คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ภารกิจที่ 2 เป็นเพราะโชคชะตานำพาให้มาพบกัน
ตอนที่ 2 เป็นเพราะโชคชะตานำพาให้มาพบกัน
ยามเย็นๆแบบนี้ เหล่านกกาต่างก็เริ่มจะบินกลับรังมาดูแลเหล่าลูกน้อยที่เฝ้าคอยพ่อแม่ของมันอยู่ สัตว์เล็กสัตว์น้อยเริ่มที่จะหลบเข้าบ้านของตัวเองเพื่อพักผ่อน พระอาทิตย์เริ่มลดรังสีความร้อนให้เบาบางจนแทบจะไม่เหลือแล้ว ป่านอกเมืองแบบนี้ยิ่งใกล้ค่ำมากเท่าไหร่ ความน่ากลัวก็เริ่มจะขึ้นทุกที ส่งผลให้ไม่มีใครอยากจะย่างก้าวเข้าเขตป่าหากไม่จำเป็น แต่ไม่ใช่กับหญิงผมดำนางนี้
"ว้าว! น้ำนี่เย็นชื่นใจดีแฮะ จืดดีด้วย" ข้ากวักน้ำขึ้นมาดื่มอย่างกระหาย หลังจากที่เดินหลงอยู่ในป่าตั้งแต่เช้าและยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยทั้งวัน นับจากวันที่ข้าเข้าปล้นบ้านเจ้าขุนนางหมูตอนั้นก็เป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์มาแล้ว ของที่ได้มาตอนนั้นข้าก็เอาไปขายจนเกลี้ยงคลังแล้วด้วย ถึงตอนนี้จะมีเงินเหลือติดตัวบ้างแต่ก็คาดว่าคงใช่ได้อีกไม่เกินสี่วัน แถมเสบียงของข้าก็ดันหมดอย่างพอดิบพอดีอีกต่างหาก
"ยังไงก็รีบออกจากป่าบ้าๆนี่ดีกว่า พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้วด้วยสิ" ข้าเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีส้มแดงไปแล้ว ขืนอยู่ที่นี่นานกว่านี้ล่ะก็ ข้าต้องลงแดงตายแหงๆ หิวข้าว!!
"จะว่าไป...แผนที่หายไปไหนล่ะเนี่ย!!!" ข้าลูบๆคลำๆแถวเสื้อโค้ทสีดำที่ข้าชอบเก็บแผนที่เอาไว้ซึ่งตอนนี้มันว่างเปล่า ขนาดมีแผนที่ข้ายังหลงแล้วนับประสาอะไรกับไม่มีแผนที่ล่ะเนี่ย!!
"องค์มหาเทพ ท่านเอ็นดูข้าเกินไปรึเปล่า เงินก็หมด อาหารก็เกลี้ยงกระเป๋า หลงทาง แถมแผนที่ก็หาย ซวยกว่านี้มีอีกไหม!!"
ครืน ครืน ซ่า!!!!!
"ถ้าท่านจะรักข้าขนาดนี้ วันหลังก็ไม่ต้องเหลียวแลข้าเลยก็ได้นะ!!" ข้าตะโกนพลางวิ่งหาที่หลบฝนห่าใหญ่ที่จู่ๆก็เทลงมาอย่างหน้าตาเฉย หากข้าเป็นหวัดขึ้นมาก็ไม่ต้องถามสาเหตุอะไรให้มากความเลยนะนี่ แต่ดูเหมือนสวรรค์เบื้องบนจะยังใจดีที่อุตส่าห์ประทานถ้ำแห่งหนึ่งมาให้ข้า ไม่รอช้า ข้าสาวเท้าเร็วจี๋ไปยังถ้ำแห่งนั้นทันที แต่ท่าทาง คงไม่ได้มีแค่ข้าล่ะมั้งเนี่ยที่ต้องมาอาศัยถ้ำหลบฝน
อย่าบอกนะว่าไอ้ที่ข้าตะโกนบ่นไปเมื่อกี้ว่าอาหารเกลี้ยงกระเป๋า แล้วสวรรค์เห็นใจถึงได้ส่งหมี(ยักษ์) ตัวใหญ่(คับถ้ำ) ตาแดงฉาน มาคอยข้าอยู่ก่อนแล้ว
แต่นอกจากหมียักษ์แล้ว ยังมีคนอยู่ด้วยนี่นา...แถมอยู่ในสภาพร่อแร่แทบจะล้มทั้งยืนอยู่แล้วด้วย ข้าได้ยินเสียงเจ้าหมียักษ์คำรามลั่นถ้ำ เสียงของมันดังจนแทบจะทำลายประสาทการได้ยินให้สลายไปได้ในทันที และตอนนี้เจ้าหมียักษ์ก็เงื้อมฝ่าเท้าของมันขึ้น หมายจะตบคนที่ยืนใกล้ตายตรงหน้ามันให้จมดิน!
