SAKURA LOVER.
เมื่อตำท้ากลายมาเป็นความรัก เขาและเธอจะทำยังไง
ผู้เข้าชมรวม
128
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
"ว้าว โอบะอาขิ (ยัยป้าอาขิ) ก็มาด้วยหรอ”
หนอย-_-^ ใครมันกล้ามาเรียกฉันแบบนี้ อยากตายหรือไง
“อ๋อ คิดว่าใคร ที่แท้ก็โซโบะเซโกะจัง (ยายแก่เซโกะ) นั่นเอง...-(- มีอะไรฮะ อยากหาเรื่องกันนักหรือไง รีบๆ เดินไปเลยไป” ฉันรีบไล่ยัยเซโกะกับพวกแก๊งค์ตัวป่วนประจำโรงเรียนมัธยมปลายอิจิ (โรงเรียนฉันเองแหละ)
“เดี๋ยวก่อนสิโอบะ”
“มีอะไรอีกล่ะ ฉันว่าฉันไม่มีอะไรจะต้องคุยกับพวกเธอนะ...ไปกันเถอะนามิ” ฉันหันไปชวนเพื่อนข้างๆ
“ยัยอาขิ ฉันมีเรื่องขอท้าเธอ...ทำไม หรือว่าไม่กล้า--*”
“ใครว่าไม่กล้า ท้ามาเลย” คิดผิดคิดใหม่ก็ได้นะยัยเซโกะ คนอย่างอาขิท้าไม่ได้อยู่แล้ว
“ดี”
“อาขิ อย่าไปยุ่งกับพวกนี้เลยน่า ยัยนั่นท้าแต่ละครั้งเรื่องดีซะที่ไหนกัน” นามิพยายามห้ามฉัน
“ไม่เป็นไร คนอย่างฉันรับคำท้าแล้ว ไม่มีเปลี่ยนคำ เธอก็รู้คนอย่างฉันท้าไม่ได้”
“ฉันรู้ แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่เป็นอะไรหรอก เรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว” ฉันหันไปปลอบนามิที่ส่งสายตาห้ามปนห่วงใยมาที่ฉัน แล้วฉันก็หันไปทางยัยพวกตัวป่วนโรงเรียน “-(-ฉันรับคำท้าเธอ”
“งั้นดี เริ่มกันเลย เธอเห็นนักเรียนชายกลุ่มโน้นมั้ย” ยัยเซโกะชี้ให้ฉันดูนักเรียนชายกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีอยู่ประมาณแปดเก้าคน เยอะเหมือนกันนะเนี่ย ไม่รู้จะยกพวกมาตีกันหรือยังไง แต่ๆ ละคนหน้าตาหล่อใช่เล่น โดยเฉพาะอีตาคนที่สูงๆ นั่น เท่ห์ที่สุดแล้ว o_o ผิวขาวปานหิมะโดยเฉพาะที่ใบหน้า คิ้วเข้ม ตาคม ผมซอยประบ่าสีน้ำตาลอ่อน จมูกโด่งสัน ปากบางเหมือนผู้หญิง แถมอมชมพูอีกต่างหาก คนอะไรจะเพอร์เฟคได้ขนาดนี้นะ*_*
“นั่นน่ะ นักเรียนอาชีวะซัง”
“ซังหรอ”
“ใช่ เริ่มต้นคำท้า เธอเห็นคนที่ตัวสูงที่สุดมั้ย เค้าชื่อยูอิจิ หนุ่มป็อบอันดับหนึ่ง จากหนึ่งในสี่ซัง”
“เธอจะให้ฉันทำอะไรกันแน่ ฮะ รีบบอกมาเร็วๆ ฉันไม่มีเวลามาเสวนากับพวกเธอทั้งวันหรอกนะ-_-^”
“ฉันจะให้เธอไปบอกรักเค้า แล้วรอเอาคำตอบมาด้วย”
“เธอจะให้ฉันไปบอกรักตานั่นอะนะ”
“ใช่ หรือว่าทำไม่ได้ ฮะ--* ฉันก็นึกอยู่แล้ว คนอย่างเธอน่ะ...”
“ตกลง-(-” ฉันตอบเสียงแข็ง
“อาขิ”
“เอาน่านามิ ฉันไม่เป็นไรหรอก แค่ไปบอกรักแล้วรอฟังคำตอบ ก็เท่านั้น” ฉันยักไหล่เป็นเชิงนิดๆ “ง่ายนิดเดียว”
“งั้นก็ดี เริ่มเลย”
ฮะ ตอนนี้เนี่ยนะ เร็วไปหน่อยมั้ง อย่าเลยพวกนั้นอยู่กันตั้งเยอะ จะให้ฉันซึ่งเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวเข้าไป ไม่ไหวหรอกมั้ง
“ว่าไง หรือว่าเกิดไม่กล้าขึ้นมาฮะ” ดูถูกฉันอีกแล้วนะยัยเซโกะ
“โถ่ คิดว่าแน่” ยัยนาชิเพื่อนยัยเซโกะพูด
“ใครว่า เดี๋ยวฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ...ถ้าฉันทำได้เอาเงินมาห้าพันเยน โอเคมั้ย”
“ให้อยู่แล้วน่า รีบไปเลย แล้วอย่าลืมเอาคำตอบมาด้วยนะ”
“อาขิ” นามิพยายามร้องห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล ขอโทษด้วยนะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีจริงๆ ฉันจะยอมให้ยัยพวกนั้นมาหยามไม่ได้
เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เรื่องแค่นี้คนอย่างอาขิทำได้อยู่แล้ว ฉันเลยตัดสินใจขั้นสุดท้ายโดยการเดินเข้าไปในวงล้อมนั้น ฉันอายจังเลยอะ-_-; ทุกคนเอาแต่จ้องมาที่ฉัน ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย พวกนายจะมามองหน้าฉันแบบนี้ไม่ได้นะ เมื่อไหร่จะถึงนะ ก่อนที่ฉันจะตาย ฉันขอหันไปมองนามิเพื่อนรักฉันก่อนได้มั้ย
“อาขิ” นามิร้องออกมาเบาๆ ส่วนยัยพวกตัวป่วนโรงเรียนก็ร้องบอกให้ฉันบอกเลยบอกเลยอยู่นั่นแหละ แถมยังให้รอฟังคำตอบมาด้วย นี่ฉันคิดผิดหรือคิดถูกเนี่ยที่มารับคำท้ายัยพวกนี้TT^TT เอาล่ะ คราวนี้เป็นไงเป็นกัน
“ใครชื่อยูอิจิ” ฉันตะโกนออกไปสุดเสียง แล้วทุกคนก็หันมามองก่อนที่จะยกมือขึ้นกันพรวดเดียวทั้งหมด พวกนายคิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าใครชื่อยูอิจิ ก็ยัยเซโกะบอกแล้วนี่นา
“พวกนายอย่ามาหลอกฉันเลยน่า เพื่อนอุ๊บ...” ฉันรีบเอามือปิดปาก จะให้พวกนี้รู้ไม่ได้ เดี๋ยวเสียฟอร์มหมด “ฉันรู้หรอกน่าว่าใครชื่อยูอิจิ” แล้วทุกคนก็ลดมือลงรวดเดียวพร้อมกัน ไม่รู้นัดกันมาหรือยังไง แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลย ก็อีตายูอิจินั่นแหละ เอาแต่นั่งเล่นเกมส์ตู้อยู่นั่นแหละ คิดว่าเท่ห์ตายแหละ (แล้วตอนแรกใครบอกว่าเท่ห์ยะ)
“ยูอิจิ” ฉันเรียกตาบ้านั่น แต่เค้ายังคงนั่งเล่นเกมส์อยู่ ไม่สนใจสิ่งที่ฉันพูดเลยแม้แต่นิด ผิดจากเพื่อนๆ เค้า ที่จ้องฉันตาแป๋ว
“เอาล่ะ ฉันไม่มีเวลามากนักหรอกนะ ฉันจะพูดธุระของฉันเลย...เอ่อ คือ ฉันชอบนาย” นี่ขนาดมีผู้หญิงมาบอกชอบต่อหน้าต่อตาบ้านั่นยังไม่มีอาการอะไรเลย สงสัยคงจะมีผู้หญิงมาบอกรักเยอะล่ะสิท่า แต่เสียใจที่คราวนี้ฉันมาโดยที่ฉันไม่ได้รักนายย่ะ
“หล่อนนี่กล้าชะมัดเลยว่ะ” ตาหัวทองพูด
“เธอก็น่ารักดีนี่หว่า” ตาหัวแดงพูด
