สลับรัก สลับแฟน - สลับรัก สลับแฟน นิยาย สลับรัก สลับแฟน : Dek-D.com - Writer

    สลับรัก สลับแฟน

    เรื่องที่เพลงแต่งนี้ เอามาให้อ่านกันเล่น ๆ หวังว่าเพื่อน ๆ คงจาสนุกน๊า...

    ผู้เข้าชมรวม

    189

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    189

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 มี.ค. 51 / 22:01 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    เรื่องนี้เพลงแต่งขึ้นเองเล้ย... ยังไงก้อช่วย ๆ อ่าน  ช่วย ๆ คอมเม้นให้ด้วยน๊า....
    เออ... เรายังส่งไปยังนิตยสาร I Like ด้วย มะรุว่าลงรู้ยังน่ะ

    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      “ 5...4...3...2...1 เย้ ”
      “Happy New Year”
      “Happy New Year”
      เฟี้ยว ปัง ปัง ปัง
      “ เย้  Happy New Year วูร์”
      ตึง ตึง ตึง !
      “นี่ !ทุกๆคนเรามาดื่มฉลองกันดีกว่า  Cheer ”
      “ Cheer ” นี่เป็นบรรยากาศการเฉลิมฉลองวันปีใหม่ของนักเรียนห้อง 6 /3 ซึ่งทุกๆ ปีเพื่อน ๆ จะเหมาร้านอาหารที่อยู่ข้าง ๆโรงเรียนเป็นประจำ
      “อ้าว! แพรไม่ดื่มฉลองด้วยกันหล่ะ” ฉันถามแฝดผู้พี่เมื่อเห็นเครื่องดื่มยังเต็มแก้วอยู่
      “ไม่หล่ะ ขอบาย” แฝดผู้พี่ตอบ
      “เฮ้ ! นั่นใครน่ะหล่อจัง” ยัยก้อยสาวน้อยรุ่นน้องคนเดียวที่อยู่ในงานอุทานพลางชี้มือชี้ไม้ไปทางหน้าร้าน ซึ่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงสนับสนุนดังขึ้น
      “เออว่ะ หล่อชิบ”
      “แฟนเอ็งป่าวว่ะ ก้อย”
      “เฮ้ย! ไม่ใช่พี่  เออ...แต่ถ้าไม่มีหนูอิ๊บนะ”
      “ เฮ้ย !!! พอเลยยัยก้อย ปล่อยแฟนฉันเดี๋ยวนี้นะ” ฉันลุกพรวดขึ้นเดินไปแกะมือยัยก้อยออกจากแขนของวี ท่ามกลางสายตาอันงงงวยของเพื่อนในห้อง เมื่อฉันออกอาการหึงแฟนจนออกนอกหน้าและคนที่งงที่สุดเห็นจะเป็น แพร ซึ่งเธอไม่รู้มาก่อนว่าน้องสาวของเธอมีแฟนแล้ว
      “ เพื่อน ๆจ๊ะ ฉันขอแนะนำให้รู้จักนี่ วี แฟนฉันเอง  ”
      “สวัสดีคับ สาวๆทั้งหลาย” วีพูดพลางเดินจับมือสาวๆในงานจนมาถึงก้อยเป็นคนสุดท้าย
      “เธอใช่ป่ะที่ชมฉันว่าหล่อน่ะ  ชื่อไรหรอ  งั้นเราให้เธอเป็นกิ๊กคนแรกแล้วกัน”วีพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่ก้อยเริ่มหน้าแดงขึ้นมา  ฉันรู้สึกเลือดขึ้นหน้าทันทีก่อนจะลากวีมานั่งที่โต๊ะ
      “อ้าว !  นี่มีเพลง 2 คนหรือเนี้ย งั้นฉันก็มีแฟนเป็นฝาแฝดน่ะสิ โชคดีจริง ใช่ไหมเพลง” วีว่าพลางยกมือโอบไหล่แพรโดยที่ไม่หันหน้าไปมองก่อนจะรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกของคนรอบข้างบ้างคนทำหน้าตกใจ ในขณะที่บางคนทำหน้าหัวเราะโดยเฉพาะ ฉันที่กั้นหัวเราะจนข้อขึ้น ผิดกับก้อยที่อยู่ข้าง ๆฉันทำหน้าซีดเผือก 
      แต่ที่แปลกไปกว่านั้น  คือเขารู้สึกว่าไหล่ของแพรมันแปลกๆทะแม่งๆ สายตาทุกคู่หันมามองเขากับแพรเป็นตาเดียว ด้วยความสงสัยเขาจึงหันกับไป และร้องอุทานเสียงหลง สะดุ้งสุดตัว เมื่อคนที่ตัวเองโอบไม่ใช่...แต่เป็นผู้ชาย
      เฮ้ย!
      “ไอ้หมอนี้เป็นใครกัน”
       “ฉันไม่รู้เหมือนกัน”555+ และเสียงหัวเราะของคนในร้านดังลั่น ยกเว้นตี่ผู้ชายคนนั้นที่ทำหน้าเคร่งเครียดอยู่คนเดียว
      “เออ...พี่แพรค่ะ และเขาคนนั้นเป็นใครกันค่ะ”เสียงยัยก้อยถามด้วยความอยากรู้
      “อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนเธออีกคน พวกเธอ 2 คนชอบทำให้ฉันแปลกใจจริง” เสียงเพื่อนคนหนึ่งพูดแซง
      “ใช่ เนี้ยแฟนฉันเอง”แพรตอบ ทำให้เพื่อน ๆในห้องงงกันอีกรอบเพราะไม่นึกเลยว่าคนขรึม ๆอย่างแพรจะมีแฟนที่หน้าตาดีและยังมีนิสัยที่คล้าย ๆ แพรอีกด้วยช่างเหมาะสมกันจริง
      “แล้วแฟนพี่แพรชื่ออะไรหรอค่ะ ?หล่อจัง”ยัยก้อยถามด้วยความอยากรู้
      “เชน” แพรตอบก้อยสั้น ๆ เพราะปกติแล้วแพรเป็นคนคุยน้อย ซึ่งผิดกับฉันที่เป็นคนร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส ติ๊งต๊อง  ปัญญาอ่อน  ฯลฯ  แม้ฉันกับแพรมีนิสัยต่างกันมากก็จริงแต่หน้าตาของเรา 2 คนเหมือนกันยังกะแกะ บางที่เพื่อนในห้องยังทักเรา 2 คนผิดก็มี แต่ถ้าคนที่สนิทกับเรา 2 คนดีจริงจะรู้ว่าเรา 2 คนมีข้อแตกต่างกันเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนิสัย,สไตล์การแต่งตัวและรสนิยมในการกินอาหาร ซึ่งเรา 2 คนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่เรา 2 คนมีส่วนที่เหมือนกันอยู่บ้างคือไม่ชอบให้ใครมาดูถูกและท้าให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ที่คนอื่น ๆ เขาไม่ทำกัน
      “เชน! ฉันขอคุยกับเอ็งหน่อยสิ ” เสียงกระซิบที่วีบอกเชน ทำให้เชนมองหน้าวีสักแป๊บ และพยักหน้าเป็นการตอบตกลงให้วี ทั้งสองลุกขึ้นเดินมาที่ฉันกับแพร และบอกว่ามีเรื่องต้องทำความเข้าใจกัน เมื่อวีและเชนเดินออกไปแล้ว ฉันกับแพรเริ่มเถียงกันเสียงเบา ๆ และเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ  เพื่อนในร้านเริ่มมองมาที่ฉันและแพรด้วยความสงสัยว่า มันเถียงอะไรกัน 
      “พี่แพร พี่เพลง เถียงอะไรกันอยู่ค่ะ !!! ” ยัยก้อยตะโกนถาม
      “ ยุ่ง!!!” ฉันกับแพรตอบพร้อมกันและเริ่มเถียงต่อโดยไม่สนใจคนอื่น
      “หนูก็ไม่อยากยุ่งนักหรอก แต่เสียงมันดังช่วยเบาเสียงหน่อยได้ไหมค่ะ!!!” ยัยก้อยตะโกนถามอีก
      “ ไม่ได้!!!”
