ตอนที่ 14 : บทที่ 5 (2) ฉบับรีไรท์ 150% 11122561 2122562
ธาราหวนรัก
บทที่ ๕ ฉบับรีไรท์ (๒)
วันต่อมาแมนดี้ก็ไปรับศศิรินธารมาดูห้องอย่างที่นัดกันเอาไว้จริงๆ ธีภพว่างพอดีเลยอาสามาพาทั้งสองไปพบกับคนดูแลหอและตามเธอไปดูห้องด้วย
ห้องพักของศศิรินธารอยู่ชั้น 5 หญิงสาวถูกใจอพาร์ตเม้นท์เล็กๆ ที่ค่อนข้างสงบแห่งนี้มาก ระหว่างที่รอคนดูแลทำสัญญาทั้งสองสาวจึงตามธีภพขึ้นไปยังห้องชั้นดาดฟ้าของเขา
“น่ารักจังเลยค่ะ ศศิเคยอยากจะอยู่ห้องบนชั้นดาดฟ้าแบบในซีรีย์มานานแล้ว” หญิงสาวพูดแล้ววิ่งไปดูรอบๆ ทันที
ธีภพถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
“ในซีรีย์มีวิวสวยๆ เป็นเพื่อน แต่ห้องของผมนี่รอบๆ เห็นแต่ตึกกับแทงค์น้ำนะครับ”
คราวนี้เป็นสองสาวที่หัวเราะขึ้นมาบ้าง
“ยังไงก็ถือว่าใกล้เคียงอยู่ดีแหละค่ะ ถ้าเราเอาโต๊ะมาตั้งแล้วขึงหลังคาก็น่าจะทำงานเพลินๆ เหมือนกันนะคะ” หญิงสาวเริ่มจินตนาการ
“ไว้คุณรินย้ายมาอยู่จริงๆ ก่อนเถอะครับ ถ้าไม่กลัวหนาวก็ขึ้นมาทำงานบนนี้ได้เลย ผมสนิทกับคนดูแลหอ ไว้จะขออนุญาตเค้าเอาผ้าพลาสติกมาทำหลังคาให้” ธีภพดูจะตามใจหญิงสาวขึ้นมาจริงๆ
“คุณภพใจดีจริงๆ ค่ะ”
“ผมว่าตอนนี้เราลงไปที่ห้องกันก่อนดีกว่าครับ เค้าคงเอาสัญญามาให้คุณเซ็นแล้ว”
ทั้งศศิรินธารและแมนดี้จึงเดินตามธีภพลงบันไดไปทำสัญญา
หญิงสาวมีกำหนดจะขนของย้ายเข้ามาอาศัยที่ห้องใหม่ของเธออย่างเป็นทางการในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า เพื่อทำความคุ้นเคยก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิดภาคเรียนจริงๆ
ระหว่างนั้นเธอก็ถือโอกาสเริ่มต้นทำงานที่ตั้งใจเอาไว้ร่วมกันกับหุ้นส่วนคนใหม่ทันที
ธีภพตามลงมาส่งแมนดี้และศศิรินธารที่รถเมื่อเสร็จธุระแล้วเรียบร้อย
“ขอบคุณคุณภพมากนะคะที่ช่วยเป็นธุระให้ จริงๆ อยากจะชวนไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อแต่แมนดี้บอกว่าคุณภพมีงานต่อก็เลยรบกวนแค่นี้ดีกว่า ไว้คราวหน้าคุณภพต้องให้โอกาสรินเป็นเจ้ามือบ้างนะคะ”
รอยยิ้มของศศิรินธารทำให้ธีภพนึกอยากจะยกเลิกงานในวันนี้เสีย แต่เขามีความรับผิดชอบมากพอที่จะไม่ทำเช่นนั้น
“แล้วผมจะรอนะครับ”
คำตอบของธีภพทำให้แมนดี้ที่ยืนฟังอยู่ด้วยถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เธอรู้จักกับชายหนุ่มผู้นี้ในฐานะรุ่นน้องของคนรักที่ขยับตัวมาเป็นเพื่อนของเธออีกคนนานพอที่จะรู้ว่าหากเป็นคนอื่น ธีภพคงไม่ให้คำตอบเช่นนี้แน่
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“ขับรถกลับดีๆ กันนะครับ ถึงแล้วยังไงโทรมาบอกด้วยนะแมนดี้” ธีภพหันไปพูดกับเพื่อนสาว
“โอเค”
สองสาวออกรถไปจนลับสายตาแล้ว แต่ชายหนุ่มกลับยังคงยืนมองอยู่อย่างนั้น รอยยิ้มแต้มริมฝีปาก
โลกใบนี้ดูจะสดใสขึ้นเพียงแค่เธอปรากฏขึ้นเท่านั้น
ก่อนจะถึงกำหนดวันย้ายเข้าห้องใหม่ แมนดี้มีเวลาว่างจึงนัดไปรับศศิรินธารเพื่อไปดูงานที่สำนักพิมพ์ของเธอและเลโอซึ่งเป็นเทาเฮ้าส์ขนาดกลางซึ่งเดิมทีเป็นบ้านมรดกตกทอดของเลโอที่นำมาจดทะเบียนสำนักพิมพ์และใช้เป็นสำนักงานส่วนเขาและแฟนสาวก็ไปซื้อคอนโดอยู่ด้วยกันต่างหาก
………………….
