สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ(ประเทศเกาหลี) - สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ(ประเทศเกาหลี) นิยาย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ(ประเทศเกาหลี) : Dek-D.com - Writer

    สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ(ประเทศเกาหลี)

    อยากรู้คลิกเลย

    ผู้เข้าชมรวม

    8,644

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    15

    ผู้เข้าชมรวม


    8.64K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    7
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 เม.ย. 50 / 16:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


                                                           เจาะลึกเกาหลี
      ข้อมูลเกาหลีโดยย่อ

      ข้อมูลเกาหลีโดยย่อ
      ภูมิประเทศ
      คาบสมุทรเกาหลีทอดตัวไปทางทิศใต้ทางบด้านตะวันออกของทวีปเอเชีย มีความยาว 1,020 กิโลเมตร (612 ไมล์) และกว้าง 175 กิโลเมตร (105 ไมล์) ณ จุดที่แคบที่สุดของคาบสมุทร พื้นที่ 70% ของประเทศเป็นเทือกเขา จึงจัดเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

      ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของแผ่นดินที่เป็นหินแกรนิตและหินปูนทำให้เกิดภูมิประเทศที่สวยงามอย่างมหัศจรรย์ ประกอบด้วยเทือกเขาและหุบเขา เทือกเขา ตลอดชายฝั่งด้านตะวันออกสูงชันและทอดตัวลงสู่ทะเลตะวันออก ในขณะที่ชายฝั่งทางด้านใต้ และตะวันตก เทือกเขาค่อย ๆ ลาดลงต่ำสู่ที่ราบชายฝั่ง ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลีโดยเฉพาะในด้านการผลิตข้าว

      คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ที่บริเวณเหนือเส้นขนานที่ 38 คือ ประเทศระบอบประชาธิปไตย สาธารณรัฐเกาหลีอยู่ทางใต้ และประเทศระบอบคอมมิวนิสต์ เกาหลีเหนือ โดยถูกคั่นกลางโดยเขตปลอดทหาร

      ประเทศเกาหลีใต้มีพื้นที่ 99,500 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 47.9 ล้านคน (ค.ศ.2003)

      ประกอบด้วย 9 จังหวัด (โด) กรุงโซลเป็นเมืองหลวงของประเทศ และประกอบด้วยเมืองใหญ่ ๆ 6 เมือง คือพูนซาน แทกู อินชน ควางจู แทจอน และ อุลซาน รวมมีเมืองทั้งหมด 77 เมือง (ซี) 88 มณฑล (กุน) ใน 9 จังหวัด

      ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
      ระหว่างเส้นละติจูดที่ 33 และ 43 องศาเหนือ และเส้นลองจิจูดที่ 124 และ 131 องศาตะวันออก (รวมเกาหลีเหนือ)

      ยอดเขาสูงสุด
      ยอดเขาฮัลลาซานบนเกาะเชจู 1,950 เมตร ยอดเขาชีรีซาน 1,915 เมตร และยอดเขาซอรักซาน 1,708 เมตร

      แม่น้ำ
      แม่น้ำนักตงคัง 522 กิโลเมตร แม่ฮันคัง 482 กิโลเมตร และแม่น้ำคึมคัง 396 กิโลเมตร

      สภาพเศรษฐกิจ (ปี 2002)
      มีรายได้รวมทั้งประเทศ 477 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีรายได้เฉลี่ยต่อบุคคลต่อปี 10,013 เหรียญสหรัฐ


      ย้อนขึ้น

      ธงประจำชาติ
      ธงประจำชาติเกาหลีมีชื่อเรียกว่า แทกึกกี้ลวดลายของธงบอกถึงสัญลักษณ์หยินหยางตามหลักปรัชญาตะวันออก รูปวงกลมตรงกลางธงแบ่งออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน คือ ส่วนบนที่เป็นสีแดงหมายถึง พลังในเชิงบวกหรือหยาง และส่วนล่างสีน้ำเงินหมายถึง พลังในเชิงลบหรือ หยิน พลังทั้งสองอย่างรวมกันเป็นหลักแห่งความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สมดุลยภาพ และการสมานสามัคคีอันไม่รู้จบ วงกลมนี้ล้อมรอบด้วยสัญลักษณ์สี่อย่าง อยู่ที่แต่ละมุมคือ
      สวรรค์ () โลก () ไฟ () และ น้ำ ()



      ย้อนขึ้น

      ดอกไม้ประจำชาติ
      ดอกมูกุงฮวา หรือ โรส ออฟ ชารอน เป็นดอกไม้ประจำชาติเกาหลี ซึ่งจะบานสะพรั่งทั่วประเทศระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม สิ่งที่ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้ไม่เหมือนดอกไม้ชนิดอื่นคือสามารถทนสภาพอากาศที่เลวร้ายและศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี ความหมายของคำว่า มูกุงฮวา มาจากรากศัพท์ มูกุง ซึ่งหมายถึงความเป็นอมตะ คำ ๆ นี้สะท้อนความเป็นอมตะของประวัติศาสตร์เกาหลี ความมุ่งมั่นและความอดทนของชาวเกาหลี


      ย้อนขึ้น

      ภูมิอากาศ
      ประเทศเกาหลีมีสภาพอากาศอยู่ในเขตอบอุ่น และมีสี่ฤดูที่แตกต่างกันคือ ในปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน ต้นไม้จะผลิใบสะพรั่งเต็มต้น เป็นสัญญาณว่าฤดูใบไม้ผลิได้เริ่มขึ้นแล้ว ระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมจะมีหลาย ๆ วันที่แสงแดดสดใสตลอดทั้งวัน

      ในฤดูร้อนซึ่งอากาศร้อนและมีฝนตกบ้าง ต้นไม้จะเขียวชะอุ่มทั่วไป ในเดือนมิถุนายนอุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่า 20 องศาเซลเซียสเล็กน้อย ฤดูมรสุมปกติจะเริ่มขึ้นในปลายเดือนมิถุนายน จนถึงช่วงกลางหรือปลายเดือนกรกฎาคมและในเดือนสิงหาคมอากาศจะร้อนจัดและชื้นมาก

      ฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มขึ้นตอนปลายเดือนกันยายน ลมที่พัดมาจากแผ่นดินใหญ่นั้นทำให้อากาศแห้งและท้องฟ้าโปร่ง จึงเป็นช่วงที่อากาศเหมาะกับการท่องเที่ยวมากที่สุดในเดือนตุลาคม ทิวทัศน์ทั่วทั้งประเทศจะมีสีสันสดใสด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีทองและสีแดงเต็มต้น

      ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์อากาศจะหนาวเย็นและแห้ง บางครั้งมีฝนหรือหิมะ ในช่วงนี้มักจะมีวันที่อากาศหนาวจัดประมาณ 3-4 วัน สลับกับวันที่อากาศอุ่นสบาย


      ย้อนขึ้น

      ศาสนา
      ประเทศเกาหลีให้ความเคารพต่อเสรีภาพในการนับถือศาสนาโดยมีลัทธิประเภททรงเจ้า บูชาผี ศาสนาพุทธ และลัทธิขงจื้อ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักปรัชญาในการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรมของประเทศก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีศาสนาย่อย ๆ ที่เกิดขึ้นใหม่จากการผสมผสานแนวความคิดบางอย่างในศาสนาดั้งเดิม และยังมีผู้หันไปนับถือศาสนาคริสต์เป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่เริ่มเข้ามาเผยแพร่เมื่อปลายศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา







      ย้อนขึ้น

      ภาษา
      ภาษาเกาหลีจัดอยู่ในกลุ่มยูราล-อัลเตอิค เช่นเดียวกับภาษาฮังกาเรียน ตุรกี มองโกเลียน และฟินนิช ตัวอักษรของเกาหลีเรียกว่า ฮันกึล และประกอบด้วยสระ 10 ตัว และพยัญชนะ 14 ตัว ภาษาพูดได้แปลงมาเป็นภาษาเขียน ในสมัยกษัตริย์เซจง โดยนักการศึกษากลุ่มหนึ่ง ในปี ค.ศ. 1443 ผลงานของนักการศึกษากลุ่มนี้ถูกกล่าวขวัญว่าเป็นการสร้างสรรค์ที่อัจฉริยะอย่างแท้จริง

      ตารางด้านล่างแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงตัวอักษร ฮันกึล 24 ตัว ออกมาเป็นภาษาโรมันและไทย รัฐบาลเกาหลีได้มีนโยบายแปลงตัวอักษรนี้ในปี ค.ศ. 2000 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากป้ายชื่อถนนและป้ายข้อมูลต่าง ๆ มีพื้นฐานอยู่ที่ระบบของแมคคูนไรซเชาเวอร์ ทำให้การเปลี่ยนตัวอักษรโรมันแบบโบราณมาเป็นแบบสมัยใหม่ในปี ค.ศ. 2005






      ย้อนขึ้น

      ประวัติศาสตร์
      มนุษย์เริ่มเข้าไปตั้งรกรากในบริเวณที่เป็นประเทศเกาหลีในปัจจุบันเมื่อประมาณ 500,000 ปี ก่อนอาณาจักรแรกได้แก่ โคโชซอน (โชซอนโบราณ) ตั้งขึ้นเมื่อ 2,333 ปี ก่อนคริสตศักราช และในช่วงหนึ่งศตวรรษก่อนคริสตศักราช คาบสมุทรเกาหลีทั้งหมดและดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศแมนจูเรียอยู่ภายใต้การปกครองของสามอาณาจักร คือ โคกูเรียว แพ็กเจ และชิลลา นับเป็นอาณาจักรที่มีอำนาจสูงสุดในแถบนั้น เป็นที่รู้จักกันว่า ยุคแห่งสามอาณาจักร ระหว่าง 57 ปีก่อน คริสตศักราช ถึงปี ค.ศ. 668

      ในปี ค.ศ.668 และ 660 ตามลำดับ อาณาจักร โคกูเรียว และแพ็กเจ ได้พ่ายแพ้ต่ออาณาจักรชิลลา จึบงเป็นการรวมเอาดินแดนในคาบสมุทรเข้าด้วยกันในปี ค.ศ. 676 ยุคชิลลารวมอาณาจักร (ปี ค.ศ. 676-935) นับเป็นยุคทองของวัฒนธรรมเกาหลี โดยเฉพาะทางด้านพุทธศิลป์ ต่อมาในยุคอาณาจักรโคเรียว (ปี ค.ศ.918-1392) มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชนชั้นปกครองขึ้น พุทธศาสนาได้กลายเป็นศาสนาประจำชาติ และมีอิทธิพลต่อระบบการเมืองการปกครองเป็นอย่างมาก ชื่อประเทศเกาหลีก็มาจากคำว่า โคเรียว นั่นเอง

      ปี ค.ศ.1392-1910 อยู่ในสมัยราชวงศ์ โชซอน อันเป็นราชวงศ์สุดท้ายของประเทศเกาหลี มีการปฏิรูปการเมืองการปกครองอย่างเอาจริงเอาจัง ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือ การยกย่องให้ลัทธิขงจื้อกลายเป็นคติธรรมประจำชาติ การสร้างสรรค์งานด้านวรรณศิลป์ และการประดิษฐ์ตัวอักษร ฮันกึล ในปี ค.ศ.1443 ทำให้ยุคนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวัฒนธรรมเกาหลี มีเมืองฮันยาง ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อโซล เป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ.1394 ปราสาทและกำแพงเมืองจากในยุคนี้ยังคงมีให้เห็นจนกระทั่งปัจจุบัน

      ราชวงศ์โชซอนได้สิ้นสุดลงในปี ค.ศ.1910 ภายหลังการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีได้ตกเป็นอาณานิคมของประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 35 ปี จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองได้สิ้นสุดลงในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.1945 กองทัพญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม และถอนกำลังออกจากประเทศเกาหลีซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองประเทศ คือประเทศเสรีทางใต้และประเทศคอมมิวนิสต์ทางเหนือ สามปีต่อมาประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งอยู่ทางใต้จึงจัดตั้งรัฐบาลอิสระได้สำเร็จ

      สงครามเกาหลีได้ระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ.1950 เมื่อเกาหลีเหนือบุกเกาหลีใต้ และในที่สุดก็มีการลงนามในสัญญาสงบศึกในปี ค.ศ.1953 หลังสงครามดังกล่าว เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการฟื้นฟูประเทศให้มั่นคงและมั่งคั่งอีกครั้งหนึ่ง

      ดันกุนและพงศาวดารแห่งต้นกำเนิดของเกาหลี

      ในราวพันปีมาแล้ว ในยุคที่วานึง บุตรแห่งสวรรค์ปกครองโลกอยู่นั้น มีหมีและเสืออย่างละหนึ่งตัวอยากเป็นมนุษย์มาก ๆ มันจึงสวดมนต์ขอพรต่อวานึงเพื่อประสิทธิ์ประสาทพรนี้ให้แก่มัน วานึงประทับใจ และสงสารสัตว์สองตัวนี้ยิ่งนักที่มันมีความมั่นคงในสิ่งที่มันต้องการ และวานึงก็สัญญาจะแปลงร่างของมันทั้งสอง แต่มีข้อแม้ว่ามันต้องเข้าไปอยู่ในถ้ำมืดเป็นเวลา 100 วัน และดำรงชีพด้วยกระเทียมและผักขมเกาหลีเท่านั้น เมื่อเสือเข้าไปอยู่ในถ้ำ และออกล่าสัตว์ไม่ได้ ความอดทนของมันหมดไปและมันก็เลิกล้มความคิดที่อยากเป็นมนุษย์ ส่วนหมีทนอยู่ในถ้ำได้ถึง 21 วัน และวานึงก็แปลงร่างมันให้เป็นหญิงสาว เมื่อ หมีกลายเป็นหญิงสาวแล้ว มันก็ขอให้วานึงให้หาคู่ครองกับมัน วานึงเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้มีความงดงามมาก จึงเข้าพิธีวิวาห์เสียเอง หลังจากนั้นทั้งสองได้ให้กำเนิด บุตรชายชื่อว่า ดันกุน ผู้ซึ่งในภายหลังได้ก่อตั้งอาณาจักรนามว่า โคโชซอน ในปี 2333 ก่อนคริสต์กาล และนี่ก็คืออาณาจักรแรกเริ่มในคาบสมุทรเกาหลี


      ย้อนขึ้น

      ศิลปะ
      ชนชาติเกาหลีได้ถ่ายทอดความเป็นอัจฉริยะทางศิลปะผ่านทางดนตรี นาฎศิลป์ และจิตรกรรม ซึ่งได้มีการพัฒนามาตลอดระยะเวลา 5,000 ปีของประวัติศาสตร์เกาหลี แม้ว่าศิลปะตะวันตกในรูปแบบต่าง ๆ จะแพร่หลายอยู่ในประเทศ แต่ศิลปะเกาหลีอันมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวยังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะในลักษณะดั้งเดิม หรือผสมผสานกับศิลปะร่วมสมัย


      ย้อนขึ้น

      ดนตรีประจำชาติ
      ชนชาติเกาหลีมีดนตรีที่เรียกว่า คุกอัก มีที่มาคล้ายคลึงกับดนตรีจีนและญี่ปุ่น แต่ถ้าเราสามารถสัมผัสดนตรีชนิดนี้ได้อย่างลึกซึ้ง จะพบว่า ดนตรีเกาหลีมีลักษณะแตกต่างอย่างชัดเจนจากดนตรีชนิดอื่น ๆ ในแถบเอเชียตะวันออก กล่าวคือ ดนตรีเกาหลีประกอบด้วยสามจังหวะในหนึ่งห้อง ในขณะที่ดนตรีจีนและญี่ปุ่นมีสองจังหวะในหนึ่งห้อง

      คุกอัก แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ ชองอัก หรือดนตรีในราชสำนัก และมินซกอัน หรือดนตรีพื้นบ้าน ชองอัก ซึ่งเป็นดนตรีชั้นสูง มีท่วงทำนองเชื่องช้า เยือกเย็น และซับซ้อน ส่วนมินซกอัก ได้แก่ ดนตรีของชาวนาชาวไร่ พันซอรี (ดนตรีที่เน้นการแสดงความรู้สึก) และดนตรีพิธีไสยศาสตร์ มีจังหวะที่รวดเร็วและกระฉับกระเฉง

      นาฏศิลป์
      ศิลปะการร่ายรำแบบเกาหลีแบ่งออกเป็น 2 ประเภทเช่นเดียวกับดนตรี คือ แบบราชสำนักและแบบพื้นบ้าน ในแบบฉบับของราชสำนักนั้น ท่าทางของการรำจะช้าและสง่างาม ซึ่งสะท้อนปรัชญาของการเดินสายกลางและการระงับอารมณ์ความรู้สึก เป็นอิทธิพลมาจากปรัชญาขงจื้อ ในทางตรงกันข้าม ระบำพื้นบ้านซึ่งสะท้อนชีวิตการทำงานและศาสนาของสามัญชนจะใช้จังหวะและทำนองที่สนุกสนาน เป็นลักษณะของการแสดงออกที่เป็นอิสระและมีชีวิตชีวาของคนเกาหลี เช่น ระบำของชาวนาชาวไร่ ระบำหน้ากาก และการร่ายรำทางไสยศาสตร์

      การได้รู้จักและเห็นคุณค่าของนาฏศิลป์เกาหลีจะช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าใจวัฒนธรรมของคนเกาหลีใต้มากยิ่งขึ้น

      จิตรกรรมแบบดั้งเดิม
      จิตรกรรมแบบเกาหลีแตกต่างจากรูปแบบของตะวันตกอย่างสิ้นเชิงด้วยลักษณะลายเส้นและการให้สีซึ่งเป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของศิลปะตะวันออก การค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับจิตรกรรมโบราณในสุสานหลวงจากยุคสามอาณาจักร (57 ปีก่อนคริสตศักราช –ค.ศ. 668) ช่วยให้เราสามารถเข้าใจวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้น

      ต่อมาในสมัยราชวงศ์โคเรียว (ค.ศ.918-1392) ศาสนาพุทธมีความเจริญรุ่งเรืองถึงจุดสูงสุด มีงานจิตรกรรมแบบพุทธ และศิลปวัตถุอื่น ๆ เกิดขึ้นมากมายในวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่วนในสมัยราชวงศ์โชซอน (ค.ศ.1392-1910) ลัทธิขงจื้อได้กลายเป็นหลักปรัชญาในการบริหารประเทศ บรรดาปัญญาชนในสมัยนั้นจึงผลิตงานศิลปะที่แสดงถึงอิทธิพลของลัทธิขงจื้อและศิลปะแบบจีน ในขณะเดียวกัน จิตรกรรมพื้นบ้านซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่สามัญชนกลับไม่ได้รับอิทธิพลจากแนวความคิดใดความคิดหนึ่ง จึงมีการใช้เทคนิคการเขียนภาพที่เป็นอิสระ แสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึก รวมทั้งใช้สีสันสดใส เพื่อสื่อถึงพลัง อารมณ์ และความรื่นเริง สำหรับโรงเรียนสอนด้านจิตรกรรมทั้งของแบบเกาหลีและตะวันตกที่เปิดอยู่ในเกาหลีปัจจุบันก็มีผลงานบางชิ้นที่ผสมผสานกัน

      เครื่องปั้นดินเผา
      ประเทศเกาหลีได้รับเอาศิลปะการทำเครื่องปั้นดินเผามาจากประเทศจีนเมื่อกว่า 1,000 ปีมาแล้ว ศิลปะแขนงนี้ได้เจริญรุ่งเรืองและกลายเป็นประเพณีอย่างหนึ่งซึ่งชาวเกาหลีมีความภาคภูมิใจ

      เครื่องปั้นดินเผาแบบศิลาดลสีเขียวอมฟ้า ที่มีความสวยงามแบบลึกซึ้งจากราชวงศ์โคเรียว (ค.ศ.918-1392) ก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกและเป็นที่ต้องการของผู้ที่นิยมวัตถุโบราณ เช่นเดียวกับเครื่องกระเบื้องสีขาวจากราชวงศ์โชซอน (ค.ศ.1392-1910)

      ศิลปะแขนงนี้ได้เข้าไปมีอิทธิพลต่อศิลปะญี่ปุ่นในยุคสมัยต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ญี่ปุ่นที่รุกรานประเทศเกาหลีในช่วงปี ทศวรรษ 1950 และทำให้ศิลปะแขนงนี้เจริญรุ่งเรืองในญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้


      ย้อนขึ้น

      ขนบธรรมเนียมและประเพณี

      การเคารพผู้มีอาวุโส
      โครงสร้างทางสังคมแบบขงจื้อที่มีมานานยังคงอยู่อย่างเหนียวแน่น ถึงแม้ว่าเราจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านนี้บ้าง วัยวุฒิและอาวุโสยังมีความหมายมากและผู้เยาว์จะต้องเคารพคำสั่งของผู้อาวุโสโดยปราศจากข้อโต้แย้ง ดังนั้นบ่อยครั้งเราจะถูกถามว่าอายุเท่าใด และถามถึงสถานภาพทางการสมรส (เป็นที่น่าแปลกอยู่ทีเดียวที่ไม่ว่าเราจะอายุมากเพียงใด เราจะไม่ถือเป็นผู้ใหญ่หากเรายังไม่สมรส อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่ยึดถือกันในแต่ละครอบครัว) เพื่อจะคะเนถูกถึงความอาวุโสของเราต่อผู้อื่น อย่างไรก็ตามการที่ถูกถามก็มิได้หมายความว่าผู้ถามต้องการล่วงล้ำเข้ามาในโลกส่วนตัวของเรา แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนั้นหากเราไม่ต้องการ

      ชื่อ
      ชาวเกาหลีส่วนใหญ่จะมีชื่อสกุลจำกัดอยู่ในไม่กี่กลุ่มชื่อ เช่น 21% จะมีชื่อสกุลว่า คิม 14% จะมีชื่อสกุลว่า ยี, ลี หรือ รี  8% มีชื่อสกุลว่า ปาร์ค นอกจากนั้นก็มีชื่อสกุลแตกออกไปอีกเช่น ชอย (หรือ แช) เจิง (หรือ ชุง) จาง (หรือ ชาง) ฮัน , ลิม เป็นต้น ชื่อเต็มของชาวเกาหลีก็จะประกอบด้วย ชื่อสกุล 1 พยางค์และชื่อหน้า 2 พยางค์ ชื่อสกุลจะเขียนก่อน สตรีชาวเกาหลีจะไม่เปลี่ยนชื่อสกุลตามคู่สมรส แต่บุตรและธิดาจะใช้ชื่อสกุลของบิดา

      การสมรส
      ชาวเกาหลีถือว่าการสมรสนั้นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิต และการหย่าร้างถือว่าเป็นความตกต่ำเสียชื่อเสียงไม่เพียงแต่สำหรับคู่สมรสเท่านั้น แต่รวมไปถึงครอบครัวเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม อัตราหย่าร้างในปัจจุบันก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นเร็วพอควร

      การประกอบพิธีสมรสในปัจจุบันแตกต่างไปจากในสมัยโบราณ นั่นคือในปัจจุบันนี้พิธีจะเริ่มด้วยแบบทางตะวันตก นั่นคือมีการสวมชุดวิวาห์สีขาวสำหรับเจ้าสาวและทัคซีโดสำหรับเจ้าบ่าว โดยประกอบพิธีในห้องจัดพิธีวิวาห์ หรือในโบสถ์ ต่อมาช่วงบ่ายจะมีพิธีแบบดั้งเดิมในสถานที่ใหม่ด้วยชุดวิวาห์ที่มีสีสันงดงาม

      เจเย (พิธีเคารพบูชาบรรพบุรุษ)
      ตามหลักความเชื่อดั้งเดิมของเกาหลีนั้น เมื่อบุคคลหนึ่งสิ้นชีวิตลง วิญญาณของเขายังไม่ไปไหน แต่ยังวนเวียนอยู่ใกล้เป็นเวลากว่า 4 ชั่วคนทีเดียว ในช่วงเวลาอันยาวนานนี้ผู้ตายยังถูกถือว่าเป็นสมาชิกของครอบครัวความสัมพันธ์อันนี้ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยพิธีเจเย ซึ่งจัดขึ้นในวันพิเศษต่างๆ
      เช่น ซอลัล และชูซก รวมทั้งวันครบรอบวันเสียชีวิตของบรรพบุรุษเหล่านั้น ชาวเกาหลีเชื่อว่าการที่เขามีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขนั้นก็ด้วยพรอันประเสริฐซึ่งบรรพบุรุษให้ไว้นั่นเอง

      ภาษากาย
      เมื่อต้องการกวักมือเรียกผู้อื่นนั้น ควรคว่ำมือลงและกวักนิ้วเรียกโดยใช้นิ้วชิดกัน การกวักมือเรียกโดยหงายฝ่ามือขึ้นนั้นไม่สุภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้นิ้วกวักเรียก เพราะถือเป็นกิริยาเรียกสุนัข สำหรับชาวเกาหลี

      ฮันบก
      ฮันบกเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติเกาหลีมาเป็นเวลาพัน ๆ ปีมาแล้ว ความงามและความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมเกาหลีจะถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางภาพถ่ายของสุภาพสตรีในเครื่องแต่งกายฮันบกนี้

      ก่อนที่วัฒนธรรมการแต่งกายแบบตะวันตกจะได้เข้ามาในเกาหลีเมื่อร้อยปีมาแล้วนั้น หญิงชาวเกาหลีจะสวมชุดฮันบกเป็นปกติทุกวัน ส่วนสุภาพบุรุษจะสวมชอโกรี (เสื้อนอกแบบเกาหลี) และพาจิ (กางเกงขายาว) ในขณะที่สุภาพสตรีสวมชอกอรีและชีมา (กระโปรง) ในปัจจุบันชุดประจำชาติฮันบก จะใช้สวมเฉพาะในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส วันซอลลัล (วันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ) หรือวันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้า)

      อนดอล
      ตามประเพณีของเกาหลีนั้นห้องต่าง ๆ จะใช้เพื่อจุดประสงค์หลาย ๆ อย่าง และไม่มีการใช้หรือเรียกห้องตามการใช้งานของมัน เช่น ห้องนอน หรือห้องอาหาร เป็นต้น แต่จะมีการนำโต๊ะและเสื่อเข้าไปไว้ตามห้องต่าง ๆ ตามจุดประสงค์การใช้งาน ประชาชนส่วนใหญ่จะนอนบนเสื่อหนาปูบนพื้น ใต้พื้นห้องจะมีท่อระบายอากาศที่ทำด้วยหินหรือคอนกรีต ในสมัยโบราณลมร้อนจะถูกระบายผ่านช่องเพื่อให้เกิดความร้อน ดินเหนียวและปูนจะถูกนำมาวางบนหิน เพื่อป้องกันผู้อยู่อาศัยมิให้ถูกกระทบด้วยก๊าซพิษ ระบบทำความร้อนใต้พื้นนี้เรียกว่า "อนดอล" ในยุคปัจจุบันใช้ท่อน้ำร้อนให้ไหลผ่านพื้นซีเมนต์ซึ่งคลุมด้วยพรมน้ำมัน

      คิมจาง
      คิมจางเป็นวิธีการเตรียมผักดองกิมจิในฤดูหนาวของชาวเกาหลีแต่ดั้งเดิม และสืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่นมาหลายชั่วคนแล้ว ในเกาหลีนั้นจะมีผักน้อยประเภทมากและก็ปลูกได้ระหว่าง 3-4 เดือนสุดท้ายของปีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีคิมจางช่วงต้นฤดูหนาว เพื่อทำอาหารซึ่งกลายมาเป็นอาหารประจำของชาวเกาหลี โต๊ะอาหารในเกาหลีจะขาดกิมจิไม่ได้เลย

      การแพทย์แบบตะวันออก
      การแพทย์ตะวันออกถือหลักว่าสาเหตุแห่งโรคคือ พละกำลังที่ถดถอยและภูมิต้านทานที่อ่อนลง ไม่ได้เกี่ยวกับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายโดยเฉพาะ แต่เป็นการเสียสมดุลของพลังแห่งชีวิตในร่างกายโดยรวม ดังนั้นการแพทย์ตะวันออกจึงใช้วิธีรักษาโดยใช้หลักฟื้นฟูระบบภูมิต้านทานและเสริมสร้างความประสานกลมกลืนของร่างกายโดยรวม มิใช่โดยวิธีกำจัดเชื้อโรค

      วิธีรักษาแบบตะวันออกมีทั้ง การบริโภคยาสมุนไพร การฝังเข็ม การใช้ลูกประคบ  และการบำบัดโดย การคว่ำถ้วยสูญญากาศ




      สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของกรุงโซล

      กรุงโซล
      ในปีที่ 3 ของการปกครองของราชวงศ์โชซอน (ปี ค.ศ.1394) นั้นได้มีการย้ายเมืองหลวงมาที่กรุงโซลและตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลากว่า 600 ปีแล้วที่กรุงโซลกลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการคมนาคม ในปัจจุบันประชาชนชาวเกาหลีจำนวน 1 ใน 4 ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงโซลที่ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางและศูนย์รวมของความรู้ทั้งปวง ที่กรุงโซลมีการเก็บวัตถุโบราณของราชวงศ์โชซอนไว้มากมาย นั่นคือประตูทงแดมุน และนัมแดมุน พระราชวัง 5 แห่ง อันมีชื่อว่า เคียงบกกุง ชางด๊อกกุง ชางเกียงกุง ถ๊อกซูกุง และเคียงฮุยกุง หลุมผังศพกษัตริย์ต่าง ๆ อันรวมถึงฮองเนิง ซอนจองเนิง และซุงเคียนกวัน สถาบันสอนลัทธิขงจื๊อของกรุงโซล มรดกของกรุงโซล แพร่หลายไปทุกหนแห่ง ในเวลาเดียวกัน กรุงโซลก็ผงาดขึ้นโดดเด่นในแง่ของความทันสมัย และสถานที่ที่น่าดึงดูดใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกล๊อตเต้เวิลด์ หรือหอคอยกรุงโซลอันถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซลทีเดียว หอคอยติดไฟสว่างไสวตลอดคืน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และสวนสาธารณะต่าง ๆ ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าอื่น ๆ สโมสรแจ๊ซซ์ ร้านกาแฟ สถานคาสิโน เป็นต้น ทั้งหมดนี้ทำให้กรุงโซลเป็นสถานที่ที่ท่านจะพบกับความพอใจและความเพลิดเพลินอย่างที่ท่านต้องการ

      ทัวร์กรุงโซล
      ซื้อตั๋วเพียงใบเดียว ก็สามารถเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในกรุงโซลได้มากมาย รถทัวร์กรุงโซลเป็นที่นิยมทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเอง และกระทั่งคู่รักหนุ่มสาว

      รถทัวร์จะมีสองเส้นทาง คือรถทัวร์ชมตัวเมือง และรถทัวร์ชมพระราชวัง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจะลงจากรถที่ใดก็ได้ หลังจากนั้นก็สามารถขึ้นรถและออกเดินทางต่อไปได้ รถบัสขนาด 35 ที่นั่งนี้จะมีอุปกรณ์หูฟังซึ่งจะให้ข้อมูลการท่องเที่ยวในภาษาเกาหลี อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน และฝรั่งเศส รถทัวร์ชมตัวเมือง จะให้บริการตั้งแต่ 9.00 น.– 21.00 น. ส่วนรถทัวร์ชมพระราชวัง จะให้บริการตั้งแต่ 9.00 น. – 17.00 น. โดยจะออกทุก ๆ 30 นาที บริการรถทัวร์นี้จะหยุดให้บริการในวันจันทร์ ผู้โดยสารจะขึ้นรถทัวร์จากที่ใดก็ได้ในเส้นทาง หรือที่ร้านปลอดภาษีดองวา ที่สถานีควางฮ-วามุน (รถไฟใต้ดินกรุงโซลสายที่ 5 ทางออกที่ 6) ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 5,000 วอน ส่วนตั๋ววัน (ทัวร์ชมตัวเมืองและพระราชวัง) ราคา 10,000 วอน มีเส้นทางเดินรถดังนี้

      ทัวร์ชมตัวเมือง
      ควางฮวามุน -> พระราชวังถ็อกซูกุง -> โรงแรมล็อตเต้ -> ตลาดนัมแดมุน -> สถานีรถไฟโซล -> ยูเอสโอ  -> อนุสรณ์สถานสงคราม -> ฐานทัพสหรัฐฯ ที่ยงซาน -> โรงแรมอีแทวอน -> โรงแรมคราวน์ -> เมียงดง  -> หมู่บ้านนัมซานฮันอก -> โรงแรมโซฟิเทล แอมบาสซาเดอร์ -> โรงละครแห่งชาติ -> หอคอยโซล -> โรงแรมไฮแอท -> โรมแรมทาวเวอร์ -> โรงแรมชิลลา -> ตลาดทงแดมุน -> ถนนเทฮังโน -> พระราชวังชางเกียงกุง -> พระราชวังชางด๊อกกุง -> อินซาดง -> ชองวาแด (ทำเนียบสีฟ้า) -> พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ -> พระราชวังเคียงบกกุง -> พิพิธภัณฑ์ตำรวจ -> ศูนย์กลางศิลปการแสดง เซจงเซ็นเตอร์ -> ควางฮวามุน

      ทัวร์ชมพระราชวัง
      ควางฮวามุน -> พระราชวังถ็อกซูกุง -> ศูนย์ข่าวเกาหลี -> ตึกเคียวโบ -> ถนนอินซาดง -> พระราชวังชางด๊อกกุง -> ถนนแทฮังโน -> พระราชวังชางเกียงกุง ->  พระราชวังชางด๊อกกุง -> ถนนอินซาดง -> ชองวาแด (ทำเนียบสีฟ้า) -> พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ -> ศูนย์กลางศิลปการแสดง เซจงเซ็นเตอร์ -> ควางฮวามุน


      พระราชวังเคียงบกกุง
      สุดปลายทางด้านเหนือของถนนเซจองโน เราจะเห็นพระราชวังเคียงบกกุงตั้งโดดเด่นเป็นสง่า นี่คือพระราชวังเก่าแก่ที่สุดของราชวงศ์โชซอน ในบริเวณพระราชวังนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกาหลีและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติ ณ ที่สองแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมลักษณะเด่น ๆ ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเกาหลีและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นพระที่นั่งคึนจองจอน ศาลาเคียงฮวยรูซึ่งตั้งอยู่กลางสระ ศาลายางวอนจอง หรืออาคารสิ่งปลูกสร้างอื่นหลายอาคาร ล้วนแล้วแต่แสดงถึงสถาปัตยกรรมอันงดงามและแวดล้อมด้วยทัศนียภาพเขียวขจีของสวนอันน่าอภิรมย์

      ประตูจอนชุมมุนเป็นประตูด้านตะวันออกของพระราชวังเคียงบกกุง จะเปิดออกสู่ถนน ซัมจองดองกิล ที่มีร้านขายฮันบก (ชุดประจำชาติ) และหอแสดงศิลปะหลายแห่ง ทางด้านเหนือสุดของถนนซัมจองดองกิล ซึ่งยาวออกไป 1 กม. ผ่านด้านหน้าของทำเนียบชองวาแด อันครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ซึ่งแผ่กิ่งก้านมาบรรจบกันตรงกลางถนนและมีสวนหย่อมตกแต่งงดงามอยู่ข้างทางหลายแห่ง จึงเป็นที่ที่จะเดินเล่นได้อย่างสบายอารมณ์ พอไปถึงปลายถนนเราก็จะเห็นสวนโรสออฟแชรอนและหอประชุมชุมชนเฮียวจาดองซารางบางซึ่งแสดงของกำนัลต่าง ๆ ที่ประธานาธิบดีคนก่อน ๆ ของเกาหลีได้รับ และประวัติโดยละเอียดของกรุงโซล

      ประวัติพระราชวังเคียงบกกุง
      สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 เพื่อเป็นพระราชวังหลักของราชวงศ์โชซอน (1392-1910) อัน เป็นราชวงศ์ที่สถาปนาขึ้นโดยกษัตริย์แทโจ ในจำนวนพระราชวังทั้ง 5 ที่สร้างขึ้นในราชวงศ์นี้ พระราชวังเคียงบกกุงถือเป็นพระราชวังที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุด

      เบอร์โทร: 02-734-2458
      วิธีการเดินทาง: ลงที่สถานีเคียงบกกุงทางออก 5 สาย 3
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น.-18.00 น. (09.00 – 17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย. - ก.พ.)
      วันให้บริการ: วันอังคาร
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน


      พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกาหลี
      พิพิธภัณฑ์นี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1908 ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีแห่งนี้ มิได้แสดงเฉพาะผลงานทาง วัฒนธรรม 135,000 ชิ้นของเกาหลีเท่านั้น แต่ยังแสดงผลงานของประเทศใกล้เคียงด้วยเช่น จีน ญี่ปุ่น เอเซียกลาง อาคารเดิมของพิพิธภัณฑ์ได้ถูกรื้อถอนไปเมื่อปี ค.ศ. 1996 และมีการสร้างอาคารปัจจุบันเป็นการชั่วคราว ภายในพระราชวังเคียงบกกุง ซึ่งแสดงผลงานทางศิลปะกว่า 5,500 ชิ้นในหอแสดง 18 แห่ง มีบริการนำชมพิพิธภัณฑ์เป็นภาษาอังกฤษในวันอังคาร – ศุกร์ เวลา 10.00 น. 13.00 น. และ 15.00 น.

      เบอร์โทร: 02-398-5000
      Url:
      http://www.museum.go.kr
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. – 18.00 น. (09.00 น. – 17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย. – ก.พ.) ขยายเวลาเปิดไปอีก 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการจาก มี.ค. – ต.ค.
      วันให้บริการ: วันจันทร์และวันที่ 1 ม.ค.
      ราคาค่าบริการ: 700 วอน


      พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลี
      ตั้งอยู่ภายในพระราชวังเคียงบกกุง ในพิพิธภัณฑ์มีการแสดงการดำเนินชีวิตของชาวเกาหลีสมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยราชวงศ์ โชซอนและยังได้แสดงเครื่องไม้สอยในชีวิตประจำวัน เครื่องใช้ในพิธีจัดศพงาน ศิลปะชิ้นสำคัญ ๆ และหุ่นจำลองต่าง ๆ

      เบอร์โทร: 02-734-1346
      Url:
      http://www.nfm.go.kr
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. – 18.00 น. (09.00 น. – 17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย. – ก.พ.)
      วันให้บริการ: วันอังคารและวันที่ 1 ม.ค.
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน


      ชองวาแด
      นี่คือทำเนียบของประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี มีการนำเที่ยวชองวาแดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 จะจัดนำเที่ยวเป็นการส่วนตัวก็ได้จาก 10.00 น. ถึง 15.00 น. วันศุกร์และวันเสาร์ในเดือนเมษายน เดือนพฤษภาคม เดือนกันยายน และเดือนตุลาคม ท่านสามารถรับบัตรชมได้ฟรี ที่สำนักงานท่องเที่ยวชองวาแด ตั้งอยู่ชั้นล่างภายในพระราชวังเคียงบกกุง นอกจากนี้ยังสามารถจัดนำเที่ยวเป็นกลุ่มได้ถึง 30 คน

      เบอร์โทร: 02-730-5800
      Url:
      http://www.cwd.go.kr
      วิธีการเดินทาง: สายที่ 3 ทางออกที่ 5 สถานีเคียงบกกุง


      ถนนซัมจองดองกิล
      ตลอดเส้นทางของถนนสายนี้ จะมีหอแสดงผลงานทางศิลปะเช่น ฮุนได พิพิธภัณฑ์ศิลปะคึมโฮ ศูนย์ศิลปะอารต์ซอนเจ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีวัดเบิมเนียมซา พิพิธภัณฑ์ เครื่องแต่งกายพื้นบ้านเกาหลี ศูนย์วัฒนธรรมฝรั่งเศส ห้องสมุดจองดอก ร้านกาแฟ ร้านอาหารและร้านช่างฝีมือต่าง ๆ

      มีรถประจำทางวิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์รอบ ๆ บริเวณนี้ ราคาตั๋ว 1,000 วอน และซื้อได้จากพนักงานขับรถ

      แผนที่พระราชวังเคียงบกกุง
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย 

      บริเวณรอบพระราชวังถ็อกซูกุง
      ตรงข้ามกับศาลากลางกรุงโซล คือพระราชวังถ็อกซูกุง ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าพระราชวังของราชวงศ์โชซอน (1392-1910) พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของเจ้าชายวอลซาน (1454-1488) ซึ่งเป็นพี่ชายของกษัตริย์ซองจอง แต่ในยุคสมัยของกษัตริย์องค์ต่อมาได้ใช้เป็นพระราชวังหลัก โดยเฉพาะในยุคของกษัตริย์โกจอง ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์ก่อนสุดท้ายของราชวงศ์โชซอน ทรงประทับที่พระราชวังนี้ แม้แต่หลังจากที่ทรงถูกบังคับให้สละราชสมบัติโดยญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1907 พระองค์ทรงประทับอยู่ที่พระราชวังนี้จนสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1919

      กษัตริย์ซุนจองซึ่งเป็นโอรสและเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายได้พระราชทานชื่อพระราชวังนี้ซึ่งเรียกในปัจจุบันว่า ถ็อกซูกุง (ซึ่งแปลว่า พระราชวังแห่งอายุยืนยาวและมั่นคง) ด้วยความหวังว่าพระราชบิดาจะทรงพระชนม์ยืนยาวที่นี่

      หากเลี้ยวออกไปทางด้านใต้ของพระราชวังจากถนนที่เต็มไปด้วยต้นไม้นี้ เราจะพบโบสถ์ของเมโทดิสต์ชื่อชุงดอง ซึ่งมีชื่อเสียงมาเป็นเวลาช้านาน และฝั่งตรงข้ามก็คือโรงละครชองดง ซึ่งมีการแสดงตลอดปี ใกล้พระราชวังจะพบจุดที่คนนิยมไปชมกันมากนั่นคือ พระราชวังเคียงฮุยกุง หอศิลป์โชซอนอิลโบ หอประชุมมุนฮวาอิลโบ โบสถ์แองกลิกันเก่าแก่ ที่ตั้งหน่วยทหารเดิมชาวรัสเซีย พิพิธภัณฑ์การเกษตร โรงละครนันทาและอื่น ๆ อีกมาก

      เมื่อเดินมาสู่ประตูซุงเนมุน  (ซึ่งรู้จักกันทั่วไป ว่านัมแดมุน หรือประตูใต้)  จากประตูใหญ่ถ็อกซูกุง เราจะมาถึงย่านซัมซุงพลาซ่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอศิลปะโรแดงและศูนย์การค้า ส่วนอีกด้านหนึ่งของประตูซุงเนมุน คือตลาดนัมแดมุน ซึ่งเต็มไปด้วยร้านขายส่งและขายปลีกนับร้อยร้าน และเป็นที่พึงพอใจที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ

      พระราชวังถ็อกล็อกซูกุง
      บริเวณพระราชวังถ็อกล็อกซูกุงจะมีสิ่งก่อสร้างที่น่าชมเป็นอันมาก เช่น ประตูหลักแทฮันมุน พระที่นั่งชุงวาจอนและท้องพระโรง และซกโชจอนอันเป็นสิ่งก่อสร้างแนวตะวันตกแห่งเดียวในบรรดาพระราชวังต่าง ๆ ในเกาหลี ซกโชจอนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หลวง ซึ่งเป็นที่เก็บสิ่งของที่ใช้ในพระราชวังในสมัยราชวงศ์โชซอน นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะถ็อกซูกุง ซึ่งแสดงผลงานทางศิลปะสมัยใหม่มากมาย

      เบอร์โทร: 02-771-9951
      วิธีการเดินทาง: จากสถานีซิตี้ฮอล ทางออกที่ 2, สาย 1 หรือสาย 2
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. – 18.00 น. (09.00 น. – 17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย. – ธ.ค.)
      วันให้บริการ: วันจันทร์
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน


      โรงละครชองดง
      เป็นโรงละครแห่งแรกที่แสดงละครแบบเก่า มีการแสดงศิลปะพื้นบ้านทุกวันเวลา 20.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ (16.00 น. ในเดือนตุลาคม-มีนาคม) การแสดงหลัก ๆ คือ ระบำกลอง พันซอรี (เพลงเล่าเรื่องร้องเดี่ยว) ซันโจ ฮับจู (เป็นทำนองวงดนตรีเล่นจากเครื่องดนตรีของเกาหลี) ซามุลลอริ (ดนตรีเข้าจังหวะมีผู้เล่น 4 คน) ระบำดาบและระบำพัด และอื่น ๆ

      นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถถ่ายภาพกับนักแสดงซึ่งแต่งกายแบบพื้นเมือง การแสดงจะมีบุทบรรยายเป็นภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ฉายบนจอใหญ่เพื่อให้ชาวต่างชาติ เข้าใจเรื่องของละครมากขึ้น

      เบอร์โทร: 02-7511-500
      Url:
      http://www.chongdong.com
      วิธีการเดินทาง: สายที่ 1 หรือ 2 ทางออกที่ 1 หรือ 12 สถานีซิตี้ฮอลล์


      หอศิลป์โรแดง
      หอศิลป์โรแดง ติดอันดับ 8 ของโลกและเป็นที่ 2 ในทวีปเอเชีย และแสดงผลงานของ โอกุสต์ โรแดงทั้งหมด หอศิลป์นี้ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของซัมซุงพลาซ่า

      เบอร์โทร: 02-2259-7789 , 02-2259-7795
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 1 หรือ 2 ออกตรงทางออกที่ 8 สถานีซิตี้ฮอลล์
      เวลาให้บริการ: เวลา 10.00 น. – 18.00 น.
      วันให้บริการ: วันจันทร์


      โรงละครนันทา
      โรงละครนันทาคือสถานที่เดียวที่แสดงด้วยเครื่องครัว การแสดงที่ให้จังหวะอย่างสนุกสนานนี้ได้ชนะการประกวดนานาชาติมาแล้ว เป็นการแสดงที่ใช้เครื่องใช้ในครัวและภาชนะได้แก่ หม้อ กระทะ และกระป๋องขยะ ด้ามไม้กวาด และตะเกียบ และที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งคือการหั่นผักบนเขียงด้วยมีดคมกริบ




      เบอร์โทร: 02-739-8288
      Url:
      http://www.nanta.co.kr
      วิธีการเดินทาง: สายที่ 5 ทางออกที่ 5 สถานีโซแดมุน
      ราคาค่าบริการ: 20,000 – 50,000 วอน


      สิ่งที่น่าดูบริเวณนี้
      พิธีการเปลี่ยนเวรราชองค์รักษ์ในพระราชวังถ็อกซูกุงและพระราชวังชางด๊อกกุง
      ที่แดฮันมุนในพระราชวังถ็อกซูกุงและดอนฮวามุนของพระราชวังชางด๊อกกุง จัดให้มีการแสดงการเปลี่ยนเวรราชองค์รักษ์ของราชวงศ์โชซอน

      เบอร์โทร: 02-3707-9454
      วันให้บริการ: การแสดงนี้มีทุกวัน เว้นวันจันทร์ตั้งแต่ 14.00 น. ถึง15.30 น. (14.00 น. ถึง 15.30 น. ระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนธันวาคม)


      แผนที่พระราชวังถ็อกซูกุง
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      บริเวณรอบอินซาดง
      หากอยากสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีแบบเกาหลีในใจกลางเมือง เชิญเยี่ยมชมอินซาดง ที่ซึ่งมีทั้งห้องแสดงงานศิลปะ ร้านขายเครื่องแกะสลักแบบพื้นเมือง ร้านขายวัตถุโบราณ ภัตตาคารและร้านน้ำชาตามแบบเกาหลี นับเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพบกับวัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ แถบนี้ยังเป็นแหล่งวัตถุโบราณ ทั้งภาพเขียนเก่าแก่ งานเครื่องปั้นดินเผา งานกระดาษ และเครื่องเรือนเก่า มีอยู่ที่นี่ทั้งหมด ห้องแสดงงานศิลปะในช่วงราว ๆ ทศวรรษที่ 70 ในอินซาดง ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เมื่อครั้งที่พระราชินีอลิซาเบธที่ 2 เสด็จเยือนอินซาดงในปี 1999 นั้น ท่านได้ตรัสชมเชยงานศิลปะโบราณที่ท่านได้ทอดพระเนตรอย่างมากมาย ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ อินซาดงจะเป็นเขตปลอดยวดยานพาหนะ (วันเสาร์ เวลา 14.00 น. - 22.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 10.00 น. - 22.00 น.) และมีตลาดนัดขายของเก่า เครื่องประดับ และงานศิลปะต่าง ๆ ซึ่งสินค้าในตลาดนัดไม่ได้มีเฉพาะสินค้าเกาหลีเท่านั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถพบผลิตภัณฑ์จากทั่วทุกมุมโลกได้ที่นี่ด้วยเช่นกัน

      ติดกับอินซาดง คือนากวันอาเขต เป็นทางเดินซื้อของซึ่งสองข้างทางจะเป็นตลาดเครื่องดนตรี ร้านขนม และของประณีตต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีพระราชวังอึนเฮียงกุง ที่อยู่ของผู้สำเร็จราชการ แดวอนกุน ในสมัยราชวงศ์โชซอน ผู้ซึ่งปิดประตูอาณาจักรต่อชาวต่างชาติ และโชเกซา ซึ่งเป็นวัดหลักของนิกายพุทธที่สำคัญของเกาหลี ที่เรียกว่า โชเกจอง ในวัดนี้นักท่องเที่ยวสามารถชมพิธีสวดมนต์แบบศาสนาพุทธในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของธูป ถนนที่ผ่านวัดโชเกซานั้น เต็มไปด้วยร้านขายลูกตุ้ม ระฆังไม้ เสื้อคลุมสีเทา ลูกประคำ ธูป เครื่องทองเหลือง และสินค้าที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาต่าง ๆ

      ในเวลาเดียวกัน ถ้าเดินเลยไปทางด้านสถานีชงกักของรถใต้ดินสาย ๆ เราจะพบหอคอยชงโน ซึ่งเมื่อขึ้นไปแล้วจะเห็นทัศนียภาพของกรุงโซลในยามค่ำคืน เลยไปจากหอคอยชงโน คือหอระฆัง โพชินกักที่เก่าแก่ ร้านขายหนังสือยังพุงอยู่ระดับต่ำกว่าแนวถนน

      ห้องแสดงงานศิลปะ
      ห้องแสดงงานศิลปะในอินซาดงนี้ มีมาตั้งแต่ในยุคทศวรรษที่ 70 และในปัจจุบันนี้ มีอยู่กว่า 70 แห่ง ห้องแสดงงานศิลปะเหล่านี้ จัดแสดงและจำหน่ายงานศิลปะทั้งงานศิลปะโบราณและงานศิลปะสมัยใหม่ บางแห่งจำหน่ายทั้งผลงานของศิลปินอาชีพและศิลปินสมัครเล่น ห้องแสดงงานศิลปะ Kyung-In (02-733-4448) เป็นหอศิลป์ที่มีสถานที่แสดงนิทรรศการในตัวอาคารถึง 3 แห่ง และมีสถานที่แสดงนิทรรศการกลางแจ้งอีก 1 แห่ง นอกจากนั้นยังมีร้านน้ำชาแบบเกาหลีและสวน ส่วนร้าน Tong In (02-735-9094) จัดแสดงและจำหน่ายงานฝีมือทั้งเก่าและใหม่ มีทั้งงานโลหะ เครื่องปั้นดินเผา สิ่งทอและงานย้อม รวมถึงงานฝีมือจากกระดาษข้าว และยังมีศูนย์ศิลปะ Insa (02-736-1020) ซึ่งเป็นศูนย์รวมงานศิลปะซึ่งมีหอแสดงนิทรรศการถึง 4 หอ และร้าน Gana Art ซึ่งจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง

      ภัตตาคารและร้านน้ำชาแบบเกาหลี
      ที่อินซาดงนี้ มีภัตตาคารและร้านน้ำชาแบบเกาหลีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ถึงแม้ว่าบางแห่งจะดูเป็นร้านแบบสมัยใหม่ แต่แทบทุกร้านก็มีรสชาติเป็นอาหารพื้นเมืองอย่างแท้จริง ห้องอาหาร Sanchon (02-735-0312) บริการอาหารมังสวิรัติ มีการแสดงพื้นเมืองให้ชม ภัตตาคาร Jirisan (02-723-7213) เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารเกาหลีแบบโฮมเมด Min's Club (02-733-2966) บริการน้ำชาแบบเกาหลี ไวน์ และอาหารทั้งอาหารเกาหลี และอาหารในบรรยากาศบ้านฮันอกประยุกต์ ห้องอาหาร Sadongmyeonok (02-735-7393) ขึ้นชื่อเรื่องซุปเกี๊ยวมันดูกุก Gaetmaeul Miltibatjip (02-737-0229) มีชื่อเสียงในเรื่องของก๋วยเตี๋ยวน้ำคัลกุกซู ส่วน Yetchatjip (02-722-5332) Gwicheon (02-734-2828) และ Jeontong Dawon (02-730-6305) ซึ่งตั้งอยู่ในห้องแสดงงานศิลปะ Kyung-In นั้น นับเป็นร้านน้ำชาที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ความสนุก สนานอีกอย่างหนึ่งที่จะพบได้ในอินซาดงก็คือ การลองชิม โฮต๊อก ซึ่งเป็นแพนเค้กสอดไส้แบบจีน และลูกกวาดกุลทาเร ซึ่งสามารถซื้อได้จากแผงลอยริมทางทั่วไป

      *สำนักงานการท่องเที่ยวอินซาดง (มีศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวอยู่ทางหัวและท้ายถนนอินซาดง ซึ่งมีแผนที่ และคู่มือท่องเที่ยวแจกฟรี รวมทั้งมีบริการมัคคุเทศก์)

      เบอร์โทร: 02-731-1676 , 02-731-1621
      วิธีการเดินทาง: สายที่ 1 สถานีชงกัก 3 นาที; สายที่ 1,3 หรือ 5 สถานีจองโน 3 (สาม)-กา 3 นาที; สายที่ 3 สถานีอันกุก


      พระราชวังอุนเฮียงกุง
      เป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์ในสมัยโชซอน ซึ่งประกอบไปด้วยอาคารที่สวยงามมากมาย เมื่อกษัตริย์โกจอง ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์ก่อนองค์สุดท้ายประสูติและมีพระชนมายุมาได้ 12 พรรษา พระราชบิดาซึ่งทรงพระนามว่า แดวันกุน ได้ดูแลงานของประเทศ ในฐานะผู้สำเร็จราชการเป็นเวลาถึง 10 ปี (ค.ศ.1863-1873)

      ในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนเมษายน และเดือนตุลาคมของแต่ละปี จะมีการแสดงจำลองพิธีอภิเษกสมรสของกษัตริย์โกจองและพระราชนีเมียงเซิง

      เบอร์โทร: 02-766-9090
      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสาย 3 ออกที่สถานีอันกุก ทางออก 4
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.00 น. - 19.00 น. (09.00 น. - 17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย. - ก.พ.)
      วันให้บริการ: วันจันทร์
      ราคาค่าบริการ: 700 วอน


      หอระฆังโพซินกัน
      นี่คือหอเก็บระฆังสูงถึง 3.18 เมตรทำด้วยทองสัมฤทธิ์หล่อขึ้นตั้งแต่ต้นสมัยโชซอน ตัวระฆังปัจจุบันนี้เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ระฆังนี้จะดังขึ้นทุกวันปีใหม่ วันขบวนการกอบกู้อิสรภาพ (1 มีนาคม) และวันฉลองอิสรภาพ (15 สิงหาคม)

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสาย 1 ออกที่สถานีชงกักทางออก4


      วัดโชเกซา
      วัดส่วนใหญ่ในเกาหลีจะตั้งอยู่ในภูเขา แต่วัดนี้กลับตั้งอยู่ใจกลางเมือง ก่อนถึงวันประสูติของพระพุทธเจ้าซึ่งตรงกับวันที่ 8 เดือน 4 ของปีจันทรคติ (26 พฤษภาคม 2547) นั้นจะมีขบวนแห่โคมไฟรูปดอกบัว ซึ่งตั้งต้นที่สนามกีฬาทงแดมุน เคลื่อนไปตามถนนชงโนและไปสิ้นสุดที่วัดโชเกซา เย็นวันอาทิตย์เป็นที่งดงามน่าดูมาก (23 พฤษภาคม 2547) ในโอกาสนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถขอผู้นำเที่ยวที่พูดอังกฤษนำเที่ยวได้โดยไม่คิดมูลค่า



      เบอร์โทร: 02-725-6641
      Url: http://www.ijogyesa.net
      วิธีการเดินทาง: สถานีรถใต้ดินสาย 1 ออกที่สถานีชงกักทางออก 2


      หอคอยชงโน
      นี่เป็นที่หมายโดดเด่นอันใหม่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล โดยมีสถาปัตยกรรมเฉพาะตัวและเมื่อขึ้นไปยามค่ำคืน จะเห็นทัศนียภาพที่น่าอัศจรรย์ใจทีเดียว ชั้นบนสุดจะเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ ซึ่งมีกำแพงเป็นกระจกรอบด้านทำให้เราทานอาหารและชมแสงสีแห่งกรุงโซลยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารนานาชาติ และวงดนตรีแจ๊ซซ์ แสดงอีกด้วย ที่ชั้นใต้ดินเรียกว่ามิลเลเนียมพลาซ่าอันเต็มไปด้วยภัตตาคารและร้านรวงต่าง ๆ

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถใต้ดินสาย 1 ออกที่สถานีชงกักทางออก 3


      แผนที่บริเวณรอบอินซาดง
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย


      บริเวณรอบเมียงดง
      เมียงดงได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมแฟชั่นชั้นนำของเกาหลี ที่นี่มีทั้งห้างสรรพสินค้าล็อตเต้ เมโทรมิโดป้า และห้างสรรพสินค้าชินเซแก และร้านมิกลิออร์ ซึ่งตั้งอยู่ทั้งใต้ดินและบนดิน ขายเครื่องแต่งกายสำเร็จรูป รองเท้า เครื่องใช้เครื่องประดับ และเครื่องสำอางเป็นที่พึงปรารถนาของนักซื้อนักแต่งตัวทั้งหลาย ตามตรอกด้านหลังจะมีร้านกาแฟและร้านอาหาร เพื่อแวะรับประทานอาหารได้ก่อนไปซื้อของต่อ

      สุดปลายถนนเมียงดง ซึ่งพื้นที่เป็นเนินมีโบสถ์เมียงดง ถือว่าเป็นศูนย์กลางของศาสนาคาทอลิกในเกาหลี เลยไปอีกอึดใจเดียวคือสมาคมวายดับเบิลยูซีเอ ซึ่งมีกิจกรรมหลายหลายเพื่อเสริมสร้างกิจกรรมและสิทธิของสตรี

      โบสถ์เมียงดง
      โบสถ์นี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1898 และเป็นตึกก่ออิฐถือปูนแนวตะวันตกแห่งแรก สร้างแบบเรอเนสซองส์ใหม่ และมีหอระฆังสูง 45 เมตร

      เบอร์โทร: 02-774-3890
      วิธีการเดินทาง: รถไฟสายที่ 4 ทางออกที่ 8 สถานีเมียงดง
      เวลาให้บริการ: เวลา 06.30 -20.00 น.