      “หยุดเถียงกันได้ไหม!!!” เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนด้วยเสียงอันดัง ทำให้ฉันกับแพรหยุดชะงัก หันไปมองทางต้นเสียง
      “ยัยแพร ยัยเพลง พวกเธอเป็นพี่น้องกันนะยะ ร้อยวันพันปี ยังไม่เคยเห็นพวกเธอเถียงกันยังนี้เลย แล้วที่เถียงกันจะเป็นจะตายจนเอ็นขึ้นคอเนี้ย เรื่องอะไรยะ” นายก้องพี่ชายของยัยก้อยนั้นเองที่ยืนเท้าสะเอวพูดขึ้นมาเมื่อความอดทนที่หมดไป โดยที่ตัวนายก้องไม่รู้ตัวเลยว่าท่ายืนของเขานั้นทำให้ยัยก้อยถึงกับตะโกนออกมาอย่างไม่อาย
      “นิ! พี่พอเลยไม่ต้องแอ๊บ แมนแล้ว หนูอายคนอื่นเค้านะ!!!”
      “ใครบอกแกหล่ะว่าฉันเป็นตุ๊ด” นายก้องพูดด้วยสีหน้าโกรธที่โดนกล่าวหาว่าเป็นตุ๊ด ซึ่งที่จริงแล้วนายก้องแอบแอ๊บแมนมานานแล้วโดยไม่แสดงอาการออกมาให้คนอื่นรู้เท่านั้น
      “ถ้ายังงั้นทำไมพี่ต้องยืนเท้าสะเอว พูดเสียงกระแดะด้วยหล่ะ” ยัยก้อยถาม เมื่อนายก้องได้ยินถึงกับสะดุ้งรีบเอามือลงอย่าง
      เร็ว
      “ฉันก็...แค่...เออ...แค่....”นายก้องพยายามหาคำพูดมาแก้ตัว แล้วนึกได้ว่ายังไม่ได้เคลียร์เรื่องฉันกับแพรเลยกลบเกลื่อนด้วยการหันมาทางพวกเรา 2 คนอย่างรวดเร็ว
      “นี่พวกเธอ 2 คนยังไม่บอกพวกเราว่าเถียงอะไรกัน”
      “เถียงกันแค่เรื่องไร้สาระน่ะอย่าสนใจเลย ไปดื่ม……..” แพรกำลังจะพูดต่อแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อฉันพูดแทรกขึ้น
       “ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย ฉันกับแพรเถียงกันเรื่องแฟนอยู่ว่าแฟนใครดีกว่ากัน” เมื่อเพื่อน ๆได้ยินถึงกับอึ้งเพราะไม่น่าเชื่อว่าที่พวกมันเถียงกันจะเป็นเรื่องแฟน
      “หนูว่า พี่วีและพี่เชนก็โอเคน่ะ หน้าตาก็หล่อ นิสัยก็ดีสุดๆ เป็นหนูรักตายเลย” ยัยก้อยเสนอความคิดขึ้นมา
      “ข้อนั้นพวกเรา 2 คนรับได้อยู่แล้วแต่ที่เถียงกันเพราะเรา 2 คนไม่รู้ว่าใครดีกว่าใครน่ะสิ เราจึงเถียงกันน่ะสิว่าใครดีกว่ากัน” ฉันเริ่มต้นพูด
      “ใช่ เพลงบอกว่าวีเป็นนักกีฬาของโรงเรียน เรียนก็เก่ง ด้านดนตรีก็ไม่น้อยหน้า หญิงนี้ตรึม ส่วนฉันเชนเขาเป็นเด็กเรียนเก่ง กีฬาก็เก่งเหมือนกัน หญิงก็ตรึมแต่เชนเชอบทำหน้าขรึมไปหน่อยเลยไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยเท่านั้น” แพรสาธยายให้เพื่อน ๆฟัง
      “พวกเธอคิดว่าใครดีกว่ากันหล่ะ”ฉันถาม
      “หนูว่าก็ดีเท่ากันทั้ง 2 คนนั้นแหละ” ยัยก้อยว่า
      “ฉันก็ว่าดีทั้ง 2 คน แต่เราน่าจะพิสูจน์นะว่าใครดีกว่ากันจะได้รู้ไปเลย”นายก้องเสนอความคิดขึ้นมา
      “แล้วจะพิสูจน์อย่างไงหล่ะ” แพรถามด้วยความสงสัย
      “ก็แค่...พวกเธอเปลี่ยนแฟนกันแค่เนี้ย”นายก้องตอบ
      “ฮะ! เปลี่ยนแฟน” ฉันกับแพรอึ้งเมื่อได้ยินที่นายก้องพูด
      “ช่าย เปลี่ยนแฟนกัน แล้วพวกเธอก็จะรู้ว่าใครดีกว่ากันไงพวกเธอ 2 คน ตกลงไหมหล่ะ” นายก้องถามเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าฉันกับแพรจะต้องตกลงอย่างแน่นอน เนื่องจากพวกเราไม่ชอบให้ใครมาท้า
      “ตกลง” คำตอบที่หลุดออกมาจากปากของฉันและแพรทำให้นายก้องยิ้มแฉ่งขึ้นมาทันที
      “งั้นฉันขอตั้งกฎ 3 ข้อ ข้อแรก พวกเธอต้องเปลี่ยนแฟนกันในวันพรุ่งนี้ ข้อสอง พรุ่งนี้พวกเธอจะต้องพาวีและเชนไปเที่ยวที่ Dream world ข้อสาม พวกเธอห้ามบอกแฟนของตัวเองด้วยว่าเปลี่ยนตัวกัน ค่อยบอกตอน 4 โมงเย็น ด้วยกัน โอเคไหม” นายก้องถามหลังจากพูดกฎให้ฟัง
      “อืม” ฉันกับแพรพยักหน้ารับคำ
      “พี่! หนูว่าลองเปลี่ยนตอนนี้เลยดีกว่า มันส์ดี เพื่อพี่ 2 คนผิดใจกับแฟนหนูจะได้ควบ 2 คนเลยใครหน้าไหนก็ห้ามมาแย่งหนูจ้องแล้ว”ยัยก้อยชูกำปั้นพลางทำสีหน้าจริงจัง  ก่อนจะหน้าจ้อยเมื่อฉันกับแพรพูดขึ้น
      “ฝันไปเถอะยะ”
      “เออ...พอแล้ว ๆ ยัยแพร ยัยเพลง พวกเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อน ก่อนที่แฟนของพวกเธอจะเข้ามา” นายก้องว่าพลางดันไปทางห้องน้ำ
      ณ หน้าร้านอาหาร
