คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่19:ถึงมิตรที่เกลียดชัง
ตึ่ก
ๆ
ๆ
กึก
!
“
ที่นี่มัน
”
..
.
ติ๊ดๆๆ!!!
“อ๊ะ!?!”
“เฮร้ย!?!”
เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นห้องทดลองแผนกวิทยาศาสตร์ ไนท์และโจ๊คเกอร์นั้นไม่ตกใจกับเสียงดังฟ้าถล่มลมกรรโชกแบบนั้น แต่ว่าอากอนและฮิรุม่าที่(จำใจ)มาช่วยนั้นตื่นขึ้นอย่างตกใจ ชายผมทองที่เพิ่งตื่นนั้นทำอะไรไม่ถูก(แต่มือพี่แกตบไปโดนหัวอิก้อนเข้าจังๆ><’’) อากอนนั้นยังงัวเงียได้พักนึง แต่เมื่อโดนตบหัวมือเพ่เค้าก็ใช้ความเคยชินเสยฮิรุม่าเข้าให้
“โอ๊ย!?”
“หา
? เช้าแล้วหรอ?”
“เฮ้อ~~ พวกคุณน่ะไปอาบน้ำได้แล้วล่ะ”
“เออๆ
”
‘สั่งอยู่ได้
ทำไมตอนอยู่ที่นี่ต้องตื่นเช้าด้วยฟ่ะ’
“งืม
ครอก~ฟรี้~””
เป๊งงง!!!!!
“แอ๊ฟ!!อีแบบนี้อีกแล้วเรอะ!!”
“เป็นอะไรมากรึเปล่าพี่ก้อน?...สีหน้าไม่ค่อยดีเลย”
“นอนไม่พอ
เมื่อคืนแดนซ์กันมันส์ไปหน่อยน่ะ”
‘เหอะๆ
’
“สีหน้าพี่ไม่ได้บอกว่าเหนื่อย
แต่มันเหมือนกับกังวลมากกว่า เอาเถอะ ไม่จุ้นจ้านก็ได้”
เธอพูดกับอากอนเบาๆ ครั้นเมื่อพูดตัดบทแล้วเธอก็ใส่หูฟังพลางใส่เสื้อคลุมสีดำราวกับว่าจะไปล่าวิญญาณใครงั้นแหล่ะ ชายผมเดธร็อคจึงเอ่ยถามไปว่า
“จะไปไหนงั้นหรอ
”
“ไปโซโซลไซตี้
”
“แล้วทุกครั้งที่ไปทำไมต้องใช้ชุดคลุมนั่นปกปิดใบหน้ากับร่างกายด้วยฟะ?”
“
ช่างฉันสิ พี่ก็ไปไหนก็ไปไป๊”
ไนท์บอกปัดเหมือนทุกๆที ก่อนจะเดินไปประตูโลกวิญญาณ เหมือนเธอรีบร้อนยังไงก็ไม่รู้ ช่างเถอะยังไงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่แล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็เดินไปอาบน้ำตามปกติ(มั้ง)
ซ่า
น้ำจากฝักบัวออกมาชำระร่างกายของเขา อากอนยังคงยืนเหม่อพยายามคิดถึงสถานที่ๆเหมือนกับปราสาทนั่นอยู่ แต่พยายามเท่าไหร่มันก็นึกไม่ออก ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ นี่ฉันไปดูหนังแวมไพร์มากเกินไปรึไงว้า
ปังๆ!!
“อากอน!!พ่อโทรตามให้กลับแล้วแน่ะ!!”
“หา!?! อีกแล้วเรอะ!?!”
“เห็นบอกว่าจะพาไปเยี่ยมเพื่อนเก่าแน่ะ!”
‘เพื่อน
เก่า?’
เขางงๆนิดหน่อย แต่ก็รีบแปรงฟันแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกมาทำหน้าสงสัยใส่อุนซุยผู้เป็นแฝดพี่ ชายผมเกรียนที่อาบน้ำเสร็จก่อนนั้นก็ยักไหล่ราวกับบอกว่า ฉันก็จำไม่ได้ว่าใคร
ไม่ได้เจอนานแล้วด้วยสิ อากอนไม่ว่ากล่าวอะไรเขาบ้วนปาก ก่อนจะออกมาพูดว่า
“ตอนนี้เลยหรอ?”
