Shortfic [HSJ-TakaChii] หนุ่มน้อยในตะเกียงแก้ว (Yaoi) - Shortfic [HSJ-TakaChii] หนุ่มน้อยในตะเกียงแก้ว (Yaoi) นิยาย Shortfic [HSJ-TakaChii] หนุ่มน้อยในตะเกียงแก้ว (Yaoi) : Dek-D.com - Writer

    Shortfic [HSJ-TakaChii] หนุ่มน้อยในตะเกียงแก้ว (Yaoi)

    โดย POP_okamo

    พ่อมดน้อยจอมยุ่งกับนักวิทยาศาสตร์หนุ่มสุดเพี้ยน>

    ผู้เข้าชมรวม

    753

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    753

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 มี.ค. 55 / 10:36 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

     

    Yuya  Takaki


     

    Yuri  Chinen

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       


      หนุ่มน้อยในตะเกียงแก้ว^^

       

      “ตื่นสิ  ตื่นได้แล้ว”

      เสียงแหลมเล็กนั่นเหมือนดังอยู่ในความฝัน

      “ตื่นสิไม่ไปทำงานเหรอ”

      เสียงนั่นดังขึ้นอีกแล้ว  ทำงานเหรอ?  วันนี้มีงานด้วยเหรอเนี่ย?

      “ถ้าไม่ตื่นผมจะถีบคุณนะ”

      ผมไม่ตอบ  ความฝันถีบผมไม่ได้หรอก^^

       

      ปึก!!

       

      ตุ้บ!!

       

      “โอ๊ย!!”  ผมร้องลั่นทันทีเมื่อก้นและแผ่นหลังสัมผัสพื้นห้อง  ผมงัวเงียลืมตาตื่นแม้จะตกเตียงมาอย่างนั้นแต่ความขี้เกียจทำให้ผมได้แต่นอนมองเพดานรอให้ความเจ็บเมื่อครู่หายไปซะก่อน 

      ผมทำท่าจะหลับอยู่รอมร่อ  แต่ทว่า....

      “เฮ้ย!!!”  ผมสะดุ้งลุกขึ้นยืนทันที  ผู้ชายตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักคนหนึ่งยืนยิ้มให้ผมอยู่  เกิดอะไรขึ้นเนี่ย  หรือว่าผีหลอกO[]O!!!!!!  อ๊ากกกก!!!  ม่ายยยยยย!!!!!  สาธุพ่อแก้วแม่แก้วช่วยยูยังด้วยยูยังกลัวแล้วววววว!!!

      ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้  เขาดึงมือผมที่ปิดตาอยู่ออก  “ชี่จังไม่ใช่ผีนะ”  เขาทำหน้าแอ๊บแบ๊วใส่ผม

      “อ๊ากกกกก!!!!”  ผมลงไปนอนชักแง่กๆ อยู่บนพื้น  ตายแน่ยูยังเอ๋ย  ผีมาเอาชีวิตแกแล้วววววว

      เขานั่งลงข้างผมที่ชักแง่กๆ อยู่แล้วตบหน้าผมเบาๆ  “ตั้งสติหน่อยครับ  ชี่จังไม่ใช่ผีจริงๆ นะ”  เขายังแอ๊บไม่เลิก

      ผมตั้งสติเลิกชักแล้วมองหน้าเจ้าผีชี่จังนั่น  มองดีๆ ก็น่ารักดีนี่หว่า  โฮะๆๆ  ไม่ได้ๆ  เจ้านี่มันเป็นผีนะ  ผมนอนจ้องผีชี่จังที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยิ้มเลย  ผมพรวดพราดลุกขึ้นยืนแล้วทำหน้าเข้มใส่  ผมชี้หน้าเขา  “ถ้าไม่ใช่ผีแล้วแกเป็นใคร??”