ศศิรินธารไปเจอกับธีภพที่เข้ามาช่วยงานเลโอวันนี้พอดี เธอจึงได้มีโอกาสเห็นฝีมือของเขา
เธอไม่ใช่โปรแกรมเมอร์จึงไม่เข้าใจในสิ่งที่หน้าจอแสดงผลอยู่ได้ แต่รู้ว่าเพียงเวลาไม่นานธีภพก็สามารถแก้ไขปัญหาและทำให้เว็บขายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ของเลโอและแมนดี้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติ
ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นคนเขียนระบบ เพียงแต่เข้ามาดูแลแทนคนเขียนซึ่งติดธุระและไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตเพื่อแก้ไขระบบชั่วคราวเท่านั้น
“คุณเก่งมากเลยนะคะ”
“เอ็ดเวิร์ดฝึกเขามากับมือตัวเอง ตอนนี้เขาสามารถวางระบบให้คุณได้แล้วแหละ” เป็นเลโอที่ตอบคำถามมา
“ดีจังเลยค่ะ”
“จะลองทำกันเลยไหมล่ะ ถือฤกษ์สะดวกยังไงช่วงบ่ายนี่ก็ว่างแล้ว ปัญหาของเว็บเราก็แก้ไขไปได้แล้วด้วย” เลโอเสนอ
“ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีเลย รบกวนด้วยนะคะ” ศศิรินธารเอ่ยกับเจ้าของสถานที่ ซึ่งอำนวยความสะดวกให้ทั้งคนและอุปกรณ์ครบครัน
“สาวๆ ไปหาอะไรทำดีกว่าครับ รออยู่ในนี้ก็เหนื่อยเปล่าๆ” ธีภพเสนอ
แมนดี้จึงชวนศศิรินธารออกไปดูข้างนอก มีพนักงานประจำอยู่ในส่วนของเว็บขายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อคอยดูแลในส่วนของหลังบ้านนักเขียนที่เข้ามาลงงานและนักอ่านที่มาซื้อหนังสือไปอย่างละสองคนด้วยระบบที่อยู่ตัวแล้ว
หญิงสาวตื่นเต้นมากเริ่มร่างแผนงานคร่าวๆ ของตัวเองไปด้วย เมื่อรอให้ธีภพเขียนระบบเสร็จซึ่งอาศัยแนวทางจากระบบของเลโอและแมนดี้แล้วทำให้ทราบถึงรายละเอียดที่จำเป็นทั้งหมดอยู่แล้ว
ผ่านไปสองชั่วโมงศศิรินธารจึงชวนแมนดี้ไปหาซื้อของกินไปให้ชายหนุ่มสองคนที่นั่งง่วนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
ศศิรินธารขนขนมและน้ำดื่มไปให้จากนั้นก็เลือกที่จะนั่งให้กำลังใจอยู่บนโซฟาในห้องนั้น
ขณะที่แมนดี้ขอตัวออกไปดูงานในส่วนของสำนักพิมพ์ด้านนอกและยุ่งจนกระทั่งไม่ได้กลับเข้ามาอีก จวบจนได้เวลาพอสมควรแมนดี้จึงตามเข้ามาเรียกศศิรินธารเพื่อไปส่งที่บ้าน
ธีภพเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยลาหญิงสาว
“เดี๋ยววันที่คุณย้ายเข้ามาที่ห้องใหม่ผมจะให้คุณดูเว็บไซด์ใหม่เป็นของขวัญก็แล้วกันนะครับ จะพยายามให้วันนั้นสามารถเปิดใช้ทดลองระบบได้ด้วยเลย”
“ขอบคุณมากๆ นะคะ” หญิงสาวยิ้ม ดีใจที่ก้าวใหม่ของเธอกำลังเริ่มต้น