      “เฮ้ย! เชนแกมาได้ไงว่ะ”
      “อย่าบอกนะว่ายัยนั้นแฟนนาย หน้าเหมือนแฟนฉันเลยว่ะ”
      “หน้าเหมือนแฟนเอ็งไม่เป็นไร แต่อย่ามายุ่งกับแฟนฉันแล้วกัน ไม่อย่างงั้นเอ็งเจอนี้แน่”เชนว่าพลางยกหมัด
      “เออ...เอ็งก็เหมือนกันถ้ามายุ่งกับแฟนข้าเอ็งก็เจอนี้เหมือนกัน”พลางกระดกเท้า ซึ่งที่จริงแล้ว 2 คนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คือพ่อเชนเป็นพี่ของพ่อวี เมื่อแต่งงานแล้วก็มีลูกเกิดพร้อมกัน วีและเชนจึงเล่นด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโต เมื่อขึ้นโรงเรียนก็เรียนห้องเดียวกันตลอดจนถึงปัจจุบันนี้ แต่เมื่อทั้ง 2 คนมีแฟนเป็นฝาแฝดกันเลย แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันเท่านั้นเอง
      “อ้าว! น้องกิ๊กหมายเลข 1 (วีทักก้อยเมื่อเดินเข้ามาในงาน ) แล้วยัยแฟนตัวจริงของฉันหายไปไหนหล่ะ
      “เออ...คือ...” ยัยก้อยอ้ำอึ้งก่อนจะยิ้มแฉ่งชี้ไปทางห้องน้ำ “ นั่นไงค่ะมาแล้ว”
      “อ้าว! เพลงมานี่ ๆ มาเต้นกันหน่อย เพลงนี้เธอชอบไม่ใช้หรอ” วีดึงแขนเพลง (แพรนั้นเอง )แต่ก่อนที่จะทำอะไรไปมากกว่านั้น เสียงไอ้เชนก็ดังขึ้น 
      “เฮ้ย! ไอ้วีฉันบอกเอ็งแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับแฟนฉัน ปล่อยมือแพรเดี๋ยวนี้เลย” เชนว่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมสุด ๆ
      “ฉันอยู่นี้เชน เป็นแฟนกันภาษาอะไรทำไมจำแฟนตัวเองไม่ได้” ฉัน (ซึ่งตอนนี้คือแพร) โผเข้ากอดเชนจนเซล้มลงไปนอนบนโซฟาทั้งคู่ ฉันหันไปมองหน้าแพรนิด ๆ ก่อนจะยิ้มด้วยความสะใจ แพรทำหน้าบึ้งน้อย ๆก่อนจะลากวีไปเต้นกับเพื่อนอีกกลุ่ม 
      “นี่! จะลุกได้หรือยัง” คนที่ถูกทับส่งเสียงประท้วง(เอ๊ะ ! สร้อยที่เราใส่ให้แพรหายไปไหนกัน)ฉันรีบลุกขึ้นหันไปมองวีกับแพรโดยไม่สนเสียงของเชนที่เรียก
      “แพร!!! แพร !!!” ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อเชนตะโกนใส่หูของฉัน ทำให้ฉันเผลอตัวปล่อยหมัดโดนเข้าที่มุมปากของเชน
      “นี่! เธอจะต่อยฉันทำไม” เชนร้องถาม พลางเอามือจับบริเวณที่โดนต่อย
      “ก็นายทำให้ฉันตกใจทำไมเล่า !” ฉันตอบกลับไป
       “ ไหนฉันขอดูหน่อยสิ  โฮ้! ปากแตก ”
      “นี่อย่ามัวพูดดิ ไปหายามาทาให้ฉันเร็ว ” เชนว่าพลางนั่งลงที่โซฟา ส่วนฉันเดินไปถามเจ้าของร้านว่ามีแอลกอฮอล์กับสำลีป่าว เมื่อเจ้าของร้านหยิบมาให้ ฉันเดินมาที่โซฟายื่นแอลกอฮอล์กับสำลีให้เชน
      “นี่! แพรเธอเป็นคนทำฉันเจ็บจะไม่คิดมีน้ำใจช่วยทำแผลหรือไง ”เชนถามเมื่อเห็นฉันกำลังจะเดินหนีไป
      “ก็ได้ ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ฉันทำให้นายเจ็บตัว” ฉันพูดและนั่งข้างเชนหยิบสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดที่แผล
      “โอ๊ย!!! เบา ๆหน่อยสิ” เชนบอกฉัน
      “ได้ เบา ๆ ใช่ไหมงั้นเจอนี้เลย ”ฉันกดสำลีอย่างแรงทำให้เชนร้องอีกครั้ง  ซึ่งพอดีที่แพรและวีเดินมา
      “มีเรื่องอะไรกัน” แพรถาม
      “ก็แพรน่ะสิเล่นต่อยฉันซะ เจ็บเลย”เชนบ่น
      555+ “สมน้ำหน้า อยากทำให้ฉันตกใจดีนัก โอ๊ย!”ฉันว่าซึ่งพอดีกลับที่แพรหยิกฉัน
      “เป็นไรหรอแพร” วีถาม
      “ปะ ป่าว” ฉันตอบ
      “เชนก็อย่าไปถือสาเพลง เอ้ย! แพรเลย เอาเป็นว่าพรุ่งนี้พวกเราไปเที่ยวกันดีไหมหล่ะ”แพรชิงชวนก่อนที่เชนจะจับพิรุธได้
      “แล้วพวกเราไปเที่ยวที่ไหนดีหล่ะ” เชนถาม
      “Dream world เป็นไง”
      “อืม...ก็ดี ฉันจะได้ไปเล่นไวกิ้งซัก 5 รอบ เฮอร์ริเคน 6 รอบ ซุปเปอร์สแปลช 3 รอบ รถไฟเหินเวหา 7 รอบ และบ้านผีสิง
      8 รอบดีไหมเพลง” วีสาธยายสิ่งที่ตนจะเล่นในวันพรุ่งนี้
      “เออ...ดี ดี” แพรตอบด้วยสีหน้าเจียน ๆ
      “แล้วนายหล่ะเชน” ฉันถาม
      “ดี ”
      “งั้นพรุ่งนี้เราเจอกันที่นี้ 8โมงครึ่ง” แพรนัดเวลา
      เช้าวันรุ่งขึ้น
      ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก !
      “เพลงตื่นได้แล้ว !!! ” แพรตะโกนเรียกฉัน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา ดังนั้นแพรจึงบุกเข้ามาในห้อง ตีกลองรัวเป็นชุด ถ้าสังเกตดี ๆ ภายในห้องของฉันจะมีเครื่องดนตรีทั้งสากลและไทยวางอยู่รอบห้องนอน ส่วนห้องของแพรนั้นก็จะมีแต่รูปวาดที่แพรวาดเองติดรอบห้อง
      “ใครมายุ่งกับของ ๆ ฉัน!” พลางมองไปรอบ ๆห้อง
      “อ้าว! แพรเองหรอ  บาย” พร้อมกับหยิบผ้าห่มขึ้นคลุมหน้า เอนตัวนอนลงไปอีกครั้ง
      “เพลง! ลุกขึ้นมาได้แล้ว นี้มันจะ 8โมงครึ่งแล้วน่ะ” แพรพูดพลางดึงผ้าห่มออกลากตัวเพลงไปเข้าในห้องน้ำ
      “เร็วๆ ด้วย ฉันจะลงไปรอข้างล่างถ้าอีก 10 นาทีไม่ลงไปตายแน่ ” แพรพูดและปิดประตูห้องน้ำ เดินลงไปรอฉันข้างล่าง
      “จะรีบไปถึงไหนกันเนี้ย ” ฉันบ่นและเริ่มอาบน้ำแต่งตัวเดินลงมาข้างล่าง เห็นแพรกินอาหารเสร็จไปแล้ว
      “จะไปหรือยัง”แพรถามเมื่อฉันเดินลงมาจากห้อง
      “อืม” ฉันตอบรีบเดินมาที่โต๊ะหยิบแก้วนม และขนมปังใส่ปาก
      เพราะรักฉันการันตี ช่วยเอาใจดวงนี้ไปหน่อย อย่าปล่อยให้คอยคอยคอยคงไม่ดี....
      “ใครโทรมาเนี้ย  เฮ้ย!เชนโทรมา” ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วส่งไปให้แพรทันที
      “เชนโทรมาก็รับสิ ” แพรส่งกลับมาให้ฉันอีก
      “แต่เชนรู้เบอร์ ฉันได้ไงเล่า”ฉันถามด้วยความสงสัย ถึงแม้เสียงโทรศัพท์ยังดังอยู่แต่ฉันก็ไม่ยอมรับ
      “ฉันสลับซิมการ์ดให้เอง ตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากกลับงานปีใหม่น่ะ ”  แพรบอก ฉันจึงกดรับสาย
      “ฮัลโหล !”
      “แพร! ทำไมรับสายช้าฉันโทรไปตั้งนานแล้วนะ” น้ำเสียงของเชนพูดประชดใส่ฉัน
       “คือฉัน....”
      “ไม่ต้องอ้ำอึ้ง เธอออกมาจากบ้านหรือยัง”เชนถามด้วยน้ำเสียงโมโห

      “กำลังจะออกจากบ้านน่ะ”
      “ว่าไงนะ!เธอรู้ไหมฉันกับวียืนรอเธอมา 15 นาทีแล้วนะ”
      “งั้นฉันจะรีบไปแล้วกัน แค่นี้แหละ”ฉันกดวางสาย
       “เชนโทรมาไงบ้างหล่ะ” แพรถาม
      “ให้เรารีบไปนะ” ฉันตอบกลับไป
      เมื่อรถมาจอดหน้าโรงเรียน ฉันกับแพรรีบวิ่งไปที่ร้านอาหารเห็นเชนกับวียืนรออยู่
       “พวกเธอมาช้าไปครึ่งชั่วโมงนะ” เชนบ่น
      “ขอโทษที่มาช้า คราวหลังจะมาให้เร็วกว่านี้”ฉันบอก
      “ว่าแต่ทำไมพวกเธอมาช้าจัง” วีถาม
      “ก็ฉันตื่นสายนะสิ กลับบ้านไปเล่น msn อีก กว่าจะได้นอนก็ตี 4 กว่าแล้ว”
      “โฮ้! แทนที่เธอจะกลับบ้านไปนอนกลับเล่น m เนี้ยนะ” วีบ่น
      “แต่ก็ดีกว่าไม่มานะ” ฉันตอบกลับไป
      “เอาเป็นว่าเราออกเดินทางกันเถอะ เดี๋ยวไปแล้วได้เล่นไม่กี่อย่างเองนะ ฉันอ่ะอยากเล่นเครื่องเล่นใจจะขาดแล้วนะ” วีบอกพวกเรา 4 คนมาถึง Dream world ซื้อตั๋วเสร็จ พวกเราเดินไปเล่นกระเช้าลอยฟ้ากันเป็นอันดับแรก
      “ขึ้นคันละ 2 คนดีกว่าไหม”วีถาม
      “ดี / ไม่ดี”ฉันกับเชนพูดพร้อมกัน
      “ฉันบอกว่าดีไง”
      “ไม่ดี”
      “ดี”
      “ไม่ดี”
      “พอแล้ว เอาเป็นว่าขึ้นคันละ 2 คนอ่ะดีแล้ว” แพรบอก ในที่สุดฉันก็ขึ้นกับเชน 2 คนจนได้
      “ทำไมฉันต้องมานั่งกับนาย 2 คนด้วยเนี้ย” ฉันบ่นเมื่อกระเช้าเริ่มเคลื่อน
      “ก็ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวนะสิ” เชนบอก
      “เรื่องไรหล่ะ”ฉันถาม
      “เธอจำได้ไหม วันนี้เป็นวันอะไร”
       “ไม่รู้สิ” ฉันตอบด้วยอารมณ์เสีย
      “เธอว่าไงนะ!!!” เชนตวาด “นี่! เธอลืมได้ไงว่าวันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปีที่เรา 2 คนคบกัน”
      “ฮะ! ครบรอบวันที่เราคบกันหรอ” ฉันตกใจ “เออ..ใช่ ๆ ฉันลืมสนิทเลย อุ๊บ!” ฉันเผลอปากบอกเชนไป สีหน้าของเชนตอนนี้ปากจะถึงจมูกแล้ว