      ผีชี่จังชี้ไปที่หัวเตียง  ไปที่ตะเกียงแก้วสีใสใบเล็กๆ ที่วางอยู่  “ผมอยู่ในนั้น”

      ผมนึกถึงเจ้าของร้านขายของเก่าแถวตลาดเมื่อวานที่ขายตะเกียงนี่ให้ผม  เสียงตาลุงนั่นดังอยู่ในหัว  ..นี่เป็นตะเกียงวิเศษมันจะช่วยให้เจ้าพ้นจากอันตรายต่างๆ ได้  มันเป็นของเจ้า  เจ้าเป็นเจ้านายมัน...  ผมหัวเราะเสียงดังลั่น  “อย่ามาโกหกเจ้าหนู  ตะเกียงแก้วเล็กๆ แบบนั้นจะเข้าไปได้ยังไงพูดเป็นนิทานไปได้  ฮ่าๆๆๆๆ”  เจอตาลุงนั่นหลอกแล้วยังเจอผีเด็กหลอกอีกเหรอเนี่ย

      ชี่จังเบ้หน้า  “ผมจะพิสูจน์ให้ดู”

      ชั่วขณะที่ผมรู้สึกร่างกายชาไปหมดด้วยความตื่นตะลึงสุดขีด  ความรู้สึกต่างๆ หายไปจากจิตสำนึกเมื่อร่างของชี่จังกลายเป็นลำแสงสีทองอ่อนๆ แล้วหายไปในตะเกียงแก้วนั่น  เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นน่ะ??  ชี่จังไม่ได้ยืนอยู่หน้าผมแล้ว  ผมค่อยๆ หันไปมองตะเกียงแก้วใบนั้นอย่างกลัวๆ  ชี่จังโผล่หัวขึ้นมาจากตะเกียง

      “ทีนี้จะเชื่อได้หรือยัง”  ชี่จังยิ้มแป้น

      ผมตาค้าง  “อ๊ากกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!

       

       

      “ผมเป็นพ่อมด”  ชี่จังบอกผมอย่างนั้นแต่ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลย  พ่อมดเหรอ  จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว  ผมคิดขณะเดินทางไปเที่ยวในช่วงลาพักร้อนของผม  รถคันหรูแล่นไปตามถนนมุ่งสู่ทะเลทางตอนใต้ของญี่ปุ่น 

      ผมน่ะ  ดร.ยูยะ  ทาคากิ  เชียวนะ  ผมเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์  แม้จะอายุยังไม่ถึง 25 ปีก็เถอะ  ก็ผมมันเด็กอัจฉริยะนี่นา  ไม่อยากโม้เลยนะเนี่ย  555+++  นักวิทยาศาสตร์อย่างผมไม่เชื่อเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้หรอก  แต่ว่านะชี่จังเองก็อยู่กับผมมาตั้งเกือบปีแล้วนี่นา  และเขาก็มักจะใช้คาถาอะไรต่างๆ นั่นอยู่เรื่อย  บางทีก็โผล่มาให้ตกใจเล่นเอาผมหัวใจแทบวาย  มันทำให้สมองนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะอย่างผมมึนไปเลย  ถ้าผมไปเล่าให้เพื่อนนักวิทย์ฟัง  เขาต้องว่าผมบ้าแน่ๆ  แต่ว่า  ช่วยด้วยครับ!! ผมจะบ้าตายอยู่แล้ว!!!

      “คิดอะไรอยู่เหรอ?”  จู่ๆ ชี่จังก็ปรากฏตัวอยู่ที่นั่งข้างคนขับแล้วยิ้มแป้นอย่างเคย

      ผมสะดุ้งสุดตัวจนรถเกือบเสียหลัก  “บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าโผล่มาแบบนี้เดี๋ยวหัวใจวายกันพอดี!  ผมดุ

      “ก็ชี่จังเห็นคุณเก็บกระเป๋าออกมานี่นาแถมยังไม่บอกว่าไปไหนด้วย  ตะเกียงก็ไม่เอาไปคิดจะทิ้งชี่จังเหรอ?”

