ทำไมเวลาที่ฝนตก เราจึงคิดถึงคนที่เรารัก
            กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ท้องฟ้า พื้นดิน และพื้นน้ำ ทั้งสามสิ่งเป็นเพื่อนรักกัน สนิทกัน อยู่ใกล้กันมาก ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน อยู่มาวันนึง ได้เกิดมีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้น นั่นก็คือ พืช ทั้งพื้นดินและพื้นน้ำต่างก็เอาอกเอาใจ พืช กันใหญ่ โดยลืมท้องฟ้าไป ทำให้ท้องฟ้าน้อยใจ และเริ่มห่างออกไป โดยที่พื้นดินและพื้นน้ำไม่รู้ ท้องฟ้าค่อยๆใหญ่ขึ้นและห่างออกไปมากขึ้นจากพื้นดินและพื้นน้ำ
            อยู่มาวันหนึ่ง มีนกตัวหนึ่งบินผ่านมาจากขอบฟ้า ทำให้พื้นดินและพื้นน้ำได้รู้ว่า ท้องฟ้าได้อยู่ห่างไกลออกไปมากแล้ว นกตัวนั้นก็เกิดสงสาร อยากช่วยให้ท้องฟ้ากลับมาดีกลับพื้นดินและพื้นน้ำอีกครั้ง จึงอาสาที่จะช่วย ด้วยการร้องเรียกให้ท้องฟ้ากลับลงมา แต่แล้วก็ไม่ได้ผล นกจึงสัญญากับพื้นดินและพื้นน้ำว่า ทุกครั้งที่บินผ่านจะร้องเรียกท้องฟ้าให้กลับลงมา นั่นคือ เหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงได้ยินเสียงนกร้องทุกครั้งที่บินผ่านไปบนท้องฟ้า
          เมื่อพระอาทิตย์ได้รู้ข่าว พระอาทิตย์ก็อยากจะช่วยให้ทั้งสามได้ปรับความเข้าใจกัน พระอาทิตย์จึงส่องแสงไปยังพื้นน้ำ เพื่อนำความคิดถึง ความรัก และความผูกพันที่พื้นดินและพื้นน้ำเคยมีให้กับท้องฟ้าไปยังท้องฟ้า โดยการระเหยกลายเป็นไอขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นเมฆ และเล่าเรื่องราวต่าวๆ โดยการเล่าเป็นภาพ นั่นก็คือเหตุผลที่ทำไมเราจึงเห็นเมฆบนท้องฟ้าเป็นรูปร่างต่างๆ
          เมื่อท้องฟ้าได้รับรู้เรื่องราวต่างๆจากก้อนเมฆแล้ว ก็ทำให้ท้องฟ้าเข้าใจพื้นดินและพื้นน้ำมากขึ้น แต่ท้องฟ้าใหญ่โตเกินไปแล้ว ไม่สามารถที่จะกลับลงไปได้อีก ก้อนเมฆจึงอยู่เป็นเพื่อนท้องฟ้า ท้องฟ้าอยากบอกความรู้สึก ความคิดถึง ความรัก ความผูกพันระหว่างท้องฟ้าที่มีให้กับพื้นดินและพื้นน้ำ จึงรวมตัวกับก้อนเมฆ กลั่นเอาความรัก ความผูกพัน ความคิดถึงลงมาสู่พื้นดินและพื้นน้ำ นั่นก็คือ สายฝน
          นั่นก็คือเหตุผลที่ว่า ทำไมเวลาที่ฝนตก เราจึงคิดถึงคนที่เรารักและคิดถึง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น