คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 ♥ ประกาศศึกชิงนาง/นาย? (Flashback)
Chapter 3 ประกาศศึกชิงนาง/นาย? (Flashback)
보이니 너 믿길 바래 โบอีนี นอ มิดกิล พาแร
Gir Gir Gir Girl, I miss you. Baby, ye eh eah.
나를 바래봐 내게 다가와 봐 นารึล พาแรบวา แนเก ทากาวา บวา
|
ที่รัก ฉันคิดถึงคุณมาก ยังเห็นฉันคนนี้และยังเชื่อในตัวฉันอยู่หรือเปล่า? ที่รัก ฉันคิดถึงคุณมาก หันมามองฉันสักนิด ก้าวเข้ามาใกล้กว่านี้ |
After School - Flashback
cr. Thehoneyyproduction
Chanyeol’s Part
ผมมันชั่ว.. ชั่วมาก ชั่วจนมั่วซั่วเลย! TOT!
หลังจากที่แอบขบคิดขบเขี้ยว(?)อยู่ตั้งนาน ผมก็คิดไม่ซื่อ และก็ต้องขอร้องอ้อนวอนพวกเพื่อนๆ ของผม ให้ค้านงานแต่งงานของไอ้คริสและทิฟฟานี่ซะงั้น
ก็ตอนแรกกะจะไม่ค้านและทรมานอยู่คนเดียวอย่างเงียบๆ อย่างที่เคยทำมาตลอด แต่เมื่อหนึ่งหรือสามในเพื่อนเจ้าสาวขอค้านด้วยเหตุผลที่แหวกแนวมาก ผมก็เลยบอกให้พวกเพื่อนๆ ของผมที่รับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว(คิดไม่ซื่อ) ให้ค้านงานแต่งงานนี้ด้วย
ผมก็ไม่อยากให้ใครเจ็บช้ำชอกใจหรอกนะ แต่ในเมื่อโอกาสที่จะให้ค้านงานแต่งงานนี้มันลอยมาอย่างไม่รู้ตัว ผมก็เลยอยากจะใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าที่สุด
หากพวกคุณฟังผมพล่ามจนถึงตอนนี้ แล้วพวกคุณยังไม่รู้อีกว่าผมต้องการจะสื่ออะไรล่ะก็.. กลับไปอ่านใหม่ไป =3= เฉลยก็ได้ครับผม! ^ ^
ผมเคยคบกับทิฟฟานี่มาก่อน! อึ้งหรอ? รู้นะว่าแอบเชียร์ผมอยู่ ฮ่าๆๆ
คือ... ผมเองแหล่ะผิด ที่เจ้าชู้ไปคบสาวนั้นนู้นนี้บ้าง ทำให้เธอบอกเลิกกับผมจนได้
แต่เธอจะรู้อะไรบ้างไหม? ว่าเธอไม่ได้เจ็บอยู่คนเดียว ผมเองก็เจ็บไม่น้อยกว่าเธอเลย...
ยิ่งเธอไปคบกับไอ้คริสเพื่อนในกลุ่มผมอีก มันยิ่งเจ็บใจเข้าไปใหญ่! ผมไม่แน่ใจว่าเธอตั้งใจที่จะมาคบไอ้คริสอยู่หรือเปล่านะ แต่เวลาเธออยู่กับไอ้คริสต่อหน้าต่อตาผม เธอยิ่งสะดีดสะดิ้งเพื่อที่จะทำให้ผมหึง(?)เข้าไปใหญ่
ยิ่งเธอทำแบบนี้ ผมก็ยิ่งเสพติดผู้หญิงอื่นๆ รอบกายของผมเข้าไปใหญ่ แต่ทำไมไม่มีใครเหมือนเธอคนนี้เลยล่ะ?