      แผนที่บริเวณรอบเมียงดง
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      บริเวณรอบสวนนัมซาน
      สวนนัมซานตั้งอยู่บนเนินเขานัมซาน ที่นี่ก็เป็นที่ตั้งของหอคอยแห่งกรุงโซล ซึ่งการที่อยู่บริเวณสวนทำให้ทัศนียภาพ จากบนหอคอยไม่มีอะไรบังและมองได้กว้างไกล ที่ฐานของหอคอยก็คือศาลาแปดเหลี่ยม ปาลกั๊กจอง สวนสัตว์เล็ก ๆ สวนพฤกษชาติ ห้องสมุดสาธารณนัมซาน อาคาร อนุสรณ์ ผู้รักชาติอันชุงกุน และสถานที่อำนวยความสะดวกอันหลากหลาย สวนสำหรับออกกำลังกายและเดินพักผ่อนหย่อนใจยามที่เหน็ดเหนื่อยจากการงานหรือการเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เราสามารถมาผ่อนคลายที่สถานที่แห่งนี้ได้ดีทีเดียว

      การขึ้นไปบนเขานัมซานก็สามารถทำได้โดยง่าย โดยอาจขึ้นกระเช้าไฟฟ้าจากสถานีเนินเขา บางคนอาจชอบเดินขึ้นตามบันไดผ่านสวนพฤกษศาสตร์นัมซาน ไปทางศาลาปาลกั๊กจอง ขึ้นไปจนถึงหอคอย

      ภายในหอคอยนี้มีพิพิธภัณฑ์ความเป็นอยู่แบบพื้นบ้าน โรงภาพยนตร์สามมิติ และภัตตาคารซึ่งบริการอาหารมังสวิรัติพื้นเมือง รวมทั้งโรงละคร เวทีจัดคอนเสิร์ต ท้ายที่สุดถ้าเราขึ้นไปบนหอคอยตอนกลางคืน เราจะเห็นทัศนียภาพที่สวยงาม

      ทางด้านเหนือของเนินเขานี้ จะเป็นแหล่งของวัฒนธรรมเกาหลีที่โคเรียเฮ้าส์ จะบริการอาหารพื้นเมืองและได้ชมการแสดงต่าง ๆ ในบรรยากาศที่หรูหรา ที่หมู่บ้านนัมซานกล ฮันอก เราจะเห็นบ้านดั้งเดิมที่ได้ตกแต่งใหม่และนำกลับมาไว้ที่นี่หลายปีมาแล้ว เราจะได้เห็นชีวิตแบบพื้นเมืองของชาวเกาหลี โรงละครแห่งชาติ ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่เราจะได้ชมทั้งละครและการเริงระบำหลากชนิดตลอดปี สำหรับผู้ที่อยากเรียนรู้พิธีการ ชงชา การทำอาหารและการปฏิบัติตัวให้ถูกต้องในเกาหลี ก็มีที่เยจิวอน

      เบอร์โทร: 02-2253-2211/2
      Email: yejiwon@yejiwon.or.kr


      หอคอยโซล
      เมื่อเราขึ้นไปบนหอคอยแห่งกรุงโซล เราจะเห็นทัศนียภาพทั้งหมดของกรุงโซล และที่บนสุดของหอคอยก็มีหอดูดาวและภัตตาคารหมุนได้รอบ มีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งโลกอันเป็นที่เก็บวัตถุโบราณที่หายากและมีค่ามากกว่า 20,000 ชิ้นจาก 150 ประเทศ และมีโรงภาพยนตร์ 3 มิติด้วย

      เบอร์โทร: กระเช้าลอยฟ้า (Tel.02-753-2403)
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 4 ออกที่สถานีเมียงดอง ทางออก 3 ใช้เวลา 15 นาที
      เวลาให้บริการ: เวลา 10.00 น. - 23.00 น.
      ราคาค่าบริการ: ค่ารถกระเช้า - 4,500 วอน สำหรับตั๋วเที่ยวเดียวและ 5,300 วอน สำหรับตั๋วไปกลับ


      เบอร์โทร: หอคอยแห่งกรุงโซล (Tel.02-772-1660)
      เวลาให้บริการ: เวลา 10.00 น. - 01.00 น. (สำหรับหอดูดาว)
      ราคาค่าบริการ: ราคา 5,000 วอน สำหรับหอดูดาวและ 11,500 วอน สำหรับดูดาว , พิพิธภัณฑ์ , สวนสนุก , และโรงภาพยนตร์ 3 มิติ


      หมู่บ้านนัมซานกลฮันอก
      หมู่บ้านที่งดงามนี้มีเนื้อที่กว้างถึง 7,934 ตารางเมตรและประกอบด้วย 3 ส่วน นั่นคือ สวนแบบเกาหลี ศูนย์กระสวยเวลา และตัวหมู่บ้านเอง บ้านที่เป็นลักษณะเฉพาะของเกาหลี หรือฮันอก ในสมัยราชวงศ์โชซอน บ้านพวกนี้ถูกรื้อออกจากที่เดิมที่กระจายอยู่รอบ ๆ กรุงโซลและนำมาประกอบขึ้นไปอย่างสมบูรณ์

      เบอร์โทร: 02-2266-6937/8 , 02-2266-6936
      วิธีการเดินทาง: รถไฟสาย 3 หรือ 4 ออกที่สถานีชุงมูโร ทางออก 3 ใช้เวลา 5 นาที
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. - 18.00 น. (09.00 น. -17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย. ถึง ก.พ.)


      โคเรียเฮ้าส์
      โคเรียเฮ้าส์ คือตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมแท้ ๆ ของเกาหลี ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอาหารขึ้นโต๊ะแบบเกาหลีและการแสดงดนตรีและการเริงระบำประจำชาติเกาหลี รวมทั้งสามารถซื้อผลิตภัณฑ์จากช่างฝีมือชาวเกาหลี

      เบอร์โทร: 02-2266-9101/3 , 02-2278-1776
      Url: http://www.koreahouse.or.kr
      วิธีการเดินทาง: รถไฟสาย 3 หรือ 4 ออกที่สถานีชุงมูโร ทางออก 3 ใช้เวลาเดิน 5 นาที


      โรงละครแห่งชาติ
      โรงละครแห่งนี้อิงแอบอยู่บนเนินของภูเขานัมซานในกรุงโซลและมีโรงละครใหญ่น้อยหลายโรงพร้อมด้วยเวทีกลางแจ้ง ที่นี่เป็นเสมือนกองบัญชาการของคณะนาฎลีลาแห่งชาติและคณะนักร้องแห่งชาติ คณะบัลดินเล่ต์ และคณะอุปรากร เป็นต้น



      เบอร์โทร: 02-2274-3507/8
      Url: http://www.ntok.go.kr
      วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถประจำทางจากทางออกที่ 2 สถานีมหาวิทยาลัยดองกุก สายที่ 3


      แผนที่บริเวณรอบสวนนัมซาน
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย


      ตลาดนัมแดมุน
      เพียงเดินเท้าไม่กี่นาทีจากประตูนัมแดมุนอันเก่าแก่ของกรุงโซล (ซุงเนมุนหรือประตูใต้) เราก็จะเห็นตลาดกลางแจ้งซึ่งใช้ชื่อเดียวกัน ตลาดนี้อยู่ใกล้ตัวเมืองและโรงแรมใหญ่ ๆ และเป็นที่จำหน่ายสินค้าที่เลือกสรรอย่างดีของประเทศ ประวัติของตลาดนี้เก่าแก่ไปถึงราชวงศ์โชซอนทีเดียว และจากสมัยนั้นมาจนปัจจุบันนี้ตลาดนี้ก็เป็นศูนย์การค้าระหว่างเขตเมืองและเขตชนบท

      ตลาดนัมแดมุนเป็นตลาดศูนย์การค้าส่งและเราจะหาสินค้าได้ทุกชนิดที่ต้องการ เช่นเสื้อผ้า รองเท้าหลากหลายแบบ เครื่องใช้ในบ้าน อาหาร ดอกไม้ เครื่องมือผมปลอม เครื่องแก้ว เครื่องใช้ เครื่องประดับ ของขวัญ เครื่องกีฬา กระเป๋าเสื้อผ้า วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน เป็นต้น

      ตลาดนี้มีชื่อเสียงมานานในความเป็นตลาดกลางแจ้งแต่สภาพของมันกำลังถูกเปลี่ยนไปใหม่ด้วยการเป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งสมัยใหม่ เช่น เมซา

      เบอร์โทร: ศูนย์ข้อมูลตลาดนัมแดมุน (Tel.02-752-1913)
      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน สาย 4 ออกที่สถานีเฮอยอน ทางออก 5
      วันให้บริการ: วันอาทิตย์


      แผนที่ตลาดนัมแดมุน
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      ตลาดทงแดมุน
      ที่ตลาดนี้เราสามารถซื้อข้าวของและต่อราคาได้อย่างสนุกทีเดียว เพราะมีร้านรวงมากมาย มีห้างขายเสื้อผ้าที่ทันสมัยอยู่ด้วยนับ 10 ร้านหรือมากกว่านั้น ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบโบราณ บางร้านเปิด 24 ชั่วโมงและมีแสงสีและดนตรีตลอดคืน

      สินค้าที่มีมากที่สุดในตลาดนี้คือ ผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องหนัง ชุดสุภาพสตรีและเด็ก เครื่องนอน เครื่องใช้ในบ้าน รองเท้า เครื่องกีฬา

      ตลาดทงแดมุนกลายมามีชื่อเสียงในเรื่องราคาสินค้าเสื้อผ้า ซึ่งเหมือนเสื้อผ้าในห้างแต่ราคาถูกกว่าและในปัจจุบัน ตลาดนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย ร้านรวงต่าง ๆ เช่น Migliore, ตึก Doosan Tower, Uno Cor", Hye Yang Elicium, Freya Town และ Designer Club และเน้นลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น เป็นหลัก

      เบอร์โทร: ศูนย์ข้อมูลตลาดทงแดมุน (Tel.02-2236-9135 , 02-2236-9134 (พร้อมหนังสือคู่มือการซื้อของและการแปล)
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 2 , 4 หรือ 5 ออกจากสนามกีฬา ทงแดมุน


      แผนที่ตลาดทงแดมุน
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย


      บริเวณรอบถนนแทฮังโน
      แทฮังโน คือแหล่งของการแสดงทางศิลปะของเกาหลี สามารถเรียกได้ว่าเป็นบรอดเวย์ตะวันออกทีเดียว รอบสวนมารอนนีแย เต็มไปด้วยโรงละคร หอศิลป์ ร้านกาแฟ โรงเตี๊ยมพื้นบ้านและภัตตาคาร

      ส่วนกลางแจ้งนั้นก็มีการแสดงงานปั้น งานวาด และมีการแสดงศิลปะบนเวทีที่ทำขึ้นชั่วคราวง่าย ๆ ริมถนน โรงละครประมาณ 40 โรงและพิพิธภัณฑ์หลาย ๆ แห่ง สามารถดึงดูดหนุ่มสาวมามากมายไม่ขาดสาย ท่ามกลางถนนที่คึกคักและน่าตื่นตาตื่นใจนี้ มีบริเวณอันเงียบสงบเรียกว่า อิวาจัง (ริวาจัง) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นคฤหาสน์ของประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลี คือ ซึงมันรี ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์

      ใกล้ ๆ ชงเมียว คือ ศาลบรรพบุรุษ และพระราชวังชางเกียงกุง มีถนนตัดผ่านชงเมียวและชางเกียงกุง เป็นถนนที่คึกคักทีเดียว ถนนนี้ก็เปิดออกดูกว้างขึ้นเพราะเลยออกไปมีทางเดินข้ามสะพานและมีสวนทั้ง 2 ด้าน และก็ยังมีพระราชวังชางด๊อกกุงพร้อมด้วยสวนด้านหลัง มีชื่อว่าฮูวอน (หรือ พีวอน "สวนลับ") ชงเมียว และชางด๊อกกุง ปัจจะบันนี้ได้รับการสถาปนาเป็นมรดกวัฒนธรรมโลกขององค์การยูเนสโก จุดที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์อีกจุดหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ คือ ซุงเคียนควาน อันเป็นมหาวิทยาลัยสอนลัทธิขงจื้อ ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1398 ต้นสมัยราชวงศ์โชซอน

      ถนนแทฮังโน
      คำแปลตรงตัวของแทฮังโนก็คือ "ถนนมหาวิทยาลัย" เพราะทั้งสองด้านของถนนเป็นบริเวณรอบมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซล และเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1970 เพราะตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1970 ถนนสายนี้เป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซล ท่ามกลางสวนต้นเกาลัด

      ศาสนสถานชงเมียว
      ศาสนสถานนี้เป็นสิ่งก่อสร้างหนึ่งในสามของสถาบันแห่งรัฐในสมัยราชวงศ์โชซอน เช่นเดียวกับพระราชวังหลักเคียงบกกุง และซาจิค ดาน ซึ่งอยู่ในสวนซาจิคดาน และเป็นที่ตั้งศาลบูชาพระเจ้าแห่งแม่พระธรณีและผลิตผลทางเกษตรที่ชงเมียว เราจะเห็นภาพของกษัตริย์ทุกพระองค์ที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งพระราชินีของพระองค์แห่งราชวงศ์โชซอน

      ในปัจจุบันวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคม จะมีพิธีบูชาอย่างเคร่งครัด และปราศจากความฟุ่มเฟือยใด ๆ ทั้งสิ้น ดนตรีและการร่ายรำแบบโบราณเป็นการรักษาพิธีอันเก่าแก่ไว้ ชงเมียวและชางเกียงกุง เชื่อมต่อกันด้วยสะพานคนเดิน และนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ได้ด้วยค่าเข้าชมเพียง 1,000 วอน

      เบอร์โทร: 02-762-8263
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 1 , 3 หรือ 5 ออกที่สถานีชองโน 3 (สาม)-กา ทางออก 4
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. - 18.00 น. (09.00 น. - 19.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ) 09.00 น. -17.30 น. ในระหว่างเดือน พ.ย.-ก.พ.
      วันให้บริการ: วันอังคาร
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน


      พระราชวังชางเกียงกุง
      พระราชวังนี้เริ่มสร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์เซจง (ค.ศ.1418-1450) โดยสร้างให้กับพระราชบิดาซึ่งมีพระชนมายุมากแล้ว มีพระนามว่าพระเจ้าแทจอง และพระราชวังนี้ก็เป็นที่อาศัยของราชินีและนางสนม ในช่วงการยึดครองของญี่ปุ่น พระราชวังได้กลายเป็นสวนพฤกษศาสตร์ และมีสวนสัตว์ด้วย ในที่สุดมีการย้ายสวนสัตว์ออกและพระราชวังนี้จึงกลับงามสง่าอย่างเดิมในช่วงปี ค.ศ.1980 นั่นคือหลังจากมีการบูรณะต่อเนื่องหลายปี พระราชวังนี้มีความเด่นอยู่ที่ประตูใหญ่และพระที่นั่งหันไปทางตะวันออก ในขณะที่พระราชวังอื่น ๆ ล้วนหันไปทางใต้หมด



      เบอร์โทร: 02-762-4868
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 4 ออกทางออกเยวา ทางออก 4
      เวลาให้บริการ: 09.00 น. -18.00 น. (09.00 น. - 17.30 น. ในระหว่างเดือน พ.ย.-ก.พ.)
      วันให้บริการ: วันอังคาร
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน


      พระราชวังชางด๊อกกุงและฮูวอน
      พระราชวังนี้ใช้เป็นพระราชวังหลักโดยกษัตริย์ราชวงศ์โชซอนหลายพระองค์ และเป็นพระราชวังที่ได้รับการทำนุบำรุงดูแลดีที่สุดในหมู่พระราชวังทั้ง 5 แห่ง พระราชวังเป็นที่รู้จักกันดีเพราะมีสวนที่สวยงามมากที่สร้างขึ้นให้กับราชวงศ์ สวนฮูวอนหรือพีวอน ("สวนต้องห้าม") มีทัศนียภาพที่งดงาม มีศาลา สระน้ำและสวนป่า ทุก ๆ วันจะมีการจัดนำเที่ยวพระราชวังและสวน เป็นภาษาอังกฤษ ในช่วงเวลา 11.30 น. 13.30 น. และ 15.30 น.

      เบอร์โทร: 02-762-9513
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 3 ออกที่สถานีอันกุกทางออก 3
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. - 17.15 น.
      (09.00 น. -16.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย.-ก.พ.)
      วันให้บริการ: วันจันทร์
      ราคาค่าบริการ: 2,500 วอน


      อีวาจัง หรืออนุสรณ์สถานซึงมานรี
      อีวาจังหรือรีวาจังเป็นคฤหาสน์แบบเฉพาะของเกาหลีที่สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1930 ดร.รี พักอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี ค.ศ.1947 จนกระทั่งย้ายไปอยู่ที่เกียงมูแด (ปัจจุบันเรียกว่าชองวาแด) ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ.1948 ท่านผู้นี้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลี ที่คฤหาสน์นี้มีการแสดงข้าวของเครื่องใช้ซึ่งท่านและภรรยาท่านเคยใช้

      เบอร์โทร: 02-741-1945
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 4 ทางออกสถานีเยวา ทางออกที่ 4


      ซุงเคียนควาน
      นี่คือสถาบันการศึกษาอันสูงส่งในการศึกษาคำสอนของลัทธิขงจื้อในสมัยราชวงศ์โชซอน สถาบันรับนักศึกษาที่ได้รับความสำเร็จทางการศึกษาจากทั่วประเทศเกาหลีประมาณ 200 คน ณ ที่นี่จะมีห้องบรรยาย ที่พัก ศาสนสถานของลัทธิขงจื้อ และผู้รู้ลัทธิขงจื้อ ในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วงของทุกปี จะมีการจัดพิธีรำลึกถึงขงจื้อที่ศาลาดังกล่าว



      เบอร์โทร: 02-765-0501
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 4 ออกที่สถานีเยวา ทางออก 4
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. - 17.00 น.


      แผนที่รอบถนนแทฮังโน
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย


      อีแทวอน
      จากสี่แยกอีแทวอนนั้นจะมีเขตท่องเที่ยวยาวเหยียดไปจนผ่านโรงแรมแฮมิลตันจนถึง ฮันนัมดง ณ ที่นี้เต็มไปด้วยร้านรวงประมาณ 2,000 ร้านและบาร์ ดนตรีแจ็ส คลับ และร้านอาหารพื้นเมือง บริเวณนี้เป็นทั้งที่พักของชาวต่างชาติในเกาหลี รวมทั้งนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน

      รอบ ๆ บริเวณโรงแรมแฮมิลตันก็มีร้านอยู่รวม ๆ กันถึง 1,000 ร้าน ขายเครื่องหนัง กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า และของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว ตามทางเท้าก็มีแผงขายของกว่า 400 แผง ขายของที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชมการช็อปปิ้ง เช่น หมวก เสื้อยืด สิ่งละอันพันละน้อย และอื่น ๆ อีกมากมาย อีแทวอนยังเป็นแหล่งขายอาหารนานาชาติ เช่น อินตาเลียน สวิส เยอรมัน เม็กซิกัน อินเดีย ปากีสถาน ไทย เป็นต้น

      ในยามค่ำคืน อีแทวอนก็กลายเป็นบริเวณสนุกน่าตื่นเต้นสำหรับคนกลางคืน ในยามที่ไฟตามเขตการค้าธุรกิจการงานดับลง เพิงตามทางเท้าก็เปลี่ยนเป็นรถเข็นขายเครื่องดื่มและของกินเล่น นอกจากนั้นก็ยังมีคลับและคาราโอเกะ สรุปแล้วอิแทวอนก็เป็นแดนที่สว่างไสวตลอดคืน

      เบอร์โทร: ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว (Tel.02-792-9070 , 02-794-2490)
      Url: http://itaewon.go.kr
      วิธีการเดินทาง: สถานีอิแทวอน สายที่ 6


      แผนที่อีแทวอน
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      บริเวณรอบซินชน
      ซินชน คือบริเวณที่ตั้งของมหาวิทยาลัยใหญ่ทั้งสาม อันได้แก่ มหาวิทยาลัยยอนเซ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา และมหาวิทยาลัยโซกัง ที่นี่มีร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสริมสวย ร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับและสินค้าแฟชั่นอื่น ๆ โรงละครสำหรับการแสดงสด แจ๊ซซ์ค่าเฟ่ ร็อคคาเฟ่ และไนท์คลับ รวมทั้งห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าต่าง ๆ เป็นแหล่งของนักศึกษามหาวิทยาลัย หรือใคร ๆ ก็ตามที่รู้สึกว่าตัวเองยังเป็นหนุ่มสาว

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสายที่ 2 สถานีซินชน


      ถนนวิทยาลัยยอนเซ
      ถนนสายนี้มุ่งตรงจากสถานีรถไฟใต้ดินซินชนสู่มหาวิทยาลัยยอนเซ มีถนนสายเล็กมากมายที่แยกออกจากถนนใหญ่เหมือนรากแขนงของต้นไม่ ในปี ค.ศ.1990 ถนนวิทยาลัยยอนเซนี้ ได้รับเลือกให้เป็น "ถนนชวนเดิน" และนับตั้งแต่นั้น ถนนซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีสายนี้ก็ได้รับการพัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เป็นถนนที่แนะนำอยู่ในแผนที่ท่องเที่ยว และมีการประชาสัมพันธ์ทางธุรกิจมากมาย นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปยังถนนสายนี้ สามารถแวะรับประทานอาหารได้ที่ภัตตาคาร ร้านกาแฟ และร้านค้ามากมาย ในตอนบ่ายก็มีอาหารว่างริมทางวางขายให้ได้ลิ้มลอง และในทุกเดือนพฤษภาคม ถนนสายนี้ก็จะเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวาของเทศกาลวัฒนธรรมซินชน

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสาย 2 ทางออกที่ 3 สถานีซินชน


      ถนนแห่งแฟชั่น
      ถนนสายแฟชั่น" จะเริ่มจากประตูใหญ่ของมหาวิทยาสตรีอีฮวา และไปจนสถานีมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา และต่อเนื่องไปถึงสถานีรถไฟซินชน บนถนนตลอดทั้งสายจะเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าจำนวนมากมาย อันเป็นที่มาของชื่อ "ถนนสายแฟชั่น" มีทั้งร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์เนม ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ร้านเครื่องประดับ และร้านรองเท้า ข้าวของราคาไม่แพงมาก และมีรูปแบบเข้ากับสมัยนิยมของชาวเกาหลี ที่นี่เป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่นกรุงโซล


      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสายที่ 2 สถานีมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา


      บริเวณมหาวิทยาลัยฮงอิก
      เมื่อกล่าวถึงบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและบริเวณนี้ก็เป็นบริเวณซึ่งหนุ่มสาวสมัยใหม่ของเกาหลีมักจะมาเที่ยวกัน บรรดาชาวร็อค เทคโน ฮิปฮอป พวกคลั่งแจ๊ซซ์ จะมารวมตัวกันที่ภัตตาคารคาเฟ่หรือบาร์หรูหรา และเสริมให้บรรยากาศคึกคักไปทั่วบริเวณแต่บริเวณนี้แตกต่างจากที่อื่นคือจะไม่มีร้าน เสื้อผ้าและเครื่องประดับมากเท่าที่อื่น แต่ก็ยังมีพอที่จะเดินซื้อของได้สบาย ๆ

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสายที่ 2 ออกที่สถานีมหาวิทยาลัยฮงอิก


      คลับ เดย์
      บริเวณรอบ ๆ มหาวิทยาลัยฮงอิก หรือที่เรียกว่าฮงแดนั้นถือได้ว่า เป็นศูนย์รวมชีวิตกลางคืนของบรรดาหนุ่มสาว คลับ เดย์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันเป็นที่รวมของสาวหนุ่ม มีอยู่ทั่วไปในที่นี่ และในทุก ๆ วันศุกร์สุดท้ายของแต่ละเดือน คลับเหล่านี้ก็จะร่วมกันจัดงานคลับ เดย์ ขึ้นวันคลับ เดย์ ฮองแดนี้ เกิดขึ้นในปี ค.ศ.2001 โดยมีจุดประสงค์เพื่อโปรโมทธุรกิจของคลับ และได้กลายเป็นเทศกาลสำคัญของหนุ่มสาวนับแต่นั้น ตั๋วมูลค่า 15,000 วอน สำหรับผ่านประตูคลับ 11 แห่ง และรับเครื่องดื่มฟรี 1 ที่ นั้นเป็นที่ปรารถนา ของผู้ที่รักการเต้นรำและเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจ หนุ่มสาวจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็รอคอยงานนี้ คลับที่ร่วมงานนี้ทั้ง 11 แห่ง ได้แก่ M.I SK@, DD, MWG, NB, MATMATA, Hooper, SAAB, Hodge Podge, Joker Red และ Old Rock

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสายที่ 2 ทางออกที่ 6 สถานีมหาวิทยาลัยฮงอิก


      สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง
      สวนอิสรภาพ
      สวนนี้ตั้งอยู่ติดกับสถานีทงนิมมุน ตามเส้นทางรถไฟใต้ดินสาย 3 ที่ซอแดมุนกู ซึ่งประกอบด้วยประตูแห่งอิสรภาพ อาคารแห่งประวัติของเรือนจำซอแดมุน ประตูทงนิมมุนสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1898 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นที่จะปลดปล่อยตนเองจากการแทรกแซงของชาวต่างชาติ (จีน) ประตูที่ทำด้วยหินแกรนิต นี้จำลองมาจากประตูชัยของปารีส ส่วนประวัติของอาคารเรือนจำซอแดมุน ก็คืออาคารคุกนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1908 โดยชื่อว่าเคียงซอง และเป็นที่ซึ่งผู้รักชาติหลายคนถูกทรมานและประหารในยุคที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีเป็นอาณานิคมของตน ในอาคารทั้ง 2 ชั้นมีการแสดงประวัติการต่อสู้ของชาวเกาหลี เพื่อปลดแอกจากอาณานิคมชาวญี่ปุ่น โลงศพที่ฝังอยู่ในกำแพง คุกขังเดี่ยว ห้องทรมานและฉากการทรมานอย่างโหดเหี้ยม และการแสดงที่น่าสนใจอื่น ๆ ห้องขังต่าง ๆ และแดนประหารอันน่าสยดสยอง จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม

      เบอร์โทร: หอประวัติของเรือนจำซอแดมุน (Tel.02-363-9750/1)
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 3 ออกที่สถานีทงนิมมุน
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.30 น. - 18.00 น.
      วันให้บริการ: วันจันทร์, วันซอลลัล, และวันชูซก
      ราคาค่าบริการ: ราคา 1,500 วอน


      แผนที่บริเวณรอบซินชน
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย


      บริเวณรอบซินชน
      ซินชน คือบริเวณที่ตั้งของมหาวิทยาลัยใหญ่ทั้งสาม อันได้แก่ มหาวิทยาลัยยอนเซ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา และมหาวิทยาลัยโซกัง ที่นี่มีร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสริมสวย ร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับและสินค้าแฟชั่นอื่น ๆ โรงละครสำหรับการแสดงสด แจ๊ซซ์ค่าเฟ่ ร็อคคาเฟ่ และไนท์คลับ รวมทั้งห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าต่าง ๆ เป็นแหล่งของนักศึกษามหาวิทยาลัย หรือใคร ๆ ก็ตามที่รู้สึกว่าตัวเองยังเป็นหนุ่มสาว

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสายที่ 2 สถานีซินชน


      ถนนวิทยาลัยยอนเซ
      ถนนสายนี้มุ่งตรงจากสถานีรถไฟใต้ดินซินชนสู่มหาวิทยาลัยยอนเซ มีถนนสายเล็กมากมายที่แยกออกจากถนนใหญ่เหมือนรากแขนงของต้นไม่ ในปี ค.ศ.1990 ถนนวิทยาลัยยอนเซนี้ ได้รับเลือกให้เป็น "ถนนชวนเดิน" และนับตั้งแต่นั้น ถนนซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีสายนี้ก็ได้รับการพัฒนายิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เป็นถนนที่แนะนำอยู่ในแผนที่ท่องเที่ยว และมีการประชาสัมพันธ์ทางธุรกิจมากมาย นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปยังถนนสายนี้ สามารถแวะรับประทานอาหารได้ที่ภัตตาคาร ร้านกาแฟ และร้านค้ามากมาย ในตอนบ่ายก็มีอาหารว่างริมทางวางขายให้ได้ลิ้มลอง และในทุกเดือนพฤษภาคม ถนนสายนี้ก็จะเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวาของเทศกาลวัฒนธรรมซินชน

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสาย 2 ทางออกที่ 3 สถานีซินชน


      ถนนแห่งแฟชั่น
      ถนนสายแฟชั่น" จะเริ่มจากประตูใหญ่ของมหาวิทยาสตรีอีฮวา และไปจนสถานีมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา และต่อเนื่องไปถึงสถานีรถไฟซินชน บนถนนตลอดทั้งสายจะเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าจำนวนมากมาย อันเป็นที่มาของชื่อ "ถนนสายแฟชั่น" มีทั้งร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์เนม ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ร้านเครื่องประดับ และร้านรองเท้า ข้าวของราคาไม่แพงมาก และมีรูปแบบเข้ากับสมัยนิยมของชาวเกาหลี ที่นี่เป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่นกรุงโซล


      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสายที่ 2 สถานีมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา


      บริเวณมหาวิทยาลัยฮงอิก
      เมื่อกล่าวถึงบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและบริเวณนี้ก็เป็นบริเวณซึ่งหนุ่มสาวสมัยใหม่ของเกาหลีมักจะมาเที่ยวกัน บรรดาชาวร็อค เทคโน ฮิปฮอป พวกคลั่งแจ๊ซซ์ จะมารวมตัวกันที่ภัตตาคารคาเฟ่หรือบาร์หรูหรา และเสริมให้บรรยากาศคึกคักไปทั่วบริเวณแต่บริเวณนี้แตกต่างจากที่อื่นคือจะไม่มีร้าน เสื้อผ้าและเครื่องประดับมากเท่าที่อื่น แต่ก็ยังมีพอที่จะเดินซื้อของได้สบาย ๆ

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสายที่ 2 ออกที่สถานีมหาวิทยาลัยฮงอิก


      คลับ เดย์
      บริเวณรอบ ๆ มหาวิทยาลัยฮงอิก หรือที่เรียกว่าฮงแดนั้นถือได้ว่า เป็นศูนย์รวมชีวิตกลางคืนของบรรดาหนุ่มสาว คลับ เดย์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันเป็นที่รวมของสาวหนุ่ม มีอยู่ทั่วไปในที่นี่ และในทุก ๆ วันศุกร์สุดท้ายของแต่ละเดือน คลับเหล่านี้ก็จะร่วมกันจัดงานคลับ เดย์ ขึ้นวันคลับ เดย์ ฮองแดนี้ เกิดขึ้นในปี ค.ศ.2001 โดยมีจุดประสงค์เพื่อโปรโมทธุรกิจของคลับ และได้กลายเป็นเทศกาลสำคัญของหนุ่มสาวนับแต่นั้น ตั๋วมูลค่า 15,000 วอน สำหรับผ่านประตูคลับ 11 แห่ง และรับเครื่องดื่มฟรี 1 ที่ นั้นเป็นที่ปรารถนา ของผู้ที่รักการเต้นรำและเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจ หนุ่มสาวจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็รอคอยงานนี้ คลับที่ร่วมงานนี้ทั้ง 11 แห่ง ได้แก่ M.I SK@, DD, MWG, NB, MATMATA, Hooper, SAAB, Hodge Podge, Joker Red และ Old Rock

      วิธีการเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดินสายที่ 2 ทางออกที่ 6 สถานีมหาวิทยาลัยฮงอิก


      สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง
      สวนอิสรภาพ
      สวนนี้ตั้งอยู่ติดกับสถานีทงนิมมุน ตามเส้นทางรถไฟใต้ดินสาย 3 ที่ซอแดมุนกู ซึ่งประกอบด้วยประตูแห่งอิสรภาพ อาคารแห่งประวัติของเรือนจำซอแดมุน ประตูทงนิมมุนสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1898 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นที่จะปลดปล่อยตนเองจากการแทรกแซงของชาวต่างชาติ (จีน) ประตูที่ทำด้วยหินแกรนิต นี้จำลองมาจากประตูชัยของปารีส ส่วนประวัติของอาคารเรือนจำซอแดมุน ก็คืออาคารคุกนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1908 โดยชื่อว่าเคียงซอง และเป็นที่ซึ่งผู้รักชาติหลายคนถูกทรมานและประหารในยุคที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีเป็นอาณานิคมของตน ในอาคารทั้ง 2 ชั้นมีการแสดงประวัติการต่อสู้ของชาวเกาหลี เพื่อปลดแอกจากอาณานิคมชาวญี่ปุ่น โลงศพที่ฝังอยู่ในกำแพง คุกขังเดี่ยว ห้องทรมานและฉากการทรมานอย่างโหดเหี้ยม และการแสดงที่น่าสนใจอื่น ๆ ห้องขังต่าง ๆ และแดนประหารอันน่าสยดสยอง จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม

      เบอร์โทร: หอประวัติของเรือนจำซอแดมุน (Tel.02-363-9750/1)
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 3 ออกที่สถานีทงนิมมุน
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.30 น. - 18.00 น.
      วันให้บริการ: วันจันทร์, วันซอลลัล, และวันชูซก
      ราคาค่าบริการ: ราคา 1,500 วอน


      แผนที่บริเวณรอบซินชน
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย


      บริเวณรอบยออีโด
      ยออีโดเป็นอีกภาพหนึ่งของกรุงโซลที่ชีวิตการเงินและธุรกิจก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ที่นี่คือที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์เกาหลี ตึกสำนักงานใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์หลายบริษัท สภาอุตสาหกรรมเกาหลี สภาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และผลิตภัณฑ์เด่น ๆ ของธุรกิจขนาดกลางและเล็กนี้ก็จะไปวางขายที่ศูนย์แสดงสินค้ายออีโดแห่งกรุงโซล ที่นี่ก็เป็นศูนย์จัดรายการทางวิทยุ KBS MBC SBS เป็นต้น

      อาคาร KLI 63 ซึ่งเป็นจุดเด่นของยออีโด มีหลายสิ่งหลายอย่างในอาคารที่ให้ความสนุกสนาน รวมทั้งหนังจอยักษ์ ไอแม็กซ์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่โดดเด่น หอดูดาว ร้านขายของและร้านอาหาร

      ห้องโถง LG ในอาคารแฝด LG จะมีห้องแสดงโลกทางวิทยาศาสตร์ของอนาคต นอกจากนี้ยังมีสวนยออีโด สวนริมน้ำฮันกัง เหมาะแก่การพักผ่อน และกีฬากลางแจ้งหลายประเภท ที่แม่น้ำฮันมีเรือข้ามฟากชมทัศนียภาพสวยงาม แม่น้ำฮันเป็นเหมือนเส้นชีวิตไหลผ่านใจกลางกรุงโซล

      อาคาร KLI 63
      มีชั้นใต้ดินถึง 3 ชั้นและชั้นที่เหนือพื้นดินขึ้นไป 60 ชั้น และเป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงโซล ภายในอาคาร เราสามารถชมหอดูดาวที่ชั้นบนสุด พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งเรียกกันว่าโลกทะเล และโรงหนังไอแม็กซ์ ที่อลังการ ณ โลกทะเลเราจะเห็นสัตว์น้ำถึง 20,000 ชนิด 400 พันธุ์ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ออกกำลังกาย ร้านขายของภัตตาคารชั้น 1 และร้านของกินเล่น และเป็นที่สำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งอยากพักผ่อนริมน้ำสัก 1 วัน

      เบอร์โทร: 02-789-5663/5
      Url: http://www.63city.co.kr
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 5 ออกที่สถานียออินารุ ทางออก 1 และนั่งแท็กซี่ต่อ
      เวลาให้บริการ: เวลา 10.00 น. - 21.00 น.
      ราคาค่าบริการ: ราคา 18,000 วอน สำหรับบริการทุกอย่าง


      รัฐสภา
      บริเวณรัฐสภาใช้เนื้อที่เกาะยออีโดถึง 12.5% และนี่เป็นตึกรัฐสภาที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์รัฐสภาและห้องสมุดรัฐสภา ที่ประตูทางด้านหลังจะมีโต๊ะประชาสัมพันธ์ ซึ่งเราสามารถซื้อทัวร์ได้
      ถนนรอบ ๆ รัฐสภาจะสะพรั่งไปด้วยดอกเชอรี่บาน ในฤดูใบไม้ผลิ

      เบอร์โทร: 02-788-2865
      Url: http://www.assembly.go.kr
      วิธีการเดินทาง: รถประจำทางจากสถานียออีโด ทางออก 3
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 - 18.00 น. (09.00 - 17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย.- ก.พ.)


      สวนยออีโด
      บริเวณยออีโดพลาซ่า ซึ่งมีแต่บริเวณที่โล่งเตียนตลอด 27 ปี ได้กลายเป็นสวนขึ้นมาในปี ค.ศ.1999 แทนที่จะเป็นสถานที่เรียบ ๆ สวนนี้จะมีต้นไม้ สนามหญ้า สระน้ำ และศาลา รอบ ๆ สวนมีทางจักรยานและทางเดินเท้า ซึ่งเชื่อมกันด้วยทางเท้าใต้ดินไปจนถึงปากน้ำฮันกัง

      เบอร์โทร: 02-761-4078/9
      Url: http://www.parks.seoul.kr/youido/english/main.htm
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 5 ออกที่สถานียออีโดทางออก 3 หรือรถไฟใต้ดินสาย 5 ออกที่สถานียออินารุ ทางออก 1


      แม่น้ำฮัน
      แม่น้ำนี้คือสัญลักษณ์ของกรุงโซล และไหลผ่านกรุงโซลจากตะวันออกไปตะวันตก มีความลึกโดยเฉลี่ย 2.5 เมตร และกว้าง 175 เมตร มีสะพานข้ามแม่น้ำถึง 23 แห่งและเรือนำเที่ยวตลอดสาย ระหว่างยออีโด และชัมชิลผ่านตุกซอม ตลอดความยาว 41.5 ก.ม. ที่ริมตลิ่งของแม่น้ำนี้มีสวนตั้งอยู่ประมาณ 12 แห่ง ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา เช่น สนามฟุตบอลและเบสบอล วอลเล่ย์บอล บาสเก็ตบอล และสระว่ายน้ำ มีแม้กระทั่งที่เล่นสกีน้ำ เล่นเรือ และตกปลา

      Url: http://hangang.seoul.go.kr


      ท่องเรือสำราญ
      ฮันกังคดเคี้ยวไปมาตลอดคาบสมุทรเกาหลี และไหลผ่านเข้าไปในกรุงโซล ริมฝั่งทั้งสองก็มีแต่ทัศนียภาพที่งดงามน่าชม ผู้ที่ไปเที่ยวกรุงโซลต้องลงเรือเที่ยวใช้เวลา 1 ชั่วโมง และมีหลายเส้นทาง (ตั๋วลงเรือ 7,000 วอน) สอบถามรายละเอียดได้ที่ (02-785-0392/3  Semo Pleasure Co., Ltd.)

      - เที่ยวเดียว: ยออีโด  ชัมชิล / ชัมชิล  ยออีโด
      -ไป - กลับ: ยออีโด   ยางฮวา  นานจิ   ยออีโด / ชัมชิล   สะพานฮันนัม   ชัมชิล / ยางฮวา   สะพานดองจัก   ยางฮวา / นานจิ   ยางฮวา  ยออีโด   นานจิ

      - ท่องเรือสำราญ ฟังคอนเสิร์ต: ยออีโด   ยางฮวา   นานจิ   ยออีโด
       (07:30 น. หนึ่งชั่วโมง ราคา 7,000 วอน / 08:40 ชั่วโมงครึ่ง ราคา 10,000 วอน)



      แผนที่บริเวณรอบยออีโด
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      บริเวณรอบซัมซองดง
      เขตซัมซองดง เป็นบริเวณใหม่เอี่ยมของกรุงโซล บริเวณนี้พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1970 ให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ ที่นี่มีตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ของโซล นอกจากนี้ยังมีบูติคหลายแห่ง โรงแรมชั้นนำระดับโลก ห้างสรรพสินค้า ตึกอพาร์ตเมนท์ รวมทั้งเตฮะรานวัลเล่ย์ ซึ่งเป็นที่รวมนวัตกรรมทางคอมพิวเตอร์

      ถ้าข้ามไปจากศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้า (coex) เราจะมาถึงวัดพงอึนซาที่มีชี่อเสียงมานานปี ถ้าขึ้นรถใต้ดินสาย 2 ถึงสถานีซอลลึง เราจะมารถึงหลุมฝังศพกษัตริย์ราชวงศ์โชซอน ซึ่งมีชื่อว่า ซอนจองเนิง จุดสนใจอีกอันหนึ่งก็คือ ศูนย์การอบรมศิลปทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และที่ศูนย์ยังมีผลิตภัณฑ์งานฝีมือประดิษฐ์ขึ้นโดยช่างฝีมือที่มีชื่อเสียงระดับชาติขายอีกด้วย

      เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ โซล
      เมื่อกล่าวถึงเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เราจะต้องนึกถึงบริเวณกว้างซึ่งมี โคเอ็กซ์ นั่นคือสถานที่แสดงสินค้าและจัดประชุมอันมีชื่อเสียงและสร้างได้อย่างงดงาม ตึก 55 ชั้นที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวกับการค้าและบริษัทส่งออกต่าง ๆ ตั้งอยู่ อาทิอาคารอาเซ็มทาวเวอร์ นอกจากนี้ยังมี สนามบินในเมืองนั่นคือ เราสามารถทำการเช็คอินและจัดกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วยบริการรถลิมูซีนไปสนามบินตลอดเวลา นี่เป็นที่ทีเหมาะที่สุดสำหรับการจัดประชุมใหญ่ หรือแสดงสินค้า

      เบอร์โทร: 02-6000-0114
      Url: http://www.coex.co.kr
      วิธีการเดินทาง: รถไฟใต้ดินสาย 2 ออกที่สถานีซัมซองทางออก 6


      ศูนย์ศิลปะกรุงโซล
      ศูนย์ศิลปะกรุงโซลนับเป็นศูนย์ศิลปะระดับโลก ประกอบไปด้วย โรงละครโอเปร่า สถานที่แสดงดนตรี หอศิลป์ ห้องสมุดศิลปะ และพิพิธภัณฑ์อักษรศิลป์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจะเพลิดเพลินกับการแสดงและนิทรรศการต่าง ๆ ทั้งหมดที่นี่

      นอกจากนี้ ศูนย์ศิลปะกรุงโซลยังมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจกลางแจ้งที่มีชื่อเสียง มีทั้งโรงละครกลางแจ้ง ซึ่งมีเวทีรูปครึ่งวงกลม อันเป็นที่จัดการแสดงต่าง ๆ มากมาย ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม จะมีน้ำพุระบำอันยิ่งใหญ่ ซึ่งน้ำพุนี้จะเต้นรำตามเสียงดนตรีให้ได้ชม

      เบอร์โทร: 02-580-1230
      Url: http://www.sac.or.ke
      วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถประจำทางจากทางออกที่ 5 สถานีรถประจำทางนัมบูสายที่ 3


      วัดพงอึนชา
      ท่านผู้อาวุโสเยินโฮ สร้างวัดนี้ในปี ค.ศ.794 ในช่วงสมัยกษัตริย์วอนซองแห่งราชวงศ์ชิลลา ในหอพระสูตรจะมีท่อนไม้แขวนอยู่ ซึ่งได้สลักพระสูตรไว้โดยช่างประดิษฐ์อักษรผู้มีชื่อเสียงก้องไปทั่วเกาหลีนั่นคือ ชูซา (นามปากกา) คิมจองฮุย (1786-1856) แท่นไม้ต่าง ๆ สลักพระสูตรไว้ 15 บท รวมถึงพระสูตรเพชร

      เบอร์โทร: 02-516-5652
      วิธีการเดินทาง: สาย 2 สถานีซัมชง ทางออก 6 หรือสาย 7 สถานีชองดาม


      ศูนย์ฝึกอบรมคุณค่าทางวัฒนธรรม
      สถาบันนี้ตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์เฉพาะในการส่งเสริมและดำรงไว้ซึ่งศิลปะเฉพาะของเกาหลี และความสามารถของช่างฝีมือ และได้รับขนามนามว่า "คุณค่าทางวัฒนธรรม" ที่ศูนย์นี้จะมีหอแสดงผลงานต่าง ๆ และร้านรวงที่ขายผลิตภัณฑ์จากช่างฝีมือ นอกจากนี้ ก็ยังมีหอแสดงศิลปะการร่ายรำ และห้องฝึกหัดซึ่งช่างฝีมือผู้ชำนาญในศิลปะ 11 อย่างถ่ายทอดฝีมือของตนให้แก่ชนรุ่นหลัง ผู้ใฝ่รู้ และแสดงผลงานของตนต่อสาธารณชนด้วย

      เบอร์โทร: 02-566-5951 , 02-566-6314
      วิธีการเดินทาง: สาย 2 ออกที่สถานีซอลลึง ทางออก 8


      คุกคิวอน (สำนักงานใหญ่เทควันโดของโลก)
      ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการเล่นเทควันโดของประเทศ จัดการแข่งขันเทควันโดแห่งชาติหรือนานาชาติ การพิจารณาส่งเสริมการเล่นและมีคอร์สอบรมครูฝึกและผู้ตัดสินนานาชาติ สหพันธ์เทควันโดของโลกก็อยู่ที่นี้ด้วย

      เบอร์โทร: 02-567-1058 , 02-552-3025
      Url: http://www.kukkiwon.or.kr
      วิธีการเดินทาง: สาย 2 สถานีกังนัมทางออก 8 เวลา 09.00 น. - 18.00 น. (09.00 น. - 12.00 น. เฉพาะวันเสาร์)


      สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง
      อับกุจองดงและบริเวณใกล้เคียง หากเดินจากสถานีอับกุจองดงประมาณ 20 นาที จะไปถึงเขตพื้นที่อันมั่งคั่งรอบ ๆ ห้างสรรพสินค้าแกเลอเรีย ซึ่งบริเวณนี้ นับเป็นถนนโรดิโอแห่งเกาหลี มีร้านค้ามากมายตั้งแต่ร้านเสื้อผ้าดีไซน์ราคาแพง ไปจนถึงร้านเสื้อผ้าโบราณอันมีเอกลักษณ์

      บรรดาหนุ่มสาวทันสมัยแห่งเกาหลีจะมารวมตัวกันที่นี่ มีความเพลิดเพลินต่าง ๆ นานา ตั้งแต่การดูคนดังของเกาหลีซึ่งมักจะมาเยือนอับกุจองดงบ่อย ๆ และการได้พบซุเปอร์สตาร์ที่นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ถัดจากนั้นไปอีกหนึ่งบล็อกจะเป็นถนนเชิงดัมดง ซึ่งเต็มไปด้วยร้านขายเสื้อผ้า ห้องแสดงงานศิลปะ ร้านกาแฟทันสมัยและบาร์

      วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถประจำทางของห้างสรรพสินค้าแกเลอเรีย จากทางออกที่ 2 สถานีอับกุจอง สายที่ 3


      แผนที่บริเวณรอบซัมซองดง
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย


      บริเวณรอบชัมซิล
      บริเวณรอบ ๆ สถานีชัมซิล ตรงทางรถไฟใต้ดินสาย 2 หรือสาย 8 จะถือเป็นศูนย์ย่อยของกรุงโซล ณ ที่นี่ เราจะพบสวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ (สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุด) และมีเยาวชนมาเที่ยวกันมากมาย สวนนี้จะประกอบด้วยการผจญภัยในสวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ และเกาะมหัศจรรย์ซึ่งลอยอยู่กลางทะเลสาป มีศูนย์การค้า พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน โรงหนัง ลาน สเก็ตน้ำแข็ง โรงแรม และศูนย์กีฬา

      หอประชุมนอริมาดังซึ่งอยู่กลางแจ้ง ริมทะเลสาปด้านหลังล็อตเต้เวิลด์ เป็นที่แสดงศิลปต่าง ๆ ถ้าเราเดินเล่นต่อไปทางตะวันออก เราก็จะมาถึงแท่นหลุมฝังศพ หินซกชนดง ของยุคแพ็กเจตอนต้น ซึ่งเราจะได้เห็นร่องรอยของเมืองหลวงฮันซองของอาณาจักรแพ็กเจยุคแรก รวมทั้งสุสานแพ็กเจในย่านบังอีดง และความเป็นอยู่ของผู้คนซึ่งอาศัยอยู่ริมน้ำ

      ในบริเวณใกล้เคียงจะมีตลาดขายส่งผลิตภัณฑ์ทางน้ำและการเกษตรชื่อว่าคารักดง และที่ถนนมุน จองดง โรดิโอ ก็มีสินค้าผลิตในเกาหลี และสินค้าต่างประเทศหรู ๆ ด้วยราคาย่อมเยาว์ ศูนย์กีฬาชัมซิลคือ สถานที่แข่งกีฬาเอเซียนเกมส์ในปี ค.ศ.1986 และกีฬาโอลิมปิคที่กรุงโซลในปี ค.ศ.1988

      สวนสนุกล็อตเต้เวิลด์
      ตลอดปีจะมีเครื่องเล่นสนุกน่าหวาดเสียวบริการลูกค้า เช่นรถเหาะ ขบวนพาเหรดแปลกตา รายการแสดงต่าง ๆ ภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านซึ่งสามารถ พาเราเข้าไปในประวัติศาสตร์ความเป็นอยู่ในเกาหลี เราจะได้เห็นหมู่บ้านย่อส่วนต่าง ๆ



      เบอร์โทร: 02-411-2000
      Url: http://www.lotteworld.com
      วิธีการเดินทาง: สาย 2 หรือสาย 8 ออกที่สถานีชัมชิลทางออก 3
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. - 23.00 น.
      ราคาค่าบริการ: 28,000 วอน ตั๋วเดียวชมได้หมดทุกรายการ


      แท่นหินหลุมฝังศพ ซกชนดง ในยุคต้นของแพ็กเจ
      นี่คือที่ฝังศพ 6 แห่ง สร้างขึ้นในต้นสมัยอาณาจักรแพ็กเจ หนึ่งในหกนี้เป็นแท่นหินถึง 3 ชั้น ซึ่งคาดว่าจะได้สร้างโดยผู้ปกครองแพ็กเจและสร้างแบบสุสานโคกูเรียว เมื่อชาวโคกูเรียวเดินทางจากเขตเหนือและมาตั้งอาณาจักรแพ็กเจขึ้น (18 ปีก่อนคริสตการ - ค.ศ.660)

      เบอร์โทร: 02-410-3662
      วิธีการเดินทาง: สาย 8 ออกที่สถานีซกชนทางออก 6
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. - 18.00 น. (09.00 น. -17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย. และ ก.พ.)


