to be nurse

บทที่ 1 หาตัวเองให้เจอ

Profile

ชื่อ นางสาว เนตรนภา เมฆสอน
ชื่อเล่นปลา
เกิด 8 ธันวาคม 2527
E-mail mu26@hotmail.com
การศึกษา ปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ประวัติการทำงาน พยาบาลประจำตึก ไอซียู อุบัติเหตุ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่ปี 2550


ผู้เขียนเป็นรุ่นสุดท้ายที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบเอ็นสะท้าน หรือ เอนทรานท์ เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้ว่าจะรู้จักกันหรือเปล่า ( ไม่อยากจะบอกว่าแก่แล้ว) ระบบการคัดเลือกแบบนี้คือ ให้นักเรียนเลือกคณะที่ตัวเองฝันใฝ่และใฝ่ฝันว่าอยากจะเรียนคณะใด มหาวิทยาลัยอะไรจำนวนสี่อันดับ จากนั้น ก็ใช้การสอบคัดเลือกสองครั้ง โดยเลือกคะแนนครั้งที่ดีที่สุดมารวมบวกกับคะแนน GPA. อีกกี่เปอร์เซ็นต์จำไม่ได้แน่ชัดนักจากนั้นเป็นอันตัดสินว่าคะแนนของสูงส่ง หรือต่ำต้อยของคุณนั้นสามารถสอบเข้าคณะและมหาวิทยาลัยที่ต้องการได้หรือไม่

ไม่อยากจะบอกว่าดิฉัน เลือกคณะพยาบาลทั้งสี่อันดับ คือ มหิดล ธรรมศาสตร์ มศว. และ บูรพา รวมอันดับที่ห้า คือสอบพยาบาลทหารบกติดด้วย เรียกว่าเกิดมาเพื่อเป็นพยาบาลอย่างแท้จริง หรืออีกนัยคือไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรอื่นได้อีกนอกจากพยาบาล จะเป็นหมอก็กลัวจะเครียดเกิน (ความจริงก็คือดิฉันไม่ได้เป็นเด็กเรียนเก่งขนาดนั้น) จะเป็นวิศวะก็ไม่เก่งฟิสิกส์ จะเป็นสาวบัญชีก็ โง่เลข จะเป็นสาวอักษรก็ภาษาอังกฤษอ่อนแอ....... ฯลฯสรุปว่าเรียนพยาบาลเพราะคิดว่าน่าจะเรียนได้ เป็นตัวเองที่สุด ไม่กลัวเลือด มีความเมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา อยู่ในหัวใจส่วนลึก ๆ
และสุดท้ายน่าจะสามารถดูแลพ่อแม่ของตัวเองได้

ที่เลือกเรียนพยาบาล มหิดล (ศิริราช) แทนที่จะเลือกเป็นพยาบาลทหารอันมีเกียรตินั้นก็เพราะว่าอยากเป็นสาวมหาวิทยาลัย อยากมีอิสระในการใช้ชีวิต ได้ทำงานในโรงพยาบาลใหญ่โตติดอันดับประเทศ และเอเชีย ไม่อยากฝึก ไม่อยากออกวิ่ง ตอนเช้า และไม่อยากจะถูกส่งไปอยู่ต่างจังหวัด (ในความคิดขณะนั้น)ในที่สุด นางสาวเนตรนภา ก็ได้เป็นนักศึกษาพยาบาล สมใจ