“ใช่ๆ ถ้านายไม่เอา ฉันขอละกัน น่ารักอย่างเนี๊ย ฉันชอบ” ตาหัวดำพูด
“เงียบปากไปเลยพวกนายน่ะ” ฉันตะโกนใส่พวกเพื่อนๆ ขี้หลีของตานั่น พวกนั้นเงียบปากกันทันที แล้วก็มีเสียงซุบซิบแทน “ฉันขอฟังคำตอบด้วย ฉันไม่มีเวลามากนักหรอกนะ” ตาบ้านั่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้นเดินมาทางฉัน แล้วตานั่นก็มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า (ขี้เก๊กชะมัดเลยคนอะไรคิดว่าตัวเองหล่อนักหรือไง)
“-_-เธออยากได้คำตอบใช่มั้ย”
“อืม อุ๊บ” TT^TT นี่ใช่มั้ยคำตอบของนาย ตอบอย่างอื่นไม่ได้หรือไง ทำไมจะต้องมาจูบฉันด้วย นี่มันจูบแรกของฉันเลยนะTT^TT ฉันเก็บไว้ให้สามีฉันในอนาคตข้างหน้าของฉัน คนที่ฉันรัก แต่มันต้องไม่ใช่คนอย่างนาย
ฉันพยายามผลักตานั่นออก แต่ทำไมมันไม่กระเตื้องเลยนะ เค้ากลับยิ่งกระชับฉันแน่นขึ้นอีก ฉันไม่ควรรับคำท้ายัยเซโกะเลยจริงๆ ไม่งั้นเรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้หรอก
ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเค้าเริ่มจะถอนปากออกแล้วล่ะ เพราฉันรับรู้ได้ถึงกลิ่นไอร้อนจากริมฝีปากค่อยๆ หายไป เกือบหายใจไม่ออกแหนะ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าการจูบใครสักคนมันแทบจะทำให้ขาดลมหายใจตายได้
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก” ฉันไอออกมาพลางเอามือถูที่ปาก ก็มันเหมือนขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะหนึ่งนี่นา
“ตาบ้า นายนี่มันทุเรศที่สุดเลย แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก” ฉันไอออกมาอีกครั้ง
“นี่เธอยังไม่เคยจูบกับผู้ชายเลยหรือไง-_-” ตาบ้านั่นยืนพิงตู้เกมส์ล้วงกระเป๋า ชิ คิดว่าหล่อนักหรือไง
“อาการแบบนี้ เคยจูบมั้งเนี่ย แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก”
“งั้นฉันก็เป็นผู้ชายคนแรกที่ได้จูบเธอน่ะสิ^^” ตาบ้านั่นเปลี่ยนสีหน้าทันที
“บ้า หวังว่าชาตินี้เราคงไม่ต้องเจอกันอีกนะ” แล้วฉันก็รีบเดินฝ่าฝูงนักเรียนออกมา ตาบ้าเอ๊ย วันหลังฉันจะไม่รับคำท้าบ้าๆ แบบนี้อีกแล้ว สาบานได้เลย
“อาขิ เป็นไงบ้าง”
“เป็นไงเล่า บ้าชะมัดเลย...นี่ยัยเซโกะ เอาเงินมาด้วยห้าพันเยน” ถึงฉันจะโกรธมากแค่ไหนแต่ฉันก็ไม่ลืมเรื่องเงินหรอก
“คิดว่าหลังจากโดนจูบ จะลืมซะอีก”
“ไม่มีทางย่ะ แล้วก็ไม่ต้องย้ำมากก็ได้นะไอเรื่องนี้น่ะ ลืมได้ลืมไป เข้าใจมั้ย ซวยชะมัดเลย...เอ้า รีบๆ หน่อย หยิบแค่นี้มันยากเย็นนักหรือยังไง” ยัยเซโกะควักเงินออกมาจากกระเป๋าถือสีชมพูแป๊ดของเจ้าหล่อน
“รู้อย่างนี้ฉันน่าจะไปเองดีกว่า ไม่น่าปล่อยให้โอบะไปเลยจริงๆ ได้จูบกับยูอิจิฟรีๆ อีกต่างหาก ได้กำไรชะมัด”
“เอามาเลย” ฉันดึงเงินมาจากยัยเซโกะอย่างรวดเร็ว “แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่ไปเองล่ะ มาบ่นตอนนี้แล้วได้อะไรขึ้นมา...ไปกันเถอะนามิ” ฉันลากมินามิออกไปจากขุมนรกนี่ วันนี้จะต้องเป็นวันที่ฉันซวยที่สุดในรอบหนึ่งปีในการเปิดเทอมภาคฤดูใบไม้ผลิแน่เลย
ตอนนี้ก็ผ่านเรื่องอันเลวร้ายมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว หวังว่าเคราะห์กรรมของฉันคงจะหมดสิ้นไปแล้วนะ ฉันเลยตัดสินใจโทรฯไปชวนมินามิออกไปร้องคาราโอเกะ แล้วเราก็นัดเจอกันที่ โคเอ็น
ฉันมาถึงที่นัดหมายก่อนเวลา 15 นาที เลยไปหาที่นั่งรออยู่แถวๆ นั้น ฉันเลยเลือกไปนั่งที่ชิงช้า มีต้นไม้ล้อมหลังอย่างร่มรื่น มองออกไปข้างหน้าก็เห็นฟุญิซัง แล้วก็มีต้นซากุระออกดอกบานสะพรั่ง ก็ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลินี่นา
“นี่ เธอมาคนเดียวหรอ-_-”
“อา นายมาได้ไง>.,<” วันนี้ฉันคงไม่ได้เจอเรื่องดีแน่ๆ ที่เจอนายแต่เช้าเลย
“ก็มันที่สาธารณะ ทำไมฉันจะมาไม่ได้” หลังจากที่ตาบ้านั่นยืนพิงต้นไม้เสร็จก็เดินมานั่งที่ชิงช้าข้างๆ ฉัน
“รู้แล้ว แต่ทำไมไม่ไปนั่งที่อื่นเล่า จะมานั่งตรงนี้ทำไม เดี๋ยวเพื่อนฉันก็มาแล้ว”
“ฉันก็นั่งจนกว่าเพื่อนเธอจะมาก็ได้นี่นา-_-”
“ไม่ให้นั่ง” ฉันตอบเสียงแข็ง
“อยากตายหรือไง”
“ป่าเถื่อนที่สุดเลย-_-^”
“ว่าแต่มาทำอะไรที่นี่น่ะ”
“ซักผ้ามั้ง”
“อา-_-^” ตาบ้านั่นยกมือขึ้นจะตีฉัน
“>_<อย่านะ” ฉันร้องพลางเอามือปิดหัว แล้วตาบ้านั่นก็ลดมือลง
“ไปกันเถอะ” แล้วตาบ้านั่นก็ลากฉันไป
“ไปไหน ฉันต้องรอเพื่อนฉันนะ”
“จะมาดีๆ หรือจะให้อุ้ม=o=”
“ไปก็ได้” ตาบ้า ชอบใช้กำลังกับผู้หญิง
แล้วเค้าก็ลากฉันมาที่ๆหนึ่ง มีแต่ต้นซากุระเต็มไปหมด แถมยังร่วงหล่นเป็นทางเดินยาวสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย
“ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย ว้าว สวยชะมัดเลย” ฉันพูดพลางเอามือลองรับกลีบดอกซากุระที่กำลังจะร่วงตกพื้น
“ฉันก็ไม่รู้-_- ฉันเพิ่งเห็นมันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง”
“มีความสุขหน่อยได้มั้ย อยู่ในที่สวยๆ แบบนี้ควรจะมีความสุขสิ ไม่ใช่ทำหน้าบึ้งตึงอย่างนี้” ฉันพูดพลางเดินไปฉีกแก้มตาบ้านั่น ทำไมไม่ยิ้มเหมือนวันนั้นนะ แต่ก็ดีแล้ว ถ้านายยิ้มอีก มีหวังฉันคงต้องละลายไปกับตานายแน่ๆ เลย
“อา”
^^...