“อีกประมาณ2-3ชั่วโมงน่ะ”
“
บอกให้เจ้าเนียร์เปิดประตูมิติแล้วไปเลยดีกว่ามั้ง”
“นั่นสินะ
”
อุนซุยว่าตามแฝดน้องของตนเอง แต่ก็ยังไม่ไปตามโจ๊คเกอร์ในทันที เขาเดินไปยังโรงอาหารพร้อมๆกับอากอนที่กำลังซีเรียสกับเรื่องที่เขานึกไม่ออก ‘เอ
แล้วมันที่ไหนว้า
= =a’ ครั้นเมื่อมาถึงอุนซุยก็สั่งอาหารชีวจิตให้อากอนทันที
“หา!?!ขนาดที่นี่ยังต้องกินไอ้สหประชาชาติผักอีกเรอะ!?!”(/อิก้อนฟิวส์ขาด=[]=!!)
“ฮะๆ
ล้อเล่นน่า
เอ้า
คุณเจอรี่ ขอเป็นสเต็กก็แล้วกันนะ”
“หา
?”
อากอนเองก็งุนงงเช่นกัน เควสชั่นมาร์คเต็มหน้า อุนซุยจึงยิ้มพลางบอกให้ไปนั่งกินที่โต๊ะ พวกเขาเดินมานั่งโต๊ะที่อยู่ข้างๆพวกราวี่และอเลนพอดี
“ราวี่
ว่าไงเรื่องเมื่อวานน่ะ”
“ปู่ไปหาเพิ่มให้อยู่
เดี๋ยวก็เจอแหล่ะน่า”
“หาอะไรหรอครับราวี่?”
“เรื่องของเซลโร่ไง
แต่ทำยังไงก็หาไม่เจอเลย ไม่ยักกะรู้ว่ามียัยนี่อยู่ในโนอาร์ด้วย”
“ก็ไม่แปลกอยู่แล้ว
”
อากอนและคันดะพูดพร้อมๆกัน ความคิดก็ดูเหมือนจะตรงกันอีกด้วยสิ ชื่อปลอมน่ะหาให้ตายก็หาไม่เจอหรอกนะ
นี่คือความคิดของพวกเขาในตอนนั้น
“แต่ถ้าพูดถึงเรื่องตำแหน่งล่ะก็
เซลโร่น่ะเป็นชื่อที่มอบให้กับคนที่ยืนอยู่จุดสูงสุดไม่เปลี่ยนแปลง เป็นเอสปาด้าที่ไม่โดนแย่งหมายเลขตัวเองอีกด้วย”
“ไม่โดนแย่งหมายเลขหรอ
?”
“หมายเลขของเซลโร่ คือ 0
เป็นเลขที่อยู่เหนือกว่า #1(พรีเมร่า) ขึ้นมาอีกนะ ขนาดฝีมืออย่างไนท์ที่เคยฉะมือกันมาแล้วยังเอาไม่อยู่เลย
”
“อือๆ
”
อุนซุยกินสเต็กเนื้อพลางพยักหน้าฟังที่ราวี่เล่าอย่างจริงจัง ส่วนอากอนที่กินหมดแล้วก็นั่งฟังอยู่เงียบๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ถ้าไม่ฟังเขาก็ไม่รู้จะหาวิธีฆ่ายัยนั่นได้ยังไง
“เห
แต่ก็ใช่ว่าจะแย่ไปทุกเรื่องนะสำหรับคนๆนั้นน่ะ”
“เอ๋?”
“หา!?”
