ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ‡™.it's more than just a physical thing,I know

    ลำดับตอนที่ #9 : .๗# โอเพ่นเฮาส์และไออุ่นเพื่อนของผม-(สอง)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 38
      0
      4 ส.ค. 55

     

     

     

    7

    โอเพ่นเฮาส์และไออุ่นเพื่อนของผม-(สอง)

                                                                                                                                       

           
           {ไออุ่น’s part}
           "ว่
    าไงนะต้องอยู่ทำงานกับเพื่อนอาจจะค้างที่มอ....อ่าห้ะ....งั้นมาลินกลับบ้านเอง....ได้ๆ....ไม่มีรถ....เพื่อนแลคเอารถไป...ไม่เป็นไร....อืมโอเคน่า บาย” ผมกำลังยืนมองผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยืนห่างออกไปจากบริเวณที่ผมอยู่ไม่มากคุยโทรศัพท์กับใครสักคนที่รู้สึกว่าจะเป็นพี่ชายของเธอ..มั้ง? ก่อนจะวางสายแล้วยิ้มกริ่มกับตัวเอง แล้วเดินมาทางกลุ่มของพวกผม

           “เฮ้!” เสียงมาลินตะโกนแทรกเข้าไประหว่างบทสนธนาของทาโอะ ชาเขียว และ นิชชิน(จริงๆลแวชากับนิชชินพูดกันส่วนทาโอะยืนเป็นสากกะบือประกอบฉาก-_-)ซึ่งนั่นทำให้นิชชินที่สะดุ้งจนแว่นแทบหลุดหันกลับไปมองทางต้นเสียง
           “อะ อ้าวมาลิน”

           "ผมนึกว่ามาลินจะกลับไปแล้วซะอีกนะเนี่ย เห็นไปซะนาน~” ผมพูด

     

           “มีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อยน่ะ พอดีไลแลค..เอ่อ..พี่ชายฉันน่ะ ต้องอยู่ทำงานที่มหาลัยต่อ ..ว่าแต่ช่างมันเหอะๆ”
       เธอตอบก่อนจะทำท่าไม่ใส่ใจ
     
           “อ้าวแล้วนี่เมื่อไรเจ้จะกลับล่ะ งานโอเพ่นเฮาส์จบแล้วคนเริ่มทยอยกันกลับแล้วนะ”คราวนี้ชาเขียวเป็นคนถามบ้าง

     

           “ไม่รู้สิ ใกล้แล้วละมั้ง...”เธอตอบลอยๆพร้อมทั้งกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าชาเขียวแล้วถามต่อ
          “แล้วชาล่ะ จะกลับยัง?” 

          “ก็น่าจะใกล้และ..” ยังไม่ทันที่ชาจะพูดจบก็มีเสียงแหบๆของผู้ชายคนนึงดังขึ้นแทรก
           “เฮ้ย
    ! นิชชิน ไออุ่น พวกแกยังไม่กลับใช่ป่ะ ช่วยมาเก็บแล็บให้ทีดิ พี่รีบกลับม้ากกมาก ..เอ้อ! ขอบคุณนะ บาย!..-O-! อะไรวะครับไอรุ่นพี่บ้าคุณเมิงมาสั่งนี่ไม่คิดจะฟังคำตอบเลยใช่มั้ย-________- จะตะโกนด่าก็ไม่ทัน เร็วยังกับจิ้งจกโดนไฟลนหาง

           “ทำไมทำหน้างั้นอ่ะนิชชิน-O- …ไม่อยากเก็บแล็บเหรอ” และนี่คือเสียงของมาลินที่หันไปถามนิชชินผู้เผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกับผม ..เอ่อ แล้วก็ดูคุณเธอถาม ใครมันจะอยากเก็บครับแล็บเนี่ยเก็บยุ่งยากจะตายบ้ารึเปล่า-____-; แต่ไม่เป็นไรเพราะเธอน่ารัก จะบ้าก็โอเค -.-
           " ถ้าพวกนายไม่อยากเก็บ..ฉันช่วยก็ได้นะ*-* ” คราวนี้เธอหันมาพูดทั้งกับผมและนิชชิน ซึ่งนั่นทำให้นิชชินทำหน้าเครียดกว่าเดิม ...ทำไมวะข้อเสนอนี้ออกจะดี-.,-