คุณลักษณะที่พยาบาลควรมี

1. เรียนพยาบาลต้องมีใจรัก ตามแบบฉบับนางเอกสักเล็กน้อย ก็เราต้องเป็นนางฟ้าของคนเจ็บป่วยมีความอ่อนแอทั้งทางกายและใจนี่คะ ฉะนั้น พยาบาลก็ควรมีความสงสารเมตตาผู้อื่นอยู่ในใจบ้างไม่มากก็น้อย จึงจะสามารถดูแลผู้ป่วยให้หายจากความเจ็บป่วยได้
2. ควรเป็นผู้สามารถเรียนวิทย์ได้ในระดับปานกลางไปทางดี เพราะ พยาบาลเป็นวิชาชีพที่ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ในการดูแลผู้ป่วย ต้องอยู่กับผู้ป่วยตลอดเวลา เราจะต้องมีบทบาทอิสระในการทำงานของตัวเองได้ ไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่งของวิชาชีพอื่น ๆ เท่านั้น
3. ขอเหอะอย่าเป็นคนปล่อยตัว ในที่นี้หมายถึงไม่ได้หมายถึงว่า คุณจะต้องแต่งหน้าแต่งตัวสวยไฮโซตลอดเวลา แต่ให้เป็นคนรู้จักดูแลตัวเอง ผมต้องหวีทำให้เรียบร้อย เสื้อผ้าต้องสะอาด ไอ้ที่ไม่เคยรีดก็รีดซะบ้าง ถ้าอ้วนมากก็ออกกำลังกายบ้างให้เป็นคนอวบที่คล่องแคล่วดูแข็งแรง หน้าที่เป็นสิวก็ไปหาหมอรักษาซะ นึกออกไหมว่า เวลาเราไปโรงพยาบาล ถ้าเจอพยาบาลสวย ๆ แต่งหน้าอ่อน ๆ เสื้อผ้าสะอาด ดูคล่องแคล่ว เราก็คงอยากให้มาดูแลเราเพราะตัวเค้าเองยังดูแลตัวเองได้ดีขนาดนี้คงจะสามารถดูแลเราให้ดีได้ แต่ในทางกลับกัน ถ้ามีพยาบาลสิวเขลอะ หัวฟู หน้ามัน มีกลิ่นตัวแถมยังใส่น้ำหอมกลบกลิ่นอีกนี่ ไม่อยากจะพูด แถมถ้ามาเดินตรวจตอนกลางคืนอีกนี่ คนไข้อาจหลอนได้ว่า โรงพยาบาลนี้ผีเฮี้ยน ที่สำคัญ คุณหมอเพื่อนร่วมงานเรา อาจจะสับสนว่ายัยคนนี้เป็นคนไข้หรือเป็นพยาบาล
4.ตัวหนังสือน่ะให้อ่านออกบ้างนะ ทำไมจึงสำคัญ ก็เพราะว่าสมัยนี้ทุกโรงพยาบาลต่างก็ต้องทำงานคุณภาพ ต้องพัฒนาตัวเอง และพยาบาลต้องเขียน Nurse note หรือบันทึกทางการพยาบาล ว่าคนไข้เป็นอะไร ให้การพยาบาลอย่างไรไปบ้าง มียาสำคัญหรือต้องเฝ้าระวังอะไร ............และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ต้องเขียนบันทึกลงไป ที่สำคัญสมัยนี้การฟ้องร้องมีมากขึ้นจะได้เป็นหลักฐานได้ว่าเราได้ปฏิบัติหน้าที่ตามถูกต้องเต็มความสามารถแล้ว ไม่ใช่ว่าพอศาสเปิดอ่านมา นึกว่าอ่านภาษาขอม หรือ ภาษาต่างด้าวอยู่ ฉะนั้นเมื่อเขียนลงไปแล้วก็อย่าให้มันเปลืองน้ำหมึกเปล่า ๆ แต่เขียนให้เกิดประโยชน์ด้วย

จริง ๆ คุณสมบัติอื่น ๆ ของพยาบาลให้สาธยายมาก็คงไม่หมด ไม่ว่าจะเป็น ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ตรงต่อเวลา มีวินัย ฯลฯ อันเป็นวิสัยที่คนดีทุกคนควรจะมี แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้นข้อบนสุดว่า ต้องมีใจรัก เพราะต่อให้คุณเป็นคนดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่รักในวิชาชีพซะอย่างก็ไปไม่รอด เช่น คุณจะทำได้ไหม ถ้าต้องเช็ดตัว เช็ดอุจจาระ ปัสสาวะ อาเจียนให้ผู้ป่วย งานน่ารังเกียจ แต่คุณเชื่อมั้ยว่าทำให้แล้วเค้าสบาย เค้ายกมือไหว้ท่วมหัวขอบคุณเรา ความสุขของพยาบาลก็คือสามารถดูแลผู้ป่วยให้หายจาก หรือ สุขสบายมากขึ้นจากภาวะของโรคหรือความทุกข์ทรมานที่ผู้ป่วยกำลังได้รับเพราะถ้าหวังว่าจะรวยจากอาชีพนี้ ขอแนะนำว่าให้ไปหาอาชีพอื่นทำดีกว่า