“ผู้หญิงคนนั้นน่ะรักษาคำมั่นสัญญาจะตาย
ดูสิ ขนาดบอกว่า ‘ถ้าให้คำตอบที่ตรงใจก็จะไม่ฆ่าฮิรุม่า’ ที่หยิบเข็มฉีดยาที่บอกว่ามีพิษอาคุม่าน่ะไม่ใช่หรอก
ปู่ไปตรวดน้ำที่หยดออกมาแล้ว มันเป็นยารักษาชั้นยอดเชียวล่ะ!”
“เหย
เป็นไปไม่ได้หรอกม้าง
”
อากอนพยายามแย้งกับความเห็นของราวี่ อย่างศัตรูคู่อาฆาต ยิ่งเป็นแวมไพร์ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว กระต่ายส้มพยายามอธิบายทุกกรณีที่เซลโร่ปล่อยคนไปเวลาสัญญาว่าจะไม่ฆ่าบ้างล่ะ ชายผมเดธร็อคก็นั่งฟังคำพร่ำพรรณาของราวี่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจ้ากระต่ายส้มพูดว่า
“ใครจีบติดนี่ชายเหนือชายเลยนา
(เหนือกว่ายูอีกด้วย)”
กึก
“หืม
งั้นหรอ?”
“เฮ้ย
! รังสีความชั่วน่ะแผ่ออกมาน้อยๆหน่อยก็ดีนะอากอน
(ฉันล่ะเสียวแทนจริงๆให้ตายเหอะ)”
“เอาน่า
ไว้เจอกันในศึกที่พอจะคุยกันได้ค่อยจีบก็แล้วกันน่
!”
ตรู๊ดๆ!!
“อ๊ะ
พ่อโทรมาตามแฮะ”
ติ๊ด
!
“ครับ
เอ๋?อีกหนึ่งชั่วโมงหรอครับ เอ่อ
ตกลงครับ กลับเดี๋ยวนี้แหล่ะ”
ติ๊ด
“พ่ออีกแล้ว
เซ็งฟ่ะ จะพาไปไหนว้ารีบร้อนขนาดนั้น
”
“เอาน่า
ตามพ่อไปก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ เฮ้~เนียร์”
‘ระหว่างเดินทางคิดเรื่องนั้นไปด้วยก็ไม่เป็นไรสินะ
’
อากอนคิด ในขณะที่อุนซุยเรียกให้ชายผมแดงช่วยเปิดประตูมิติไปที่บ้านของพวกเขา ใช่
ถึงแม้ชายผมเดธร็อคจะเลิกคิดทีไรแต่ก็ไม่สามารถเลิกคิดเรื่องที่เขาเจอวันนี้ได้ งงนะเนี่ย(คนเขียนก็งงเฟ้ยอิก้อน=[]=!!) ครั้นเมื่อมาถึงบ้าน พวกเขาก็เปิดประตูเข้าไปพลางเอ่ยทักพ่อของตน
“กลับมาแล้วครับพ่อ
”
“อุนซุย อากอน ไปแต่งตัวเร็วๆเข้า!”
“เอ๋= =??”
“ต้องใส่ชุดอะไรล่ะครับ= =??”
“ชุดสุภาพ
ไม่ต้องสูท แต่ขอแบบสุภาพ”
“(เหล่อุนซุย)หวังว่านายคงจะไม่ใส่ยูนิฟร์อมโรงเรียนเห่ยๆนั่นนะ
?”
“ชุดสุภาพน่ะไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แต่ก็พอหาได้”
“
ฉันจัดเสื้อให้ดีกว่า ดีไม่ดีนายก็ใส่แต่เสื้อบ้าๆบอๆพวกนั้นอีกนั่นแหล่ะ”
‘แต่ของนายมันดูกวนรองเท้านะอากอน= =**
’
ผู้เป็นพี่คิดอย่างเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่อากอนจะจัดให้เขา อากอนไม่รอช้าใช้อิมพัลล์ระดับเมพขริงๆ คว้าชุดที่(คิดว่า)สุภาพสุดแล้วมาให้อุนซุยลองใส่
“เสื้อยืดแขนยาวสีขาวน่ะเอาไว้ด้านใน เสื้อยืดดำแขนสั้นก็ใส่ด้านนอก กางเกงยีนส์ แค่นี้ก็ได้แล้ว”
“ได้โดนรองเท้าน่ะสิ เจ้าบ้านี่
”
“นี่!?!ก็มันฤดูหนาว เทรนนี้มาแรงอยู่นะเฟ้ย!!”