           “เฮ้ย นิชชิน ให้มาลินช่วยเหอะ ฉันอยากใกล้ชิดกับเธออ่ะ บอกแล้วว่าสนใจคนนี้ แบบ...แม่หนูจะเอาคนนี้อ่ะ เข้าใจป่ะ>O<” ผมล็อกคอนิชชินให้หันหลังกลับมาก่อนจะกระซิบกระซาบ
           “อ่า..ตามใจนายแล้วกัน แต่ไม่สนับสนุนเท่าไรหรอกนะ”นิชชินพึมพำตอบกลับมา

           "เอ้า ตกลงซุบซิบกันเสร็จก็ไปกัน เร็วๆ>O< อยากเห็นแล็บของคณะวิทยาศาสตร์อ่ะ ”มาลินพูดแทรกขึ้นมาก่อนจะลากผมกับนิชชินเข้าไปในตึกวิทยาศาสตร์

     

     

     

             ห้องแล็บหนึ่ง 
             
    “โห ห้องแล็บนี่ดูใหญ่โตดีเนอะ*0*” เสียงมาลินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น  
             “แหงล่ะครับ นี่มันคณะวิทยาศาสตร์นะแล็บก็ต้องใหญ่เป็นปรกติ ฮ่าๆ ..อา.. ว่าแต่มาลินอยู่คณะอะไรเหรอ” นั่นสินะ..ผมยังไม่รู้เลยว่าเธออยู่คณะอะไร
             “หืมOo มาลินอยู่แฟชั่นดีไซน์น่ะ ..ไม่มีแล็บให้เล่นเลย..“ประโยคหลังเธอพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ..แต่ผมได้ยินนะ-.-
            “อา...ฉันว่าเราเริ่มเก็บของกันดีกว่านะ ไออุ่น;_;” นิชชินพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงปลงๆ หลังขากกวาดสายตามองรอบห้องแล็บหนึ่งห้องนี้ทีพวกรุ่นพี่ใช้ในการทำแล็บสาธิตในงานโอเพ่นเฮาส์วันนี้ อืม..มันเน่าจริงๆด้วย โฮกกกกกก (พ่นไฟ) 
            นิชชินกับผมซึ่งชินกับอุปกรณ์พวกนี้แล้ว เริ่มเก็บกวาดของในห้อง โดยมีชาเขียวกับทาโอะคอยช่วย ต่างกับมาลิน ที่ยังคงตื่นตาตื่นใจกับอุปกรณ์รอบๆนี่เหลือเกิน
            "เอ๊ะ นี่มันอะไรอ่ะ สีสันสดใส~*0*” มาลินหันมาหาพวกผมก่อนจะชูหลอดทดลองที่มีสีฟ้าใสอยู่
            “เอ่อ..เจ้ผมว่าเจ้วางมันไว้แล้วไปทำอะไรที่มันอันตรายน้อยกว่านี้หน่อยมั้ย เช่นเช็ดโต๊ะอ่ะ-_-;”ชาเขียวบอก แต่ดูเหมือนว่ามาลินเธอจะไม่ฟังอะไรอีกแล้ว-O-;
            “อ๊าาา อันนี้ก็สีสวย แดงสดใสส~
           “เอ่อ..มาลิน อย่าเล่นนะอันนั้นมัน..”ยังไม่ทันที่นิชชินจะพูดจบ..”เอ๊ะ..ว่าแต่ถ้าเราเอาสีแดงนี่กับสีฟ้านั่นมาผสมกัน..ตามทฤษฎีสี..ก็จะได้สีม่วง..อา..คงเหมือนกันละมั้ง..ลองดูดีกว่า*0* ” เฮ้ยย ฉิบหาย=[]=
           “อย่าาา!” เสียงทุกคนตะโกนลั่นห้ามการเล่นแผลงๆของมาลินพร้อมวิ่งไปใกล้ตัวเธอเพื่อที่จะไปห้ามเธอ แต่ดูเหมือนจะช้าไป เพราะทันทีที่มาลินเทสารสองชนิดนี้ลงไปผสมกันก็เกิดเป็นฟองฟู่พุ่งปุดๆๆออกมาแล้วก็...
         