ตู้ม!!!
"ยืนไม่หลบแบบนี้เนี่ย คิดว่าตัวเองเก่งมาจากไหนกันหา!!" ข้าโวยให้เจ้าคนที่นอนกองอยู่กับพื้นทันที่ หากเมื่อครู่ข้าไม่วิ่งเข้ามาคว้าตัวเจ้าหมอนี่ออกมา มันคงจมพื้นถ้ำตายไปแล้ว
"หนะ หนีไปเถอะน่า" แค่เสียงพูดตัวเองก็ยังจะไม่มี ยังจะมาไล่ข้าหนีอีก เฮอะ!ไม่เจียมตัวจริงๆเลยเจ้าหมอนี่...แต่เอ๊ะ! ผมสีน้ำเงินกับตาสีดำแบบนี้ เหมือนข้าจะคุ้นว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อนนะ ช่างมันเถอะ! ตอนนี้ขอจัดการกับอาหารอันแสนจะโอชะ(??) ที่เทพสวรรค์ประมานมาให้ตรงหน้าแล้วกัน
"ไง เจ้าหมีน้อย อยากจะกลายเป็นอาหารแบบไหนดี อุ้งตีนมีตุ๋น ซุปอุ้งตีนหมี เนื้อหมีผัดเผ็ดก็ท่าจะอร่อยไม่หยอกนะ ว่าไหม?" ข้าแผ่จิตสังหารออกมาเต็มที่ระหว่างที่พูดชื่อเมนูแต่ล่ะอย่างออกมา ตอนนี้ท้องมันร้องโครกครากจนไม่สนอะไรแล้ว ตัวใหญ่ขนาดนี้รับรองว่ากินอิ่มไปหลายวันแน่ๆ
"งั้นข้าขอซุปอุ้งตีนหมีแล้วกันนะ" หา?? เจ้าผมน้ำเงินนั้นมันยังไม่ตายอีกเหรอ สภาพแบบนั้นข้านึกว่าเดี้ยงไปแล้วซะอีกนะเนี่ย
"ถูกช่วยไว้แล้วยังจะมีหน้ามาขออาหารอีกรึไง" ข้ากระโจนหลบฝ่ามือ(??)หมียักษ์ที่ตบลงมาจนพื้นถ้ำกลายเป็นหลุมขนาดย่อม ถ้าโดนเข้าไปจังๆ มีหวังจำศพตัวเองไม่ได้แหงๆ!!