“อย่ามัวเถียงกันน่า!รีบๆหน่อย!”
“คร้าบ!!”
อากอนและอุนซุยรับคำพลางรีบแต่งตัวอย่างเร่งรีบ ครั้นเมื่อแต่งองค์ทรงเครื่องกันเรียบร้อยก็รีบออกจากบ้านไปทันที
“พ่อครับ
เราจะไปไหนกัน?”
“ไปหาเพื่อนสมัยเด็กของลูกไง
”
“เพื่อนสมัยเด็ก!?!”
“ฮะๆ
ลืมไปแล้วจริงๆด้วยสินะ”
“เอ๋??”
“หา??”
ทั้งสองคนมีแต่เควสชั่นมาร์สเต็มหัว ผู้เป็นพ่อยังคงหัวเราะไปเรื่อยๆปล่อยให้พวกเขาเก็บความสงสัยเอาไว้ในหัว ทว่า
ระหว่างทางนั้น
ตึ่กๆๆๆ!!!
พลั่ค!!
“ว้าย
!ขอโทษค่ะ”
“หา!?!”
“ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ!ไปก่อนนะคะ!”
“อ้าว!เฮ้!เดี๋ยวสิ!!”
“รีบร้อนอะไรของเขาน้า
”
“นั่นสิว้า
เซ็งนะเนี่ย”
“เอาน่า
เรื่องของเราสำคํญกว่าน่า”
อากอนยักไหล่ สายตาไล่ไปตามที่ๆผู้หญิงผ้าคลุมวิ่งไป ช่างเถอะ ยังไงๆเขาก็ไม่รู้จัก อีกทั้งหน้าตาอาจจะไม่สวยก็ได้ผ้าคลุมปิดไว้แบบนั้นน่ะ เขาคิดพลางก้าวเท้าเดินตามพ่อและแฝดพี่ไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งถึงที่หมาย เห็นว่าอยู่ในซอยก็นึกว่าบ้านจะเล็กๆ
ซะเมื่อไหร่ล่ะ นี่มันปราสาทแล้วนะ(/เงยหน้ามองปราสาท)
“หืม
เราเคยมาที่แบบนี้ด้วยหรอ?”
“จำไม่ได้เหมือนกันแฮะ
”
‘คุ้นๆนะ
ที่นี่น่ะ’
“อ้าว
ไม่อยู่หรอเนี่ย?”
“หา
แขกมา เจ้าของบ้านดันไม่อยู่นี่มันอะไรกัน!?!”
“พ่อไม่ได้นัดเขาไว้ก่อนน่ะ
อย่าไปว่าเขาเลย”
พ่อของเขาพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขาโกรธ พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าไปในตัวปราสาทก่อนที่เจ้าของจะกลับมา ชายผมเดธร็อคมองไปรอบๆ ปราสาทนี่ดูยังไงๆก็เหมือนปราสาทของแวมไพร์ เพียงแต่ถูกทาสีด้วยสีขาวแค่นั้นเอง
“คุ้นๆนะ
ทั้งกลิ่นอาย และ รูปลักษณ์ของที่นี่น่ะ
”
“นึกออกรึยังล่ะ??”
“ม่ายเลย=[]=
”
“Simple and Clean is the way that you making me feel tonight
”
“หา!?!”
“ประโยคนี้มันคุ้นๆนะ
เหมือนเป็นเพลงที่เจ้าของบ้านนี้ชอบมากๆเลยล่ะมั้ง?”
“ที่คุ้นก็เพราะมันเป็นเพลง Simple and Clean ที่แกเปิดฟังตอนที่นั่งดูอะไรเพลินๆไงฟะ!!ฟังจนมันเอียนไปหมดแล้วนะ!!”
