คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่3 ความรู้สึกที่กล้ำกลืน 2
“สะกดคำว่ามารยาทไม่เป็นหรือไง ใจคอจะทิ้งแขกให้นั่งอยู่คนเดียวสินะ” เมื่อวานนั้นยังดีๆ อยู่เลย แม้ว่าจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่มันก็ไม่เหมือนกับวันนี้ ทั้งที่เขาพยายามทำให้ดีขึ้นแต่เธอกำลังทำให้เรื่องแย่ลงไปเรื่อยๆ
พัทราวีเม้มปากเป็นเส้นตรงเมื่อได้ยินแบบนั้น ธนภัทรตั้งใจเหน็บเธอเต็มที่จนไม่ต้องสงสัย
“ขอโทษค่ะ ผิงแค่จะเอาของไปเก็บเท่านั้น” คนใจร้ายคนเดิมกลับมาแล้ว เขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลยเมื่อก่อนมองเธอยังไงตอนนี้ก็ยังมองอยู่แบบนั้น เกลียดกันขนาดนี้แล้วจะมาพูดคุยจะมองหน้ากันทำไม
มีแฟนแล้วไม่ใช่หรือไงเธอไม่อยากโดนแหกอกหรอกนะ ที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นยังเคยเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเธออีก อะไรจะน่าอึดอัดกว่านี้ช่วยบอกที นี่ไม่อยากจะนึกถึงวันที่เที่ยวเลยสักนิด แค่คิดก็น่าเบื่อจนอยากจะบ้าตาย กลับมาแทนที่จะได้อยู่ในไร่แบบเงียบสงบแต่ไม่ใช่อย่างที่วาดฝันไว้เลย
“ไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา กลับมาที่นี่พกความรู้อะไรมาบ้างล่ะ” คนตัวเล็กแสร้งทำเป็นหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านไม่สนใจคำพูดของร่างสูง เขาไม่ได้อยากจะรู้ความเป็นไปของเธอหรอก แค่คันปากอยากจะต่อว่าอยากจะเหยียดหยามกันเท่านั้นเอง
หากเป็นคนอื่นเธอคงด่ากราดไปแล้ว แต่เพราะเป็นเขาจึงเลือกที่จะเงียบไม่ตอบโต้ การที่เธอไม่เข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของเขาถือเป็นเรื่องที่ดีแล้วไม่ใช่หรือ ความจริงแล้วธนภัทรน่าจะชอบด้วยซ้ำ
“พัทราวี !” ผู้หญิงที่เคยวิ่งตามต้อยๆ บัดสีกำลังอวดดีทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ ถ้าไม่เรียกว่ากวนประสาทแล้วจะให้เรียกว่าอะไร
“พี่พีมีอะไรหรือเปล่าคะ” โมโหอะไร เธอไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้จริงๆ ข้างในกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“เธอกำลังหาวิธีเรียกร้องความสนใจจากฉันสินะ” คนพูดกอดอกนั่งหลังตรง อีกทั้งสายตาที่ใช้มองยังดูเหยียดหยามไม่เปลี่ยนแปลง เล่นเอาพัทราวีหน้าชาไปทั้งแถบ
“ผิงไม่มีเหตุผลที่ต้องเรียกร้องความสนใจจากพี่พีนี่คะ เมื่อก่อนอาจจะใช่...แต่ตอนนี้อะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปแล้ว” วางหนังสือลงข้างๆ ตัวแล้วหันไปจ้องหน้าคนตัวโต “ผิงโตแล้ว ไม่กลับไปทำตัวงี่เง่าให้พี่พีด่าหรอกค่ะสบายใจได้”
“เพิ่งรู้ตัวเหรอว่างี่เง่า” ธนภัทรเปลี่ยนท่านั่งแล้วจ้องใบหน้าหวานกลับไปอย่างท้าทาย
“ใช่ค่ะ เพิ่งมารู้ก็ตอนที่แฟนพี่พีมาบอกผิง ขอโทษด้วยก็แล้วกันนะคะที่คอยตามตื้อ” ให้ตายสิ เธออยากจะตบปากตัวเองจังที่เผยเรื่องนี้ออกไป เหมือนกับว่าตัวเองกำลังประชดประชันเขาอย่างไรอย่างนั้น
‘เราควรเด็ดขาดสิผิง ไม่จำเป็นต้องพูดถึงยัยผู้หญิงคนนั้นเลย’
“เจอกับฟางแล้วสินะ” เขาเหยียดยิ้มเหมือนพออกพอใจ “ฟางเขาน่ารัก เรียบร้อยและมีมารยาท ฉันยังงงอยู่ว่าเคยเป็นเพื่อนกับคนอย่างเธอได้อย่างไร”
“ไม่รู้สินะ บางทีผ้าที่คิดว่าพับไว้อย่างเรียบร้อย ความจริงแล้วอาจจะยับยู่ยี่แต่พยายามแสร้งทำเป็นเรียบก็ได้” อยากจะลุกหนีเต็มทน เธอไม่ชอบที่ ธนภัทรดึงเธอไปเปรียบเทียบกับลดาวัลย์ ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้เขาก็ยังไม่เลิกเปรียบเทียบเธอกับผู้หญิงคนอื่นๆ
“ผ้าที่ยับยู่ยี่แถมไม่ได้พับไว้ ฉันว่ามันคือเธอต่างหาก” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเล็กน้อย อยากจะรู้จริงๆ ว่าที่ทำเป็นเมินทำเป็นไม่สนใจมันออกมาจากใจจริงๆ หรือเปล่า หรือแค่สร้างเกาะป้องกันขึ้นมาเท่านั้น
“พี่พี !”
“ทำไม...ฉันพูดแทงใจดำหรือไง เป็นผู้หญิงหักรักนวลสงวนตัวเหมือนคนอื่นๆ เขาบ้าง กลับมาไม่ทันไรก็หา ‘อ่อย’ เพื่อนฉันแล้ว” เน้นคำว่าอ่อยชัดเจนจนคนฟังโกรธควันออกหู เขาไม่มีสิทธิ์มาดูถูกเธอแบบนี้ !
“ผู้หญิงง่ายๆ แหย่นิดก็ตอบรับ ผู้ชายที่ไหนมันจะไม่ชอบจริงไหม”
พัทราวีเชิดหน้าขึ้น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องน้อยใจกับคำพูดถากถางของธนภัทร
“เก็บคำพูดต่ำๆ ไว้ใช้กับคนรักของพี่พีเถอะค่ะ ถ้าได้มาแล้วก็แสดงว่า ‘ง่าย’ ไม่ต่างจากที่ว่าผิงหรอก !” ถลึงตาใส่แบบนี้แสดงว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้วสินะ “ส่วนเรื่องพี่เจตต์ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะดูท่าทางแล้วพี่เขาคงจะเต็มใจให้ผิง ‘อ่อย’ ได้เต็มที่”
“พัทราวี !” มันน่านัก ยอกย้อนได้เจ็บแสบยิ่งกว่าเมื่อก่อนเสียอีก
“ทะเลาะอะไรกันไอ้สองคนนี้ ไม่เจอกันตั้งนานแทนที่จะคิดถึงกัน ดันมากัดกันเสียนี่” ณดลเดินกลับเข้ามาในบ้านทันได้ยินเสียงโวยวายของน้องสาวตัวเอง “ไปยั่วโมโหอะไรมันอีกล่ะ”
ความคิดเห็น