      ผมหัวเสีย  “ใช่!  ฉันอยากจะหนีนาย  นายนี่มันตัวซวยรู้ไว้ซะด้วยชี่จัง”

      ชี่จังทำท่าเหมือนจะร้องไห้  “ชี่จังขอโทษ”  เขาสะอื้น  “ชี่จังจะไม่กวนคุณแล้วก็ได้”  ว่าแล้วก็กลายร่างเป็นลำแสงสีทองแล้วหายไป

      ผมถอนหายใจ  ขี้น้อยใจชะมัด  ผมมองไปที่ที่นั่งข้างคนขับ  ตะเกียงแก้ววางอยู่ที่นั่นสงสัยชี่จังจะเอามันมาให้ผมล่ะมั้ง  ถ้าจะหายไปก็ไม่ไปทั้งตะเกียงเลยล่ะ  ผมหยิบตะเกียงแก้วใส่กระเป๋ากางเกงรู้ด้วยว่าชี่จังก็คงอยู่ในนั้นล่ะเขาไม่มีที่ไปหรอกนอกจากตะเกียงของตัวเอง

      ผมขับรถกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ  ว้าว!!!  ทำไมมันสบายอย่างนี้!!!  ลาพักร้อนของผมต้องเป็นพักร้อนที่สุดยอดที่สุดแน่ๆ  ผมจอดรถในที่จอดรถ  เดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกระเป๋าใบใหญ่อย่างกับหอบบ้านมาอย่างนั้น

      “ห้อง 2735 ค่ะ”

      ผมรับกุญแจแล้วขึ้นห้องไป  ห้องที่ผมเลือกนี่สามารถมองเห็นทะเลได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเชียวนะ  ถึงจะแพงแต่ผมก็มีเงินจ่ายหรอกก็ผมรวยนี่นา ^o^  ชี่จังยังไม่ยอมออกจากตะเกียงเลยสงสัยยังไม่หายโกรธ  ช่างเถอะ  วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้วอาบน้ำดีกว่า

       

      ผมมองตัวเองในกระจก  ผมใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้ว  เมื่อก่อนเนี่ยนะผมมักจะเดินโทงๆ ออกมาจากห้องน้ำทั้งๆที่ยังไม่ใส่เสื้อผ้า  ขนาดที่ชี่จังมาอยู่ด้วยแล้วแต่บางทีผมก็ลืม  ชี่จังงี้ร้องลั่นห้องจนผมต้องไปปิดปากเขาไว้เดี๋ยวเพื่อนบ้านได้แห่กันมาพอดี  แต่ยิ่งทำอย่างนั้นชี่จังก็ยิ่งร้องก็เขาว่าผมจะทำอะไรเขาน่ะสิ  โธ่เอ๊ย  ผมก็แค่ลืมใส่เสื้อผ้าเท่านั้นเองทำเป็นกลัวไปได้ผู้ชายด้วยกันนี่นา

      เสียงแปลกๆ ดังอยู่ในห้องผม  เสียงอะไรน่ะ??  ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ  เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!!  ชี่จังนอนสลบอยู่บนพื้น  ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยช้ำเขาไปต่อยกับใครมา  ชี่จังไม่ได้สติเลยผมอุ้มเขาไว้แล้ววางบนเตียง  นี่มันเกิดอะไรขึ้น  คนธรรมดาไม่มีทางทำอะไรพ่อมดแสนซนอย่างชี่จังได้หรอก  ผมนึกถึงหนังแฮร์รี่  พอตเตอร์ที่เคยดู  โอ้ววว!!!  ไม่นะ  ถ้าโวลเดอร์มอร์โผล่มาจะทำยังไงดีเนี่ย!!!!

      จินตนาการของผมถูกระงับด้วยเสียงพึมพำของชี่จัง

      “ชี่จัง  นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

      ชี่จังค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา  เขามองหน้าผมแล้วพูดเสียงแผ่วเบาจนผมต้องเอาหูเข้าไปใกล้  “ไปซะ  ไปจากที่นี่”  เสียงเขาแผ่วเบาเหลือเกิน

      “ว่าไงนะ”

      เขาพูดเสียงดังขึ้น  “ไปจากที่นี่ซะ  เร็วที่สุดด้วย”  เขาไอเพราะใช้แรงมากเกินไป

      “อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนายนอนพักก่อนดีกว่า”

      “ไม่”  เขาใช้แรงเท่าที่มีดึงปกเสื้อชุดนอนผมไว้  “คุณต้องไป  ไปซะ!!!