“อ
เอาน่า แค่ร้องเล่นๆเอง และที่ฉันเปิดฟังตอนนั้นเพราะมันคุ้นหูน่ะ”
อุนซุยพูดอธิบายให้อากอนฟัง แฝดน้องยังคงทำหน้าหงุดหงิดอยู่ตามเดิมพร้อมๆกับเดินสำรวจดู ‘ชิงช้า
??’ เขาเจอชิงช้าใต้ต้นไม้ที่คิดว่าน่าจะเป็นต้นซากุระ ต้นไม้หน้าหนาวใบก็ร่วงหมดเลยดูวังเวงพิลึก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เดินไปดูใกล้ๆชิงช้าไม้ตัวนั้น อุนซุยเองก็เดินอยู่บริเวณนั้นด้วยเช่นกัน
“จำไม่ค่อยได้แฮะ
ว่าเคยมีเพื่อนอยู่ในปราสาทแบบนี้ด้วยน่ะ”
“หืม
สนทำไม? ยังไงๆก็แค่สวะที่โกงกินแล้วสร้างไว้มั้ง”
“เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
แถมยังพูดว่าร้ายเจ้าของบ้านอีก”
“ใครน่ะ!?!”
“ฉันชื่อ เนสสึ
เป็นคนรับใช้เจ้าของปราสาทคนปัจจุบัน แล้วพวกนายล่ะ?”
“อ
อ้อ น
เนสสึ นี่ลูกๆฉันเอง อากอน กับ อุนซุย น่ะ”
ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ส่วนคนแปลกหน้าคนนั้นก็โค้งเคารพอย่างสุภาพพลางบอกให้พวกเขาเข้าไปในตัวปราสาท
แอ๊ด
“โห
ใหญ่จังเลย”
“ชิ
”
“เดี๋ยวนายหญิงจะกลับมาช้าซักหน่อย
ระหว่างนี้ก็เชิญไปรอที่ห้องนั่งเล่นก็แล้วกันนะครับคุณคอนโง”
“ฮะๆ
ตกลงๆ”
‘เจ้าของปราสาทเป็น
ผู้หญิง’
“ใครว้า
นึกซี่ๆๆ!!!!”
“ป
เป็นไรมากป่าวอากอน= =a”
“พ่อใบ้หน่อยไม่ได้รึไง!?!”
“ฮะๆ
ที่เมื่อก่อนทะเลาะกันบ่อยๆไง”
‘ทะเลาะกันบ่อยๆ
เพลงSimple and Clean
’
แอ๊ด
!
“หืม
??”
“เอ๋
เนสสึ เรามีแขกหรอ?”
“อ้อ
คิรากิ”
“คุณคอนโง
งั้นตรงนั้นก็ อากอน อุนซุย
??”
“คิรากิ!?!”
“เดี๋ยวซี่!?!เมื่อก่อนเตี้ยกว่านี้นี่??”
“นั่นมัน7ปีก่อนย่ะ
แล้วนายล่ะ? เปลี่ยนจากหัวยุ่งๆเป็นหัวหยอยๆแทนแล้วหรอ?”
เธอเดินเข้ามาในชุดไปรเวทสีขาวพร้อมๆกับพูดด้วยท่าทีท้าทายอากอน ชายผมเดธร็อคได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งโมโหมากขึ้น เขาเดินเข้ามาพร้อมๆกับพูดกลับไปว่า
“ทำไม!?!แหยงรึไง!?!”
“ไม่แหยง
แต่ว่านายไปทำผมแบบอุนซุยดีกว่ามั้ง”
“ว่าไงนะ!?!”
หญิงสาวผมย้อมสีพูดอย่างเฉยชา ขณะที่ด้านหลังมีบุคคลเสื้อคลุมสีดำเดินเข้ามา คนๆนั้นที่วิ่งสวนไปนี่นา!?! อากอนคิดอย่างตกใจ
“เธอ!?!”
“ฮึ
มาที่นี่งั้นหรอ?”
“เอ๋
จ จ จ เจ้านาย
”
“เลิกใช้ร่างจำแลงของคนอื่นได้แล้ว อิเสะ
ฆ่ามัน
!!”
