล้ว  แต่บางครั้งก็ย่อมมีการกระทำอันเรียกว่าฝ่าผืนโชคชะตา  หรือก็คือมนุษย์ผู้นั้นไม่ได้เดินไปตามเส้นทางที่ชะตาของตนเองกำหนดไว้  แต่กลับพยายามจะหลีกหนีและปฏิเสธมัน  และเมื่อเป็นเช่นนั้น  เชื่อกันว่าเทพเจ้าต้องเผชิญกับปัญหาดังกล่าวพระองค์จึงทรงสร้างเทพผู้รักษาคำพยากรณ์ขึ้นมาจากกลีบดอกไม้ที่ร่วงโรย  และประธานนามให้ว่า ‘  โรส ’ ตามชื่อดอกไม้นั้น  ซึ่งเธอมีหน้าที่ควบคุมชีวิตของมนุษย์ที่พยายามจะผ่าผืนให้เป็นไปตามคำพยากรณ์  และถ้าพวกเขายังคงปฏิเสธและยังคิดที่จะต่อต้านมันอีกล่ะก็  พวกเขาจะต้องพบกับจุดจบตลอดกาล  



    เฮอร์ไมโอนี่อ่านหน้ากระดาษนั้นจนจบ  เธอรู้สึกว่ามือที่เธอจับหนังสืออยู่เริ่มสั่นเทา  ภาพของหญิงสาวลึกลับเข้ามาปรากฏในสมองของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง

    หญิงสาวผู้รักษาคำพยากรณ์

    หญิงสาวผู้ควบคุมคำพยากรณ์แห่งชีวิตของมนุษย์ทั้งปวง

    และถ้าใครที่ดึงดันจะผ่าฝืนมัน  พวกเขาจะพบกับจุดจบตลอดกาล!

    เฮอร์ไมโอนี่เลื่อนสายตาไปมองที่ภาพหญิงสาวผมดำบนหน้ากระดาษอีกครั้ง  เธอรู้สึกว่าริมฝีปากแห้งผาก  ดวงตาสีดำขลับนั้นช่างดูคุ้นตาเหลือเกิน  ใบหน้าเรียวงามนั้น  และริมฝีปากแดงสดที่กำลังเหยียดยิ้ม  แน่นอนว่าหญิงสาวในรูปกับหญิงสาวที่เธอพบโดยบังเอิญที่ฮอกมี้ดส์เป็นคน ๆ คนเดียวกัน  แต่ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร  ที่โรสหญิงสาวลึกลับที่เธอเคยพบ  จะเป็นคนเดียวกับโรสหญิงสาวที่เป็นผู้รับใช้เทพเจ้า!

    .................................................

    แม้ว่ามันจะดูเหลือเชื่อ  แต่ถ้าเราลองเชื่อดูมันก็จะสามารถอธิบายเรื่องราวแปลกประหลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้อย่างดีทีเดียว

    ทำไมเธอถึงหลงเข้าไปในสถานที่ ๆ ไร้ซึ่งผู้คน  ทั้ง ๆ ที่เธอเพิ่งเดินอยู่ในฮอกมี้ดส์ในหนึ่งนาทีก่อนหน้านั้น

    ทำไมนาฬิกาของเธอจึงหยุดเดินเมื่อเธอก้าวเข้ามาในสถานที่นั้น  และกลับไปเดินอีกครั้งเมื่อเธอกลับออกไปได้

    ทำไมโรสถึงสามารถหยุดลำแสงสะกดนิ่งได้โดยไม่ใช้ไม้กายสิทธิ์  

    ทำไมเธอถึงล่วงรู้ทุกอย่างที่เฮอร์ไมโอนี่คิด

    และทำไมเธอถึงได้มอบน้ำยาเสน่ห์สร้างความสัมพันธ์มาให้เฮอร์ไมโอนี่



    ฉันคิดว่าเธอจำเป็นจะต้องใช้มัน  เพราะฉันรู้ว่าเธอมีเรื่องในใจและสิ่งนี้อาจจะช่วยเธอได้  



    โรสตั้งใจมอบยานั้นให้เฮอร์ไมโอนี่เพราะเธอรู้ว่าตอนนั้นเฮอร์ไมโอนี่กำลังหลงรักแฮร์รี่อยู่  แต่แฮร์รี่ชอบโช เพราะฉะนั้น........



    ขอเพียงให้เธอใช้มันให้ดีและมันจะไม่มีอันตรายอะไร



    โรสต้องการให้เธอสมหวังกับแฮร์รี่  เพราะว่าโรสไม่ต้องการให้เธอไปรักกับศัตรู

    อย่าเข้าใกล้ศัตรูของเธอมากเกินไป  เขากำลังจะนำความวิบัติมาให้เธอ  

    เสียงของโรสดังก้องอยู่ในหูของเฮอร์ไมโอนี่ราวกับมันไม่มีวันจนสิ้น

    ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างสายเลือดที่แตกต่างจะนำมาซึ่งความหายนะที่เธอไม่คาดคิดทีเดียว

    เธอไม่ต้องการให้เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยรักกัน  โรสจึงช่วยเหลือให้เธอมาลงเอยกับแฮร์รี่  แต่ว่าเธอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร



    เธอมีหน้าที่ควบคุมชีวิตของมนุษย์ที่พยายามจะผ่าผืนให้เป็นไปตามคำพยากรณ์  



    ริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่สั่นระริก  หรือว่า  หรือว่าเป็นเพราะ.......  

    ทันใดนั้นเองก็มีมือ ๆ หนึ่งมาวางบนไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่  เด็กสาวสะดุ้งสุดตัว  แต่เมื่อเธอหันไปมองด้านหลัง

    “มัลฟอย!”



    *************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×