"ไหนๆ ก็ช่วยข้าแล้ว ก็ช่วยให้ตลอดรอดฝั่งหน่อยก็แล้วกันนะ ฝากด้วยล่ะ" หมอนั่นพูดแล้วก็ลากสังขารใกล้ตายของมันไปพิงกับผนังถ้ำที่ห่างจากข้าเยอะพอสมควร
"หึ! คิดผิดจริงๆที่ช่วยเจ้า" สายพลังสีเชียวเข้มก่อตัวเป็นลูกกลมๆในมือข้า แสงสีเขียวมีลักษณะคล้ายกับสายฟ้า หากโดนเข้าไปรับรองว่า...ต้องรับพบยมบาลสถานเดียว ข้าซัดมันเข้าใส่เจ้าหมียักษ์ที่เคลื่อนไหวได้อืดอาดมาก ในสายตาข้ามันไม่ได้ต่างอะไรจากเป้านิ่งขนาดใหญ่เลยแม้แต่น้อย ทันทีที่โดนมันเข้าไป เจ้าหมียักษ์ก็แน่นิ่งแล้วเข้าสู่สภาวะทิ้งตัว (ตาย) แทบเท้าข้า เรียบร้อย! ทีนี้ก็ก่อไฟ แล้วก็เอาเนื้อหมียักษ์นี้มาย่างก็พอแล้ว ระหว่างที่ข้ากำลังชำแหละเจ้าหมียักษ์ด้วยเวทลมที่ข้าคิดค้นเอง เจ้าคนผมน้ำเงินก็เดินเข้ามานั่งลงใกล้ๆข้า แล้วมองการชำแหละของข้าอย่างสนอกสนใจ
"ไม่ยักกะรู้ว่าเวทสายลมทำแบบนี้ได้ด้วย เจ้าไปเรียนมาจากไหนเหรอ?" เขาถามข้า บาดเจ็บขนาดนี้ยังเดินไหวอยู่อีกเหรอ?? อึดไม่เบาแฮะหมอนี่
"คิดเองน่ะ" ข้าตอบสั้นๆ การชำแหละใช้เวลาไม่นานเท่าใดนัก เมื่อชำแหละเสร็จแล้วข้าถึงเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า...ข้าไม่มีเชื้อเพลิง แล้วฝนบ้านั้นก็ยังไม่หยุดตกอีกต่างหาก คิดจะให้ข้ากินเนื้อดิบรึไงกันเนี่ย!
"เจ้ามองเหมือนกับกำลังสาปแช่งสายฝนอย่างนั้นแหละ" คนผมน้ำเงินทัก ข้าไม่ยักกะรู้ว่าหมอนี่อ่านใจคนได้ด้วยนะเนี่ยอาชีพเก่าเป็นหมอดูรึไง ไม่สิ...ดูจากเสื้อผ้า (ที่ยับยู่ยี่จนแทบจะดูไม่ออก) แล้ว ข้าว่าหมอนี่น่าจะเป็นพวกทหารมากกว่า
"เรื่องของข้า ช่วยไม่ได้...งั้นย่างมันสดๆแบบไม่ต้องพึ่งเชื้อเพลิงเลยแล้วกัน!!"
"เจ้าชื่อเออร์นาลี ฟีล งั้นหรือ??" ข้าฉีกเนื้อหมียักษ์แล้วเคี้ยวแบบไม่สนใจคำถามจากคนตรงหน้า ไอ้ผมน้ำเงินขี้งกเอ๊ย! นอกจากจะไม่ออกแรงปราบหมี ไม่ช่วยชำแหละเนื้อ ยังมีหน้ามาหยิบเนื้อย่างที่ข้าอุตส่าห์เสกไฟย่างเองไปกินเฉยเลย ช่างเป็นคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษติดลบจริงๆ!
"แอ้วเอ้าอิ้ออะไออิ๊อ๊าบ (แล้วเจ้าชื่ออะไรมิทราบ)" ข้าถามกลับทั้งที่เนื้อยังเต็มปาก สำหรับข้าไม่มีคำว่ามารยาทอยู่ในหัวสมองหรอกนะ
"คาวาเลียร์ ราล์ฟ" หมอนั่นทำหน้าเอือมๆก่อนจะตอบกลับมา พร้อมกับหยิบเนื้อชินต่อไปมากิน ท่าทางกวนประสาทของหมอนี่ทำให้ข้ารู้สึกอยากกวนต่อมโมโหของมันจริงๆ
"คาบไว้เลีย ลาบ? เป็นชื่อที่แปลกดีเหมือนกันนะ" ข้าแหย่มัน ราล์ฟหันมามองค้อนอย่างแสดงออก ข้ายักคิ้วกวนประสาทให้มันเป็นค่าตอบแทนที่บังอาจใช้งานข้า
"ชื่อเจ้าก็แปลกไม่น้อยเลยนะ เออน่ะสิ ฝิ่น" ไอ้หัวน้ำเงินนี่มันคิดจะหาเรื่องข้าใช่ไหมเนี่ยหา! ข้าเริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมานิดๆแล้ว
"หน้าแบนั้นน่ะ โกรธรึไง?" ราล์ฟหรี่ตามองข้าอย่างเจ้าเล่ห์ แบบนี้ไม่เรียกโกรธหรอกมั้ง ข้าจะงับหัวเจ้าได้อยู่แล้วเนี่ย!