      นอริ มาดังแห่งกรุงโซล
      นี่คือโรงละครกลางแจ้งซึ่งแสดงการเริงระบำต่าง ๆ เช่นระบำชาวนา และระบำหน้ากาก สุดสัปดาห์ยามบ่าย โรงละครซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาปซกชนโฮเหล่านี้จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาชมการแสดงพื้นบ้าน

      เบอร์โทร: 02-4103168


      ศูนย์กีฬาชัมซิล
      ศูนย์นี้ประกอบด้วย สนามกีฬา สระว่ายน้ำ โรงยิม สนามเล่นเบสบอล ลานอันกว้างขวาง ศาลาอันร่มรื่น และทางเดินเล่นในสวนที่จัดตกแต่งอย่างงดงาม ทำให้ที่แห่งนี้เป็นที่น่าเที่ยวและน่าพักผ่อนในเวลาเดียวกัน ที่สนามเบสบอลนั้นเสียงเชียร์จะดังก้องกังวานไปไกล เมื่อถึงฤดูกาลเล่นกีฬาชนิดนี้ ซึ่งมักจะมีระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม

      เบอร์โทร: 02-2240-8800
      วิธีการเดินทาง: สาย 2 ออกที่สถานีศูนย์กีฬาทางออก 7
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. - 18.00 น. ( 09.00 น. -17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย. - ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 200 วอน สำหรับเข้าสนามกีฬาหลัก


      สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง
      ตลาดขายส่งผลิตภัณฑ์ ทางการประมงและทางการเกษตร คารักดอง>
      นี่คือตลาดขายส่งที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ประกอบไปด้วย 17 อาคาร ที่ขายผลิตภัณฑ์ข้างต้น ในตึกพื้นที่ทั้งหมด 54 เฮกตาร์ และยังมีสินค้าขายปลีกอีกด้วย

      เบอร์โทร: 02-3435-0610 , 02-405-9595
      วิธีการเดินทาง: สาย 8 ออกที่สถานีตลาดคารักทางออก 3, 4
      วันให้บริการ: วันซอลลัล และวันชูซก


      แผนที่บริเวณรอบชัมซิล
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย


      บริเวณรอบสวนโอลิมปิค
      สวนโอลิมปิคกินบริเวณกว้างถึง 1.5 ล้านตารางเมตร ณ ที่นี่เราจะเห็นป้อมปราการก่อด้วยดินสร้างตั้งแต่สมัยตันราชวงศ์แพ็กเจ สวนนี้ในปัจจุบันมีสถานที่เล่นกีฬา 6 ประเภท และในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคแห่งกรุงโซลในปี ค.ศ.1988 ก็มีการแข่งขันกีฬาหลายอย่างทีเดียว ที่นี่มีอนุสาวรีย์รำลึก และรูปปั้นแปลก ๆ ถึง 200 ชิ้น ปั้นโดยปฏิมากรที่มีชื่อเสียง


      ใกล้บริเวณนี้คือแหล่งค้นพบโบราณสถาน อัมซาดง ซึ่งมีหลักฐานความเป็นอยู่ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ในเกาหลี และก็ยังมีแท่นหลุมฝังศพบังอีดงสมัยแพ็กเจ และป้อมปราการทำด้วยดินชื่อปุงแน็บ


      สวนโอลิมปิค
      สวนโอลิมปิคเคยเป็นที่แข่งขันกีฬาโอลิมปิคในปี ค.ศ.1988 ในสวนนี้จะมีสนามแข่งจักรยาน สนามแข่งกรีฑา ยกน้ำหนักและดาบ มีสนามเทนนิส อาคารกรีฑาสถานและสระว่ายน้ำในร่ม สิ่งหนึ่งที่เตะตามากของที่นี่คือ สวนประติมากรรมกลางแจ้งซึ่งแสดงผลงานทางปฏิมากรรมกว่า 200 ชิ้น ประดิษฐ์จากหิน โลหะ ไม้และแก้ว ในสวนโอลิมปิคนี้ยังมีทะเลสาปพร้อมน้ำพุ พื้นหญ้ากว้างขวางนุ่มและเขียวขจี และป้อมปราการมงชนจากยุคสมัย อาณาจักรแพ็กเจตอนต้น

      เบอร์โทร: 02-410-1114
      Url: http://www.sosfo.or.kr
      วิธีการเดินทาง: สาย 5 ออกที่สถานีโอลิมปิคปาร์ค ทางออก 3 หรือสาย 8 ออกที่สถานีมงชนโทชง ทางออก 1


      แหล่งค้นพบที่อยู่ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ อัมซาดง
      แหล่งค้นพบนี้อยู่ริมแม่น้ำฮันที่คงดองกู วัตถุโบราณหลายชิ้นปรากฏขึ้นในปี ค.ศ.1925 เมื่อฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำล้นตลิ่งและเซาะดินออกไป สิ่งที่ปรากฎคือเครื่องปั้นดินเผา และเครื่องใช้ที่ทำด้วยหิน รอบบริเวณนั้นจะมีซากของความเป็นอยู่แบบนีโอลิทิค คือย้อนหลังไปถึง 6,000 ปี ก่อนคริสตกาล

      เบอร์โทร: 02-3426-3867
      วิธีการเดินทาง: สาย 8 ออกที่สถานีอัมซา
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.00 น. - 18.00 น. (09.30 น. - 17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย. - ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 500 วอน


      สุสานแพ็กเจ บังอีดง
      หลุมฝังศพ 8 หลุม ที่ยังเหลืออยู่ในสวนนั้นเป็นหลุมที่มีหินก่อเป็นห้องและมีดินก่อขึ้นมาเป็นเนิน นี่เป็นลักษณะเฉพาะของยุคแพ็กเจตอนต้น (ค.ศ.200-475) มีการค้นพบเนินดินซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นอยู่ก่อนประวัติศาสตร์ ที่นี่พบแม้กระทั่งโต๊ะหิน ชิ้นส่วนของดาบหินและเครื่องปั้นดินเผายุคแพ็กเจ จากการค้นพบที่ทำให้เห็นว่าบริเวณนี้น่าจะเป็นแหล่งวัฒนธรรมแพ็กเจมาเป็นเวลานาน

      เบอร์โทร: 02-4190670
      วิธีการเดินทาง: สาย ถ ออกที่สถานีบังอี ทางออก 3 เวลา 09.00 น. - 18.00 น. (09.00 น. - 17.00 น. ระหว่างเดือน พ.ย.-ก.พ.)


      ค่ายดิน ปุงแน็บ
      ป้อมปราการนี้มีความยาวจากเชินโฮและสะพานโอลิมปิคไปจนถึงฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นที่ซึ่งกษัตริย์แกโรของอาณาจักรแพ็กเจถูกประหารระหว่างการบุกโจมตีของกษัตริย์จางซูแห่งอาณาจักรโคกูเรียว

      เบอร์โทร: 02-410-3776
      วิธีการเดินทาง: สายที่ 5 สถานีเซินโฮ


      แผนที่รอบสวนโอลิมปิก
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      บริเวณอื่น ๆ ในกรุงโซล

      ตลาดค้าส่งปลานอร์เรียงจิน
      ร้านค้ากว่า 900 แห่งบนพื้นที่ 69,000 ตารางเมตรนี้ จำหน่ายสินค้าทุกอย่างตั้งแต่ปลาเป็น ๆ ไปจนกระทั่งปลาแห้งและปลาหมัก ทุก ๆ วันจะมีการซื้อขายปลากว่า 450 ตัน ทั้งจากชายฝั่งและมหาสมุทร การประมูลราคาปลาจะเริ่มเวลา 01.30 น. และการขายปลีกจะเริ่มหลังจากนั้นทั้งวัน ตลอดปี โดยปรกติราคาปลาสดจะลดลงในวันฝนตก และทุกวันพุธและวันพฤหัส ผู้ซื้อสามารถเลือกปลาที่ต้องการได้จากตู้ และพ่อค้าปลาก็จะปรุงปลาให้รับประทานเดี๋ยวนั้น หรือนำกลับบ้านอย่างเต็มใจ



      เบอร์โทร: 02-814-2211
      วิธีการเดินทาง: สาย 1 สถานีนอร์เรียงจิน (สถานีอยู่ติดกับตลาด)


      โรงเรียนนายร้อยแห่งเกาหลี
      ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโซล และผลิตนายทหารที่มีความสามารถพิเศษด้านศิลปะการทหารและวิชาการ สถาบันนี้ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1946 และปัจจุบันนี้ บริเวณโรงเรียนที่สวยงามก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยข้างในบริเวณมีพิพิธภัณฑ์ทหาร หอ เคเอ็มเอ แหล่งแสดงอาวุธสนาม เป็นต้น ทุก ๆ วันเสาร์จะมีขบวนพาเหรดของนักศึกษาวิชาทหารที่สนามฝึก ฮวารังให้ดูด้วย ที่นี่รับกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ถึง 40 คน แต่ต้องสำรองที่ สองหรือสามวันล่วงหน้า

      เบอร์โทร: 02-976-6454/5 , 02-976-6453
      วิธีการเดินทาง: สาย 6 ออกที่สถานีฮวารังเด
      เวลาให้บริการ: ท่องเที่ยวเดี่ยว (10.00 น.- 13.00 น.15.00 น. วันเสาร์และวันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ)
      ท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม (09.30 น. - 15.30 น./ วันอังคารถึงวันอาทิตย์)
      วันให้บริการ: วันจันทร์
      ราคาค่าบริการ: ชาวต่างชาติ 3,000 วอน


      อนุสรณ์สถานแห่งสงคราม
      เปิดในวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ.1994 และแสดงให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ถึงสงครามหลาย ๆ ครั้งที่เกาหลีเข้าไปร่วม มีเอกสารมากมายที่แสดงให้เห็นถึงประวัติอันยาวนานถึง 5,000 ปี แห่งการต่อสู้ยับยั้งการรุกรานต่าง ๆ ในขณะที่ดำรงความเป็นเอกภาพไว้

      เบอร์โทร: 02-709-3139
      Url: http://warmemo.co.kr
      วิธีการเดินทาง: สาย 4 หรือสาย 2 ออกที่สถานีซัมกักชี
      เวลาให้บริการ: เวลา 09.30 น. - 18.00 น.
      (09.30 น. - 17.00 น. ระหว่างเดือนพ.ย. - ก.พ.)
      วันให้บริการ: วันจันทร์
      ราคาค่าบริการ: 3,000 วอน


      อุทยานแห่งชาติพูคันซาน
      ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในบริเวณเมืองหลวงกรุงโซลก็เดินทางขึ้นเขาได้อย่างสะดวกสบาย ภูเขาพูคันซานเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเกาหลี ยอดเขาเป็นหินแกรนิตที่สง่า มีหุบเขาที่สวยงามเรียงราย มีที่ระลึกทางวัฒนธรรม เช่น ป้อมปราการพูกันซานซอง และวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่าร้อยปี รวมทั้งอาศรมนักพรต




      Url: http://www.npa.or.kr/pukan/main.asp


      แผนที่อุทยานแห่งชาติพูคันซาน

      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      บริเวณใกล้เคียงกรุงโซล
      ในบริเวณนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายซึ่งอยู่ในเส้นทางรถยนต์ รถบัสและรถไฟที่สะดวกสบาย เมืองอินชน[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่A1] เมืองท่าที่สำคัญของประเทศเกาหลี อยู่ห่างจากกรุงโซลเพียงหนึ่งชั่วโมง มีสนามบินนานาชาติแห่งใหม่และท่าเรือนานาชาติ สวนชายุ สวนอิสรภาพตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กับท่าเรือ ในสวนนี้มีการสร้างรูปปั้นของนายพลแมคอาเธอร์เพื่อระลึกถึงการยกพลขึ้นบกของกองทัพอเมริกันใน ค.ศ.1950 นักท่องเที่ยวที่มาเยือนอินชนจะประทับใจกับอาหารทะเลย่านวอลมิโด ส่วนสถานตากอากาศ ซงโด อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้

      PiFan พูชน - เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติพูชน
      พีแฟนเป็นเทศกาลภาพยนตร์ซึ่งเน้นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ภาพยนตร์แนวตลาด เพื่อเสนอทางเลือกใหม่แก่ธุรกิจภาพยนตร์ ภาพยนตร์แนวสร้างสรรค์และภาพยนตร์แนวใหม่จะเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุดสำหรับงานเทศกาลแห่งปีงานนี้ พีแฟนได้กลายเป็นศูนย์กลางในการเปิดตัวภาพยนตร์แฟนตาซีนานาชาติสำหรับแฟนหนังเกาหลี เช่นเดียวกับการเปิดตัวภาพยนตร์เกาหลีต่อนักวิจารณ์หนังจากนานาประเทศ นอกจากนี้เทศกาลนี้ยังช่วยประชาสัมพันธ์งานภาพยนตร์แฟนตาซีของเกาหลี และช่วยสนับสนุนภาพยนตร์เหล่านั้น ในการก้าวไปเป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยปกติ เทศกาลภาพยนตร์นี้จะจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม


      ชื่อสถานที่: สำนักงานพีแฟน
      เบอร์โทร: 032-322-9225
      Url: http://www.pifan.com


      เกาะคังฮวาโด
      ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของอินชน บริเวณที่แม่น้ำฮัน บรรจบกับททะเลเหลืองเป็นที่ตั้งของเกาะคังฮวาโด[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่A2] ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงหนือของเมืองอินชน เกาะนี้มีกลุ่มหินขนาดใหญ่วางซ้อนกัน 120 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงก้อนที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีมีความกว้าง 7.1 เมตร และสูง 2.6 เมตร>องค์การยูเนสโกได้ขึ้นบัญชีแหล่งชมหินคังฮวาเป็นมรดกวัฒนธรรมโลกในเดือนธันวาคม ปี 2000 นอกจากนี้ยังมี แท่งบูชาชัมซงดาน บนยอดเขามานีซาน เป็นสถานที่ที่บรรพบุรุษของชาวเกาหลีบวงสรวงเทพยดาบนสวรรค์ ตลอดแนวชายฝั่งของเกาะ เราจะเห็นป้อมปราการตั้งอยู่เป็นระยะ ๆ ป้อมปราการเหล่านี้มีประวัติยาวนานเก่าแก่ถึงยุคจักรวรรดิ์โชซอนทีเดียว

      วัดชนดึงซา
      วัดชนดึงซาเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งบนเกาะ[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่A3] สร้างขึ้นในสมัยสามอาณาจักร หรือเมื่อ 1,600 ปีที่แล้ว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมซึ่งหาดูได้ยาก โดยเฉพาะระฆังเหล็กของวัด นอกจากการเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์แล้ว คุณยังสามารถเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองชนิดต่าง ๆ เช่น โสม และเสื่อทำจากวัสดุธรรมชาติ

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ อินชน
      เบอร์โทร: 032-9370125
      Url: http://www.jeondeungsa.org
      วิธีการเดินทาง: 1 ชม.30 นาที จากสถานีรถบัส ชินชน
      ราคาค่าบริการ: 18,000 วอน (สำหรับวัด ชนดึงซา)


      เมืองซูวอน
      เป็นเมืองสำคัญอีกเมืองหนึ่งในเคียงคีโด ซึ่งอยู่ในเส้นทางรถใต้ดิน เชื่อมถึงกรุงโซล ป้อมฮวาซอง ตั้งล้อมรอบบริเวณเมืองซูวอน ป้อมนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแห่งยุคของอาณาจักรโชซอน มีการเก็บรักษามาไว้อย่างดี ป้อมนี้สร้างขึ้นด้วยหินและอิฐเผาใช้เวลาสร้างถึง 2 ปี จาก ค.ศ.1794 นั่นคือช่วงการปกครองของกษัตริย์จองโจ ในปี ค.ศ.1997 องค์การยูเนสโกได้สถาปนาป้อมนี้เป็นมรดกวัฒนธรรมโลก


      ชื่อสถานที่: เมืองซูวอน
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางตอนกลางของซูวอน
      Url: http://www.suwon.ne.kr
      วิธีการเดินทาง: รถเมล์หมายเลย 24 หรือ 24-1 (15 นาที) จากสถานีซูวอน, สาย KNR


      ชื่อสถานที่: ป้อมฮวาซอง
      เบอร์โทร: 031-2282766


      หมู่บ้านพื้นเมืองเกาหลี
      เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จำลองวิถีชีวิตของชาวเกาหลีในสมัยเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว ประกอบด้วยการแสดงงานฝีมือชนิดต่าง ๆ เช่นการปั้นหม้อ การทอผ้า การตีเหล็ก และกิจกรรมอื่น ๆ แบบดั้งเดิม รวมทั้งมีบ้านแบบเกาหลี 260 หลัง และเวทีการแสดงกลางแจ้งสำหรับการแสดงนาฏศิลป์ และดนตรี


      ชื่อสถานที่: หมู่บ้านพื้นเมืองเกาหลี
      เบอร์โทร: 031-286-2111
      Url: http://www.koreafolk.co.kr
      วิธีการเดินทาง: ตะวันออกของซูวอน
      ลงรถที่สถานีซูวอน สาย KNR
      และต่อรถประจำทางเข้าเมืองไปยังหมู่บ้านพื้นเมืองของเกาหลี
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.00 น.-18.00 น.
      (9.00 น.-17.00 น. พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 11,000 วอน


      ทัวร์เมืองอินชน
      ทัวร์ชมตัวเมือง: สถานีรถไฟใต้ดินอินชน ->  สวนวอลมิซาน -> วอลมิโด -> อาคารผู้โดยสารนานาชาติ -> 
      รีสอร์ทซงโด -> อนุสรณ์สถานการลงจอดเครื่องบินอินชน -> ท่าเรือเฟอร์รีนึงโฮแด -> อาฮัมโด ->
      สำนักงานประชาสัมพันธ์ซงโด ->  สำนักงานอินชน โดโฮบู ->  สนามกีฬาอินชนมุนฮัก -> 
      สถานีรถประจำทางอินชน -> ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม ->  ศาลากลางอินชน ->   ศูนย์กีฬาที่ระลึกโอลิมปิก -> 
      สถานีรถประจำทางระหว่างเมืองมันชู -> อินชนแกรนด์ปาร์ค -> สถานีรถไฟใต้ดินบูเพียง -> สถานีรถไฟใต้ดิน
      จูอาน ->  ร้านสินค้าพื้นเมืองอินชน -> สวนซูบง ->  สถานีรถไฟใต้ดินเจมุลโพ -> สถานีรถไฟใต้ดินดงอินชน -> สวนฮวาโดจิน


      เวลาให้บริการ: (10.00 น.-18.00 น.) รอบละ 2 ชั่วโมง
      ราคาค่าบริการ: ราคา : 1,000 วอน สำหรับตั๋วเที่ยวเดียว


      ทัวร์สนามบินนานาชาติอินชน
      สถานีรถไฟใต้ดินดงอินชน ->  สถานีรถไฟใต้ดินอินชน ->  วอลมิโด ->  ซีวอเตอร์สปา ->  อาคารผู้โดยสารที่สนามบินนานาชาติอินชน -> หอบังคับการสนามบิน -> เคียวจัมโป -> สถานีรถไฟใต้ดินดงอินชน


      เวลาให้บริการ: 08.00-18.00 น. รอบละ 1 ชั่วโมงครึ่ง
      ราคาค่าบริการ: ราคา : 3,000 วอน สำหรับตั๋วเทียวเดียว และ 5,000 วอน สำหรับตั๋วไป-กลับ


      ชื่อสถานที่: Cheongsong Tours
      เบอร์โทร: 032-469-6060)


      เอเวอร์แลนด์
      เปรียบเหมือนสวนสนุกสามแห่งในที่เดียวกัน ในเทศกาลโลก[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่A6] มีเครื่องเล่นต่าง ๆ ที่ตื่นเต้นเร้าใจ ป่าซาฟารี สวนสัตว์และเทศกาลดอกไม้ในฤดูกาลต่าง ๆ ส่วนที่คาริเบียน เบย์ เป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ คุณจะได้สนุกกับสระว่ายน้ำซึ่งมีคลื่นเทียมและไม้ลื่น บนลานแข่งรถนั้น ท่านจะสามารถสนุกสนานกับการแข่งรถได้จริง ๆ ในเอเวอร์แลนด์ก็เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะโฮอัม ซึ่งแสดงผลงานทางศิลปอันงดงามที่สุดในโลกของบุคคลต่าง ๆ มาแสดงไว้มาก

      เบอร์โทร: 031-320-5000
      Url: http://www.everland.com
      วิธีการเดินทาง: ทางตะวันออกของหมู่บ้านพื้นเมืองเกาหลี
      รถเมล์หมายเลข 1500 หรือ 1500-1 จากทางออกเลขที่ 13 ของสถานี Seoul National Univ. of Education
      รถไฟใต้ดินสาย 2 หรือ 3
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.30 น.-20.00 น. (เปิดถึงดึกระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนตุลาคม ซึ่งทั่ว ๆ ไปราว 22.00 น.
      ราคาค่าบริการ: 18,000 วอน สำหรับเทศกาลโลก 15,000-55,000 วอน สำหรับคาริเบียนเบย์ ค่าเข้าชมจะแตกต่างกันในแต่ละฤดู)


      สนามแข่งม้ากรุงโซล
      สนามนี้ออกแบบสำหรับการแข่งม้าได้ถึง 1,400 ตัวและมีการแข่งขันทุกสุดสัปดาห์ คุณสามารถวางเงินพนันได้ตั้งแต่ 100-10,000 วอน มีการพนันได้สามแบบ คือแบบเข้าแข่งขันหนึ่งครั้ง สองครั้ง และมากกว่าสองครั้งขึ้นไป ในเวลาที่สนามแข่งเปิดทำการจะมีบริการใช้ข้อมูลแก่ผู้ที่ต้องการวางเงินพนัน


      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางเหนือของ โซลแกรนด์ปาร์ค
      เบอร์โทร: 02-509-1273
      วิธีการเดินทาง: ทางออกที่ 1 หรือ 2 ของสนามแข่งม้ากรุงโซล
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.30 น.-18.00 น.
      ราคาค่าบริการ: 800 วอน


      โซแลนด์
      เป็นสวนสนุกที่เปิดตลอดทั้งปี อยู่ห่างจากใจกลางกรุงโซล 30 นาที มีเครื่องเล่นให้ความสนุกสนานเร้าใจถึง 50 ชนิด รวมทั้งการแสดงงานออกร้าน และกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ คุณจะเพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำกลางแจ้งในฤดูร้อน และการเล่นรถเลื่อนบนหิมะในฤดูหนาว


      เบอร์โทร: 02-504-0011
      Url: http://www.seoulland.co.kr


      โซลแกรนด์พาร์ค
      ตั้งอยู่ติดกับโซลแลนด์เป็นสถานพักผ่อนหย่อนใจสำหรับนักท่องเที่ยว ที่จะสามารถชมสวนสัตว์ที่จัดอย่างดีเยี่ยม สวนพฤกษศาสตร์ อันประกอบด้วยพรรณไม้ 14,000 ต้น โดยมีพันธุ์ต่าง ๆ กันถึง 1,600 พันธุ์ทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการแสดงแมวน้ำที่ฝึกมาอย่างดีด้วย


      เบอร์โทร: 02-5007114
      Url: http://grandpark.seoul.go.kr


      พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติ
      ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในสวนโซลแกรนพาร์ค ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี


      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางใต้ของกรุงโซล
      เบอร์โทร: 02-2188-6000
      Url: http://www.moca.go.kr
      วิธีการเดินทาง: ลงรถที่สถานีโซล แกรนด์ปาร์ค สาย 4
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.00 น.-19.00 น. (9.00 น.-18.00 น. ต.ค.-มี.ค.)สำหรับ โซลแกรนด์ปารค์
      ราคาค่าบริการ: 1,500 วอน สำหรับ โซลแกรด์ปารค์ /700 วอน สำหรับพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติ 10,000 วอน สำหรับ โซลแลนด์


      ทัวร์เมืองซูวอน
      สถานีซูวอน ->  ป้อมฮวาซองซโซจังแด ->  ประตูฮวาโซมุน ->  พระราชวังฮวาซง แฮงกุง -> ประตูจังอันมุน ->
       ยนมุนแด ->  สนามกีฬาาเวิลด์คัพซูวอน -> โรงแรมแคสเซิล ->  ศูนย์ศิลปการแสดงเคบีเอส ->  สถานีซูวอน

      รถทัวร์แต่ละคันจะมีไกด์ระดับอาชีพ และในรายการทัวร์จะรวมการลองสวมเสื้อผ้าและอาวุธในพระราชวังด้วย


      เวลาให้บริการ: วันละ 2 รอบ: 10:30 และ 14.00 น.
      ราคาค่าบริการ: ราคา: 5,000 วอน


      ชื่อสถานที่: Jangsu Tours
      เบอร์โทร: 031-224-2000


      หมู่บ้านปั้นเครื่องดินเผาอีชอน
      8 หมู่บ้านที่ปั้นเครื่องดินเผาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ในอีชอนนี้มีเตาเผาที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ถึง 250 แห่ง ท่านไม่เพียงแต่จะซื้อเครื่องดินเผาได้เท่านั้น แต่ท่านยังสามารถทำเองได้ด้วย งานแสดงเครื่องปั้นดินเผาโลกครั้งที่ 2 จัดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2003 ที่เมืองอีชอน


      พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาแฮกัง
      ก็อยู่ที่นี่ด้วยและเน้นงานศิลป์ควางจู และยอจู ก็มีชื่อเสียงในด้านงานปั้นดินเผาและสามารถขับรถมาชมได้ภายในเวลา 30 นาที


      เบอร์โทร: 031-632-7017
      วิธีการเดินทาง: จากสถานีรถประจำทางทงโซลถึงอินชน (1 ชม.) ไปหมู่บ้าน (10 นาที)


      ป่าพันธุ์ไม้แห่งชาติ
      ที่ ควางนึง ดั้งเดิมเป็นป่าพันธุ์ไม่ติดกับป่าควางนึง ซึ่งกษัตริย์โชซอนและชายาของพระองค์ถูกฝังอยู่ที่นี่ ปัจจุบันป่าพันธุ์ไม้มีพันธุ์ไม้พิเศษ 15 ชนิด และเป็นพิพิธภัณฑ์ป่าไม้ด้วย


      เบอร์โทร: 031-540-1114
      Url: http://www.foa.go.kr
      วิธีการเดินทาง: 1 ชั่วโมงจากสถานีชงเนียงนีในกรุงโซล
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.00 น.-17.00 น. (ต้องสำรองที่นั่ง)
      วันให้บริการ: วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดประจำชาติ
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน


      ป้อมปราการนัมฮันซานซง
      ป้อมปราการนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาใกล้เมืองบริวารซองนัม และทำหน้าที่ปกป้องเขตแดนทางใต้     


      Url: http://namhansansung.or.kr


      ป้อมปราการพูกันซานซง
      ตั้งอยู่โดยรอบยอดเขาอลังการแห่งภูเขาพูกันซานและในประวัติศาตร์ถือว่าเป็นปราการปกป้องและเป็นแนวเขตแดนฝั่งเหนือของเกาหลีโบราณ


      ปาจู
      ยังเก็บรักษาความงามตามธรรมชาติ โดยไม่มีการทำลายลงแม้แต่น้อย และเป็นที่ตั้งของจุดท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับสงครามหลายจุดทีเดียว ตัวอย่างที่เห็นได้คือ ปันมุนจอม อุโมงค์หมายเลขสามและหอสังเกตการณ์โดรา หอตรวจการเพื่อการรวมประเทศโอดูซาน และอิมจินกั๊ก จุดท่องเที่ยวเหล่านี้ปรากฎร่องรอยแห่งสงคราม และความเป็นจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ของประเทศที่ถูกแบ่งแยก


      ปันมุนจอม
      ตั้งอยู่ตามแนวเขตปลอดทหารและระหว่างฝ่ายใต้และเหนือเป็นที่ซึ่งมีการเซ็นสัญญา สงบศึกเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ.1953 และเป็นที่ซึ่งมีการเจรจาสันติภาพ ณ ที่นี่เราจะเห็นกองกำลังของสหประชาชาติตั้งอยู่เพราะที่นี่ถือเป็นบริเวณที่มีความตึงเครียด และกองกำลังนี้มีหน้าที่ระแวดระวังภัย มิให้เกิดสงครามครั้งใหม่ขึ้น กลุ่มนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปปันมุนจอมได้โดยผ่านตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวที่ได้รับอนุญาต โดยจะต้องเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งมีพาสปอร์ตเดินทางติดตัวด้วย


      อุโมงค์หมายเลข 3
      ซึ่งลึกลงไปใต้ดิน 73 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร ถูกขุดโดยชาวเกาหลีเหนือเพื่อแทรกซึมเข้าไปในเกาหลีใต้ อุโมงค์นี้ผ่าแนวเขตแดนเหนือใต้ 435 เมตร และมีความยาว 1,635 เมตร ที่หอสังเกตการณ์โดรา นั้น ถ้าใช้กล้องส่องทางไกลเราจะเห็นชาวเกาหลีเหนือ ดำเนินชีวิตประจำวันของเขา


      หอสังเกตการณ์เพื่อการรวมประเทศแห่งโอดูซาน
      ณ ที่นี้เราจะเห็นประเทศเกาหลีเหนือได้โดยใช้กล้องส่องทางไกลกำลังแรง ที่หอนี้มีการแสดงปัจจัยต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของชาวเกาหลีเหนือ และเสื้อผ้า รวมทั้งมีห้องโสตทัศนูปกรณ์และมีสินค้าของเกาหลีเหนือจำหน่ายด้วย


      เบอร์โทร: 031-945-3171
      วิธีการเดินทาง: ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที จากสถานีโซลถึงสถานีคิมชน แล้วต่อสาย 2 หรือ 3 ไปหอสังเกตการณ์ 25 นาที
      ราคาค่าบริการ: ราคา2,000 วอน



      ย้อนขึ้น

      รายการทำเครื่องปั้นดินเผา
      ในแถบอินชน-ยอจู-ควางจู ในเขตจังหวัดเคียงคีโดนั้น จะมีรายการกิจกรรมหลากหลายที่จัดโดยองค์กรเอกชน สมาคมเครื่องปั้นดินเผา พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา และผู้จัดนิทรรศการ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสได้ทดลองความสามารถในการทำเครื่องปั้นดินเผา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะเลือกที่จะลองลงสีเครื่องปั้นดินเผาที่ปั้นสำเร็จแล้ว และนำกลับไปได้ในวันนั้น โดยไม่ต้องเคลือบ แต่นักท่องเที่ยวบางส่วนก็เลือกจะลงสีเครื่องปั้นดินเผา พร้อมนำไปเคลือบและเผาตามขั้นตอน ซึ่งจะส่งไปให้ตามที่อยู่ที่บ้านในเวลาเพียงไม่กี่อาทิตย์ สนนราคาจะอยู่ระหว่าง 10,000 - 50,000 วอน ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบของรายการ พื้นที่และชนิดของเครื่องปั้นดินเผา (ยังไม่รวมค่าส่งสินค้า) มีบริการส่งสินค้าข้ามทวีป นอกจากนี้ยังสามารถขยายระยะเวลาการฝึกได้หากต้องการฝึกทำเครื่องปั้นดินเผาระดับสูงต่อไป


      ชื่อสถานที่: มูลนิธิเครื่องปั้นดินเผาโลก
      Url: http://www.worldceramic.or.kr


      ชื่อสถานที่: ศูนย์เครื่องปั้นดินเผาโลก อินชน
      เบอร์โทร: 031-631-6507


      ชื่อสถานที่: ห้องแสดงงานเครื่องปั้นดินเผาโลก ยอจู
      เบอร์โทร: 031-884-8175


      ชื่อสถานที่: พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาแฮกัง
      เบอร์โทร: 031-633-6381


      ชื่อสถานที่: สมาคมเครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้าน ยอจู
      เบอร์โทร: 031-885-3937



      ย้อนขึ้น

      ทัวร์ ดีเอ็มซี (Demilitarized Zone Tour)
      เป็นแพ็กเกจทัวร์นำเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในเขตปลอดทหาร จะมีบริการรถทัวร์ที่อิมจินกัก และสถานีโดราซาน นักท่องเที่ยวต้องนำหนังสือเดินทางไปด้วย รายการทัวร์นี้ปิดในวันจันทร์


      ทัวร์ออกจากอิมจินกัก
      พาชมหอโดรา อุโมงค์ที่สาม และหมู่บ้านเอกภาพเกาหลีเหนือ - ใต้ มีบริการวันละ 6 รอบ ในเวลา 09:20 น., 10:00 น., 10:30 น., 13:00 น., 14:00 น. และ 15:00 น. รอบละประมาณ 3 ชั่วโมง ราคา 8,700 วอน


      ทัวร์ออกจากสถานีโดราซาน
      รถไฟไปสถานีโดราซาน จะมีเพียงวันละ 3 ขบวน โดยจะออกจากสถานีอิมจินกัง ในเวลา 11:43 น., 12:43 น. และ 13:43 น. ซึ่งทัวร์นี้จะมีบริการวันละ 3 รอบเช่นกัน เมื่อรถไฟเข้าสู่สถานีโดราซัน โดยทัวร์จะพาชมหอโดรา อุโมงค์ที่สาม และหมู่บ้านเอกภาพเกาหลีเหนือ - ใต้ ตั๋วรถไฟไปกลับราคา 2,200 วอน ส่วนทัวร์ดีเอ็มซีราคา 8,700 วอน


      ชื่อสถานที่: ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวอิมจินกัก
      เบอร์โทร: 031-953-4744


      ชื่อสถานที่: ทัวร์ดีเอ็มซี
      เบอร์โทร: 031-954-0303


      บริษัทนำเที่ยวในกรุงโซลมีบริการทัวร์ดีซีเอ็ม และปันมุนจอม สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดย   ออกเดินทางจากกรุงโซล สนนราคาอยู่ในระหว่าง 65,000-48,000 วอน (บางรายการอาจรวม บริการอาหารกลางวันด้วย)


      ชื่อสถานที่: Global Tour
      เบอร์โทร: 02-330-4270


      ชื่อสถานที่: Good Morning Tour
      เบอร์โทร: 02-757-1232


      ดูรายละเอียดต่อในหัวข้อ [ทัวร์ ดีเอ็มซี - DMZ Tour]

      ย้อนขึ้น

      อาหารและการซื้อของ
      ดูรายละเอียดต่อในหัวข้อ [อาหารและการซื้อของ]

      ย้อนขึ้น

      แผนที่รอบกรุงโซล
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย 


      ชื่อเมือง สถานที่ท่องเที่ยว และภาคต่างๆ ในประเทศเกาหลี

        



      สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของภาคตะวันออก


      ภาคตะวันออก
      ภาคตะวันออก
      ทางด่วนสายยองดง มุ่งจากกรุงโซลถึงชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่สวยงาม โดยสุดเส้นทางที่เมืองคังนึง ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 4 ชั่วโมง ตลอดชายฝั่งมีโรงแรมหลายแห่งและแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา หรือชายทะเล เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจอย่างยิ่ง
        
      ตามเมืองเล็ก ๆ ริมทะเลและลึกเข้าไปในป่าตามเทือกเขาต่าง ๆ ก็เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา รวมทั้งรีสอร์ตบนภูเขาสำหรับนักเล่นสกี
        

      คังนึง
      [
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B1] เป็นที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งคือ โอจูกอน[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B2] หรือบ้านซึ่ง อียุลกก ปราชญ์ขงจื๊อผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์ โชซอน พร้อมทั้งมารดาของเขาชื่อ ชิน ซัมดัง เคยอาศัยอยู่ ชิน ซัมดัง เป็นสตรีในราชวงศ์ โชซอน ผู้ได้รับการเคารพยกย่องอย่างกว้างขวางในฐานะลูกสาว ภรรยา และแม่ผู้มีคุณธรรมสูง ทั้งยังเป็นจิตรกร นักเขียนตัวอักษรเกาหลีและกวีผู้มีความสามารถอีกด้วย     
           

      Url: http://www.gangneung.gangwon.kr


      หาดเคียงโพแด
      อยู่ห่างจากใจกลางเมือง คังนึง ไปทางเหนือ 6 กม. หาดทรายที่ขาวละเอียดแห่งนี้เหมาะกับการว่ายน้ำและตกปลา คุณจะประทับใจกับร้านอาหาร ทะเลสด ๆ ที่ปรุงอาหารอย่างที่คุณต้องการ

      วิธีการเดินทาง: 30 นาทีจาก คังนึง


      นอกจากนี้ยังมีชายหาดที่สวยงามอื่น ๆ ทางเหนือของเมือง คังนึง โดยเฉพาะ หาดนักซาน[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B4] ซึ่งมีน้ำทะเลใสสะอาด และอาหารทะเลสด ๆ และท่าเรือประมง ซกโซ อยู่ใกล้กับวัดนักซานซา
           

      ซกโช
      [
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B5] เป็นเมืองแรกที่คุณจะผ่านเพื่อเข้าสู่อุทยานแห่งชาติ ซอรักซาน ซึ่งเป็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยยอดเขาหินแกรนิตสูงชัน หุบเขาเขียวชะอุ่ม น้ำตก ลำธารใสสะอาด รวมทั้งวัดทางศาสนาพุทธและศาลาปฏิบัติธรรม ท่าเรือซกโชเป็นจุดปล่อยเรือที่จะเดินทางไปภูเขาแห่งอัญมณีคึงกังซาน เกาหลีเหนือ
           

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: จากกรุงโซลถึงซกโซ-50 นาที โดยเครื่องบินไปสนามบินยางยาง และต่อรถประจำทางอีก 50 นาที/4 ชั่วโมง 50 นาที โดยรถประจำทาง


      อุทยานแห่งชาติเขาซอรักซาน
      [
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B6] จัดได้ว่าเป็นแนวเขาที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเกาหลี ซึ่งประกอบด้วย โอซอรัก เนซอรัก และนัมซอรักเทือกเขาแนวนอกแนวใน และแนวใต้ มีหุบเขาที่มีดอกไม้บานสะพรั่งทั้งฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง บริเวณที่ยื่นออกมาด้านนอกทางตะวันออก นำเราไปสู่หมู่บ้าน ซอรัก-ดงรีสอร์ท มีทั้งโรงแรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ลานสำหรับกางเต้นท์ ร้านค้า ที่จอดรถ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีกระเช้าลอยฟ้า อันมีความยาวถึง 1,100 เมตร เชื่อมกับทางเข้าสวนสาธารณะซอรักดง กับควันกึมซาง ซึ่งเป็นป้อมปราการอยู่เหนือยอดเขาและสร้างขึ้นสมัยอาณาจักรซิลลา

      สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่พื้นหินราบ พีซอนแด ซึ่งมีตำนานเกี่ยวกับการขึ้นสวรรค์ของเทพองค์หนึ่ง และบ่อน้ำแร่ โอแซ็ก ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคทางเดินอาหารได้ นักท่องเที่ยวที่มาจากทางตะวันตกผ่านเมือง อินเจ สามารถแวะชมวัด เพ็กทัมซา ซึ่งเป็นด่านทางเข้าอีกด้านหนึ่งของ ซอรักซาน
           
           

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางตะวันตกของซกโซ เดินทางโดยรถบัส 30 นาทีจากซกโซ ถึง ซอรักดง
      เบอร์โทร: 033-636-7700
      Url: http://npa.or.kr/sorak/main.asp
      ราคาค่าบริการ: 2,800 วอน


      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย
      ซอรักวอเตอเพีย
      [
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B7] ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับซอรักซานมีไหลผ่านตลอดทั้งปี ขึ้นชื่อในเรื่องมีบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง (49 องศาเซลเซียส) มีทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาอูลซานและชายฝั่งทะเลตะวันออกได้ดีพอ ๆ กับคลื่นเทียมและไม้ลื่น
           

      เบอร์โทร: 033-6357711
      วิธีการเดินทาง: นั่งเครื่องบินจากกรุงโซลไปยังสนามบินยางยาง (50 นาที) มีรถบัสรับส่งฟรีที่สนามบิน (15.30 น.)
      เวลาให้บริการ: เวลา 8.00 น.-23.00 น.
      ราคาค่าบริการ: 36,000 วอน


      หอสังเกตการณ์การรวมชาติ
      ที่ โคซอง[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B8] ตั้งอยู่ทางด้านเหนือสุดของชายฝั่งด้านตะวันออก จากหอสังเกตการณ์แห่งนี้ คุณจะมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขา แม่น้ำ และชายฝั่งของประเทศเกาหลีเหนือ
           

      บริเวณแนวสามเหลี่ยมเหล็ก
      เป็นแนวสามเหลี่ยมซึ่งเชื่อมต่อ ชอวอนและคิมฮวากับเพียงกัง ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเกาหลีเหนือ พื้นที่นี้เป็นสนามรบที่สำคัญทีเดียวในระหว่างสงครามเกาหลี ณ ที่นี้จะมีกองบัญชาการของพรรคแรงงานเของเกาหลีเหนือ ซึ่งเรียกว่า "House of Labor Party" ซึ่งปัจจุบันนี้เหลือแต่ซากปรักหักพังแต่น่าชมเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้สิ่งที่น่าชมที่นี่คือ อุโมงค์ที่ 2, หอสังเกตการณ์ประจำพื้นที่สามเหลี่ยมเหล็กและซากรถไฟที่สถานีวอลจอง-รี ใกล้ ๆ กับบริเวณนี้คือแหล่งพักพิงของนกซัมทง ซึ่งบินมาจากที่ต่าง ๆ มาอยู่ที่นี่มากมาย
           

      เบอร์โทร: 033-455-3129
      วิธีการเดินทาง: โดยรถไฟจากสถานีอุยจองบู ถึงสถานีซันตัน-รี (เวลาเดินทาง : 1 ชั่วโมง 20 นาที) หรือติดต่อบริษัทท่องเที่ยว Anbo Tour ที่ (Tel.031-834-8951) (ใช้เวลา 4 ชั่วโมง 13,000 วอน) หรือสามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือเรียกแท๊กซี่ ในซินชอวอน
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.00 น.-14.00 น. วันอังคารและวันหยุดราชการ
      ราคาค่าบริการ: 1,500 วอน


      เฮียนเมียน, ยางกู
      เป็นพื้นที่ต่ำมีภูเขาล้อมรอบและบ่อยครั้งเป็นสนามรบอันดุเดือดในระหว่างสงครามเกาหลี พื้นที่นี้ถูกขนานนามโดยผู้สื่อข่าวสงครามว่า "สนามรบชามอ่างพั้นซ์" [
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B9] ในบริเวณสนามรบที่มีชื่อก้องนี้เคยเป็นที่ตั้งของหอประชุมของเกาหลีเหนือ (Tel.033-481-9021), อุโมงค์ที่ 4 และหอสังเกตการณ์อึลจี มีรถประจำทางมาที่นี่วันละ 3 เที่ยวเท่านั้น ดังนั้นถ้ามีรถส่วนตัวก็แนะนำให้ใช้ หรือไม่ก็เหมารถแท๊กซี่จากยางกูมาได้
           

      วิธีการเดินทาง: จากท่ารถทงโซลถึงยางกู (เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง) และต่อด้วยรถประจำทางถึงเฮียนเมียน (50 นาที) เดินเท้า 5 นาที ถึง NKH
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.00 น.-17.00 น. (9.00 น.-16.00 น. พ.ย.-ก.พ.)
      วันให้บริการ: วันจันทร์
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน ต่อสถานที่


      อุทยานแห่งชาติ ภูเขาโอเดซาน
      [
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B10] อยู่ทางใต้ของซอรักซาน และเป็นที่ตั้งของวัดวอลจงซา ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในอาณาจักรชิลลา อีกวัดหนึ่งในบริเวณนี้คือวัดซางวอนชา ซึ่งมีระฆังโลหะสัมฤทธิ์อันมีชื่อเสียง สร้างขึ้นใน ค.ศ.725
           

      เบอร์โทร: 033-3326494
      Url: http://www.npa.or.kr/odae/main/asp
      วิธีการเดินทาง: 1 ชั่วโมง จากคังนึง
      ราคาค่าบริการ: 2,800 วอน


      สวนพฤกษาศาสตร์เกาหลี
      [
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B11] ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าอุทยานแห่งชาติโอเดซาน มีพืชและดอกไม้ป่าของเกาหลีกว่า 1,000 ชนิด จัดประเภทอย่างมีรูปแบบเฉพาะ คือแบ่งเป็นพืชที่มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์และพืชที่มีกลิ่น การจัดสวนคำนึงถึงข้อที่ว่าดอกไม้เกาหลีจะดูงดงามที่สุดในพื้นที่โล่งกว้างกลางแจ้ง ส่วนสวนตามฤดูกาล ก็จะมีดอกไม้ที่งดงามที่สุดในฤดูกาลนั้น ๆ นับเป็นสถานที่อันน่าเพลิดเพลินใจสำหรับชื่นชมมวลดอกไม้ที่เบ่งบานต้อนรับและอำลาฤดูกาลแต่ละฤดูกาล
           

      เบอร์โทร: 033-332-7069
      วิธีการเดินทาง: 20 นาที จากอุทยานแห่งชาติโอเดซาน
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.00 น.-18.00 น.
      วันให้บริการ: ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึง 31 ต.ค. ปิดในฤดูหนาว
      ราคาค่าบริการ: 3,000 วอน


      อุทยานแห่งชาติ ซีอักซาน
      [
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่B12] ครอบคลุมบริเวณจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ ห่างจากวอนจู 12 กม. ทางตะวันออกเฉียงเหนือ จุดที่น่าสนใจคือ บริเวณหุบเขาที่มีหินผารูปร่างแปลกประหลาด รวมทั้งวัดในศาสนาพุทธหลายแห่ง เช่น วัดคูเรียงซา สร้างขึ้นในสมัยชิลลา
           

      เบอร์โทร: 033-732-5231
      Url: http://www.npa.or.ke/chiak/main.asp
      วิธีการเดินทาง: โดยรถประจำทางจากสถานีวอนจู 40 นาที
      ราคาค่าบริการ: 2,000 วอน


      สถานเล่นสกียงเพียง (หุบเขามังกร)
      อยู่ในบริเวณช่องเขาแทกวัลเลียง ทางใต้ของภูเขาโอเดซาน มีที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับผู้ที่รักกีฬาสดี ได้ดีพอ ๆ กับฤดูกาลอื่น ๆ
           

      เบอร์โทร: 033-335-5757
      Url: http://www.yongpyong.co.kr


      ถ้ำฮวันซองกุล
      เป็นถ้ำหินปูนที่ใหญ่โตที่สุดในเอเซีย และล้อมรอบด้วยภูเขาที่มีทัศนียภาพงดงาม ถ้ำนี้มีความยาวถึง 6.2 กม. แต่เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เพียง 1.6 กม. ซึ่งเพียงความยาวแค่นี้ก็สามารถทำให้ผู้มาเยือนเก็บความทรงจำไว้ไม่มีวันลืม ทั้งนี้เนื่องจากภายในถ้ำเราจะเห็นบ่อน้ำถึง 10 บ่อ น้ำตก 6 แห่ง ห้องหลักอันกว้างขวางใหญ่โต และภาพอันน่าพิศวงมากมายอันเกิดจากหินงอกหินย้อย เช่นภาพน้ำตก กำแพงเมืองจีน และพระที่นั่ง เป็นต้น
           

      เบอร์โทร: 033-541-9266
      วิธีการเดินทาง: จากท่ารถทงโซลถึงซัมซก (3 ชั่วโมง 30 นาที) และต่อด้วยรถประจำทางถึงแดอิ-ริ (45 นาที) ใช้เวลาปีนถึงทางเข้าถ้ำอย่างน้อย 30 นาที
      เวลาให้บริการ: เวลา 8.00 น.-17.00 น.(8.30 น.-16.00 น. พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 4,300 วอน


      เกาะอุลลึงโด
      เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟตั้งอยู่สุดปลายฝั่งตะวันออกของเกาหลี และเป็นหนึ่งในเกาะภูเขาไฟที่สำคัญของเกาหลี 2 เกาะ อีกเกาะหนึ่งชื่อว่า เชจูโด เกาะอุลลึงโดนี้มีบริเวณกว้างถึง 73.15 ตารางกิโลเมตร และล้อมรอบไปด้วยเกาะเล็ก ๆ เช่นด๊อกโด, จุ๊กโดและควาเนิมโด ที่กึ่งกลางเกาะนั้นยอดเขาซองอินบองตั้งตระหง่าน
           
      มีเรือที่จะนำนักท่องเที่ยววนไปมารอบอุลลึงโด เพื่อชื่นชมมนต์เสน่ห์แห่งเกาะนี้ อันประกอบด้วย หน้าผาที่สูงชัน หินที่มีรูปทรงประหลาดและไม้นานาพรรณที่จะพบได้ก็บนเกาะนี้เท่านั้น เกาะนี้มีชื่อโด่งดัง ระหว่างชาวเกาหลีในการทำปลาหมึกแห้งและลูกกวาดฝักทอง
           

      เบอร์โทร: 054-790-6396 )
      Url: http://www.ulleung.go.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยเรือ 3 ชั่วโมงจากโพฮัง ( บริษัทท่องเที่ยวแด-อา Tel.02-514-6766) หรือ 2 ชั่วโมง 20 นาที จากมุกโฮ



       

      ย้อนขึ้น

      อาหารและการซื้อของ
      ดูรายละเอียดต่อในหัวข้อ [อาหารและการซื้อของ] >>

      ย้อนขึ้น

      แผนที่ภาคตะวันออก
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      ย้อนขึ้น

      สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของภาคกลาง

      ภาคกลาง
      ภาคกลาง
      บริเวณภาคกลางครอบคลุม เขตชุงชองโด มีลักษณะเป็นทุ่งนากว้างใหญ่ และภูเขาหินขรุขระ

      แทจอน
      เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญในย่านนี้ ห่างจากกรุงโซลโดยรถยนต์เพียงสองชั่วโมง เป็นชุมทางรถไฟและทางด่วน และกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางทางด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศเกาหลี ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองคือ สถานตากอากาศ น้ำพุร้อน ยูซอง

      Url: http://www.metro.daejeon.kr
      วิธีการเดินทาง: 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถไฟ แซมาอึลโฮ และ 1 ชั่วโมง 50 นาที โดยรถประจำทาง


      อุทยานวิทยาศาสตร์ เอ็กซ์โป
      เป็นสถานที่จัดงานแสดงกลางแจ้ง ขนาด 627,000 ตารางเมตร (156.75 เอเคอร์) อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแทจอน และเป็นสถานที่จัดงาน EXPO'93 หลังจากนั้นก็ได้รับการปรับปรุงเป็นอุทยานวิทยาศาสตร์สำหรับประชาชนทั่วไป อุทยานวิทยาศาสตร์เอ็กซ์โป ประกอบด้วย ศาลาต่าง ๆ คือ Energy Pavillion, Technopia, Pavillion, Earthscape Pavillion และ Nature & Life Pavillion ส่วนหอคอยฮันบิท (ลำแสงอันยิ่งใหญ่) สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งงานเอ็กซ์โปที่แทจอน เพียงไปเยือนอุทยานแห่งนี้หนึ่งครั้ง ท่านก็จะสามารถเห็นภาพรวมของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของอุทยานแห่งนี้


      ร่องรอยทางวัฒนธรรมของพูยอและคงจู (เมืองหลวงของอาณาจักรแพ็เจ) อุทยานแห่งชาติเคเรียงซาน ที่มีชื่อเสียงทางด้านความงดงามทางธรรมชาติก็ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน

      เบอร์โทร: 042-866-5114/5 , 042-866-5260
      Url: http://www.expopark.co.kr
      วิธีการเดินทาง: 30 นาที จากใจกลางเมืองแทจอน
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น. (เปิดถึง 19.00 น. ช่วงมีงาน)
      ราคาค่าบริการ: ราคา 3,000 วอน สำหรับผู้ใหญ่ไม่รวมค่าเข้าซุ้มต่าง ๆ


      อุทยานแห่งชาติภูเขา เคเรียงซาน
      เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงามและมีชื่อเสียง บริเวณนี้จึงเป็นที่นิยมมากขึ้น ๆ เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และธรรมชาติที่อยู่ใกล้ ๆ กัน อุทยานแห่งชาติเขาเคเรียงซาน อยู่ทางตะวันตกของแทจอน มีเส้นทางชมธรรมชาติไปถึงวัดคับซา มีต้นเมเปิลซึ่งผลัดใบเป็นสีต่าง ๆ ในฤดูใบไม้ร่วง และวัดดองฮักซา ซึ่งอยู่บริเวณเชิงเขาด้านตะวันออก

      เบอร์โทร: 042-825-3003
      Url: http://www.metro.daejeon.kr
      เวลาให้บริการ: 50 นาที จากแทจอน
      ราคาค่าบริการ: ราคา 2,600 วอน


      เมืองคงจู
      ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอุทยานแห่งชาติเขาแคเรียงซาน คือ เมืองคงจู ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักร แพ็กเจ ระหว่างปี ค.ศ.472-539 ก่อนที่จะมีการย้ายอาณาจักรไปที่เมือง พูยอ ทางใต้ อาณาจักรนี้ได้ล่มสลายไปในศตวรรษที่ 7 เมื่ออาณาจักรชิลลาได้รวมเอาดินแดนทั้งหมดบนคาบสมุทรเกาหลีเข้าด้วยกัน หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักร แพ็กเจ ยังถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในเมืองหลวงเดิมทั้งสองเมืองนี้

      สิ่งที่น่าสนใจในเมืองคงจู คือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติคงจู ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงทรัพย์สมบัติจากสุสานของกษัตริย์ มูเรียง จากศตวรรษที่ 6 แม้ว่าสุสานส่วนใหญ่จะถูกทำลายไปแล้ว แต่สุสานของกษัตริย์มูเรียง ยังอยู่ในสภาพเดิมจนกระทั่งมีการขุดค้นในปี ค.ศ.1971

      เบอร์โทร: 041-856-0331
      เวลาให้บริการ: 1 ชม. จากแทจอน 2 ชั่วโมงครึ่ง จากโซล
      วันให้บริการ: เวลา 9.00 น.-18.00 น.(9.00 น.-17.00 น.พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: ราคา 1,000 วอน


      พูยอ
      อยู่ห่างออกไปอีก 20 ไมล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นเมืองหลวงสุดท้ายของ อาณาจักรแพ็กเจ (ค.ศ.539-660) สิ่งที่น่าสนใจคือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองพูยอ (Tel.041-833-8562) ซึ่งผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบอาณาจักรแพ็กเจ และมีศิลปวัตถุที่น่าสนใจหลายชิ้น