      ผมดึงมือเขาออกแล้วผลักให้นอนลงตามเดิม  “นายคงจะเจ็บจนเพ้อแล้วล่ะ  นอนเถอะฉันก็จะนอนเหมือนกัน”

      “ม่ายยยยย!!!”  ชี่จังร้องลั่นราวกับคนบ้า

      “ไม่มีประโยชน์หรอกหนุ่มน้อย”  ใครคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาข้างหลังผมผมหันไปมอง  “เจ้าหนุ่มนี่คือคนที่ถูกเลือก  จิเน็น  เจ้าไม่มีทางช่วยเขาได้  พลังเวทย์ของเจ้าใช้ไม่ได้ในเขตมนตราของข้าหรอก  ฮ่าๆๆๆๆ”

      ชี่จังลุกขึ้นนั่งแล้วหอบหายใจ  “แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตฉันต้องปกป้องทาคากิให้ได้!

      ตอนนี้ผมลุกขึ้นยืน  ชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ  “เอาล่ะ  ผมไม่รู้เรื่องปัญหาของพวกพ่อมดอย่างพวกคุณหรอกนะ  แต่ผมไปเกี่ยวอะไรด้วย  แล้วคุณ...”  ผมหันไปทางผู้มาเยือน

      “อาริโอกะ...  ไดกิ  อาริโอกะ”  เขาตอบ

      “เอ่อ!  คุณอาริโอกะ  ผมไม่รู้จักคุณซักหน่อย  แค่ชี่จังคนเดียวก็ทำให้ผมปวดหัวจะแย่อยู่แล้วนี่ถ้ามีคุณเพิ่มมาอีกคนผมได้เป็นบ้าตายเร็วๆ นี้แน่”

      อาริโอกะเดินเข้ามาใกล้ผม  “ฉันไม่ได้จะไปอยู่กับนายหรอก”  เขายิ้ม  แล้วผมก็รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน

       

      ----------------------------------------------------------------------------------------------------

      ผมยืนอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยหมอกสีขาว  ทั่วทุกหนแห่งเป็นสีขาวหมด  คนๆ เดียวที่ยืนอยู่ที่นั่นคือชี่จัง  เขายืนยิ้มให้ผมแล้วพูดบางประโยคที่ทำให้ผมตะลึงงัน  ผมมองหน้าเขา  “พูดอีกครั้งซิ”

      ชี่จังยิ้ม  เขาเดินเข้ามาใกล้ผมแล้วจูบผมเบาๆ  “ผมรักคุณ”

      ----------------------------------------------------------------------------------------------------

       

      ผมกลับมาอยู่ในโลกปัจจุบันอีกครั้ง  ผมยังรู้สึกถึงรอยจูบของชี่จังเมื่อกี้อยู่เลย  ทั้งอาริโอกะและชี่จังต่างมองผมอย่างตะลึง

      “ว้าว”  อาริโอกะร้อง  “เป็นไงล่ะจิเน็น  พลังเวทย์ทายใจของฉันแม่นที่สุด”  เขายิ้มอย่างภาคภูมิใจ

      ผมเห็นสีหน้าตกใจของชี่จังเขาหน้าแดงด้วยนะ  ทำไมเขาหน้าแดงล่ะ  เมื่อกี้ที่เขาจูบผมมันเป็นเรื่องจริงหรือความฝันกันแน่

      อาริโอกะยิ้มให้ผมแล้วหันไปพูดกับจิเน็น  “ขอบคุณนะจิเน็น  การทดสอบพลังเวทย์วันนี้สุดยอดมาก”  เขาหัวเราะแล้วก็หายตัวไป

