คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตัวประกอบชาย
“เฮ้อ…” เด็กชายนั่งหน้าบูดเท้าคางมองไปยังเวทีที่กำลังมีการทดสอบพลังเวทย์ตรงหน้า
“เฮ้ย อาคาเซะไปเจออะไรมาถึงมานั่งหน้าหล่อตรงนี้ละเนี่ย”
“เปล่าไม่มีอะไร” ‘มิคาวะ อาคาเซะ’ บอกปัดความจริงออกไป เด็กชายอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วยักไหล่ไม่รู้จะช่วยยังไงออกมา
“ทำท่าแบบนี้แปลว่านายโดนเอ็นโดหักหน้ามาสินะ” เด็กหญิงตัวเล็กที่อยู่ในชุดระบายสีชมพูหวานดูน่ารักชี้หน้ามาทางเขา
“มินจัง เมื่อกี้สุดยอดมากเลย” เด็กชายที่นั่งทางด้านขวามือของมิคาวะเอ่ยทักเธอพร้อมโบกมือไปมา
“ขอบใจสำหรับคำชมนะ” เธอหันไปโค้งขอบคุณเล็กน้อยก่อนหันกลับมาทางมิคาวะ “แล้วนายละ ไปชมเอ็นโดมาหรือยัง”
“ก็ชมแล้ว แต่ทางนั้นเขาไม่สนฉันนี้” มิคาวะพูดเสียงอ่อนเมื่อคิดถึงเรื่องที่เพิ่งถามมา
“จะมานั่งหงอยแบบนี้ฉันไม่ยอมนะ” ‘อาซายะ มินาโกะ’ควันออกหูทั้งสองข้าง เธอหยิบไม้กายสิทธิ์คู่กายออกมากวัดแกว่งไปทางซ้ายทีขวาทีแล้วร่ายคาถาบางอย่าง เก้าอี้ที่มิคาวะกำลังนั่งอยู่ก็เริ่มลอยสูงขึ้น จนคนนั่งต้องรีบลุกขึ้นยืนตัวตรง
“เธอทำอะไรของเธอนะ” น้ำเสียงปนความไม่พอใจของเขาสร้างเสียงหัวเราะให้มินาโกะได้เป็นดี
“หึหึ นายจะได้รู้ไงละว่าเวลาผู้หญิงโกรธมันเป็นยังไง” เธอตวัดไม้กายสิทธิ์ไปมาเก้าอี้ตัวนั้นก็ขยับไปมาตามเธอจนทำให้เด็กชายอีกสองคนที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่ถึงกับรีบลุกหนีกันไปคนละทิศคนละทาง
“มินจัง ใจเย็นๆสิ” เด็กชายคนหนึ่งเอ่ยห้ามเธอเอาไว้ แต่ดูเหือนเด็กสาวจะไม่สนใจคำพูดนั้น
“มินโกะฉันกลับมาแล้ว” เสียงดังออกมาจากทางเข้ามายังที่นั่งVIPที่พวกเขาอยู่ แต่ดูเหมือนเจ้าของชื่อจะไม่ได้ยิน
“โรโคโค่จังมาช่วยพวกเราหน่อยสิ”
“ได้ค่ะ” เด็กสาว ‘โรโคโค่ อูลปะ’ รีบวิ่งเข้าไปหามิคาวะที่อยู่ตรงใจกลางเหตุการณ์ชลมุนนี้ “คุณหนูคะ พอได้แล้วค่ะ” ลมที่พัดไปมาเกือบพัดร่างของเธอให้ปลิวตกอัฒจรรย์ไปแล้วหลายครั้ง แต่เธอก็พยายามเดินเข้าหามินาโกะจนได้ในที่สุด
“ฮ่าๆๆๆ สมแล้วเจ้าบ้าดันมาหักอกฉันแล้วไปรักเจ้าหนุ่มนั้น ตอนนี้เป็นไงละ ทำตัวเข้าหาไม่ได้เลยละสิ” มินาโกะหัวเราะราวกับสะใจเขาเป็นอย่างมาก
“คุณหนูคะ เดี๋ยวของที่ไปซื้อมาจะโยนทิ้งให้หมดเลยนะคะ” โรโคโค่เริ่มหมดความอดทนเธอจึงงัดไม้ตายออกมาใช้ และทุกอย่างก็นิ่งไป
“อ้าว โรโคโค่กลับมาแล้วหรอ” มินาโกะหันไปหาคนรับใช้ที่เธอสนิทด้วยก่อนถามพร้อมยิ้มออกมา
“ค่ะ”