“>_<อย่านะ ไม่เล่นก็ได้ โถ่” เอะอะอะไรก็จะตีจะตี สักวันหนึ่งเถอะ ฉันจะตีนายกลับบ้าง
“กลับไปได้แล้วไป”
“ทำไมชอบไล่จังเลย นายเป็นคนพาฉันมานะ”
“บอกให้ไปได้แล้วไง”
“ไม่ไป”
“อยากตายหรือไง”
“อา ไปก็ได้” ฉันหันไปบอกลาซากุระเล็กน้อยก่อนที่จะหันมาหาตาบ้านั่น
“นาย... อุ๊บ” TT^TT นายจูบฉันอีกแล้วนะ คนฉวยโอกาส ฉันอยากฆ่านายให้ตายไปตอนนี้เลย ตาบ้า
“ฉัน... อุ๊บ” TT^TT เค้าถอนปากออก แล้วดึงฉันเข้าไปจูบใหม่ 1 นาที 2 นาที...ฉันหายใจไม่ออกแล้วนะ อย่าทำแบบนี้กับฉันได้มั้ย
“ไปได้แล้วล่ะ” นายถอนปากออกไปตอนไหนเนี่ย
“ตาบ้า” แล้วฉันก็รีบวิ่งกลับบ้านไปทันที ฉันไม่เข้าใจ ทำไมเค้าจะต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย
“
^^
”
“วันนั้นเธอไม่ได้ไปตามนัด” นามิถามฉันตอนเริ่มคาบเรียนแรก (แต่อาจารย์ยังไม่เข้า)
“ฉันขอโทษ พอดีมีเรื่องนิดหน่อย”
“มีเรื่องอะไรร้ายแรงหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า” พอดีอาจารย์เข้ามา นามิเลยไม่มีโอกาสได้ถามอะไรฉันต่อ แต่โชคร้ายที่เลิกเรียนนามิก็ยังไม่ลืมเรื่องที่เราสองคนคุยค้างกันไว้ตอนคาบเรียนแรก
“อาขิจัง บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว” นามิถามฉันทันทีเมื่อเรามาถึงสนามหน้าโรงเรียน
“ไม่มีอะไรหรอกน่า”
“ฉันไม่เชื่อ” นามิตอบเสียงแข็ง
“นั่นอะไรน่ะ” พอดีฉันเหลือบไปเห็นพวกนักเรียนหญิงมุงดูอะไรสักอย่าง ซึ่งคาดว่าน่าจะน่าสนใจมาก ไม่อย่างนั้นคนคงไม่เยอะอย่างนั้นแน่ อยู่หน้าโรงเรียน ซึ่งมันก็ทำให้ฉันรอดตัวจากนามิได้
“ไปดูกัน” นามิลากฉันไปที่หน้าประตูโรงเรียนทันที ฉันกับนามิแทรกตัวเข้าไปท่ามกลางฝูงชนนักเรียน อยากรู้จังว่ามีอะไรน่าสนใจ มีตัวประหลาดหรอ หรือว่าเค้ามาแจกของฟรี
“อา ไม่นะ ฉันไม่อยากอยู่แล้ว” ฉันหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว แล้วค่อยๆ ย่องหนีไป หวังว่าตาบ้ายูอิจินั่นคงจะไม่เห็นหรอกนะ
“เธอจะไปไหนน่ะ หันกลับมาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อยากตาย" เค้าคงไม่ได้หมายความถึงฉันหรอกมั้ง ไปก่อนดีกว่า
“อา-ขิ-จัง หันกลับมาถ้าเธอไม่อยากตาย”
“ฉะ ฉะ ฉันหรอ^-^;” ฉันหันกลับไปอย่างช้าๆ
“ใช่ เธอจะไปไหน”
“เปล่าซะหน่อย ฉันแค่จะกลับบ้าน”
“ประตูทางออกมันทางนี้ไม่ใช่หรอ”
“อ๋อ คะ คือว่าเมื่อกี้ฉันเห็นคนมันเยอะน่ะ ก็เลยจะเดินอ้อมไปทางด้านหลัง”
“ด้านหลังไม่มีประตู”
“อ๋อ ฉันหมายถึงจะอ้อมไปทางด้านหลังพวกนี้น่ะ”
“มานี่ซิ”
“ฉันหรอ” ชี้หน้าตัวเองแล้วงง
“เธอนั่นแหล่ะ อิจิ...นี...ซั...” ตาบ้านั่นเริ่มนับเลข
“ไปแล้ว ไปแล้ว” ฉันรีบวิ่งไปหาเค้าอย่างรวดเร็ว เกิดตาบ้านี่ผีเข้าตีฉันขึ้นมาล่ะจะยุ่ง
“รีบไปเถอะ-_- ฉันขี้เกียจอยู่ที่นี่นาน”
“แล้วใครเค้าอยากให้คนอย่างนายอยู่ล่ะ”
“อะไรนะ”
“เปล่าซะหน่อย ว่าแต่ฉันไม่ต้องไปใช่มั้ย”
“ใช่ เธอต้องไปกับฉัน”
“ฮะ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่าสาวน้อย ไม่มีใครทำอะไรเธอหรอก” เพื่อนของตาบ้านั่นพูด วันนี้เอามาคนเดียวเองหรือยะ ทีวันนั้นล่ะก็...
