ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaYama] คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่ 18

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 55


                 ตอนที่ 18

    เคโตะรู้สึกหนักใจในสิ่งที่เตรียมจะมาพูดวันนี้จริงๆ  มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุดแต่เขาคงทนไม่ได้ถ้าต้องถูกเรียวสุเกะหลอกอยู่อย่างนี้  ทำไมเรียวสุเกะถึงได้ไปหาเขาที่บ้าน  ทำไมเรียวสุเกะถึงอยากเป็นแฟนกับเขาแม้มันออกจะเป็นวิธีที่รวบรัดมากก็ตาม  เขาพอจะรู้เหตุผลแล้วว่าทำไม  เคโตะยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

    “รอนานมั้ยเคโตะ”  เรียวสุเกะพูดอย่างร่าเริง  เขาวิ่งมาทางเคโตะด้วยรอยยิ้มสดใส  “หายไปไหนมาเนี่ยทำไมไม่บอกกันเลย”

    เคโตะลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มน้อยๆ ให้  “ผมมีเรื่องต้องบอกคุณ”  เรียวสุเกะเงียบรอฟัง  “หลังจบการศึกษาแล้ว  ผมจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ  คุณคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ย”

    เรียวสุเกะส่ายหน้า  แม้ตอนแรกจะยังใจหายอยู่แต่เขาจะขัดขวางอนาคตของเคโตะได้ยังไงล่ะ  “งั้นก็ดีสิ  ฉันก็จะตามนายไปเรียนที่นั่นด้วยนายจะได้ไม่อยู่ห่างฉัน”

    “ไม่”  เรียวสุเกะจ้องเคโตะอย่างสงสัย  “อีกเรื่องที่ผมอยากจะพูดกับคุณก็คือ”  เคโตะสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า  พอจะพูดจริงๆ แล้วทำไมมันถึงได้ยากเย็นนัก  เขามองเรียวสุเกะ ทั้งรูปหน้า  ดวงตา  ริมฝีปาก  รอยยิ้ม  และทุกสิ่งทุกอย่าง  เขาอยากจะจดจำมันไว้ตลอดไป  เคโตะรู้สึกถึงดวงตาที่ร้อนผ่าวของตัวเอง  “เราเลิกกันเถอะ”

    เรียวสุเกะรู้สึกเหมือนโลกพังครืนลงไปต่อหน้า  เขาจ้องหน้าร่างสูงอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง  “ทำไมล่ะ”

     “เพราะผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว”  เขาจ้องเรียวสุเกะนิ่ง  “พี่ชายผม  ผมไม่ยอมให้คุณทำอะไรเขาอีกแล้ว”

    “แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรเขาเลยนะ”

    “ทำสิ  สำเร็จแล้วด้วย  คุณเข้ามาตีสนิทกับผมก็เพื่อเข้าใกล้สองคนนั่นเพื่อทำให้สองคนนั่นแตกกัน  และถ้าคุณทำให้ผมหลงรักคุณได้คุณก็จะยิ่งได้อีกสองต่อ  คุณก็รู้ว่าพี่รักผม  คงคิดล่ะสิว่าพี่เขาต้องทรมานที่คุณทำให้ผมเจ็บได้  แบบนี้ถูกต้องมั้ย”

    เรียวสุเกะตกใจที่เคโตะพูดเรื่องนี้ออกมา  เหตุผลตอนแรกอาจจะใช่แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว  ไม่คิดเลยว่าการทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบในขณะนั้นจะนำเรื่องเจ็บปวดมาถึงเขาได้ขนาดนี้

    “คุณบอกผมเองว่าไม่ชอบคนโกหก  แต่คุณอาจไม่ทันคิดไปว่าผมก็ไม่ชอบ”  เคโตะมองเรียวสุเกะด้วยสายตาเย็นชา

    “รู้เรื่องนี้ได้ยังไง”  เรียวสุเกะตาพร่ามัวด้วยน้ำตาที่เอ่อขึ้นมา  หวั่นใจจริงๆ  หวังว่าที่เคโตะพูดเมื่อกี้มันจะเป็นแค่ความฝันที่ตื่นขึ้นมามันก็จะหายไป  เคโตะไม่คิดจะจากเขาไปจริงๆ ใช่มั้ย

    “รู้ได้ยังไงไม่สำคัญหรอก”  เคโตะเจ็บปวดเมื่อคิดว่าสิ่งที่เรียวสุเกะทำกับเขาทั้งหมดมันเป็นแค่การหลอกลวงชั่วคราวเท่านั้น  เรียวสุเกะไม่ได้จริงใจหรือรักเขาจริงๆ  “กับคำหลอกหลวงทั้งหมดที่คุณได้ทำมา  ผมว่าความพยายามทั้งหมดของคุณสำเร็จแล้วล่ะ  เพราะว่า....  ผมคงหลงรักคุณเข้าแล้วจริงๆ”  เขายิ้มอย่างเจ็บปวด  “พอใจแล้วใช่มั้ย  จบกันซักทีกับเรื่องนี้”  เคโตะหันหลังเดินกลับ

