คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 22
เคจอดรถที่โรงรถ บุคคลที่นั่งมากับเขายังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนไปไหน “ไม่ลงไปเหรอเคโตะ”
เคโตะมองพี่เขยสีหน้าดูเป็นกังวล “ไดจังโกรธผมมากมั้ยครับ”
เคมองน้องภรรยาอย่างแปลกใจ “เคโตะกลัวไดจังด้วยเหรอเนี่ย”
“พี่เคไม่รู้อะไร ตอนที่ไดจังโกรธน่ะน่ากลัวสุดๆ เลย”
เคยิ้ม “พี่รู้ เข้าไปข้างในเถอะไดจังคงรอนานแล้ว”
ไดกิลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นน้องชายและสามีเข้ามา เขาย่างสามขุมเข้าไปหาเคโตะแล้วจ้องหน้าด้วยสีหน้าโกรธจัด “ไปไหนมา”
เคจับแขนภรรยาไว้ “ไดจังใจเย็นๆ นะครับ”
ไดกิไม่ได้สนใจเสียงของสามี เขายังคงจ้องหน้าน้องชายเขม็ง “ว่าไงเคโตะ หายไปไหนมา รู้มั้ยคนอื่นเขาเป็นห่วงแค่ไหน ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาแล้วพี่จะทำยังไง”
เคโตะก้มหน้านิ่ง “ผมขอโทษครับไดจัง”
ไดกิเงื้อมมือขื้นแล้วฟาดมันไปบนหน้าของเคโตะ ไดกิเจ็บปวดที่ตบน้องชาย เรื่องที่เคโตะไม่กลับบ้านไม่อาจทำให้เขาโกรธเท่าสิ่งที่เคโตะทำกับเรียวสุเกะ “ทำไมทำแบบนี้” ไดกิน้ำตาคลอเบ้า
เคจับมือไดกิไว้ “ไดจังใจเย็นๆ ครับ เคโตะอยู่ที่นี่แล้วมันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงพอที่จะทำร้ายกันขนาดนี้นะ”
“ไม่ใช่เรื่องนี้” ไดกิกุมมือสามีไว้เพื่อสร้างกำลังใจ “แบบนี้มันไม่ใช่ลูกผู้ชายนะเคโตะ ทำแล้วเรียวจังจะเสียใจแค่ไหนคิดบ้างมั้ย สิ่งที่เสียไปแล้วมันเอากลับคืนไม่ได้ ถ้าเคโตะไม่รักเขาก็อย่าทำอย่างนั้นสิ”
เคโตะจ้องหน้าพี่ชายนิ่ง ความเสียใจกำลังกัดกินจิตใจเขา “ถ้าผมมันเลวนักก็ปล่อยผมไปสิ ทิ้งผมไว้ข้างถนนเหมือนเดิมเลย”
ฝ่ามือของไดกิฟาดบนใบหน้าเขาอีกครั้ง เขารู้สึกเจ็บปวดที่น้องชายพูดแบบนี้ “แน่จริงพูดอีกครั้งสิ”
เคโตะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เขาหันมาเผชิญหน้ากับพี่ชายของตน “ตั้งแต่พ่อกับแม่ผมเลิกกันผมก็มีแค่พี่คนเดียวที่อยู่เคียงข้างผม” เคโตะมองพี่ชายที่น้ำตาไหลอาบแก้ม “แล้วทำไม คนที่ผมรักและไว้ใจที่สุดถึงกลายเป็นคนเดียวกันกับคนที่หลอกลวงให้ผมเจ็บปวดที่สุด” จนถึงตอนนี้เคโตะไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป
ไดกิตกใจกับสิ่งที่เคโตะพูด “เคโตะ พี่....”