“เราเป็นหุ้นส่วนกันไม่ใช่เหรอครับ ผมดูแลในส่วนของระบบ ส่วนคุณรินจัดการตลาดและหาทุนมา ถือว่าเราไม่ติดค้างอะไรกัน”
“แต่ยังไงเราก็ไม่รู้ว่ามันจะไปได้ดีหรือเปล่า รินต้องขอบคุณอยู่ดีที่คุณภพกล้าที่จะมาร่วมหัวจมท้ายกับริน”
คำพูดของเธอทำให้ธีภพหัวเราะออกมา
“หลังจากความสำเร็จของเลโอและแมนดี้แล้ว ผมคิดว่าผมต้องขอบคุณคุณรินมากกว่าอยู่ดีครับ ไม่เชื่อก็คอยดูไปเถอะ” เขาให้ความเชื่อมั่น
“แต่เราไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรมการอ่านและการใช้ชีวิตของคนไทยได้เลยว่าพวกเขาจะตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบนี้หรือเปล่า”
“คนเราชอบความสะดวกสบายครับ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าง่ายต่อการเข้าถึงเชื่อเถอะว่าไม่นานหรอก ยิ่งถ้าได้งานเขียนเจ๋งๆมา พี่สาวของคุณรินเป็นนักเขียนดังอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“มันก็จริงค่ะ” คนที่ไม่ค่อยมั่นใจพูดเสียงอ่อย
“ดีมากครับ”
“งั้นรินไปหาทุนมาก่อนดีกว่านะคะ จริงๆ ติดต่อผ่านคุณพ่อเอาไว้แล้ว ถึงเวลาจะต้องใช้จริงๆ เสียที” ศศิรินธารให้คำมั่นก่อนจะเดินตามแมนดี้ไปขึ้นรถกลับบ้านของพี่สาว
………………….
ความทุกข์จากการพรากจากผู้ชายในหัวใจลดทอนลงไป เมื่อเธอมีเรื่องตื่นเต้นให้ได้ลุ้นกับการเริ่มต้นของ ‘มิราเคิล’ ทุกย่างก้าวต่อจากนี้เธอจะทำมันด้วยตัวของเธอเองให้ได้!
ศศิรินธารโทรข้ามทวีปกลับไปหาบิดาทันทีหลังจากกลับไปที่โรงแรมโดยเลือกช่วงเวลาให้ตรงกับช่วงเช้าของประเทศไทย คุณณัฐภาครีบรับสายจากบุตรสาวคนเล็กที่ท่านกำลังเป็นห่วง
“ว่าไงหนูริน แสบนักนะเรานึกว่าจะลืมพ่อเชื้อเสียแล้ว”
คำตัดพ้อของบิดาทำให้คนฟังน้ำตาร่วงทันที หากศศิรินธารกลับเลือกที่จะปาดมันทิ้งเสีย
เธอจงใจที่จะไม่ติดต่อกับคนที่ประเทศไทยเลยนับจากเดินทางมาถึงเมืองนีซ เพียงแต่ให้ศศิรณัฐผู้เป็นพี่สาวคอยติดต่อแจ้งข่าวเมื่อแรกที่เธอมาถึงและให้พี่สาวเป็นฝ่ายรายงานความเป็นอยู่ของเธอไปให้ที่บ้านรับทราบมาตลอด
มีหรือที่คุณณัฐภาคจะไม่รู้สาเหตุที่บุตรสาวคนเล็กเลือกที่จะกระทำไม่ต่างจากคนใจดำเช่นนั้น…
หากไม่ใจร้ายกับตัวเองให้ถึงที่สุดแล้วจะใจร้ายกับคนที่รักที่สุดได้อย่างไร?
และเพราะอย่างนั้นคนเป็นพ่ออย่างท่านจึงไม่เคยซักไซ้หรือแสดงความสงสัยเมื่อติดต่อไปทีไรก็เจอแต่บุตรสาวคนโตมาคอยรับหน้าให้พูดคุยด้วยตลอด
ยอมรับแค่เพียงการทราบข่าวสารจากคำบอกเล่าของพี่สาวซึ่งท่านวางใจว่าจะคอยดูแลดวงใจดวงเล็กของท่านได้ดีไม่ต่างจากตัวท่านเอง ยอมรับและเชื่อใจชนิดที่แม้แต่น้ำเสียงก็ไม่อาจได้ยิน!