“งั้นฉันเอาเพื่อนไปด้วยนะ”
“ใคร”
“นามิจัง”
“แล้วตามมาเร็วๆ ล่ะ”
“จ๊ะ^-^;” ตาบ้า ฉันจะหนีนายได้ยังไงดีล่ะเนี่ย สวรรค์ ช่วยลูกด้วยเถอะ
“เธออยากไปไหน”
“คาราโอเกะ”
“ดี งั้นเราไปร้านไอศกรีมกัน” แล้วจะถามทำไมล่ะยะ ฉันยังไม่รู้เลยเนี่ยว่านามิหายไปตอนไหน รวมทั้งเพื่อนตาบ้านี่ด้วย ปล่อยให้ฉันอยู่กับคนป่าเถื่อนสองต่อสองได้ยังไงกัน คอยดูเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะด่าให้
“เอาอะไร”
“น้ำเปล่า”
“ซันเดย์สอง” ตาบ้านั่นหันไปสั่งพนักงาน แล้วเดินนำไปนั่งที่โต๊ะติดหน้าต่าง
“จะไม่พูดอะไรเลยหรือยังไง” ตาบ้าถามน้ำเสียงดุ
“ไม่มีอะไรจะพูด”
“อาทิตย์หน้าวันเกิดฉัน”
“แล้วมาบอกฉันทำไม ไปบอกแฟนนายโน่นไป”
“อย่าประชดได้ไหม ว่าแต่เธอชอบอะไร”
“...”
“ยูอิจิ มาที่นี่ได้ยังไงน่ะ หรือว่ามาดักรอพบฉัน” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น อยู่โรงเรียนเดียวกับตาบ้านี่ และคาดว่าจะอยู่ชั้นเดียวกันด้วย เธอมากับเพื่อนอีกสองคน ท่าทางสวยใช่เล่น แต่นิสัยคาดว่าน่าจะแย่
“-_-“
“แล้วนี่เธอพาใครมาด้วยน่ะ หรือว่าที่เธอบอกเลิกฉันก็เพราะแม่นี่ เธอจะหาคนสวยกว่าฉันไม่ได้หรือยังไง ^o^”
“ไปกันเถอะ” ตาบ้านั่นจับมือฉันแล้วพาเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อนสิยูอิจิ เธอจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ” เมื่อเค้าลากฉันออกมาพ้นจากแม่พวกนั้นแล้ว เค้าก็ไล่ฉันกลับทันที
“กลับไปได้แล้วล่ะ”
“ไล่ฉันอีกแล้วนะ”
“บอกให้กลับไปไงเล่า-_-” ตาบ้านั่นพูดเสียงดังขึ้น
“นี่ ถ้านายโมโหแฟนนายก็โมโหไป แต่อย่ามาลงกับคนอื่นเค้าแบบนี้
ไปล่ะ”
“เดี๋ยว”
“อะไรอีกล่ะ”
“เอามือถือเธอมาซิ”
“เอาไปทำไม” ตาบ้านั่นหยิบมือถือจากกระเป๋าเสื้อฉันไปหน้าตาเฉย ฉันยังไม่ได้อนุญาตเลยนะ แล้วก็ดูเหมือนเค้าจะกดอะไรสักอย่างบนมือถือแล้วก็ยื่นคืนให้ฉัน
“โทรฯหาฉันด้วยล่ะ” แล้วตาบ้านั่นก็เดินจากไป อ๋อ งั้นเมื่อกี้ตาบ้านั่นคงจะบันทึกเบอร์เค้าเข้าเครื่องฉันล่ะสิ ...ฉันไม่โทรฯ
ติ๊ด ตะลิ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงมือถือฉันดังขึ้น
“ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ใครโทรฯมาอีกเนี่ย ฮ้าว”
‘โมชิโมชิ’ ฉันกดรับโทรศัพท์
‘เฮ้ นี่มันกี่โมงแล้ว ทำไมเธอไม่โทรฯหาฉัน’
‘ใครน่ะ ซาไคหรอ ’
‘ใครคือซาไค’
‘อ้าว แล้วนายไม่ใช่ซาไคหรอ แล้วนายเป็นใครเล่า ฮ้าว’
‘ฉันถามว่าใครคือซาไค’
‘แล้วนายเป็นใคร’
‘อยากตายหรือไง ฉันถามว่าใครคือซาไค’ ชัดเลย ปากแบบนี้มีอยู่คนเดียว
‘ยู ยูอิจิหรอ’
‘มัน-เป็น-ใคร’
‘นายถามถึงใครเล่า’
‘อิจิ...นี...ซั...’
‘เค้า เค้าเป็นเพื่อนฉัน’
‘อา อย่ามาหรอกฉันน่า’
‘ก็บอกว่าเป็นเพื่อนไงเล่า...แล้วนายโทรฯมาดึกๆ ดื่นๆ มีอะไร’
‘เธอไม่ได้โทรฯหาฉัน’
‘ฉันไม่ว่าง แล้วอีกอย่าง ไม่มีธุระอะไรสำคัญที่จะต้องโทรฯไปด้วย’
‘เธอคิดว่าเรื่องของฉันไม่สำคัญงั้นสิ’
‘มันไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย แล้วนายมีอะไรหรือเปล่า’
ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด ตู๊ดดดดด
“อะไรกัน ยังคุยไม่ทันรู้เรื่องเลยก็วางไปซะแล้ว มีอะไรกับเค้าหรือเปล่าน้า คงไม่หรอกมั้ง ตาบ้านั่นเก่งออกจะตายไป ฮ้าว ง่วงจังเลย ขอนอนก่อนละกัน”
“วันนี้เธอมีนัดอีกหรือเปล่าเนี่ย”
...เธอคิดว่าเรื่องของฉันมันไม่สำคัญงั้นสิ
“อาขิจัง”
มันไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย...