“เอ่อ
ฮะ”
ฟู่วห์---!!
“งั้นเธอก็
!!”
“พ่อครับ
พ่อแม่ของคิรากิตายเมื่อไหร่ครับ”
“ไม่รู้หรอก
”
“เมื่อกี้น่ะไม่ใช่ร่างข้าหรอก
แต่เป็นร่างของคนที่อยู่ในตัวข้าต่างหาก”
“!?!...งั้น คิรากิ ก็
”
‘พวกมนุษย์นี่ก็หลงมุขตื้นๆของเราได้เหมือนกันแฮะ
’
เธอคิดอย่างนึกสนุก ภายใต้ผ้าหมวกคลุมสีดำนั้นเผยรอยยิ้มเจ้าเลห์ที่มุมปากของเธอ อากอนและ อุนซุยตั้งท่าพร้อมกับบอกให้พ่อของพวกเขาถอยออกไปห่างๆ
“เนสสึ
ซากิ”
“ครับ
จะจัดการให้ อิเสะพร้อมนะ”
“เออน่ะ
ถึงจะเพิ่งมาสังกัดกับคุณเซลโร่ ผมก็จะทุ่มสุดตัว”
‘พ่อขุนนางจะได้เลื่อนขั้นให้ซักที
’
“
”
“เอาล่ะนะ
!!”
ฟ้าว!!!
“ย้าก!!!!!!!!”
“อากอน!?!”
“ฉันจะฆ่าแก!!เซลโร่!!!”
“
”
เคล้ง!!
พลั่ค!!
เธอปัดโซ่ของอากอนก่อนจะจับแขนขวาแล้วทุ่มลงกับพื้นอย่างง่ายดาย ชายผมเดธร็อคนอนแผ่อยู่กับพื้นครู่นึงก็ลุกขึ้นด้วยอาการมึนๆ
“ซี้ด
!!”
“หนอย
!”
เคล้ง!
“หือ
”
“โซ่สวรรค์!!”
“ฮึ
!”
ฟึบ!!
“อ๊ะ!!อย่าหนีนะ!!”
ฟึบ!!
“อ๊ะ!?!”
“พวกเราจะจัดการแกเอง
!”
เนสสึและซากิขวางทางอุนซุยเอาไว้ ชายผมเกรียนถึงกับต้องสบถออกมา เป้าหมายที่ควรจะจัดการอย่างแรกคือเซลโร่ แต่ว่าอาคุม่าคู่หู2ตัวนี่มาขัดงานของเขาจนได้
“ได้
ถ้าเก่งพอล่ะก็เข้ามา!”
“ฮึ
”
ฟ้าว!!!
เฉ้ง!!!
“อูย
!!ซ
เซลโร่
”
ฟึบ!!
อากอนที่ตั้งหลักได้ก็รีบใช้ชุนโปะตามหญิงสาวในเสื้อคลุมออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว ครั้นเมื่อเขาขึ้นไปอยู่บนยอดตึกก็เจอเธอ พร้อมกับตั้งท่าเตรียมเข้าปะทะทันที
“
คิดอะไรโง่ๆสิ้นดีเลยนะ”
“แกทำอะไรกับคิระ!?!...”
“คิรากิตายไปแล้ว
ส่วนอิเสะ เป็นคนเรียกวิญญาณคนๆนั้นกลับมา”
“งั้นเรอะ!?!...งั้นฉันจะชำระล้างวิญญาณยัยนั่นเอง!!”
“หืม
ทำได้ก็ลองดู อิเสะ”
“??”
“ระเบิดตัวเอง
ภายใน30วิฯ”
“เอ๋!?!ท ท ทำไม!?!”
“เดี๋ยวนี้
!!”
29
“ทำบ้าอะไรน่ะ
!?!”
28
“อาคุม่าที่ระเบิดโดยที่อินโนเซนต์ไม่ชำระล้างน่ะ จะ
”
27
“ไม่ได้ไปสู่สุคติ ยังไงเล่า
”
26
“หนอย!!...”