      จากยอดของป้อมปราบ พูซอซานแซง (Tel.041-835-3006) นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำ เพ็งมากัง จากที่สูงบนฝั่งแม่น้ำเป็นที่ตั้งหน้าผา นักควาอัม ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้น คือในช่วงที่อาณาจักรแพ็กเจ ถูกรุกราน หญิงสาวชาววังจำนวน 3,000 คน ได้มากระโดดน้ำตายเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกข่มเหง โดยทหารของฝ่ายตรงข้าม ภาพหญิงสาวในเสื้อผ้าสีสดใส กระโดดลงจากหน้าผาทำให้สถานที่แห่งนี้ได้ชื่อว่า "ผาแห่งดอกไม้ที่ร่วงหล่น"

      Url: http://www.buyeo.go.kr
      เวลาให้บริการ: 1 ชั่วโมง 30 นาที จากแทจอน/2ชม. 30 นาที จากโซล/ 45 นาที จากคงจู
      ราคาค่าบริการ: ราคา 2,000 วอน สำหรับป้อมปราการพูซอซานซง


      วัดควันชกซา
      อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง พูยอ ใกล้กับบนซาน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่น่าสนใจจำนวนหนึ่งคือ อึนจินมีรึก หรือ พระพุทธรูปแห่งอนาคต มีอายุกว่า 10,000 ปี สูง 19 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลี สิ่งที่น่าสะดุดตาคือ ขนาดที่ใหญ่โตไม่สมส่วนของอวัยวะต่าง ๆ เช่น เศียรที่มีขนาดใหญ่ ติ่งหูใหญ่ และยอดพระเกษาที่ผิดปกติ ฯลฯ

      เบอร์โทร: 041-736-5700/2
      เวลาให้บริการ: 1 ชั่วโมง จากแทจอน ถึง นนซาน
      ราคาค่าบริการ: ราคา 1,500 วอน


      อาซาน
      อาซาน อยู่ห่างจากโซลไปทางใต้ 1 ชั่วโมง บนทางด่วนสายเคียงบู มีบ่อน้ำพุร้อน อาซาน สปาวิส ซึ่งคู่บ่าวสาวนิยมมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ทั้งยังมีศาลเฮียนชุงซา ซึ่งสร้างขึ้น เพื่อรำลึกถึงชัยชนะของนายพล อี ซุน ชิน ในการสู้รบกับกองทัพเรือญี่ปุ่นในปลายศตวรรษที่ 16

      ส่วนในบริเวณเมืองชนอัน ซึ่งอยู่ห่างจากโซลหนึ่งชั่วโมงครึ่งเป็นที่ตั้งของ อนุสรณ์อิสรภาพแห่งชาติเกาหลี[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่C7] สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้คนที่ได้ต่อสู้กับอิทธิพลต่างชาติเพื่ออิสรภาพของประเทศตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ที่อนุสรณ์แห่งนี้มีการเก็บรวบรวมศึกษา และจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับต่อต้านการรุกรานของต่างชาติ และบันทึกเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา



      เบอร์โทร: 041-560-0114 , 041-555-2136
      Url: http://www.i815.or.kr
      เวลาให้บริการ: 1 ชั่วโมงจาก โซล ถึง ชนอัน และ 30 นาที จากชนอัน ถึงอนุสรณ์อิสรภาพแห่งชาติเกาหลี
      วันให้บริการ: เวลา 9.30 น.-18.00 น. (9.30 น.-17.00 น. พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: ราคา 2,000 วอน
      ข้อมูลเพิ่มเติม: วันจันทร์


      เมืองสมุนไพรซางซู
      เป็นสวนสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีสมุนไพรกว่า 500 ชนิด มีเรือนกระจกซึ่งสมุนไพรสามารถเติบโตได้แม้ในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีภัตตาคารสมุนไพร บริการ อาหารหลากชนิดอันมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ด้วยเครื่องปรุงที่มีสมุนไพรเป็นหลัก อาหารยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ คทบัป ซึ่งเป็นอาหารเกาหลี บิบิมบัป (ข้าวนึ่งกับผักรวม) ผสมสมุนไพรหลากหลายชนิด


      เบอร์โทร: 043-277-7676
      วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถซิตี้บัสจากสถานีรถด่วนประจำทางชงจูและลงที่ชงวอน ไอซี (40 นาที)
      วันให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น.
      ราคาค่าบริการ: ราคา 3,000 วอน


      ทะเลสาบ ชุงจูโฮ
      อยู่ห่างจากโซลไปทางใต้ 80 ไมล์ในแถบที่ภูมิประเทศเป็นภูเขา มีเครื่องกีฬาทางน้ำหลายชนิดและบริการเรือในเส้นทาง ชุงจูทันยาง ผู้โดยสารในเรือจะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของ ทันยาง พัลเกียง หรือ "ทิวทัศน์อันมหัศจรรย์ทั้งแปด" ในแถบที่เป็นเขาหินปูนรอบ ๆ ทันยาง

      เวลาให้บริการ: 2 ชั่วโมง 10 นาที จากโซลถึง ชุงจู


      ถ้ำโคสุ
      ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองของทันยางไม่ถึง 1 ไมล์ ซึ่งจะมีหินงอกหินย้อยที่ส่องแสงแวววาวในตัวเอง ดังนั้นจึงถูกเรียกว่า "ปราสาทใต้พิภพ"

      เบอร์โทร: 043-423-3071
      วิธีการเดินทาง: 10 นาที จากสถานีขนส่งรถประจำทางทันยาง 1 ชั่วโมง โดยแท๊กซี่ 1 ชม. จากชุงจู โดยรถประจำทาง
      เวลาให้บริการ: เวลา 9.00 น.-17.30 น.
      ราคาค่าบริการ: ราคา 4,000 วอน


      อุทยานแห่งชาติวอรักซาน
      เป็นภูเขาที่มีความสง่างามสูง 3,700 ฟุต (1,093 เมตร) ห่างจากชุงจูไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 24 ไมล์ (40 กิโลเมตร)

      เบอร์โทร: 043-653-3250
      Url: http://www.npa.or.kr/songni/main.asp
      เวลาให้บริการ: 40 นาทีจากชุงจู
      ราคาค่าบริการ: ราคา 1,300 วอน


      วัดทกชูซา
      เจ้าหญิง ทกชู แห่งอาณาจักรชิลลาพระองค์สุดท้ายเป็นผู้สร้างขึ้น เพิ่มบรรยากาศแห่งความลึกลับให้กับความงามตามธรรมชาติของภูเขาแห่งนี้

      อุทยานแห่งชาติเขาซงนิซาน
      อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแทจอน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแถบภาคกลางของคาบสมุทรเกาหลี ในอุทยานแห่งนี้มีวัดพ๊อพจูซา ซึ่งสร้างขึ้นใน ค.ศ.553 เคยเป็นที่พำนักของพระ 3,000 องค์ ในสมัยโบราณและได้เห็นพระพุทธรูปเมตไตรยะทองแดง ขนาดใหญ่สูงถึง 33 เมตร

      เบอร์โทร: 043-542-5267/8
      Url: http://www.npa.or.kr/songni/main.asp
      เวลาให้บริการ: 3 ชั่วโมง 40 นาที จากโซล / 1 ชม. 30 นาที จาก ชองจู หรือ แทจอน
      ราคาค่าบริการ: ราคา 3,200 วอน



       

      ย้อนขึ้น

      ทัวร์เมืองแทจอน
      ตั้งแต่เวลา 10:00 - 17:00 น. บริการทัวร์ 7 รายการ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละวัน รายการทัวร์ใช้:เวลา 7 ชม. ราคา: 6,000 วอน สำหรับรายการทัวร์ในเมือง และ 10,000 วอน สำหรับรายการทัวร์นอกเมือง

         วันจันทร์: ระบบพืชกรองน้ำวอลเพียงยอง --> สวนเอ็กซ์โป --> ดุนซาน --> สำนักงานใหญ่ซูวุงเกียว

         วันอังคาร: ศูนย์การปกครอง -> พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ -> พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา -> อุทยานประวัติศาสตร์อวม

         วันพุธ: อนุสรณ์สถานแห่งชาติ -> สวนเอ็กซ์โป -> พิพิธภัณฑ์เงินตรา -> เขื่อนแทชอน

         วันพฤหัสบดี: สนามกีฬาเวิล์ดคัพ -> พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ -> สวนสัตว์ -> สวนพีปูรี

         วันศุกร์: หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาซางซิน -> วัดดงฮักซา -> หอแทจอน

         วันเสาร์: ศูนย์การปกครอง -> สวนสัตว์ -> สวนพีปูรี

         วันอาทิตย์: ย่านยึมซาน / ย่านคงจู / ชองจู   (นอกเมือง)

         รถทัวร์ทุกรายการจะออกที่บริเวณหน้าดงบังมาร์ทตรงข้ามสถานีแทจอน บริเวณดุนซาน ซาฮัก ยองอึม เซ็นเตอร์ หรือบริเวณสำนังานบริการยูซง ฮองอิน ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวแทจอน (Tel.042-253-5960)


      ย้อนขึ้น

      ทัวร์เมืองคงจู
      10:00 น. ทุกวันอาทิตย์ ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ใช้เวลา 7 ชม.ครึ่ง บริการฟรี

      ทุกวันอาทิตย์แรกและวันอาทิตย์ที่สามของเดือน
      ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวคงจู --> ศูนย์ประชาสัมพันธ์คงจู --> สุสานกษัตริย์มูเรียง -->  วิหารกอม/วิหารเซินฮวาดัง -->  พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติคงจู --> สมรภูมิอูกึมชิ -->  พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิมลิป --> พิพิธภัณฑ์ศิลปะการแสดงพื้นบ้านคงจู (สัมผัสกับการละเล่นพื้นบ้าน) --> พิพิธภัณฑ์การศึกษาอึงจิน --> ป้อมกงซานซง --> พิธีเปลี่ยนเวรทหารรักษาพระองค์ป้อมอินจินซอง --> ลองสวมชุดแบบแพ็กเจโบราณ

      ทุกวันอาทิตย์ที่สองและวันอาทิตย์ที่สี่ของเดือน
      ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวคงจู --> ศูนย์ประชาสัมพันธ์คงจู -->  สุสานกษัตริย์มูเรียง --> พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติคงจู --> พิพิธภัณฑ์ป่า --> ศูนย์การสอนพันซอรี สวนดงจิน (มีบริการสอนพันซอรี) --> พิพิธภัณฑ์การศึกษาอึงจิน --> พิธีเปลี่ยนเวรทหารรักษาพระองค์ป้อมอึนจินซง --> ลองสวมชุดแบบแพ็กเจโบราณ

      ชื่อสถานที่: รายการทัวร์นี้ไม่คิดค่าบริการและมีคู่มือท่องเที่ยวแจก มีล่าม/มัคคุเทศก์ตลอดรายการ
      เบอร์โทร: 041-856-7700
      ข้อมูลเพิ่มเติม: ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวคงจู



       

      ย้อนขึ้น

      อาหารและการซื้อของ
      ดูรายละเอียดต่อในหัวข้อ [ช็อปปิ้ง] >>

      ย้อนขึ้น

      แผนที่ภาคกลาง
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของภาคตะวันออกเฉียงใต้

      ภาคตะวันออกเฉียงใต้ (หน้า 1/2)
      ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลี เป็นภาคที่ร่ำรวยที่สุดของเกาหลี เมืองหลักอยู่ในภาคนี้และมีร่องรอยอารยธรรมอันงามสง่าของอาณา จักรชิลล่า และเคียงจู พูซาน และแทกู


      แทกู และบริเวณใกล้เคียง
      แทกู
      แทกู[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่D1] เป็นศูนย์กลางการทอผ้าของเกาหลี เป็นหนึ่งในเมืองที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ฟีฟ่า ปี ค.ศ.2002 เป็นศูนย์กลางตลาดพืชสมุนไพรต่าง ๆ ที่ใช้ทำยาของชาวตะวันออกที่มีสถานพยาบาลแบบตะวันออกมากถึง 300 แห่ง ร้านขายยาสมุนไพร และร้านปรุงสมุนไพรรวมอยู่ด้วย หอคอยสูงวูบังตั้งตระหง่านมองเห็นวิวที่สวยงามของเมือง

      ภูเขาพัลกงซาน[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่D2] ตั้งตะหง่านอยู่เหนือตัวเมือง

      Url: http://www.daegu.go.kr
      วิธีการเดินทาง: จากกรุงโซลสู่แทกู 50 นาที โดยเครื่องบิน 3 ชั่วโมง 10 นาที โดยรถไฟ (แซมาอึลโฮ) 4 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถประจำทาง


      วัดชิกชีซา
      ก็น่าชมเช่นเดียวกัน วัดนี้ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของแทกู และท่านสามารถเดินทางโดยใช้ทางออกคิมชอนของทางด่วนเคียงบู วัดนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง เนื่องจากมีกระเบื้องหลังคาสีน้ำเงินและเสาหินที่หน้าประตูใหญ่ที่เก่าแก่อายุ 1,000 ปี พระพุทธรูปองค์เล็ก ๆ 1,000 องค์


      เบอร์โทร: 054-436-6013
      วิธีการเดินทาง: ระหว่างแทจอนและแทกู 25 นาที โดยรถบัสจากคิมชอน (2 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถไฟจากกรุงโซลถึงคิมชอน)
      ราคาค่าบริการ: 2,500 วอน


      วัดแฮอินซา
      วัดแฮอินซา[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่D4] (Tel.055-931-1001) เป็นวัดที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศเกาหลี ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติ คายาซาน (Tel.055-932-7810) สร้างขึ้นใน ค.ศ.802 เป็นที่เก็บรักษาศิลปะวัตถุจำนวนมากในอาคารทั้งหมด 90 อาคาร (ศาลเจ้า กุฎิ และอาคารย่อยต่าง ๆ) แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้แตกต่างจากวัดอื่นคือ เป็นสถานที่เก็บรักษาแผ่นไม้แกะสลักสำหรับพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับเกาหลีจำนวน 80,000 แผ่น นับเป็นการรวบรวมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่สมบูรณ์ที่สุดในเอเซียตะวันออก

      แผ่นไม้เหล่านี้ทำขึ้นในปี ค.ศ.1251 เพื่อเป็นการร้องขอให้พระพุทธเจ้าคุ้มครองประชาชนในช่วงที่กองทัพมองโกเลียกำลังรุกรานประเทศ ในปัจจุบันแผ่นไม้เหล่านี้ยังอยู่ในสภาพดีและเป็นหลักฐานในการรวบรวมและเผยแพร่พระคัมภีร์ในพุทธศาสนาที่น่าเชื่อถือที่สุด

      ในปี ค.ศ.1995 องค์การยูเนสโก้ได้จัดให้แผ่นไม้แกะสลักพระไตรปิฎก หรือชางเกียง พันจอน เป็นหนึ่งในมรดกอันมีค่าของโลก

      เบอร์โทร: วัดแฮอินซา (Tel.055-931-1001) , อุทยานแห่งชาติ คายาซาน (Tel.055-932-7810)
      วิธีการเดินทาง: ทางตะวันตกของแทกู 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถประจำทาง
      ราคาค่าบริการ: 2,800 วอน


      อันดง
      อันดง[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่D5] ( http://www.andong.go.kr ) เป็นแหล่งที่มีวิถีชีวิตแบบเกาหลีสุดท้ายแหล่งหนึ่งในสมัยโบราณให้ได้สัมผัส ซึ่งเปรียบได้กับหีบสมบัติแห่งลัทธิขงจื๊อ สิ่งที่ประทับใจนักท่องเที่ยวทุกคนคือ บ้านของผู้สูงศักดิ์ ในสมัยโบราณหรือยางบาน สมเด็จพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 2 ทรงเสด็จประพาสอันดงในเดือนเมษายน ค.ศ.1990 ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบรอบ 73 พรรษา ระหว่างเสด็จเยือนเกาหลีอย่างเป็นทางการ 4 วัน

      วัดบงเจียงซา
      ได้ชื่อว่าเป็นอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศ มีห้องโถงใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการก่อสร้างในต้นราชวงศ์โชซอน


      เบอร์โทร: 054-853-4181
      วิธีการเดินทาง: หมายเลข 51 ที่โรงเรียนประถมอันดง (1 ชม.)
      วันให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น.
      ราคาค่าบริการ: 1,300 วอน


      วิทยาลัยขงจื๊อ โทซาน
      สร้างขึ้นโดยปราชญ์ชื่อ โทเก อีฮวาง ในศตวรรษที่ 16 อยู่ในอันดง


      เบอร์โทร: 054-856-1073
      วิธีการเดินทาง: หมายเลข 67 ที่สถานีรถประจำทางอันดง (1ชม. 30 นาที)
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น. 9.00 น.-17.00 น. พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 1,600 วอน


      หมู่บ้านฮาฮวย
      เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งประกอบด้วยบ้านมุงหลังคาด้วยฟางและบ้านมุงหลังคากระเบื้องยางบาน บ้านผู้สูงศักดิ์ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงจากการแสดงพิเศษ ระบำหน้ากาก เรียกว่า ฮาฮวย เบียวชินกุท ทาวโนริ




      เบอร์โทร: 054-854-3669
      วิธีการเดินทาง: หมายเลข 46 ตรงข้ามสถานีรถประจำทางอันดง (1 ชม.20 นาที)
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น.
      ราคาค่าบริการ: 1,600 วอน


      อาณาจักรศิลปินจีเร
      จัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1988 เป็นอาณาจักรสำหรับให้ศิลปินและนักเขียนได้สรรค์สร้างงานศิลป์ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม ปัจจุบันอาณาจักรแห่งนี้เปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวจากที่ต่าง ๆ ได้มาสัมผัสกับความสมบูรณ์ทางวัฒนธรรมของครอบครัวนักปราชญ์ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ในช่วงพิธีเจซา ซึ่งเป็นพิธีระลึกถึงบรรพบุรุษที่จะมีปีละสิบครั้ง นักท่องเที่ยวจะได้เห็นพิธีการบูชาบรรพบุรุษของชาวเกาหลี หากได้จองทัวร์ไว้ ไกด์จากอาณาจักรจะรอพบคณะนักท่องเที่ยวที่สถานีรถไฟอันดง และถ้าไปถึงสถานีก่อนเวลาบ่ายสามโมง ก็อาจได้เห็นทิวทัศน์ยามอาทิตย์อัสดงที่สวยงาม ที่อาณาจักรนี้มีห้องพักอนดอล (ห้องที่พื้นห้องมีการปรับอุณหภูมิให้อุ่นและมีเสื่อและเครื่องนอนแบบเกาหลี) 14 ห้อง ค่าบริการราคาท่านละ 34,000 วอน รวมอาหารเช้าและอาหารเย็น


      เบอร์โทร: 054-822-2590
      Url: http://www.jirye.com


      ยงจู
      ยงจู
      http://www.yeongju.go.kr ประมาณ 20 ไมล์ ทางเหนือของอันดง มีรถไฟไปถึง


      วัดพูซกซา
      ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันกับยงจู เป็นอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึงในประเทศเกาหลี


      เบอร์โทร: 054-633-3258
      วิธีการเดินทาง: 2 ชม.30 นาที โดยรถจากแทกูไปพูซกซา (ต่อรถเมล์ที่ยงจู)
      เวลาให้บริการ: 6.30 น.- 18.00 น. (7.00 น.-17.30 น. เดือนพฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์)
      ราคาค่าบริการ: 1,200 วอน


      อุทยานแห่งชาติเขาจูวังซาน
      ตั้งอยู่ทางทิศใต้ปลายทางหลวงที่วิ่งตามแนวฝั่ง เป็นสถานที่ที่หลบหลีกจากประชากรหนาแน่น เมืองชายฝั่งยองด๊อก ซึ่งอยู่ใกล้กับอุทยานมีอาหารทะเลสด ๆ และปูตัวใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากใกล้กับเมืองเคียงจู ซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกมีเมืองอุตสาหกรรม เช่น โพฮัง และอุลซาน

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ฝั่งตะวันออกของอันดง
      เบอร์โทร: 054-873-0015
      Url: http://www.npa.or.kr/chuwang/main.asp
      วิธีการเดินทาง: 1 ชม. 20 นาที จากอันดง
      ราคาค่าบริการ: 2,600 วอน


      เมืองโพฮัง
      เมืองโพฮัง (
      http://www.ipohangorg) เป็นที่ตั้งของโรงงานเหล็กที่ใหญ่ POSCO (Tel.054-220-0578; http://www.posco.co.kr) และท่าเรือ เฟอร์รี่ไปยังเกาะอุลลึงโด


      เมืองอุลซาน
      เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทรถยนต์ฮันได (Hyundai Motor Company) และบริษัท ฮึนไดเฮฟวี่อันดัสตรีส์ (Hyundai Heavy Industries) นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมบริเวณนี้ได้โดยมีการบรรยายภาษาอังกฤษเกี่ยวกับความเป็นมาของบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลี


      Url: http://www.metro.ulsan.kr
      วิธีการเดินทาง: จากกรุงโซลถึงอุลซาน 1 ชั่วโมง โดยเครื่องบิน , 5 ชั่วโมง โดยรถประจำทาง



      ย้อนขึ้น
      ทัวร์เมืองแทกู
      ทัวร์เมืองแทกู มีทัวร์ที่ออกจากตัวเมือง 8 รายการ และทัวร์ที่ออกจากสนามบินนานาชาติแทกู 7 รายการ ทัวร์ออกจากศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวแทกูทุกเช้าเวลา 10:00 น. สำหรับสถานที่นั้นจะจัดตามที่มีผู้สนใจ ดังนั้น ควรโทรศัพท์ (หรือแวะชมเว็บไซต์
      http://www.daegutour.or.kr) เพื่อดูข้อมูลและจองที่นั่งล่วงหน้า สำหรับทัวร์ออกจากสนามบินนานาชาติแทกูก็เริ่มออกเดินทางเวลา 10:00 น. เช่นกัน รายการทัวร์จะแตกต่างกันไปในแต่ละวันของอาทิตย์ สำหรับผู้ใหญ่ ราคาทัวร์รายการละ 3,000 วอน

      ชื่อสถานที่: ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว
      เบอร์โทร: 053-627-8900



      ย้อนขึ้น
      ทัวร์เมืองอุลซาน
      เวลา 10:00 - 16:30 น. มีรายการทัวร์ 6 รายการ แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ระยะเวลา 6 ชม.ครึ่ง ราคา 5,000 วอน

         วันอังคาร:   ฮุนไดมอเตอร์ --> โรงเรียนขงจื๊ออุลซาน --> อุลซานดองเฮียนและแนอา  --> สวนฮักเซิง -->
                   กวานมุงเซิง --> วิทยาลัยดอกไม้ป่า

         วันพุธ:      เอสเค คอมเพล็กซ์ --> หินเชยยองอัม --> บริเวณป้อมกาอึนโพซอง --> กันเจิลกอท --> 
                   ป้อมโซแซงโปแวเซิง --> ศูนย์เครื่องปั้นดินเผาออนยางองกิ --> ศูนย์กีฬามันซู

         วันพฤหัสบดี: สุสานกษัตริย์มุนมู --> เจดีย์ในบริเวณวัดกามุนซา --> มาแอยอเรจวาซัง (พระพุทธรูปปาง
                   ประทับสลักบนหน้าหิน) --> จุดส่งสัญญาณบนยอดเนิน จูจน --> โรงงานอุตสาหกรรมหนักฮุนได 
                   -->ป่าสนแดวางอัม

         วันศุกร์:    ภูเขามูเรียงซาน --> ชายหาดกรวดจูเจิน --> ป่าสนแดวางอัม --> หินซนบาวี -->
                   และป่าไม้ซิมนิที่แม่น้ำแทฮวากัง --> ลำธารจัคเกวชน --> ศูนย์กีฬามุนซู

         วันเสาร์:    ออนยางอึบเซิง --> ตันแป๊ะก๊วย ดูซอ --> หินสลักเชินเจิน-รี และฟอสซิลรอยเท้าไดโนเสาร์ -->
                   แหล่งประวัติศาสตร์ ปาร์จเจซาง --> หินซนบาวี  --> ป่าไผ่ซิมนี ที่แม่น้ำ แทฮวางกัง

         วันอาทิตย์: เจดีย์ในบริเวณวัดกามุนซา --> สุสานกษัตริย์มุนมู --> มาแอยอเรจวาซัง (พระพุทธรูปปางประทับสลักบนหน้าหิน) --> จุดส่งสัญญาณบนยอเนินจูเจิน --> ป่าสนแดวางอัม


      จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดการเดินทางอยู่ที่โรงแรมเทฮวา
      ชื่อสถานที่: Taehwa World Tour
      เบอร์โทร: 052-271-6633
      Url: http://www.ulsancitytour.com



      ย้อนขึ้น
      เคียงจู
      เคียงจู เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรชิลลาเป็นเวลา 1,000 ปี ในหุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของ เคียงจู นั้นก็มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงวัดและโบราณวัตถุมากมายหลังจากอาณาจักรชิลลาได้รวบรวมดินแดนต่าง ๆ บนคาบสมุทรเกาหลีเข้าไว้ด้วยกันใน ค.ศ.676 เมืองเคียงจู ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งในโลก บริเวณนี้จึงได้ชื่อว่า "พิพิธภัณฑ์ไร้กำแพง" เนื่องจากมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญ ๆ มากมาย


      Url: http://www.gyeongju.gyeongbuk.kr
      วิธีการเดินทาง: จากโซลไปเคียงจู 4 ชั่วโมง 30 นาที โดยรถไฟ (แซมาอึลโฮ) 4 ชั่วโมง 15 นาที โดยรถประจำทาง


      อุทยาน ทูมูลี
      เป็นสุสานหลวงจากอาณาจักรชิลลา ก่อนการรวมประเทศในใจกลางเมืองเคียงจู ประกอบด้วยสุสาน 23 แห่งจากทั้งหมด 200 แห่งที่พบในเคียงจู ได้มีการขุดค้นสุสานชนมาชอง (สุสานม้าสวรรค์) ใน ค.ศ.1974 และพบทรัพย์สมบัติมีค่าถึง 10,000 ชิ้น หนึ่งในของมีค่าเหล่านั้นคือ มงกุฎทองและเข็มขัดซึ่งปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเคียงจู นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมสุสานดังกล่าวเพื่อให้ได้เห็นลักษณะการก่อสร้างสุสานและการจัดวางทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ภายในสุสาน นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ สุสานที่สงบร่มรื่นยังเหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย


      Url: http://054-772-6317
      วิธีการเดินทาง: 10 นาที จากสถานีเคียงจู
      เวลาให้บริการ: 7.30 น.-19.30 น.
      ราคาค่าบริการ: 1,500 วอน


      หอดูดาว ชมซงแด
      จัดเป็นหอคอยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและยังปรากฎให้เห็นจนทุกวันนี้ มีลักษณะเป็นรูปขวด สร้างด้วยหินในศตวรรษที่ 7 และเป็นที่ชื่นชมของนักโบราณคดีทั่วโลก เชื่อกันว่าทางเข้าหอคอยคือหน้าต่างทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งหันไปทางใต้ตรงกลาง หอคอยและต้องใช้บันไดพาด


      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางใต้ของสถานี เคียงจู
      เบอร์โทร: 054-772-5134
      วิธีการเดินทาง: 20 นาทีจากสถานีเคียงจู
      วันให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น. (9.00 น.-17.00 น. พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 300 วอน


      สระอันอั้บจิ
      อยู่ห่างจาก ชมซงแด ไปเพียงสิบนาที ในสมัยอาณาจักรชิลลา สระแห่งนี้เคยเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของพระราชวงศ์ ใน ค.ศ.1974 ได้มีการวิดน้ำออกจากสระ และได้ค้นพบหีบสมบัติซึ่งเต็มไปด้วยโบราณวัตถุจาออาณาจักรชิลลา ปัจจุบันนี้โบราณวัตถุดังกล่าวถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมือง เคียงจู


      เบอร์โทร: 054-772-4041
      วิธีการเดินทาง: 20 นาที จากสถานีเคียงจู
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-19.00 น. (9.00 น.-18.00 น. พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน


      พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเคียงจู
      พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเคียงจู เป็นสถานที่ที่ควรแก่การไปเยี่ยมชมอย่างยิ่ง เนื่องจากเต็มไปด้วยโบราณวัตถุต่าง ๆ จากอาณาจักรชิลลา ไม่ว่าจะเป็นมงกุฎทองคำที่งดงาม เครื่องปั้นดินเผา รูปปั้นทำจากหินและโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เก็บรักษาระฆังแห่งพระเจ้าซงดกมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ หรือที่เรียกว่า "ระฆังเอมิลเล่" นับเป็นระฆังที่ใหญ่และมีเสียงดังกังวาลมากที่สุดใบหนึ่งในเอเชีย ระฆังนี้ทำจากทองสัมฤทธิ์หนัก 19 ตัน และมีความสูง 11 ฟุต นาที

      เบอร์โทร: 054-772-5193
      วิธีการเดินทาง: 10 นาที จากสถานีเคียงจู
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น. (9.00 น.-17.00 น. พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 400 วอน


      วัดพนวางซา
      วัดพุนวางซา อยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเคียงจูเพียง 20 นาที สิ่งที่ยังปรากฎให้เห็นคือเจดีย์สูงสามชั้นซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีความสูงถึงเก้าชั้น

      เบอร์โทร: 054-742-9922
      วิธีการเดินทาง: 5 นาที จากสถานีเคียงจู , 20 นาทีจากสระอันอั้บจิ
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน


      สวนธารน้ำ โพซกชง
      อยู่ทางทิศใต้ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเคียงจู  คือสวนธารน้ำ โพซกชง ซึ่งกษัตริย์ชิลลาทรงใช้เป็นสถานที่จัดงานอ่านบทกวีและงานเลี้ยงต่าง ๆ กษัตริย์จะส่งจอกเหล้าให้กับบรรดาขุนนางด้วยการลอยจอกไปตามร่องน้ำที่ขุดเป็นรูปหอยเป๋าฮื๊อ

      เบอร์โทร: 054-745-8484
      วิธีการเดินทาง: 20 นาที จากสถานีเคียงจู
      เวลาให้บริการ: 8.00 น.-19.00 น. (9.00 น.-18.00 น. พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 500 วอน


      วัดพูลกุกซา
      วัดพูลกุกซา เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดวัดหนึ่งในประเทศเกาหลี เนื่องจากแสดงถึงฝีมือของสถาปนิก สมัยชิลลาและความเชื่อในพุทธศาสนาในสมัยนั้นอย่างแท้จริง แต่เดิมเมื่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ.535 มีทั้งสิ่งก่อสร้างที่เป็นไม้และเป็นหิน แต่ปัจจุบันนี้คงเหลือแต่สะพานบันได และเจดีย์ที่ทำจากหิน ได้มีการบูรณะวัดนี้เมื่อ ค.ศ.752

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: เชิงเขาด้านตะวันตกของภูเขาโทฮัมซาน 30 นาที จากสถานีเคียงจู
      เบอร์โทร: 054-7469913
      เวลาให้บริการ: 7.00 น.-18.00 น. (7.00 น.-17.00 น. ต.ค.-มี.ค.)
      ราคาค่าบริการ: 3,000 วอน


      ถ้ำซ็อกคูรัม
      ถ้ำซ็อกคูรัม เป็นศาสนสถานในศาสนาพุทธที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งมีอายุเก่าแก่และโบราณพอ ๆ กับวัดพุลกุกซา และมีการแกะสลักขึ้นในสมัยชิลลาเช่นเดียวกัน ศาสนวัตถุที่ถูกประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ ได้แก่พระพุทธรูปขนาดใหญ่ตรงกลาง สายพระเนตรทอดสู่ป่าเขาผ่านทะเลตะวันออกไปถึงขอบฟ้า พระพุทธรูปนี้ถูกล้อมรอบด้วยรูปปั้นของพระโพธิสัตว์และเทพยดาที่ช่วยปกปักรักษา ส่วนผนังถ้ำซึ่งเป็นรูปทรงโดมทำจากหินแกรนิตก็มีการสลักลวดลายอันวิจิตร นับเป็นอัจฉริยภาพทางสถาปัตยกรรมในปี ค.ศ.1995 องค์การยูเนสโกได้จัดให้วัดพุลกุกซา และถ้ำซ็อกคูรัม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของโลก




      เบอร์โทร: 054-746-9933
      วิธีการเดินทาง: ใกล้กับยอดภูเขาโทฮัมซาน 20 นาที จากป้ายรถเมล์พุลกุกซา
      เวลาให้บริการ: 6.00 น.-18.00 น. (7.00 น.-17.00 น. ธ.ค.)
      ราคาค่าบริการ: 3,000 วอน


      หมู่บ้านงานประดิษฐ์พื้นเมืองของเคียงจู
      ตามเส้นทางจากสถานตากอากาศโพมุนเลคไปจนถึง วัดพูลกุกซา และถ้ำซ็อกคูรัม เราจะเห็นหมู่บ้านนี้ซึ่งประกอบด้วยบ้านลักษณะพื้นเมือง 45 หลัง ชาวบ้านที่นี่จะผลิตเครื่อง ประดับทอด้วยเส้นทอง งานฝีมือ ทำด้วยไม้ หิน และดินเผา เพชรพลอย และงานเย็บปักถักร้อยต่างๆ พวกเขาจะทำงานกันในโรงปฏิบัติงานและจะแสดงให้เราชมด้วยความยินดี นอกจากนี้ยังมีอาคาร 17 แห่ง แสดงและจับจ่ายสินค้า

      เบอร์โทร: 054-746-7270
      วิธีการเดินทาง: สายที่ 10 หรือ 11 ไปหมู่บ้าน (30 นาที) จากสถานีเคียงจู
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-18.30 น. (9.00 น.-17.00 น. ช่วงเดือน พ.ย.-ก.พ.)


      สถานตากอกาศทะเลสาบโพมุน
      ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเคียงจู ประกอบด้วยโรงแรมมีระดับหรูหราถึง 5 แห่ง ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ คาสิโน ร้านค้า และร้านอาหารมากมาย, สนามกอล์ฟ, สวนสนุก, เรือสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ น้ำพุร้อนและพิพิธภัณฑ์ ซึ่งแสดงผลงานทางศิลปะทั้งยังมีบริการรถรับส่งและแท๊กซี่ระหว่างเมืองเคียงจู และสถานตากอากาศแห่งนี้ด้วย

      ยังมีสถานที่น่าชมอีกมากมายรอบ ๆ เคียงจูนั่นคือ หลุมฝังศพของกษัตริย์และเหล่านายพล ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนัมซาน หมู่บ้าน ยางดองและสถาบันการศึกษาลัทธิขงจื๊อออกซาน

      เบอร์โทร: 052-740-7330
      Url: http://www.ktd.co.kr
      วิธีการเดินทาง: 20 นาที จากสถานีเคียงจู โดยแท๊กซี่หรือรถรับส่งจากโรงแรม



      ย้อนขึ้น
      แผนที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย
      ย้อนขึ้น
      แผนที่เมืองเคียงจู
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      ภาคตะวันออกเฉียงใต้ (หน้า 2/2)
      ทัวร์เมืองเคียงจู
         วันละสองรอบ 8:30 และ 10:00 น. ใช้เวลา 7 ชั่วโมง ราคา 10,000 วอน
        
         สถานีรถด่วนประจำทางเคียงจู --> แวะที่รีสอร์ททะเลสาปโพมุน --> วัดพูลกุกซา -->  หมู่บ้านงานฝีมือพื้นเมืองเคียงจู -->  บริเวณวัดพุนวางซา -->  สุสานนายพลคิม ยูซิน  --> สวนธารน้ำโพซกซง  --> พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเคียงจู -->  หอชมซงแด  --> สุสานชนมาชง -->  สถานีรถด่วนประจำทางเคียงจู
        

      ชื่อสถานที่: Cheonma Tour
      เบอร์โทร: 054-743-6001



      ย้อนขึ้น
      พูซานและบริเวณใกล้เคียง
      พูซาน
      พูซาน เป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เชื่อมโยงกับเมืองอื่น ๆ โดยรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน

      เมือง พูซาน มีท่าเรือเฟอร์รี่ไปประเทศญี่ปุ่นและเป็นเมืองหน้าด่านสู่อุทยานแห่งชาติทางทะเลฮัลยอ เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยโรงแรมและร้านอาหารชั้นหนึ่ง รวมทั้งมีแหล่งช็อปปิ้งที่หลากหลาย หาดทรายที่สวยงามและสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ

      สถานที่ที่น่าสนใจในใจกลางเมืองพูซานคือ อุทยานยงดูซาน [
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่F1] และย่านช้อปปิ้งและแหล่งความบันเทิงที่ ควางบกดง และ นัมโพดง ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับอุทยาน

      ย่านแฟชั่นและศูนย์รวมความบันเทิงของ ควางบกดง และนัมโพดง ซึ่งเป็นที่ที่จัดเทศกาลประกวดภาพยนตร์ประจำปีในเดือนพฤศจิกายน

      ที่ตลาดปลา ชากัลชิ[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่F2] ในตอนเช้าก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวาเมื่อมีการซื้อขายปลาที่เพิ่งเข้าฝั่งมาพร้อมกับเรือประมงในตอนเช้ามืด ปลาที่ถูกถ่ายลงที่ท่าเรือและการซื้อขายก็จะเริ่มขึ้นทันที

      สุสานทหารสหประชาชาติ [คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่F3] (Tel.051-624-2165) เป็นสถานที่ฝั่งศพทหารขององค์การสหประชาชาติที่เสียชีวิตในสงครามเกาหลีเมื่อเกือบห้าสิบปีที่แล้ว แม้บรรยากาศของที่นี่จะดูเงียบขรึมแต่มีความสวยงาม

      อุทยาน แทจงแด[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่F4] อยู่ที่ปลายเกาะยงโด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของใจกลางเมืองมีลักษณะเป็นเขา ป่าทึบ และหน้าผาสูงชันติดทะเลซึ่งอยู่ต่ำลงไป 150 เมตร

      สถานที่อื่น ๆ ที่งดงามดึงดูดใจคือ หาดแฮอึนแด[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่F5] และ หาดควันกัลลิ[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่F6] หาดทั้งสองแห่งนี้มีร้านกาแฟ, ภัตตาคารและโรงแรมมากมายที่ในช่วงค่ำคืนตลอดแนวหาดจะประดับประดาไปด้วยไฟสวยงาม

      ทางเหนือของตัวเมืองคือ อุทยานคึมกัง[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่F7] ที่อยู่ไม่ไกลจากบ่อน้ำพุร้อนทงแน มีป่าลาดเอียง ลำธารน้ำไหลผ่านหินสวยหลายแบบ และโบราณ

      วัตถุทางประวัติศาสตร์หลากชนิด รวมทั้งประตูป้อมปราการและหอสูงที่สามารถขึ้นไปชมวิวสวยงามของเมืองได้โดยรถกระเช้าลอยฟ้าในบริเวณใกล้ ๆ ยังมีวัดและซากปรักหักพังของป้อมปราการโบราณ วัดโพโมซา[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่D15] ซึ่งเลยขึ้นไปทางเหนือสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 7


      Url: http://www.metro.busan.kr
      วิธีการเดินทาง: จากโซลถึงพูซาน-50 นาที โดยเครื่องบิน / 4 ชั่วโมง 20 นาที โดยรถไฟ (แซมาอึลโฮ) / 5 ชั่วโมง 20 นาที โดย รถประจำทาง


      วัดทงโดซา
      วัดทงโดซา เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลี ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเคียงจู และเมืองพูซาน บริเวณจะดูเหมือนไม่กว้างขวาง เนื่องจากสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ กระจัดกระจายอยู่ตามไหล่เขา นอกจากรูปปั้นฝีมือเยี่ยมภายในศาลเจ้าต่าง ๆ แล้ว ยังมีภาพเขียนที่สวย งามอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของวัดอีกด้วย


      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 46 กม.(28 ไมล์) ทางเหนือของพูซาน
      เบอร์โทร: 055-382-7182
      วิธีการเดินทาง: 40 นาที จากพูซาน
      ราคาค่าบริการ: 2,000 วอน


      ชินแฮ
      ชินแฮ อยู่ใกล้กับเมืองอุตสาหกรรม คือ มาซาน และ ชางวัน เป็นเมืองท่าที่มีชื่อเสียงทางตอนใต้และถนนทุกเส้นจะมีต้นเชอรี่ ซึ่งออก ดอกสะพรั่งเต็มต้นทุกปีในช่วงต้นเดือนเมษายน เมื่อดอกเชอรี่บานเต็มต้นชาวเมืองจะจัดงานรื่นเริงใกล้ ๆ กับท่าเรือเป็นเวลา 12 วัน ผู้คนจะมารวมตัวกันในย่านที่ดอกไม้บานสะพรั่งเพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ


      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางตะวันตกของพูซาน
      Url: http://www.jinhae.go.kr
      วิธีการเดินทาง: 1 ชม. จากพูซาน


      ชินจู
      ชินจู เป็นเมืองเล็ก ๆ สองฝั่งแม่น้ำนัมคัง เหมาะที่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเที่ยวชมด้านตะวันออกของอุทยานแห่งชาติเขา ซีรีซาน เมืองที่เป็นที่รู้จักอย่างดี เนื่องจากเป็นสนามรบในช่วงที่กองทัพญี่ปุ่นรุกรานประเทศ เกาหลีในปลายศตวรรษที่ 16 ปราสาท ชินจูซอง ศาลา ชกซงนู และศาลเจ้านนเก ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่หญิงชาวเกาหลีผู้สละชีวิตในการสังหารนายพลของฝ่ายตรงข้าม เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้ผู้คนระลึกถึงประวัติศาสตร์ในสมัยนั้น


      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางตะวันตกของพูซาน
      Url: http://www.jinju.go.kr
      วิธีการเดินทาง: 1ชม.30 นาที จากพูซาน


      PIFF พิฟ-เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติพูซาน
      ถึงแม้จะเพิ่งเริ่มจัดได้ไม่นาน เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติพูซาน (PIFF) ก็เป็นหนึ่งในเทศกาลภาพยนตร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเอเชีย คลาคล้ำไปด้วยบรรดาคนทำภาพยนตร์ นักแสดง นักวิจารณ์ แฟน ๆ และผู้ชมจำนวนมาก

      เทศกาลนี้เน้นภาพยนตร์เอเชียเป็นหลัก แต่ก็มีภาพยนตร์จากทั่วโลก รวมทั้งจากอเมริกาเหนือและยุโรป ซึ่งทำให้แฟนหนังสามารถเข้าใจมุมมองของแนวทางภาพยนตร์ที่สำคัญ ๆ ได้ ภาพยนตร์เหล่านี้จะฉายในโรงภาพยนตร์ที่มีอยู่มากมายแถบถนนนัมโปดอง ที่หอภาพยนตร์ในมิลลักดอง และบนจอภาพยนตร์กลางแจ้งขนาดยักษ์ที่หาดซูยองมาน งานนี้มีขึ้นในเดือนตุลาคมของทุกปี


      ชื่อสถานที่: คณะผู้จัดงาน PIFF
      เบอร์โทร: 051-747-3010
      Url: http://www.piff.org



      ย้อนขึ้น
      ทัวร์เมืองพูซาน
         วันละสองรอบ 9.00 น. และ 15.30 น. ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ราคา 10,000 วอน ปิดบริการวันจันทร์
        

      ทัวร์แฮอึนแด
      อนุสรณ์สถานสหประชาชาติ --> พิพิธภัณฑ์พูซาน -->ชายหาด ควันกัลลิ --> รีสอร์ทฮันฮวา  -->ชายหาดแฮอึนแด 
      --> โรงแรมแมริออท  --> สถานีแฮอึนแด  --> BEXCO/พิพิธภัณฑ์ศิลปะพูซาน --> วิหารชุงเรียลซา  --> สนามกีฬาอาเซียด --> สวนสำหรับเด็ก
           

      ทัวร์แทจองแด
      ตลาดพูซาน จิน --> สถานีพูซาน --> โรงแรมโคโมโด --> แทจองแด  --> จัตุรัส 7.5 ยงโด  --> จัตุรัส PIFF 
      --> สวนยงดูซาน --> สถานีพูซาน
           
           *จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดการเดินทางอยู่ที่โรงแรมล็อตเต้
           

      ชื่อสถานที่: ศูนย์บริการเดินทางแซพูซาน
      เบอร์โทร: 051-851-0600
      Url: http://www.busancitytour.com



      ย้อนขึ้น
      อาหารและการจับจ่ายซื้อของ พูซาน
      อาหาร
      พูซานมีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเล นักท่องเที่ยวสามารถเอร็ดอร่อยกับเฮว (ปลาดิบแบบเกาหลี) ได้ที่ตลาดปลาจากาลชิ หรือภัตตาคารชื่อดังมากมาย
             
      ภัตตาคารอาหารทะเลต่าง ๆ นั้น มีเรียงรายไปตามชายหาดแฮอึนแดและชายหาดควางกาลลิ และในแถบน้ำพุร้อนทงแนก็ยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของอาหารทะเลและแพนเค้กหัวหอมดิบ (พาเจิน)
             

      ตลาดกุกเจพูซานและถนนกวางบองโน
      ตลาดกุกเจมี เอกลักษณ์เฉพาะตัวมากที่สุดในพูซานและพัฒนาให้ทันสมัยแบบตลาดนัมแดมุนในกรุงโซล และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาจับจ่ายของกันมากมาย เครื่องใช้ในบ้าน เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องหนัง และเครื่องเรือนมีราคาถูกกว่าที่อื่น ปิดวันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือน
             
      ถนนกวางบองโน เป็นถนนแห่งแฟชั่นชั้นนำยาว 700 เมตร จากเมืองเก่าพูซานไปจนถึงตลาดกุ๊กเจ ณ บริเวณนี้มีแหล่งจับจ่ายสินค้าและท่องเที่ยววัฒนธรรมเป็นพัน รวมทั้งโรงละครและหอศิลป์ ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงิน ร้านอัญมณีและของที่ระลึก ร้านค้าปลอดภาษีและโรงแรม
             

      วิธีการเดินทาง: 10 นาที จากสถานีซากัลชิ และรถไฟใต้ดินสาย 1 สถานีนัมโบ-ดอง


      ตลาดปลาชากัลชิ
      ตลาดแห่งนี้เป็นที่สนใจอันดับหนึ่งของชาวต่างชาติที่มาพูซาน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นผลิตผลทางทะเลสารพัดชีวิต และยามเช้าตลาดจะคึกคักมีชีวิตชีวาน่าดูมากในยามที่มีที่มีการซื้อขายและต่อราคาปลาสดกัน ถ้าจะชมวัฒนธรรมพื้นบ้านเกาหลีละก้อ เชิญมาเที่ยวเทศกาลปลาชากัลชิในเดือนตุลาคม
             

      วิธีการเดินทาง: 5 นาที จากสถานีรถไฟใต้ดินชากัลชิ หรือสถานีรถไฟใต้ดินนัมโพดง สาย 1
      วันให้บริการ: ทุกวันเสาร์แรกของเดือน



      ย้อนขึ้น
      อุทยานแห่งชาติทางทะเล ฮัลยอ
      หรืออีกชื่อหนึ่งคือ อุทยานน้ำฮัลยอ เป็นเส้นทางทางทะเลยาว 93 ไมล์ ระหว่าง เกาะโคเจโด[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่G1] ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ พูซาน และ ยอซู[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่G2] ทางตะวันตก

      บริเวณนี้เต็มไปด้วยเกาะแก่งต่าง ๆ ถึง 400 เกาะ ส่วนใหญ่ไม่มีคนอาศัยอยู่ชายฝั่งที่คดเคี้ยว ทำให้เกิดหินรูปร่างแปลก ๆ และถ้ำ เหมาะกับการล่องเรือเที่ยวชม

      นอกเหนือจากทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามแล้ว บริเวณนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่นายพลอีซุนชิน สามารถเอาชนะกองทัพเรือญี่ปุ่นหลายครั้งในช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นรุกรานประเทศเกาหลี ในศตวรรษที่ 16 นายพลอีเป็นผู้ประดิษฐ์เรือรบหุ้มเกราะเพื่อใช้ในสงครามเป็นครั้งแรก


      วิธีการเดินทาง: จากโซลถึงยอซู -1 ชั่วโมงโดยเครื่องบิน / 5 ชั่วโมง 40 นาที โดยรถไฟ (แซมาอึลโฮ) / 5 ชั่วโมง 50 นาที โดย รถบัส


      ทงยง
      ทงยง (
      http://www.gnty.net) ครั้งหนึ่งเคยเป็นกองบัญชาการ กองทัพของนายพลอี ปัจจุบันนี้เป็นเมืองท่าที่น่าไปเยี่ยมชมมีโรงแรม ร้านอาหารทะเลชั้นเยี่ยม และอุปกรณ์กีฬาทางน้ำที่ครบครัน นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าต่าง ๆ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงนายพลอี นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือจากเมืองนี้ไปยังเกาะฮันซานโด ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายพลอี สามารถเอาชนะกองทัพญี่ปุ่นได้ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1592 และเมืองนี้ก็มีชื่อเสียงโด่งดังจากผลิตภัณฑ์เครื่องเขิน โดยมีเปลือกหอยมุกเป็นวัตถุดิบเครื่องเขินนาเจิน ชิลจินี้ผลิตกันมานานถึง 400 ปีทีเดียว
        

      โคเจโด
      โคเจโด เป็นเกาะใหญ่เกาะหนึ่งในอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งนี้ ทางด้านใต้ของเกาะเป็นหน้าผารูปร่างแปลกประหลาด เรียกว่า แฮกึมกัง โผล่พ้นน้ำทะเลสีฟ้าสดใส เต็มไปด้วยต้นสน และดอกคาเมลเลียที่สวยงาม
        

      เกาะสวรรค์โอโด
      เกาะสวรรค์โอโด มีชื่อเสียงทางด้านสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนประมาณ 3,000 ชนิด รวมถึงดอกคาเมลเลีย และตะบองเพชร สวนรูปปั้นแกะสลักและหอคอย
        



      เบอร์โทร: 031-717-2200
      Url: http://www.oedoisland.com
      วิธีการเดินทาง: จากสถานีรถประจำทางนัมบู กรุงโซลไปยังเกาะโคเจโด (5 ชั่วโมงครึ่ง) ลงเรือเฟอร์รีโอโดจากท่าเรือเฟอร์รีกู โจรา, วาเฮียน, ฮักดง, โดจางโพ, จางซังโพ หรือแฮกึมกัง (15 นาที)
      เวลาให้บริการ: 8.00 น.-17.30 น.
      ราคาค่าบริการ: 5,000 วอน


      โอดงโด
      โอดงโด เป็นอีกเกาะหนึ่งทางด้านใต้ของอุทยานแห่งชาติซึ่งมีสะพานเชื่อมกับเมืองยอซู บนฝั่ง บนเกาะนี้มีต้นไผ่ชนิดพิเศษขึ้นอยู่มากมาย
        

      เกาะนัมแฮโด
      เกาะนัมแฮโด มีสะพานแขวนเรียกว่า สะพานนัมแฮ[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่G8] ข้ามไปยังแผ่นดินใหญ่ ยาว 660 เมตร นับเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในประเทศด้านตะวันออก มีถนนต่อจากสะพานนี้ผ่านเมือง นัมแฮ ตรงไปยังชายหาด ซางจู ทางใต้ เกาะนี้เต็มไปด้วยยอดเขาสูงสลับกับที่ราบต่ำ
        
      มีรอยเท้าของไดโนเสาร์มากกว่า 2,000 รอย ภายในสวนหินแซงโจกัม[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่G9] ตามชายฝั่งที่เดียงเมียง-รี ไฮเมียน, โกเซิง พบทั้งรอยเท้าของไดโนเสาร์ที่กินเนื้อ และกินพืชเป็นอาหาร อาทิเช่นบรอนโทซอรัสและไทรันโนซอรัส สันนิษฐานว่าพบรอยเท้าจำนวนมาก ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อน้ำขึ้นสูงรอยเท้าบางรอยมีน้ำขังอยู่ แต่สามารถเห็นได้ชัดเจนเมื่อเวลาน้ำลง บริเวณแห่งนี้เป็น 1 ใน 3 แห่งที่พบรอยเท้าของไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอีก 2 แห่ง คือในประเทศบราซิลและประเทศแคนาดา
        



      เบอร์โทร: 055-670-2271
      วิธีการเดินทาง: จากสถานีรถประจำทางนัมบูในกรุงโซลไปยังโกเซิง (6 ชั่วโมง) สำหรับเดียงเมียงรี


      แวะเที่ยวที่หมู่บ้านจองฮักดง
      เหมือนการเดินทางไปสู่อดีต ชาวบ้านที่นี่อาศัยอยู่ในบ้านหลังคาฟางและสวมใส่เสื้อผ้าแบบโบราณของเกาหลี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในหมู่บ้านได้ทุกวัน
        

      เบอร์โทร: 055-883-2609
      วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถฮาดง-บอน จากท่ารถนัมบูในกรุงโซลจากนั้นต่อรถไปที่หมู่บ้าน


      นายพล อี ซุน ชิน
      เป็นวีรบุรุษสงครามของประเทศเกาหลี มีความสำคัญต่อประเทศในลักษณะเดียวกันกับนายพลเนลสัน มีความสำคัญต่อประเทศ ในปลายศตวรรษที่ 16 ได้เกิดสงครามในประเทศเกาหลีเพื่อต่อต้านการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่น แม้ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ แต่ นายพล อี ก็สามารถเอาชนะข้าศึกทุกครั้งไป โดยใช้กลยุทธอันชาญฉลาดและการใช้เรือรบแบบพิเศษที่เรียกว่า โคบุกซอน (เรือเต่า) ในการทำสงคราม นายพล อี จึงเป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์เกาหลี มีการสร้างอนุสาวรีย์ต่าง ๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่าน เช่นรูปปั้น ของนายพล อี ที่ถนนเซจงโน ใจกลางกรุงโซล (หน้าอาคารเคียวโบ) ศาลเจ้า เฮียนชุงซา ในอาซาน ชุงชองนัมโด และ เชเซินดัง ในทงยง เคียงซางนัมโด
           


      ย้อนขึ้น
      อาหารและการซื้อของ
      ดูรายละเอียดต่อในหัวข้อ [ช็อปปิ้ง] >>
      ย้อนขึ้น
      แผนที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลฮัลยอ
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย
      ย้อนขึ้น
      สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของภาคตะวันตกเฉียงใต้

      ภาคตะวันตกเฉียงใต้
      ภาคตะวันตกเฉียงใต้
      เขตนี้ได้รับการขนานนามให้เป็นคู่ข้าวอู่น้ำแห่งเกาหลีอยู่บ่อย ๆ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เกาหลีมีลักษณะเป็นทุ่งนาที่อุดม สมบูรณ์จนมีชื่อเรียกว่า "อู่ข้าวของเกาหลี" พื้นที่เกษตรกรรมค่อย ๆ ลาดลงสู่พื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งคดเคี้ยวไปมาตามลักษณะของอ่าวเล็ก ๆ จำนวนมาก