"เจ้า!"
"เจ้าบังอาจล้อชื่อข้าก่อน ข้าล้อชื่อเจ้ากลับ เป็นอันว่าหายกัน งั้นคืนนี้ราตรีสวัสดิ์ เออน่ะสิ ฝิ่น!" ว่าแล้วมันก็ล้มตัวลงนอนทันที นี่กะให้ข้าเฝ้ายามให้ด้วยรึไง!! ฝนบ้านี่ก็ตกไม่หยุดไม่หย่อนเลย คิดจะตกให้น้ำมันท่วมโลกเลนรึไง ให้ตายเถอะ!วันนี้มันเป็นวันดวงซวยของข้าจริงๆ!
"ราตรีสวัสดิ์ ขอฝันร้ายจงบังเกิดแก่เจ้า คาบไว้เลีย ลาบ!!" นอนก่อนแล้วกัน หงุดหงิด!!
สวบ !! สวบ!! กรร !!
ทำไมเจ้าราล์ฟมันถึงได้ละเมอเสียงแปลกนักนะ
กรร !! แฮ่ !! แฮ่ !!
เสียงละเมออย่างกับหมาบ้าที่ยังไม่ได้ฉีดยาแน่ะ ให้ตายสิรบกวนซะมัดเลย
"ฟีล! เฮ้ย!! ฟีล ตื่นได้แล้ว!! จะนอนให้หมามันกระโดดงับรึไง!" อา แบบนี้ค่อยเหมือนเสียงคนหน่อย แต่จะตามมาด่าข้ายันในฝันเลยรึไงเนี่ย
ป้าบ!!!
"เจ้าจะปลุกแบบคนธรรมดาเขาปลุกกันไม่เป็นรึไง ไอ้เจ้าลาบเป็ด!!"ข้าตะโกนไล่หลังมันโดยที่มือยังกุมท้องแน่น โอย เจ็บ! ไอ้ลาบเป็ดบ้า ปลุกดีๆข้าก็ตื่นแล้วนะ ไม่เห็นต้องเตะอัดผนังถ้ำเลยนี่ โอยจุก!
"ปลุกแล้ว เจ้าไม่อยากตื่นเอง ก็ต้องลงแรงกันหน่อย" มันตอบกลับมาเสียงราบเรียบ แบบนี้บ้านข้าไม่เรียกว่าหน่อยแล้วนะ ข้ายันตัวขึ้นมา ทำให้เห็นชัดเต็มสองตาว่าตอนนี้ข้ากับราล์ฟตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของฝูงหมาป่า...ปีศาจด้วย ตาของพวกมันแต่ล่ะตาแดงอย่างกับเลือดแน่ะ
เอาเข็มทิศมาให้ข้า เอามันมา เอาเข็มทิศมาให้ข้า ข้ากับราล์ฟหันมามองหน้ากันทันที เมื่อกี้ได้ยินเสียงหมามันพูดด้วยแหละ!!