      “นายโกธรฉันหรอ ฉันขอโทษ อย่าโกธรฉันเลยนะ นะ” ฉันง้อแต่เชนกลับเงียบเมินหน้าหนีอีก
      “ไม่”
      “แล้วจะให้ฉันทำอย่างไงหล่ะ เพื่อให้นายหายโกธร”
      “วันนี้เธอต้องทำตามคำสั่งของฉัน” เชนบอก
      “ทำตามคำสั่งนายเนี้ยน่ะ จะบ้าหรอ”
      “ถ้าเธอไม่ทำงั้นฉันจะไม่พูดกับเธอทั้งวันเลย”เชนขู่
      “ก็ได้” ฉันพูดซึ่งพอดีกับที่กระเช้าลงจอด เมื่อพวกเราเดินลงมาถึงข้างล่าง วีรีบถามขึ้นมาทันที
      “เราไปเล่นซุปเปอร์สแปลชกันไหม”
      “ดี ๆ ฉันชอบ” ฉันว่าด้วยท่าทีตื่นเต้น แต่แล้วต้องหน้าจ้อยเพราะเชนส่งสายตามา
      “ตกลงไปเล่นซุปเปอร์สแปลชใช่ป่ะ เร็ว ๆรีบไปกัน ฉันอยากเล่นแล้ว” วีว่าแล้วรีบวิ่งไปอย่างเร็ว ส่วนเชนก็เดินตามวีไปปล่อยให้ฉันกับแพรเดินตามหลัง
      “แพร วันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปีที่เธอกับเชนครบกันหรอ” ฉันถามแพรอย่างเบา ๆ กลัวเชนได้ยิน
      “เออ...ใช่ แล้วเชนเขาจับพิรุธเพลงได้ป่าว”
      “ฉันว่าไม่นะ” ฉันตอบซึ่งก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
      “แต่ถ้าเชนจับได้ขึ้นมา เรา 2 คนต้องซวยแน่ ๆ” แพรว่า
      “ไม่น้า...คนอย่างเชนไม่มีวันจับผิดคนอย่างฉันไปได้หรอก” ฉันบอกแพรไป
      “แต่แพรรู้ไหม ฉันต้องทำตามคำสั่งของเชนด้วย โทษฐานที่ลืมวันครบรอบ แล้วใครจะไปตรัสรู้หล่ะครับท่าน”ฉันเริ่มบ่นให้แพรฟัง
      “ฉันต้องขอโทษด้วยที่ลืมบอก แต่ก็อย่าลืมทำตามคำสั่งของเชนหล่ะ” แพรเย้าฉัน
      “เออ เป็นพี่เป็นน้องกันไม่เคยช่วยเหลือน้า” ระหว่างที่เรากำลังเดินไปเล่นซุปเปอร์สแปลชนั้นเชนกับวีซึ่งมาถึงก่อนได้ยืนคุยกัน
      “วี ฉันมีเรื่องจะบอกนายว่ะ”
      “เรื่องไร”
      “ฉันรู้สึกว่าแพรเปลี่ยนน่ะ คล้าย ๆกับว่า 2 คนนั้นสลับตัวกัน”
      “แกจะบ้าหรอ ใครหน้าไหนเขาจะโง่เปลี่ยนแฟนกันหล่ะ”วีว่า
      “ไม่แน่นะ เพราะฉันสังเกตแพรตอนเมื่อคืนที่แพรล้มใส่ฉัน แพรไม่ได้ใส่สร้อยที่ฉันให้เลย แล้ววันนี้อีกตอนขึ้นกระเช้าลอยฟ้า ฉันถามแพรว่าวันนี้เป็นวันอะไร แต่เขากลับบอกว่าจำไม่ได้ ซึ่งจริง ๆวันนี้เป็นวันที่ฉันกับแพรคบกันเป็นเวลา 1 ปี เอ็งว่ามันแปลกไหมหล่ะ”
      “ฉันว่าไม่เห็นจะแปลกเลย อย่างเรื่องสร้อยเขาอาจจะลืมใส่มาก็ได้ ใครจะไปรู้ใช่ไหม ส่วนเรื่องที่เขาจำไม่ได้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบที่แกกับเขาคบกันน่ะ เขาอาจจะยุ่งจนลืมไปก็ได้ ฉันว่าแกอย่าคิดมากดีกว่า” วีบอกเชน
      “เออ ๆ ฉันอาจจะคิดมากไปก็ได้”
      “อะแฮ่ม! คุยอะไรกันอยู่จ๊ะหนุ่ม ๆ”เสียงฉันนั้นเองที่ทักเชนกับวีจนทั้ง 2 คนสะดุ้ง
      “ป่าว!”
      “เออ...เพลงไปเล่นกันเถอะเร็วแถวยิ่งสั้น ๆ อยู่”วีชวน
      “เออ...ฉันไม่ดีกว่า”แพรหน้าซีด
      “ครั้งที่แล้วเธอยังเล่นชนะฉันเลย  จนฉันอ้วกแตกอ้วกแตน แถมเธอยังหัวเราะเยาะฉันอยู่เลย”วีบอกเพราะปกติแล้วฉันจะเป็นคนกล้าบ้าบิ่นสุด ๆ
      “แล้วใครจะไปเล่นบ้างหล่ะ”วีถาม ไม่อยากไปเล่นคนเดียว
      “ฉันไปด้วย ฉันไปด้วย นะเชนนะให้ฉันไปนะ” ฉันกระโดดกอดแข้งกอดขา
      “ก็ได้ แต่ว่าฉันขออยู่ข้างล่างแล้วกัน”เชนบอก ดังนั้นฉันกับวีจึงเดินไปเล่นซุปเปอร์สแปลชได้ 3 รอบและเดินลงมาหาแพรกะเชน
      “เฮอะ...สนุกเป็นบ้าเลยว่ะ”วีพูด
      “ใช่สนุกจริง ฉันอ่ะอยากไปเล่นอีกซัก 3 -4 รอบ”ฉันพูดและทำท่าจะเดินไปต่อแถว แต่แล้วต้องอดเล่นเพราะเชนเดินมาลากฉันออกมา
      “ลากฉันออกมาทำไมเนี่ย”ฉันถาม
      “ไปหาอะไรกินกัน นี่มันเที่ยงกว่าแล้ว”เชนอธิบาย
      ครืด  ครืด  ครืด!!!