เคล้ง!!
25
“ย้าก!!!!”
เฉ้ง!!ๆ!!
“หลบไปนะเว้ย!!!!”
“ถ้าไม่หลบล่ะ
เจ้าจะร้องไห้รึไง??”
เฉ้งๆๆๆ!!!!
“ฮึ้ย!?!...จงปรากฏตัว!!”
วิ้ง!!
“ดาบผ่าวิญญาณสินะ
งั้น”
ชิ้ง
!
“ย้าก!!!!!!”
“ฮ่าห์!!”
เฉ้ง!!!
ครืดดดด!!!!
“โยริ
!!”
“!?!”
หมับ!
พลั่ค!!
มือของหญิงสาวเสื้อคลุมกดหัวอากอนลงกับพื้นอย่างแรง ชายผมเดธร็อคยังไม่ทันจะได้ปลดปล่อยขั้นชิไคเขาก็โดนทำร้ายเสียแล้ว ‘ไม่ยอม
เด็ดขาด’ เขาคิดก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพลางใช้ดาบพยุงตัวเองขึ้นจากพื้น
แต่ก็เท่านั้น
กึก
!
“อ
อ”
“หมดแรงที่จะช่วยคนๆแล้วนั้นสินะ
”
กึด!!
“อั่ค!!”
“แค้น
เจ้าจงแค้นข้าซะ คอนโง อากอน
ข้าเป็นคนฆ่าผู้หญิงคนนั้น เพื่อนสนิทของเจ้า”
“แก
!!”
“ผู้หญิงคนเดียวที่เจ้าไม่ยอมรับในฐานะเพื่อนหญิง
คงสำคัญกับเจ้าล่ะสิ”
กึด!!!!
“อ่อค!! คิระ
!”
อากอนที่โดนเหยียบหัวพยายามยื่นมืออกไปหาร่างของคนอีกคนนึงที่ยืนไร้สตินับเวลาถอยหลังอยู่ด้านหลัง เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี กับเหตุการณ์ตรงหน้านี้
5
4
3
“ไม่
นะ”
2
1
บึ้ม!!!
“อ
!?!”
“บัดนี้
คิรากิ ได้หายไปจากโลกนี้ และ โลกวิญญาณไปแล้ว
บทสรุปอันน่าเศร้าของเธอ คือ
ความตาย”
“น
หนอย
!! บัด
ซบ
!!”
‘อย่างนายก็ดีกับเขาเป็นนี่
’
‘ดี??...เรื่องอะไรงั้นหรอ?’
‘นายน่ะ
เห็นปากแข็งอย่างงี้ก็เถอะ แต่ก็
ไม่ได้รังเกียจคนที่มีความสามารถนี่ ฉันน่ะชอบนายตรงที่ไม่มองตัวเองดีคนเดียวนะ
อากอน’
“คิระ
”
“!?!”
ชายที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของสาวเสื้อคลุมนั้นขยับร่างกายตามสัญชาตญาณของตนเอง เซลโร่ต้องรีบกระโดดถอยออกมาห่างๆ แต่ทว่า
ฟึบ!!!
‘อ
!?!’
อากอนใช้ชุนโปะมาอยู่ด้านหลังเธออีกที พร้อมกับใช้ดาบผ่าวิญญาณและดาบที่ไนท์ให้ติดตัวออกมาเพื่อจะฟันร่างตรงหน้าอย่างเคียดแค้น
เฉ้งๆๆๆ!!
ดาบสองเล่มนั้นฟันสลับกันไปใส่เธอไม่ยั้ง หญิงสาวผมทองในเสื้อคลุมจึงใช้ดาบออกมาป้องกันเล่มเดียว แว่นตาของชายที่กำลังฟันอยู่นั้นแตกทำให้เห็นได้ว่าสายตาของเขายามนี้ ถูกความแค้นกลืนกินร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เอาซี่~แค้นเข้าไปอีก อากอน~~!ยิ่งเจ้าแค้นข้ามากเท่าไร
ความมืดก็จะกลืนกินเจ้าได้ง่ายขึ้นเท่านั้น”
“เอาคิระคืนมา!!!คิระ!!แค่คิระเท่านั้น!!!”