“หนูรินรักพ่อค่ะ”
เพียงประโยคเดียวเท่านั้นก็สร้างความสั่นสะเทือนให้ทั้งคนพูดและคนฟัง…
การแสดงออกของพ่อและคำพูดของลูกสาวที่สื่อให้รู้ว่าต่างก็รักและเข้าใจในตัวตนของกันและกันมากมายเพียงใด
ให้โอกาส ให้เวลาอีกฝ่ายได้ตระเตรียมหัวใจเพื่อรับมือกับทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่คิดก้าวก่าย แต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทอดห่างออกไป
“พร้อมแล้วสินะ”
เสียงปลายสายนั้นตอบกลับ มีแววปลอบประโลมในน้ำเสียงนั้นจนคนฟังน้ำตารื้นอีกครั้ง
“ค่ะ”
ศศิรินธารสูดจมูก ไม่มีแม้น้ำเสียงสะอื้นให้เล็ดลอดกลับไป
เธอเลือกใช้แค่การพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์แทนที่จะวีดีโอคอลก็เพราะไม่อยากให้บิดาเห็นสีหน้าและท่าทางของเธอในเวลานี้นั่นเอง
“หนูรินพร้อมแล้วที่จะก้าวไปข้างหน้า” หญิงสาวยืนยัน
“หนูมีอะไรจะให้พ่อช่วยหรือเปล่า”
เมื่อบุตรสาวยืนยันเช่นนั้น คุณณัฐภาคจึงไม่พูดถึงเรื่องที่อาจจะสร้างความสะเทือนใจให้คนฟังได้อีก
“หนูอยากให้พ่อช่วยเรื่องหุ้นส่วนที่เราเคยคุยกันไว้”
“จะเริ่มทำเลยเหรอ ยังไม่เปิดเรียนเลยไม่ใช่หรือไง”
คำถามที่แสดงให้รู้ว่าบิดารับรู้ความเคลื่อนไหวของเธอเป็นอันดีทำให้ศศิรินธารระบายยิ้มน้อยๆ
พ่อก็ยังคงเป็นพ่อคนเดิมของเธอและศศิรณัฐเสมอ…
“หนูรินได้พบกับหุ้นส่วนที่จะมาช่วยสร้างโปรแกรมและเขียนเว็บแล้วค่ะ ตอนนี้เราเริ่มทำงานกันแล้ว”
“ดีมากลูกสาวของพ่อ เดี๋ยวพ่อจะให้ผู้ร่วมทุนของหนูติดต่อไปก็แล้วกัน แต่พ่อไม่แน่ใจว่าเขาจะติดต่อไปเองหรือจะผ่านทางเลขาของเขาอีกทีนะ”
ศศิรินธารขมวดคิ้ว
เขานี่ใคร?
“เป็นผู้ชายหรือคะพ่อ หนูรู้จักหรือเปล่า”
……………….
หญิงสาวถามเช่นนั้นเพราะหุ้นส่วนหรือเพื่อนนักธุรกิจของบิดาส่วนใหญ่แล้วเธอและศศิรณัฐล้วนรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“มิสเตอร์พีน่ะเหรอ พ่อไม่แน่ใจนะเขาไม่ค่อยอยู่เป็นที่”
“มิสเตอร์พีชื่อไม่คุ้นเลย…”
“คนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงน่ะ พ่อถูกคอและทางนั้นก็จับทางธุรกิจใหม่ๆ สนใจพวกออนไลน์หรือเทคโนโลยีใหม่ๆพวกนี้อยู่แล้ว พ่อก็เลยลองชวนเขาดู พ่อบอกแล้วของพวกนี้มันต้องพวกรุ่นใหม่ด้วยกัน รุ่นพ่อน่ะไม่ไหวแล้ว” คุณณัฐภาคพูดพลางหัวเราะทำให้คนปลายสายพลอยหัวเราะไปด้วย
“ใครว่าละคะ คุณพ่อของหนูรินยังไฟแรงอยู่เลยนะคะ”
“อย่ามาปากหวานกับพ่อ พ่อจะเป็นคุณตาอยู่ไม่กี่วันนี้แล้ว เอาเป็นว่าหนูดำเนินงานไปได้เลย ส่วนเรื่องทุนนั้นอีกไม่เกิน 2 วันทางมิสเตอร์พีคงจะให้คนของเขาติดต่อไป แล้วหนูค่อยคุยรายละเอียดกับเขาอีกทีก็แล้วกัน”
“ได้เลยค่ะพ่อ ขอบคุณนะคะที่คอยสนับสนุนลูกสาวที่ไม่เอาไหนคนนี้มาตลอด”
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นบินกลับบ้านมาหาพ่อแทนไหมล่ะ รับรองจะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี”
คุณณัฐภาคหวังให้ปลาตะครุบเหยื่อ แต่มีหรือที่ปลาตัวน้อยอย่างศศิรินธารจะหลงกล
“หนูรินอยากกลับบ้านไปกอดคุณพ่อคุณแม่นะคะ แต่หนูรินยังกลับไปตอนนี้ไม่ได้จริงๆค่ะ”
หญิงสาวยืนกรานทั้งน้ำตา บอกตัวเองให้เข้มแข็งแต่ไม่อาจสั่งน้ำตาให้หยุดไหลได้เลย
ยิ่งได้พูดคุยกับบิดานานเท่าไหร่ หัวใจไม่รักดีของเธอก็กระหวัดไปถึงใครอีกคนที่ตอนนี้ก็คงกำลังยุ่งหัวหมุนอยู่กับงานและเลิกคิดถึงเธอไปแล้วด้วยซ้ำ!