“ฮืออ... ฮึก ฮือออ!!!” นั่นไง! ผมเจอเธอแล้ว เธอกำลังนั่งร้องไห้อยู่หลังโบสถ์นี่เอง
ตอนที่เธอวิ่งร้องไห้หนีออกมาจากโบสถ์ต่อหน้าผม ผมก็วิ่งตามเธอตามสัญชาตญาณที่บอกให้ผมเข้าไปปลอบใจเธอ แล้วแน่นอน.. ผมไม่กล้าหรอก
“ฮึก.. นายมาทำไม?” เธอถามผมระหว่างที่เช็ดน้ำมูกและน้ำตาบนหน้าของเธอ
“ทำไมฉันจะตามเธอมาไม่ได้หรือไง?” ผมอย่างจะตบปากตัวเองชะมัดเลย! คิดก่อนพูด! คิดเป็นมั้ยเนี่ย? =O=
ตั้งแต่เราเลิกกัน ผมมักจะเย็นชาใส่เธอทุกครั้งที่เราคุยกันหรือทุกครั้งที่พวกเราพบกัน บางทีผมก็จะกวนประสาทเธอด้วยคำพูดหวานๆ ที่เอาไว้คุยกับสาวๆ ที่เอาไว้ควงเล่น
“นี่เป็นแผนการเลวๆ ของนายใช่มั้ย!?” เธอลุกขึ้นยืนพลางชี้หน้าผมอย่างโกรธเคือง
มาสคาร่าสีดำที่เคยประดับขนตาให้ดูเด่นก็ไหลเยิ้มตามหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด
“ก็..” ผมยืดเสียงให้ยาวและทำหน้าครุ่นคิด
“นายบอกฉันทีว่าพวกนายกำลังเล่นซ่อนกล้องกับพวกฉันอยู่!!! ฮือๆๆ”
ฉึก!
เจ็บ.. เจ็บใจจริงๆ
เธอมีใจให้ไอ้คริสจริงๆ สินะ
“...” ผมเงียบ
“บอกฉันทีสิชานยอล!” เธอเขย่าไหล่ของผมทั้งสองข้างอย่างบ้าคลั่งและร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ไม่ใช่!!! ไม่ใช่!!! ไม่ใช่!!!” ผมจะบ้าตายแล้ว ยิ่งเธอแสดงออกว่าเธอรักไอ้คริส... มันทำให้ผมแทบคลั่งตาย
เธอปล่อยมือออกจากไหล่ของผมและเช็ดน้ำตาอีกครั้ง
“ทำไม..” เสียงของเธอเริ่มหาย “ทำไมพวกนายต้องค้านกับสิ่งที่ฉันรอมานานแสนนานด้วย?”
“...” ผมเงียบอีกครั้ง
“นายเป็นคนสั่งให้พวกนั้นค้านใช่มั้ยชานยอล? นายเป็นคนบังคับให้เพื่อนฉันค้านงานแต่งงานนี้ด้วยใช่มั้ย?” ทิฟฟานี่พยายามสูดลมหายใจเข้าลึก แต่เพราะเธอร้องไห้ทำให้เสียงสูดลมหายใจของเธอสั่นเครือ
“...” ผมไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น ยิ่งผมพูด ผมก็จะเจ็บใจเองทั้งนั้น เพราะลึกๆ ในคำตอบของเธอจะมีทุกอย่างที่เกี่ยวกับคนที่ชื่อว่า ‘คริส’ อยู่เสมอ
ผมกำมือตัวแน่นก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่และรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อที่จะสู้กับผู้หญิงคนนี้
“ทำไมนายต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย?” ก็เพราะฉันยังรักเธอไงล่ะ...
ผมคว้าเธอเข้ามากอดแน่นและพูดว่า..
“แล้วถ้าเพื่อนของเธอก็ขอค้านเองล่ะทิฟฟานี่? แล้วถ้าฉันไม่ได้ขอให้เพื่อนๆ ของเธอค้านล่ะ?” ณ จุดๆ นี้.. ผมคิดอะไรแทบไม่ออกเลย อาจเป็นเพราะผมกำลังกอดเธออยู่... แล้วเธอก็กอดผมเหมือนกัน
“ฮือ... ฮือ.. ชานยอล นายเป็นคนค้านจริงๆ ด้วย” เธอกอดผมแน่นกว่าเดิม
ผมหลับตาเพื่อที่จะห้ามน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลให้ได้
“ฉัน...” ขณะที่ผมยังพูดไม่จบ จู่ๆ ก็มีคนมาพบพวกเรา ทำให้เราทั้งสองต้องผละออกจากอ้อมกอดกันอย่างน่าเสียดาย
“ฟานี่ยา..” เพื่อนสนิทของเธอที่เป็นคนค้านงานแต่งงานนี้ด้วยคนพูดสียงสั่นเครือ
“เจสสิก้า.. เธอ!!! เธอมันตัวทำลายชีวิตฉัน!!! ไปให้พ้นหน้าฉันเดียวนี้นะ!” ทิฟฟานี่ชี้นิ้วสั่งเจสสิก้าอย่างดุเดือด
น้ำตาของทั้งคู่ไหลออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจให้ใครเห็น
ทิฟฟานี่รีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของเธอ
“เธอฟังฉันก่อน...”
“ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น!! เหตุผลไร้สาระของเธอฉันไม่อยากรับรู้หรอก!” ทิฟฟานี่แทรก
ผมลูบหน้าตัวเองอย่างเดียวเพราะผมไม่อยากยุ่งเรื่องของพวกเธอ
“ฉันมีเหตุผลจริงๆ นะทิฟฟานี่!” เจสสิก้าปาดน้ำตาของตัวเองอีกครั้ง
“แม่คริสเขาเสียตั้งนานแล้วยัยบ้า! เธอคงอยากได้คริสจนตัวสั่นเลยสินะ จอง ซูยอน!!!” สิ้นเสียงของทิฟฟานี่ เสียงของฝ่ามือของบุกคลที่สาม(ผมไม่เกี่ยว)กระทบใบหน้าสวยๆ ของทิฟฟานี่
เพี้ยะ!!!
“พอได้แล้ว!!! พี่ไม่รู้เรื่องจริง พี่ก็อย่าพูดเลยดีกว่า! อิม ยุนอาคนนี้รู้เรื่องที่แท้จริงดีที่สุด!” ยุนอาเดินเข้าไปโอบไหล่เจสสิก้า ก่อนที่จะพูดทิ้งท้ายไว้ว่า.. “ไว้พี่สติดีเมื่อไหร่ ค่อยกลับมาคุยกันนะคะ ยุนจะไม่ขอโทษเรื่องที่ยุนทำเมื่อตะกี้นะคะ ไปกันเถอะเมียจ๋า~ ><” ต่อให้เธอจริงจังสักแค่ไหน แต่เธอก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใสได้เลย =_=
Jessica’s Part
“ไม่เป็นไรนะเมียจ๋า~ >3<” ยัยเหม่งยุนพาฉันมาที่ลานจอดรถและคอยปลอบฉันทุกห้าวินาที
“อย่าปลอบฉันได้มั้ยอ่ะ... ยิ่งปลอบมันยิ่งเศร้าอ่ะ แง้~ T T” ฉันโผลกอดยัยนี่อย่างจริงจัง และปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างไม่แคร์โลกนี้อีกแล้ว
“ได้ๆๆ” ยัยเหม่งลูบหลังฉันเบาๆ
“เสียใจหรอ? หึ!” จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำของใครก็ไม่รู้ดังขั้นมา
ฉันผละออกจากอ้อมกอดของยัยเหม่งยุนและหันไปมองเจ้าของเสียงนั้นด้วยน้ำตา
“ใช่.. T__T อ้าว! นาย!!! O_O” ฉันรีบเช็ดหน้าเช็ดตาเพราะตอนแรกตาฉันมันเบลอๆ นิดหน่อย
“ใช่! ฉันเอง ฉันมีเรื่องที่จะคุยกับเธอ” จะเป็นใครไปได้ล่ะ! ก็ลูกชายของคุณน้าหรือเจ้าบ่าวของงานแต่งงานนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉัน
มือใหญ่จับข้อมือของฉันแน่นและกำลังจะลากฉันไปที่อื่น แต่ทว่า!
หมับ!