      ถ้าคุณเดินทางไปตามทางด่วนสาย โฮนัม เพียงครึ่งทางจะพบเมือง ชนจู[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่H1] ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกระดาษสาแบบเกาหลีดั้งเดิม หรือฮันจิ ชาวเกาหลีใช้กระดาษสานี้ในศิลปะการคัดตัวอักษรการทำร่ม พัด และของอื่น ๆ นอกจากนี้เมือง ชนจู ยังมีอาหารที่มีชื่อเสียงคือ พีบิมปับ (ข้าวคลุกผักชนิดต่าง ๆ และหมูสับใส่ในชามใหญ่) คุณจะพลาดชิมอาหารจานนี้ไม่ได้ทีเดียว

      Url: http://www.jeonju.go.kr
      วิธีการเดินทาง: จากโซลถึงชนจู 3 ชั่วโมง โดยรถไฟ (แซมาอึลโฮ) หรือ 3 ชั่วโมง โดยรถประจำทาง


      หมู่บ้านชนจู ฮันอก
      หมู่บ้านชนจู ฮันอก อยู่ในบริเวณคาบเกี่ยวกับพุงนัมดองและเกียวดอง มีบ้านแบบเกาหลีที่เรียกกันว่า ฮันอก อยู่กว่า 800 หลัง ถึงแม้ว่า บริเวณเมืองโดยรอบจะเปลี่ยนไปเป็นสังคมอุตสาหกรรม หมู่บ้านนี้ก็ยังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และยังคงยึดถือประเพณีแบบดั้ง เดิม

      หากต้องการสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลี ก็ควรที่จะได้แวะชมสถานที่สำคัญหลายแห่งในหมู่บ้านฮันอกนี้

      ศูนย์วัฒนธรรมชนจู
      ศูนย์วัฒนธรรมชนจู (Tel.063-280-7000;
      http://www.jtculture.or.kr) มีสถานที่แสดงดนตรีเกาหลี ร้านน้ำชา ภัตตาคาร และห้องโถง สำหรับจัดงานแต่งงาน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและลิ้มลองวัฒนธรรมเกาหลีผ่านรายการชั้นเยี่ยมมากมาย ร้านงานประดิษฐ์โอมกแด (Tel.063-285-4403) ตั้งอยู่บริเวณบ้านแบบฮันอกอันสง่างาม มีห้องแสดงผลงานและร้านจำหน่ายสินค้าถึง 8 แห่ง จำหน่ายงานฝีมือที่มีความวิจิตรงดงามและงานฝีมือพิเศษของชนจู เช่น พัดที่ประดิษฐ์ด้วยมือ และฮันจิ หรือกระดาษเปลือกต้นหม่อน

      นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจ เช่นรายการสัมผัสชีวิตฮันอก ที่จัดขึ้นโดยศาลากลางจังหวัดชนจู นักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักได้ที่บ้านฮักอก แซฮวากวัน (Tel.063-2876300) และสัมผัสกับชีวิตแบบเกาหลีโบราณ พักในห้อง ซนบีบัง (ห้องสุภาพบุรุษ) และห้อง เกียวซูบัง (ห้องสุภาพสตรี) บนเสื่อผืนหนา รวมทั้งมีบริการอาหารประจำชาติที่จัดแต่งมาอย่างประณีต ราคาค่าที่พักต่อคืน สำหรับสองคน ราคา 100,000 วอน สำหรับห้องซนบีบังและเกียวซูบัง และ 50,000 วอน สำหรับห้องธรรมดา ซึ่งราคานี้รวมอาหารเช้าแบบพื้นเมือง

      พิพิธภัณฑ์สุราพื้นเมืองเกาหลี
      พิพิธภัณฑ์สุราพื้นเมืองเกาหลี (Tel.063-287-6305) วิหารเกียงกิจน และโบสถ์คาทอลิก เจินดอง ก็อยู่ในระยะที่เดินถึงจากหมู่บ้าน


      วิธีการเดินทาง: จากสถานีรถประจำทางชนจูขึ้นรถบัสตลาดนัมบู และลงที่โบสถ์คาทอลิก จนดง หรือขึ้นรถบัสโรงแรมริเวียรา จากสถานีชนจู และเดินอีก 20 นาที ถึงหมู่บ้านฮันอก


      อุทยานจังหวัด ภูเขามาอีซาน
      อุทยานจังหวัด ภูเขามาอีซาน (Tel.063-430-2556) อยู่ทางทิศตะวันออกของ ชนจู ในบริเวณนี้มียอดเขาสูงสองยอดที่มีรูปร่างเหมือนหูม้า จึงมีชี่อว่า มาอีซาน (ภูเขาหูม้า)

      ที่เชิงเขาเป็นที่ตั้งของวัดแท็บซา ซึ่งมีเจดีย์ทำจากหินอยู่ถึง 80 เจดีย์ บางเจดีย์สูงถึง 10 เมตร ผู้คนได้กล่าวเกี่ยวกับวัดแห่งนี้มีอยู่ว่า พระองค์หนึ่งซึ่งอยู่ที่วัดนี้โดยลำพังได้สร้างเจดีย์ทั้งหมดขึ้นเพื่อบำเพ็ญกุศลเพื่อสันติภาพ เจดีย์เหล่านั้นยังอยู่ในสภาพที่ดีแม้ว่าจะต้องทนต่อลมแรง นับเป็นอนุสรณ์สถานแห่งศาสนาพุทธที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง

      วิธีการเดินทาง: 30 กม. ทางทิศตะวันออกของชนจู 50 นาที จากชนจู
      ราคาค่าบริการ: 2,000 วอน


      วัดคึมซานซา
      วัดคึมซานซา เป็นวัดที่สวยงามอยู่ห่างจาก ชนจู ไป 20 ไมล์ทางตะวันตกเฉียงใต้ ทางใต้ของวัดคืออุทยานแห่งชาติ ภูเขาแนจางซาน[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่H4] และวัดเพ็กยังซา (ซึ่งสร้างในศตวรรษที่ 7 อุทยานแห่งนี้มีความงดงามเป็นพิเศษในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง)

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางใต้ของชนจู
      เบอร์โทร: 063-538-7875
      Url: http://www.npa.or.kr/naejang/main.asp
      วิธีการเดินทาง: 40 นาที จากชงอับ (ชนจูห่างจากชงอับ 1 ชั่วโมง)
      ราคาค่าบริการ: 2,600 วอน


      สถานชมหินโกชาง
      สถานชมหินโกชาง ในปี ค.ศ.2000 องค์การยูเนสโกได้จัดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมโลกประกอบด้วยกลุ่มหินมากว่า 2,000 จัดแบ่งเป็นกลุ่มหินใหญ่ ๆ 85 หมวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หมู่บ้านเมซานเมืองจุงนิมรี, โกชางกุนมีกลุ่มหิน 440 กลุ่มเรียงรายกันตามเนินเขาเป็นระยะทางยาว 1.76 กิโลเมตร กลุ่มหินนี้มีขนาดใหญ่มีน้ำหนักตั้งแต่ต่ำกว่า 10 ตัน จนถึง 200 ตัน

      เบอร์โทร: 063-560-2793
      วิธีการเดินทาง: การเดินทางโดยรถบัสด่วนจากกรุงโซลไปยังโกชางกันใช้เวลา 4 ชั่วโมง และต้องนั่งแท็กซี่อีก 10 นาที


      ควางจู
      ควางจู (
      http://www.metro.gwangju.kr) อยู่ห่างจากกรุงโซล 4 ชั่วโมง ไปทางใต้ของเกาหลีโดยรถยนตร์หรือรถไฟ กว่าศตวรรษที่ควางจู เป็นศูนย์กลางด้านการบริหาร เศรษฐกิจ และการศึกษา ซึ่งรวมถึงจังหวัดซอลลานัม-โด ด้วย ควางจูยังมีชื่อเสียงในการจัดงานเทศกาลกิมจิในเดือนตุลาคม และงานมหกรรมศิลปะทวิวรรษควางจู


      ภูเขามูเดิงซาน
      ภูเขามูเดิงซาน อยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง ตั้งตระหง่านอยู่เหนือตัวเมืองราวกับจะปกป้องเมืองนี้ มีชื่อเสียงในเรื่องแตงโมและชา เขียวชุนโซลซา ซึ่งทำจากยอดอ่อนของใบชาที่ผลิขึ้นกลางหิมะในต้นฤดูใบไม้ผลิ


      วิธีการเดินทาง: โซลไปควางจู -45 นาที โดยเครื่องบิน 3 ชั่วโมง 50 นาที โดยรถไฟ (แซมาอึลโฮ) 3 ชั่วโมง 55 นาที โดยรถ ประจำทาง


      JIFF เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติชนจู
      เป็นเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติอันดับที่ 3 ของเกาหลี ถัดจากเทศกาลภาพยนตร์ในพูซานและพูชน หลากหลายด้วยภาพยนตร์อัลเตอร์เนทีฟ ภาพยนตร์ดิจิตอล และภาพยนตร์อิสระของเอเชียมากมาย

      ชื่อสถานที่: คณะกรรมการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติชนจู
      เบอร์โทร: 063-288-5433, 02-312-0662 (สำนักงานที่กรุงโซล)
      Url: http://www.jiff.or.kr


      ทัมยาง
      อยู่ห่างจาก ควางจู ไปทางเหนือ 22 กิโลเมตร เป็นศูนย์กลางการปลูกไผ่และงานศิลปหัตถกรรมที่ทำจากไม้ไผ่ เช่น เครื่องเรือน เครื่องใช้ในบ้าน และงานศิลปะต่าง ๆ ทุกวันที่ห้าของเดือนจะมีตลาดสินค้าที่ทำจากไม้ไผ่โดยเฉพาะ

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางเหนือของ ควางจู
      Url: http://www.damyang.jeonnam.kr
      วิธีการเดินทาง: 30 นาที จากควางจู


      พิพิธภัณฑ์ไม้ไผ่ ทัมยาง
      เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับต้นไผ่แห่งเดียวในโลก มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ไผ่จากแถบ ทัมยาง ทั้งที่เป็นของเก่าและของใหม่ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ และที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ไผ่จำหน่ายอีกด้วย

      เบอร์โทร: 061-380-3358
      วิธีการเดินทาง: 10 นาที จากสถานีรถประจำทางทัมยาง
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น. (9.00 น.-17.00 น.ในเดือน พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 500 วอน


      โซแววอน
      โซแววอน เป็นสวนสไตล์โชซอนยุคกลาง ที่ด้านหน้าทางเข้าจะมีซุ้มป่าไผ่ที่สวยงาม ภายในกำแพงเหนือก้อนหินมีน้ำใสไหลผ่านเรื่อยลงไปในลำธาร ด้านข้างเป็นห้วยลึกมีบ้านแบบฤดูร้อนหลังเล็ก ๆ ตั้งเรียงราย ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการแวะชมคือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม

      โบซอง
      โบซอง เป็นต้นกำเนิดของโซเพียนเจ ซึ่งเป็นพันซอรีหรือเพลงมุขปาฐะ ในแบบของภาพตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากนี้ โบซองยังเป็นแห ล่งปลูกชาเขียวมากถึง 40% ของชาเขียวทั้งหมดในประเทศ เทศกาลหอมกลิ่นชาเขียว (ดาฮยางเจ) จะมีขึ้นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวในช่วงฤดู ใบไม้ผลิ ในเทศกาลนี้มีการแข่งขันเก็บใบชา การเข่งขันชงชา และการสาธิตพิธีชงชา นอกจากนี้ การลองใช้บริการสปาเขียวในโบซอง ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ



      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางใต้ของควางจู
      Url: http://www.boseong.jeonnam.kr
      วิธีการเดินทาง: 1 ชั่วโมงครึ่ง จากควางจู


      เมืองนัมวอน
      เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์เมืองหนึ่งในแถบนี้ และเป็นด่านเพื่อผ่านเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ชีรีซาน ที่เมืองนี้เป็นบ้านเกิดของชุนยาง ตำนานเกี่ยวกับหญิงสาวผู้จงรักภักดีผู้หนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองนี้ และเป็นที่มาของเพลงแบบเกาหลีที่มักนิยมร้องบ่อย ๆ พันซอรี ชุน ยางกา

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางตะวันออกเฉียงใต้ของชนจู
      Url: http://www.namwon.jeonbuk.kr
      วิธีการเดินทาง: 3 ชั่วโมง 50 นาที จากโซล 1 ชั่วโมง 20 นาที จากชนจู


      อุทยานแห่งชาติ ภูเขาชีรีซาน
      อุทยานแห่งชาติ ภูเขาชีรีซาน เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกในประเทศเกาหลี และเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขา ฮัลลาซานที่เชจูโด อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว้างใหญ่ และยอดเขาสูงต่าง ๆ รวมถึง ชนวางบง ซึ่งมีความสูง 1,915 เมตร ครอบคลุมถึงสามจังหวัด คือ ชอลลานัมโด, ชอลลาบุกโด, เคียงซางนัมโด ในบริเวณภูเขา ชีรีซาน มียอดเขาที่สูงตระหง่านมากมายแต่ผู้ที่จะปีนขึ้นไปบนยอดเขาเหล่านี้จะต้องมีประสบการณ์และอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการปีน นอกจากนี้ยังมีลำธารไหลผ่านป่าที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และทะเลหมอกที่ปกคลุมยอดเขา ส่วนในบริเวณเชิงเขาเป็นที่ตั้งของวัดในศาสนาพุทธหลายวัด เช่น วัด ฮวาอมซา และซากปรักหักพังต่าง ๆ

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางตะวันออกของนัมวอน
      เบอร์โทร: 061-783-9100/2
      Url: http://www.npa.or.kr/chiri/chiri.htm
      วิธีการเดินทาง: 1 ชั่วโมง จากนัมวอน 1 ชั่วโมง 30 นาที จากควางจู
      ราคาค่าบริการ: 3,000 วอน


      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย
      วัดฮวาอมซา
      เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาวัดทั้งเจ็ดแห่งในแถบ ชีรีซาน วัดเดิมที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.544 ได้ถูกไฟไหม้และมีการ สร้างวัดใหม่ขึ้นทดแทนใน ค.ศ.1606 โดยยังคงเก็บรักษาของมีค่าต่าง ๆ ไว้ เช่น คักวางจอน หรืออาคารไม้แบบเกาหลีดั้งเดิม และแทอึงจอน เป็นอาคารที่มีชื่อเสียง ซึ่งสร้างโดยไม่ต้องใช้ตะปู นอกจากนี้ต้นเชอรี่ที่ผลิดอกบานสะพรั่ง และต้นเมเปิลยังเพิ่มความงดงามให้กับบริเวณนี้อีกด้วย

      วัดซงควางซา
      อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้และเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ สร้างขึ้นในสมัยชิลลาและกลายเป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธลัทธิเซ็นในศตวรรษที่ 12

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ทางตะวันออกเฉียงใต้ของควางจู
      เบอร์โทร: 061-755-0107
      วิธีการเดินทาง: 1 ชั่วโมง 30 นาที จากควางจู
      ราคาค่าบริการ: 2,300 วอน


      วัดอึนจูซา
      วัดอึนจูซาห่างจากเมือง ฮวาซุน-อึบ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 26 กม. ผู้ที่สร้างวัดนี้ขึ้นในสมัยชิลลา (ค.ศ.676-935) คือพระภิกษุในศาสนาพุทธชื่อ โทซน กุกซา วัดแห่งนี้แต่เดิมประกอบด้วยเจดีย์ 1,000 องค์ และพระพุทธรูป 1,000 องค์ แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงเจดีย์ 18 องค์และพระพุทธรูป 80 องค์ เป็นที่เชื่อกันตามหลักการทำนายอนาคต โดยใช้ลักษณะทางภูมิศาสตร์ว่า คาบสมุทรเกาหลีมีความไม่สมดุลย์ และมีแนวโน้มที่จะจมลงเนื่องจากด้านตะวันตกเฉียงใต้ หรือแถบโฮนัม มีภูเขาน้อยกว่าด้านตะวันออกเฉียงใต้หรือแถบยงนัม ดังนั้นผู้คนจึงช่วยกันป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยการไปสร้างพระพุทธรูและเจดีย์หลายพันองค์ไว้ทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทร

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ห่างจากควางจูไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 40 กม.
      เบอร์โทร: 061-374-0660
      วิธีการเดินทาง: 1 ชั่วโมง 30 นาที จากควางจู
      ราคาค่าบริการ: 1,300 วอน


      เมืองมกโพ
      เป็นเมืองท่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรและมีอาหารทะเลสดที่ขึ้นชื่อ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปมาระหว่าง มกโพ กับ เกาะฮงโด โดยเรือไฮโดรฟอยล์ เกาะฮงโด[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่H18] ซึ่งมีโขดหินรูปร่างแปลกประหลาดก็เป็นที่ชื่นชอบของนักถ่ายภาพใกล้ ๆ กับเมือง มกโพ มีเกาะชื่อ ชินโด ซึ่งมีปรากฎการณ์ธรรมชาติอันแปลกประหลาด

      น้ำทะเลช่วงระหว่าง เกาะชินโด[คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่H19] กับเกาะใกล้เคียง ทางใต้จะลดลงอย่างมากปีละสองครั้งจนทำให้สามารถเดินข้ามไปมาระหว่างสองเกาะได้ชาวเกาหลีเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า เหตุการณ์มหัศจรรย์ของโมเลส

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: อยู่ทางใต้ของมกโพ 120 กม.
      Url: http://www.mokpo.go.kr
      วิธีการเดินทาง: 2 ชั่วโมง 30 นาที จากควางจู , 1 ชั่วโมง 10 นาที จากมกโพ


      ซากรอยเท้าฟอสซิลของไดโนเสาร์ที่อูฮัง-รี
      มีรอยเท้าของไดโนเสาร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกประมาณ 1,000 รอย ของนกที่มีเท้าติดกันเป็นพืดอย่างเป็ด และพบรอยเท้าของไดโนเสาร์ชนิดบินได้ขนาดใหญ่ประมาณ 300 รอย และพบรอยเท้าของไดโนเสาร์ชนิดอื่น ๆ ประมาณ 500 รอย ในยุคเดียวกันทั้งหมดนี้ครอบคลุมตามแนวชายฝั่งในอูฮัง-รี, ฮวางซัลเมียน, แฮนัม-กุน ไดโนเสาร์กลุ่มนี้ สันนิษฐานได้ว่าอาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้ประมาณ 83 ล้านปีมาแล้ว ระหว่างสมัยครีตาเซียสของยุคเมโสโซอิค รอยเท้าของเตอร์โรเสาร์บางรอยมีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร นับว่าใหญ่ที่สุดในโลก

      เบอร์โทร: 061-532-7225
      วิธีการเดินทาง: นั่งรถจากสถานีขนส่งสายด่วนจากกรุงโซลไปแฮนัม (5 ชั่วโมง 30 นาที) นั่งรถไปถึงฮวางซันเมียน (30 นาที) หรือนั่งแท๊กซี่ไปถึงที่
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น. (9.00 น.-17.00 น.ในเดือน พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน


      แดกูเมียนใน กังจิน
      แดกูเมียนใน กังจิน เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงยาวนานด้านงานดินเผาศิลาดลและเป็นที่ผลิตผลงานดินเผาศิลาโคเรียวที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันมีเตาเผากว่า 180 เตา ที่ผลิตผลงานออกมาราว 5,000 ชิ้นทุกปี เทศกาลวัฒนธรรมการปั้นดินเผาศิลาดลจะจัดขึ้นในกลางเดือนสิงหาคมของทุกปี

      วิธีการเดินทาง: จากสถานีรถด่วนประจำทางกรุงโซลถึงกังจิน (5 ชั่วโมงครึ่ง) รถประจำทางเมืองมายางลงที่หมู่บ้านศิลาดล (15 นาที)


      หมู่บ้านพื้นเมืองนาการอึบซอง
      มีความพิเศษที่ครอบครัวจำนวน 108 ครอบครัว อาศัยอยู่ในเมืองป้อมปราการโบราณแห่งนี้ เดือนตุลาคมของทุกปีจะมีงานเทศกาลอาหารที่ยิ่งใหญ่ตามแบบประเพณีเก่าแก่กว่าร้อยชนิด

      เบอร์โทร: 061-749-3893
      วิธีการเดินทาง: 4 ชั่งโมง 50 นาที จากสถานีโซลไปยังซุนชอน จากนั้นต่อรถประจำทางไปหมู่บ้าน



      ย้อนขึ้น
      อาหารและการซื้อของ
      ดูรายละเอียดต่อในหัวข้อ [อาหารและการซื้อของ]
      ย้อนขึ้น
      แผนที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเกาะเจจูโด

      เชจูโด
      เชจูโด หรือเกาะเชจู ซึ่งอยู่ทางใต้ของโซลเป็นหนึ่งในจังหวัดทั้งเก้าประเทศเกาหลี หากคุณเดินทางโดยเครื่องบินจากโซลจะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ทั้งยังมีเที่ยวบินตรงจากโตเกียว โอซากา นาโงย่า ฟูกูโอกะ เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง มายัง เชจู อีกด้วยหรือคุณจะเดินทางมาจาก พูซาน วานโด อินชน ยอซู หรือ มกโพ โดยเรือเฟอร์รี่ก็ได้ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่แยกออกไปจากแผ่นดินใหญ่ และมีบรรยากาศโรแมนติคแบบประเทศในเขตร้อน โดยมีสี่ฤดูและอากาศอบอุ่นสบาย อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 15 องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปีและในฤดูร้อนอุณหภูมิโดยเฉลี่ยคือ 22-26 องศาเซลเซียส คู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานและนักท่องเที่ยวจึงนิยมไปเที่ยวที่เกาะแห่งนี้

      Url: http://jeju.go.kr


      ตัวเมือง เชจู และเชจูโด ฝั่งตะวันออก
      ตัวเมืองเชจู
      เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญในแถบชายฝั่งด้านเหนือส่วนกลาง และมีสนามบินนานาชาติ รวมทั้งเป็นที่ ตั้งของโรงแรมทั้งแบบตะวันตกและแบบเกาหลี

      บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของเชจู มีภูมิประเทศเป็นหินภูเขาไฟรูปทรงแปลกประหลาดคล้ายกับมังกรกำลังอ้าปาก เรียกว่า โขดหิน ยงดูอัม[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่I2] จึงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว    

      Url: http://www.jejusi.go.kr
      วิธีการเดินทาง: จากโซลถึงเชจู 1 ชั่วโมง โดยเครื่องบิน / 5 ชั่วโมง 30 นาที จากมกโพ โดยเรือ 7 ชั่วโมง จากยอซูโดยเรือ


      สวนทัมนา มกซกวน
      ใน สวนทัมนา มกซกวน[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่I3] มีการจัดวางหินซึ่งแกะสลักเป็นรูปร่างต่างๆ สลับกับรากไม้แห้ง

      เบอร์โทร: 064-702-0203
      วิธีการเดินทาง: รถประจำทางสาย 500 หรือ 502 จากสนามบินเชจู (30 นาที)
      เวลาให้บริการ: 8.00 น.-18.00 น. (8.00 น.-17.00 น. เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)
      ราคาค่าบริการ: 2,000 วอน


      พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน เชจู
      พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน เชจู เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่มีลักษณะเฉพาะของเชจู

      เบอร์โทร: 064-755-1976
      วิธีการเดินทาง: 15 นาที จากโรงแรม Jeju KAL
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น.
      ราคาค่าบริการ: ฟรี (จุลสารราคา 1,000 วอน)


      พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน และธรรมชาติวิทยา เชจู
      ภายใน พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน และธรรมชาติวิทยา เชจู มีการจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้าน ไม้พันธุ์ต่าง ๆ สัตว์ และแร่ธาตุซึ่งพบได้ตามธรรมชาติใน เชจูโด

      เบอร์โทร: 064-722-2465
      วิธีการเดินทาง: ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรม Jeju KAL 10 นาที
      เวลาให้บริการ: 8.30 น.-17.30 น.(8.30 น.-17.30 น. พ.ย.-ก.พ.)
      วันให้บริการ: เป็นเวลา 12 วัน รวมวันซอลลัลและวันชูซก
      ราคาค่าบริการ: 1,470 วอน


      อุทยานแห่งชาติภูเขา ฮัลลาซาน
      อุทยานแห่งชาติภูเขา ฮัลลาซาน ประกอบด้วยภูเขา ไฟสูงตระหง่านที่ได้ดับไปเป็นเวลานานแล้ว และทุ่งนา ป่าเขา หมู่บ้านเล็ก ๆ และโรงแรมชั้นดีบนหาดทรายขาวสะอาด มีทางหลวงตัดข้ามเกาะ 5.16 และ 1,100 โรดส์ ตัดผ่านด้านที่ไม่สูงชักนักของอุทยานแห่งนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนบนเกาะแห่งนี้ คุณจะสามารถมองเห็นยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมโผล่พ้นกลุ่มเมฆ ภูเขา ฮัลลาซาน มีความสูง 1,950 เมตรจากระดับน้ำทะเลและเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศ

      เบอร์โทร: 064-713-9950
      Url: http://www.npa.or.kr./halla
      วิธีการเดินทาง: มีทางหลวง 5.16 และ 1,100 โรดส์
      ราคาค่าบริการ: 1,300 วอน


      ปากปล่องภูเขาไฟ ซานกึมบูรี
      ปากปล่องภูเขาไฟ ซานกึมบูรี เป็นหนึ่งในปากปล่องภูเขาไฟทั้งสามแห่งบนเกาะ เชจู อีกสองแห่งได้แก่ ทะเลสาบ เพ็งนกทัม ที่ยอดเขา ฮัลลาซาน และซงซานโป หรือยอดเขาตะวันขึ้น

      ปากปล่องภูเขาไฟ ซานกึมบูรี มีเส้นรอบวงยาว 2 กม. ในบริเวณนี้มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ทั้งแบบกึ่งโซนร้อนแบบภูมิอากาศอบอุ่น และแบบภูเขาทั้งหมด 420 ชนิด จนเป็นที่รู้จักในหมู่นักพฤษศาสตร์ว่า เป็นขุมสมบัติแห่งพรรณไม้ เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปเยือนปากปล่องภูเขาไฟซานกึมบูรี คือในฤดูร้อน หรือฤดูใบไม้ร่วง

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: อยู่ทางตะวันออกของฮัลลาซาน
      เบอร์โทร: 064-783-9900
      วิธีการเดินทาง: รถประจำทาง 35 นาที จากตัวเมืองเชจู
      เวลาให้บริการ: 8.00 น.-18.00 น. (8.30 น.-17.30 น. ในเดือน พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 3,000 วอน


      หมู่บ้านพื้นเมืองซงอับ
      อยู่ห่างจาก ตัวเมือง เชจู ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 35 กม. เป็นเขตอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งคุณจะได้พบกับชาวบ้านที่มีความเป็น มิตรอาศัยอยู่ในบ้านที่สร้างด้วยหิน มุงหลังคาด้วยฟาง และล้อมรอบด้วยกำแพงหินอย่างในสมัยโบราณ

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของปากปล่องภูเขาไฟซานกึมบูรี
      วิธีการเดินทาง: นั่งรถประจำทาง 60 นาที จากตัวเมืองเชจู


      ถ้ำมานจังกุล
      ถ้ำมานจังกุล อยู่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือ มีความยาว 13.4 กม. จึงจัดเป็นถ้ำที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของลาวาที่ยาวที่สุดในโลก

      เบอร์โทร: 064-783-4818
      วิธีการเดินทาง: ห่างจากตัวเมืองเชจู 50 นาที
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-19.00 น. (9.00 น.-18.00 น. ในเดือน พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 2,200 วอน


      ซงซานโพ
      คำนี้มีความหมายว่า เมืองท่าซึ่งเป็นป้อมปราการบนเขา แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ สุดปลายด้านตะวันออกของเกาะ ซึ่งมี ปล่องภูเขาไฟทรงกรวยคว่ำเป็นภูมิประเทศที่เด่นชัดของบริเวณนี้

      หินทรงกรวยคว่ำนี้มีชื่อเรียกว่า อิลชุลบง หรือยอดเขาแห่งตะวันรุ่ง เป็นหนึ่งในภูเขาไฟ ทั้งหมด 360 แห่ง ซึ่งกระจัดกระจายอยู่บนเกาะทางเดินแคบ ๆ จากเบื้องล่างมุ่งไปสู่ขอบปล่องภูเขาไฟทางด้านตะวันตกและเลยไปจนถึงยอด ถ้าคุณปีนขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดก็ได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมหัศจรรย์ โดยเฉพาะตอนอาทิตย์ขึ้น

      เบอร์โทร: 064-783-0959
      วิธีการเดินทาง: 1 ชั่วโมง 10 นาที จากซกวิโพ หรือสนามบินนานาชาติเชจู
      เวลาให้บริการ: 5.00 น. จนพระอาทิตย์ตก
      ราคาค่าบริการ: 2,200 วอน


      เกาะอูโด
      เป็นหาดทรายปะการังแห่งเดียวของเกาหลี ชื่อนี้ได้มาจากรูปลักษณะที่คล้ายกับวัวกำลังนอนอยู่บนหญ้า เกาะนี้มีชื่อเสียงมากสำหรับอูโดพัลเกียง สถานที่ 8 แห่งที่สวยงามของเกาะอูโด


      วิธีการเดินทาง: ใช้เวลา 15 นาที จากท่าเรือซงซานโพ
      ราคาค่าบริการ: 1,000 วอน



      ย้อนขึ้น
      เอกลักษณ์ของ เชจูโด

      สัญลักษณ์อันเก่าแก่ของเกาะแห่งนี้ คือ ทอลฮารุบัง และ เฮียนโย ทอลฮารุ บัง หรือ หินปู่ เป็นรูปปั้นทำจากหินลาวาสลักเป็นรูปคนแก่ใจดีมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ในสมัยก่อนรูปปั้นทำหน้าที่คุ้มครองสถานที่ต่าง ๆ แต่ปัจจุบันนี้เป็นที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูป รูปปั้นจำลองของ ทอลฮารุบัง มีจำหน่ายในร้านขายของที่ระลึก และมีขนาดต่าง ๆ ให้เลือกตั้งแต่ขนาด 1 นิ้วไปจนถึงขนาดใหญ่กว่าของจริงส่วน เฮียนโย คือหญิง สาวชาวบ้านซึ่งดำน้ำลงไปในทะเลเพื่อเก็บหอยเม่น เปลือกหอย และปลาหมึกยักษ์ ในวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะเห็นหญิงสาวเหล่านี้ดำผุดดำว่ายอยู่บริเวณชายฝั่ง


      ย้อนขึ้น
      ซกวิโพ และ เชจูโด ฝั่งตะวันตก
      ซกวิโพ
      ซกวิโพ เป็นเมืองท่าเพื่อการประมงและเป็นเมืองสำคัญบริเวณชายฝั่งทางใต้ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนได้อย่างสะดวกสบาย โดยถนนซึ่งเชื่อมระหว่าง ซกวิโพ กับตัวเมือง เชจู นอกจากนี้ยังมีน้ำตกที่สวยงามและโรงแรมที่น่าอยู่หลายแห่ง  

      สถานตากอากาศ ชุงมุน
      สถานตากอากาศ ชุงมุน ซึ่งมีเนื้อที่กว้างขวางอยู่ห่างจากใจกลางเมือง ซกวิโพไปทางใต้เพียง 20 นาที โดยรถยนต์ รีสอร์ทแห่งนี้ให้ความสำคัญทั้งกับการท่องเที่ยว และการพักผ่อนหย่อนใจ สถานที่ตั้งของโรงแรมจึงเอื้ออำนวย กิจกรรมทั้งสองแบบ เนื่องจากอยู่ใกล้น้ำตกชนเจยน และหาดทรายที่ขาวสะอาด ขณะน้ำกำลังมีการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการพักผ่อนหย่อนใจ ในพื้นที่ 1.7 ตร.กม. 420 เอเคอร์ ในรีสอร์ทนี้

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวรีสอร์ทชุงมุน
      เบอร์โทร: 064-735-7363
      Url: http://www.seogwipo.jeju.kr
      วิธีการเดินทาง: 1 ชั่วโมง จากสนามบินนานาชาติเชจู 20 นาที จากซกวิโป รถบัสลีมูซีนของสนามบินวิ่งระหว่างสนามบินนานาชาติ เชจู และรีสอร์ทชุงมุนออกทุก 15 นาที
      ราคาค่าบริการ: 3,500 วอน


      พิพิธภัณฑ์แท็ดดีแบร์
      เท็ดดีเป็นสัญลักษณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 20 เท็ดดีแบร์แฟชั่น พิธีแต่งงานแบบเท็ดดีแบร์และอื่น ๆ

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ตั้งอยู่ในรีสอร์ทชุงมุน
      เบอร์โทร: 064-735-7100
      Url: http://www.teddybearmuseum.org
      วิธีการเดินทาง: 9.00 น.-18.00 น.(9.00 น.-22.00 น. ระหว่าง 19 ก.ค.-24 ส.ค.)
      ราคาค่าบริการ: 6,000 วอน


      ศูนย์ประชุมนานาชาติเชจู
      ศูนย์ประชุมนานาชาติเชจู เป็นศูนย์จัดการประชุมนานาชาติที่สำคัญ ๆ การประชุมทั่ว ๆ ไป การอบรม และคอนเสิร์ต มี่ทิวทัศน์ของมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่อยู่ด้านหน้า และภูเขาฮัลลาซันอันงามสง่าอยู่ด้านหลัง ศูนย์การประชุมมีทั้งหมด 7 ชั้น แบ่งเป็นชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และชั้นบนอีก 5 ชั้น ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากบริเวณรายรอบเกาะเชจู ตัวอาคารกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมอย่างสวยงามยิ่ง ไม่ทำลายความงดงามของทิวทัศน์โดยรอบ และเข้ากับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี นอกจากจะจัดการประชุมและ เทศกาลต่าง ๆ แล้ว ยังมีการจัดงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ตลอดปี

      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ตั้งอยู่ในรีสอร์ทชุงมุน
      เบอร์โทร: 064-735-1000
      Url: http://www.iccjeju.co.kr


      ท่องเที่ยวเรือดำน้ำมารีน่า
      ท่องเที่ยวเรือดำน้ำมารีน่า จะพาท่านชมชีวิตใต้ทะเลลึกลงไปถึง 30-35 เมตร รอบ ๆ เกาะมุนเซิม - โลกใต้ทะเลกึ่งเขตร้อน อาทิเช่น ปะการังและปลาดาว โรงเรียนปลา ซึ่งปลาเหล่านี้ว่ายโชว์ลีลาอวดนักดำน้ำให้ลงไปกับโลกใต้ทะเลจากซกวิโพไปมีเกาะเล็ก ๆ มากมาย มีชื่อเสียงในเรื่องของการตกปลาพอ ๆ กับทิวทัศน์ของโลกใต้ทะเลอันสวยงาม

      เบอร์โทร: 064-732-6060
      Email: daekuk @ submarine.co.kr
      วิธีการเดินทาง: นั่งรถประจำทางลีมูซีน สาย 600 ที่สนามบินนานาชาติเชจูไปถึงซกวิโพ (1 ชั่วโมง 20 นาที) ในซกวิโพ ให้โทร 732-6060
      เวลาให้บริการ: 7.20 น.-17.45 น. (วิ่งทุก ๆ 45 นาที)
      ราคาค่าบริการ: สำหรับรถระยะใกล้ ราคา 51,000 วอน (แนะนำว่าควรสำรองที่)


      สนามล่าสัตว์แดยู
      สนามล่าสัตว์แดยู เพียง 2 กิโลเมตรทางเหนือของรีสอร์ทชุงมุน เป็นพื้นที่ล่าสัตว์ของเอกชนเพียงแห่งเดียวในเอเชีย พื้นที่กว้างขวางกว่า 3,305,000 ตร.ม. พร้อมบริการปืนล่าสัตว์แบบใหม่ล่าสุด

      เบอร์โทร: 064-738-0500
      วิธีการเดินทาง: 40 นาที จากซงวิโพ
      เวลาให้บริการ: 9.00 น.-18.00 น. (9.00 น.-17.30 น. ในเดือน พ.ย.-ก.พ.)


      ซานบังกุลซา
      ซานบังกุลซา เป็นถ้ำที่เกิดตามธรรมชาติอยู่ระหว่างทางที่จะขึ้นไปสู่ยอดเขา ซานบังซาน ทางชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ จากถ้ำแห่งนี้คุณจะมองเห็นทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของทุ่งราบชายฝั่งและผืนน้ำทะเลสีสด ภาพที่คุณเห็นจัดเป็นทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งจากทั้งหมด 12 แห่งบนเกาะ อีกทั้งแนวหินชายฝั่ง ยกมอรี ทางใต้ของ ซานบังกุลซา ก็เป็นทิวทัศน์ที่น่าประทับใจอีกแห่งหนึ่ง

      เบอร์โทร: 064-794-2940
      วิธีการเดินทาง: 20 นาที จากตัวเมืองชุงมุนรีสอร์ท
      เวลาให้บริการ: 8.00 น.-19.00 น.(8.00 น.-17.30 น. ในเดือน พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 2,200 วอน


      ฮัลลิม
      ฮัลลิม เป็นศูนย์กลางด้านการตกปลา ทางชายฝั่งด้านตะวันตก

      ชายหาด หยอบเช และ ถ้ำหยอบเชกุล[
      คลิ้กเืพื่อดูตำแหน่งในแผนที่I19] (Tel.064-796-0001) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในบริเวณชานเมืองทางใต้ของ ฮัลลิม ภาย ในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยมีสีสันสวยงามที่น่าตื่นตาตื่นใจ เกิดจากการที่ลมได้พัดพาเอาทรายซึ่งเต็มไปด้วยแคลเซียมเข้าไปในถ้ำ และน้ำฝนได้ละลายเอาแคลเซียมออกมาเป็นรูปทรงต่าง ๆ เป็นถ้ำลาวาสีดำ

      เบอร์โทร: 064-794-2940
      วิธีการเดินทาง: 50 นาทีจากตัวเมือง เชจู
      เวลาให้บริการ: 8.30 -19.00 น. (8.30 -18.00 น. ในเดือน พ.ย.-ก.พ.)
      ราคาค่าบริการ: 5,000 วอน (สำหรับถ้ำ)


      อนุสรณ์ เฮนดริคฮาเมล
      สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักเดินเรือชาวดัทช์ ซึ่งได้แล่นเรือผ่าน เชจูโด พร้อมกับลูกเรือ 37 คน และเรือได้จมลงเมื่อ ค.ศ.1653 หลัง จากนั้น เฮนดริคได้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเกาหลีอีก 13 ปีก่อนที่เดินทางกลับประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ในที่สุด เฮนดริค ฮาเมลเป็นชาวตะวันตกคนแรกที่ได้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในประเทศเกาหลี (คุณสามารถอ่านคำแปลภาษาอังกฤษของฮาเมลได้ที่ www.henny-savenije.pe.kr) อนุสรณ์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ซานบังกุลซา ซึ่งเป็นบริเวณที่ฮาเมล ขึ้นถึงฝั่งหลังจากเรือล่ม

      บันเจ อาร์ตเปีย
      บันเจ อาร์ตเปีย เป็นสวนสาธารณะในเกาหลีที่ปลูกต้นไม้ในกระถางและเป็นสวนพืชพันธุ์ไม้และใหญ่ที่สุดในโลก มีต้นไม้ในกระถางตามแนวทางเรียงรายอยู่มากกว่า 1,000 ชนิด และตั้งโชว์มากกว่า 700 ชนิด ต่อวัน ประธานาธิบดีเจียงเจ๋อมิ๋นของจีน เคยมาเยี่ยมชมที่นี่ใน เดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1995

      เบอร์โทร: 064-772-3701
      วิธีการเดินทาง: นั่งรถจากสถานีขนส่งเมืองเชจูไปซินชาง (1 ชั่วโมง 30 นาที) นั่งรถไปถึงสวนสาธารณะ (25 นาที)
      เวลาให้บริการ: 8.00 น.-19.00 น. (8.30 น.-18.00 น. ในเดือน พ.ย.-เม.ย.)
      ราคาค่าบริการ: 7,000 วอน


      พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลล็อค
      ใกล้ ๆ กับบันเจอาร์ตเบีย เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ชาโอซุลล็อคเป็นที่แสดงประวัติศาสตร์ในการผลิตใบชา และวิธีการต่าง ๆในการผลิต ชาเขียวที่นี่มีห้องประชุมเพื่อการจัดสัมมนาและจะเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของพื้นที่ปลูกใบชาที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใช้เวลา 5 นาที โดยแท๊กซี่จากบันเจอาร์ตเบีย

      เบอร์โทร: 064-794-5312
      เวลาให้บริการ: 10.00 น.-18.00 น.(10.00 น.-17.00 น.ในเดือน พ.ย.-มี.ค.)


      สวนเมืองจำลอง
      ที่เมืองจำลองนี้มีสถาปัตยกรรมก่อสร้างจำลองกว่า 100 แห่ง ที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น วัดพูลกุกซา ของเกาหลี เมืองต้องห้ามของจีน หอคอยเอียงแห่งเมืองปิซา ที่นี่ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชม และสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ หลากหลายซึ่งมีวัฒนธรรมยุคหินแห่งเชจู เตาเผาเซรามิก โรงละครกลางแจ้ง สนามแข่งรถและอื่น ๆ

      เบอร์โทร: 064-794-5400
      วิธีการเดินทาง: เชจูถึงเมืองซกวางดงรีใช้เวลา 40 นาที เดิน 5 นาที ถึงสวนสาธารณะ
      เวลาให้บริการ: 8.30 น.-19.30 น. (8.30 น.-17.00 น. เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์)
      ราคาค่าบริการ: 6,000 วอน


      ปราสาทช็อกโกแลต
      ปราสาทช็อกโกแลต ศูนย์รวมของช็อกโกแลต เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของเกาหลีที่สร้างด้วยหินภูเขาไฟแห่งเกาะเชจู ช็อกโกแลตในขนาดและรูปแบบต่าง ๆ รวบรวมจากทั่วโลก ช็อกโกแลตรถโสม รสชาเขียว รสมะม่วง และรสใหม่ ๆ ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับผู้นิยมช็อกโกแลตทั้งหลาย และยังสามารถชมวิธีการผลิตแบบท้องถิ่นได้โดยการมองผ่านตู้กระจก

      เบอร์โทร: 064-711-3171
      วิธีการเดินทาง: เชจูถึงโมซุลโพใช้เวลา 50 นาที นั่งแท๊กซี่ไปพิพิธภัณฑ์ใช้เวลา 10 นาที
      เวลาให้บริการ: 10.00-18.00 (10.00-17.00 เดือนพฤศจิกาน ถึงกุมภาพันธ์



      ย้อนขึ้น
      อาหารและการซื้อของ
      ดูรายละเอียดต่อในหัวข้อ [อาหารและการซื้อของ]
      ย้อนขึ้น
      แผนที่เกาะเชจู
      คลิ้กเืพื่อดูภาพขยาย

      มารู้จักอาหารเกาหลีกันเถอะ

      อาหารเกาหลี
      รู้จักกับอาหารเกาหลี
      อาหารนานาชนิดมากหลายพบได้ในประเทศเกาหลี แรกเริ่มเดิมทีเกาหลีเป็นประเทศเกษตรกรรม และชาวเกาหลีเพาะปลูกข้าวเป็นอาหารหลักมาตั้งแต่โบราณกาล มาในสมัยนี้อาหารเกาหลีจะเป็นตำหรับซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์นานาชนิด ปลา พร้อมด้วยพืชสีเขียวและผักต่างๆ อาหารหมักดองต่างๆ เช่น กิมจิ จอทกอล (jeotgal) (อาหารทะเลหมักเกลือ) และ ดนจัง (deonjang) (ถั่วเหลืองหมักเหลว) ขึ้นชื่อในรสชาติโดยเฉพาะและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

      จุดเด่นในการตั้งโต๊ะอาหารเกาหลีคืออาหารจานต่างๆ ถูกนำมาจัดวางในคราวเดียวกัน โดยการปฏิบัติสืบทอดกันมา มีการเสิร์ฟอาหารประเภทออร์เดิฟเริ่มจากอาหร 3 ชนิด สำหรับสามัญชนถึง 12 ชนิดสำหรับชนชั้นวงศานุวงศ์ การจัดโต๊ะอาหารต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่ามีการเสิร์ฟอาหารจานก๋วยเตี๋ยวหรือเนื้อหรือไม่ มีการแสดงการจัดโต๊ะอาหารตามกฏระเบียบให้ผู้สนใจเรื่องอาหารและการรับประทานอาหารได้เห็น หากจะเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและญี่ปุ่นแล้วเกาหลีนิยมใช้ช้อนมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเสิร์ฟน้ำซุป
        


      ย้อนขึ้น
      ชนิดของอาหารเกาหลีตามประเพณีนิยม
      1. บับ (Bap) ข้าวนึ่ง และจุค (Juk) ข้าวต้ม
      ข้าวต้มเป็นอาหารหลักของครัวเกาหลี ส่วนใหญ่ใช้ข้าวเหนียว บางครั้งเป็นพวกถั่ว เกาหลัด ข้าวฟ่าง ถั่วแดง ข้าวบาเลย์ หรือ ธัญญพืชชนิดต่างๆประกอบเพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ ข้าวต้มถือว่าเป็นอาหารบำรุงและเป็นอาหารเบา มีข้าวต้มหลากหลายชนิด อาทิเช่น ชนิดที่ทำด้วยข้าวและมีส่วนผสม ด้วยถั่วแดง ฟักทอง หอยเป๋าฮื้อ โสม ลูกสน ผัก เนื้อไก่ เห็ด และถั่วงอก
           

      2. กุก (Guk) ซุป
      ซุปเป็นอาหารจานสำคัญเมื่อมีข้าวมาเสิร์ฟ เครื่องปรุงของซุปชนิดต่างๆมีผัก เนื้อสัตว์ ปลา หอยเชลล์ สาหร่ายทะเล และกระดูกวัว
           

      3. จิเก (Jjigae) สตูว์
      ชิแจคล้ายกับกุกแต่ข้นกว่าและแห้งกว่า ชิแจที่เป็นที่นิยมมากที่สุดทำจากเต้าเจี้ยว ชิแจมักจะเผ็ดร้อนเสิร์ฟขณะร้อนจัดในชามหินร้อน
           

      4. จิม และ ชอริม (Jjim and Jorim) เนื้อหรือปลาตุ๋น
      จิมและชอริมเป็นอาหารคล้ายกันทำด้วยผักชุปซอสถั่วเหลืองแล้วนำมาเป็นส่วนผสมต้มในไฟอ่อน
           

      5. นามุล (Namul) พืชและผักใบเขียว
      นามุลทำด้วยพืชหรือผักใบเขียวนำมาต้มเพียงเล็กน้อยหรือทอดผสมกับเกลือ ซอสถั่วเหลือง งาเค็ม น้ำมันงา กระเทียม หัวหอม และเครื่องเทศ
           

      6. จอทกอล (jeotgal) อาหารทะเลหมักเกลือ
      จอทกอลเป็นอาหารรสเค็มจัดทำจากปลาหมักโดยวิธีธรรมชาติ หอยเชลล์ กุ้ง หอยนางรม ไข่ปลา พุงปลา และเครื่องปรุงอื่นๆ
           

      7. กุย (Gui) ประเภทปิ้งย่าง
      การทำกุยคือการนำเนื้อหมักย่างบนเตาถ่าน อาหารเนื้อชนิดนี้ที่เป็นที่นิยมคือ พุลโกกิ (bulgogi) และ คาลบิ (galbi) ยังมีอาหารจานปลาอีกหลายอย่างที่ปรุงด้วยวิธีนี้
           

      8. เชิน (jeon) จานกระทะร้อน
      เชินเป็นแพนเค้กชนิดหนึ่งที่ทำจากเห็ด ฟักทอง ปลาแห้งแผ่น หอยนางรม พริกเขียว เนื้อสัตว์ หรือเครื่องปรุงอื่นๆ ผสมกับเกลือและพริกไทยดำก่อนนำไปชุปแป้งและไข่แล้วทอด
           


      9. มันดู (Mandu) ประเภทยัดไส้
      มันดูทำด้วยแป้งแผ่นยัดไส้เนื้อ เห็ด แตงทอด ถั่วงอก บางครั้งใช้เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือปลา แทนเนื้อ
           


      ย้อนขึ้น

      อาหารเกาหลี
      ประวัติของอาหารกิมจิ
      ตั้งแต่มนุษย์เริ่มทำการเพาะปลูกมานั้น ผักเป็นที่ชื่นชอบเนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย อย่างไรก็ดีในฤดูหนาวเมื่อการเพาะปลูกไม่เอื้ออำนวยจึงได้นำไปสู่การพัฒนาการการถนอมอาหารโดยวิธีการหมักดอง กิมจิซึ่งเป็นผักดองชนิดหนึ่งจึงถือกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 7
        

      กำเนิดการใช้พริกเผ็ดป่น
      แรกทีเดียว กิมจิเป็นผักดองเค็มดีๆนี่เอง แต่ในระหว่างศตวรรษที่ 12 ได้มีการทำกิมจิในรูปแบบใหม่ที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศและเครื่องปรุงรสและในศตวรรษที่ 18 พริกเผ็ดป่นก็ได้มาเป็นส่วนผสมที่สำคัญของกิมจิในที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องขอขอบคุณการนำเอากะหล่ำปลีเข้ามาในศตวรรษที่ 19 มาทำเป็นกิมจิซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในปัจจุบันนี้
           

      ที่มาของชื่อกิมจิ
      เป็นที่น่าสงสัยกันมาตลอดว่าชื่อกิมจินี้คงมาจากคำว่าชิมเช (Shimchae) (ผักดองเค็ม) แต่ด้วยสำเนียงที่เปลี่ยนไป ก็จะกลายเป็น: ชิมเช - คิมเช - กิมเช - กิมจิ

           ทำไมกิมจิถึงได้มีการพัฒนาในประเทศเกาหลี
           ในโลกนี้มีอาหารประเภทผักหมักดองไม่กี่ชนิด เหตุผลเป็นไปได้ว่ากิมจิได้รับการพัฒนาเป็นอาหารหมักขึ้นชื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเกาหลีมีดังนี้:

           1) ผักต่างๆเป็นที่นิยมของคนโบราณในประเทศเกาหลี การผลิตที่สำคัญคือการเกษตรกรรม 
           2) ชาวเกาหลีมีวิธีการที่น่าทึ่งในการหมักปลาเพื่อใช้เป็นเครื่องปรุงรส 
           3) กะหล่ำปลี (Brassica) ซึ่งเหมาะในการทำกิมจิมีปลูกอยู่ทั่วไป

      มีการบอกเล่ากันมาว่าการพัฒนากิมจิมีรากฐานมาจากสมัยนิยมการถือครอบครองที่ดินสำหรับพระซึ่งเริ่มมีมาก่อนสมัยของสามอาณาจักรบนคาบสมุทรเกาหลี เนื่องจากฤดูหนาวอันหนาวเหน็บนั้น ผู้คนในสมัยนั้นจำต้องรู้วิธีการถนอมอาหารประเภทผักเพื่อเก็บรักษาไว้
           

      กิมจิในสมัยโบราณ
           เป็นการยากที่จะพิสูจน์ขบวนการการพัฒนากิมจิในสมัยโบราณเพราะการบันทึกทางประวัติศาสตร์ในสมัยนั้นแทบจะไม่มีเลย เราเพียงแต่สันนิษฐานเอาว่าใช้วิธีการนำผักมาดองเกลือเพื่อที่จะเก็บรักษาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้น
           
           กิมจิในสมัยอาณาจักรโคเรียว
           แม้จะไม่มีการบันทึกแน่ชัดลงไปว่ามีการพบกิมจิในสมัยก่อน กะหล่ำปลีได้ถูกกล่าวถึงในตำรายารักษาโรคทางภาคตะวันออกเรียกว่า ฮันยักกูกึบบัง (Hanyakgugeupbang) มีกิมจิสองชนิดคือ กิมจิ-จางอาจิ (Kimchi-jangajji) (หัวไชเท้าฝานเป็นแผ่นดองด้วยซอสถั่วเหลือง) และ ซุมมู โซกึมชอลรี (Summu Sogeumjeori - หัวไชโป๊) สมัยนี้กิมจิเริ่มได้รับความสนใจว่าเป็นอาหารแปรรูปที่ชื่นชอบโดยไม่คำนึงถึงฤดูกาลและการเก็บรักษาในฤดูหนาว สงสัยกันว่าการพัฒนาให้มีรสชาติในสมัยนั้นคือการทำกิมจิให้มีรสจัดจ้าน
           
           กิมจิในสมัยโชซอน
           หลังจากที่ได้มีการนำผักจากต่างประเทศเข้ามา กะหล่ำปลีใช้เป็นผักหลักในการทำกิมจิโดยทั่วไป ต้นศตวรรษที่ 17 (หลังจากที่ถูกญี่ปุ่นรุกรานในปี ค.ศ. 1592) มีการนำเข้าพริกจากประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นราว 200 ปี พริกได้ถูกใช้เป็นส่วนผสมอย่างหนึ่งของกิมจิ ดังนั้นราวปลายสมัยโชซอนสีของกิมจิจึงกลายมาเป็นสีแดง
           
           กิมจิในราชสำนักโชซอน
           ตามปกติมีกิมจิสามชนิดที่ได้ถูกนำขึ้นมาถวายต่อกษัตริย์ในราชวงศ์โชซอน ได้แก่กะหล่ำปลีล้วน ชอทกุกจิ (Jeotgukji) เป็นกิมจิที่ผสมด้วยปลาหมักจำนวนมาก กิมจิหัวไชเท้า หรือ คักดูกิ (kkakdugi) และกิมจิน้ำตำราอาหารของโชซอน คือ โชซอน มูซางซานชิก โยรีเจบ็อบ (Joseon massangsansik yorijebeop) อธิบายการทำ ชอทกุกจิดังนี้:
           
           1) ขั้นตอนแรกหั่นกะหล่ำปลีและหัวไชเท้าที่ล้างสะอาดแล้วเป็นชิ้นเล็กๆแล้วหมักเกลือ
           2) นำมาผสมกับพริกแดงสับ กระเทียม ดรอบวอท (มินาริ -minari) ใบมัสตาด และสาหร่ายทะเล
            3) ต้มปลาหมักแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
           4) ผสมน้ำปลาต้มกับเครื่องปรุงทั้งหมด
           5) นำไปหมักในหม้อแล้วปล่อยทิ้งไว้จนได้ที่
           