            บึ
    มมมมมม!

     

     

    ...    เกิดเป็นโกโก้ครันช์T_T ..ณ วินาทีนี้ ทุกคนยืนนิ่งสงบค้างอยู่ท่าเดิม(ที่จะกระโจนไปห้ามมาลิน) ที่จะผิดจากเดิมก็คงจะเป็นคราบเขม่าสีดำๆจากการระเบิดที่เกาะอยู่บนหน้าทุกคน โดยเฉพาะมาลิน...
           “ระ..ระเบิดเป็นวงกว้างสวยงามดีเนอะ” คนต้นเรื่องหันกลับมายิ้มแหยๆให้กับทุกคน นิชชินที่ทำท่าเหมือนจะเป็นลมล้มลงไปซะตรงนี้รีบเดินไปดึงตัวมาลินออกมาจากตรงที่สารระเบิดให้ไปที่อ่างล้างมือเพื่อล้างสารที่เลอะและล้างหน้าล้างตาก่อนจะเริ่มบ่น..
            “ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าๆ ก็ยังเล่นอีกเป็นไงล่ะ ระเบิดเลยเลย”
           “ขอโทษษ ก็ไม่รู้นี่นา._. ...แถมสีมันก็ล่อใจ”
           “เฮ้ออ ช่างเถอะ มันไม่กระเด็นเข้าตาก็ดีแล้ว นิชชินยื่นผ้าเช็ดมือให้มาลินพร้อมกับปากก็ยังพูดต่อไป
            “แล้วมือน่ะล้างให้สะอาดๆนะฮะ ฟอกสบู่ด้วย เดี๋ยวจะล้างไม่เกลี้ยง แล้วก็..”
             แปลกนะ ผมไม่เคยเห็นนิชชินพูดมากขนาดนี้มาก่อนเลย แล้วดูจากท่าทางเหวอๆของน้องชากับทาก็คงจะคิดเหมือนกันกับผม แต่คงไม่มีอะไรหรอก..ก็นะ..เหตุการณ์อย่างนี้ในชีวิตผมไม่เคยเจอมาก่อนเหมือนกัน-_-;