วางสายจากบิดาแล้วศศิรินธารก็ได้แต่รุดตัวลงนั่งบนเตียงนอนของตัวเอง โชคดีที่เธอเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวที่ปิดมิดชิดไม่ต้องกังวลว่าใครจะมาเห็นเธอที่เป็นอยู่ในสภาพเช่นนี้
หญิงสาวชันเข่าขึ้นแล้วก้มศีรษะไปวางสองแขนกอดเข่าเอาไว้แน่นร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด…
หลายเดือนที่ผ่านมาเธอคิดว่าตัวเองไม่ใช่ศศิรินธารคนเก่าที่เอาแต่ร้องไห้วิ่งตามหลังปรมัตอีกแล้ว
ชีวิตที่เริ่มต้นใหม่ของเธอมีหลากหลายสิ่งให้ได้ทำ มีสิ่งต่างๆ ที่เธอเพิ่งเริ่มต้นและต้องรับผิดชอบมันไปให้จบ แต่ว่า…
เพียงได้พูดคุยกับคุณณัฐภาคอีกครั้ง เธอก็รู้ว่าความเข้มแข็งที่เคยพยายามแสดงออกมานั้นมันเป็นเรื่องที่เสียเปล่าไปจริงๆ
เธอหนีเขาได้แต่ตัวเท่านั้น แต่หัวใจไม่รักดีนี้ไม่เคยเก็บกลับคืนมาจากเขาได้เลยสักนิดเดียว!
“ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ถูกต้องแล้วที่มาเรียนต่อ มาทำโปรเจกส์ใหม่ๆ ของตัวเอง ถ้าขืนยังอยู่เมืองไทยหนูรินคงทำได้แค่เป็นตัวถ่วงให้พี่มัตอยู่วันยังค่ำ คนที่มีความสามารถอย่างพี่มัตจะต้องพาทุกคนให้ไปต่อได้เป็นอย่างดี หนูรินอยู่ทางนี้ก็จะขอเอาใจช่วยพี่มัตเสมอ ถึงแม้ว่าพี่มัตอาจจะโกรธ เกลียด หรือกระทั่งลืมหนูรินไปหมดหัวใจแล้วก็ตาม”
เป็นครั้งแรกหลังจากมาจากเมืองไทยที่ศศิรินธารร้องไห้หนักถึงเพียงนี้ แต่เธอก็ไม่คิดห้ามหรือฝืนตัวเองให้พยายามเข้มแข็งเพราะรู้ตัวดีว่าการทำเช่นนั้นมันไม่เป็นผลดีทั้งต่อตัวเองและใครเลย
ในเวลาที่แสนอ้างว้างเช่นนี้แค่มีสักพื้นที่ สักช่วงเวลาให้เธอได้เป็นตัวเองหรือคิดถึงเขาคนนั้นบ้างก็คงจะไม่เป็นการเห็นแก่ตัวจนเกินไปนัก…
…………….
วันต่อมาศศิรินธารลงมาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัวของอาโมรีสายกว่าที่เคย
ช่วงนี้แพทริเซียและวาเลรีเพิ่งกลับจากไปเที่ยวพักผ่อนและยกเลิกโปรแกรมปลายปีเพื่อกลับมาดูแลลูกสะใภ้ที่กำลังตั้งครรภ์และเตรียมตัวเป็นคุณปู่คุณย่ากันด้วยความตื่นเต้นยินดี
“ขอโทษนะคะที่ลงมาช้า” หญิงสาวกล่าวอย่างสำนึกผิดที่ทำให้ผู้ใหญ่ต้องรอ
“ไม่เป็นไรจ้ะ พวกเราก็เพิ่งมาถึงไม่นาน ป้ากับอาโมรีพาศศิไปเดินเล่นที่ชายหาดมา เราเพิ่งมานั่งพักกันได้ไม่นานหนูก็ลงมาพอดี”
ศศิรณัฐเงยหน้าขึ้นมองน้องสาวที่วันนี้แต่งหน้าเต็มยศผิดไปจากทุกวันก็ขมวดคิ้ว
“น้องสาวพี่จะออกไปไหนเอ่ย วันนี้แต่งตัวเสียสวยเชียว”
คำทักทายของพี่สาวทำให้ศศิรินธารสะดุดไปก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยตอบอย่างไม่มีติดขัดเพื่อไม่ให้เกิดพิรุธใดๆ ต่อคนฟัง
“ไม่ได้จะไปไหนหรอกค่ะ แต่กะว่าจะไปช่วยพี่อาโมรีที่บนดาดฟ้า อีกไม่กี่วันหนูรินก็ต้องย้ายไปอยู่หอแล้ว คงกลับมาที่นี่ได้ไม่ทุกอาทิตย์ก็เลยอยากไปเก็บประสบการณ์สนุกๆ ให้เยอะๆ หน่อย”
ศศิรณัฐได้ยินน้องสาวพูดเช่นนั้นก็พยักหน้า ไม่ได้ติดใจสงสัยใดๆ ต่อ ส่วนแพททริเซียนั้นรีบกวักมือเรียกหลานสาวให้เข้ามาร่วมโต๊ะ
“หนูรินรีบมานั่งเถอะจ้ะ วันนี้ป้าทำข้าวต้มกุ้งทรงเครื่องด้วยนะ มาอยู่นี่คงคิดถึงอาหารไทยกันแย่ ศศิก็เพิ่งจะหายแพ้ท้องเลยเพิ่งทำอาหารพวกนี้ขึ้นโต๊ะได้ ต่อไปป้าจะทำให้กินทุกวันจนกว่าหนูจะย้ายไปอยู่หอเลยดีไหม” แพทริเซียพูดด้วยความเอ็นดูไม่ต่างจากที่ท่านมีต่อศศิรณัฐลูกสะใภ้ของตัวเอง
“ดีจังเลยค่ะคุณป้า งั้นเอาไว้หนูรินจะมาเป็นลูกมือของคุณป้าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะคะ พี่อาโมรีกับพี่ศศิอยากกินอะไรบอกมาได้เลยค่ะ”
ศศิรินธารฉีกยิ้ม แต่หากจะมีใครสังเกตเห็นแววตาของเธอนั้นไม่ได้คลายหม่นหมองลงเลยแม้สักนิด…
“เอาล่ะ มัวแต่คุยกัน ข้าวต้มจะเย็นหมดแล้ว ลงมือกันเถอะ”
วาเลรีที่นั่งฟังภรรยาและลูกหลานพูดคุยกันอยู่นานเอ่ยขึ้นด้วยกลัวว่าหลานตัวน้อยในท้องของลูกสะใภ้จะหิว
ด้านอาโมรีนั้นรีบหันมาสบสายตากับว่าที่คุณปู่อย่างรู้ทัน ทำให้วาเลรีเมินสายตาจากลูกชายทันที
แก้มของท่านขึ้นสีระเรื่อจนทำให้อาโมรีปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่นโต๊ะอาหารจนทุกคนหันมามองเป็นตาเดียวกันด้วยความตกใจ
“กินกันเลยจ้ะ ไม่มีอะไรหรอก” เขาหันไปกระซิบกับภรรยาแล้วตักข้าวต้มจ่อริมฝีปากอวบอิ่มนั้นทันที
ศศิรณัฐเลิกคิ้วด้วยความสงสัยแต่ก็ยอมอ้าปากรับข้าวต้มจากสามีแต่โดยดีเพราะเธอเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาตงิดๆ หลังจากหายแพ้ท้องอย่างหนักเธอก็เริ่มจะกลายเป็นคนที่หิวตลอดเวลาไปเสียอย่างนั้น
วาเลรีค่อยหายใจอย่างโล่งอกที่ลูกสะใภ้ของเขาได้รับประทานอาหารเสียที ส่วนพ่อลูกชายตัวดีอย่างอาโมรีนั้นกลับเงยหน้าขึ้นมายักคิ้วกวนๆ ส่งให้
มีเพียงคุณแพทริเซียที่นั่งมองบรรยากาศบนโต๊ะอาหารด้วยรอยยิ้ม นานทีท่านจึงจะมองเลยมาที่หญิงสาวอีกคนที่คล้ายจะเหม่อลอยไปเสียทุกครั้งที่เธอคิดว่าไม่มีใครเห็น…