เฉ้ง!!!!!!!!!!!!!ๆ!!!!!!!!!!!
การฟันเริ่มหนักหน่วงขึ้นทุกเวลา เซลโร่ยิ่งได้เห็นใบหน้าของเขาและความรู้สึกของเขายิ่งทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างสนุกสนาน ครั้นเมื่อเธอกระโดดถอยออกมา อากอนก็ใช้ความเร็วสูงสุดพุ่งตัวแบบไปตายเอาดาบหน้าใส่เธอทันที
“อย่าอยู่เลยเซลโร่!!!!!!!!!!!!!!”
ปั่ก!!
“อั่ค
ค!!”
ตึง!!
“เจ้าหยอยตูดหมึกนี่
”
“อ้าว
คุณชาย
เพิ่งมาถึงงั้นหรอ?”
“เปล่า
มานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเธอกางเขตแดนไว้ด้วย ก็เลยไม่เห็นการต่อสูกันน่ะนะ”
แกร๊ก
!
“อีกแล้ว~ปืนผาหน้าไม้น่ะเล่นดีๆหน่อยซี่~
มันอันตรายนะ”
“ไม่สนเฟ้ย!แค่เธอตาย เป้าหมายก็ลุล่วง”
“
”
เธอหลี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่จะยักไหล่กวนๆราวกับบอกว่า เอาซี่
ยิงเลย ฮิรุม่าที่เล็งปืนไว้ที่ขั้วหัวใจก็ยิงออกไปอย่างไม่ลังเล
ปัง!!!!
‘
โง่สิ้นดี
’
เฉ้ง!!
“อ๊ะ
!?!”
‘ปัดได้
ไอ้หมอนั่นใครกัน’
ชายผมทองตลึงเล็กน้อยที่อยู่ๆก็มีบุคคลเสื้อดำก็โผล่ออกมาอีกคน เขาลดปืนลงเตรียมตัวจะเรียกดาบของเขาออกมา ส่วนพวกชุดดำก็ยืนอยู่เช่นนั้นก่อนที่จะพูดว่า
“หืม~~~ท่าทางฉันจะต้องกลับฮูเอโก้มุนโด้แล้วล่ะ”
“ชิ
กลับๆไปซะ”
“แน่ใจนะ
ว่าจะให้ฉันพา เด็กนี่ไปด้วย
??”
ฟึบ
“!?!”
‘ม
มาโมริ!?!’
เขาถึงกับต้องเบิกตาโพลง อาเนซาคิ มาโมริ ผู้จัดการของทีมเขาถือดาบสีดำอย่างตั้งใจ ดวงตาไร้แววที่จ้องเขาเขม็งนั้นแฝงไปด้วยแรงอาฆาตที่รู้สึกได้
“มาโมริ!!เป็นอะไรไปน่ะ!?!”
“ตะโกนยังไงก็ไม่ได้ยินหรอก
ความมืดกลืนกินร่างกายและจิตใจของเด็กนี่ไปแล้ว”
“ชิ!...ปล่อยยัยนั่นเดี๋ยวนี้!!”
“หัวใจของหล่อน
เป็นความมืดไปแล้ว ข้าช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ ลาก่อน
โอกาสหน้าเจอกันนะ โยอิจิ”
วุ่บ
!
“บ้าเอ๊ย
!”
“ทำไม??แกแค้นอะไรนักหนา เจ้าหยอย”
“ไอ้สวะนั่น
ไอ้สวเซลโร่มัน
!!”
แหมะ
ๆ
“ทำใจซะเถอะ
”
“นั่นสิ
”
“ไนท์!?!”
“เจอข้อมูลดีๆมาน่ะ
เข้าไปรักษาตัวในตัวปราสาทแล้วค่อยฟังรายละเอียดนะ”
จบตอนที่19/โปรดติดตามตอนต่อไป
ความคิดเห็น