      “งั้นเราหาของกินกันก็ได้”ฉันพูดด้วยท่าทีอายๆ ก็กระเพราะของฉันมันดันร้องออกมา
      “ก็ไปกันสิ ”เชนว่า พวกเราทั้ง 4 คนเดินไปหาของกินกันจนอิ่มแปล้
      “โอ้...อิ่มแล้วเราไปเล่นเฮอร์ริเคนกันเถอะแพร” วีชวน
      “อืม..ไปกัน”ฉันตอบ รีบวิ่งไปกับวีปล่อยให้แพรและเชนนั่งพัก
      “เชน เธอไม่อยากเล่นเฮอร์ริเคนหรอ”
      “ไม่ ฉันไม่ชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวเท่าไร”
      “เหมือนฉันเลย งั้นเรารีบไปหาวีและเพลง เฮ้ย! แพรกันเถอะเดี๋ยวก็หลงกันพอดี
      “ว้าว!!! สนุกมากเลยอ่ะ เราไปเล่นรถไฟเหินเวหากันต่อเถอะ”ฉันกำลังจะเดินไปเล่นแต่ต้องหยุดเมื่อเชนพูดดักคอ
      “ไม่ได้!!!”
      “ถ้านายไม่ให้ฉันไปงั้นนายก็ขึ้นไปพร้อมกับฉันเล้ย วีพาเพลงขึ้นไปด้วยเร็ว”ฉันว่าและลากเชนขึ้นไปบนรถไฟเหินเวหาจนได้ ส่วนวีกว่าจะลากแพรไปยังเครื่องเล่นได้ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงเพราะแพรพยายามดิ้นออกให้หลุด แต่
      ในที่สุดพวกเราทั้ง 4 คนก็ได้นั่งอยู่บนรถไฟเหินเวหาจนได้ เมื่อรถไฟเริ่มเคลื่อนตัว ฉันเห็นสีหน้าของเชนซีดยิ่งกว่าไก่ต้มสะอีก ตลอดเส้นทางที่รถไฟไปฉันได้ยินเสียงเชนตะโกน  ปล่อยฉันลงไปที่ ๆ เมื่อรถไฟจอดเชนกับแพรรีบวิ่งลงไปทันทีฉันกับวีรีบวิ่งไปดูอาการของทั้ง 2 คน
      “นายเป็นไงบ้าง รู้สึกดีไหม” ฉันถามด้วยสีหน้า ขำๆ
      “ดียังกะผีบ้านเธอน่ะสิ” เชนว่า ( ฮ้า! เชนถึงกับอ้วกแตกเลยแฮะ)
      “เป็นไงเพลง”วีถามด้วยความเป็นห่วง
      “มึน ๆอยากจะอ้วก” แพรพูดไม่ทันขาดคำก็ออกมาทันที
      “งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำมาให้น่ะ เชนนายอยากได้น้ำสักแก้วไหม”
      “อืม..ก็ดีเหมือนกัน” วีเดินไปซื้อน้ำมาให้แพรและเชน
      “ดีขึ้นไหมเพลง”
      “ดีขึ้นเยอะเลยหล่ะ”
      “แล้วนายหล่ะเชนดีขึ้นไหม”
      “ดีขึ้นเหมือนกัน แต่ฉันเสียดายอาหารกลางวันมากกว่า เธอก็รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ชอบเล่นอะไรที่มันหวาดเสียวแล้วยังจะลากฉันไปเล่นอีก” เชนบ่นแต่ตัวฉันกลับยิ้มอย่างสะใจเมื่อแกล้งคนอย่างเชนได้สำเร็จ +555
      “ดีขึ้นแล้วไปเล่นไวกิ้งต่อเถอะปะ”ฉันชวนพยายามลากเชนไปเล่น แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธ
      “ฉันไม่ขึ้น ขอนั่งพักแล้วกัน”เชนพูดด้วยน้ำเสียงโมโหนิด ๆ
      “แล้วเพลงหล่ะไปเล่นกันไหม” ฉันถาม
      “ไม่ เหมือนกัน ขอนั่งพักกับเชนเนี้ยแหละ”แพรรีบพูดปฏิเสธทันที
      “งั้นเรา 2 คนไปเล่นไวกิ้งกันเถอะ”ฉันว่าและเดินไปเล่นไวกิ้งกับวีอย่างเมามันส์ เล่นกันพอหอมปากหอมคอแล้วเดินกลับมาที่แพรและเชนนั่ง
      “หายดียัง”ฉันถามแพรและเชนเมื่อเดินมาถึง
      “ดีแล้วหล่ะ” “ต่อไป ไปเข้าบ้านผีสิงกันเถอะ”วีว่าพลางจับมือแพรไปยังบ้านผีสิง ส่วนฉันกับเชนเดินตามมาติด  บรรยากาศในบ้านผีสิงไม่น่ากลัวเท่าไร(สำหรับฉันอ่ะนะ) แต่เชนเนี้ยสิเมื่อเข้ามาดันไม่กล้าเดินซะงั้น ฉันเลยต้องเดินย้อนกลับไปรับทำให้ฉันกับแพรและวีหลงกัน
      เมื่อฉันไปรับเชนมาได้ เชนก็เอาแต่ดึงมือฉันแทนที่ฉันจะดึงมือเชน
       “นี่นายจะดึงมือฉันไปถึงไหน” ฉันว่าพลางสะบัดมือแต่เชนกลับเอามือมาดึงต่อจนได้
      “ก็ฉันกลัวนี่ ” เชนว่า ถึงช่วงที่น่ากลัวมั่กมาก(สำหรับเชนอ่ะนะ)เชนก็กระโดดกอดฉันทันทีเมื่อเลยมาแล้วเชนก็เอามือออกเปลี่ยนเป็นดึงมืออย่างเก่าต่อ ใกล้ถึงทางออกเชนรีบวิ่งออกไปปล่อยให้ฉันเดินออกคนเดียวทั้ง ๆที่อยู่ข้างในยังดึงแขนฉันอยู่เลย
      “นี่!นายวิ่งหนีฉันออกมาเลยหรอ”ฉันว่าเชน
      “ก็ฉันอยากออกมาเร็ว ๆ นี้ แล้วเพลงกับวีอยู่ไหนหล่ะ” เชนถามและมองไปรอบ ๆ
      “นั้นไงเล่า”ฉันว่าและเดินไปหา
      “แพรออกมานานหรือยัง” ฉันถาม
      “ครึ่งชั่วโมงได้มั้ง” แพรตอบกลับไป
      “แล้วนี้กี่โมงแล้วหล่ะ”ฉันถามเพราะ
      “อืม...4 โมงเย็น”
      “เฮ้ย !!!” ฉันกับแพรถึงกับอึ้งทำไมเวลาช่างผ่านไปเร็วเนี้ย
      “เป็นอะไรไป” เชนถาม
      “คือเออ...ฉันมีอะไรจะบอกพวกนาย 2คน แต่พวกนายอย่าโกธรเรา 2 คนนะ” ฉันเริ่มพูด
      “คือพวกเรา 2 คนสลับตัวกันน่ะ”
      “สลับตัวกัน!!!”