“อาขิ”
“ฮะ มีอะไรหรอ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ ฉันไม่ได้ฟัง ขอโทษด้วยนะ”
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่าพักนี้ดูเหม่อบ่อยนะ”
“เปล่า ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ว่าแต่เมื่อกี้เธอมีอะไรหรอ”
“ฉันถามเธอว่า วันนี้เธอมีนัดอีกหรือเปล่า”
“ไม่นี่ ฉันไม่มี”
“งั้นเราไปไหนกันดีล่ะวันนี้น่ะ”
“ฉันเหนื่อย อยากกลับบ้าน”
“อะไรของเธอกันเล่า”
“ไปก่อนนะ บาย” ฉันรีบหยิบกระเป๋าแล้วเดินกลับบ้านทันที ทิ้งให้นามินั่งงงอยู่อย่างนั้น ทำไมวันนี้เค้าไม่มารับฉันเหมือนเมื่อวันก่อนๆ นะ หรือว่าเมื่อวานเค้าจะเกิดเรื่อง ฉันน่าจะโทรฯไปหาเค้าตั้งแต่เมื่อคืน ไม่งั้นฉันก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้หรอก
“อาขิ” มีเสียงๆ หนึ่งเรียกฉัน เมื่อฉันมาถึงหน้าบ้าน
“นายเป็นใคร”
“ทซึยะ เป็นเพื่อนของยูอิจิ”
“อ้อ แล้วว่าแต่มีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า”
“ฉันจะมาบอกเธอว่า เมื่อวานยูอิจิเข้าโรงพยาบาล”
“ฮะT^T แล้วทำไมไม่มาบอกฉันให้เร็วกว่านี้หน่อยเล่า ไปกันเถอะ” ฉันรีบลากตาทซึยะทันที
“ไปไหน”
“ก็ไปเยี่ยมตาบ้านั่นไงเล่า”
“อย่าเพิ่งเลยดีกว่า เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไป”
“ทำไมล่ะ” ฉันเป็นห่วงเค้าจะตายอยู่แล้วนะ นายจะมาห้ามฉันไว้ทำไม
“เค้ายังโกรธเธออยู่ไงเล่า”
“โกรธ”
“ใช่ ก็เมื่อวานเธอไม่ได้โทรฯไปหามัน เธอไม่รู้หรอกว่าทำไมมันถึงเข้าโรงพยาบาล”
“แล้วทำไมเล่า รีบเล่ามาเร็วๆ ได้ไหม ลีลาเยอะจังเลยนะ เค้าเข้าโรงพยาบาลทำไม”
“แต่เธอต้องสัญญาก่อนว่าห้ามขัด ตกลงไหม”
“ก็ได้”
“เมื่อวานมันไปมีเรื่องกับเด็กโรงเรียนคิวเพราะเธอ”
“เพราะฉันเนี่ยนะ”
“บอกว่าอย่าขัดไงเล่า”
“ขอโทษ”
“เธอรู้มั้ยสาเหตุมันเป็นเพราะอะไร” (-- ) ( --) แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า “เมื่อวานยูอิจิเมามาก ปกติมันไม่เคยเมาขนาดนี้หรอก เมื่อวานมันกะจะซื้อของขวัญให้เธอ แต่มันยังไม่รู้ว่าเธอชอบอะไรเพราะเมื่อวานที่ร้านไอศกรีมเธอกับยูอิจิยังคุยกันไม่รู้เรื่องโยโกะก็เข้ามาขัดซะก่อน” ไม่น่าล่ะถึงได้ถามว่าฉันชอบอะไร แล้วรู้ได้ไงว่าวันไหนเป็นวันเกิดฉัน ช่างเถอะ ว่าแต่แล้วทำไมถึงไปมีเรื่องได้ล่ะ “เธอคงคิดล่ะสิว่าทำไมมันถึงได้ไปมีเรื่อง” รู้ก็รีบบอกสิ “มันโมโหที่เธอพูดชื่อผู้ชายคนอื่นต่อหน้ามัน แล้วก็เป็นวันซวยของมันด้วยแหละ ไอคนที่นั่งโต๊ะข้างๆ มันชื่อซาไค” เชื่อเค้าเลย ซาไคเพื่อนฉันตอนนี้ยังอยู่เมืองนอกอยู่เลยย่ะ “มันก็เลยเข้าไปอาละวาดเค้าใหญ่ ดีนะเนี่ยที่พวกฉันมาช่วยไว้ทัน ไม่อย่างนั้นล่ะก็คงได้เป็นหนักกว่านี้แน่” แล้วทำไมไม่ถามให้รู้เรื่องก่อนนะ
“เค้าจะมาสนใจฉันทำไม ในเมื่อเค้าก็มีแฟนอยู่แล้วทั้งคน”
“หมายถึงโยโกะน่ะหรอ อย่าคิดมากเลยแล้วสักวันเธอจะได้รู้ มันจะเป็นคนบอกเธอเอง ฉันจะบอกอะไรให้ ยูอิจิมันไม่เคยสนใจใครมากเท่าเธอหรอก เชื่อใจเค้าบ้าง”
“อื้อTT^TT” น้ำตาฉันเริ่มไหลออกมา
“อย่าร้องไห้น่า ถ้ายูอิจิรู้ว่าฉันทำเธอร้องไห้มีหวังมันได้ฆ่าฉันตายแน่ๆ...เอาน่า พรุ่งนี้เธอก็ไปเยี่ยมมันได้ อ้อ อย่าลืมทำข้าวห่อสาหร่ายของโปรดมันไปด้วยนะ ฉันไปล่ะ บาย” แล้วทซึยะก็เดินจากไป ฉันมีเรื่องหลายอย่างอยากถามนาย แต่นายก็ต้องขอบคุณเพื่อนของนายนะที่มาเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง เพราะว่ามันทำให้คำถามที่ค้างคาใจฉันเหล่านั้นหายหมดเป็นปลิดทิ้ง แล้วอีกอย่าง มันก็ทำให้ฉันรักนาย
โชคดีนะที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ฉันเลยได้เตรียมข้าวห่อสาหร่ายได้เยอะหน่อย ฉันจะให้นายกินให้พุงแตกไปเลย หลังจากจัดข้าวห่อสาหร่ายเสร็จ ฉันก็นั่งรถไปที่โรงพยาบาลทันที คิดถึงนายจัง
เมื่อมาถึงหน้าโรงพยาบาลฉันก็เจอทซึยะ สงสัยคงมารอรับฉันล่ะมั้ง งั้นก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปถามห้องกับพยาบาล
“นายมารับฉันหรอ”
“อืม ไปกันเถอะ”
“อื้อ^^”
“วันนี้เธอดูมีความสุขจังนะ แล้วทำข้าวห่อสาหร่ายมาหรือเปล่า”
“แน่นอน นี่ไง” ฉันยกถุงผ้าสีฟ้าที่ห่อข้าวห่อสาหร่ายมาเต็มกระปุกให้ทซึยะดู
“พร้อมหรือยัง” ทซึยะถามเมื่อมาถึงหน้าห้องที่ยูอิจิพักอยู่
“ฉัน ฉันว่าฉันกลับก่อนดีกว่า” ชักไม่มั่นใจแล้วล่ะ ตอนแรกก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้มันหดเหลืออยู่แค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เอง “เข้าไปเถอะน่า เดี๋ยวฉันจะเข้าไปเป็นเพื่อน”
“มีคนอยู่กี่คนน่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้”
“แล้ว...” ฉันยังไม่ทันที่จะพูดจบ ทซึยะก็ผลักประตูเข้าไป แถมยังดันหลังฉันอีกแหนะ ไม่อยากดูเลยว่ามีคนอยู่ข้างในกี่คน “นี่อาขิ ลืมตาได้มั้ย หลับตาเดี๋ยวก็ชนหรอก” ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นตามคำบอกของทซึยะ นี่นายจะให้ฉันลืมตาทำไมเนี่ย มีคนอยู่ตั้งเยอะ แถมฉันยังไม่รู้จักอีกต่างหาก ทุกคนมองมาที่ฉันเป็นตาเดียว ยกเว้นเค้า เค้ายังคงนอนอยู่เฉยๆ สายตาเย็นชา ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย ฉันควรทำไงดี TT^TT แม่จ๋าช่วยหนูด้วย