คุณปู่แอบเป็นห่วงหลานเนอะ
แจ้งเปิดจองธาราหวนรักค่ะ
ธาราหวนรัก โดย ระฆังเงิน
เปิดจองวันนี้ – 5 มกราคม 2563
ราคา 310 บาท (จากราคาปก 365 บาท)
ฟรีค่าส่งแบบลงทะเบียน + ของที่ระลึก 50 ท่านแรก
จัดส่ง 10 มกราคม 2563
***รูปเล่มเลื่อนจากส่งจากที่เคยประมาณและแจ้งไว้ว่าเป็นเดือนธันวาคมนะคะ แต่สำหรับ E-BOOK น่าจะสามารถอัพโหลดได้ก่อนประมาณเดือนธันวาคมตามคิวเดิมค่ะ***
ใครสะดวกจองเล่มสามารถโอนเงินได้ที่บัญชี ธ.กสิกรไทย สาขาชุมพร เลขที่บัญชี 113-2-96852-3 ชื่อบัญชี เปี่ยมสุข บุญมี ค่ะ
โอนเสร็จแล้วแนบสลิปพร้อมแจ้งชื่อที่อยู่ส่งมาที่กล่องข้อความในเพจ ระฆังเงิน หรืออีเมล pieam_tn@hotmail.com ช่องทางใดช่องทางหนึ่งได้ค่ะ หนังสือจัดส่งโดยสนพ.ปองรักแต่จะมีโปสการ์ดหรือที่คั่นลายเซ็นคนเขียนแนบไปให้นะคะ
ขณะนี้ต้นฉบับอยู่ในขั้นตอนบรรณาธิการและจัดทำปกค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนระฆังเงินตลอดมาและขอฝาก 'ธาราหวนรัก' ไว้ด้วยนะคะ
ปล.นิยายธาราหวนรักลงไม่จบนะคะ แต่จะลงประมาณ70%ของเนื้อเรื่องเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ
ระฆังเงิน
2 12 2562 2:01
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
สวัสดีค่ะ ชีวิตของหนูรินกำลังเดินไปข้างหน้า ชีวิตของพี่มัตตั้งหลักได้หรือยังนะ? มีความสุขกับการอ่านนะคะ รัก ระฆังเงิน 8 12 2561 15:06
สวัสดีค่ะ หนูรินเข้มแข็งนะคะ เราชอบที่นางรักตัวเองมากๆ แม้จะมีความทุกข์อยู่ในอกมากมายแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยยอมให้ชีวิตหยุดนิ่ง เหมือนดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่ดูภายนอกบอบบางแต่กล่ามมีชีวิตรอดท้าแดดลมฝน รัก ระฆังเงิน 9 12 2561 15:22
สวัสดีค่ะ รักในความรักและความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกสาวบ้านนี้เหมือนกันไหมคะ? แต่เค้าเข้าใจหนูรินนะ ยิ่งอยู่ใกล้คนที่รักและผูกพันร่วมกัน หัวใจมันก็คิดถึง ตัดไม่ขาด มีความสุขกับการอ่านนะคะ รัก ระฆังเงิน 10 12 2561 16:53
สวัสดีค่ะ เวลาที่ใครสักคนยิ้มออกมา จะมีใครสักกี่คนที่เข้าใจว่าภายในนั้นโศกตรมเพียงใด รัก ระฆังเงิน 11 12 2561 15:16
แจ้งเปิดจองธาราหวนรักค่ะ
ธาราหวนรัก โดย ระฆังเงิน
เปิดจองวันนี้ – 5 มกราคม 2563
ราคา 310 บาท (จากราคาปก 365 บาท)
ฟรีค่าส่งแบบลงทะเบียน + ของที่ระลึก 50 ท่านแรก
จัดส่ง 10 มกราคม 2563
***รูปเล่มเลื่อนจากส่งจากที่เคยประมาณและแจ้งไว้ว่าเป็นเดือนธันวาคมนะคะ แต่สำหรับ E-BOOK น่าจะสามารถอัพโหลดได้ก่อนประมาณเดือนธันวาคมตามคิวเดิมค่ะ***
โอนเสร็จแล้วแนบสลิปพร้อมแจ้งชื่อที่อยู่ส่งมาที่กล่องข้อความในเพจ ระฆังเงิน หนังสือจัดส่งโดยสนพ.ปองรักแต่จะมีโปสการ์ดหรือที่คั่นลายเซ็นคนเขียนแนบไปให้นะคะ
ขณะนี้ต้นฉบับอยู่ในขั้นตอนบรรณาธิการและจัดทำปกค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนระฆังเงินตลอดมาและขอฝาก 'ธาราหวนรัก' ไว้ด้วยนะคะ
ปล.นิยายธาราหวนรักลงไม่จบนะคะ แต่จะลงประมาณ70%ของเนื้อเรื่องเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ
ระฆังเงิน
26 11 2562 23:37
ชีวิตใหม่กำลังเริ่มต้นแล้วค่ะ
แจ้งเปิดจองธาราหวนรักค่ะ
ธาราหวนรัก โดย ระฆังเงิน
เปิดจองวันนี้ – 5 มกราคม 2563
ราคา 310 บาท (จากราคาปก 365 บาท)
ฟรีค่าส่งแบบลงทะเบียน + ของที่ระลึก 50 ท่านแรก
จัดส่ง 10 มกราคม 2563
***รูปเล่มเลื่อนจากส่งจากที่เคยประมาณและแจ้งไว้ว่าเป็นเดือนธันวาคมนะคะ แต่สำหรับ E-BOOK น่าจะสามารถอัพโหลดได้ก่อนประมาณเดือนธันวาคมตามคิวเดิมค่ะ***
โอนเสร็จแล้วแนบสลิปพร้อมแจ้งชื่อที่อยู่ส่งมาที่กล่องข้อความในเพจ ระฆังเงิน หนังสือจัดส่งโดยสนพ.ปองรักแต่จะมีโปสการ์ดหรือที่คั่นลายเซ็นคนเขียนแนบไปให้นะคะ
ขณะนี้ต้นฉบับอยู่ในขั้นตอนบรรณาธิการและจัดทำปกค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนระฆังเงินตลอดมาและขอฝาก 'ธาราหวนรัก' ไว้ด้วยนะคะ
ปล.นิยายธาราหวนรักลงไม่จบนะคะ แต่จะลงประมาณ70%ของเนื้อเรื่องเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ
ระฆังเงิน
27 11 2562 23:18
ใครน้าๆๆ
แจ้งเปิดจองธาราหวนรักค่ะ
ธาราหวนรัก โดย ระฆังเงิน
เปิดจองวันนี้ – 5 มกราคม 2563
ราคา 310 บาท (จากราคาปก 365 บาท)
ฟรีค่าส่งแบบลงทะเบียน + ของที่ระลึก 50 ท่านแรก
จัดส่ง 10 มกราคม 2563
***รูปเล่มเลื่อนจากส่งจากที่เคยประมาณและแจ้งไว้ว่าเป็นเดือนธันวาคมนะคะ แต่สำหรับ E-BOOK น่าจะสามารถอัพโหลดได้ก่อนประมาณเดือนธันวาคมตามคิวเดิมค่ะ***
โอนเสร็จแล้วแนบสลิปพร้อมแจ้งชื่อที่อยู่ส่งมาที่กล่องข้อความในเพจ ระฆังเงิน หนังสือจัดส่งโดยสนพ.ปองรักแต่จะมีโปสการ์ดหรือที่คั่นลายเซ็นคนเขียนแนบไปให้นะคะ
ขณะนี้ต้นฉบับอยู่ในขั้นตอนบรรณาธิการและจัดทำปกค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนระฆังเงินตลอดมาและขอฝาก 'ธาราหวนรัก' ไว้ด้วยนะคะ
ปล.นิยายธาราหวนรักลงไม่จบนะคะ แต่จะลงประมาณ70%ของเนื้อเรื่องเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ
ระฆังเงิน
29 11 2562 21:52
ทำอะไรก็คิดถึงแต่เค้าเนอะ
แจ้งเปิดจองธาราหวนรักค่ะ
ธาราหวนรัก โดย ระฆังเงิน
เปิดจองวันนี้ – 5 มกราคม 2563
ราคา 310 บาท (จากราคาปก 365 บาท)
ฟรีค่าส่งแบบลงทะเบียน + ของที่ระลึก 50 ท่านแรก
จัดส่ง 10 มกราคม 2563
***รูปเล่มเลื่อนจากส่งจากที่เคยประมาณและแจ้งไว้ว่าเป็นเดือนธันวาคมนะคะ แต่สำหรับ E-BOOK น่าจะสามารถอัพโหลดได้ก่อนประมาณเดือนธันวาคมตามคิวเดิมค่ะ***
โอนเสร็จแล้วแนบสลิปพร้อมแจ้งชื่อที่อยู่ส่งมาที่กล่องข้อความในเพจ ระฆังเงิน หนังสือจัดส่งโดยสนพ.ปองรักแต่จะมีโปสการ์ดหรือที่คั่นลายเซ็นคนเขียนแนบไปให้นะคะ
ขณะนี้ต้นฉบับอยู่ในขั้นตอนบรรณาธิการและจัดทำปกค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนระฆังเงินตลอดมาและขอฝาก 'ธาราหวนรัก' ไว้ด้วยนะคะ
ปล.นิยายธาราหวนรักลงไม่จบนะคะ แต่จะลงประมาณ70%ของเนื้อเรื่องเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ
ระฆังเงิน
1 12 2562 2:54
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มิสเตอร์พีนี่ใช่พี่ปรมัตไหมคะ คนอ่านลุ้นตามเลยค่ะ
รอนะครับ^^