                
    --------------


            {malin’s part}
             “นิชชิน ชาเขียว ทาโอะแล้วก็ไออุ่น ฉันไปล่ะ วันนี้สนุกมาก เอ้อ..แล้วก็ขอโทษเรื่องแล็บอีกทีนะ.___. บ้ายบายย” ฉันล่ำลาทุกคน ก่อนจะเดินแยกตัวกลับไปที่ตึกของคณะฉัน อืม..หลังจากที่ช่วยกันเก็บห้องแล็บของตึกวิทยาศาสตร์ที่ระเบิดตูมตามเรียบร้อยแล้ว(เอ่อ..แน่นอนทุกคนให้ฉันทำได้แค่เช็ดโต๊ะ-_____-;) ชาเขียวกับทาโอะก็แยกตัวกลับบ้านไปก่อนสงสัยจะไปทำอะไรอะไร ( ก็ไปกันสองคนใครไม่คิด ฉันคิด-.,-)ส่วนนิชชินกับไออุ่นรู้สึกว่าจะต้องอยู่ทำงานหรืออะไรสักอย่างที่มหาลัย ส่วนฉัน..ไปแฮงค์เอาท์ เย่>O<! เนื่องจากว่าวันนี้ไลแลคจะไม่กลับบ้าน  เพราะต้องอยู่ทำงานที่มหาลัย ฉันเลยเป็นอิสระ กลับบ้านเมื่อไรก็ได้ เยเย่~  
              “ฟินฟินน-3- จะไปกันรึยังอ่ะ” ฉันถามฟินๆที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋า
              “ไปสิๆ เดี๋ยวเจ๊ทินแกมาแล้วเราก็ไปกันเลย ไม่รู้ว่าชีไปแต๋แลดอยู่ไหนเนี่ย” ทันที่ที่ฟินฟินพูดจบ เจ๊สุทินคนงามก็ย่างกรายมาพอดี  “โอเคฮร้า เจ๊พร้อมล่ะ” เจ๊สุทินหรือที่ฉันโดนบังคับให้เรียกกรี้ดนิ่มพูดขึ้นพร้อมเชิดหน้าและส่งสายตาจิก..ฉันคิดว่าฉันรู้แล้วล่ะ ว่าเจ๊แกไปไหนมา..โบ๊ะหน้านั่นเอง-.,-
               “นี่จะสวยไปเพื่อใครเนี่ยเจ๊ ไปงานวันเกิดนะไม่ใช่งานกาล่า”ฟินฟินถามขึ้นพร้อมมองขมตาอันหนาเด้งเป็นเงางามของพี่กรี้ดนิ่มอย่างสยองนิดๆ ใช่แล้วล่ะ อย่างที่ฟินฟินบอกวันนี้เราจะไปงานวันเกิดของนังมิเชลล(กระดกลิ้น)
               “อ๊ะๆ ได้ยังไงคะคุณน้อง งานวันเกิดของนางมิเชลนางคงจะจัดเต็ม ถ้าพี่ไม่จัดเต็มก็แย่งซีนไม่ได้น่ะสิ จุ๊ๆเธอนี่ไม่รู้อะไรฟินฟิน” พี่กรี้ดนิ่มพูดพร้อมห่อปากและกระดิกนิ้วไปมา
              “เอาเถอะไปกันได้แล้ว เร็วๆ”ฉันพูดตัดบทพร้อมลากตัวเจ๊กรี้ดนิ่มกับฟินฟินออกมาจากตึก
                     
               ณ งานวันเกิด

               “เจ๊กรี้ดนิ่ม ฟินฟิน มาลิน ทางเนนนนนน้” เสียงแหลมๆของมิเชล...อ๊ะ..ฉันลืมบอกไปว่าจริงๆแล้วชีไม่ได้ชื่อมิเชลนะแต่ชื่อว่าไมเคิล-.,-....ฉันมีคนรู้จักเป็นผู้ฉิงเยอะ ก็คณะของฉันคนเรียนส่วนมากก็เป็นผู้หญิงไม่ก็ใจหญิงน่ะ อีกอย่างเพื่อนเกย์เป็นอะไรที่สะดวกใจคบกว่าผู้ชายเพราะพวกชีช่างเข้าใจผู้หญิงยิ่งกว่าตัวฉันเองซะอีก!
               "เห็นไหม ฉันบอกหล่อนแล้วว่านังมิเชลนี่จัดเต็มแน่นอน” พี่กรี้ดนิ่มหันมากระซิบกับฟินฟินพร้อมส่งสายตาเป็นเชิงว่าเห็นมั้ย? ดูสิยะก่อนจะเดินไปหาไมเคิลล(กระดกลิ้น)

               มาช้านะย้ะ~” ไมเคิ..เอ่อฉันหมายถึง มิเชล-O-; กรีดนิ้วมาทางพวกฉันแล้วกรอกตาไปมาด้วยท่าทางแบบฉบับของนาง แต่มีหรือคนอย่างเจ๊กรี๊ดนิ่มจะยอม….
              “แหมมม~~ พวกฉันก็มีงานต้องทำบ้างอะไรบ้างนะยะ ไม่ใช่คิดจะโดดไปตะแล๊ดแต๊ดแต๊ๆ ที่ไหนก็ไปได้แบบหล่อน เจ๊กรี๊ดนิ่มสะบัดบ็อบสามร้อยหกสิบองศา ก่อนจะย่างกรายเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้นังมิเชลยืนหงุดหงิดบิดตูดไปมาด้วยความไม่พอใจ -__-^^
             “…เอาน่าๆ วันเกิดทั้งทีทำใจให้มันโปร่งโล่งสบายหน่อย ฟินฟินเดินมาตบไหล่มิเชลเบาๆ ตามด้วยควงแขนเหมือนคู่เต้นรำสมัยยังเอ๊าะๆ(?) แล้วพากันเดินเข้าสู่ตัวบ้าน