"บอกตามตรงว่า ข้าไม่ชินกับหมาพูดได้นะ" ราล์ฟพูด สายตาของเขายังคงจ้องพวกมันไม่วางตา แตกต่างจากข้าที่หัวสมองเริ่มประมวลคำพูดเมื่อครู่
เข็มทิศ...อีกแล้วเหรอ ไอ้ปีศาจพวกนี้วันๆไม่มีอะไรทำกันสินะ มาให้ข้าเล่นด้วยทุกบ่อยๆแบบนี้ ยังไงข้าก็ไม่ชินอยู่ดีนั้นแหละ อยากรู้จริงๆว่าไอ้เข็มทิศบ้านี่มันเอาไปเป็นประโยชน์อะไรได้ ใช้ดูทิศมันยังพาหลงเลย ความจริงมันก็เป็นแค่เข็มทิศเก่าๆที่สมควรจะถูกขายให้กับร้านขายของเก่าไปนานแล้วด้วยซ้ำ
"หมาปีศาจ อะไรๆพวกมันก็ทำได้" ข้าตอบกลับไป แล้วทรุดตัวลงนั่งอีกครั้ง
"เมื่อคราวที่แล้วข้าปราบหมียักษ์ให้เจ้า แถมยังย่างเนื้อให้เจ้าด้วย ช่วยชีวิตเจ้าก่อนจะโดนมันฝังอีก คราวนี้ ถึงตาเจ้าช่วยข้าบ้าง" ข้าพูดพลางหลับตาลงช้าๆ ง่วง อยากนอนต่อ
เอาเข็มทิศมันให้ข้า เอามันมา เอามันมาให้ข้า พวกหมาปีศาจยังคงพร่ำเพ้อถึงเข็มทิศพังๆ
"เฮ้ยๆ ระดับมันต่างกันเกินไปรึเปล่า??" ข้ารู้สึกได้ว่าในน้ำเสียงนั้นปนความดีใจเอาไว้ลึกๆ
"เจ้าเป็นหนี้ชีวิตข้า และเจ้าก็ต้องจ่ายหนี้นั้นให้ข้า" ข้าลืมตาขึ้นมามองมันแวบหนึ่ง ราล์ฟกำลังปะทะเข้ากับพวกหมาป่าปีศาจโดยใช้ดาบสีเงินสวย แสงของมันสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องเข้ามาทอประกายวาววับ แต่สายตาเขากำลังจ้องมาที่ข้าอย่างสงสัย
"ข้าเป็นหนี้เจ้าตอนไหนเนี่ย??" ระหว่างที่พูดราล์ฟก็จัดการสอยหมาปีศาจพวกนั้นไปหลายตัว ฝีมือการใช้ดาบของเขาเพียงปรายตาดูก็รู้ว่าเป็นศิลปะชั้นสูง แถมยังได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีทีเดียว
"ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้นะอย่าลืม และไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหน แต่เมื่อเป็นหนี้ข้า เจ้าต้องจ่าย!" ข้าหลับตาลงอีกครั้ง รอให้ราล์ฟจัดการพวกหมานี้เสร็จก่อนแล้วค่อยออกเดินทางก็ยังไม่สายเท่าไหร่หรอก
"ฮึ!! ที่บอกว่าข้ายิ่งใหญ่เนี่ย คงไม่ใช่เพราะเห็นการใช้ดาบของข้าหรอกนะ"
"แหม ! จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิดนักหรอกนะ" ข้าพูดยิ้มๆโดยที่ยังไม่ลืมตา ท่วงท่าการใช้ดาบแบบนั้นน่ะ ข้าคุ้นเคยดีจนขึ้นใจเลยล่ะ แต่จะบอกไปก็คงไม่ได้หรอกนะ
"แล้วเจ้าจะหลับตาไปถึงเมื่อไหร่กัน??" ข้าลืมตาขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำถาม สภาพศพของปีศาจหมาป่าแต่ล่ะส่วนมีรอยถูกฟันไม่เกินสี่แห่งต่อหนึ่งตัว แสดงให้เห็นว่าเขาตวัดดาบไม่กี่ครั้งก็สามารถปลิดชีพพวกมันได้ง่ายอย่างง่ายดาย หมอนี่ไม่ธรรมดาแฮะ
"โทษทีๆ คิดว่าเจ้าจะใช้เวลานานกว่านี้น่ะ เอาล่ะได้เวลาออกเดินทางแล้ว ลาล่ะนะ" ข้าลุกขึ้นเตรียมโบกมือลาเจ้าคนหัวน้ำเงินไร้ไร้น้ำใจนี่ แต่หมอนั่นกลับยื่นมือมาคว้าข้อมือข้าไว้
"ช่วยพาข้า ไปส่งที่บ้านข้าก่อนได้ไหม??"
"หา???"
ความคิดเห็น