    เรียวสุเกะวิ่งเข้าไปกอดเอวของเคโตะไว้  “ไม่นะอย่าไป  ไม่ใช่อย่างที่นายเข้าใจนะ”

    เคโตะหยุดเดินเพราะอ้อมกอดของเรียวสุเกะ  ทำไมเขาจะไม่อยากให้อ้อมแขนนี้กอดเขาไว้ตลอดไปล่ะ  แต่ตอนนี้เขาต้องตัดสินใจ  ต้องตัดใจให้ได้  เขาแกะมือเรียวสุเกะออกแล้วเดินไปโดยไม่หันไปมองร่างเล็ก

    เรียวสุเกะไม่ละความพยายาม  เขาวิ่งมาขวางเคโตะไว้  “ฉันบอกให้นายฟังฉันก่อนไง!”  เขาพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นระริก

    เคโตะมองกลับด้วยสายตาเย็นชาที่พยายามปั้นขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงความเศร้า  “อย่าเอาน้ำตามาอ้างได้มั้ย  หยุดซักทีเถอะ  ผมอยากให้คุณเริ่มต้นใหม่กับคนที่คุณรักจริงๆ”

    “นายไง”  เรียวสุเกะจับมือเคโตะไว้  “ฉันอยากเริ่มต้นกับนายนะ”

    เคโตะปัดมือเรียวสุเกะออก  “เลิกโกหกซักทีได้มั้ย!!”  เขาตะโกนออกมาด้วยหัวใจที่รวดร้าว  “เลิกยุ่งกับผมซักที”

    เรียวสุเกะทำได้แค่ยืนร้องไห้เมื่อเคโตะเดินจากไป  เขาจะวิ่งตามแต่ยูโตะรั้งไว้  “เคโตะ  เคโตะ!!”  ตอนนี้ก็ทำได้แค่ร้องเรียกชื่อคนที่ไม่กลับมาอีกแล้ว

    ยูโตะกอดคุณหนูของเขาไว้  “คุณหนูครับ  พอเถอะครับ  ปล่อยเขาไปเถอะครับคุณหนู”

    เรียวสุเกะทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง  เขาซบหน้าลงกับไหล่ของบอดิการ์ดหนุ่ม  ตอนนี้เขาไม่อาจทนรับความจริงเพียงลำพังได้  ยูโตะได้แค่กอดคุณหนูไว้หลวมๆ  เขาไม่สามารถช่วยคุณหนูของเขาได้เลยอย่างนั้นเหรอ

     

    ยูโตะยืนมองคุณหนูที่นั่งร้องไห้อยู่คนเดียวในสวนสาธารณะแห่งนี้โดยที่เขาไม่อาจเข้าไปปลอบโยนได้  บ่ายโมงผ่านไปโดยไม่มีอะไรตกถึงท้องของทั้งคู่  แต่ยูโตะกลับไม่รู้สึกหิวอะไร  เขาเป็นห่วงคุณหนูจนกินอะไรไม่ลง

    เรียวสุเกะลุกขึ้นแล้วเดินมาทางเขา  “ฉันจะไปพบคุณอิโนะโอะที่ร้านซายะ  พาฉันไปที”

    “คุณอิโนะโอะที่เป็น....”

    “ใช่  เขาส่งเมลล์มาบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับฉัน  ขึ้นรถเถอะเดี๋ยวจะไปสาย”

     

    เรียวสุเกะเดินเข้าไปในร้านอาหารซายะ  ร้านอาหารอิตาลีชื่อดัง  เขาเดินตรงเข้าไปยังโต๊ะอาหารด้านในสุด  “ขออนุญาตครับ"  เขาเดินเข้าไปนั่งตรงที่ว่างแล้วสบตากับคนที่นัดเขามาวันนี้

    เคสบตากับเรียวสุเกะนิ่ง  “คุณยามาดะ  ผมมีเรื่องจะต้องคุยกับคุณ  ขอโทษที่ทำให้คุณลำบากมาพบผมในวันนี้”

    เรียวสุเกะมองอย่างรำคาญ  ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะมาพูดสุภาพด้วยหรอกนะ  “คุณมีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า”  เคถอนหายใจ  เขาลุกขึ้นเดินไปหยุดอยู่หน้าเรียวสุเกะแล้วคุกเข่าลง  เรียวสุเกะตกใจที่จู่ๆ เคก็ทำแบบนี้  “คุณอิโนะโอะลุกขึ้นเถอะครับคนมองกันเต็มแล้ว”