       

      ในห้องเหลือแต่ผมกับชี่จังแค่สองคน  “เมื่อกี้มันอะไรน่ะ”  ผมถามเขา  ชี่จังหลบหน้า  ผมเดินเข้าไปหาเขาแล้วจับเขามาเผชิญหน้ากับผมตรงๆ  “บอกฉันมานะชี่จัง  เมื่อกี้นี้มันเกิดอะไรขึ้น”

      ชี่จังจ้องผม  ในแววตานั่นทำไมมันชวนเคลิ้มอย่างนี้นะ  “คุณชอบชี่จังเหรอ?”  เขาถาม

      ผมผละจากเขาหัวใจเต้นรัวเร็วเหมือนมีใครมาสะกิดจุดอ่อนเข้าอย่างจัง  ผมหน้าแดง  “อะไร  ฉันเกลียดนายจะตายไป”

      ชี่จังยิ้ม  “พลังเวทย์ทายใจของไดจังบอกชี่จังหมดแล้วล่ะครับ  คุณอยากให้ชี่จังจูบคุณแล้วบอกรักคุณเหรอ?”

      เขารู้ได้ยังไงเนี่ย  “นายพูดบ้าอะไรน่ะ”

      “เมื่อกี้ไดจังใช้พลังเวทย์ทายใจกับคุณเพราะงั้นคุณถึงได้เหมือนรู้สึกอยู่ในความฝันไงล่ะ  และในความฝันก็จะสะท้อนความปรารถนาที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของคนๆ นั้นออกมา  และชี่จังก็เห็นแล้วล่ะความปรารถนาของคุณน่ะ”  เขาอมยิ้ม

      ผมเริ่มจะพอเข้าใจแล้วล่ะ  ผมเกาหัวแก้เก้อ  เขารู้แล้วเหรอว่าผมแอบชอบเขาน่ะ  “เอ่อ....  จะว่าไงดีล่ะ  คือฉัน.....”

      “ชี่จังนึกว่าคุณจะเกลียดชี่จังซะอีก”  เขาพูดพร้อมเบ้ปาก  “ถ้าไดจังไม่ใช้พลังเวทย์กับคุณ  คุณก็คิดจะปิดชี่จังไปอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ  ใจร้ายชะมัด”  เขาเชิดหน้าหนี

      ผมนั่งลงข้างๆ เขา  “แล้วทำไมตอนแรกถึงได้ห้ามอาริโอกะไม่ให้ใช้พลังกับฉันล่ะ  จนตัวเองเจ็บตัวเลยเห็นมั้ย”

      “โอ๊ย!!”  ผมจับแขนเขาเบาๆ แต่เขาก็ร้องลั่นเลย  เขาหันมาดุผม  “เบาๆ หน่อยสิครับ”  พอสบตากันเขาก็รีบหันหนีไปเลย  จะเขินอะไรนักหนาก็ไม่รู้  “ก็ชี่จังกลัวว่าคุณจะเกลียดชี่จังน่ะสิ  ถ้าเป็นแบบนั้นชี่จังคงรับไม่ได้”

      ผมยิ้มกับท่าทีน่ารักๆ ของเขา  “แล้วถ้านายรู้ว่าฉันชอบ  แล้วนายชอบฉันหรือเปล่าล่ะ”  ผมถามไปงั้นแหละแต่ก็ลุ้นตัวโก่งเหมือนกันนะ  ชีวิตเด็กอัจฉริยะอย่างผมเคยบอกรักใครที่ไหนกันล่ะ

      เขาหันหน้ามาเผชิญกับผมตรงๆ  “อยากให้ความฝันเป็นจริงมั้ยล่ะครับ”  ผมจ้องหน้าเขา  เขาค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วจูบผม  “จากใจเลยนะ  ชี่จังรักคุณ”

       