“ทั้งพี่และเรียวสุเกะคือคนที่ผมรักมากที่สุด แต่ทำไมคนที่ผมรักทั้งสองคนต้องรวมหัวกันหลอกผมด้วย!” เคโตะหายใจแรงด้วยความโกรธและเสียใจ “ผมพยายามที่จะทำให้ตัวเองเชื่อใจพี่ให้ได้อีกครั้ง แต่ตั้งแต่วันที่ผมรู้ความจริง ผมก็ไม่เคยทำมันสำเร็จเลย”
ไดกิมองน้องชายน้ำตาไหลอาบแก้ม เขารู้สึกเสียใจจนไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใดๆ ออกมาได้ “เคโตะ คือพี่....” เคโตะไม่รอให้ไดกิพูดอะไรให้จบ เขาไม่อาจทำใจให้เผชิญหน้าพี่ชายในตอนนี้ได้ เคโตะวิ่งออกจากบ้าน “เคโตะ!!” ไดกิวิ่งตามออกมาแต่ไม่เร็วพอ เคโตะวิ่งหายไปแล้ว ไดกิทรุดลงนั่งแล้วร้องไห้
เคเดินเข้ามาแล้วกอดภรรยาไว้เพื่อปลอบโยน “เคโตะกำลังต้องการเวลา ให้เวลาเขาซักหน่อยครับไดจัง”
ไดกิกอดสามีไว้แน่น เขาร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น “เคโตะพี่ขอโทษ”
เคโตะหลบมาอยู่ที่มุมหนึ่งในสวนสาธารณะ ความเหงา ความเสียใจและความสับสนที่กำลังเผชิญทำให้เขาแทบไม่มีแรงแม้แต่จะเดินต่อ เคโตะนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวเงียบๆ ดวงอาทิตย์กำลังคล้อยต่ำลงความมืดห่มคลุมรอบตัว โทรศัพท์กำลังสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง มันสั่นอยู่อย่างนั้นมาทั้งวันแต่เขาไม่คิดจะเปิดมันออกดู โทรศัพท์สั่นอีกครั้งเคโตะหยิบขึ้นมาอย่างหัวเสีย เขาจ้องเบอร์ที่โทรเข้ามาด้วยหัวใจเต้นรัว เคโตะกดรับและรอฟัง
[เคโตะ] เสียงอ้อแอ้ของเรียวสุเกะดังมาตามสาย [นั่นนายใช่หรือเปล่า]
เคโตะขมวดคิ้ว “เรียวสุเกะ คุณเมาเหรอ”
เสียงหัวเราะของเรียวสุเกะดังมาตามสาย [ฟังออกด้วยเหรอ ฉันนึกว่านายจะจำฉันไม่ได้ซะอีก]
“นากาจิม่าปล่อยให้คุณกินเหล้าได้ยังไง”
[เปล่า ยูโตะไม่ได้มาด้วย]
“หมายความว่ายังไงไม่ได้มาด้วย?”
[ฉันหนีมา] เสียงเรียวสุเกะเงียบไปตามมาด้วยเสียงสะอื้นเบาๆ [ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียว ฉันอยากเจอนายเคโตะ]
“ไปคนเดียวแบบนั้นมันอันตรายรู้มั้ย” เคโตะถอนหายใจ เขารู้สึกเป็นห่วงเรียวสุเกะ “ผมจะไปหาคุณ บอกผมว่าคุณอยู่ที่ไหน”
เรียวสุเกะเงียบไปนานกว่าจะตอบกลับ [ฉันอยู่ที่... ฟุจิยะผับ]
ริวทาโร่เด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาที่นอนอยู่ เขามองยูริที่นั่งตกใจอยู่ข้างๆ “เป็นอะไรริวทาโร่”
ริวทาโร่ตาโตขึ้นด้วยความตกใจ “ทาคาคิกำลังไปที่ฟุจิยะผับ เราต้องขวางเขาไว้ เขาต้องล่อคุณอิโนะโอะไปที่นั่นแน่”
ยูริมองอย่างแปลกใจ “ยูยะไปตามหายามาดะกับเคโตะอยู่นะจะไปขวางเขาทำไม”
“คุณจิเน็นผมมีเรื่องต้องบอกให้คุณรู้ไว้ ทาคาคิไม่ใช่คนดี เขากำลังวางแผนฆ่าคุณอิโนะโอะ ผมไม่น่าปล่อยให้เขาสองคนไปออกไปเลย ถ้าผมคิดได้เร็วกว่านี้นะ เขานัดกับพวกของเขาไว้ที่นั่น”
“อย่ามากล่าวหานะ ยูยะไม่ทำแบบนั้นแน่”
“ถ้างั้นก็ฟังนี่สิครับ” ริวทาโร่ยื่นไอพอดให้ “ผมแอบติดเครื่องดักฟังไว้กับคุณทาคาคิ สิ่งที่เขาทำอยู่ผมรู้ทั้งหมด เราต้องขวางเขาไว้” ยูริขมวดคิ้วแต่ก็ยังไม่ยอมรับไอพอดมา ริวทาโร่ยัดมันเข้าไปในมือร่างเล็ก “ถ้าไม่เชื่อก็ต้องพิสูจน์ เปิดฟังดูสิครับ”
ยูริจ้องมองคนที่สูงกว่า “เรื่องที่นายพูดเป็นความจริงหรือเปล่า” ริวทาโร่พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปขวางเขาไว้” ริวทาโร่มองอย่างแปลกใจ “ไม่ต้องแปลกใจหรอก ก่อนที่เขาจะมาทำงานกับฉัน ฉันรู้ว่าเขาเป็นใครมาก่อน แต่ฉันแค่ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้อีก”
“คุณรู้เหรอ?”