“เธอมาทำไม” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งแทรกขึ้นมา ฉันว่าแม่นี่หน้าตาคุ้นๆ แฮะ อ๋อ จำได้แล้ว ก็ยัยโยโกะตัวแสบนั่นไงเล่า แล้วเธอล่ะมาทำไม “ฉัน...เอ่อ...ฉันแค่มาเยี่ยมยูอิจิน่ะ”
“เธอเป็นใครถึงจะได้มาเยี่ยมเค้าน่ะ ที่นี่มีแต่คนที่สนิทๆ กับยูอิจิเท่านั้น”
นั่นสินะ ฉันเป็นใคร ฉันก็แค่เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าคนที่นอนอยู่ข้างหน้ารู้สึกยังไงกับฉันเลยสักนิด
“นั่นสินะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันก็แค่แวะมาเยี่ยมเฉยๆ เท่านั้นแหละ...ฐานะคนเคยรู้จัก” ฉันหันไปทางยูอิจิ
TT.TT
“อาขิ” ทซึยะร้องออกมาเบาๆ นายคิดว่าฉันไม่เจ็บหรือไง ฉันเจ็บเจียนจะตายที่พูดคำนั้นออกไปTT.TT แต่มันก็จริงอย่างที่โยโกะบอก ฉันเป็นใคร ทำไมฉันถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้โดยที่คนที่อยู่ตรงหน้าไม่เคยสนใจว่าฉันจะเป็นยังไงเลยสักนิดTT.TT แต่ถ้าเค้ามีความสุขกับคำพูดที่ฉันพูดออกไป ฉันก็ยินดีที่จะเจ็บเพื่อให้เค้าได้มีความสุขTT.TT
“แล้วนั่นถุงอะไรน่ะ” เพื่อนเค้าอีกคนถาม
“ข้าวห่อสาหร่ายน่ะ แต่ฉันว่าตอนนี้มันคงไม่สำคัญแล้วล่ะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะ” ฉันก้มหัวให้ทุกคน แล้วหันไปหาทซึยะ ยื่นห่อผ้าให้ “ฉันฝากให้เค้าด้วยนะ ถ้าเค้าไม่ต้องการก็ทิ้งมันไปเถอะ มันคงไม่มีความสำคัญเหมือนคนทำนั่นแหละ ไปล่ะ” ฉันก้มหัวให้ทุกคนอีกครั้ง แล้วก็เดินออกจากห้องไป “เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ ลาก่อนนะยูอิจิ ฉันรักนาย”
“อาขิ เป็นอะไรหรือเปล่า อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์เธอเหม่อบ่อยจังนะ มีปัญหากับยูอิจิหรอ” ฉันโผเข้ากอดนามิ น้ำตาที่ฉันสั่งสมมาตั้งแต่วันนั้น มันไหลออกมารวดเดียวในวันนี้ ฉันจะทนไม่ไหวอีกแล้วนะ
“TTOTT เธอรู้มั้ย วันนั้นฉันไปหาเค้า เค้าไม่พูดกับฉันเลยสักคำ ไม่แม้แต่จะมองหน้าฉัน TTOTT ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี ฉันรักเค้า ได้ยินมั้ยว่าฉันรักเค้า TTOTT ฉันรักเค้ามาก ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง TTOTT เกิดขึ้นมาตอนไหน ถึงเค้าจะยั่วโมโหฉันตลอด ชอบใช้อำนาจ TTOTT แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังรักเค้า รักมาก รักจนหมดหัวใจฉัน TTOTT”
“ใจเย็นๆ ก่อนนะ ฉันว่าก่อนอื่นเธอควรไปบอกความจริงกับเค้า”
“ฉันจะบอกได้ยังไง ในเมื่อหน้าฉันเค้ายังไม่อยากจะมองมันเลย”
“กล้าๆ หน่อยสิ ฉันเชื่อว่าเธอต้องทำได้” มินามิส่งกำลังใจมาให้ฉันทางสายตา
“แต่ฉัน...”
“เอาน่า ไปคืนนี้เลย มะรืนก็วันเกิดเค้าแล้วนะ เธอจะมานั่งอมทุกข์อยู่อย่างนี้ไม่ได้ ถ้าเธอไม่ทำ เธอจะเสียใจไปตลอดชีวิต”
“อืมๆ ฉันจะทำ”
“ต้องอย่างนี้สิ ถึงจะเป็นอาขิตัวจริง”
แล้วคืนนั้นฉันก็ไปหายูอิจิที่โรงพยาบาล โดยไม่ลืมที่จะนำของฝากติดตัวไปด้วย ฉันต้องทำให้ได้ ขนาดเรื่องอื่นฉันยังทำได้เลย แล้วเรื่องแค่นี้คนอย่างอาขิจะทำไม่ได้หรือยังไง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ฉันเปิดประตูเข้าไปหวังว่าคงจะไม่มีใครอยู่นะ แล้วก็จริงอย่างที่คิด ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากยูอิจิที่หันหน้ามามองว่าใครมา แล้วก็หันกลับไปเมื่อเห็นหน้าฉัน นี่เค้ายังไม่หายโกรธฉันอีกหรอเนี่ย ฉันไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย
“ยูอิจิ”
“-_-”
“พูดอะไรบ้างได้มั้ย”
“เธอมาทำไม” เค้าถามฉันทั้งที่ยังหันหน้าไปคนละทางกับที่ฉันยืนอยู่
“หันหน้ามาหน่อยได้มั้ย ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย ยกโทษให้ฉันไม่ได้หรือไง นะ น้า ฉันผิดไปแล้ว”
“เธอกลับไปซะเถอะ ฉันจะนอนแล้ว”
“ตกลงนายจะไม่ยกโทษให้ฉันจริงๆ หรอ”
“...”
“ฉันมีอะไรจะบอกนายล่ะ ฉัน...ฉันเอาข้าวห่อสาหร่ายมาฝากด้วยล่ะ วางไว้บนโต๊ะนะ จะกินก็มาหยิบเอาละกัน แล้วก็...” ฉันเดินไปหายูอิจิที่นอนอยู่บนเตียงคนป่วย ดูตอนนี้เค้าไม่เหมือนยูอิจิคนเก่าเลยแฮะ ก็แหงล่ะ โดนซ้อมซะขนาดนั้น
“ฉันมีเรื่องจะบอกนายอีกเรื่องหนึ่ง” ฉันเลื่อนปากเค้าไปใกล้หูเค้า แต่เค้ากลับหลับไม่สนใจ ไม่เป็นไร ถึงนายไม่ได้ยิน ฉันก็จะถือว่านายได้ยินแล้วละกันนะ
“ขอโทษนะ” ฉันกระซิบที่หูเค้าเบาๆ ในที่สุดฉันก็ทำไม่ได้จริงๆ เค้าลืมตาขึ้นมา แต่ก่อนที่ฉันจะหลบทัน เค้าก็ดึงฉันเข้าไปจูบแล้ว แต่ครั้งมีฉันรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนที่เค้ามอบให้ ถ้าการจูบครั้งนี้มันทำให้นายหายโกรธฉัน ฉันก็ยินดี
“นี่...” พอฉันหลุดจากปากเค้าสักพัก เค้าก็ดึงฉันเข้าไปจูบอีก นายอยากให้ฉันตายหรือยังไง แต่ถ้าฉันจะตายในอ้อมกอดนายฉันก็ยอม อกที่อบอุ่นของนาย
“ลืมตาซะ” ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นตามเสียงบอกของเค้า
“นายหายโกรธฉันหรือยัง”
“...”
“ทำไมนายถึงง้อยากง้อเย็นแบบนี้นะ จะให้ฉันทำยังไงนายถึงจะยอมยกโทษให้ฉันฮะ”
“มะรืนบอก”
^^
“งั้นวันนี้นายยังไม่หายโกรธฉันใช่มั้ย”
“...”