             ฉันเดินตามเข้ามาเป็นคนสุดท้าย บ้านของมิเชลค่อนข้างสวยเลยทีเดียวล่ะ เนื่องจากเจ้าตัวไม่ได้ทำตัวฉู่ฉี่ฟู่ฟ่าบาบาราอะไรมากมาย บ้านของเธอจึงดูสวยมีสง่า โดยไม่ต้องพึ่งขนมิ้งค์หลากสีห้อยระย้า(เหมือนเจ๊กรี๊ดนิ่ม- -
           
    ไฮ~ มาลิน คัมเฮียย~” เหล่าหนุ่มสาวชาวต่างชาติพากันกวักมือเรียกฉันให้เดินเข้าไปหา ..อ้อ แล้วก็อีกอย่างนึง มิเชลกับฉันรู้จักกันมาตั้งแต่เรียนไฮสคูลที่เมืองนอกแล้วล่ะ แต่พอดีว่าแม่ของนางเป็นคนไทย จึงกลับมาที่ไทยพร้อมๆกับฉัน (ตอนนั้นแลคกำลังเข้ามหา'ลัยพอดี)
            
    แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ หลังจากพูดคุยพอเป็นพิธีกับเพื่อนเก่า ฉันจึงหันไปฉีกยิ้มให้กับมิเชล แล้วหยิบของขวัญที่ซื้อไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วส่งให้เจ้าหล่อน
            “ตายแล้วววว~~ คิดว่าเธอจะไม่ให้ซะแล้วนะเนี่ยยมิเชลรับกล่องใบเล็กเท่าฝ่ามือไปพินิจดูด้วยรอยยิ้มดีใจสุดๆ
           “ไม่ให้ได้ไงล่ะยะ เพื่อนเลิฟฟฟ ฉันกระโดดกอดมิเชลแน่นๆจนได้กลิ่นน้ำหอมลอยฟุ้งเข้าจมูก มิเชลทำตาเยิ้มบวกกับใบหน้าอันซาบซึ้งปานน้ำตาจะไหล แต่ก่อนที่ฉากเลิฟซีนอันน่าขนลุกจะเกิดขึ้น ยัยฟินฟินที่ถือแก้วไวน์สีสวยก็โผล่เข้ามาซะก่อน

            “นี่! ไปแด๊นซ์กันหน่อยดีกว่าสาวๆ~” พูดจบก็ลากฉันกับมิเชลไปกลางบ้าน เราทั้งสามคนเริ่มโยกตามจังหวะเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆด้วยสไตล์กึ่งแจ๊สกึ่งเร็กเก้-[]- และด้วยความสนุกสนานนี้เอง ก็ทำให้ฉันเพลิดเพลินจนลืมเวลาไปเสียสนิท…..