มือเรียวอีกมือนึงกำลังจับข้อมือของฉันอีกข้าง
“เดี๋ยวๆๆ! ฉันขอฟังด้วยคนดิ = =”
...เราสองสามคนกำลังนั่งอยู่คุยกันอยู่ที่โต๊ะไม่หินอ่อนหน้าโบสถ์
ฉันกับยัยเหม่งยุนได้เล่าความจริงให้ลูกชายของคุณน้าฟังแล้ว แต่เขาก็ทำท่าทีที่จะไม่เชื่อพวกฉันแม้แต่นิดอ่ะนะ
“แต่แม่ฉันตายไปนานแล้วนะ!”
“ไม่จริ๊งง ไม่จริง! คุณน้าเพิ่งเสียไปไม่ถึงอาทิตย์นึงเลยนะ =O=” ยัยเหม่งยุนอธิบายรอบที่สามแล้วนะเนี่ย
“แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าเป็นแม่ฉันจริงๆ ที่ส่งเธอให้มาแต่งงานกับฉัน แล้วฉันก็เป็นแฟนของเพื่อนสนิทของเธอด้วย!”
ฉึก!!!
ประโยคสุดท้าย.. เจ็บมาก! ทำไมต้องตอกย้ำกันด้วย?
“ก็จดหมายที่ฉันยื่นให้นายเมื่อตะกี้อ่ะ..” ฉันพูดเสียงเบา
“แม่ฉันชื่ออะไร?”
“หา?” พวกฉันสองคนกำลังงง อยู่กับคุณน้ามาตั้งหลายปี... แต่รู้อะไรมั้ย? ฉันไม่เคยรู้จักชื่อที่แท้จริงของคุณน้าเลย! TOT!
ตอนที่ถามหน้าคุณน้าตอนแรก ฉันก็อธิบายรูปร่างหน้าตาของเธอเท่านั้นอ่ะ = =
“ชื่ออ่ะ..ไม่รู้หรอก แต่ฉันมีอัลบั้มรูปนะ : )” ฉันยิ้มเล็กน้อย
“ไหนบอกว่าอยู่กับแม่ฉันเกือบสิบปีไง แต่ทำไมไม่รู้ชื่อจริงของแม่ฉันล่ะ? โอ้ยย~ ยัยโง่เอ้ย!”
“เฮ้ย!!! แกว่าเมียฉันไงวะ!?” ยัยเหม่งยุนลุกขึ้นและชี้หน้าใส่ลูกชายของคุณน้าอย่างเคืองๆ
“เออ! ทำไม? มีปัญหาหรอ? นี่ก็มีสามีอยู่แล้ว แล้วจะเอาฉันไปทำชู้ทำไมล่ะหือ???” อีกคนก็ไม่ยอม เขาลุกขึ้นพลางนี้หน้าของสามีของฉันเหมือนกัน ส่วนประโยคหลังๆ เขาหันมาคุยกับฉัน
“มะ.. ไม่ใช่อย่างนั้นนะ พวกฉันเล่นกันเฉยๆ”
“ทีพี่ทิฟยังมีแทยอนเป็นสามีเลย แล้วนายจะแย่งพี่ทิฟจากพี่แททำไม? นายก็เต็มใจที่จะเป็นชู้กับพี่เขาไม่ใช่ไงยะ?!” ยัยนี่เองก็ไม่ยอม
“แล้วถ้าทิฟฟานี่เต็มใจที่จะเอาฉันไปทำชู้ล่ะหา!!!” OoO เมื่อไหร่จะยอมกับซักทีเนี่ย!
“คริส!!!” ฉันหันไปมองเจ้าของเสียงนั้นอย่างรวดเร็ว
“ทิฟฟานี่...” เขาเบาเสียงลง ก่อนที่จะเดินไปหาทิฟฟานี่ที่เดินมากับผู้ชายที่เธอควงแขนตอนเดินเข้าโบสถ์และตอนที่พวกเธออยู่หลังโบสถ์กัน
“หึ! อยากได้คริสจนตัวสั่นจริงๆ ด้วย งัดแงะหาข้อมูลทุกอย่างเพื่อที่จะแย่งแฟนเพื่อนจริงๆ ด้วยสินะ!” ทิฟฟานี่หันมามองตาขวางใส่ฉันซะงั้น..
นี่ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ! ทำไมเธอไม่ยอมฟังเหตุผลจากฉันบ้างเลย..