           แม้หัวไชเท้าและน้ำจะเป็นวัตถุหลักในการทำกิมจิน้ำ (dongchimi) ยังมีเครื่องปรุงหลายอย่างใช้ในการเพิ่มรสชาติสำหรับราชสำนักโชซอน หัวไชเท้าที่นำไปทำกิมจิน้ำจะต้องมีรูปทรงที่ดีและจะต้องล้างและหมักด้วยเกลือก่อนที่จะนำไปหมักในไหฝังดิน มีเกร็ดเล็กน้อยว่ากษัตริย์โกชอง (Gojong) กษัตริย์องค์รองสุดท้ายของโชซอน โปรดก๋วยเตี๋ยวเย็นผสมในกิมจิน้ำพร้อมด้วยน้ำซุปเนื้อเป็นอาหารมื้อค่ำในฤดูหนาว ดังนั้นจึงมีการทำกิมจิน้ำตำหรับพิเศษโดยมีลูกแพร์เป็นส่วนผสมใช้ทำก๋วยเตี๋ยวเย็นโดยเฉพาะ
           

      กิมจิสมัยใหม่
      มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์พบว่ากิมจิเป็นอาหารบำรุงอย่างดีและมีนักโภชนาการทั้งหลายยังได้แนะนำให้เป็นอาหารในอนาคตสำหรับการบริโภคทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นกิมจิจึงเป็นสินค้าส่งออกไปยังประเทศต่างๆที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวเกาหลีที่เดินทางเข้าประเทศจีน รัสเซีย และ เกาะฮาวาย และ ญี่ปุ่น เป็นคนแรกที่แนะนำกิมจิและรับประทานกิมจิเป็นเครื่องเคียงและค่อยๆเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆในหมู่ชาวต่างชาติ ด้วยประการฉะนี้จะพบกิมจิได้ในที่ที่มีชาวเกาหลีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาและญี่ปุ่นซึ่งมีชาวเกาหลีมากมาย กิมจิบรรจุกล่องหาได้ง่าย แต่ก่อนการผลิตและการบริโภคกิมจิจะอยู่ในสังคมชาวเกาหลีเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นอาหารของโลกไปแล้ว
           


      ย้อนขึ้น
      อาหารขึ้นชื่อของเกาหลี
      แนะนำเมนูจานเด็ด
      กิมจิ (Kimchi - ผักดองเกาหลี)
           ส่วนผสม: กะหล่ำปลี (หรือหัวไชเท้า แตงกวา และผักอื่นๆ) หัวไชเท้าหั่นเป็นเส้น กระเทียมสับ หัวหอมหั่นลูกเต๋า ปลาเค็ม และเกลือ
           
           วิธีการทำ: กะหล่ำปลีหรือผักอื่นๆล้างด้วยน้ำเกลือมากๆ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศและหมักไว้ มีกิมจิหลายอย่าง เช่นกิมจิกะหล่ำปลี (เป็นที่ทราบโดยทั่วไป) กิมจิแตงกวา กิมจิหัวไชเท้าหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า กิมจิหัวหอม และอื่นๆอีกมาก เป็นอาหารสุขภาพมีทั้งวิตามินและเกลือแร่หลายชนิด



           

      บิบิมบับ (Bibimbap - ข้าวต้มผสมผัก)
        
           ส่วนผสม: ข้าว, ใบเฟิร์นเบรก, รากดอกบอลลูน, ถั่วงอก, เนื้อวัว, พริกแดงบด, และน้ำมันงา
           
           วิธีการทำ:: ข้าวสวยผสมด้วยผักต่างๆต้มสุก ดีสำหรับการชิมรสผักต่างๆ ช่วยบำรุงสายตาและมีคุณค่าทางโภชนาการ วิธีการทำบิบิมบับในหลายๆตำหรับของเมืองชองชู ได้รับความนิยมมาก
           




      พุลโกกิ (Bulgogi - เนื้อวัวหมักย่าง)
            ส่วนผสม: เนื้อวัว (หรือเนื้อหมู) น้ำลูกแพหรือน้ำตาล ซอสถั่วเหลือง กระเทียมสับ หัวหอมหั่นลูกเต๋า น้ำมันงา
           
           วิธีการทำ: หั่นเนื้อหรือหมูเป็นชิ้นบางๆ แล้วหมักกับเครื่องปรุงต่างๆก่อนนำไปย่าง
           





      คาลบิย่าง (Grilled Galbi - เนื้อซี่โครงปรุงรส)
           ส่วนผสม: เนื้อซี่โครงวัว (หรือหมู) น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง หัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า กระเทียมสับ น้ำมันงา
           
           วิธีการทำ:: ซี่โครงวัวหรือหมูหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำไปหมักกับเครื่องปรุงรสก่อนนำไปย่าง กาลบิของซูวอนได้รับความนิยมมาก
           



      ซัมแกทัง (Samgyetang - ซุปไก่)
           ส่วนผสม: เนื้อไก่อ่อน ข้าว กระเทียม เกาลัด พุทรา
           
           วิธีการทำ:: ล้างไก่แล้วยัดใส้ด้วยเครื่องปรุงแล้วนำไปต้มจะได้น้ำซุปที่ได้รสชาติ
           





      เน็งเมียน (Naengmyeon - ก๋วยเตี๋ยวทำด้วยแป้งบัควีท ในน้ำซุปเย็น)
           ส่วนผสม: เส้นก๋วยเตี๋ยว น้ำซุปเนื้อ เนื้อวัวหั่นบางๆ แตงกวา ลูกแพ ไข่ต้มสุก
           
           วิธีการทำ:: ก๋วยเตี๋ยวใส่ในน้ำซุปเนื้อแช่เย็น น้ำซุปทำให้สดชื่น ยังมี บิบิมแนงเมียน (bibim naengmyeon) ซึ่งไม่ใส่น้ำซุปแต่แทนด้วยพริกแดงบด
           



      แฮมุลทัง (Haemultang - สตูว์อาหารทะเล)
           ส่วนผสม: เนื้อปู หอย กุ้ง ปลา หัวไชเท้า พริกแดงบด พริกป่น หัวหอม กระเทียม
           
           วิธีการทำ:: ต้มอาหารทะเลทั้งหมดแล้วเติมพริกแดงบดและพริกป่น น้ำซุปอร่อยและเผ็ดร้อนมาก
           



      กิมจิ จิเก (Kimchi jjegae - กิมจิสตูว์)
           ส่วนผสม: กิมจิ เนื้อหมู น้ำมันงา หัวหอม พริกไทย
           
           วิธีการทำ:: นาบเนื้อหมูกับหม้อจนเป็นสีน้ำตาล ก่อนใส่น้ำและกิมจิ ถ้าใช้กิมจิชนิดเปรี้ยว สตูว์จะอร่อยกว่า
           



      ทัคคาลบิ (Dakgalbi - ซี่โครงไก่)
           ส่วนผสม: เนื้อไก่ พริกแดงบด น้ำลูกแพ น้ำเชื่อม น้ำตาล กระเทียมสับ หัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
           
           วิธีการทำ:: ปรุงรสเนื้อไก่ด้วยเครื่องเทศต่างๆ แล้วนำไปย่าง โครงไก่ชุนชอน (Chuncheon) มีชื่อเสียงมาก
           



      ซอลลองทัง (Seolleongtang - ซุปกระดูกวัว)
           ส่วนผสม: ข้าว เนื้อวัว ซุปเนื้อวัว หัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า กระเทียมสับ พริกป่น พริกไทย เกลือ
           
           วิธีการทำ:: ใส่เนื้อวัวในน้ำซุปเนื้อแล้วต้มด้วยไฟอ่อนนานๆ ก่อนเสิร์ฟด้วยข้าวและเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพื่อให้น้ำซุปเข้มข้นและอร่อยให้ต้มต่อไปประมาณกว่า 10 ชั่วโมง
           



      คาลบิทัง (Galbitang - ซุปซี่โครงวัว)
           ส่วนผสม: ซี่โครงวัว(หรือหมู) หัวไชเท้า หัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า กระเทียมสับ พริกไทย น้ำมันงา เมล็ดงา
          
           วิธีการทำ:: ซี่โครงต้มพร้อมหัวไชเท้าเพื่อให้เป็นซุปที่มีรสชาติ ถ้ารับประทานพร้อมข้าวน้ำซุปจะอร่อยมาก
           


      จุค (Juk - ข้าวต้ม)
           ส่วนผสม: ข้าวชนิดต่างๆ
           
           วิธีการทำ:: ใส่น้ำ (ประมาณ 6 หรือ 7 เท่าของปริมาณข้าว) ต้มนานๆ มีการแปรรูปยุคหลายๆอย่างเช่น ข้าวต้มลูกสน ข้าวต้มงา ข้าวต้มพุทรา ข้าวต้มถั่วแดง ข้าวต้มเนื้อ ข้าวต้มฟักทอง ข้าวต้มหอยเป๋าฮื้อ และอื่นๆอีกมาก
           


      ความหอมหวนและภูมิปัญญาแห่งชาเกาหลี
      ได้มีการกล่าวกันว่าชาจะช่วยเพิ่มความน่าอภิรมย์แก่ประสาทสัมผัสทั้งห้าซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากเสียงอันยากที่จะหยั่งถึงของกาน้ำชาที่กำลังเดือด น้ำที่เริ่มเป็นสีเขียวอ่อนๆที่ซึมซาบออกจากใบชาในน้ำร้อน กลิ่นอันหอมหวน สัมผัสที่อบอุ่นกับทรวดทรงโค้งได้รูปของถ้วยน้ำชา และรสชาติอันละเมียดลิ้น เพื่อให้เกิดกลิ่นอันหอมหวนที่สุดและคุณประโยชน์ที่ได้รับจากใบชาอย่างที่นักดื่มชายอมรับนั้นใบชาใบเดียวกันควรจะผ่านขั้นตอนการกลั่นกรองถึงสามขั้นเป็นอย่างน้อย


      ประวัติศาสตร์ของชาในเกาหลี
      ชาเกาหลีทั้งหมดทำจากใบหรือก้านชาอ่อนของต้นชาในตระกูล คาเมลเลีย ซีเนนซิส (Camellia sinensis) ต้นกำเนิดมาจากทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนและเขตรัฐอัสสัมในอินเดีย ต้นชาของจีนที่มีใบเล็กนั้นใช้สำหรับทำชาเขียวและชาอู่หลองในขณะที่ต้นชาของเขตรัฐอัสสัมจากอินเดียจะมีใบใหญ่เหมาะสำหรับเป็นชาดำ (ชาฝรั่ง) ต้นชาของจีนจะมีในเกาหลีมากกว่าต้นชาของอินเดีย ซึ่งเติบโตในความสูงเฉลี่ยที่ 60 ถึง 90 ซ.ม.

      ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ได้มีการนำชาเข้ามาสู่เกาหลีในปีค.ศ. 828 เมื่อคิมแท-เรียม (Kim Dae-ryeom) ทูตซึ่งไปเจริญไมตรีกับจีนในยุคการปกครองของกษัตริย์ฮึง-ด๊อก (Heung-deok) แห่งอาณาจักรชิลลา (57 ปีก่อนค.ศ. - ค.ศ. 918) ได้นำเมล็ดชามาจากจีนและทำการเพาะปลูกบนเขาชีริซาน (Mt. Jirisan) แต่ตำนานและนิยายพื้นบ้านกล่าวว่าการกำเนิดของชาในเกาหลีนั้นย้อนยุคไปก่อนช่วงเวลาตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์

      พิธีดื่มชาตามประเพณีโบราณเรียกว่า ดาโด (dado) นั้นได้มีการปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายในหมู่ชนชั้นสูงในยุคชิลลา ได้รับความนิยมกันมากขึ้นอย่างแท้จริงในยุคราชวงศ์โคเรียว ที่สืบต่อมา (918-1392) กอร์เยวเป็นราชวงศ์ที่ถือพุทธและพิธีดื่มชาแห่งสมาธิก็ได้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันในหมู่ประชาชน และเป็นพิธีที่ขาดไม่ได้ในการประกอบพิธีกรรมต่างๆอันเกี่ยวข้องกับประเทศ บรรพบุรุษ และทางพุทธศาสนา ดังนั้นภาชนะและอุปกรณ์ต่างๆสำหรับชาอันวิจิตรจึงรังสรรค์ขึ้นในรูปร่างและขนาดต่างๆกันไปและภาชนะต่างๆที่ทำจากเครื่องปั้นดินเผายุคโคเรียวก็ได้ถูกคิดค้นขึ้น ด้วยการเปลี่ยนยุคมาเป็นราชวงศ์โชซอน (1392-1910) ซึ่งเปลี่ยนศาสนาประจำชาติจากศาสนาพุทธมาเป็นลัทธิขงจื๊อทำให้การบริโภคชาค่อยๆน้อยลงไปเช่นเดียวกับพิธีการดื่มชา พิธีดื่มชา ซึ่งได้มีการปฏิบัติไว้จนถึงวันนี้นั้นถูกอนุรักษ์ไว้โดยพระสงฆ์แห่งนิกายเซนและนักปราชญ์วิชาขงจื๊อ ไม่นานมานี้เองที่พิธีได้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง



      ย้อนขึ้น
      การปลูกชา
      ทุ่งชาป่าในฮวาแจ-เมียน, ฮาดอง, เคียงซางนัม-โด
      ทุ่งชาป่าในฮวาแจ-เมียน, ฮาดอง, เคียงซางนัม-โด (Hwagae-myeon, Hadong, Gyeongsangnam-do) สภาพอากาศอันอ่อนละไมตั้งตามชื่อ ฮวาแจ (มีความหมายว่า "ดอกไม้บาน" ซึ่งอ้างถึงนิยายท้องถิ่นซึ่งดอกไม้จะบานแม้แต่ในช่วงกลางฤดูหนาว) ประมาณปลายเดือนเมษายนหลังจากที่ดอกเชอรี่ที่ได้เบ่งบานแล้วกลับร่วงโรยบริเวณตามลำธารฮวาแจชอน ช่วงระหว่าง เขตฮวาแจและวัดซางเกซานั้นต้นชาป่าก็เริ่มแตกกิ่งก้านและให้กลิ่นหอมอันน่าอภิรมย์ บริเวณเขตฮวาแจซึ่งแม่น้ำซอมจินกังไหลคดเคี้ยวไปตามตีนเขาชีริซานนั้นพื้นดินจะอบอุ่นในช่วงกลางวันแต่จะเย็นลงอย่างรวดเร็วในยามยันด้วยอากาศแบบภูเขาอันหนาวเย็นทำให้เกิดการหันเหของอุณหภูมิอย่างเด่นชัด
        
      ไอหมอกจากแม่น้ำในยามอรุณรุ่งที่ล่องลอยอยู่รอบๆหุบเขาและสายฝนกับสภาพผิวดินนั้นสมบูรณ์เหมาะกับการปลูกชาอย่างที่สุด ภายในเขตนี้มีการปลูกชาที่ได้รับการกำหนดมาเป็นพิเศษว่าจะถวายเป็นของบรรณาการโดยเฉพาะแก่ราชนิกูลตั้งแต่ยุคโคเรียว จนถึงยุคโชซอน เทศกาลชาน้ำค้างภูเขาฮาดองจัดขึ้นบริเวณวัดซังเกซาในเดือนพฤษภาคม


      ชื่อสถานที่: สำนักงานฮาดอง-กุน
      เบอร์โทร: (055) 880-2751
      โทรสาร: (055) 880-2679
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารจากสถานีขนส่งนัมบู (Nambu Bus Terminal) ในโซลไปยังฮาดอง (ใช้เวลา 5 ชั่วโมง) หรือ โดยรถไฟเข้าฮาดองจากสถานีรถไฟโซล (มีวันละ 2 ขบวน ใช้เวลา 6 ชั่วโมง)


      การปลูกชาในโบซอง, ชลลานัม-โด (Boseong Jeollanam-do)
      โบซองเป็นสถานที่กำเนิดของโซเพียนเจ (Seopyeonje) เพลงบรรเลงเดี่ยวแนวพรรณนาตามแบบตะวันตกเฉียงใต้ชื่อพันซอริ (Pansori) และยังเป็นที่ปลูกชาเขียวในภูมิภาคนี้ด้วย

      ที่มาของการเพาะปลูกชาโบซองนั้นย้อนกลับไปในปี 1939 ระหว่างยุคการล่าอาณานิคมของญี่ปุ่น ผู้ชำนาญการเรื่องชาของญี่ปุ่นได้เลือกพื้นที่ที่ดีที่สุดในการปลูกชาดำและเริ่มทำการปลูกด้วยเมล็ดชาที่นำเข้ามาจากอินเดีย ตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1970 ถึงต้นทศวรรษที่ 1980 การปลูกชาเขียวได้ขยายตัวขึ้นอย่างมากมายมหาศาลซึ่งทำให้โบซองเป็นแหล่งเพาะปลูกชาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี และครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งผลิตชาเขียวให้แก่ประเทศในอัตราถึง 90 % 

      โบซอง-กุนมีการจัดเทศกาลแห่งกลิ่นชาที่เรียกว่าดายางเช (Dahyangje) ในประมาณฤดูการเก็บเกี่ยวชาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเริ่มด้วยพิธีในวันแรกเพื่ออุทิศให้กับเทพแห่งการปลูกชา มีพิธีการแสดงต่างๆอันหลากหลายกระจัดกระจายในบริเวณพื้นที่เพาะปลูกรวมถึงการแข่งขันการเก็บใบชา การแข่งขันการกลั่น การแห่แหนธิดาชา และการสาธิตพิธีดื่มชา นกชา โซชู (Nokcha soju) คือเหล้าที่กลั่นด้วยใบชาเขียว และสปาชาเขียว คือสิ่งที่น่าสนใจที่ควรสัมผัส


      ชื่อสถานที่: ฝ่ายวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สำนักงานโบซอง-กุน
      เบอร์โทร: (061) 850-5224
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารเข้าโบซองจากสถานีขนส่งควางจู (รถออกทุกๆ 30 นาที ใช้เวลา 90 นาที)
      ข้อมูลเพิ่มเติม: สถานอาบน้ำเค็มชาเขียวยุลโป (Yulpo Saltwater Green Tea Bath)
      โทร. (061) 853-4566


      ชุนโซลเฮียนบนเทือกเขามูดึงซานในควางจู (Chunseolheon on Mt. Mudeungsan in Gwangju)
      ใกล้วัดชึงซิมซา (Jeungsimsa Temple) บนเทือกเขามูดึงซานคือชุนโซลเฮิน (อนุสาวรีย์แห่งจังหวัดควางจูหมายเลข 5) ห้องทำงานศิลปะของนักวาดภาพแนวตะวันออกผู้มีชื่อเสียง เฮียว แบค-เรียน ท่านเฮียวได้สร้างผลงานชิ้นเอกไว้มากมายที่นี่ในขณะที่ได้สอนลูกศิษย์ไปในเวลาเดียวกัน เป็นเวลา 30 ปีกระทั่งวันสุดท้ายในชีวิต ในระหว่างเวลานั้นท่านได้เพาะปลูกพุ่มชาบนมูลดินรอบๆห้องทำงานศิลปะของเขาและนั่นคือต้นกำเนิดของชุนซอนลชา (Chunseolcha) ชาหิมะใบไม้ผลิอันพิเศษแห่งภูมิภาคนี้ในปี 1993 ควางจู ได้กำหนดให้ชุนซอลชาเป็นสิ่งพิเศษแห่งควางจู หมายเลข 1


      ชื่อสถานที่: แผนกการท่องเที่ยว, ศาลาว่าการเมืองควางจู
      เบอร์โทร: (062) 606-3331
      วิธีการเดินทาง: โดยรถประจำทางเมืองควางจูหมายเลข 15, 23, 27, 52 หรือ 555 และลงรถที่วัดซึงซิมซา



      ย้อนขึ้น
      พิพิธภัณฑ์ชา
      พิพิธภัณฑ์แสดงพิธีดื่มชา
      พิพิธภัณฑ์มีการจัดห้องแสดงนิทรรศการ ศูนย์ให้การศึกษา และพื้นที่จัดนิทรรศการรูปปั้นกลางแจ้ง ซึ่งเป็นอุทยานอันสวยงามแสดงรูปปั้นกลางแจ้ง 100 รูปและบริเวณสนามหญ้าใหญ่ส่วนกลางซึ่งจะใช้เป็นศูนย์การศึกษาเรื่องชากลางแจ้ง
      ที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ด้วยได้แก่สิ่งอำนวยความสะดวกอันหลากหลายเช่น เฉลียง ลานสำหรับทูโฮ (tuho) (เกมการขว้างลูกศรแบบดั้งเดิม) และทะเลสาบหนึ่งแห่งพิพิธภัณฑ์อยู่ท่ามกลางป่าหนาทึบซึ่งจะได้บรรยากาศและภูมิทัศน์อันงดงาม


      เบอร์โทร: (031) 998-1000
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารไปเกาะคังฮวาโดขึ้นที่สถานีขนส่งชินชอนในกรุงโซลและลงรถที่เคียวฮา-ริ และต่อรถแท็กซี่ไปพิพิธภัณฑ์ใช้เวลา 5 นาที
      เวลาให้บริการ: 10.00 - 18.00 น.
      วันให้บริการ: (ทุกๆวันเสาร์ อาทิตย์และจันทร์)
      ราคาค่าบริการ: 3,000 วอน


      พิพิธภัณฑ์ชาพูซาน (Busan Tea Museum)
      พิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุเกี่ยวกับชาในยุคสามอาณาจักรในโบราณและในช่วงราชวงศ์โคเรียวและโชซอนรวมทั้งทรัพย์สมบัติประเภทเครื่องปั้นดินเผาและภาชนะเครื่องเคลือบสำหรับใส่ชา แขกผู้มาเยือนจะได้รับการเชิญชวนให้เข้าร่วมในพิธีดื่มชาแบบโบราณเรียกว่า ดาโด ที่หอดาโดกวาน (Dadogwan)


      ชื่อสถานที่: พิพิธภัณฑ์ชาบูซาน (Busan Tea Museum) และ ดาโดกวาน (Dadogwan)
      เบอร์โทร: (051) 850-3112 และ (051) 850-3085
      วิธีการเดินทาง: เดินเท้าไป 10 นาทีจากวิทยาลัยเทคโนโลยีดองกุย (Dongui College of Technology) ตรงทางออกของสถานีรถไฟใต้ดินยางชองโดยรถไฟใต้ดินพูซานสาย 1
      เวลาให้บริการ: 9.00 - 17.00 น
      วันให้บริการ: ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดราชการอื่นๆ
      ราคาค่าบริการ: ฟรี แต่สำหรับหมู่คณะ มีโปรแกรมซึ่งรวมพิธีดื่มชา ดาโด ของกำนัลชิ้นเล็กๆ ทัวร์นิทรรศการ และอื่นๆนำ เสนอในราคา 15,000 วอน


      พิพิธภัณฑ์ชา โอ ซุลลอค
      เกาะเชชูได้รับของขวัญจากธรรมชาติให้เป็นที่ปลูกชาชั้นดีรวมทั้งสภาพดินฟ้าอากาศ ฟ้าฝน และผืนดิน พิพิธภัณฑ์ทรงถ้วยชาแห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเกาะเชจูจะจัดแสดงประวัติความเป็นมาและการผลิตชาและผลิตภัณฑ์ชาเขียวอันหลากหลาย มีห้องสำหรับจัดสัมมนา และหอชมวิวซึ่งจะได้สัมผัสกับภาพมุมกว้างของทุ่งชาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ด้านหน้ามีสวนแบบโบราณเล็กๆที่ตกแต่งอย่างสวยงาม


      เบอร์โทร: (064) 794-5312
      วิธีการเดินทาง: ไม่ง่ายนักที่จะไปพิพิธภัณฑ์โดยระบบขนส่งสาธารณะ เดินทางโดยรถแท็กซี่อาจจะเป็นการดีที่สุด อย่างเช่น เรียกรถแท็กซี่จากชุงมุนรีสอร์ท (Jungmun Resort) ไปยังพิพิธภัณฑ์โดยใช้เวลา 20 นาที
      เวลาให้บริการ: 10.00-18.00 น.
      วันให้บริการ: ปิดวันชูซกและวันปีใหม่ตามจันทรคติ
      ราคาค่าบริการ: ฟรี



      วัฒนธรรมเกาหลี
      ประเทศเกาหลีเป็นคาบสมุทรที่ทอดตัวลงใต้จากศูนย์กลางชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปเอเชีย คาบสมุทรเกาหลีประกอบด้วยพื้นที่ประมาณ 220,000 ตารางกิโลเมตรกับเกาะใหญ่น้อยประมาณ 3,400 เกาะเรียงรายตลอดชายฝั่ง

      ณ เวลานี้ประเทศเกาหลีเป็นประเทศเดียวในโลกที่ยังคงถูกแบ่งแยกตามภูมิศาสตร์และลัทธิการปกครอง มีประชากรทั้งหมดประมาณเจ็ดสิบล้านคนทั้งในประเทศเกาหลีเหนือและใต้ และไม่นานมานี้เองที่มีความก้าวหน้าที่เด่นชัดหลายประการในการร่วมมือและรวมประเทศเข้าด้วยกัน

      คำว่า "เกาหลี" นี้ใช้อ้างอิงทั้งประเทศเกาหลีเหนือและใต้ ประเทศเกาหลีใต้ ณ ที่นี้ หมายถึงสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งมีประชากร 48 ล้านคนในจำนวนนี้ 10 ล้านคนอาศัยอยู่ในกรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวง กรุงโซลนั้นประการศักดาว่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 600 ปี และในปี 1988 ก็มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 24 ประเทศเกาหลีเป็นเป้าแห่งความสนใจจากทั่วโลกอีกครั้งเมื่อได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศญี่ปุ่นในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2002

      ประเทศเกาหลีมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาชาวเกาหลีเองได้เรียกผืนแผ่นดินแห่งนี้ว่า คึมซูกังซาน (geumsugangsan) หรือ "ผืนพรมทองแห่งแม่น้ำและภูเขา" ความน่าพิศวงของผืนแผ่นดินนี้ถ่ายทอดผ่านแต่ละช่วงฤดูกาลด้วยทัศนียภาพที่แตกต่างกันไป ภูมิอากาศของเกาหลีซึ่งแบ่งออกเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวนั้นมีความแตกต่างกันมากทีเดียว คือช่วงฤดูหนาวโดยปกติจะกินเวลายาวนาน ฤดูร้อนสั้นกว่า และฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่สั้นที่สุด ช่วงเวลาฝนตกจะเป็นระหว่างฤดูร้อนในช่วงเดือนมิถุนายน

      ชุดแต่งกายตามประเพณีของชาวเกาหลีคือ ฮันบก (Hanbok) ชุดที่ใช้แต่งกายในฤดูหนาวนั้นใช้ผ้าที่ทอจากฝ้ายและกางเกงยาวที่มีสายรัดที่ข้อเท้าซึ่งช่วยในการเก็บความร้อนของร่างกาย ในขณะที่ช่วงฤดูร้อนจะใช้ผ้าป่านลงแป้งแข็งหรือผ้ารามีซึ่งช่วยในการซึมซับและการแผ่ซ่านของความร้อนในร่างกายให้มากที่สุด

      อาหารเกาหลีก็ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบรับกับภูมิอากาศ ในภูมิภาคที่ฤดูหนาวกินเวลานาน เทคนิคการถนอมอาหารพิเศษได้ถูกวิวัฒน์ขึ้นเพื่อเก็บรักษาวิตามินในสูตรอาหารประเภทผัก กิมจิเป็นตัวอย่างอันเป็นสัญลักษณ์ของอาหารหมักดอง ความจริงที่ว่ากิมจิจะมีรสเค็มขึ้นถ้าใครนำมันจากทางเหนือที่หนาวเย็นมาสู่ทางใต้ที่อบอุ่นกว่านั้นเป็นเกี่ยวข้องกันมากกับลักษณะของอากาศ

      อิทธิพลของภูมิอากาศยังบ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันของเกาหลี บ้านแบบเกาหลีจะมี ออนดอล (Ondol) ซึ่งทำปฏิกิริยาภายใต้พื้นเพื่อช่วยเพิ่มความร้อนฤดูหนาว และโดยทั่วไปบ้านจะมีหลังคาต่ำ มีห้องเล็กและผนังหนา มีหน้าต่างและประตูเปิดสู่ภายน้อยซึ่งมักจะทำเป็นสองชั้น บ้านเกาหลีโบราณจะมีห้องโถงเปิดพื้นเป็นไม้ซึ่งสมาชิกในครอบครัวจะใช้เวลาส่วนใหญ่ที่นี่ในช่วงฤดูร้อน ห้องสำหรับอยู่อาศัยนั้นโดยปกติจะอยู่กลางบ้านใหญ่ ห้องรับแขกจะอยู่อีกหลังต่างหาก ห้องครัวก็สร้างเป็นหลังต่างหากและถูกออกแบบให้ใช้งานได้หลายอย่างนอกจากการปรุงอาหารเพียงอย่างเดียว

      เป็นเวลาไม่นานมานี้เองที่เศรษฐกิจของเกาหลีได้ถูกปฏิรูปไปเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ปี 1960 เกาหลีได้เปลี่ยนจากเศรษฐกิจแบบเกษตรกรรมเป็นแบบอุตสาหกรรมที่รุดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการปฏิวัติแปรเปลี่ยนไป การส่งเสริมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การต่อเรือ การคมนาคม และยานยนต์ซึ่งเป็นแบบอย่างของการพัฒนาประเทศไปทั่วโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการคมนาคมและสารสนเทศนั้นเกาหลีในวันนี้ยืนอยู่แถวหน้าของโลก

      ชาวเกาหลีได้สร้างวัฒนธรรมที่โดดเด่นผ่านช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานและมรดกทางวัฒนธรรมอันเด่นเฉพาะตัวก็สามารถพบได้ตลอดคาบสมุทร ชาวเกาหลีให้คุณค่ากับการเรียนรู้และมีชื่อเสียงมากในการอุทิศตนและความมุมานะอุตสาหะ บางทีอาจเป็นเพราะลักษณะเหล่านี้ก็ได้ที่ทำให้พวกเขาสามารถใช้แรงกระตุ้นทางวัฒนธรรมซึ่งนำมาประยุกต์อย่างถี่ถ้วนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ  

      กีฬาประเพณี
       ชาวเกาหลีรักการกีฬาเป็นอย่างมาก 20 ปีมาแล้ว ที่เกาหลีเป็นเจ้าภาพการแข่งขันนานาชาติต่าง ๆ รวมทั้งกีฬาโอลิมปิค ในปี ค.ศ.1988 และฟุตบอลโลก ค.ศ.2002 นอจากนี้นักกีฬาของเกาหลีก็ได้คะแนนยอดเยี่ยมในการแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ

      นอกจากกีฬาสมัยใหม่เช่นการชิงแชมป์นานาชาติเรือกีฬาฤดูหนาวแล้ว เกาหลียังมีการละเล่นตามประเพณีแบบชาวบ้านและกีฬาแบบต่าง ๆ อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ การละเล่นหรือกีฬาประเภทนี้จะเล่นกันในโอกาสพิเศษเช่น วัดขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ วันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้าของเกาหลี) หรือวันทาโน๊ะวันที่ 5 เดือน 5 จันทรคติ

      การต่อสู้ซีรึม
      ซีรึม เป็นหนึ่งในกีฬาประเพณีของเกาหลีที่ถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ การเล่นประกอบด้วยนักกีฬา 2 คน ที่ต้องจับเชือกคาดเอวของคู่ต่อสู้ให้มั่น และใช้พลังของตัวเองโยนคู่ต่อสู้ของตัวให้ลงพื้นให้ได้จึงจะเป็นผู้ชนะ

      ในปัจจุบัน ซีรึมเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมมากในหมู่สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีชาวเกาหลีทั้งหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ และทุก ๆ ปีก็จะมีการแข่งขันกีฬานี้บ่อย ๆ  

      เบอร์โทร: สมาคมการต่อสู้ซีรึมแห่งเกาหลี (Tel.02-420-4256)


      เทควันโดเกาหลี
      เทควันโดถือกำเนิดในเกาหลีและปัจจุบันเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก มันคือกีฬาที่ต้องใช้ทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะแขน ขา มันไม่ได้เป็นเฉพาะศิลปินการป้องกันตัวเท่านั้น แต่มันคือการเสริมสร้างบุคลิกภาพโดยการฝึกกายและจิต

      เทควันโดได้เป็นกีฬาทางการในระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ซิดนีย์ในปี 2000    

      เบอร์โทร: สมาคมเทควันโดเกาหลี (Tel.02-420-4271/3)
      Url: http://www.koreataekwondo.org


      การยิงธนู
      การยิงธนู คือประเพณีแห่งศิลปะการต่อสู้และขณะเดียวกันก็เป็นการละเล่น ตั้งแต่ยุคสมัยเกาหลีโบราณ การยิงธนูเป็นการแสดงความสามารถที่สำคัญทีเดียว และได้รับการขนานนามว่าเป็นกีฬาชั้นสูง  

      ชื่อสถานที่: สมาคมยิงธนูแห่งเกาหลี
      เบอร์โทร: (02)420-4261



      ย้อนขึ้น
      การละเล่นตามประเพณี
      การเล่นว่าว
      การเล่นว่าวเป็นการละเล่นแบบชาวบ้าน ว่าวรูปสี่เหลี่ยม (ย็อน) ทำขึ้นด้วยการขึงไม่ไผ่บนแผ่นกระดาษ ชังโฮจิ ตามขวางและเย็บเข้าติดกันเพียงเท่านี้ ว่าวก็พร้อมจะถูกปล่อย ให้ลอยขึ้นไปในท้องฟ้า

      การเล่นว่าวเป็นที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะในวันประเพณีต่าง ๆ เช่นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติหรือวันฉลองอื่นของชาวบ้าน มีการชิงชนะเลิศการเล่นว่าวไปหลาย ๆ เมืองในเกาหลี   



      นอลตุยกี (กระดานหก)
      กระดานหกเป็นประเพณีการละเล่นแบบชาวบ้านสำหรับสุภาพสตรี วิธีการก็คล้ายกับม้ากระดกแบบตะวันตกนั่นคือ มีแผ่นไม้ยาว ซึ่งส่วนกลางจะตั้งอยู่บนกองฟางที่แห้งแข็ง ผู้เล่นจะมี 2 คน โดยแต่ละคนจะผลัดกันกระโดดลงบนลายไม้แต่ละข้าง การละเล่นนี้มักจะเล่นกันในวันหยุดตามประเพณีต่าง ๆ เช่นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ วันชูซก หรือวันทาโน๊ะ  



      คีเนตุยกี (ชิงช้า)
      ชิงช้านี้ก็เป็นการละเล่นแบบชาวบ้านอีกอย่างหนึ่งที่นิยมเล่นกันในหมู่สุภาพสตรี เช่นเดียวกับนอลตุยกี และนิยมเล่นกันในวันทาโน๊ะคึเนซึ่งเป็นชิงช้าของเกาหลีทำขึ้นโดยใช้เชือก 2 เส้นผูกติดกับแผ่นไม้และนำไปแขวนติดกับต้นไม้สูง หรือผูกติดกับไม้ซุง ซึ่งต่อเป็นคาน หญิงสาวชาวเกาหลีจะโล้ชิงช้าคึเนนี้ไปได้สูงทีเดียว คึเนตุยกีจึงเป็นการละเล่นที่ชาวบ้านทุกเพศทุกวัยเล่นกันในระดับประเทศ

      พาดุก
      พาดุกเป็นการละเล่นแบบกระดานโดยมีผู้เล่น 2 คน ในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า "โก" หรือหมากล้อม และได้รับความนิยมเล่นอย่างแพร่หลาย ในภาคตะวันออกไกล และทั่วโลกซึ่งผลัดกันวางหมากสีขาวและสีดำลงบนกระดาน พาดุกบัดนี้กลายเป็นการละเล่นสากลไปแล้ว และเล่นยากกว่าหมากรุก

      ชางกี (หมากรุกเกาหลี)
      ชางกีเป็นการละเล่นแบบกระดานคล้ายหมากรุก ซึ่งต้องมีผู้เล่น 2 คน เช่นเดียวกับหมากเดินทำด้วยไม้หรือพลาสติก บรรดานักเล่นหมากรุกทั้งหลายย่อมรู้จักตัวพระราชา เรือ ม้า และเบี้ย อื่น ๆ แต่คงไม่เคยเห็นช้างและปืนใหญ่ซึ่งไม่มีในหมากรุก

      การละเล่นนี้และพาดุก ถือว่าเป็นการละเล่นแบบต้องใช้ยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีต่าง ๆ ในการเอาชนะคู่ต่อสู้   

      ยุทนอริ (การละเล่นแบบไม้ 4 แท่ง)
      ยุทนอริเป็นหนึ่งในการละเล่นที่นิยมเล่นกันในเดือนมกราคมในจันทรคติ และเป็นการละเล่นของเกาหลีแท้ ๆ ยุท เป็นคำ ๆ หนึ่งในเกมส์นี้ (โด, เก, กล, ยุท และโม) หมายความว่า "สี่" เกมส์มีความคล้ายคลึงกับ เกมส์พาชีสิ แต่การเล่นแบ่งออกเป็น 2 ทีม ซึ่งจะเดินหมากไปรอบ ๆ หลังจากการโยนไม้




      ย้อนขึ้น

      ภาษาเกาหลี

      ภาษาเกาหลีเบื้องต้นที่อาจมีประโยชน์ต่อท่าน

         การทักทาย และถ้อยคำสุภาพทั่วไป
      สวัสดีตอนเช้า
      สวัสดีตอนบ่าย
      สวัสดีตอนเย็น
      อันย้ง ฮาเซโย
      คุณสบายดี หรือเปล่า ชออึม เป็บ เกสซอโย
      ยินดีที่ได้รู้จัก มันนาซอ พัน กาวอโย
      กรุณาช่วย ดิฉัน/ผม โทวาจูเซโย
      ขอบคุณ คัมซา ฮัมนีดา
      ยินดีต้อนรับ ชนมาเนโย
      ผม/ดิฉัน เสียใจ มีอัน ฮัมนีดา
      ขอโทษ ชิลเล ฮัมนีดา
      ใช่มี เย อิสซอโย
      ไม่มี อานโย อ๊อบซอโย
      ลาก่อน อันย้งฮี กาเซโย

      การคมนาคมขนส่ง
      ช่วยกรุณาบอกทางไป (พระราชวังถ๊อกซูกุง) (ถ๊อกซูกุง) คานึน คีรึล คารึชอ จูเซโย
      ...............อยู่ที่ไหน ? .............. อีออดิ อิสซึมนีก้ะ ?
      ช่วยพาไปที่...................... ............อือ โร คา จูเซโย
      กรุณาจอดตรงนี้ ยอกีซอ เซวอ จูเซโย
      ...............อยู่ไกลแค่ไหน ..............ก้าจิ ออลมสนา มอมนิก้า
      จะเรียกแท็กซี่ได้ที่ไหน ? ออดิซอ แท็กชีรึล ทัลซู อิสซึลกาโยะ?
      ใช้เวลานานเท่าใดที่จะไป................. ? .........คาจิ ชีกานี ออลนามา คอลลิมนีก้า?
      รถโดยสารคันนี้ไป ............หรือไม่ ? อี บอซึ...........คัมนีก้า?

      ช้อปปิ้ง
      ขอดูอันนี้หน่อย ค่ะ/ครับ อีกอซึล โพยอจูเซโย
      ราคาเท่าไหร่ คีอกอซึน ออลมาอิมนีก้า
      ซื้ออันนี้ค่ะ/ครับ อีกอซึล จูชิบชีโย
      คุณรับบัตรเครดิตหรือเปล่าคะ ซินยงกาดิ พัทซึมนิก้า

      รับประทานอาหารนอกบ้าน
      ขอดูเมนูด้วยค่ะ/ครับ เมนู ชม โพยอ จูเซโย
      ที่นี่มีอะไรเป็นอาหารจานเด็ด อีชิบ เอซอ ชาลฮานึน อึมชีกี มออช ชีโจ้ะ
      ผม/ดิฉันเอาบูโกกิค่ะ/ครับ บูลโกกิ จูเซโย
      คุณช่วยเอาอันนี้มาให้หน่อยค่ะ/ครับ อีกอส โชกิม ทอ จูเซโย

      ที่พัก
      มีห้องว่างหรือไม่ บินบัง อิสซึมนีกา
      คุณช่วยทำความสะอาดห้องให้หน่อยได้ไหมค่ะ บัง ชองโซ ชม แฮจูเซโย
      ผม/ดิฉันอยากพักอีก 1 คืน ฮารู ทอ มุกโค ชิบซึมนิดะ
      คุณช่วยปลุกผม/ดิฉันตอน 6 โมงเช้าได้ไหมคะ อาชิม ยอซอสชีเอ เก้วอจูเซโย

      เบ็ดเตล็ด
      ศูนย์รับแจ้งของหาย พุนชิลมุลโพกวันโซ
      สถานนีตำรวจ เคียงชัลซอ
      โรงพยาบาล เพียงวอน
      สุขา ฮวาจังชิล
      ร้านค้าขายยา ยักกุก
      โรงแรม ยอกวัน
      ตลาด ซิจัง
      ร้านอาหาร ซิกดัง
      สนามบิน คงฮัง
      รถไฟฟ้าใต้ดิน ชีฮาชอล
      สถานีรถไฟ กิชายก

      หมายเลข
      0
      1
      2
      3
      4
      5
      6
      7
      8
      9
      10
      ยอง
      อิล/ฮานา
      อี/ทูล
      ซัม/เซ็ท
      ซา/เน็ท
      โอ/ทาซอท
      ยุก/ยอซอท
      ชิล/อิลกอป
      พัล/ยอตอล
      คู/อาฮอป
      ซิป/ยอล

      20
      100
      1,000
      10,000
      100,000
      1,000,000
      อิชิป
      แพ็ก
      ชอน
      มาน
      ชิมมัน
      แพ็กมาน


      เทควันโด
      รู้จักกับศิลปการต่อสู้แห่งเกาหลี
      เทควันโดเป็นศิลปะการต่อสู้แบบมือเปล่าและกีฬาซึ่งใช้มือและเท้าในการโจมตีและตั้งรับ จุดหลักของเทควันโดอยู่ที่การฝึกจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับกาย


      ประวัติความเป็นมา
      รากฐานของเทควันโดคือแทกคียอน รูปแบบการต่อสู้แบบดั้งเดิม ในทางกลับกันแทกคียอนนั้นย้อนอดีตกลับไปสู่ยุคที่เกาหลียังอยู่กันเป็นชนเผ่า แทกคียอนนั้นเป็นการรู้กันในชื่อที่แตกต่างกันไปจากยุคสู่ยุคและถูกพบว่ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วในยุคของสามอาณาจักร (ช่วงระหว่างศตวรรษที่สี่ถึงเจ็ดคราวที่อาณาจักรโกกุเรียว ซิลลาและแบกเชต่อสู้กันเองเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในคาบสมุทรเกาหลี) หลังจากนั้นแทกคียอนมีการพัฒนามากขึ้นและมีวิวัฒนาการในระหว่างยุคกอร์เยว (ค.ศ. 918 - 1392) ช่วงเวลาที่ผู้ที่มีทักษะในการต่อสู้ได้รับการนับถือกันมาก ระหว่างช่วงเวลานั้น แทคคียอนใช้เป็นเครื่องมือในการเลื่อนยศของกองทัพ แต่สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปเมื่อมาถึงยุคโชซอน (ค.ศ. 1392 -1910) เมื่อมีการใช้ดาบกันมากขึ้น ทำให้แทกคียอนค่อยๆลดต่ำลงจนไม่เห็นคุณค่า ขณะนี้เทควันโดซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากแทกคียอนได้รับการยอมรับว่าเป็นกีฬาระดับโลกซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอันหนักหน่วงของผู้คนต่างๆมากมาย

      เหตุผลว่าเทควันโดสามารถได้รับความสำเร็จแบบนี้ในยุคปัจจุบันว่าเป็นกีฬายอดนิยมชนิดหนึ่ง (เมื่อเปรียบเทียบกันรูปแบบการต่อสู้แบบต่างๆของเอเซีย) อาจจะเป็นไปในลักษณะของความจริงสิ่งหนึ่งที่ว่าในยุคโบราณนั้นมีรูปแบบการแข่งขันที่รุนแรงในวัฒนธรรมของศิลปะการต่อสู้ของเกาหลี


      แทกคียอนมีการจัดขึ้นประจำในอดีตเมื่อมีการจัดเทศกาลพื้นบ้านต่างๆ การแข่งขันกันกับหมู่บ้านใกล้กัน มีบันทึกว่าชอบมีการพนันขันต่อกันในผลการแข่งขันกันด้วย

      ข้อความ "แฮดองจุค" ในยุคปลายสมัยโชซอนให้คำบรรยายที่ถูกต้องที่สุดของแทกคียอนซึ่งมีมาแต่บันทึกในสมัยเก่าและมีการเขียนเกี่ยวกับแทกคียอนดังนี้

      "มีบางสิ่งที่เรียกว่า กักซุล (ชื่อเก่าของแทกคียอน) ในวิธีทางเก่า ซึ่งคู่ต่อสู้สองคนเผชิญหน้ากัน และมีการเตะกันเพื่อล้มฝ่ายตรงข้ามให้ได้ มีด้วยกันสามระดับ ผู้ที่มีทักษะน้อยอาจได้แค่เตะขาส่วนที่มีทักษะสูงอาจเตะถึงหัวไหล่ ที่เก่งที่สุดจะเตะได้สูงถึงศีรษะ บรรพบุรุษของเราใช้มันเพื่อการล้างแค้นและแม้กระทั่งการพนันการต่อสู้เพื่อแย่งผู้หญิงกัน"



      ย้อนขึ้น
      เป้าหมายและการฝึกฝน


      ประการแรก: เทควันโดเป็นการออกกำลังกาย
      เทควันโดเป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับเด็กที่กำลังเจริญเติบโตเช่นเดียวกับเป็นการดีในการเพิ่มความอดทนให้กับร่างกาย การเคลื่อนไหวของเทควันโดต้องการการประสานงานกันเป็นพิเศษซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย และเนื่องจากมีการเตะและการแทงด้วยมือและการตะโกนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เป็นวิธีการที่ดีในการผ่อนคลายความเครียด


      ประการที่สอง: เทควันโดเป็นศิลปะการต่อสู้แบบมือเปล่า
      เทควันโดโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยมือเปล่าและเท้า สิ่งที่ทำให้เทควันโดแตกต่างจากรูปแบบศิลปะการต่อสู้แบบอื่นคือการเคลื่อนไหวของขาอันหลากหลายและทรงพลัง และสิ่งนี้ทำให้เทควันโดกลายเป็นศิลปการต่อสู้ระดับโลก การโจมตีของเทควันโดรุนแรงแต่ก็ในขณะเดียวกันก็มุ่งเป้าไปยังรูปแบบการตั้งรับ สิ่งนี้เป็นการดีสำหรับผู้ที่จะเรียนเทควันโดเป็นวิธีทางหนึ่งในการป้องกันตัว


      ประการที่สาม: เทควันโดในรูปแบบกีฬา
      เทควันโดเป็นชนิดกีฬาที่ยอมรับเป็นทางการในการจัดการแข่งขันกีฬาที่สำคัญๆเช่น โอลิมปิก พานามเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ ออลอเมริกันเกมส์ และเซ้าธ์อเมริกันเกมส์ การแข่งขันเทควันโดนั้นรวมการมีอุปกรณ์ช่วยในด้านความปลอดภัยและการจัดตั้งรูปแบบการโจมตีและการป้องกันเข้ากันไว้ด้วย เพื่อที่จะลดระดับความเสียหายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยวิธีนี้ผู้เล่นจะสามารถสนุกสนานไปกับการข่มขวัญในการต่อสู้ด้วยความเสี่ยงที่น้อย


      ประการที่สี่: เทควันโดเป็นวิธีการศึกษา
      เทควันโดฝึกฝนร่างกายแต่ก็ช่วยพัฒนาจิตใจได้มาก จุดประสงค์ในการเรียนเทควันโดเป็นการสนันสนุนการเติบโตทั้งการและใจเพื่อทำให้คนเป็นคนที่สมบูรณ์ สาวกแห่งเทควันโดจะได้รับการอบรมในแง่มุมต่างๆซ้ำๆกันรวมถึงทักษะการโจมตีและตั้งรับเพื่อสร้างลักษณะนิสัยที่ดี



      ย้อนขึ้น
      การแข่งขันและกติกา
      ผู้แข่งขันเทควันโดสามารถแบ่งเป็นรูปแบบหลักสองแบบ แบบแรกคือ ผู้แข่งขันที่ชอบในเชิงรุกซึ่งจะใช้ทักษะที่น่าประทับใจ และแสดงออกอย่างดุดันในการแข่งขัน ผู้ที่ชอบในเชิงรับในทางกลับกันป้องกันตัวอย่างสุขุมเพื่อหาโอกาสเข้าทำแบบจะๆเพื่อเก็บคะแนน ในการดูการแข่งขันนั้นการสำรวจประวัติของผู้เข้าแข่งขันเพื่อบ่งบอกว่าใครชอบรูปแบบใด และมีวิธีการการให้คะแนนด้านล่างเพื่อทำนายว่าใครจะชนะ



      ย้อนขึ้น
      วิธีการการให้คะแนน
      เพราะเทควันโดเป็นกีฬาที่มีความรุนแรงสูง จึงมีการแบ่งการแข่งขันเป็นช่วงละ 3 นาที สามช่วง และมีการพักหนึ่งนาทีในแต่ละช่วง คะแนนอาจมีการเพิ่มหรือลด และผลคะแนนที่ได้ในสามช่วงนั้นจะสะสมกันจนถึงช่วงสุดท้ายของการแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะ ในกรณีที่ต้องมีการต่อเวลาผู้ชนะคือผู้ที่ได้รับคะแนนในเชิงบวกมากที่สุด ถ้ายังหาผู้ชนะไม่ได้อีกการตัดสินจะอยู่ในดุลยพินิจของกรรมการผู้ซึ่งจะเลือกผู้ที่แสดงการโจมตีที่ดีที่สุดในระหว่างการแข่งขัน


      การคำนวณคะแนน
      คะแนนที่ได้รับ (+2 คะแนน) > การใช้เท้า - ถีบคู่ต่อสู้อย่างรุนแรงเข้าที่หน้า

      คะแนนที่ได้รับ (+2 คะแนน) > การใช้หมัด - เมื่อต่อยเข้าเป้าที่จะแจ้งในบริเวณสีน้ำเงินหรือสีแดงของชุดป้องกันที่ร่างกาย ความจะแจ้งคือคู่ต่อสู้ออกอาการจากแรงหมัดหรือมีเสียงดังสนั่น

      การใช้เท้า - เมื่อมีการเตะที่จะแจ้งไปยังบริเวณสีน้ำเงินหรือสีแดงบนหัวหรือร่างกายของชุดป้องกัน


      การเตือน (-0.5 คะแนน)
      1) การทำผิดกติกา
              - การรวบคู่ต่อสู้
              - การเข้าปล้ำคู่ต่อสู้
              - การผลักคู่ต่อสู้
              - การใช้ร่างกายสัมผัสคู่ต่อสู้

              2) การแสดงอาการขลาดกลัว
              - การออกนอกเส้นเพื่อหลบการโจมตี
              - หันหลังให้คู่ต่อสู้เมื่อหลบการโจมตี
              - การล้มตัวลงเพื่อหลบหลีก
              - แกล้งทำเป็นเจ็บ
             
              3) การโจมตีผิดกติกา
              - การสัมผัสเป้าหมายบริเวณเข่าหรือหน้าผาก
              - การเตะเข้าที่หว่างขาโดยเจตนา
              - กายย่ำบริเวณแข้ง คาง เข่า และอื่นๆ ของคู่ต่อสู้ที่ล้มลง
              - การใช้มือตบหน้า

              4) มารยาททราม
              - เมื่อผู้แข่งขันหรือผู้ฝีกสอนโต้เถียงในเรื่องคะแนน
              - มารยาททรามของผู้ฝึกสอนหรือผู้แข่งขัน
              - เมื่อผู้ฝึกสอนลุกจากที่นั่ง


      การตัดคะแนน (- 1 คะแนน)
      1) การทำผิดกติกา
              - การใช้มือจับตัวคู่ต่อสู้กดให้ล้มลง
              - การจับขาคู่ต่อสู้ขณะเตะเพื่อให้ล้มลง

              2) การแสดงความขลาด
              - ออกนอกพื้นที่การแข่งขันเพื่อหลบการโจมตี
              - ตั้งใจจะให้การแข่งขันดำเนินต่อไปด้วยยาก

              3) การโจมตีที่ผิดกติกา
              - การโจมตีคู่ต่อสู้ที่ล้มลงแล้ว
              - การโจมตีคู่แข่งขันหลังจากกรรมการสั่งแยก
              - การโจมตีที่หลังศีรษะหรือที่หลังโดยจงใจ

              4) มารยาททราม
              - การกระทำที่ทรามสุดๆของผู้ฝึกสอนหรือผู้แข่งขัน



      ย้อนขึ้น


      เทศกาลในประเทศเกาหลี (หน้า 1/2)
      ฤดูใบไม้ผลิ
      ทุกวันนี้มีเทศกาลประมาณ 400 เทศกาลในเกาหลีที่มีการจัดขึ้นทุกปี ซึ่งโปรโมททุกอย่างตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและการครัวจนถึงหัตถกรรมและศิลปะเทศกาลที่แนะนำในที่นี้เด่นชัดทั้งทางความใหญ่โตและผู้เข้าร่วมและกำหนดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมว่าเป็นเทศกาลวัฒนธรรมของปี 2005 ผู้มาเยือนจะพบกับการค้นพบที่น่าอัศจรรย์และได้รับความรู้และแรงบันดาลใจ


      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      ตค.
      พย.
      ธค.
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
         .
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
         
       
         
         
         
         
         
         
         
       
       
       
       
       
      ฤดูร้อน
       
       
      เทศกาลโคลนโพเรียง
       
      เทศกาลวัฒนธรรมศิลาดลคังจิน
       
      เทศกาลวิทยศาสตร์แทจอน
       
      เทศกมูจู
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
       
         
       
         
       
         
      เทศกาลเห็ดป่าสนยางยาง
         
      เทศกาล พูซาน ชากัลชิ
         
      เทศกาล ศิลปการต่อสู้แห่งโลก ชุงจู
         
      เทศกาล อาหารทะเลหมักดองคังเคียง
         
      เทศกาล พูซาน ขอบฟ้ากิมเจ
         
      เทศกาล กิมจิ ควางจู
         
      เทศกาลข้าวใหม่อีชอน
         
      เทศกาลโคม จินจู นัมกัง
         
      เทศกาลโสมพุงกี
         
      มค.
      กพ.
      มีค.
      เมย.
      พค.
      มิย.
      กค.
      สค.
      กย.
      ตค.
      พย.
      ธค.
                             