      “เธอเห็นว่าฉันเป็นของเล่นหรอถึงได้แกล้งกันขนาดเนี้ย” เชนว่า
      “ใช่!!!มันสนุกมากใช่ไหม”วีพูดด้วยน้ำเสียงโกธร ๆ
      “แต่ฉันมีเหตุผลของฉันนะที่ทำลงไป”ฉันเริ่มอธิบาย
      “เหตุผลอะไรหล่ะ”เชนถาม
      “ก็เรา 2 คนพิสูจน์อยู่ว่าระหว่างนายกับวีใครดีกว่ากัน”
      “นี้หรอคือเหตุผลของพวกเธอ”วีถาม
      “ใช่ และอีกอย่างฉันก็รู้แล้วว่าฉันควรคู่กับใคร”ฉันกำลังจะพูดต่อแต่เสียงโทรศัพท์ดังซะก่อน
      เพราะรักฉันการันตี ช่วยเอาใจดวงนี้ไปหน่อย อย่าปล่อยให้คอยคอยคอยคงไม่ดี....
      “ขอตัวนะ  ฮัลโหล! ว่าไงนายก้อง” ฉันพูดทักทายนายก้อง
      “ฮัลโหล! ยัยเพลงฉันมีอะไรจะบอก เธอจำวันที่เราไปเล่นเน็ตได้ไหม ที่เธอเข้าเว็บ  spufriend แล้วไปเจอรูปเชนกับวี ที่เธอบอกว่าเนี้ยคนเนี้ยแฟนฉันเองไง วันนี้ฉันลองคลิกเข้าไปดูประวัติ 2 คนเนี้ยมาเธอรู้ไหม 2 คนเนี้ยเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน”
      “ว่าไงนะ! ฉันถึงว่าทำไม 2 คนเนี้ยมีส่วนที่คล้าย ๆกัน ขอบคุณมากนะหวัดดี” ฉันวางสายนายก้องไปและเดินกลับไปที่เดิม
      “แล้วนายหล่ะมีเหตุผลอะไร ถึงต้องปิดบังกันด้วยว่านาย 2 คนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน” ฉันถามทันทีเมื่อเดินมาถึง
      “ทะ เธอ รู้ได้ไงว่าเรา 2 คนเป็นลูกพี่ลูกน้อง” เชนพูดตะกุกตะกัก
      “ฉันรู้แล้วกันน้า” ฉันพูดพร้อมทำหน้าโกธร
      “งั้นพวกเราเจ๊ากัน วีเราไปเล่นจักรยานน้ำกันเถอะ”ฉันพูดตัดบทง่าย ๆ และเดินไปจับมือ เชนมองด้วยความเสียใจขณะที่แพรเรียกเชนเท่าไหร่ก็ไม่หันสักที
      “เชน!!!”
      คนรอบบริเวณนั้นหันมองทันที รวมทั้งเชน
      “มีอะไรจะพูดก็พูด ไม่ต้องตะโกนคนอื่นเขาหันมองกันใหญ่แล้ว” แพรโดนเชนเทศฯเข้าแล้ว
      “ก็ฉันเรียกนายเป็นสิบๆรอบแล้วนายยังไม่หันเลย แล้วนายเป็นไรอ่ะ” แพรพูดด้วยอารมณ์บ่จอยสุด ๆ
      “ป่าว ไปเดินเล่นกันเถอะ” เชนว่าและเดินจูงมือไป
      “วี ฉันมีไรจะบอกนาย”
      “เออ ฉันก็มีไรจะบอกเธอเหมือนกัน” วีพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ที่จริงฉันรู้ว่าวีเครียดอยู่แน่ๆ ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างจากฉันไปเท่าไหร่
      “นายบอกก่อนดิ”
      “เธอนั้นแหละ”
      “นายนั้นแหละ”
      “งั้นเรามาพูดพร้อมกันให้ดังที่สุดเลย”ฉันแนะนำแม้ใจของฉันจะเต้นแรงเมือนึกถึงสิ่งที่จะพูดออก เอ้า เป็นไงเป็นกัน 1...2...3
      “เราเลิกกันเถอะ!!!” ฉันกับวีพูดขึ้นพร้อมกันก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะและโผล่เข้ากอดทั้งน้ำตา วีเข้าใจฉันที่สุดเลยแฮะ
      ในตอนนั้นบังเอิญที่แพรกับเชนเดินผ่านมา เห็นภาพที่ฉันกับวีกอดกัน ภาพที่เห็นทำให้แพร ร้องไห้ วิ่งหนีออกไปจากตรงที่ยืนทันที ส่วนเชนเห็นแพรวิ่งหนีไปจึงวิ่งตามไปดูแพร
      “แพร! แพร! “เชนวิ่งตามแพรจนทันที่ลานจอดรถพอดี
      “แพร เธอเป็นอะไรไป”
      “ป่าว ฉัน ฉัน ฉันไม่เป็นไร” แพรรีบเช็ดน้ำตาเพื่อไม่ให้เชนเห็น แต่ช้าไปเพราะเชนเห็นซะก่อน
      “เธอร้องไห้ทำไมแพร”
      “สงสัยแมลงเข้าตาน่ะ” แพรพูดกลบเกลื่อน จริง ๆ แล้วแพรรักวี แต่เมื่อเห็นภาพที่ฉันกับวีกอดกันทำให้แพรเสียใจ
      “ไหนฉันขอดูหน่อย”เชนว่าและก้มลงดูแมลงที่ตาของแพร
      “ต่อไปนี้ฉันก็ต้องเรียกนายว่าพี่เขยน่ะสิ” ฉันพูดเย้าวีเล่น หลังจากเดินขึ้นจักรยานน้ำและกำลังเดินไปที่ทางออก
      “จะบ้าหรอเรียกวีเฉย ๆก็พอแล้ว” วีว่าด้วยท่าทีเขินอาย
      “ก็ได้ พี่เขย” ฉันแกล้งเรียกวีแล้วรีบวิ่งมาที่ลานจอดรถ เพราะกว่าวีจะรู้ตัวฉันก็วิ่งไปไกลแล้วแน่ ๆ
      “เออ...ดีมากที่เรียกพี่เขย เฮ้ย! เพลงเธอแกล้งฉันหรอ”วีเพิ่งรู้ตัวแล้วรีบวิ่งตามฉันแต่ช้าไปเสียแล้ว เมื่อฉันวิ่งมาถึงรถที่พวกเรามา เห็นเชนกับแพรกำลัง....อยู่
      “ขอโทษนะ ที่มาขัดจังหวะ”ฉันพูดและกำลังจะเดินหนีไป
      “เดี๋ยวเพลง!!!” เชนตะโกนเรียกฉัน แต่ฉันไม่หันกลับไปมองรีบเดินต่อ