“ถ้าไม่รู้ประวัติคนงานของตัวเองเอาซะเลยก็จะประมาทไปหน่อยมั้ง” ยูริลุกขึ้น “เราต้องไปเดี๋ยวนี้ก่อนที่ยูยะจะลงมือ” เสียงโทรศัพท์ยูริดังขึ้นเขามองสายที่โทรเข้ามา เขาจ้องหน้าริวทาโร่ “เคโตะโทรมา”
“ถ้างั้นก็รับสิครับ”
ยูริกดรับ “เคโตะ พี่ไดกิตามหานายตั้งแต่เช้าแล้วนะ ตอนนี้อยู่ไหนกลับบ้านเดียวนี้เลย”
[ฟุจิยะผับ]
“อะไรนะ?”
[ฟุจิยะผับ เรียวสุเกะอยู่ที่นั่น]
“นายพูดจริงหรือเปล่าเคโตะ”
[เรียวสุเกะโทรมาหาฉัน เขาเมาด้วย ฉันกำลังไปที่นั่น บอกยูโตะให้มารับที] เคโตะตัดสายไป
“เดี๋ยวสิ เคโตะ เคโตะ!” ยูริวางหูแล้วขมวดคิ้วอย่างไม่ตั้งใจ
“คุณจิเน็น มีอะไรหรือเปล่าครับ”
แววตาของยูริฉายแววความกังวลอย่างเห็นได้ชัด “โทรบอกยูโตะเราจะไปฟุจิยะผับเดี๋ยวนี้ ยามาดะกับเคโตะอยู่ที่นั่น”
ในฟุจิยะผับ เสียงเพลงดังคลอเบาๆ เรียวสุเกะยกน้ำสีสวยขึ้นดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าจนรู้สึกมึน แม้จะรู้ว่าสิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้เขาดีขึ้นแต่อย่างน้อยเขาก็สามารถลืมสิ่งต่างๆ ไปได้ชั่วคราว
ไทสุเกะนั่งมองหนุ่มหน้าหวานที่นั่งดื่มอยู่คนเดียวมานานแล้ว ใบหน้าหวานของเรียวสุเกะกับทั้งฤทธิ์เหล้าทำให้เรียวสุเกะดูเร้าใจมากขึ้นไปอีก เขาเดินไปนั่งข้างๆ เรียวสุเกะเมื่อเห็นว่าร่างเล็กกำลังเมาได้ที่ “สวัสดีครับคนสวย” เขาทักทายด้วยรอยยิ้ม
เรียวสุเกะลืมตามองคนที่ทักเขา “คนสวยอะไร อย่ายุ่งกับผมดีกว่า ปล่อยผมอยู่คนเดียว” เขาซบหน้าลงกับเคาเตอร์แล้วพูดเสียงอ้อแอ้เพราะฤทธิ์เหล้า “แฟนผมกำลังมา ผมรอเขาอยู่ ผมต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องก่อนที่เขาจะไป”
ไทสุเกะยิ้มเจ้าเล่ห์ ทะเลาะกันแบบนี้แหละเหมาะเลย เขาเข้าไปพยุงเรียวสุเกะให้ลุกขึ้น “แฟนคุณรออยู่ข้างบนอยู่แล้ว ผมจะพาคุณไปหาเขานะ” เขาพยุงร่างปวกเปียกของเรียวสุเกะขึ้นมาแต่กลับพบว่าร่างเล็กหลับไปแล้ว ไทสุเกะเผยรอยยยิ้ม “แบบนี้ค่อยง่ายหน่อย”
เคโตะเข้ามาในฟุจิยะผับกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อมองหาเรียวสุเกะ ไฟสลัวๆ และคนที่เต้นกันยั้วเยี้ยทำให้เขามองได้ไม่ถนัดนัก พลันนั้นเขาก็เห็นร่างอ่อนปวกเปียกในอ้อมแขนของคนที่เขาไม่รู้จัก ใครคนนั้นอุ้มเรียวสุเกะขึ้นมาแล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เคโตะวิ่งไปรั้งใครคนนั้นไว้ “เดี๋ยวก่อน คุณจะพาเรียวสุเกะไปไหน”
ไทสุเกะจ้องหน้าเคโตะ “อ้อ แฟนของหนุ่มคนนี้หรอกเหรอ”
“คุณปล่อยเรียวสุเกะเดี๋ยวนี้นะ จะทำอะไรเขา คุณมอมเหล้าเขาใช่มั้ย”
ไทสุเกะหัวเราะ เขาหันไปพยักหน้าให้ลูกน้อง ชายร่างใหญ่สี่ห้าคนเข้ามาจับตัวเคโตะไว้ ไทสุเกะยิ้มชั่วร้าย “จัดการมัน”
ฮิคารุนั่งอยู่ในมุมมืดของฟุจิยะผับรอเวลาที่จะได้ลงมือ โคตะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เสียงเอะอะดังมาจากอีกมุมหนึ่งแต่คนเยอะซะจนเขาไม่รู้ว่าใครกำลังมีปัญหากันอยู่ เขาได้ยินเสียงเหมือนกับว่าลูกสมุนของฟุจิงายะกำลังจัดการกับใครสักคน ฮิคารุลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปดู ชายคนหนึ่งกำลังถูกรุมทำร้ายด้วยลูกสมุนของฟุจิงายะห้าหกคน
“ปล่อยนะเว้ย!!” เคโตะตะโกนลั่น เขามองตามร่างของเรียวสุเกะที่ถูกพาขึ้นไปข้างบนอย่างโกรธแค้น “เรียวสุเกะ!”