      เทศกาลเครื่องดื่มและขนมพื้นบ้านแห่งเกาหลี (Korean Traditional Drink and Cake Festival)
      เทศกาลอาหารพื้นบ้านเกาหลีนี้จัดขึ้นที่เคียงจู, จังหวัดเคียงซางบุก-โด ผู้มาเยือนจะพบกับขั้นตอนการทำเครื่องดื่มและขนมข้าวพื้นบ้านชั้นครูและลองชิมฟรี ภาพที่เห็นคือการดื่มเหล้ากลั่นพื้นบ้านและขนมข้าวรสละมุน เป็นเป็นพิเศษในด้านพิธีการและตามฤดูกาล รวมถึงขนมพื้นบ้านรับประทานคู่กับเครื่องดื่มและขนมข้าวทั้งหมดทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการครัวและขายในราคาลดพิเศษ

      เทศกาลเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของจีนและญี่ปุ่นก็จะดื่มเคียงคู่ไปกับขนมข้าว งานด้านการครัวต่างๆ เปิดให้สำหรับทุกคนเข้าร่วม รวมถึงการแสดงนิทรรศการเครื่องดื่ม ขนมข้าว และเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆในการทำ วิธีการทำขนมข้าว การสาธิตการแต่งงานแบบดั้งเดิม และงานรื่นเริงที่จัดมาหลายชั่วอายุ การเรียนรู้มารยาทและขั้นตอนการดื่ม การแสดงดนตรีแบบดั้งเดิมตามสมัยอาณาจักรชิลลา (Silla Kingdom) (57 ปี ก่อน ค.ศ. - ค.ศ. 935) และอื่นๆ


      ชื่อสถานที่: เคียงจู, เคียงซางบุก-โด (Gyeongju, Gyeongsankbuk-do)
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยว, ศาลาว่าการเมืองเคียงจู
      เบอร์โทร: (054) 779-6396
      โทรสาร: (054) 779-6399
      Url: http://www.festival.or.kr/kyongju
      วิธีการเดินทาง: รถประจำทางหมายเลข 10 วิ่งจากท่ารถด่วนเคียงจู ถึงโพมุนเลครีสอร์ท (ใช้เวลา 30 นาที รถออกทุก 30 นาที)
      วันให้บริการ: ปลายมีนาคม ถึง ต้นเมษายน


      เทศกาลวัฒนธรรมวังอิน (Wang In Cultural Festival)
      วังอินเป็นปราชญ์ในช่วงศตวรรษที่ห้าในสมัยอาณาจักรแพ็กเจ (Baekje Kingdom) (18 ปีก่อน ค.ศ. - ค.ศ. 660)
      ท่านได้เดินทางไปญี่ปุ่นโดยคำเชิญของจักพรรดิญี่ปุ่นและได้เผยแพร่คำสอนของท่านขงจื๊อ ตำราชนจามุน (Cheonjamun) (อักขระจีนพันตัว) และทักษะการทำกระดาษซึ่งทั้งหมดนี้ได้ช่วยอุปถัมภ์วัฒนธรรมอาสุกะของญี่ปุ่น

      เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณประโยชน์ของท่านเทศกาลวัฒนธรรมวังอินได้มีการจัดขึ้นทุกปีที่บ้านเกิดของท่าน ที่ยองอัม-กุน จังหวัด ชลลานัม-โด มีการจัดพิธีการพิเศษอันหลากหลาย รวมถึงการให้บริการเพื่อเป็นการรำลึกและการจัดแสดงพิธีกรรมโบราณที่อารามวังอินที่ซึ่งโต๊ะและรูปเขียนของท่านถูกยกย่องว่า "การเดินทะเลสู่ญี่ปุ่น" ที่ซึ่งผู้คนจะแต่งกายในแบบแพ็กเจ 300 คนจะเดินตามรอยเท้าท่านจากอารามไปยังท่าเรือซังแดโพ (Sangdaepo Ferry) อันเป็นที่ที่ท่านออกเดินทางและพิธีการอื่นๆอีก เรือสไตล์แบกเชและข้าวของโบราณต่างๆจะนำท่านผู้มาเยือนกลับไปยังช่วงเวลาแห่งยุคแบกเช สิ่งที่ต้องชมอีกอย่างคือการเดินพาเหรดโคมอักขระจีนพันตัวซึ่งนักเรียนหนึ่งพันคนจะออกเดินจากอารามไปยังท่าเรือในยามเย็นโดยแต่ละคนจะถือโคมที่มีตัวอักขระจีนสมัยขงจื๊อในแต่ละดวง


      ชื่อสถานที่: อารามวังอิน, ยองอัม, ชลลานัม-โด (Wang In Shrine, Yeongam, Jeollanam-do)
      เบอร์โทร: (061) 470-2350
      โทรสาร: (061) 470-2347
      Url: http://www.wangin.org
      วิธีการเดินทาง: โดยรถประจำทางจากท่ารถด่วนโซลถึงยองอัม-กุน (ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง 40 นาที รถออกวันละ 2 รอบ)
      วันให้บริการ: ต้นเมษายน


      เทศกาลวัฒนธรรมออนยาง (Onyang Cultural Festival)
      เทศกาลวัฒนธรรมออนยางจัดขึ้นในช่วงคล้ายวันเกิดท่านนายพลเรือยีซุน-ชิน (Admiral Yi Sun-shin) เพื่อเป็นแรงบันดาลให้เกิดความรักชาติในการรำลึกถึงท่านผู้เป็นวีรบุรุษแห่งชาติผู้ต่อสู้กับการรุกรานของฮิเดโยชิแห่งญี่ปุ่นในปี
      1592 มีพิธีการหลากหลายเพื่อแสดงการสรรเสริญต่อท่านนายพลยีเมื่อสี่ร้อยปีที่แล้วและเป็นแรงบันดาลให้ผู้คนรู้สึกใกล้ชิดกับวีรบุรุษในประวัติศาสตร์

      สถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงได้แก่ อารามฮยองชุงซา (Hyeongchungsa Shrine) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของอนุทินสงครามต่างๆที่เขียนขึ้นโดยท่านนายพล , โคบุคซอน (geobukseon) หรือ เรือเต่าซึ่งเป็นเรือรบหุ้มเกราะลำแรกและดาบยาว ที่ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติแห่งชาติ รวมถึงบ่อน้ำร้อนออนยางและอาซาน

      เหตุการณ์สำคัญได้แก่อาทิ เกมการรบทางทะเลของเรือเต่า การแข่งขันชักว่าว การแข่งขันมาราธอนของวีรบุรุษ การสาธิตการทดสอบการรับราชการทหาร และอื่นๆ


      ชื่อสถานที่: ศูนย์การท่องเที่ยวแห่งชาติ, ทะเลสาบซินจองโฮ, อาซาน, ชุนชองนัม-โด (Sinjeongho Lake, Asan Chungcheongnam-do)
      เบอร์โทร: (041) 540-2544
      โทรสาร: (041) 540-2569
      Url: http://www.onyangfestival.co.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถไฟขบวนชางฮังซอน (Janghangseon Line) จากสถานีรถไฟโซลไปยังสถานีอาซาน (ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที)
      วันให้บริการ: ปลายเมษายน


      เทศกาลชินโด ยองดึง (Jindo Yeongdeung Festival)
      ทะเลช่วงเกาะชินโดและเกาะโมโดห่างจากฝั่งโฮดอง-ริ (Hoedong-ri) ในจังหวัดชลลานัม-โด นั้นเป็นส่วนที่มีกระแสน้ำต่ำสุดในเดือนที่สามทางจันทรคติ ซึ่งน้ำลดจะเกิดถนนใต้ทะเลกว้าง 40 เมตรยาว 2.8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่รู้จักแก่โลกเป็นครั้งแรกในปี 1975 โดยท่านปีแอร์ รังดี (Pierre Randy) ท่านอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำเกาหลีได้รายงานปรากฏการณ์ประหลาดนี้ในสื่อของฝรั่งเศสว่าเป็นราวกับ "ปาฏิหารย์ของโมเสส" ในรูปแบบเกาหลี ตำนานของปรากฏการณ์นี้มีอยู่ว่า ในอดีตกาลชาวเกาะได้รับความเดือดร้อนจากบรรดาเสือ ในปีหนึ่งการรุกรานของเสือถึงขึ้นร้ายแรงมากจนทำให้ชาวเกาะทั้งหมดต้องพลักพรากจากบ้านหนีไปยังเกาะโมโด เว้นแต่เพียงหญิงชราผู้หนึ่งชื่อยาย ป้อง ซึ่งสวดภาวนาด้วยแรงศรัทธาทุกวันว่าจะได้เห็นหน้าครอบครัวอีกครั้ง และแล้วเทวดาก็ช่วยยายด้วยการแบ่งทะเลออก

      เทศกาลชินโด ยองดึง แสดงให้เห็นถึงการเฉลิมฉลองอันน่าปิติยินดีด้วยพิธีสักการะบูชาต่อยายป้อง (Grandma Ppong) เทศกาลจัดแสดงตามตำนานด้วยการล่องทะเลด้วยแพท่อนซุง การสักการะของชาวประมงต่อเทพแห่งทะเล และการชุมนุมของกุ้งหอยบนถนนทะเล การร้องเพลงเวลาทำงานของชาวเกาะชินโด เพลงของพวกหามหีบศพ
      งานรื่นรมย์ของบบรรดาผู้ไว้ทุกข์และการแสดงพื้นบ้านต่างที่เป็นลักษณะเฉพาะของเกาะชินโด จัดขึ้นที่สิ่งหลงเหลือจากประวัติศาสตร์ อาทิ ที่ ยองจางซันซอง (Yongjangsanseong) (ป้อมภูเขา) และนัมโดซกซอง (Namdoseokseong) (ป้อมศิลา) ซึ่งถูกสร้างในสมัยราชวงศ์โคเรียว (Goryeo Dynasty) (ค.ศ. 918-1392)
      และอุลลิมซานบัง (Ullimsanbang) ห้องทำงานของโฮวยู (Heo Yu) จิตรกรผู้มีชื่อเสียงในปลายราชวงศ์ โชซอน (Joseon Dynasty)


      ชื่อสถานที่: ชินโด, ชลลานัม-โด (Jindo, Jeollanam-do)
      เบอร์โทร: (061) 544-0151
      โทรสาร: (061) 544-0420
      Url: http://www.jindo.jeonnam.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถประจำทางจากสถานีขนส่งโซลไปยังเกาะชินโด (ใช้เวลา 6 ชั่วโมง วันละ 4 รอบ) หรือ โดยรถประจำทางไปควางจู (Gwangju) จากท่ารถด่วนโซลและต่อด้วยรถเข้าเมืองชินโดที่สถานีรถควางจู (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที วันละ 50 เที่ยว)
      วันให้บริการ: เมษายน


      เทศกาลชุนยาง (Chunhyang Festival)
      เทศกาลชุนยางซึ่งเป็นเทศกาลยอดนิยมตลอดการในประเทศเกาหลีจัดขึ้นทุกปีที่นัมวอนจังหวัดชลลาบุก-โด ซึ่งจะครบรอบ 74 ปีในปี 2004 นี้

      ชุนยางเป็นวีรสตรีผู้ซื่อสัตย์ในชุนยางจอน (Chunhyangjeon) ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่มีผู้อ่านอย่างกว้างขวางในช่วงกลางของราชวงศ์โชซอน เรื่องมีอยู่ว่าชุนยางซึ่งเป็นลูกสาวของนักแสดงเกษียณอายุหญิงคนหนึ่งได้ตกหลุมรักกับ
      ยีมอง-ยอง (Yi Mong-nyong) บุตรแห่งผู้ปกครองนัมวอนและให้คำปฏิญาณว่าจะแต่งงานกัน มอง-ยองจะต้องไปอยู่เมืองหลวงฮานยาง(กรุงโซลในปัจจุบัน) ซึ่งพ่อของเขาถูกย้ายไปประจำที่นั่นรวมถึงต้องเตรียมตัวสอบเป็นจองหงวน
      ผู้ปกครองที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่นามว่า เบียน ต้องตาต้องใจในความงามของชุนยางและทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะใจเธอให้ได้ ทว่าชุนยางปฏิเสธเขาด้วยเธอภักดีต่อมอง-ยอง จนทำให้ผู้ปกครองซึ่งโกรธแค้นเธอจับเธอใส่ตะรางและทุบตี ในงานวันเกิดของเบียน เขาเอาแอกไม้หนักๆมาล่ามคอเธอ ยีปรากฏกายขึ้นในบันดลด้วยตำแหน่งผู้ตรวจการลัดของหลวงซึ่งได้รับมอบหมายให้มาสืบหาเจ้าหน้าที่ผู้ทุจริต เขาลงโทษ เบียน และช่วยชีวิตชุนยางได้ในที่สุด ทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตอย่างผาสุกมานับแต่นั้น

      เทศกาลนี้มุ่งประเด็นไปที่คุณธรรมแห่งความภักดีที่ไม่มีวันตาย กิจกรรมต่างๆ รวมถึงการเข้าเยี่ยมคารวะสุสานของชุนยาง พิธีการแสดงความเคารพชุนยางที่สวนกวางฮัลลูวอน ซึ่งผู้ประกอบพิธี 42 คนแสดงการคารวะและ นักดนตรี 30 คน จากศูนย์แสดงศิลปพื้นบ้านแห่งชาติเป็นผู้เล่นเพลง

      การประกวดเพลงดั้งเดิมชุนยางเป็นการแข่งขันดนตรีดั้งเดิมระดับชาติและการแสดงต่างๆถูกนำเสนอในเทศกาลนี้
      เพิ่มเติมด้วยเทศกาลหัตถกรรมไม้นัมวอนที่จัดขึ้นที่ เลิฟ พลาซ่า ใน โอฮยอน-ดอง (Eohyeon-dong) ซึ่งแสดงวิจิตรศิลป์แห่งหัตถกรรมจากไม้ หนึ่งในสิ่งพิเศษอันน่าภาคภูมิของนัมวอน ซีรึม (Ssireum) มวยปล้ำโบราณ
      และชิงช้าคีเนตุยกี (geunettwigi) (สำหรับผู้หญิงเล่น) มีขึ้นที่ริมลำธารโยชอน


      ชื่อสถานที่: นัมวอน, ชลลาบุก-โด (Namwon, Jeollabuk-do)
      เบอร์โทร: (063) 632-5801
      โทรสาร: (063) 632-5801
      Url: http://www.namwon.chonbuk.kr
      วิธีการเดินทาง: เดินเท้าจากสถานีรถไฟนัมวอนไปยังสวนควางฮัลลูวอน (Gwanghalluwon Garden) ใช้เวลา 10 นาที
      วันให้บริการ: ต้นพฤษภาคม


      เทศกาลแทกู ยังเนียงชี (Daegu Yangnyeongsi Festival)
      ริมถนนนัมยอง-โนระยะทาง 700 เมตรในย่านธุรกิจของแทกูมักจะอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของตัวยาสมุนไพร โดยทั่วไปมักเรียกว่า "ตรอกยา" คือศูนย์กลางแห่งธุรกิจ 350 กิจการซึ่งเกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนตะวันออก รวมทั้งยาสมุนไพร
      การบำบัดด้วยการฝังเข็ม คลินิกสมุนไพร การต้มยาและ ร้านขายสมุนไพรและโสม

      ประวัติศาสตร์ของตลาดการแพทย์แผนตะวันออกย้อนยุคไปยังศตวรรษที่ 16 ในสมัยราชวงศ์ โชซอน (ค.ศ. 1392-1910) ในช่วงแรกๆนั้นตลาดสมุนไพรจะจัดขึ้นในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิใกล้กับที่ตั้งสำนักงานรัฐบาลเก่าและย้ายไปยังสวนสาธารณะเคียงซัง กัมยอง (Gyeongsang Gamyeong) ตลาดได้ย้ายไปเปิดยังที่ตั้ง ณ ปัจจุบันในปี 1908 กำหนดให้มีการอนุรักษ์ประเพณีการรักษาโรคและส่งเสริมการแพทย์โดยสมุนไพร เทศกาลแทกู ยังเนียงชี เริ่มด้วยพิธีการรำลึกถึงและขอพรให้มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องของการค้าและความอยู่ดีกินดีของคนในท้องถิ่น ในขณะเดียวกันก็มีพิธีคารวะท่าน เชน นอง บิดาแห่งการแพทย์สมุนไพรจีน

      การแสดงเพิ่มเติมก็มีอาทิ เกมถามตอบชื่อสมุนไพร การตรวจเช็คร่างกายฟรี นิทรรศการเครื่องมือรักษาโรคแบบตะวันออก และเหล้ายาทำจาก สมุนไพรเสริมสุขภาพและรากไม้ต่างๆ เช่น โสม และสมุนไพรต่างๆ ผู้มาเยือนอาจได้เข้าร่วมการประมูลสมุนไพรและการแข่งขันซื้อสมุนไพรด้วย


      ชื่อสถานที่: แทกู
      เบอร์โทร: (053) 253-4729
      โทรสาร: (053) 257-1950
      Url: http://www.herbmart.or.kr
      วิธีการเดินทาง: เดินเท้าไป 5 นาทีจากสถานีจุงกังโน (Jungangno Station) หรือ จากสถานีบันโวลดัง (Banwoldang Station) โดยรถไฟใต้ดินแทกูสาย 1
      วันให้บริการ: ต้นพฤษภาคม


      เทศกาลวัฒนธรรมผ้าป่านนรามี (Hansan Ramie Fabric Cultural Festival)
      ได้มีการเก็บเกี่ยวโมซี (Mosi) (พืชยืนต้นที่มีใยคล้ายป่าน) ที่ฮันซานมาตั้งแต่อาณาจักรแพ็กเจแล้ว ผ้าป่านรามีได้เป็นสิ่งทอสำหรับชุดในฤดูร้อนที่ดีที่สุดเป็นเวลาช้านานโดยได้รับการชื่นชมว่าเป็นผ้าที่เบาบางดุจปีกแมลงปอ การซึมผ่านได้ง่าย การดูดซับความชุ่มชื้น และความคงทนทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกเย็นสบายและสดชื่นในช่วงฤดูร้อน ในวันเวลาแห่งอดีตผ้าฮานซานรามีคุณภาพชั้นยอดได้ถูกใช้เป็นของกำนัลให้กับกษัตริย์ เทศกาลจะครบ 15 ปีในปี 2004 นี้และจะนำเสนอช่วงเวลาอันอัศจรรย์ที่จะเห็นคุณค่าถึงผ้าชนิดนี้และผ้ารามีโบราณอันงามล้ำรวมถึงรูปแบบสมัยนิยมใหม่ๆ งานแสดงต่างๆรวมทั้งการจัดนิทรรศการผ้ารามีที่ย้อนยุคไปตั้งแต่ยุคสามก๊ก ชุดแต่งกายประจำชาติเกาหลี ที่เรียกว่า ฮันบก การย้อมสีโดยธรรมชาติโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการย้อมผ้า

      ยังมีตลาดรับอรุณซึ่งให้มีการศึกษาและซื้อผลิตภัณฑ์ ในโปรแกรมที่ต้องทำด้วยตนเองนั้นผู้มาเยือนจะได้รับการทดลองโดยครูผู้ที่จะสอนให้รู้จักการแยกเส้นใยดิบด้วยมือ การปั่นเส้นใย การทอด้วยกี่และการย้อม


      ชื่อสถานที่: รอบๆพิพิธภัณฑ์ผ้าป่านรามี, โซชอน, ชุงชองนัม-โด (Hansan Ramie Fabric Museum, Seocheon, Chungcheongnam-do)
      เบอร์โทร: ฝ่ายวัฒนธรรมและสารสนเทศ, สำนักงานโซชอน-กุน โทร. (041) 950-4012
      โทรสาร: (041) 951-4242
      Url: http://www.sochon.chungnam.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถไฟสายจังฮังซอนจากสถานีรถไฟโซลไปยังโซชอน (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง มีวันละ 16 ขบวน) หรือรถประจำทางจากสถานีขนส่งนัมบูที่โซลไปโซชอน (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที วันละ 6 เที่ยว)
      วันให้บริการ: ต้นพฤษภาคม


      เทศกาลสมุนไพรเขาชีรีซาน (Mt. Jirisan Herb Festival)
      ซันชองเป็นแหล่งกำเนิดของสมุนไพรแผนตะวันออกที่มีชื่อในด้านคุณภาพและประสิทธิภาพด้วยว่าเติบโตบนเขาชีรีซานอันเลื่องลือของเกาหลี แพทย์แผนตะวันออกมากมายเกิดที่นี่รวมถึง หมอ ยูอึย-แท (Dr. Yu Eui-tae)ปรมาจารย์ของท่าน โฮว จุน (Heo Jun) แพทย์แผนตะวันออกผู้โด่งดังในยุคราชวงศ์โชซอนผู้ก่อตั้งมูลนิธิแพทย์แห่งเกาหลี

      เทศกาลให้โอกาสอันงดงามแก่นักท่องเที่ยวที่จะได้รับประสบการณ์ในโลกแห่งศาสตร์การแพทย์แผนตะวันออกอันลี้ลับรวมทั้งการทดลองและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ ที่เทศกาลนี้แหละที่ท่านจะได้รับยาแผนตะวันออกและอาหารตัวอย่างทำจากยาสมุนไพร

      งานที่สำคัญคือการทดลองชาสมุนไพรและอาหาร การบำบัดด้วยยาแผนตะวันออกฟรี การตัดต้นยา การชิมค็อกเทลที่ผสมด้วยพืชที่เป็นยา การเที่ยวชมตลาดยาสมุนไพร


      ชื่อสถานที่: รอบๆสนามกีฬาซานชอง (Sancheong Stadium) ใน เคียงซางนัม-โด (Gyeongsangnam-do)
      เบอร์โทร: ฝ่ายจัดงานเทศกาลท้องถิ่น, สำนักงานซันชอง-กุน โทร. (055) 970-6409
      โทรสาร: (055) 970-6409
      Url: http://www.sancheong.ne.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถประจำทางจากท่ารถด่วนโซลไปยังซันชอง (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที)
      วันให้บริการ: ต้นพฤษภาคม


      เทศกาลสู้วัวแห่งชาติ (National Bullfighting Festival)
      จองอับคือสถานที่ในช่วงการปฏิวัติดองฮักที่ชาวบ้านลุกฮือขึ้นสู้กับเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตในปี 1894 จองอับยังเป็นที่กำเนิดของภูเขาแนจังซาน ที่มีชื่อว่าเป็นจุดที่สวยที่สุดในประเทศที่จะชมการร่วงหล่นของใบเมเปิล จองอึบมีสิ่งพิเศษท้องถิ่นมากมายแต่ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นเนื้อวัวที่คุณภาพไร้เทียมทาน วัวเนื้อที่นี่ได้รับการเลี้ยงดูตามปกติโดยเมล็ดบาร์เลย์ที่ยังไม่กระเทาะ ใบหญ้าเขียวสด และต้นไม้ยาแผนตะวันออก เทศกาลสู้วัวแห่งชาติที่จัดขึ้นที่จองอับนี้มีการแสดงวัฒนธรรมการสู้วัดลักษณะเฉพาะตามแบบฉบับเกาหลีซึ่งต่างไปจากสเปนมากรวมถึงโอกาสที่จะได้เยือนตลาดการค้าเนื้อวัวดั้งเดิมของเกาหลี

      งานสำคัญๆรวมถึงการแข่งขันสู้วัว งานแสดงปศุสัตว์ การชิมเนื้อวัว นิทรรศการเครื่องมือปศุสัตว์ หมูชน และอื่นๆ


      ชื่อสถานที่: อุทยานแห่งชาติแนจังซาน, จองอึบ, ชลลาบุก-โด (Naejangsan National Park, Jeongeup, Jeollabuk-do)
      เบอร์โทร: (063) 530-7290
      โทรสาร: (063)530-7137
      Url: http://culture.jeongup.go.kr
      วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟสายโฮนัมซอนที่สถานีรถไฟโซลไปยังสถานีจองอับ (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 20 นาที)
      วันให้บริการ: ต้นพฤษภาคม
      ข้อมูลเพิ่มเติม: สอบถามข้อมูล: ฝ่ายปศุสัตว์และกสิกรรม, ศาลาว่าการจองอับ


      เทศกาลพระไตรปิฎกเกาหลี (Tripitaka Koreana Festival)
      พระไตรปิฎกเกาหลี คือการเก็บรวบรวมคัมภีร์ทางพุทธศาสนาอันสมบูรณ์ที่สุดที่เก็บรักษาในวัดแฮอินซา อันประกอบไปด้วยแม่พิมพ์ไม้กว่า 80,000 ชิ้นที่ได้ถูกสลักทั้งสองด้านและได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแห่งโลก เทศกาลทริปิทาก้า โคเรียน่า เน้นไปที่วัฒนธรรมพุทธศาสนาของเกาหลีที่วัดแฮอินซาและภูเขาคายาซาน ขุนเขาอันโด่งดังของเกาหลี ชาวต่างประเทศถูกนำเสนอการเข้าพักและการให้ชิมอาหารวัดโบราณ อันเป็นโอกาสพิเศษเฉพาะที่จะได้ประสบการณ์จากบรรยากาศแห่งศาสนาพุทธในเกาหลี โปรแกรมต่างๆที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานถูกจัดขึ้นเพื่อให้ไม่เพียงแต่ชาวพุทธเท่านั้นแต่รวมถึงคนทั่วไปที่จะได้เข้าถึงวัฒนธรรมแบบพุทธและความเรียบง่ายภายใต้สภาพแวดล้อมอันบริสุทธิ์ของภูเขาคายาซาน

      งานแสดงพิเศษต่างๆรวมทั้งละครระบำเรื่องพระไตรปิฎกเกาหลี ฮับชอน โอควานแด นอริ (Hapcheon Ogwandae Nori) พิธีจุดประทีปและงานรื่นเริงแสงเทียน และอื่นๆ


      ชื่อสถานที่: วัดแฮอินซาที่ฮับจอน, เคียงซางนัม-โด (Haeinsa Temple in Hapcheon, Gyeongsangnam-do)
      เบอร์โทร: ฝ่ายท่องเที่ยวและวัฒนธรรม, สำนักงานฮับชอน-กุน โทร. (055) 930-3544
      โทรสาร: (055) 930-3344
      Url: http://www.hc.go.kr
      วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟโซลและลงที่สถานี ทง แทกู (ใช้เวลา 4 ชั่วโมง) และต่อรถประจำทางไปลงที่สถานีขนส่งแทกู โซบู (ใช้เวลา 10-20 นาที) จากนั้นต่อรถไปยังวัด แฮอินซา (ใช้เวลา 50-60 นาที)
      วันให้บริการ: ต้นพฤษภาคม


      เทศกาลชาน้ำค้างแห่งขุนเขาฮาดง (Hadong Mountain Dew Tea Festival)
      ฮวาเก-เมียน (Hwagae-myon) ที่ฮาดงเป็นแหล่งของการเก็บเกี่ยวชาในเกาหลีเช่นเดียวกับ โบซอง ในจังหวัด
      ชลลานัม-โด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุนซู-รี (Unsi-ri) ในฮวาแก-เมียนได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ปลูกชาได้ดีที่สุดของเกาหลี ได้มีการเก็บเกี่ยวชาเกาหลีครั้งแรกที่นี่ในปี ค.ศ. 828 โดยเมื่อคิม แท-เรียม (Kim Dae-ryeom) ซึ่งเป็นอุปทูตเดินทางไปเชี่อมไมตรีกับราชวงศ์ถังของจีนได้เดินทางกลับมาพร้อมกับเมล็ดชาและเพาะปลูกลงบนเนินเขาในบริเวณนี้โดยคำสั่งของกษัตริย์ และแล้วบริเวณนี้ก็ได้เป็นแหล่งเพาะปลูกชาที่ดีที่สุดนับแต่นั้นมา

      เพื่อเป็นการรำลึกถึงประวัติศาสตร์นี้ ฮาดง-กุนได้จัดเทศกาลชาป่าขึ้นทุกปี ชาเขียวป่าท้องถิ่นยังคงผลิตโดยใช้แรงงานคนและส่วนผสมของมันก็มีประสิทธิผลในการป้องกันมะเร็ง เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ชาเขียวยังช่วยกำจัดสารไดอ็อกซินที่สะสมอยู่ในร่างกาย

      เทศกาลนี้นำเสนอการแสดงที่มีการริเริ่มตระเตรียมขึ้นมาใหม่เช่นการแข่งขันชาพรีเมี่ยมแห่งปีและชาราชินีอันงดงาม
      ผู้มาเยือนจะได้รับประสบการณ์ในการคัดเลือกใบชาและขั้นตอนการผลิตรวมถึงศิลปในพิธีดื่มชาแบบดั้งเดิม และมีรถรับส่งให้บริการตลอดงาน


      ชื่อสถานที่: ฮาดง, เคียงซางนัม-โด (Hadong, Gyeongsangnam-do)
      เบอร์โทร: แผนกวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว, สำนังานฮาดง-กุน โทร. (055) 880-2373
      โทรสาร: (055) 880-2339
      Url: http://www.hadong.go.kr
      วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถประจำทางจากสถานีขนส่งนัมบู (Nambu Bus Terminal) ในโซลไปยังสถานีขนส่งฮาดง (ใช้เวลา 5 ชั่วโมง วันละ 4 เที่ยว) และต่อรถไปยังวัดซังเยซา (ใช้เวลา 30 นาที)
      วันให้บริการ: พฤษภาคม


      เทศกาลผีเสื้อฮัมเปียง (Hampyeong Butterfly Festival)
      เทศกาลผีเสื้อฮัมเปียงนำเสนอความอลังการของผีเสื้อนับหมื่นๆ ที่บินร่อนเหนือทะเลแห่งดอกไม้นานาพรรณในพื้นที่ถึง 33 ล้านตารางเมตรซึ่งอยู่อาศัยในแดนแห่งสวรรค์ฮัมเปียง เทศกาลนี้เป็นความพยายามครั้งแรกในโลกที่จะจัดเทศกาลซึ่งมีผีเสื้อและแมลงที่มีชีวิตกับธรรมชาติและได้รับการกำหนดเป็นครั้งแรกในปี 2003 ว่าเป็น "เทศกาลการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม"

      ผีเสื้อบินโฉบไปมาเหนือทุ่งดอกเรบซีดที่บานสะพรั่งให้สีสันจินตนาการแห่งเทพนิยายให้กับเด็กๆและย้อนเวลากลับไปยังโลกแห่งจินตนาการเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะเก็บประสบการณ์ในระบบชีววิทยา มีการแสดงคอนเสิร์ต การประกวดภาพเขียนและการแสดงต่างๆ อีกมากมาย


      ชื่อสถานที่: อุทยานริมน้ำฮัมเปียงและพื้นที่เกษตรกรรมสิ่งแวดล้อมฮัมเปียง, ชลลานัม-โด
      เบอร์โทร: แผนกวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว, สำนักงานฮัมเปียง-กุน โทร. (061) 320-3224/3349
      Url: http://hampyeong.jeonnam.kr , www.inabi.or.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารจากสถานีขนส่งโซลไปยังฮัมเปียง, ชลลานัม-โด แล้วเดินต่อไปอีก 5 นาที
      วันให้บริการ: พฤษภาคม


      เทศกาลละครใบ้นานาชาติชุนชอน (Chuncheon International Mime Festival)
      เทศกาลละครใบ้นานาชาติจะฉลองครบรอบปีที่ 16 ในปี 2004 นี้ เทศกาลซึ่งเริ่มขึ้นในปี 1989 นั้นเดิมทีเรียกว่าเทศกาลละครใบ้เกาหลีและได้ถูกเปลี่ยนไปใช้ชื่อปัจจุบันในปี 1995 โดยที่คณะละครได้รับการเชิญจากต่างประเทศ
      และในฐานะที่เป็นสถานที่แห่งเดียวที่มีการแสดงทำให้เทศกาลนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและขณะนี้ก็ได้มีการริเริ่มการแสดงใหม่ๆเพื่อเอาใจบรรดาผู้ที่ชื่นชอบละครใบ้ทั้งในประเทศและทั่วโลก เทศกาลละครใบ้เริ่มโดยพิธีกรรมทางศาสนาและพิธีเปิดงานและตามด้วยการแสดงที่เป็นสีสันต่างๆ อาทิ ปุงมุลลอริ (pungmullori) หรือ ดนตรีเครื่องเคาะจังหวะพื้นบ้าน และระบำละครใบ้สวมหน้ากาก ทัลชุม (talchum) จุดเด่นของงานคือทกแคบิ นันจาง (Dokkaebi Nanjang) คือการแสดงตลอดคืนซึ่งมีการแสดงละครใบ้ การแสดงตัวละครในวรรณคดี คอนเสิร์ตวงร็อค ดนตรีและภาพยนต์ ที่ชุนชอนเมืองแห่งม่านหมอกและทะเลสาบนี้เองที่มีการแสดงของคณะละครใบ้จากญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อิสราเอล เยอรมัน สหราชอาณาจักร มองโกเลีย และจากที่อื่นๆทั่วโลก


      ชื่อสถานที่: ชุนชอน, คังวอน-โด (Chuncheon, Gangwon-do)
      เบอร์โทร: ฝ่ายวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว, ศาลาว่าการเมืองชุนชอน โทร. (033) 250-3541
      โทรสาร: (033) 250-3357
      Url: http://www.mimefestival.com
      วิธีการเดินทาง: โดยรถไฟจากสถานีชองยางนี (Cheongnyangni Railway Station) ในกรุงโซลไปยังชุนชอน (ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที) หรือโดยรถโดยสารจากสถานีขนส่งทงโซล (ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที บริการวันละ 12 เที่ยว)
      วันให้บริการ: ปลายพฤษภาคม



      ย้อนขึ้น
      ฤดูร้อน
      เทศกาลโคลนโพเรียง(Boryong Mud Festival)
      เทศกาลโคลนโพเรียงเผยแพร่งานแสดงบนหาดแทจอนอันอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่โพเรียง, จังหวัดชุงชองนัม-โด ภูมิภาคที่เต็มไปด้วยความแปลกตาของชายฝั่ง สิ่งที่ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนตลอดปีที่นี่คือหาดแทชอนซึ่งประกาศความเป็นหาดรูปจันทร์เสี้ยวที่ยาวที่สุดในฝั่งทะเลตะวันตก หาดมูจางโป ที่มีชื่อเสียงว่าเป็น "ปาฏิหารย์แห่งโมเสส" อีกแห่งนอกจากที่เกาะชินโด และหมู่เกาะ 78 เกาะ โคลนแห่งนี้อุดมด้วยธาตุเจอร์มาเนียมและองค์ประกอบอื่นๆซึ่งมีประสิทธภาพในการบำบัดผิวให้กระชับสดใสขึ้นและกำจัดสิ่งอุดตันตามรูขุมขน โคลนซึ่งเป็นชื่อของเทศกาลนี้มีอยู่เต็มบริเวณชายหาดต่างๆที่สะอาดตามชายฝั่งโพเรียง แป้งโคลนที่สะกัดได้นั้นผ่านขั้นตอนอันพิถีพิถันจนมีประสิทธิผลในการรักษาผิวพรรณ

      เทศกาลโคลนโพเรียงที่จะครบปีที่ 7 ในปี 2004 นี้นักท่องเที่ยวจะได้รับความสนุกสนานจากการนวดโคลน การเพ้นท์ร่างกายด้วยโคลนและอื่นๆอีก การเล่นสไลเดอร์บนโคลน การเล่นถังโคลนยักษ์ และโปรแกรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและการแข่งขันต่างๆ รวมทั้งของรางวัลต่างๆมากมาย


      ชื่อสถานที่: ชายหาดแทชอน, โพเรียง, ชุงชองนัม-โด
      เบอร์โทร: ฝ่ายวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว, ศาลาว่าการเมืองโพเรียง โทร. (041) 930-3541
      โทรสาร: (041) 930-3669
      Url: http://www.boryeong.chungnam.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารจากสถานีขนส่งดองโซลไปยังโพเรียง(ใช้เวลา 3 ชั่วโมง บริการวันละ 6 เที่ยว) หรือโดยรถไฟสายจังฮังซอนจากสถานีรถไฟโซลไปยังแทชอน
      วันให้บริการ: กรกฎาคม


      เทศกาลเครื่องวัฒนธรรมศิลาดลคังจิน (Gangjin Celadon Cultural Festival)
      ที่คังจินมีเตาเผาทั้งหมด 188 แห่งซึ่งสนับสนุนมรดกของเกาหลีเครื่องปั้นโคเรียวและทั้งคุณภาพและปริมาณของเครื่องปั้นดินเผาโคเรียวในภูมิภาคนี้ก็ไม่เคยมีใครเกิน

      เทศกาลเครื่องปั้นดินเผาทางวัฒนธรรมคังจินนี้จัดขึ้นบริเวณเตาเผาเก่าในทุกกรกฎาคม มีการแสดงประวัติศาสตร์ยาวนาน 500 ปีของเครื่องปั้นดินเผาโคเรียว จากในยุคต้นๆในช่วงศตวรรษที่ 9 ไปถึงยุคเสื่อมในศตวรรษที่ 14 จนถึงยุคปัจจุบัน ด้วยไม้ที่ใช้ทำฟืนและดินขาวที่มีอยู่เหลือเฟือที่ภูมิภาคนี้ทำให้เป็นผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่งดงามที่สุดในโลก
      ด้วยความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์คังจินยังเป็นภูมิภาคที่เป็นสถานีการค้าสำคัญในการค้าขายเครื่องปั้นต่างๆกับจีนในยุคโบราณ

      เตาเผาที่แทกู-เมียน (Daegu-myeon) แสดงแบบจำลองชั้นเลิศของเครื่องปั้นคังจินแบบโบราณ ผู้มาเยือนจะได้โอกาสในการปั้นด้วยตนเองและจะได้รับความบันเทิงจากการแสดงศิลปพื้นบ้านมากมายและอาหารท้องถิ่นรสเลิศ

      สถานที่น่าสนใจบริเวณใกล้เคียงคือพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา ดาซานโชดัง (Dasan Chodang) ซึ่งปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่นาม จอง ยัค-ยง (Jeong Yak-yong) (ปี 1762 - 1836) ซึ่งถูกเนรเทศเป็นเวลา 10 ปี (1808-1818)
      ได้สั่งสอนลูกศิษย์และเขียนหนังสือ และวัดแบงยอนซา (Baengnyeonsa Temple) ซึ่งมีชื่อเสียงด้วยต้นคามีเลียขนาดใหญ่จำนวนมากที่เจริญเติบโตรอบๆวัด


      ชื่อสถานที่: คังจิน, ชลลานัม-โด
      เบอร์โทร: (061) 430-3252
      โทรสาร: (061) 430-3577
      Url: http://www.kangjin.chonnam.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารท้องถิ่นจากสถานีขนส่งกางจินไปยังเตาเผาเครื่องปั้นที่แทกู-เมียน (ใช้เวลา 30 นาที)
      วันให้บริการ: กรกฎาคม
      ข้อมูลเพิ่มเติม: สอบถามข้อมูล: คณะกรรมการเทศกาลเครื่องปั้นดินเผาทางวัฒนธรรมคังจิน


      เทศกาลวิทยาศาตร์แทจอน (Daejon Science Festival)
      เริ่มขึ้นในปี 2000 เทศกาลวิทยาศาสตร์แทจอนเป็นงานแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จัดให้แก่สาธารณชนในเกาหลี แทจอนถูกยกให้เป็นเมืองแห่งอนาคตของวิทยาศาสตร์ ล้อมรอบด้วยสถาบันพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งเกาหลี (KAIST) และหุบผาแททอกซึ่งทั้งสองแห่งนั้นเต็มไปด้วยนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีจำนวนมาก และอุทยานเอ็กซ์โปแทจอนซึ่งเป็นอุทยานเอ็กซ์โปที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี

      ผู้มาเยือนจะได้รับโอกาสในการสัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำยุคและวิทยาศาสตร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นผ่านทางนิทรรศาการการแลกเปลี่ยนทางวิทยาศาสตร์นานาชาติซึ่งมุ่งหวังที่จะกระตุ้นให้เกิดความรวดเร็วในการแลกเปลี่ยนสารสนเทศไฮเทคและวิทยาศาสตร์ในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว ไซแอนซ์ เมจิก โชว์ ซึ่งแสดงปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์และการแสดงอื่นๆ

      นอกจาก KAIST แล้ว สถาบันวิจัยอื่นๆในผาแททอก เช่น สถาบันทรัพยากรแห่งเกาหลี สถาบันวิจัยพลังงานอะตอมแห่งเกาหลี สถาบันวิจัยอวกาศและการบินยังเปิดให้ผู้มาเยือนในรายการทัวร์ทางวิทยาศาสตร์ นักท่องเที่ยวจะได้รับความเพลิดเพลินจากโชว์น้ำพุยามค่ำคืนที่เริ่มด้วยการเล่นดอกไม้ไฟอันน่าตื่นตาที่จัตุรัสฮันวิท (Hanvit Square) ในอุทยาน


      ชื่อสถานที่: อุทยานเอ็กซ์โป, แทจอน
      เบอร์โทร: ทีมเทศกาลและงานแสดง, อุทยานเอ็กซ์โป โทร. (042) 866-5130
      โทรสาร: (042) 866-5148
      Url: http://www.expopark.co.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารไปศูนย์ทำการรัฐบาลแทจอนที่สถานีขนส่งโซล (ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที บริการวันละ 24 เที่ยว) และเดินเท้า 10 นาทีไปยังศูนย์ทำการรัฐบาลแทจอน
      วันให้บริการ: สิงหาคม


      เทศกาลหิ่งห้อยมูจู (Muju Firefly Festival)
      เทศกาลหิ่งห้อยมูจูจัดขึ้นทุกปีที่มูจู จังหวัดชลลาบุก-โด หิ่งห้อย (อนุสาวรีย์แห่งธรรมชาติ 322) เป็นแมลงที่สร้างแสงจากอวัยวะเรืองแสงพิเศษในตัวจะเป็นที่รู้กันว่าจะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมลพิษเท่านั้น ทุกวันนี้หิ่งห้อยลดจำนวนลงไปเนื่องจากสภาวะแวดล้อมที่ทรุดโทรมลง

      เทศกาลหิ่งห้อยดึงดูดจำนวนนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติเพิ่มขึ้นทั้งจากในและต่างประเทศ เทศกาลกินเวลานาน 9 วันนับตั้งแต่พิธีเปิดและงานเต้นรำสวมหน้ากากและโปรแกรมอื่นๆที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน งานแสดงจำนวนหนึ่งในนี้ที่น่าสนใจคืองาน บัง-อัตกอรินอริ (การแสดงพื้นบ้านบนท้องถนนแบบโบราณ) การแข่งขันศิลปสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เกมการละเล่นพื้นบ้าน การพิมพ์หิ่งห้อยบนมือ นิทรรศการภาพถ่ายหิ่งห้อยตามระบบนิเวศน์ การไล่ล่าหิ่งห้อยที่จับยาก ชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติ และอื่นๆ

      โปรแกรมการท่องเที่ยวไปยังสถานที่น่าสนใจใกล้เคียงอาทิ ภูเขาด็อกยูซาน (Deogyusan Mountain) ผามูจู กูชอนดอง (Muju Gucheondong Valley) ภูเขาช็อกซางซัน (Jeoksangsan Mountain) และผาชีเรียน (Chiryeon Valley) สามารถทำได้โดยการบริการรถชัตเติลบัส


      ชื่อสถานที่: มูจู, ชลลาบุก-โด
      เบอร์โทร: คณะกรรมการจัดงานเทศกาลหิ่งห้อยมูจู โทร. (063) 320-2652/2667 (063) 320-2544
      Url: http://www.firefly.or.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารจากสถานียองดองไปยังมูจู-กุน (ใช้เวลา30 นาที)
      วันให้บริการ: สิงหาคม



      ย้อนขึ้น


      เทศกาลในประเทศเกาหลี (หน้า 2/2)
      ฤดูใบไม้ร่วง
      มค.
      กพ.
      มีค.
      เมย.
      พค.
      มิย.
      กค.
      สค.
      กย.
      ตค.
      พย.
      ธค.
                             

      เทศกาลโสมคึมซาน (Geumsan Ginseng Festival)
      จุมซานในจังหวัดชุมชองนัม-โดมีตลาดโสมที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ซึ่งส่งโสมเป็นอัตราร้อยละ 80 ของความต้องการในประเทศ

      สถานที่จัดเทศกาลคือโถงจัดนิทรรศการโสมในคึมซาน-อึบ (Geumsan-eup) มีร้านประมาณ 980 ร้านในตลาดที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์โสมนานาชนิดที่มีคุณภาพสูงสุดทั้งในรูปของโสมสด รากแห้ง เหง้า โสมสกัดและชาโสม รากโสมแผ่น โสมบดหรือรากโสมแช่น้ำผึ้ง โสมแดงอบ รวมถึงผลิตภัณฑ์โสมอื่นๆในรูปของชา แคปซูล การผสมกับตัวยาสมุนไพรอื่นๆ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ

      การแสดงสำคัญคือนิทรรศการโสมนานาชาติ การแข่งขันปรุงโสมและสมุนไพร ทริปการเก็บเกี่ยวโสม การทำโสมขวดที่ระลึกและการทำตุ๊กตาโสม การสาธิตการผลิตโสมที่ได้อายุ การแสดงพื้นบ้านของคึมซานและอื่นๆ

      โถงจัดนิทรรศการโสมเป็นสถานที่ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีซึ่งมีการนำเสนอในแบบมัลติมีเดียถึงขั้นตอนการเจริญเติบโตและสรรพคุณของโสม


      ชื่อสถานที่: คึมซาน, ชุงชองนัม-โด (Geumsan, Chungcheongnam-do)
      เบอร์โทร: สำนักงานคึมซาน-กุน โทร. (041) 750-2225
      โทรสาร: (041) 750 2229
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารเข้าคึมซานจากสถานีขนส่งโซล (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 40 นาที) เดินเท้าไป 20 นาทีจากสถานีขนส่งคึมซานไปตลาดโสมคึมซาน
      วันให้บริการ: กันยายน


      เทศกาลซกวิโพ ชิลซิมนี (Seogwipo Chilsimni Festival)
      เทศกาลซกวิโพชิลซิมนีเป็นเทศกาลซึ่งผสมผสานวัฒนธรรมพื้นบ้านเชจูเข้ากับศิลปะด้วยวัฒนธรรมทางทะเล เป็นเทศกาลที่ให้ความรู้คลุมครอบแก่ผู้คนในการได้รับประสบการณ์จากชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมที่สวยงามเป็นลักษณะเฉพาะของเกาะ

      เทศกาลซกวิโพ ชิลซิมนีนำเสนอศิลปะที่หลากหลายและโปรแกรมทางวัฒนธรรม การเดินพาเหรดซกวิโพ ชิลซิมนีอันมีชื่อเสียง รวมถึงประสบการณ์ต่างๆ เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่เปิดโอกาสให้มีผู้ร่วมจัดไม่เพียงแต่ผู้จัดงานเทศกาลเท่านั้นแต่ทั้งชาวเชชูและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมและได้รับความรื่นรมย์จากโปรแกรมอันหลากหลาย เป็นเทศกาลที่ได้แสดงพลังขับเคลื่อนเพื่อให้คนท้องถิ่นได้มีความสมัครสมานและตระหนักถึงศักยภาพของตนและช่วยให้ชุมชนได้มีการพัฒนาต่อเนื่องขึ้นไป

      การแสดงสำคัญรวมถึงการเดินพาเหรดชิลซิมนีไปตามท้องถนน การแสดงการยอมแพ้ของนายพลชอย ยอง (Choi Yeong) ต่อกองทัพมอคโฮ (Mokho) การแสดงพื้นบ้านเชจู การวิ่งมาราธอนชิลซิมนี และอื่นๆ


      ชื่อสถานที่: ชอนจิยอนฟอลพลาซ่า (Cheonjiyeon Falls Plaza) และพื้นที่ซกวิโพในเชจูโด (Jeju-do)
      เบอร์โทร: แผนกส่งเสริมการท่องเที่ยว, ศาลาว่าการเมืองซกวิโพ โทร. (064) 735-3542/3
      โทรสาร: (064) 735-3541
      Url: http://www.infojeju.com
      วิธีการเดินทาง: โดยเครื่องบินจากท่าอากาศยานคิมโพไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเชจู (ใช้เวลา 1 ชั่วโมง) และโดยสารรถประจำทางเข้าเมืองซกวิโพ (ใช้เวลา 1 ชั่วโมง)
      วันให้บริการ: ปลายกันยายน


      เทศกาลระบำหน้ากากนานาชาติอันดอง (Andong International Mask Dance Festival)
      หมู่บ้านฮาโฮในอันดองจังหวัด เคียงซางบุก-โด เป็นที่สนใจของชาวโลกในปี 1999 เมื่อสมเด็จพระราชินีควีนอลิซาเบธที่ 2 ได้มาเยือนที่นี่ ชาวหมู่บ้านฮาโฮได้ดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมในบ้านที่สร้างตามแบบศตวรรษที่ 18 และ 19 อย่างเห็นได้ชัด พวกเขายังคงรักษาระบำหน้ากากฮาโฮอันเป็นการแสดงพื้นบ้านที่ยังคงดำรงอยู่มาหลายร้อยปี การแสดงระบำหน้ากากฮาโฮถูกยกให้เป็นสมบัติของชาติลำดับที่ 121 หน้ากากแบบโบราณของเกาหลีทั้งหมดที่ใช้ในการแสดงละครหน้ากากนั้นทำจากกระดาษ แต่ของฮาโฮนั้นทำจากไม้ เทศกาลระบำหน้ากากนานาชาติอันดองจัดขึ้นริมแม่น้ำในหมู่บ้านมีการแสดงระบำหน้ากากฮาโฮเป็นจุดเด่นรวมถึงระบำหน้ากากของเกาหลีและของต่างประเทศและละคร

      โปรแกรมสำหรับผู้มาเยือนรวมถึงชั้นเรียนการระบำหน้ากาก นิทรรศการหน้ากากทั้งเก่าและใหม่จากทั่วโลก การแสดงหุ่นเชิดและการแสดงศิลปะอื่นๆ

      ฮาโฮเบียวซินกุต ทัลลอรี Hahoe Byeolsingut Tallori): ละครรำหน้าการนักบวชซึ่งได้มีการเล่นมากว่า 500 ปีในหมู่บ้านฮาโฮ ซึ่งสวดขอพรเทวดาผู้พิทักษ์ให้มีสุขภาพดีและสันติสุขในชุมชน เพิ่มเติมสีสันด้วยคำถากถางอันเผ็ดร้อนต่อบรรดาชนชั้นสูงที่ทุจริตและพระที่กระทำผิดหรือพระที่ฟุ่มเฟือย


      ชื่อสถานที่: ปลายกันยายนหรือต้นตุลาคม
      เบอร์โทร: คณะแผนงานเทศกาลการแสดงระบำหน้ากากนานาชาติอันดอง โทร. (054) 851-6393
      โทรสาร: (054) 852-9230
      Url: http://www.maskdance.com
      วิธีการเดินทาง: โดยรถไฟเข้าเมืองอันดองจากสถานีรถไฟชองยางนีในกรุงโซลหรือรถโดยสารจากสถานีขนส่งดางโซล (ใช้เวลา 4 ชั่วโมง) จากสถานีรถโดยสารภายในของอันดองหรือสถานีรถไฟอันดอง ต่อรถโดยสารท้องถิ่นไปหมู่บ้านฮาโฮ (ใช้เวลา 50 นาที)
      วันให้บริการ: ปลายกันยายนหรือต้นตุลาคม


      เทศกาลดนตรีพื้นบ้านเกาหลี นันเก (Nangye Traditional Korean Music Festival)
      เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงปาร์ค ยอน (Park Yeon) (นามปากกาของท่านคือ "นันเก" (Nangye)) หนึ่งในสามของนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี ท่านมีชีวิตอยู่ในช่วงต้นๆของราชวงศ์โชซอนและส่งเสริมและพัฒนาการดนตรีแบบโบราณของเกาหลี หลายคนยกย่องท่านว่าเป็นบิดาของคีตวิทยาแห่งเกาหลี ในฐานะที่เป็นนักแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยมและเป็นผู้มีความสามารถพิเศษเขาได้ทำการปรับเปลี่ยนเพลงที่ได้รับอิทธิพลจากจีน อาทิ ดาง-อัค (dang-ak) และอา-อัค (a-ak) รวมถึงดนตรีพื้นเมืองเกาหลี ฮยาง-อัค (hyang-ak)

      ระหว่างเทศกาลมีการแสดงจินตลีลาแสดงเรื่องราวแห่งชีวิตท่านและการแสดงการผสมกลมกลืนของดนตรีดั้งเดิมเกาหลีกับดนตรีตะวันตกโดยวงศ์ดุริยางค์ดนตรีดั้งเดิมเกาหลีนางเยที่นางเยฮอลล์ ผู้มาเยือนต้องพยายามได้รับโอกาสในการเล่นเครื่องดนตรีเกาหลีแบบดั้งเดิม มีรายการการแข่งขันดนตรีแห่งชาติและการแข่งขันอ่านบทกลอนโบราณแห่งชาติรวมอยู่ด้วย

      อา-อัค: รูปแบบเพลงของเกาหลีที่มีท่วงทำนองช้าซึ่งรับมาจากเพลงจีนในสมัยราชวงศ์ซ่ง เพลงชนิดนี้บรรเลงในพิธีการในราชสำนักและพิธีการบูชาเซ่นไหว้บรรพบุรุษและท่านขงจื๊อในอารามต่างๆ มีเครื่องดนตรีประกอบที่หลากหลายใช้เล่นประกอบกับการเต้นรำ เพลงสมัยราชวงศ์ซ่งถูกถ่ายทอดมายังเกาหลีในสมัยกอร์เยวในปี 1116

      ฮยาง-อัค: เป็นเพลงพื้นเมืองในราชสำนักเกาหลีชนิดหนึ่งซึ่งพัฒนาการมาจากยุคสามก๊กผ่านมายังราชวงศ์โชซอน
      บรรเลงในพิธีการของราชสำนักมีความเป็นมาที่แตกต่างจาก ดาง-อัคซึ่งได้รับมาจากสมัยราชวงศ์ถัง หรืออา-อัค


      ชื่อสถานที่: ยองดอง, ชุงชองบุค-โด (Yeongdong, Chungcheongbuk-do)
      เบอร์โทร: ฝ่ายวัฒนธรรมและการสื่อสาร, สำนักงานยองดอง-กุน โทร. (043)740-3223
      โทรสาร: (043)740-3209
      Url: http://www.yeongdong.go.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถไฟเข้าเมืองยองดองสายเคียงบูซอน (Gyeongbuseon Line) ขึ้นที่สถานีรถไฟโซล หรือรถโดยสารจากสถานีขนส่งทงโซลไปยังสถานีปลายทางยองดอง (ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที) และเดินต่ออีก 10 นาทีไปยังยองดองชอนสตรีม และนันเกฮอลล์
      วันให้บริการ: ปลายกันยายนหรือต้นตุลาคม