    “ไม่  จนกว่าคุณจะฟังผมพูดให้จบก่อน”

    เรียวสุเกะขมวดคิ้ว  “นั่งพูดกันดีๆ ก็ได้”

    “ไม่ครับ  ผมต้องแสดงความตั้งใจจริงให้คุณเห็น”  เคเงยหน้าขึ้นมอง  แววตาแห่งความมุ่งมั่นฉายชัดออกมา  “ผมรักไดจัง”

    “ผมรู้แล้วครับ  คุณลุกขึ้นก่อนเถอะ”  เรียวสุเกะมองไปรอบๆ ตัวอย่างประหม่า

    “คุณอย่าทำเป็นไม่สนใจได้มั้ย  ผมซีเรียสนะเนี่ย”  เรียวสุเกะหยุดมองรอบๆ  ถ้าเขาไม่ยอมทำตามเคคงจะไม่ลุกขึ้นใช่มั้ยเนี่ย

    “เอาล่ะครับ  มีอะไรก็ว่ามา”

    “ผมรู้ว่าคุณเป็นแฟนเก่าของภรรยาผม”

    “แล้วไงครับ”

    “ผมไม่รู้ว่าไดจังจะยังรักคุณอยู่หรือเปล่า  แต่ผมอยากจะขอร้อง  คุณอย่าทำให้ไดจังหวั่นไหวอีกเลยนะ”

    เรียวสุเกะมองอย่างรำคาญ  “ผมรู้ครับว่าคุณรักภรรยาของคุณ  แล้วผมจะไปแย่งทำไมในเมื่อเขาแต่งงานกับคุณไปแล้ว”

    “แต่เมื่อวานผมเห็นคุณกับไดจัง”  เขาเว้นจังหวะเพื่อเรียบเรียงคำพูด  “จับมือกันด้วย”

    เรียวสุเกะนึกถึงเรื่องเมื่อวาน  วันที่เขาไปเจอกับไดกิ  “ก็ไม่เห็นมีอะไรซักหน่อย  ผมก็แค่ไปปรึกษาไดจังเท่านั้นเอง  เรื่อง..”  เรียวสุเกะหยุดพูด  รู้สึกปวดใจอีกแล้วเมื่อนึกถึงคนๆ นั้น  เขากลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา  “เรื่องเคโตะน่ะครับ”

    เคมองเรียวสุเกะ  “จริงเหรอครับ  คุณไม่ได้คิดอะไรกับไดจังแล้วจริงๆ นะ”  เรียวสุเกพยักหน้า  เคลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มให้เรียวสุเกะ  “ขอบคุณมากนะครับ  ขอบคุณจริงๆ”

    เรียวสุเกะได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ  ชักจะสงสารไดกินิดๆ แล้วสิที่แต่งงานกับคนแปลกๆ แบบนี้  “แค่นี้ใช่มั้ยครับผมจะได้กลับ”

    “เดี๋ยวครับคุณยามาดะ”  เรียวสุเกะหยุดแล้วนั่งลงเหมือนเดิม  “เมี่อวานผมเห็นเคโตะมาที่บ้านผมสีหน้าไม่ค่อยดีเลย  ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่าครับ”

    เรียวสุเกะส่ายหน้า  สีหน้าเศร้าหมองลง  “ไม่ได้ทะเลาะกันครับ  เราเลิกกันแล้ว”

    เคชะงัก  “เสียใจด้วยนะครับ  จะเป็นอะไรมั้ยถ้าผมอยากจะถามคุณ”  เรียวสุเกะตอบรับกลับมา  “เลิกกันทำไมเหรอครับ”

    เรียวสุเกะยิ้มอย่างขมขื่น  “ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ผมต้องเลิกกับไดจังแน่นอน”

    เคหน้าถอดสี  “ผมขอโทษครับ  แต่สำหรับผมไดจังคือทุกสิ่งทุกอย่าง  ผมทนไม่ได้ที่จะต้องเสียเขาไป”

    “ไม่เป็นไรครับ  เพราะถึงยังไงตอนนี้ไดจังก็เป็นได้แค่พี่ชายที่แสนดีของผมเท่านั้น  หัวใจของผมได้มอบให้คนอื่นไปแล้ว”