“งั้นไปกันเถอะ” มินาโกะจับมือเล็กๆนั้นแล้วพาเดินไปยังทางเข้าซึ่งก็เป็นทางออกด้วยเช่นกัน แต่เมื่อเดินมาได้สักพักเธอก็หยุดเดินลง แล้วหันมาทางมิคาวะและเด็กชายอีกสองคน “จำไว้นะ ถ้าครั้งหน้าที่ฉันมาคุยกับนาย แล้วได้ยินว่านายยังไม่มีความคืบหน้ากับเอ็นโดฉันจะจัดการนายแน่” มินาโกะยกนิ้วโป้งในตอนแรกก่อนจะคว่ำมันลง
“ก็ฝ่ายนั้นไม่ยอมฉันเองนี่”
“รุกเข้าไปสิ นายเป็นผู้ชายนะ เอ๊ะ แต่เอ็นโดก็เป็นผู้ชายนี้นา”
“เธอจะพูดก็พูดได้สิ เธอไม่ได้ทำนี้”
“แต่ตอนนั้นฉันยังไปสารภาพรักกับนายเลยนะ จำไม่ได้รึไง”
“เรื่องนั้นก็เรื่องนั้น เรื่องนี้ก็เรื่องนี้สิ”
“ใครจะไปสนกันละ!! อย่าลืมถ้าฉันกลับมาแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้านายตายแน่” มินาโกะเดินสะบัดหน้าหนีไปโดยมีโรโคโค่เดินตามไป
“ผู้หญิงนี้เข้าใจยากจังนะ” หนึ่งในเด็กชายทั้งสองที่มองทุกอย่างอยู่ตลอดเวลาพูดขึ้น
“ฉันว่าผู้ชายก็ด้วย” มิคาวะนั่งลงกับพื้นก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เด็กชายอีกสองคนหันมามองหน้ากัน ก่อนลงไปนั่งข้างเพื่อนตน
“เอาเถอะน่า เดี๋ยวสักวันเอ็นโดก็รักนายเองแหละ” มิคาวะถอนหายใจอีกรอบ ไม่ร็ทำไมเวลาเขาเจอเอ็นโดทีไรก็ทำตัวไม่ถูกกลายเป็นว่าเหมือนจะทำตัวกร่างใส่อีกฝ่ายซะงั้น
“วันนี้โรจังไปซื้อชุดเดรสสีขาวตัวใหม่มาให้ค่ะ” โรโคโค่เปิดถุงกระดาษที่มีชื่อเขียนว่า ‘dress me up’ แล้วโชว์ชุดเดรสเปิดไหล่ตัวหนึ่งมาให้มินาโกะดู แต่เหมือนว่าคนที่เธอสนทนาด้วยจะไม่ได้สนใจมัน “คุณหนูคะ”
“อ่า ว่าไงจ๊ะ”
“เหม่ออะไรอยู่หรอคะ” โรโคโค่ทำสีหน้าไม่สบายที่เห็นคุณหนูของเธอดูไม่ร่าเริงเท่าไร
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร”
“มีค่ะ ต้องมีอะไรแน่ๆ”
“ไม่มีจริงๆจ้า” โรโคโค่มองเข้าไปในดวงตาที่สั่นไหวน้อยๆของคุณหนู
“เรื่องของคุณมิคาเซะกับเอ็นโดหรอคะ” คุณหนูของเธอสีหน้าเจ็บปวดขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนกลับไปทำหน้าร่าเริงเหมือนอย่างเคย
“ใครบอกละ ฉันไม่สนใจคนที่ไม่สนใจในตัวฉันหรอกนะ”
“คุณหนูจะหลอกใครก็ได้แต่อย่าหลอกใจตัวเองสิค่ะ”
“โรจัง” มินาโกะเรียกชื่อของคนรับใช้คนสนิทเสียงแผ่ว เธอดึงตัวโรโคโค่เข้ามาแล้วกอดเธอ “ฉันยังยอมรับไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของอาคาเซะ ทำไมละ ทำไมต้องเป็นเอ็นโดด้วย ทำไมต้องเป็นเขา เราเป็นเพื่อนกันนะ ฮืออ”