“พี่พูดแบบนี้กับเพื่อนได้ไงอ่ะ!” ยัยเหม่งยุนเดินเข้าไปหาทิฟฟานี่
“คนแบบนี้หรอ.. ฉันไม่เรียกว่าเพื่อนหรอก!”
“แต่เมื่อกี้พี่พูดนะ ฉันได้ยินเต็มสองรูหูเลยว่า แย่งแฟนเพื่อน!”
สองคนนี้กำลังแข่งจ้องตากันอย่างดุเดือด ส่วนฉันก็ค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินเข้าไปห้ามสามีตัวดีของฉัน
“พอเถอะน่า.. ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ฟังฉันจริงๆ ใช่มั้ย?” ฉันถาม แต่ก็ไม่ได้คำตอบแม้แต่นิด
“ไอ้คริส แกจะไม่พูดอะไรหน่อยไงวะ? อธิบายให้แฟนแกฟังหน่อยดิ เรื่องที่แกฟังมาจากสองคนนี้อ่ะ” ผู้ชายคนนั้นหันมาคุยกับลูกชายของคุณน้า
“ไม่มีอะไรต้องอธิบาย! เพราะ ฉันจะจัดงานแต่งงานนี้ใหม่อีกครั้ง! โดยไม่มีพวกแกและพวกเธอทั้งหลาย โดยเฉพาะแก.. ไอ้ชานยอล!” นายคริสประกาศเสียงดัง เหมือนจะตั้งใจให้พวกเพื่อนๆ ทั้งหลายในโบสถ์ได้ยินด้วย
“ไอ้คริส!!!” ชานยอลกระชากคอเสื้อของนายคริสและกำหมัดแน่นทำท่าเหมือนจะต่อย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะต่อยเจ้าบ่าวคนนี้ไม่ลง
แค่ไม่ถูกชวนไปงานแต่ง ไม่เห็นจะต้องโมโหขนาดนี้เลย...
แต่จริงๆ แล้ว ฉันเองก็โมโหนายคริสคนนี้เหมือนกันนะ! นี่สรุปเขาจะไม่เชื่อฉันบ้างเลยหรอ? แล้วจะแต่งงานอีกครั้งโดยไม่มีพยานอีก
“ปล่อยคริสนะนายบ้า!” ทิฟฟานี่แกะมือของชานยอลออกจากคอเสื้อของนายคริส
“...เธอ” ชานยอลพูดเสียงเบา ก่อนที่จะหันหลังและเดินหนีไปทางลานจอดรถซะงั้น
“ส่วนเธอ! ฉันไม่นับเธอเป็นเพื่อนของฉันอีกแล้ว!!! แกด้วย อิม ยุนอา!” ทิฟฟานี่ควงแขนของนายคริสและชี้หน้าใส่พวกเราสองคน
“ได้... ในเมื่อฉันไม่ได้อยู่ในฐานะเพื่อนแกแล้ว ฉันจะแย่งแฟนแกในฐานะผู้หญิงอื่นก็ได้ ฮวัง มิยอง!!!”
“ใช่แล้ว! รอดูได้เลยนะจ๊ะ กริ๊บกริ๊วว~” ยัยเหม่งเสริมต่อ
จะบ้าตาย... ฉันพูดไปได้ไงวะเนี่ย TOT น่าอายชะมัดเลย!
- - - - - - - - -
ขอโทษนะจ๊ะที่อัพช้านิดหน่อย T_T เค้าผิดไปแล้วนะ : )
แอบมาโพสต์ตอนข้ามคืน เสียดายนิดๆ เกือนจะได้โพสต์ตอนวันพุทธตอนดึกๆ ซะแล้ว TOT
ตอนนี้จะเศร้าหรือจะสุขดีน้ออ ~ ?
ทุกคนก็รู้สถานะของชานยอลกันแล้วนะจ๊ะ
คุณเอ๋อกับจ่าเงิงบวกเจ๊เหม่งไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะจ๊ะ โปรดติดตามตอนต่อไป!
ขอกำลังใจหน่อยนะคะ หนึ่งคอมเม้นท์หนึ่งกำลังใจ ; )
ความคิดเห็น