                ----------------------------


                  {Nishin’s part}
                   ตอนที่มีคนมาเคาะประตูหน้าบ้าน ในเวลานั้นผมกำลังแปรงฟันอยู่หน้ากระจก ถ้าให้ย้อนไปก่อนหน้านี้ซักสิบนาที ผมคงกำลังกล่าวราตรีสวัสดิ์กับคุณต้นไม้ แต่นั่นยังไมใช่ประเด็น เอาเป็นว่าผมกำลังแปรงฟัน ซึ่งถ้านับไปสิบนาทีต่อจากนี้ผมก็คงกำลังนอนหลับปล่อยให้สมองได้พักผ่อน แต่ก็นั่นแหละครับ ชีวิตไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะประตูหน้าบ้านดันถูกเคาะจนสั่นสะเทือน  โดยที่ผมกำลังแปรงฟันอยู่
                    ล
    องพูดให้ง่ายกว่านี้หน่อย.....ผมกำลังแปรงฟัน แล้วก็มีคนมาเคาะประตู ซึ่งคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือพี่ชายของ เธอคนนั้น  พี่ไลแลค นั่นเอง  
                   อีอะไออึ๊อ่าวอั้บ?” ผมเดินไปเปิดประตูโดยที่ยังคงแปรงฟันอยู่….
                   มาลินล่ะ มาลินอยู่ไหนนน!!! แก แกใช่มั้ยที่ขโมยมาลินไปปป~”  และยังไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งหลัก พี่ไลแลคก็โผเข้ามาเขย่าไหล่ผมอย่างแรงจนแปรงสีฟันกระแทกปากเจ็บไปหมดเลย (;_;)
                  “ เอ๋ ไม่ได้อยู่บ้านหรอกหรอครับ(‘ ‘ ;) ผมเกาหัวด้วยความงง ถ้าคำนวณตามหลักฟิสิกส์ มาลินซึ่งไม่มีความเร่ง น่าจะกลับไปถึงบ้านด้วยความเร็วคงที่ โดยมีระยะกระจัดและเวลาเท่าเดิมนี่นา
                  “ก็ไม่ใช่น่ะสิ! ฉันพึ่งบึ่งมาถึงบ้านเมื่อตะกี้ แต่พอเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ก็พบเพียงความว่างเปล่า นี่มันตี1 แล้ว!!มาลินหายไปไหน!!! ม่ายยยยย พี่ชายผู้ตามหาน้องสาวขยุ้มหัวเซอร์ๆของตัวเองด้วยท่าทีปวดร้าว…..
                   “หลบอยู่บนต้นไม้รึเปล่าครับ พี่แลคหันขวับมามองผมตาเขียวปั้ด….ผมแค่พูดตามหลักความเป็นจริงเองนะ.!
                    ไม่ใช่! ไม่ใช่เลย ฉันหาทั่วบ้านแล้ว T_T โทรหาก็แล้ว แต่น้องลินของพี่ก็ปิดเครื่อง
                   “ อ๋า น่าแปลก  ผมขมวดคิ้วบนต้นไม้ก็ไม่มีหรอกหรอเนี่ย…. ไม่ได้การล่ะ แปรงฟันเกินสามนาทีแล้ว
                   “ เดี๋ยวผมมาแป้ปนึงนะครับ ผมรีบวิ่งไปบ้วนปาก แล้วเดินกลับมาหาพี่ไลแลค
                    นี่….เมื่อกี้ฉันโทรหาเพื่อนของมาลินคนนึงติด เห็นบอกว่าตอนแรกไปบ้านของไมเคิลหรือมิเชลอะไรซักอย่างนี่ล่ะแต่ตอนนี้เพื่อนคนนั้นกลับบ้านไปก่อนแล้ว….เลยไม่รู้ว่ามาลินยังอยู่ที่นั่นรึเปล่า”  พี่แลคทำสีหน้าเจ็บปวดอย่างสุดจะทน
                    “เราต้องออกไปตามหามาลิน จากนั้นจึงเข้าโหมดขรึมโดยทันที
                    “ครับผมพยักหน้าตาม ขนาดบนต้นไม้ยังไม่มี เป็นไปไม่ได้….
                    “ ไปๆๆๆๆ ไปเดี๋ยวนี้ ถ้าน้องลินเจออันตรายเข้าไปจะว่ายังไง ผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้  พี่แลคฉุดกระชากผมที่ใส่ชุดนอนลายเทเลทับบี้ให้ไปขึ้นรถ และยังไม่ทันที่จะได้คาดเข็มขัด ก็เหยียบขั้นเร่งซะเต็มที่จนผมเกือบหน้าคะมำ
                   “ย้ากกกกก พี่แลคหักพวกมาลัยหลบรถซาเล้งที่ขับปาดหน้ามา(?)  ผมเกาะเบาะรถไว้อย่างแน่นหนา พยายามนึกถึงหน้าคุณพ่อ คุณแม่ และชาเขียวอา พี่ชาขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูวันที่น้องได้เรียนมหาลัย (;__;)
                    ใจเย็นก่อน เรายังปลอดภัย ฉันพอจะจำทางไปบ้านไมเคิล อะไรนั่นได้อยู่น่ะนะ”         
                   “…อ่า..ครับ.  ….เอาสิบนาทีที่แล้วของผมคืนมาTT