      --------------------------------------------------

      กรี๊ดดดดดดด  ตามกระแสละครซักหน่อย

      ~ทาคาชี่~  ตามเสียงเรียกร้องจากหัวใจดวงน้อยๆ ของไรเตอร์ :D  และท่านผู้อ่าน^^

      เราชอบคำนี้จัง  “พลังเวทย์ทายใจของไดจัง”  คล้องกันยังไงก็ไม่รู้

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "ถึงพี่สาวจากน้องสาว"

      (แจ้งลบ)

      พล็อตเรื่องน่ารักมากเลยพี่ป๊อป แหะๆๆชอบคู่นี้อ่ะ คิดได้ไงเนี่ย ชอบฉากไดจังมากๆเลย แต่งต่ออีกเรื่อยๆละกัน ถ้าพี่แต่งยาวกว่านี้จะดีมากกกกกเลยยยย (เค้ายังไม่คอยรู้เรื่องเลย) มันจบเร็วปายยยยย แต่ก็ไดใจเกินร้อยย 555 บรรยายเยอะๆด้วย อั๋นชอบฉากบรรยายอ่ะ และรีเควส นาคายาม่า และ ทาคาไดด้วย และทุกๆๆคู่เลย 555 จุ๊ฟฟฟฟ รักพี่สาวนะ ... อ่านเพิ่มเติม

      พล็อตเรื่องน่ารักมากเลยพี่ป๊อป แหะๆๆชอบคู่นี้อ่ะ คิดได้ไงเนี่ย ชอบฉากไดจังมากๆเลย แต่งต่ออีกเรื่อยๆละกัน ถ้าพี่แต่งยาวกว่านี้จะดีมากกกกกเลยยยย (เค้ายังไม่คอยรู้เรื่องเลย) มันจบเร็วปายยยยย แต่ก็ไดใจเกินร้อยย 555 บรรยายเยอะๆด้วย อั๋นชอบฉากบรรยายอ่ะ และรีเควส นาคายาม่า และ ทาคาไดด้วย และทุกๆๆคู่เลย 555 จุ๊ฟฟฟฟ รักพี่สาวนะ   อ่านน้อยลง

      AUN_ALJ ##hey say jump | 5 ก.พ. 55

      • 2

      • 0

      คำนิยมล่าสุด

      "ถึงพี่สาวจากน้องสาว"

      (แจ้งลบ)

      พล็อตเรื่องน่ารักมากเลยพี่ป๊อป แหะๆๆชอบคู่นี้อ่ะ คิดได้ไงเนี่ย ชอบฉากไดจังมากๆเลย แต่งต่ออีกเรื่อยๆละกัน ถ้าพี่แต่งยาวกว่านี้จะดีมากกกกกเลยยยย (เค้ายังไม่คอยรู้เรื่องเลย) มันจบเร็วปายยยยย แต่ก็ไดใจเกินร้อยย 555 บรรยายเยอะๆด้วย อั๋นชอบฉากบรรยายอ่ะ และรีเควส นาคายาม่า และ ทาคาไดด้วย และทุกๆๆคู่เลย 555 จุ๊ฟฟฟฟ รักพี่สาวนะ ... อ่านเพิ่มเติม

      พล็อตเรื่องน่ารักมากเลยพี่ป๊อป แหะๆๆชอบคู่นี้อ่ะ คิดได้ไงเนี่ย ชอบฉากไดจังมากๆเลย แต่งต่ออีกเรื่อยๆละกัน ถ้าพี่แต่งยาวกว่านี้จะดีมากกกกกเลยยยย (เค้ายังไม่คอยรู้เรื่องเลย) มันจบเร็วปายยยยย แต่ก็ไดใจเกินร้อยย 555 บรรยายเยอะๆด้วย อั๋นชอบฉากบรรยายอ่ะ และรีเควส นาคายาม่า และ ทาคาไดด้วย และทุกๆๆคู่เลย 555 จุ๊ฟฟฟฟ รักพี่สาวนะ   อ่านน้อยลง

      AUN_ALJ ##hey say jump | 5 ก.พ. 55

      • 2

      • 0

      ความคิดเห็น

      ×