หมัดของเจ้าบึกซัดไปที่ลำตัวและใบหน้าของเคโตะ มันหนักจนทำให้เขาทรงตัวไม่อยู่ เคโตะไม่สามารถแม้แต่จะป้องกันตัวเองจากหมัดและเท้าของเจ้าบึกพวกนั้นที่รุมเขาอยู่ได้ ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เลือดเหนียวๆ ไปไหลออกมาจากบาดแผลและรอยช้ำหลายแห่ง เคโตะเริ่มรู้สึกถึงดวงตาของตัวเองที่หนักอึ้งลงเรื่อยๆ ร่างกายที่บอบช้ำเริ่มจะชินชาจนแทบไม่รู้สึก
“หยุด!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! พวกแกจะฆ่าเขาหรือไง!!” เสียงใครคนหนึ่งดังแว่วขึ้นมาในโสตประสาท เท้าหนักๆ ของเหล่าเจ้าบึกหยุดการกระทำกับร่างกายของเขา ใครคนนั้นประคองเคโตะขึ้นแต่ตาเขาลายจนมองไม่เห็นว่าคนนั้นคือใคร “ตื่นสิคุณ อย่าเพิ่งหลับนะ ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลที”
เคโตะพยายามเพ่งมองคนที่ช่วยเขาไว้ “เรียวสุเกะ” เขาพูดเสียงแผ่วเบา
“อะไรนะ”
“เรียวสุเกะ” เขาชี้นิ้วไปที่บันไดทางขึ้นชั้นสอง “ช่วยเรียวสุเกะด้วย” พูดได้แค่นั้นดวงตาของเคโตะก็ปิดลง ทุกสิ่งทุกอย่างพลันหายไปจากจิตสำนึก
ฮิคารุเขย่าร่างเคโตะ “นี่ อย่าเพิ่งหลับสิคุณ ตื่นสิ!!”
โคตะวิ่งเข้ามานั่งข้างๆ “คุณโอคาโมโตะ” เขามองหน้าฮิคารุ “คุณโอคาโมโตะเป็นอะไรครับ”
“นายรู้จักเขาเหรอ”
โคตะพยักหน้า “ลูกพี่ลูกน้องของคุณอาริโอกะครับ เป็นน้องชายที่คุณอาริโอกะรักมาก ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ได้”
“เคโตะ!!” เสียงยูริดังขึ้นพร้อมร่างเล็กที่วิ่งมาทางเคโตะ เขาร้องไห้เมื่อเห็นสภาพบอบช้ำของเพื่อนสนิท “ทำไมเป็นแบบนี้ คุณยาบุครับนี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ยูโตะจับชีพจรของเคโตะดู “ผมว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรดีกว่าครับต้องรีบพาเขาส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ชีพจรเขาเต้นอ่อนลงแล้ว”
“ผมโทรเองครับ” ริวทาโร่อาสา
“ถ้างั้นฉันฝากทางนี้ด้วย ฉันมีเรื่องต้องเคลียร์กับฟุจิงายะ” ฮิคารุวางเคโตะลงแล้ววิ่งขึ้นไปบนชั้นสอง เขาตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อลูกสมุนของไทสุเกะ “ฟุจิงายะอยู่ที่ไหน!” เจ้าลูกน้องกล้ามใหญ่คนนั้นชี้ไปที่ห้องในสุดของทางเดินอย่างกลัวๆ ฮิคารุปล่อยคอเสื้อแล้ววิ่งตรงไปทางนั้นพร้อมกดโทรศัพท์หายูยะ “ทาคาคิ เราต้องลงมือก่อนกำหนดแล้วล่ะ”
ความคิดเห็น