    ------------------------


                   { malin’s part}
                   กี่โมงแล้วนะ  ฉันเอ่ยถามฟินฟินที่เมาเหมือนหมู แต่ก็นั่นล่ะ อย่างที่คิดไม่ได้รับคำตอบ.. พอก้มมองมือถือตัวเองก็พบว่าแบตหมดเดี้ยงไปแล้ว ตายล่ะหว่า
                  สภาพตอนนี้ไม่มีใครที่พอจะพึ่งพาได้เลยซักคน ไมเคิลกำลังทำตัวเป็นโรสในไททานิคแหกปากร้องเพลงมายฮาร์ทวิลโกออนดังไปทั่วบ้าน ส่วนเจ๊กรี๊ดนิ่มก็แทบจะขึ้นไปเต้นรูดเสาบนโต๊ะ พวกแขกที่ไม่ค่อยสนิทก็กลับบ้านกันไปหมดแล้ว
                  …ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน……
                   ฉันคิดอย่างหนักแน่นคว้ากระเป๋าถือแล้วก้าวเดินออกจากบ้าน ทิ้งสภาพอันน่าอนาถใจไว้เบื้องหลัง สองเท้าของฉันเดินย่ำไปบนท้องถนนอันเปล่าเปลี่ยว ในใจรู้สึกหวั่นวิตกเล็กน้อย แถมอยู่ดีๆก็พาลไปคิดถึงพี่ชายบังเกิดเกล้าของตนเอง คิดถึงใบหน้าเคะๆ(?)ของน้องชาที่ยืนเคียงคู่กับทาโอะ สุดท้ายภาพหน้าเหวอๆของนิชชินก็ลอยเข้ามา..
                  "เอ่อมาลินครับบบ  กาลครั้งหนึ่ง ความคิดของคนเรากลายเป็นสี่มิติ สมจริงอะไรเช่นนี้นะ
                 “จะไปไหนครับนั่น?”  โอ้มายก้อด ดิฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างค่ะ….
                 "นี่เธอ…”  มีคนยื่นมาแตะไหล่ฉันเบาๆ  ฉันรีบหันไปมอง เตรียมใช้วิชาคาราเต้ทั้งหมดที่เรียนมา แต่ภาพที่เห็นกลับเป็น นิชชินที่กำลังยืนทำหน้ามึนอยู่ซะอย่างนั้น
                "ไปขึ้นรถกันเถอะครับ พี่แลคทำหน้าโหดอยู่นะ(‘ ‘ ;)   ฉันมองเลยนิชชินไปด้านหลัง เห็นรถเต่ากำลังจอดอยู่ริมถนนท่ามกลางความมืด โดยมีเงาลางๆของไลแลคอยู่ที่ด้านคนขับเอ้า ไหนบอกไปทำงานมหาลัยไง- -;
                 "อ้อ..อืมโอเค-[]-   ฉันเดินตามนิชชินไปที่รถทั้งที่ยังมึนๆอยู่ เปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างๆแลคที่หน้าบูดเต็มแก่ 
                 "มาลิน…” แลคทำเสียงโหด ก่อนจะตวัดสายตามามอง….
                 “….ทำไมทำไมล่ะ……” แลคพูดด้วยแววตาไหววูบ
                  "…..ทำไมไม่โทรมาบอกกันก่อนเลยยย รู้มั้ยพี่เป็นห่วงแค่หนายยย เจ้าของเสียงโหดๆเมื่อตะกี้โผเข้ามาจับฉันพลิกซ้ายพลิกขวา -_- "เป็นอะไรรึเปล่าน้องพี่ToT"
                 " แลคค ฉันแค่ไปงานวันเกิดเพื่อนนะไม่ได้ไปเปิดศึกที่ไหน -3-“   ฉันกอดอกแล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง
                 “เอ้อ แล้วไหนบอกวันนี้ไม่กลับไม่ใช่หรอ?”
                 “ก็แหม พี่ชายอดเป็นห่วงน้องไม่ได้นี่นาT3T เลยขอเพื่อนกลับมาก่อน   สาบานได้ว่านี่คือ ไลแลค หนุ่มมาดโหดคณะวิศวะกรที่สาวๆพากันรุมกรี๊ด  ฉันส่ายหน้าให้กับพี่ชายอย่างเหนื่อยใจ -___-  
                  หลังจากเสียเวลากับการพร่ำเพ้อของแลคมานาน ในที่สุดพวกเราก็มาถึงบ้านตอนตีสองนิดๆ ฉันปล่อยให้แลคเดินเข้าบ้านไปก่อน  แล้วจึงเดินไปบอกลานิชชินที่กำลังจะเดินกลับเข้าประตูบ้านไป