      เทศกาลเห็ดป่าสนยางยาง (Yangyang Pine Mushroom Festival)
      เทศกาลเห็ดป่าสนยางยางจัดขึ้นที่ยางยาง, คังวอน-โดในช่วงต้นเดือนตุลาคม ลักษณะทางธรรมชาติที่นี่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยเห็ดป่าสนที่ถูกจัดอันดับว่าดีที่สุดในโลกที่ชื่อ ซอง-อี (song-I) ในเทศกาลจะมีการเก็บเห็ดและการปรุงอาหาร ทริปการเดินทางไปตามเนินเขาและการแสดงแบบโบราณ ด้วยที่ว่าเป็นงานพิเศษนักท่องเที่ยวจะได้ลัดเลาไปตามป่าเขาเพื่อเก็บเห็ดอันมีค่าซึ่งพวกเขาอาจหาซื้อได้ในราคาลดพิเศษ (เป็นที่นิยมในบรรดาผู้รักเห็ดมัตสุตาเกะของญี่ปุ่น) มีการเก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าไปเก็บเห็ด อาหารทำจากเห็ดป่าสนท้องถิ่นมีให้บริการเป็นบางครั้ง

      ซอง-อี เห็ดป่าสน: อุดมด้วยโปรตีนและวิตามินบีรวม เห็ดป่าสนมีสรรพคุณในการป้องกันความดันโลหิตสูง โรคภาวะเส้นโลหิตหนาและโรคหัวใจและคุณสมบัติต้านมะเร็ง

      เห็ดชนิดนี้ขึ้นเฉพาะในป่าสนแดงเพียงบริเวณจากแทแบ็กซานและเทือกเขาโซแบ็กซานและซอง-อีจากยางยางได้รับการพิจารณาว่าดีที่สุดในเอเชีย


      ชื่อสถานที่: ริมฝั่งแม่น้ำ นัมแดชอน, ยางยาง, คังวอน-โด (Namdaecheon Riverside, Yangyang, Gangwon-do)
      เบอร์โทร: แผนกการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม, สำนักงาน ยางยาง-กุน โทร. (033) 670-2239
      โทรสาร: (033) 671-0330
      Url: http://www.song-i.or.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารจากสถานีขนส่งโซลหรือสถานีขนส่งทงโซลไปยางยาง (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 20 นาที) และนั่งแท็กซี่ต่อไปอีก 5 นาทีไปยังสถานที่จัดงาน หรือโดยทางอากาศจากท่าอากาศยานคิมโปในกรุงโซลไปท่าอากาศยานยางยาง และนั่งแท็กซี่ไปจากท่าอากาศยาน (ใช้เวลา 10 นาที) มีบริการรถชัตเติลบัสในระหว่างมีเทศกาล
      วันให้บริการ: ต้นตุลาคม


      เทศกาล พูซาน ชากัลชิ (Busan Jagalchi Festival)
      พูซานเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลีที่เจริญรุ่งเรืองด้วยทรัยากรทางทะเลอันอุดมสมบูรณ์ ถูกต้องตามสภาพลมฟ้าอากาศแบบมหาสมุทรและทัศนียภาพอันสวยงามทั่วไปตามชายฝั่งและท่าเรือ ตลาดปลาชากัลชิในพูซานเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีซึ่งอำนวยประโยชน์และเป็นแหล่งจัดส่งผลิตภัณฑ์จากทะเลนับเป็นตันๆในแต่ละวัน

      เทศกาลพูซาน ชากัลชิ จัดขึ้นทุกปีที่ตลาดและถนนกวางบองโนและเขตนัมโป-ดอง นำเสนอการแสองซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่การแนะนำประเพณีของชาวประมงและผลิตภัณฑ์จากทะเลแก่ผู้คนจากหลายหลากสถานที่ ไฮไลท์ของงานรื่นเริงในตอนเย็นคือพิธีบูชาสงฆ์ของชาวประมง (เรียกว่ายองวังกุท Yong-wanggut) ซึ่งเป็นการสวดอ้วนวอนต่อราชามังกรแห่งท้องทะเลขอให้คุ้มครองพวกเขาให้ปลอดภัยในการเดินเรือและจับปลาได้มากๆ ผู้สวดจะเอ่ยคำว่า โกซา (Gosa) เพื่อความเป็นสิริมงคลและปัดเป่าภัยชั่วร้าย และการแสดงของวงดนตรีเครื่องเคาะจังหวะ (ปุงมุลโลริ) (pungmullori)
      อันซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้อิสระในการร่วมแสดงช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นด้วยกัน ปุงมุลหมายถึงเครื่องเคาะจังหวะที่ปกติจะเล่นโดยชาวประมงในโอกาสเทศกาล

      งานต่างๆที่ตลาดคือการสาธิตการลอกหนังปลาไหลและการแล่เนื้อปลาของแม่ค้าปลา การจัดปลาในถังด้วยมือเปล่าเป็นโปรแกรมที่ให้ทุกคนได้เข้าร่วมยกเว้นการแข่งขันทำอาหารเกาหลีซึ่งมีไว้สำหรับชาวต่างชาติเท่านั้น นอกนั้นยังมีการแข่งขันทำครัวด้วยเนื้อปลาสำหรับพ่อครัวใหญ่และการแข่งขันเรียกชื่อปลา (เพื่อทดสอบความรู้ด้าน โฮ หรือปลาสด) มีอาหารทะเลขายในราคาพิเศษระหว่างเทศกาล ที่นี่คือสถานที่ที่ผู้ชื่นชอบอาหารทะเลจะได้เลือกปลาสดคุณภาพดีที่สะพานปลาและในถังปลาด้วยตนเอง

      ยอง-วังกุท : เป็นพิธีกรรมของนักบวชของชาวประมงต่อราชามังกรแห่งท้องทะเล มีการปฏิบัติกันมาแต่โบราณกาลเพื่อให้มีความปลอดภัยในการเดินทาง ลากอวนได้ครั้งละมากๆ และชีวิตที่ดีในชุมชน


      ชื่อสถานที่: ตลาดปลาชากัลชิ, ถนนนัมโป-ดอง (Nampo-dong) และถนนควางบองโน (Gwangbongno), พูซาน
      เบอร์โทร: คณะกรรมการเทศกาลพูซาน ชากัลชิ โทร. (051) 243-9363
      โทรสาร: 051) 254-6646
      Url: http://www.chagalchi.co.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถไฟใต้ดินพูซานสาย 1 จากสถานีรถไฟใต้ดินพูซานไปยังสถานีชากัลจิชิ หรือรถโดยสารจากสถานีขนส่งพูซานไปยังนัมโป-ดองหรือไปยังชุงมู-ดอง หรือรถโดยสารจากสถานีพูซานไปยังตลาดปลาชากัลชิ
      วันให้บริการ: ตุลาคม


      เทศกาลอาหารทะเลหมักดองคังเคียง (Ganggyeong Salted Seafood Festival)
      คังเคียงเป็นท่าเรือในแผ่นดินที่ซึ่งทักษะการถนอมอาหารทะเลด้วยเกลือได้ถูกหล่อหลอมขึ้น ซึ่งโดยปกติจะเก็บได้นานประมาณ 100 วันที่อุณหภูมิ 10- 15 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหาร

      สิ่งที่โดดเด่นในเทศกาลคือประวัติความเป็นมาของอาหารหลักของเกาหลีชนิดนี้ และรวมถึงประสบการณ์ที่น่าสนใจของผู้มาเยือน และช่วงทำอาหารด้วยตนเอง และอาหารทะเลแห้งที่ดีที่สุดในเกาหลีที่จำหน่ายในราคาประหยัด

      มีการแสดงสำคัญๆต่างๆอาทิ การทำกิมจิกับอาหารแห้ง นิทรรศการภาพถ่าย นิทรรศการอาหารแห้ง และอื่นๆ


      ชื่อสถานที่: ตลาดอาหารทะเลแห้งคังเคียงและคึมกังรีสอร์ท (Geumgang Resort), นนซาน (Nonsan)
      เบอร์โทร: ฝ่ายวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว, ศาลาว่าการเมืองนนซาน โทร. (041) 730-1224
      โทรสาร: (041) 730-1228
      Url: http://www.nosan.chungnam.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถไฟสายโฮนัมซอน (Honamsoen Line) จากสถานีรถไฟโซลไปยังสถานีกังเกียง (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที) เดินต่ออีก 5 นาทีไปยังคึมกังรีสอร์ทและตลาดอาหารทะเลแห้งคังเคียง
      วันให้บริการ: ตุลาคม


      เทศกาลศิลปการต่อสู้แห่งโลก ชุงจู (Chungju World Martial Arts Festival)
      เทศกาลศิลปะการต่อสู้แห่งโลก ชุงจูเริ่มต้นพร้อมกันที่ชุงจูยิมเนเซี่ยมและสถานที่ต่างๆในชุงจู, จังหวัดชุงชองบุก-โด การแสดงที่สำคัญๆ อาทิ การสาธิตศิลปะการต่อสู้และ "ประสบการณ์แห่งศิลปะการต่อสู้" ที่จัตุรัสชุงจูยิมเนเซี่ยม, และการสาธิต แทคเคียน (Taekkyon) หอมรดกการต่อสู้ แทคเกียน

      แทคยอนเป็นการกำเนิดของศิลปการต่อสู้เกาหลีและเทควันโดในปัจจุบัน ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแห่งชาติ


      ชื่อสถานที่: ชุงจูยิมเนเซี่ยม (Chungju Gymnasium), บ่อน้ำร้อนซูอันโบ (Suanbo) และอันซอง (Anseong) ในชุงจู, ชุงชองบุก-โด
      เบอร์โทร: ฝ่ายวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว, ศาลาว่าการเมืองชุงจู โทร. (043) 850-5165
      โทรสาร: (043) 850-5178
      Url: http://www.chungju.chungbuk.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารจากสถานีขนส่งทงโซลหรือสถานีขนส่งโซลไปยังชุงจู (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง)
      วันให้บริการ: ตุลาคม


      เทศกาล ขอบฟ้ากิมเจ (Gimje Horizon Festival)
      ตั้งอยู่ ณ ที่ราบอันกว้างใหญ่บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดชลลาบุก-โด กิมเจถูกกล่าวขานว่าเป็นยุ้งฉางแห่งประเทศเกาหลี ณ ผืนดินที่มีธัญญาหารเหลือเฟือนี้มีเขื่อนชลประทานบยอคกอลเจ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรแพ็กเจ (18 ปีก่อน ค.ศ. - ค.ศ. 660) ศูนย์แสดงนิทรรศการการชลประทานบยอคกอลเจ จัดแสดงมรดกตกทอดของประวัติศาสตร์แห่งการกสิกรรมของเกาหลีและการชลประทาน เทศกาลขอบฟ้ากิมเจให้ผู้มาเยือนได้รับโอกาสซึ่งหาได้ยากในการลงแขกเกี่ยวข้าวในบริเวณรอบๆ เขื่อนชลประทานบยอคกอลเจ

      โปรแกรมที่สำคัญๆรวมถึงโปรแกรมหนึ่งวันในหมู่บ้านชาวนา การแข่งขันการปรุงอาหาร ทัวร์ทุ่งนาบนเกวียนเทียมและการทำหุ่นไล่กา การละเล่นอื่นๆที่รวมอยู่ด้วยอาทิ เช่น การแข่งชักกะเย่อ การแสดงดนตรีของช่างผู้เชี่ยวชาญทรัพย์สินทางวัฒนธรรม และการแสดงพื้นบ้านอันเปี่ยมด้วยไมตรีจิต การแสดงสำคัญอื่นๆที่สะท้อนวัฒนธรรมการปลูกข้าวเช่น ปัญจกรีทา การแข่งขันมวยปล้ำ ซีรึม (Ssireum) และการแสดงการก่อกองฟางกลางแจ้ง ในบริเวณใกล้เคียงยังมีวัดคึมซานซา (Geumsansa) ซึ่งอายุ 1,400 ปีตั้งอยู่ วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธไมตรียา วัดมังแฮซา (Manghaesa Temple) ที่ดูน่าพรั่นพรึงตอนอาทิตย์อัสดงบนฝั่งทะเลเหลืองและท่าเรือซิมโป (Simpo Port) ซึ่งมีภัตตาคารปลาทอดตัวไปตามฝั่ง


      ชื่อสถานที่: กิมเจ, ชลลาบุก-โด
      เบอร์โทร: สำนักวัฒนธรรมและการประชาสัมพันธ์, ศาลาว่าการเมืองกิมเจ โทร. (063) 540-3324
      โทรสาร: (063) 540-3454
      Url: http://www.egimje.net
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารด่วนพิเศษจากสถานีขนส่งโซลไปยังสถานีขนส่งกิมเจ (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง มีรถออกทุก 40 ถึง 60 นาที) และต่อรถโดยสารประจำเมือง หมายเลข 11, 12, 13 หรือ 39 และลงที่ป้ายบยอคกอลเจ (Byeokgolje) (ใช้เวลา 15 นาที)
      วันให้บริการ: ตุลาคม


      เทศกาลกิมจิควางจู (Gwangju Kimchi Festival)
      กิมจิเป็นอาหารที่ขาดไม่ได้ในทุกๆมื้อของชาวเกาหลี กิมจิมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและไม่มีใครที่นึกถึงชาวเกาหลีโดยไม่นึกถึงกิมจิ รสชาดของมันต่างกันออกไปตามภูมิภาคหรือประเพณีการทำของแต่ละบ้านขึ้นอยู่กับความหลายหลากของวัตถุดิบที่ใช้และเครื่องปรุง จากบรรดากิมจิที่มีอยู่หลากหลายนั้น โดยเฉพาะของเขตโฮนัม (Honam) (ในจังหวัด ชลลาบุก-โดและชลลานัม-โด) ถูกมองว่าเป็นกิมจิรสชาดดีที่สุด เทศกาลกิมจิควางจู ที่พิธภัณฑ์ชุมชนพื้นบ้านควางจู จะแสดงกิมจิที่มีประมาณ 130 สูตรปรุงโดยมืออาชีพทั่วเกาหลี ผู้มาเยือนจะได้ดูขั้นตอนการทำกิมจิ หรือมีส่วนในการทำ พิพิธภัณฑ์ยังมีนิทรรศการสิ่งของเกี่ยวกับกิมจิอีกด้วยเช่นบรรจุภัณฑ์ต่างๆที่ใช้บรรจุกิมจิ

      เครื่องปรุงรสต่างๆ ปลาดอง และอาหารทะเลอื่นๆ (เรียกว่า ช๊ทกัล (Jeotgal) หนึ่งในส่วนประกอบหลัก) อาหารที่ใช้กิมจิในการปรุง และการอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ต่างๆ จะบรรยายสรรพคุณต่อสุขภาพของกิมจิ การเข้าร่วมในการปรุงอาหารและการทำกิมจิจะเป็นประสบการณ์ที่มิอาจลืมเลือน


      ชื่อสถานที่: รอบๆพิพิธภัณฑ์ชุมชนพื้นบ้านควางจู
      เบอร์โทร: แผนกการท่องเที่ยว, ศาลาว่าการเมืองควางจู โทร. (062) 606-3341
      โทรสาร: (062) 606-3339
      Url: http://www.gwangju.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารวิ่งภายในเมือง หมายเลข 1, 16, 19, 26, หรือ 101 จากสถานีรถไฟควางจู โดยสารหมายเลข 13 หรือ 50 จากสถานีขนส่งควางจู ไปยังสถานที่จัดงาน ระหว่างเทศกาลมีรถชัตเติลบัสบริการรับส่งจากสนามบิน สถานีรถไฟ และสถานีขนส่ง
      วันให้บริการ: ตุลาคม


      เทศกาลข้าวใหม่อีชอน (Icheon New Rice Festival)
      เทศกาลข้าวใหม่อีชอนเป็นเทศกาลที่เปลี่ยนแปลงเป็นเทศกาลท่องเที่ยวแห่งชาติซึ่งใช้ชื่อต่างๆ เช่นข้าวซึ่งเป็นสัญลักษณ์อีชอนและฤดูเก็บเกี่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นไฮไลท์ของวัฒนธรรมการแห่งการเกษตร ระหว่างเทศกาลชาวนาที่ทำงานในทุ่งนาข้าวและชาวเมืองที่ทิ้งชีวิตคนเมืองเพื่อการพักผ่อนจะรวมตัวกันเพื่อจัดงานฉลองการเก็บเกี่ยวที่ได้ผล

      เทศกาลมีการแสดงในส่วน มาดัง อันหลากหลาย เป็นช่วงเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงที่ผู้คนจะหว่านและเก็บเกี่ยวผลิตผลกัน
      ในส่วนของตลาดกลางแจ้งชนบทเป็นส่วนที่ชาวนาจะขายผลิตผลที่เก็บเกี่ยวได้ ส่วนวัฒนธรรมฟางซึ่งผู้มาเยือนจะได้รับประสบการณ์ในวัฒนธรรมการเกษตรในชนบท ส่วนวัฒนธรรมข้าวซึ่งแสดงทุกสิ่งเกี่ยวกับข้าว และส่วนการละเล่นภาคสนามเรียกว่า เกียบังนอรี (geobungnori) ( การแสดงหมู่ที่แสดงถึงเต่าตัวหนึ่งอันเป็นจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอิชอน) และปุงมุลลอริ (เพลงชาวนาโบราณ)

      การแสดงที่สำคัญรวมถึงการทำหัตถกรรมด้วยฟาง การทำอินชอลมิ (injeolmi) (ขนมข้าวเหนียว) การตำข้าว กังกัง ซุโวลแล (ganggang suwollae) (การเต้นรำเป็นวงกลม) ซามุลลอริ (samullori) (วงควอเต็ตเครื่องเคาะจังหวะพื้นบ้าน) การเล่นว่าว การทำรองเท้าฟาง การแข่งขันพื้นบ้าน การแข่งขันปรุงอาหารจากข้าว และอื่นๆ


      ชื่อสถานที่: อุทยานซอลบง (Seolbong) ในอีชอน, เคียงกีโด (Gyeonggi-do)
      เบอร์โทร: คณะกรรมการส่งเสริมเทศกาลข้าวใหม่อีชอน โทร. (031) 644-2602
      โทรสาร: (031) 644-2619
      Url: http://www.icheon.gyeonggi.kr
      วิธีการเดินทาง: อุทยานซอลบง (Seolbong) ในอีชอน, เคียงกีโด (Gyeonggi-do)
      วันให้บริการ: ตุลาคม


      เทศกาลโคม ชินจู นัมกัง (Jinju Namgang Lantern Festival)
      ประเพณีการลอยโคมในแม่น้ำนัมกังในชินจูย้อนวันเวลาไปยังการรุกรานเกาหลีโดยญี่ปุ่นใน 1592 ในเดือนตุลาคมปี 1592 ช่วงระหว่างสงครามระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่นรอบๆ ป้อมชินจูซองนั้นชาวชินจูได้ปล่อยโคมขึ้นบนท้องฟ้าเหมือนกับเป็นสัญญาณทางทหารและเครื่องมือในการสื่อสารกับทหารภายนอกป้อมในขณะที่โคมลอยก็ได้จุดไปตามแม่น้ำนัมกัง

      เทศกาลโคมชินจู นัมกัง ได้จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2000 โดยขยายและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากประเพณีการลอยโคมซึ่งปฏิบัติมาทุกปีตั้งแต่ปี 1949 ผู้มาเยือนจะได้ชมการแสดงต่างๆอันหลากหลาย อาทิ โคมอธิษฐานรูปเฉลียงชกซองนู (Chokseongnu Pavilion-shaped wishing lanterns) เทศกาลโคมโลก และดอกไม้ไฟริมฝั่งน้ำเป็นการแสดงรายวันในเทศกาล

      การแสดงที่สำคัญรวมถึงนิทรรศการโคมโลก การแขนโคมอธิษฐาน การลอยโคม การประดิษฐ์โคม การจุดดอกไม้ไฟริมฝั่งน้ำ การปล่อยโคมและอื่นๆ


      ชื่อสถานที่: แม่น้ำนัมกัง (Namgang River), ป้อมชินชูซอง (Jinjuseong Fortress) ในชินจู, เคียงซางนัม-โด
      เบอร์โทร: (055) 749-2051
      โทรสาร: (055) 749-2807
      Url: http://www.chinju.kyongnam.kr
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารจากสถานีขนส่งโซลหรือสถานีขนส่งทงโซลไปยังชินจู (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 50 นาที)
      วันให้บริการ: ตุลาคม
      ข้อมูลเพิ่มเติม: สอบถามข้อมูล: แผนกวัฒนธรรมและกีฬา, ศาลาว่าการเมืองชินจู


      เทศกาลโสมปุงกี (Punggi Ginseng Festival)
      จากการอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ ซัมฮุคซากิ (Samhuksagi) จดหมายเหตุแห่งสามก๊ก รากโสมจำนวน 200 รากได้ถูกผลิตขึ้นในบริเวณปุงกีเพื่อถวายให้แก่จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถังของจีนในปี 734 จู เซ-บุง (Ju Se-bung)
      ปราชญ์ผู้มีชื่อเสียงแห่งราชวงศ์โชซอนได้รับมอบหมายให้สำรวจสภาพอากาศและดินที่เหมาะสมทั่วประเทศเพื่อปลูกโสมป่า

      ในปี 1541 เมื่อจู เซ-บุงได้รับตำแหน่งผู้ว่าเมืองปุงกี เขาพบว่าพื้นที่เขตปุงกีเป็นสถานที่ในอุดมคติและเริ่มการเพาะปลูก
      ตั้งแต่นั้นมาปุงกีได้รับชื่อเสียงว่าเป็นต้นกำเนิดการปลูกโสมและราชนิกูลของราชวงศ์โชซอนก็ชื่นชอบโสมของปุงกี โสมของปุงกีมีเนื้อกรอบและมีรสร้อนแรงและมีสารบำรุงสุขภาพซาโปนินสูง

      ที่เทศกาลโสมปุงกี ผู้มาเยือนจะมีส่วนในการสวดภาวนาเพื่อการเพาะปลูกโสมให้ได้ผลดี การแข่งขันประกวดโสมที่ดีที่สุดในประเทศ การประกวดการปรุงโสม การแสดงการอวยพร และการปลูกโสม มีโสมจำหน่ายในราคาลดพิเศษ สถานที่ใกล้เคียงที่นี่คือ โซซู โซวอน  (Sosu Seowon) สถาบันการศึกษาที่รัฐให้การอนุเคราะห์แห่งแรกในยุคโชซอนและวัดพูซกซา (Buseoksa Temple) วัดที่เก่าแก่ที่สุดของลัทธิ Avatamska ในเกาหลี


      ชื่อสถานที่: ปุงกี, เคียงซางบุก-โด (Punggi, Gyeongsangbuk-do)
      เบอร์โทร: ฝ่ายวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว, ศาลาว่าการเมืองยองชู โทร. (054) 639-6391
      โทรสาร: (054) 639-6399
      วิธีการเดินทาง: โดยรถโดยสารด่วนจากสถานีขนส่งทงโซลไปยังยองชู (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 10 นาที) และต่อด้วยรถโดยสารท้องถิ่นไปปุงกี (ใช้เวลา 20 นาที) หรือโดยรถไฟจากสถานีชองยังนีในโซลไปสถานีปุงกี (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที)
      วันให้บริการ: ตุลาคม



      ย้อนขึ้น
      เทศกาลภาพยนต์ที่สำคัญ
      เทศกาลภาพยนต์นานาชาติที่พูซาน (PIFF) (Pusan International Film Festival)
      ตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1996 มานั้นเทศกาลภาพยนต์นานาชาติที่พูซาน (PIFF) ก็ได้จัดขึ้นทุกปีซึ่งให้โอกาสแก่บรรดาคอหนังในการเข้าร่วมชมภาพยนต์นานาชาติที่มีชื่อในด้านต่างๆ ถึงแม้ว่าจะเพิ่งจัดขึ้นไม่นาน ทว่าเทศกาลนี้ได้กลับกลายเป็นหนึ่งในเทศกาลภาพยนต์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเอเชีย ซึ่งคับคั่งไปด้วยผู้สร้างหนัง นักแสดง นักวิจารณ์ แฟนหนัง และผู้ชมจำนวนมาก

      โดยที่เทศกาลภาพยนต์นี้จะเน้นหนักไปในด้านภาพยนต์จากเอเชียแต่ก็มีภาพยนต์จากทั่วโลกรวมทั้งจากทางอเมริกาเหนือและยุโรปฉายด้วย ทำให้บรรดาคอหนังได้รับมุมมองโดยรวมของกระแส

      มีการฉายภาพยนต์ในโรงภาพยนต์จำนวนมากที่ถนนนัมโป-ดอง (Nampo-dong) ที่หอภาพยนต์ในมิลลัก-ดอง (Millak-dong) และภาพยนต์จอยักษ์กลางแจ้งที่ซูยองมันเบย์ (Suyeongman Bay)


      ชื่อสถานที่: คณะกรรมการจัดงาน
      เบอร์โทร: (051) 747-3010
      Url: http://www.piff.org


      เทศกาลหนังจินตนาการนานาชาติพูชอน (PiFan) (Puchon International Fantastic Film Festival )
      PiFan เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นสำหรับภาพยนต์ที่ไม่อยู่ในกระแสการผลิต เป็นทางเลือกหนึ่งของภาพยนต์เชิงพาณิชย์
      ภาพยนต์ซึ่งเกี่ยวกับจินตนาการและโลกแห่งอนาคตได้เป็นส่วนสำคัญของงานในทุกๆปี PiFan ได้เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่จะแนะนำภาพยนต์แนวแฟนตาซีจากนานาชาติให้แก่คอหนังชาวเกาหลี รวมทั้งเป็นสื่อในการแนะนำหนังเกาหลีแก่นักวิจารณ์ต่างประเทศ เทศกาลยังได้มีการส่งเสริมการผลิตภาพยนต์แนวแฟนตาซีในเกาหลีและช่วยในการจัดจำหน่ายในต่างประเทศ


      ชื่อสถานที่: สำนักงาน PiFan
      เบอร์โทร: (032) 345-6313/4
      Url: http://www.pifan.com


      สินค้าแนะนำในเกาหลี
      ในกรุงโซลและเมืองใหญ่ ๆ หลายเมืองจะมีที่ที่จะให้จับจ่ายซื้อของหลายต่อหลายแห่ง ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลอดภาษี เขตทั้งเขตเป็นที่ซื้อของ และตลาดกลางแจ้ง แต่ถ้าท่านอยากเห็นและเข้าไปอยู่ท่ามกลางวิถีชีวิตของชาวเกาหลีแล้วละก้อ ขอเชิญท่านมาเที่ยวตลาดช่าวเมืองรอบประเทศได้เลย แต่ละเขตก็จะมีสินค้าเฉพาะของตัว
           
      ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ จะเปิดเวลา 10:30 น. ถึง 19:30 น. รวมทั้งวันอาทิตย์ ในขณะที่ร้านเล็ก ๆ จะเปิดสายและปิดค่ำทุกวัน นอกจากนี้ยังมีร้านซื้อสะดวกเปิดตลอด 24 ชั่วโมง กระจายอยู่ทั่วเมือง

      เมื่อเวลาเที่ยงคืน ตลาดใหญ่ ๆ เช่นนัมแดมุน และทงแดมุน ในกรุงโซลจะเปิดขายตลอดคืน นี่เป็นตลาดขายส่งแต่เราสามารถซื้อปลีกได้



           

      สินค้ายอดนิยม
      เครื่องแต่งกาย
      อุตสาหกรรมสิ่งทอของเกาหลีเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกจากสีสันและแบบซึ่งหลากหลาย การตัดเย็บที่ประณีตและราคาที่ย่อมเยาโดยเฉพาะเครื่องแต่งกายสุภาพสตรีและเด็ก เสื้อผ้ายี่ห้อดัง ๆ ของต่างชาติก็ล้วนผลิตในเกาหลีและมีขายตามห้างสรรพสินค้า แต่ยี่ห้อของเกาหลีเองก็เป็นคูแข่งที่น่ากลัวและคุณภาพทัดเทียมแต่ราคาย่อมเยากว่า ท่านสามารถสั่งตัดชุดหรือสูทได้ภายใน 2-3 วัน และราคาจะถูกว่าแบบสำเร็จรูปในประเทศอื่น ๆ
                

      ชื่อสถานที่: ตลาดอีแทวอน, เมียง-ดง, นัมแดมุน และทงแดมุน ทางเข้ามหาวิทยาลัยสตรี ถนนอับกูจอง-ดง ถนนแฟชั่นมูเจินดง, กูโรกองดาน ตลาดขายสินค้านำสมัย (แฟชั่นยุคดิจิตอล)


      ครบเครื่องเรื่องกีฬา
      สิ่งที่น่าซื้อเป็นอย่างยิ่งคือ ไม้เทนนิส สคว้อซ และแบดมินตัน อุปกรณ์เล่นฟุตบอล และเบสบอล รวมทั้งถุงมือ อุปกรณ์เล่นกอล์ฟ ทั้งหมดรวมทั้งไม้ตรีเป็นชุด อุปกรณ์ปีนเขา เสื้อกีฬา นอกจากนี้รองเท้ากีฬาของเกาหลี ขึ้นชื่ออันดับหนึ่งเลยทีเดียว
                

      ชื่อสถานที่: ตลาดอีแทวอน, นัมแดมุน และทงแดมุน, ตลาดกุกเจ


      เครื่องหนัง และสินค้าขนสัตว์
      มีสินค้าบางตัวของเกาหลีหาทัดเทียมได้ยากทั้งคุณภาพและราคา คือสินค้าที่ทำจากหนังและขนสัตว์ ที่นี่มีสินค้าเสื้อคลุมและเสื้อแจ๊กเก็ตหนังที่คุณภาพเยี่ยมและนุ่มนวลและมีแบบที่หลากหลาย สีต่าง ๆ ทำด้วยหนังหลาย ๆ แบบ และหนังปลาไหลขายอยู่ด้วย สินค้าต่าง ๆ จะขายในราคาถูกเช่น เข็มขัด กระเป๋าสตางค์ ยกเว้นในช่วงเดือน ตุลาคม-กุมภาพันธ์
                

      ชื่อสถานที่: อีแทวอน ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัมแดมุน และทงแดมุน


      เพชรนิลจินดา
      เกาหลีเป็นดินแดนของพลอยเขี้ยวหนุมาน ซึ่งมีแนวสีม่วงที่หลากหลายตั้งแต่ม่วงอ่อนเย็นตา จนถึงม่วงแก่ที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจ นอกจากนี้ยังมีบุษราคัมรมควันอันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เมื่อนำเข้าประกอบบนแป้นรับทองคำแล้ว พลอยนี้จะงามจับตาเมื่อมาทำเป็นแหวน จี้ ต่างหู และสร้อยข้อมือ และราคาจะไม่สูงนัก หยกโดยเฉพาะหยกขาวของเกาหลีก็สวยงามในทำนองเดียวกับบุศราคัม เพชรพลอยที่ประดิษฐ์ในเกาหลี โดยเฉพาะทับทิมนั้นมีมากมาย เลือกได้ตามชอบใจ
                

      ชื่อสถานที่: ชงโน 3 กา และร้านขายเพชรพลอยที่เยจิ-ดง ศูนย์การค้าอัญมณีคังนัม ตลาดนัมแดมุน ศูนย์อัญมณีอีรีที่ชลลาบุกโด อ๊อกซาน-กา ที่ชุนชอน


      ของเก่าและวัตถุโบราณ
      ของเก่าที่ทุกคนหาชมคือ หีบไม้ เครื่องเรือน และเครื่องเคลือบสีขาวจากสมัยราชวงศ์โชซอน และเครื่องปั้นดินเผาศิลาดล ซึ่งสีเหมือนหยกฟ้าจากราชวงศ์โคเรียว ประกอบด้วยตู้เก่า ๆ เครื่องแกะสลักและเครื่องปั้นดินเผา เราจะนำเครื่องชามพวกนี้ออกนอกเกาหลีไม่ได้ ดังนั้นหากมีข้อสงสัยก็สามารถติดต่อสำนักงานประเมินของโบราณ (Tel.032-740-2921) ของทำเลียนแบบดี ๆ ก็สวยมากทีเดียว ในราคาย่อมเยา
                

      ชื่อสถานที่: ตลาดของเก่าอินซา-ดง จางอันเพียง และตลาดฮวาฮักดง


      โสม
      โสมของเกาหลีเป็นที่ยอมรับกันทั่วทั้งตะวันออกและทั่วโลกว่ามีคุณภาพดีที่สุด โดยที่มีประสิทธิภาพสูง ในฐานะที่เป็นยาแผนโบราณ เพื่อรักษาทุก ๆ โรค และเป็นยาบำรุงกำลังขนานวิเศษ นอกจากนี้โสมเกาหลี ยังมีคุณสมบัติในการถอนพิษออกจากเลือด ทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดี มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยให้ร่างกายอยู่ในสภาพสมดุล โสมเกาหลีหาได้ทุกรูปแบบทั้ง สด แห้ง เป็นผง หรือแบบเข้มข้นหรือเป็นซองชงแบบชา
                

      ชื่อสถานที่: ตลาดยาสมุนไพรเคียงดง ตลาดนัมแดมุน ศูนย์ค้าส่งโสม และตลาดในคึมซาน คังฮวา แทกู และย่านปังกี


      ศิลปะและงานฝีมือพื้นเมือง
      ตุ๊กตาแต่งชุดประจำชาติที่สวยงาม พัดและหน้ากากไม้ งานเย็บปักถักร้อยฝีมือละเอียดและเต็มไปด้วยสีสันสดใส ตุ๊กตาเป็ดระบาย สีว่าว เครื่องลงยาประดับมุกชั้นหนึ่ง ผีมือประณีต เครื่องเคลือบอ่อนช้อยด้วย ลวดลายดั้งเดิม สิ่งของเหล่านี้บ่งบอกถึงความสุข ความพิโรธ ความเศร้าสร้อย และอารมณ์ขัน ซึ่งถ่ายทอดลงไปในสิ่งของใช้ประจำวันแต่ละชินอย่างไม่เหมือนใครทีเดียว
                

      ชื่อสถานที่: ร้านค้าของที่ระลึกพื้นเมืองในโซล ตลาดอีแทวอน นัมแดมุน ตลาดของเก่าจางอัน-ดง ตลาดของถูกจางฮักดง หมู่บ้านศิลปและงานฝีมือพื้นเมืองเคียงจู


      เหล้าและชาพื้นเมือง
      เครื่องดื่มแอลกฮอล์พื้นเมืองของเกาหลีถูกแบ่งออกเป็น 5 ชนิด นั่นคือ ยักจู (เหล้าบริสุทธิ์)โซจู (เหล้ากลั่น), ตั๊กจู (เหล้าข้นไม่ได้กลั่น), ไวน์ผลไม้ และยาดองเหล้า เหล้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงคือ มุนแบจู (ไวน์กลั่นจากแอปเปิ้ลแคระ), ดั๊กยอนจู (ไวน์กลิ่นจากดอกอาซาเลีย), เคียงจู บ๊อบจู (ไวน์กลั่นจากข้าวเหนียว), ไวน์โสม และอันดง โซจู
                
      ส่วนชาพื้นเมืองก็มีชาโสม, ชาเขียว, ชาโทนิคซังวา, ชาขิง, ชาพุทรา และชามะนาว เครื่องดื่มที่ถือว่าพิเศษจริงคือ จั๊กซอลชา หรือใบชาอ่อนเก็บในฤดูใบไม้ผลิ เครื่องดื่มที่ถือว่าดับกระหายได้ดียิ่งคือ ซิเค เป็นเครื่องดื่มทำมาจากข้าว มีรสหวานและซูจองฮวา ซึ่งเป็นพั้นซ์รสอบเชย ชาเกาหลีมีขายทั้งในรูปใบแห้ง ถุงชา และผงชา
                

      ชื่อสถานที่: หาได้ที่ร้านปลอดภาษี ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และตลาดนัมแดมุน


      กิมจิและอาหารอื่น
      กิมจิเป็นผักที่ดองที่สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานาน และเป็นอาหารที่ขึ้นโต๊ะชาวเกาหลีทุกมื้อ ปัจจุบันนี้กิมจิเป็นที่นิยมแพร่หลาย เพราะประกอบด้วยแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในการย่อยอาหาร และป้องกันโรค
               
      ในบรรดาอาหารที่มักจะให้กันเป็นของกำนัล จะมีกิมจิประเภทต่าง ๆ สาหร่ายอบ, อาหารทะเลหมักเกลือ, คาลบิแพ็คเป็นห่อ (ซี่โครง), โกชูจัง (พริกแดงบด) และเห็ดซงงีตากแห้ง (เห็ดสน) และเห็ดอื่น ๆ ขนมต่าง ๆ ของเกาหลี (ฮังวา) ใส่ตะกร้าหรือกล่องอย่างสวยงามเป็นของฝากสำหรับครอบครัวที่น่าประทับใจทีเดียว
                

      ชื่อสถานที่: ร้านค้าปลอดภาษี, ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายของที่ระลึก



      ย้อนขึ้น
      ร้านปลอดภาษี
      โซล
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินคิมโป บริหารงานโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 02-2064-5011
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Dong Wha DFS
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 211-1 Sejongno, Jongno-gu
      เบอร์โทร: 02-399-3100, 3000


      ชื่อสถานที่: Shilla
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 202, Jangchung-dong 2-ga, Jung-gu
      เบอร์โทร: 02-2230-3662


      ชื่อสถานที่: Hotel Lotte
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 10th Fl., Lotte Department Store, 1,Sogong-dong, Jung-gu
      เบอร์โทร: 02-759-8386/3


      ชื่อสถานที่: Lotte World
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 40-1, Jamsil-dong, Songpa-gu
      เบอร์โทร: 02-411-5000


      ชื่อสถานที่: SKM
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 159, Samseong-dong, Gangnam-gu
      เบอร์โทร: 02-3484-9600
      Url: http://www.skm.co.kr


      ชื่อสถานที่: Sheraton Walker Hill Hotel
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 21, Gwangjang-dong, Gwangjin-gu
      เบอร์โทร: 02-450-6760
      Url: http://www.walkerhill.co.kr


      อินชน
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติอินชอน บริหารโดย อสท. เกาหลี
      เบอร์โทร: ภายในสนามบินนานาชาติ 032-743-2000
      ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติอินชน 032-891-2221
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Lotte Duty Free
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติอินชน
      เบอร์โทร: 032-743-2400
      Url: http://www.ak-dfs.com


      ชื่อสถานที่: DFS Seoul Limited
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติอินชน
      เบอร์โทร: 032-743-3406


      พูซาน
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสถานีผู้โดยสารนานาชาติคิมแฮ บริหารโดย อสท. เกาหลี
      เบอร์โทร: 051-973-1101
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติพูซาน บริหารโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 051-469-7301


      ชื่อสถานที่: Paradise Duty Free Shop
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 1128-78 Jung-dong, Haeundae-gu
      เบอร์โทร: 051-743-0181


      ชื่อสถานที่: Lotte
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 503-15, Bujeon-dong, Busanjin-gu
      เบอร์โทร: 051-810-5000


      ชงจู
      ชื่อสถานที่: Duty Free Shop
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติชงจู บริหารโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 043-218-5533
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      เชจูโด
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติเชจู บริหารโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 064-742-0030/1
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Lotte
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 2812-4, Saekdal-dong, Seogwipo
      เบอร์โทร: 064-731-4450


      ชื่อสถานที่: Shilla
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 252-20, Yeon-dong, Jeju
      เบอร์โทร: 064-735-5577


      ชื่อสถานที่: JDC
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติเชจู
      เบอร์โทร: ภายในสนามบิน 064-740-9999
      ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติเชจู740-9939
      ข้อมูลเพิ่มเติม: ชาวเกาหลีและผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่เดินทางมายังเกาะเชจู สามารถซื้อของที่ร้านปลอดภาษี JDC ได้


      ที่อื่น ๆ
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Pyeongtaek
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติเพียงแทค ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 031-683-8367
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Sokcho
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติซกโช ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 033-635-6180


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Mokpo
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติมกโป ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 061-242-4936/7


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Ulsan
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติอุลซาน ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 052-201-6682


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Gunsan
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติคุนซาน ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 063-471-7130


      เว็บไซต์แนะนำเกี่ยวกับเกาหลี


      สินค้าแนะนำในเกาหลี
      ในกรุงโซลและเมืองใหญ่ ๆ หลายเมืองจะมีที่ที่จะให้จับจ่ายซื้อของหลายต่อหลายแห่ง ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลอดภาษี เขตทั้งเขตเป็นที่ซื้อของ และตลาดกลางแจ้ง แต่ถ้าท่านอยากเห็นและเข้าไปอยู่ท่ามกลางวิถีชีวิตของชาวเกาหลีแล้วละก้อ ขอเชิญท่านมาเที่ยวตลาดช่าวเมืองรอบประเทศได้เลย แต่ละเขตก็จะมีสินค้าเฉพาะของตัว
           
      ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ จะเปิดเวลา 10:30 น. ถึง 19:30 น. รวมทั้งวันอาทิตย์ ในขณะที่ร้านเล็ก ๆ จะเปิดสายและปิดค่ำทุกวัน นอกจากนี้ยังมีร้านซื้อสะดวกเปิดตลอด 24 ชั่วโมง กระจายอยู่ทั่วเมือง

      เมื่อเวลาเที่ยงคืน ตลาดใหญ่ ๆ เช่นนัมแดมุน และทงแดมุน ในกรุงโซลจะเปิดขายตลอดคืน นี่เป็นตลาดขายส่งแต่เราสามารถซื้อปลีกได้



           

      สินค้ายอดนิยม
      เครื่องแต่งกาย
      อุตสาหกรรมสิ่งทอของเกาหลีเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกจากสีสันและแบบซึ่งหลากหลาย การตัดเย็บที่ประณีตและราคาที่ย่อมเยาโดยเฉพาะเครื่องแต่งกายสุภาพสตรีและเด็ก เสื้อผ้ายี่ห้อดัง ๆ ของต่างชาติก็ล้วนผลิตในเกาหลีและมีขายตามห้างสรรพสินค้า แต่ยี่ห้อของเกาหลีเองก็เป็นคูแข่งที่น่ากลัวและคุณภาพทัดเทียมแต่ราคาย่อมเยากว่า ท่านสามารถสั่งตัดชุดหรือสูทได้ภายใน 2-3 วัน และราคาจะถูกว่าแบบสำเร็จรูปในประเทศอื่น ๆ
                

      ชื่อสถานที่: ตลาดอีแทวอน, เมียง-ดง, นัมแดมุน และทงแดมุน ทางเข้ามหาวิทยาลัยสตรี ถนนอับกูจอง-ดง ถนนแฟชั่นมูเจินดง, กูโรกองดาน ตลาดขายสินค้านำสมัย (แฟชั่นยุคดิจิตอล)


      ครบเครื่องเรื่องกีฬา
      สิ่งที่น่าซื้อเป็นอย่างยิ่งคือ ไม้เทนนิส สคว้อซ และแบดมินตัน อุปกรณ์เล่นฟุตบอล และเบสบอล รวมทั้งถุงมือ อุปกรณ์เล่นกอล์ฟ ทั้งหมดรวมทั้งไม้ตรีเป็นชุด อุปกรณ์ปีนเขา เสื้อกีฬา นอกจากนี้รองเท้ากีฬาของเกาหลี ขึ้นชื่ออันดับหนึ่งเลยทีเดียว
                

      ชื่อสถานที่: ตลาดอีแทวอน, นัมแดมุน และทงแดมุน, ตลาดกุกเจ


      เครื่องหนัง และสินค้าขนสัตว์
      มีสินค้าบางตัวของเกาหลีหาทัดเทียมได้ยากทั้งคุณภาพและราคา คือสินค้าที่ทำจากหนังและขนสัตว์ ที่นี่มีสินค้าเสื้อคลุมและเสื้อแจ๊กเก็ตหนังที่คุณภาพเยี่ยมและนุ่มนวลและมีแบบที่หลากหลาย สีต่าง ๆ ทำด้วยหนังหลาย ๆ แบบ และหนังปลาไหลขายอยู่ด้วย สินค้าต่าง ๆ จะขายในราคาถูกเช่น เข็มขัด กระเป๋าสตางค์ ยกเว้นในช่วงเดือน ตุลาคม-กุมภาพันธ์
                

      ชื่อสถานที่: อีแทวอน ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัมแดมุน และทงแดมุน


      เพชรนิลจินดา
      เกาหลีเป็นดินแดนของพลอยเขี้ยวหนุมาน ซึ่งมีแนวสีม่วงที่หลากหลายตั้งแต่ม่วงอ่อนเย็นตา จนถึงม่วงแก่ที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจ นอกจากนี้ยังมีบุษราคัมรมควันอันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เมื่อนำเข้าประกอบบนแป้นรับทองคำแล้ว พลอยนี้จะงามจับตาเมื่อมาทำเป็นแหวน จี้ ต่างหู และสร้อยข้อมือ และราคาจะไม่สูงนัก หยกโดยเฉพาะหยกขาวของเกาหลีก็สวยงามในทำนองเดียวกับบุศราคัม เพชรพลอยที่ประดิษฐ์ในเกาหลี โดยเฉพาะทับทิมนั้นมีมากมาย เลือกได้ตามชอบใจ
                

      ชื่อสถานที่: ชงโน 3 กา และร้านขายเพชรพลอยที่เยจิ-ดง ศูนย์การค้าอัญมณีคังนัม ตลาดนัมแดมุน ศูนย์อัญมณีอีรีที่ชลลาบุกโด อ๊อกซาน-กา ที่ชุนชอน


      ของเก่าและวัตถุโบราณ
      ของเก่าที่ทุกคนหาชมคือ หีบไม้ เครื่องเรือน และเครื่องเคลือบสีขาวจากสมัยราชวงศ์โชซอน และเครื่องปั้นดินเผาศิลาดล ซึ่งสีเหมือนหยกฟ้าจากราชวงศ์โคเรียว ประกอบด้วยตู้เก่า ๆ เครื่องแกะสลักและเครื่องปั้นดินเผา เราจะนำเครื่องชามพวกนี้ออกนอกเกาหลีไม่ได้ ดังนั้นหากมีข้อสงสัยก็สามารถติดต่อสำนักงานประเมินของโบราณ (Tel.032-740-2921) ของทำเลียนแบบดี ๆ ก็สวยมากทีเดียว ในราคาย่อมเยา
                

      ชื่อสถานที่: ตลาดของเก่าอินซา-ดง จางอันเพียง และตลาดฮวาฮักดง


      โสม
      โสมของเกาหลีเป็นที่ยอมรับกันทั่วทั้งตะวันออกและทั่วโลกว่ามีคุณภาพดีที่สุด โดยที่มีประสิทธิภาพสูง ในฐานะที่เป็นยาแผนโบราณ เพื่อรักษาทุก ๆ โรค และเป็นยาบำรุงกำลังขนานวิเศษ นอกจากนี้โสมเกาหลี ยังมีคุณสมบัติในการถอนพิษออกจากเลือด ทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดี มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยให้ร่างกายอยู่ในสภาพสมดุล โสมเกาหลีหาได้ทุกรูปแบบทั้ง สด แห้ง เป็นผง หรือแบบเข้มข้นหรือเป็นซองชงแบบชา
                

      ชื่อสถานที่: ตลาดยาสมุนไพรเคียงดง ตลาดนัมแดมุน ศูนย์ค้าส่งโสม และตลาดในคึมซาน คังฮวา แทกู และย่านปังกี


      ศิลปะและงานฝีมือพื้นเมือง
      ตุ๊กตาแต่งชุดประจำชาติที่สวยงาม พัดและหน้ากากไม้ งานเย็บปักถักร้อยฝีมือละเอียดและเต็มไปด้วยสีสันสดใส ตุ๊กตาเป็ดระบาย สีว่าว เครื่องลงยาประดับมุกชั้นหนึ่ง ผีมือประณีต เครื่องเคลือบอ่อนช้อยด้วย ลวดลายดั้งเดิม สิ่งของเหล่านี้บ่งบอกถึงความสุข ความพิโรธ ความเศร้าสร้อย และอารมณ์ขัน ซึ่งถ่ายทอดลงไปในสิ่งของใช้ประจำวันแต่ละชินอย่างไม่เหมือนใครทีเดียว
                

      ชื่อสถานที่: ร้านค้าของที่ระลึกพื้นเมืองในโซล ตลาดอีแทวอน นัมแดมุน ตลาดของเก่าจางอัน-ดง ตลาดของถูกจางฮักดง หมู่บ้านศิลปและงานฝีมือพื้นเมืองเคียงจู


      เหล้าและชาพื้นเมือง
      เครื่องดื่มแอลกฮอล์พื้นเมืองของเกาหลีถูกแบ่งออกเป็น 5 ชนิด นั่นคือ ยักจู (เหล้าบริสุทธิ์)โซจู (เหล้ากลั่น), ตั๊กจู (เหล้าข้นไม่ได้กลั่น), ไวน์ผลไม้ และยาดองเหล้า เหล้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงคือ มุนแบจู (ไวน์กลั่นจากแอปเปิ้ลแคระ), ดั๊กยอนจู (ไวน์กลิ่นจากดอกอาซาเลีย), เคียงจู บ๊อบจู (ไวน์กลั่นจากข้าวเหนียว), ไวน์โสม และอันดง โซจู
                
      ส่วนชาพื้นเมืองก็มีชาโสม, ชาเขียว, ชาโทนิคซังวา, ชาขิง, ชาพุทรา และชามะนาว เครื่องดื่มที่ถือว่าพิเศษจริงคือ จั๊กซอลชา หรือใบชาอ่อนเก็บในฤดูใบไม้ผลิ เครื่องดื่มที่ถือว่าดับกระหายได้ดียิ่งคือ ซิเค เป็นเครื่องดื่มทำมาจากข้าว มีรสหวานและซูจองฮวา ซึ่งเป็นพั้นซ์รสอบเชย ชาเกาหลีมีขายทั้งในรูปใบแห้ง ถุงชา และผงชา
                

      ชื่อสถานที่: หาได้ที่ร้านปลอดภาษี ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และตลาดนัมแดมุน


      กิมจิและอาหารอื่น
      กิมจิเป็นผักที่ดองที่สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานาน และเป็นอาหารที่ขึ้นโต๊ะชาวเกาหลีทุกมื้อ ปัจจุบันนี้กิมจิเป็นที่นิยมแพร่หลาย เพราะประกอบด้วยแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในการย่อยอาหาร และป้องกันโรค
               
      ในบรรดาอาหารที่มักจะให้กันเป็นของกำนัล จะมีกิมจิประเภทต่าง ๆ สาหร่ายอบ, อาหารทะเลหมักเกลือ, คาลบิแพ็คเป็นห่อ (ซี่โครง), โกชูจัง (พริกแดงบด) และเห็ดซงงีตากแห้ง (เห็ดสน) และเห็ดอื่น ๆ ขนมต่าง ๆ ของเกาหลี (ฮังวา) ใส่ตะกร้าหรือกล่องอย่างสวยงามเป็นของฝากสำหรับครอบครัวที่น่าประทับใจทีเดียว
                

      ชื่อสถานที่: ร้านค้าปลอดภาษี, ห้างสรรพสินค้า, ร้านขายของที่ระลึก



      ย้อนขึ้น
      ร้านปลอดภาษี
      โซล
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินคิมโป บริหารงานโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 02-2064-5011
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Dong Wha DFS
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 211-1 Sejongno, Jongno-gu
      เบอร์โทร: 02-399-3100, 3000


      ชื่อสถานที่: Shilla
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 202, Jangchung-dong 2-ga, Jung-gu
      เบอร์โทร: 02-2230-3662


      ชื่อสถานที่: Hotel Lotte
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 10th Fl., Lotte Department Store, 1,Sogong-dong, Jung-gu
      เบอร์โทร: 02-759-8386/3


      ชื่อสถานที่: Lotte World
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 40-1, Jamsil-dong, Songpa-gu
      เบอร์โทร: 02-411-5000


      ชื่อสถานที่: SKM
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 159, Samseong-dong, Gangnam-gu
      เบอร์โทร: 02-3484-9600
      Url: http://www.skm.co.kr


      ชื่อสถานที่: Sheraton Walker Hill Hotel
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 21, Gwangjang-dong, Gwangjin-gu
      เบอร์โทร: 02-450-6760
      Url: http://www.walkerhill.co.kr


      อินชน
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติอินชอน บริหารโดย อสท. เกาหลี
      เบอร์โทร: ภายในสนามบินนานาชาติ 032-743-2000
      ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติอินชน 032-891-2221
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Lotte Duty Free
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติอินชน
      เบอร์โทร: 032-743-2400
      Url: http://www.ak-dfs.com


      ชื่อสถานที่: DFS Seoul Limited
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติอินชน
      เบอร์โทร: 032-743-3406


      พูซาน
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสถานีผู้โดยสารนานาชาติคิมแฮ บริหารโดย อสท. เกาหลี
      เบอร์โทร: 051-973-1101
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติพูซาน บริหารโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 051-469-7301


      ชื่อสถานที่: Paradise Duty Free Shop
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 1128-78 Jung-dong, Haeundae-gu
      เบอร์โทร: 051-743-0181


      ชื่อสถานที่: Lotte
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 503-15, Bujeon-dong, Busanjin-gu
      เบอร์โทร: 051-810-5000


      ชงจู
      ชื่อสถานที่: Duty Free Shop
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติชงจู บริหารโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 043-218-5533
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      เชจูโด
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติเชจู บริหารโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 064-742-0030/1
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Lotte
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 2812-4, Saekdal-dong, Seogwipo
      เบอร์โทร: 064-731-4450


      ชื่อสถานที่: Shilla
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: 252-20, Yeon-dong, Jeju
      เบอร์โทร: 064-735-5577


      ชื่อสถานที่: JDC
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในสนามบินนานาชาติเชจู
      เบอร์โทร: ภายในสนามบิน 064-740-9999
      ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติเชจู740-9939
      ข้อมูลเพิ่มเติม: ชาวเกาหลีและผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่เดินทางมายังเกาะเชจู สามารถซื้อของที่ร้านปลอดภาษี JDC ได้


      ที่อื่น ๆ
      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Pyeongtaek
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติเพียงแทค ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 031-683-8367
      Url: http://www.dutyfreekorea.com


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Sokcho
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติซกโช ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 033-635-6180


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Mokpo
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติมกโป ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 061-242-4936/7


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Ulsan
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติอุลซาน ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 052-201-6682


      ชื่อสถานที่: Duty Free Korea: Gunsan
      ที่ตั้ง/ที่อยู่: ภายในอาคารผู้โดยสารนานาชาติคุนซาน ดำเนินการโดย อสท.เกาหลี
      เบอร์โทร: 063-471-7130



      ย้อนขึ้น

      Korean Dramas on air
      อันย้ง ฮาเซโย มาเรียนภาษาเกาหลีกันเถิดจ๊ะ
      เว็บไซต์แนะนำ

      เว็บดาราเกาหลี

       


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×