    “ถ้าคุณรักเคโตะจริง”  เคถอนหายใจและยิ้มออกมา  “ที่จริงผมไม่ควรที่จะแนะนำคุณเพราะผมต่างหากที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้  แต่ผมก็อยากบอกให้คุณรู้ไว้  เป็นเวลาสิบปีที่ผมแอบรักไดจังมา  เป็นเวลาหนึ่งปีหลังจากแต่งงานที่ผมพยายามที่จะเอาชนะใจไดจัง  แม้จนถึงตอนนี้ผมก็ไม่ยอมแพ้  อาจจะบอกว่าผมโง่ที่ไม่ยอมเปิดใจให้คนอื่น  ผมก็ว่างั้นแหละ”  เคหัวเราะแต่กลับเป็นเสียงหัวเราะที่แห้งสิ้นดีเพราะเรียวสุเกะไม่ได้หัวเราะไปด้วย  “ขอโทษครับ  ผมนึกว่ามันจะทำให้คุณยิ้มได้บ้างน่ะ”

    “ไม่เป็นไรครับ”

    “ผมน่ะ  ไม่ว่าไดจังจะว่าอะไรผมก็ยังคงรักไดจังเสมอ  เพราะผมเชื่อมั่นอยู่ในส่วนลึกว่าซักวันผมต้องเอาชนะใจไดจังได้  ผมเชื่อว่า  ผมจะต้องทำให้เขารักผมให้ได้”

    เรียวสุเกะมองอย่างสงสัย  “ทำไมคุณมั่นใจนักล่ะครับ”

    เคยิ้มละมุน  “เพราะผมรักไดจัง  ที่ผมมั่นใจก็เพราะไดจังคือคนที่ใช่สำหรับผม  ที่จริงเรื่องความรักผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจมันซักเท่าไรหรอกครับ  ความคิดแบบนั้นอาจจะผิดก็ได้  แต่ผมรู้แค่ว่าถ้าเรามั่นใจแล้วทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่แม้สุดท้ายจะต้องเจ็บแต่อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย”

    “คุณรักไดจังมากเลยเหรอ”

    เคยิ้ม  “ผมรักเขามากกว่าตอนก่อนแต่งงานซะอีก”

    เรียวสุเกะได้แต่มองหน้าเคพลางครุ่นคิด  “ขอบคุณครับที่เตือนสติผม  เคโตะยังไม่เข้าใจ  ผมต้องทำให้เขาเข้าใจผมให้ได้”

    “พยายามเข้านะครับคุณยามาดะ”

    เรียวสุเกะยิ้มออกมาอย่างเต็มใจได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่คุยกับเคมา  “ขอบคุณมากจริงๆ ครับ  ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะครับ”  เขาโค้งให้แล้วเดินจากไป

     

    อีกมุมหนี่งของร้านอาหาร  ตาคมของไทสุเกะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่คุ้นหน้าอย่างมาก  “นั่นมันเจ้าอิโนะโอะนี่”  ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาคิดอะไรดีๆ ออก  เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วถ่ายภาพขณะที่เคกำลังคุกเข่าให้เรียวสุเกะพอดีซึ่งเป็นภาพที่ชวนเข้าใจผิดอย่างยิ่ง  “วันนี้ฉันขอเล่นอะไรสนุกๆ ละกันนะ”  เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่ภาพนั้นจะถูกส่งออกไป

     

    เคโตะเดินเข้ามาในบ้าน  “ไดจังครับ  ผมกลับมาแล้ว”

    ไดกิโผล่หน้าออกมาจากครัว  “กลับมาแล้วเหรอ  นั่งก่อนสิเดี๋ยวพี่ทำอะไรให้กิน”

    เสียงโทรศัพท์ไดกิดังขึ้น  “มีเมลล์ครับไดจัง”  เขาตะโกนเรียกพี่ชาย

    “ดูให้พี่หน่อยละกันนะ  ตอนนี้พี่ไม่ว่างเลย”

    เคโตะเปิดเมลล์ของไดกิขึ้นมา  “ขออนุญาตนะครับ”  ใครบางคนส่งรูปๆ หนึ่งมาให้ไดกิ  เคโตะเปิดมันออกดู  ภาพที่ปรากฎตรงหน้าทำให้เคโตะเกือบจะทำโทรศัพท์หลุดมือ  ที่แท้จุดประสงค์ของเรียวสุเกะคือการเข้าถึงเคสินะ  เคโตะกำโทรศัพท์แน่น  แบบนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง  เขาหุนหันออกไปจากบ้าน  มันจะเกินไปหน่อยแล้ว

    “เคโตะจะไปไหนน่ะ  เจ้าน้องคนนี้นี่”  ไดกิได้แต่บ่นอยู่คนเดียว  เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา  รูปภาพนั้นยังปรากฏอยู่  ไดกิทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรงมองภาพที่อยู่ในมือด้วยหัวใจสั่นสะท้าน  บอกเขาสิว่านี่มันเป็นเรื่องโกหก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×