“คุณหนู” โรโคโค่ทำได้เพียงลูบหลังมินาโกะไปอย่างนั้น คุณหนูของเธอมักจะเป็นแบบนี้เวลาพูดกับมิคาวะเรื่องเอ็นโด เธอรักคุณหนู เธอรักมิคาวะและเธอก็รักเอ็นโด คุณหนูของเธอเองก็คงเป็นคิดแบบนี้ และคนทั้งสองคนที่เธอรักกลับทำให้เธอเจ็บปวด
“ถ้าไม่ใช่เอ็นโด ฉันคงจะมีความสุขกว่านี้” เธอก้มหน้าลงบนอกของโรโคโค่เพื่อปกปิดน้ำตาที่กำลังไหลรินของตัวเอง
“ไม่หรอก ถึงจะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เอ็นโดเธอก็คงเสียใจแบบนี้อยู่ดี” เด็กสาวผมสั้นเดินเข้าทางพวกเธอพร้อมแก้วน้ำใบหนึ่งในมือ
“อากิ” มินาโกะรีบสูดน้ำมูกน้ำตากลับแล้วเช็ดรอยที่เลอะบนหน้าออกอย่างรวดเร็ว “ว่าไง มาทำอะไรตรงนี้งั้นหรอ”
“ฉันจะมากินข้าวเที่ยงนะ” เธอนั่งลงบนเก้าอี้ของโต๊ะตัวเดียวกับมินาโกะและโรโคโค่โดยไม่ขออนุญาต “เธอคิดว่าแค่นั้นจะหลอกฉันได้ไหม”
“หลอก? หรอกอะไร” มินาโกะทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่อากิพูด
“เธอร้องไห้ใช่ไหมละ” มินาโกะเสมองไปทางอื่นราวกับจะปกปิดอะไรบ้างอย่าง “ถึงจะหลอกเอ็นโดได้ แต่หลอกฉันไม่ได้หรอกนะ”
“แหะๆๆๆ”
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย” อากิดุเสียงเบา เธอถอนหายใจให้กับความคิดของเพื่อนหญิงคนนี้ “ไม่ใช่ว่ามิคาเซะไปรักคนอื่นแล้วเธอจะไม่เสียใจหรอกนะ”
“หมายความว่าไง” โรโคโค่เก็บทุกอย่างกลับเข้าถุงของมัน เธอนั่งลงข้างคุณหนูแล้วจับมือกันไว้
“ไม่ว่าคนที่เรารักจะรักใครก็ตามที่ไม่ใช่เรา ยังไงเราก็ยังเจ็บปวดอยู่ดี และมันขึ้นอยู่กับว่าเธอจะลืมความเจ็บปวดของเธอเองได้เมื่อไร ตอนนั้นพันธะนาการที่มีอยู่มันจะเลือนหายไปเอง”
“หมายความว่าฉันต้องเลือกที่จะ,มมิคาเซะใช่ไหม”
“อืม แต่ไม่ต้องรีบร้อนหรอกนะ มันยังคงมีเวลาอีกเยอะสำหรับเรื่องนี้”
“อากิฉันมาแล้ว” น้ำเสียงกระตือรือร้นดังมาจากทางเข้าร้านอาหาร ร่างของเอ็นโดกำลังวิ่งตรงมายังพวกเขา “เห… มินาโกะกับโรโคโค่ก็อยู่ด้วย” เอ็นโดว่าพลางนั่งลงข้างอากิ
“ไงเอ็นโด”
“ดีจ้า” เอ็นโดยิ้มร่าราวกับไม่รู้สึกถึงบรรยากาศที่ยังไม่ค่อยสู้ดีนักเท่าไร ถ้าจะให้พูดละก็เอ็นโดยังไม่รู้เลยว่ามินาโกะชอบมิคาวะ แล้วมินาโกะก็หักอกเพราะผู้ชายคนนั้นชอบเขา
“วันนี้แข่งเป็นไงบ้าง” มินาโกะเปิดบทสนทนาขึ้นมา เธอค่อยข้างสนิทกับอากิและเอ็นโดอยู่พอตัว แต่ส่วนใหญ่จะพูดคุยกับอากิมากกว่าในฐานะที่เป็นเพื่อนสาวเหมือนกัน
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็ทำสุดฝีมือแล้วละ อากิละ” เอ็นโดตอบพร้อมกำมือแน่น เขาค่อนข้างจริงจังกับการแข่งนี้พอสมควร เพราะถ้าใครชนะละก็สามารถเรียนคาถาที่ต้องการซึ่งอยู่ในระดับสูงหนึ่งคาถา
“ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจละนะ แต่ก็เต็มที่แล้วเหมือนกัน”
“เห… แต่ฉันว่าเวทมนย์ของอากิเนี่ยสุดยอดจรงๆนั้นแหละ” เอ็นโดยิ้มร่าเริงก่อนหันกลับไปที่มินาโกะกับโรโคโค่ “มินาโกะก็ด้วยนะ เวทมนย์ของเธอสุดยอดเหมือนกัน”
“ขอบใจนะ” มินาโกะหัวเราะน้อยๆกับท่าทางเหมือนเด็กๆของเอ็นโด เธอมักจะใจดีกับเอ็นโดเสมอซึ่งต่างกับอากิ
“ชมแบบนี้อยากได้อะไรละ”
“ขนมสายไหมก้อนเมฆ” เอ็นโดพูดขึ้นด้วยท่าทางน่ารักเหมือนเคยทำให้อากิได้แต่กุมขมับทั้งสองข้าง
“เฮ้อ จะกินก็ได้” จบประโยคเอ็นโดก็ลุกขึ้นไปร้องรำทำเพลง “แต่ต้องกินข้าวเที่ยงก่อน” แต่ก็กลับมาห่อเหี่ยวเมื่ออากิพูดเช่นนั้น
“ก็ได้คร้าบ” เขานั่งลงกับโต๊ะแล้วนอนราบไปกับพื้นโต๊ะ ส่วนคนที่มองเหห็นเหตุการณ์ก็ได้หัวเราะขำนิดๆ
“สั่งอาหารค่ะ” โรโคโค่ยกมือขึ้นสูงเล็กน้อยเพื่อเรียกบริกรภายในร้ายอาหาร
“จะสั่งอะไรดีครับ” บริกรชายเดินมาหยุดที่โต๊ะของพวกเธอพร้อมกระดาษเตรียมจดของที่พวกเธอจะสั่ง
“มัมมารุหนึ่งที่ค่ะ” มินาโกะพูดขึ้นคนแรก เธอวางรายชื่อเมนูลง
“ราดอะไรดีครับ”
“ซอสมะเขือเทศแล้วกันค่ะ”
“งั้นผมเอาทามาโอะแล้วกันครับ”
“ฉันเอาทามาโอะเหมือนกันค่ะ” อากิพูดขึ้นตามเอ็นโด เธอค่อนข้างชอบเมนูนี้พอสมควรเหมือนกับเอ็นนั้นแหละ
“ฉันเอาทาโทริค่ะ”
“แล้เครื่องดื่มละครับ”
“สวีทคอกเทลค่ะ”
“โกโก้เย็นครับ”
“นมสดเย็นสองแก้วค่ะ” บริกรชายพูดชื่อทวนรายการอาหารและเครื่องดื่มก่อนเดินไปยังเคาเตอร์
ปล. ขออภัยผู้ที่ติดตามเรื่องนี้นะคะ พอดีเรื่องนี้เราสมองตันมาก ตอนหน้าจะพยายามให้ยาวกว่านี้ค่ะ
อาหารที่พวกเอ็นโดเลือกมีดังนี้นะคะ [เรามโนชื่อเองล้วนๆ]
มัมมารุ – คล้ายๆกับสปาเก็ตตี้ของชาวตะวันตกนั้นแหละค่ะ แต่มันจะนอนอยู่ในน้ำซุปแล้วก็ -มีพวกซอสราดด้านบนตามความชอบของผู้กิน และมีพวกผักมากกว่าสปาเก็ตตี้บ้านเราด้วยค่ะ และมัมมารันจะมีเนื้อด้วย แต่ที่มินาโกะสั่งคือแบบไม่มีเนื้อค่ะ
ทามาโอะ – คล้ายๆกับก๊วยเตี๋ยวแต่เป็นแบบเย็นค่ะ มีเนื้อปลาอยู่แทนหมูแดงบ้านเรา จะมีเมนูคล้ายๆกันแต่ต่างตรงที่เนื้อที่อยู่ในอาหารค่ะ
ทาโทริ - เป็นเซตข้าวที่มีข้าว ปลาย่าง น้ำซุปแต่เป็นซุปแบบเย็น แล้วก็มีเนื้อหมูที่ถูกแร่เป็นชิ้นซึ่งถูกนำไปทอดแล้วด้วย
สวีทคอกเทล – เป็นคอกเทลสีชมพูมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่มีความหวานของบางอย่าง[เป็นความลับทางการค้า] และมีรสเปรี้ยวของเลมอนด้วย
และสรุปได้แล้วว่ามิคาวะต้องเป็นตัวประกอบชายแน่นอน #สงสาารเขาแปป
ความคิดเห็น