      “ไปเถอะเชน ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันหรอก”
      “แต่ว่า.....”เชนอ้ำอึ้ง
      “ไม่เป็นไร รีบไปเถอะ ฉันรู้นะว่านายแอบชอบเพลง”
      “ฉันก็รู้นะว่าเธอแอบชอบวีเหมือนกัน ใช่ม้าใช่ม้า” เชนยิ้มอย่างคนรู้ทัน
      “ใช่ถึงแม้เรา 2 คนจะไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เรา 2 คนก็ยังเป็นเพื่อนกันได้นิ” แพรพูด
      “อืม งั้นฉันไปตามง้อเพลงก่อนแล้วกัน” เชนรีบวิ่งไป ส่วนวีเมื่อวิ่งออกมาเจอฉันถามว่าฉันเป็นอะไร แต่ฉันไม่ตอบ พอดีกับที่เชนวิ่งมา
      “เฮ้ย! วีเพลงวิ่งไปทางไหน” เชนถาม
      “ทางนั้น”พลางชี้ไปทางที่ฉันไป “เออว่าแต่ว่าเพลงเป็นไรว่ะ ฉันถามไม่ยอมตอบ”
       “เอ็งไปถามแพรสิ ฉันไปก่อนนะ”พูดจบเชนรีบวิ่งไปทางที่วีชี้
      “เดี๋ยวก่อนสิ แพรอยู่ที่ไหนหล่ะ” วีตะโกนถาม แต่เชนกลับชี้ไปที่รถ
      “จะรีบไปไหนกัน” วีพึมพำพลางเอามือเกาหัว และเดินไปหาแพรที่รถ
      “เพลงหยุดก่อน !!!” เสียงเชนตะโกนเรียก ทำให้ฉันหยุดทันที
      “มีอะไร”
      “เธอ เธอ เข้าใจผิดแล้ว ฉันกับแพรเรา 2 คนไม่ได้จูบกัน” เชนพูดหอบแฮ่ก ๆ
      “นายพูดอะไรนะ !!! ฉันว่านายนั่งพักก่อนแล้วค่อยพูดดีกว่า ฉันฟังไม่รู้เรื่อง” ฉันนั่งลงกับพื้นปล่อยให้เชนยืนพิงต้นไม้
      “เธอเข้าใจฉันกับแพรผิดแล้ว เรา 2 คนไม่ได้จูบกันอย่างที่เธอเห็น ฉันแค่จะเอาแมลงออกจากตาของแพรให้เท่านั้น”เชนอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น
      “หรอ แล้วนายบอกฉันทำไม” ฉันพูดพลางแอบยิ้ม ซึ่งเชนเหลือบเห็นพอดี
      “เธอยิ้มแล้ว หายโกธรฉันแล้ว ใช่ไหม”เชนลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ
      “อืม” 
      “ถ้างั้นฉันขอถามอะไรหน่อยสิ เธอกอดกับวีทำไม” เชนถามคำถามที่ค้างคาในใจ
      “นายเห็นฉันกับวีกอดกันหรอ” ฉันถามด้วยอาการตกใจ
      “ใช่ แพรก็เห็น”
      “งั้นนายก็หึงฉันน่ะสิ”
      “ป่าว” เชนหน้าแดง รีบหันหน้ามองไปทางอื่น
      “จริงอ่ะ โม้ปะเนี้ย แต่ตอนเนี้ยฉันเรียกวีว่า พี่เขย” ฉันพูดเปรย ๆ ออกมา
      “ว่าไงนะเธอเรียกวีว่าพี่เขย แสดงว่าเธอกับวีเป็นแค่เพื่อนใช่ไหม” เชนถามด้วยอาการตื่นเต้น
      “ใช่” ฉันตอบออกไป ทำให้เชนยิ้มออกมา
      ฉันเพิ่งรู้นะเนี้ยว่านายเนี้ยยิ้มกับเขาเป็นด้วย ดูดีชะมัด
      “เธอมองอะไร” เชนถาม เมื่อรู้สึกมีคนมอง
      “มองคนหล่อมั้ง” ฉันตอบกลับไป
      “งั้นฉันขอสั่งให้เธอเป็นแฟนกับฉัน เธอจะได้มองหน้าฉันทุกวันไง”เชนพูดเมื่อนึกไดว่าฉันยังต้องทำตามคำสั่งอยู่
      “แล้วทำไมฉันจะต้องทำตามที่นายสั่งหล่ะ” ฉันพูดท้าทายเชน
      “ก็เพราะฉัน ฉัน รักเธอไง”เชนพูดความในใจออกมา ด้วยท่าทางเขินอายวิ่งไม่ใช่บุคลิกของเชนเลย
      “แต่ก็น่ารักดีเหมือนกันแฮะ” ฉันคิดในใจ
      “แล้วเธอหล่ะรักฉันบ้างไหม” ฉันได้แต่ยิ้มเมื่อได้ยินคำที่เชนพูดอกมา
      “อืม” ฉันพยักหน้าเป็นการตอบรับ
      “เป็นใบ้พูดไม่ได้หรอ”เชนแกล้งว่า
      “พูดได้” ฉันแย้งกลับไป
      “ก็พูดได้นิ  ถ้างั้นพูดให้ฟังหน่อยสิแค่ 3 คำเอง” เชนท้า
      “ฉันรักเธอ” ฉันพูดกระซิบเบา ๆ
      “ว่าไงนะ ฉันไม่ได้ยิน”เชนแกล้งว่า ฉันครุ่นคิดอยู่นานเพราะไม่รู้จะพูดอย่างไง ในที่สุดฉันตัดสินใจ
      “ฟังให้ดี ๆ นะ” ฉันหายใจเข้าไปลึก ๆ และเริ่มพูดออกมา
      อ่านปากของฉันนะว่า (รักเธอ) อยากจะพูดอีกครั้งว่า (รักเธอ)  และจะเป็นอย่างนี้กับเธอไม่ว่านานสักเท่าไร ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะรักใคร ไม่ต้องห่วงว่าฉันเปลี่ยนหัวใจ ฉันจะเป็นอย่างนี้จ ะ(รักเธอ) ตลอดไป จะย้ำด้วยคำ ๆนี้ว่า รักเธอ ไม่ยอมรักใคร... ฉันร้องเพลง “รักเธอ”ของพี่โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ท่อนสุดท้ายให้เชนฟัง ทำให้เชนถึงกับยิ้มไม่หุบ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×