“งั้นฉันกลับล่ะ”
“เดี๋ยว” เค้าหยิบอะไรสักอย่างออกมาจากใต้หมอนมันเป็นสร้อยคู่รัก เส้นหนึ่งเป็นกรอบดาว ส่วนอีกเส้นเป็นรูปดาว สงสัยเค้าคงจะฝากฉันไปให้แฟนเค้าล่ะมั้งเนี่ย
“มานี่ซิ”
“ฮะ”
“บอกว่าให้มานี่”
“อืมๆ” แล้วฉันก็เดินไปหาเค้าโดยปริยาย
“เอาหัวมานี่”
“อะไรกันเล่า” เค้าไม่พูดอะไร แต่จับหัวฉันมาใกล้ๆ แล้วค่อยๆ ใส่สร้อยที่เป็นรูปดาวให้ฉัน
“ใส่ให้ฉันด้วย” เค้าสั่งเสียงดุ ตาบ้านี่ขนาดไม่สบายอยู่นะเนี่ย
“ทำไมต้องใส่”
“อยากตายหรือไง”
“ก็ได้” ฉันปลดตะขอออก แล้วค่อยๆ สวมให้เค้า “สวมเองไม่เป็นหรือไง มือก็มี ทีเรื่องอื่นล่ะทำเป็นเก่ง”
“บ่นอะไร”
“=o=เปล่าซะหน่อย”
“ไปได้แล้วไป”
“=_=^นี่ฉันเพิ่งจะมานะ”
“ก็เมื่อกี้เธอบอกว่าจะกลับไงเล่า จะไปก็รีบไปเลยไป ไปๆ” ตาบ้ากวักมือไล่ฉัน นี่เค้าทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง
“ไปก็ได้ ไม่ต้องมาไล่หรอก แล้วจะไม่มาอีกเลย-_-^”
“เฮ้ ได้ไงอะ อย่าลืมสิมะรืนวันเกิดฉันแล้วเธอก็ต้องไปด้วย”
“ไปไหน”
“ที่เดิม เที่ยงคืน”
“บ้าหรือไง เที่ยงคืน แม่ฉันด่าตาย”
“ถ้าเธอไม่มาก็ไม่ต้องเจอกันอีกเลย”
“เชอะ คิดว่าสนหรอ”
“อา” ตาบ้ายกมือขึ้นจะตีฉัน แต่เสียใจฉันวิ่งไปถึงประตูแล้ว
“ไปแล้วนะ อ้อ ข้าวห่อสาหร่ายอย่าลืมกินด้วยล่ะ ทำตั้งนานแล้ว”
“อย่าลืมมาตามนัดล่ะ”
“Maybe”
“Maybe หรอ อยากตายหรือไง” ตาบ้านั่นหยิบหมอนขึ้นมาเตรียมที่จะขว้างใส่ฉันได้ทุกนาที
“ไปล่ะนะ บาย” แล้วฉันก็วิ่งออกไป ไม่อย่างนั้นโดนหมอนที่เค้าถืออยู่ขว้างใส่หน้าแน่ๆ
อยากให้ถึงมะรืนเร็วๆ จัง แต่ทำไมจะต้องนัดตอนเที่ยงคืนด้วยล่ะ อยากให้ฉันโดนแม่ด่างั้นสิ ตาบ้าร้ายกาจจริงๆ เลยนะ วันเกิดงั้นหรอ ฉันควรจะให้อะไรเค้าดีนะ ฉันจับสร้อยที่เค้าให้ไปพลางคิดเรื่องของขวัญไป เอาอะไรดีนะ ควรจะเป็นของที่ใช้ได้นาน มีประโยชน์ แล้วก็เป็นที่ระลึก หมวกดีมั้ยนะ ไม่เอาดีกว่า ยิ่งเป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่ อ้อ นึกออกแล้ว ซื้อถุงมือให้ดีกว่า จะได้อบอุ่น เอาล่ะพรุ่งนี้ค่อยเริ่มปฏิบัติการ วันนี้ ฮ้าว ขอนอนก่อนละกัน ฝันดีนะยูอิจิ
วันนี้อากาสดีจัง เริ่มปฏิบัติการได้ อันดับแรก ดูเงินในกระเป๋าว่ามีอยู่เท่าไหร่ อันดับสอง หาร้านที่ขายถุงมือที่ถูกที่สุดในย่านนี้ อันดับสาม เอ เค้าชอบสีอะไรนะ โทรฯถามได้มั้ยเนี่ย เบอร์อยู่ในกระเป๋า จัดการโทรฯ
‘ฮัลโหล ยูอิจิ นี่ฉันเองนะ’
‘ฉันน่ะใคร’ แค่นี้ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยเล่า
‘อาขิ’
‘โทรฯมาทำไม’ คิดว่าอยากโทรฯนักหรือไง
‘นายชอบสีอะไร’
‘ฮะ’
‘ฉันถามว่านายชอบสีอะไร’
‘ถามทำไม’
‘แล้วชอบสีอะไรเล่า ฉันไม่มีเวลามากนักหรอกนะ’
‘น้ำเงิน’
‘อ้อ งั้นแค่นี้ก่อนนะ’
‘เดี๋ยว แล้ววันนี้จะมาหรือเปล่า’
‘ไม่...’ ตาบ้านั่นวางสายทันที นี่ฉันยังพูดไม่ทันจบเลยนะ ฉันจะบอกนายว่า ไม่ปฏิเสธ ตีตนไปก่อนใคร่จริงๆ เลยนะนายน่ะ
หลังจากฉันถามเค้าเสร็จ อันดับต่อไปที่ต้องทำก็คือ ต่อราคา พอต่อราคาได้แล้ว ลำดับต่อไปก็เลือกถุงมือสองคู่ เอาที่ใส่แล้วอุ่นที่สุดสีน้ำเงิน จากนั้นจ่ายเงินเท่าราคาที่ต่อไว้ อันดับสุดท้าย ไปหาคนขี้งอนที่โรงพยาบาล
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“นี่ยูอิจิ” โห เค้าไม่ได้อยู่คนเดียวนี่นา มีคนอยู่ตั้งเยอะ รวมทั้งผู้หญิงคนนั้นด้วย
“อ้าวอาขิ มาได้ไงน่ะ” ทซึยะทักฉันทันทีที่เห็น
“บังเอิญว่าคนขี้งอนแถวนี้โทรฯไปตามน่ะ” ฉันเหน็บแนมพลางมองไปทางยูอิจิ
“เธอว่าใคร” ยูอิจิหันหน้ามาทางฉันทันทีหลังจากที่เมื่อกี้หันหลังให้ฉํนอยู่
“เปล่านี่”
“เธอมาที่นี่อีกทำไม” ยัยโยโกะผู้หญิงปากร้ายคนนั้นเอ่ยขึ้น
“แค่แวะเอาของมาให้ยูอิจิเท่านั้นแหละ”
“กลับไปเลยนะ เธอไม่มีสิทธิ์มาที่นี่” ยัยผู้หญิงปากร้ายแหวใส่ฉัน
“หุบปากน่า” ยูอิจิตะโกนเสียงดัง ทุกคนในห้องอยู่ในความสงบ นี่เค้ามีอิทธิพลมากขนาดนี้เลยหรือไง
“นั่นกล่องอะไร”
“กล่อง อ๋อ กล่องของขวัญนายน่ะ” ฉันเดินไปหายูอิจิ แล้วยื่นกล่องให้เค้า ส่วนทุกคนในห้องมองมาที่เราเป็นตาเดียว
“ออกไปกันก่อน” ยูอิจิหันไปสั่งพวกที่อยู่ในห้อง หมายถึงฉันด้วยหรือเปล่านะ แล้วพวกนั้นก็ค่อยๆ ทยอยเดินกันออกไป ยกเว้นยัยปากปิศาจนั่น
“เธอหมายถึงฉันด้วยหรือเปล่า” ยัยปากปิศาจแทรกขึ้นทำลายความเงียบ
“ออก-ไป” ยูอิจิพูดเสียงดังกว่าเดิม
“แต่...”