                  นี่! นิชชินน ขอบคุณมากนะที่อุตส่าห์ออกมาดึกๆดื่นๆ ><” 
                  “อ๊ะ..ไม่เป็นไรครับ พี่แลคเค้าบอกให้ไปด้วยกันผมก็เลยไปด้วยน่ะ(‘ ‘ ) นิชชินเหมือนจะพยายามจะพูดให้สบายใจ แต่ว่านั่นมัน… หูย ไม่เป็นห่วงบ้างเลยหรอ 
                  อ๋า ไม่ใช่นะครับๆ คือจะว่ายังไงดีล่ะ นิชชินโบกไม้โบกมือพัลวัน
                  คือผมคิดว่า มาลินน่ะ ไม่เป็นอะไรหรอกพูดพลางยิ้มออกมานิดๆ



                       


                        "…
    เพราะว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ผมเชื่อว่าเธอจะสามารถปีนขึ้นไปหลบบนต้นไม้ได้อย่างแน่นอน (‘w’)V”  


    …               ....อ่าซึ้งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว….




    -----------------------------------
    to be con.

                                               



                  
       ท อ ล์ ค.    

                   *กราบรอบบทความ*
                   ก่อนอื่นอยากจะบอกผู้อ่านทุกคน(ถ้ามี) ว่ามันไม่ง่ายเลยกับการเป็นนักเรียนมอปลาย (?)  

            ....งานยุ่งมากจริงๆค่ะ ไม่มีเวลาแต่งเลย + ถึงมีเวลาเราก็จะเอาเวลานั้นไปทำอะไรไร้สาระ (อ้าว)
             เอาล่ะ....มาเข้าเรื่องนิยาย...สำหรับตอนนี้ก็ยังไม่มีสาระเหมือนเดิม ซึ่งคาดว่าคงไม่มีวันมี -__- (y)   
             สาระอย่างเดียวที่มีตอนนี้คือแต่งนานมาก (หัวเราะแห้งๆ--)
             และตอนต่อๆไปคงไม่ได้มาอัพถี่ๆแน่นอน  เพราะฉะนั้นถ้าใครบังเอิญแวะเข้ามาก็ฝากช่วยดูแลปัดฝุ่นด้วยนะคะ-/\- 
             ขอบคุณที่อ่านจนถึงตอนนี้ และขอบคุณที่ให้การสนับสนุนน้องนิชชี่คลุงมาโดยตลอด 555 
             -ปิ่น&จ๋า-







    Shalun la
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×