“ฉันบอกให้ออกไป” คราวนี้เค้าตะโกนเสียงดัง เล่นเอายัยนั่นสะดุ้งไปเลย แล้วทซึยะก็เข้ามาลากตัวเธอออกไป
“หมอบอกให้ออกวันไหนน่ะ” ฉันพูดขึ้นทำลายความเงียบ
“วันนี้”
“แล้วทำไมยังไม่ออกอีก”
“ฉันนั่งรอยัยบ้าคนหนึ่งอยู่”
“เชอะ เออนี่ ฉันเอาของขวัญมาให้ อย่าเพิ่งเปิดตอนนี้นะ” ฉันบอกเค้าเมื่อเห็นเค้าพยามใช้มือแกะอยู่
“ไม่ให้เปิดแล้วจะเอามาให้ทำไม”
“น่า ฉันซื้อมาให้นายใส่ไปพรุ่งนี้ แล้วก็อย่าลืมใส่ไปด้วยนะ ไม่อย่างนั้นนายตายแน่ ทั้งหมดนี่มันเงินเก็บของฉันทั้งเดือนเลยนะ ฉันกลับล่ะ เมื่อฉันไปแล้วนายก็แกะมันดูได้ หวังว่านายคงจะชอบนะ”
“Maybe”
“Maybeหรอ ไม่ มันต้องNeeds like. เข้าใจ๊ ไปล่ะ หลับฝันดีนะ บาย” -_-; แล้วฉันก็เดินออกจากห้องมา ไม่รู้ว่าเค้าจะแกะหรือยังนะ นายต้องชอบรู้มั้ย เพราะฉันเลือกแทบตาย ส่วนอีกคู่ก็อยู่ที่ฉันแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะใส่ไปหานาย
“Needs like.หรอ ^^”
ในที่สุดก็ถึงวันที่ฉันรอคอยมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม ตื่นเต้นจัง ฉันจัดการสวมถุงมือที่ซื้อมา แล้วก็สร้อยที่เค้าให้ คำตอบของเค้าจะเป็นอะไรนะ นี่กี่โมงแล้วเนี่ย ห้าทุ่มสิบห้า ไปก่อนเวลาดีกว่า แล้วฉันก็มาถึงที่นัดหมายเวลาห้าทุ่มสี่สิบ ฉันมองสำรวจไปรอบๆ ดูซิว่าเค้ามาหรือยัง แต่ก็ไม่มีวี่แวว เอ๊ะ นั่นมันป้ายอะไรน่ะ ฉันเดินไปดูใกล้ๆ ป้ายเขียนว่าไปตามทางที่ลูกสอนชี้ ลงชื่อ ทซึยะ แล้วฉันก็เดินไปตามที่ป้ายบอก ซึ่งมีกลีบดอกซากุระโรยตามทางไปสุดลูกหูลูกตา ฉันอยากรู้จังว่ามันจะไปหยุดอยู่ที่ไหน ฉันเดินไปเรื่อยๆ สองข้างทางมืดสนิท ไฟเสียหรือยังไงนะน่ากลัวจัง แล้วกลีบดอกซากุระก็มาหยุดอยู่ที่ทะเล แต่มันไม่มีไฟเลยนี่สิ แล้วแบบนี้ฉันจะเห็นอะไรได้ล่ะ แต่อย่าน้อยบนฟ้าวันนี้ก็มีดาวนับร้อยดวงกระจัดกระจายส่องแสงแวววับอยู่บนผืนนภาสีน้ำเงิน ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามีที่แบบนี้อยู่ด้วยโรแมนติกชะมัด ฉันเดินตรงไปยังทะเลแล้วจู่ๆ ไฟก็สว่างขึ้น ปรากฏให้เห็นเสาไฟตั้งเป็นรูปหัวใจแล้วกลีบดอกซากุระก็โปรยลงมา แล้วจู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งใส่หมวกมิดชิดเหมือนพวกมิจฉาชีพเดินตรงมาที่ฉัน แล้วค่อยๆ เปิดหมวกออก โถ่เอ๊ย คิดว่าใครเล่นเอาตกอกตกใจหมด อีตาบ้าเอ๊ย
“ยูอิจิ นี่มันอะไรกัน”
“ฉันมีเรื่องจะบอก”
“เรื่องอะไร”
“คนบางคนอยากได้รับความอ่อนโยนจากคนที่เรารู้สึกว่าใช่ คนบางคนยอมเจ็บตัวเพื่อใครบางคน คนบางคนอยากได้ความห่วงใยจากคนที่เราสนใจ คนบางคนไม่อยากให้คนที่เราสนใจไปมองใครคนอื่นนอกจากคนๆ นั้น คนบางคนเกิดมาเพื่อคนอีกคน คนสองคนเกิดมาเพื่อกันและกัน ก็เหมือนอย่างที่เธอเกิดมาเพื่อให้ชีวิตฉันได้มีความสุข เธอคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน เธอจะเป็นผู้หญิงคนแรกและผู้หญิงคนสุดท้ายที่ฉันจะรัก เธอทำให้ฉันรู้จักความรัก ตลอดเวลาฉันมีความสุขมากที่มีเธออยู่ข้างๆ อาขิ ฉันรักเธอ”
“-_-;”
“แล้วเธอล่ะ รักฉันหรือเปล่า”
“Maybe”
“(-- ) ( --) Needs love”
“Needs love”
“(- -)(..)”
“-_-;”
“เป็นแฟนกับฉันนะ”
“-_-;”
“Needs be”
ฉันยังไม่ทันพูดอะไร เค้าก็ดึงฉันเข้าไปจูบทันที
...คนบางคนอยากได้รับความอ่อนโยนจากคนที่เรารู้สึกว่าใช่...
... คนบางคนยอมเจ็บตัวเพื่อใครบางคน...
... คนบางคนอยากได้ความห่วงใยจากคนที่เราสนใจ...
... คนบางคนไม่อยากให้คนที่เราสนใจไปมองใครคนอื่นนอกจากคนๆ นั้น...
....คนบางคนเกิดมาเพื่อคนอีกคน...
... คนสองคนเกิดมาเพื่อกันและกัน
ความรักของคนเรามันไม่เข้าใครออกใครหรอก ดูอย่างฉันสิ ที่มาเจอกับคนที่ฉันรักและรักฉันโดยที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อน มันเป็นเพราะนิสัยของฉันแท้ๆ แต่ถึงยังไงมันก็ทำให้ฉันมีความสุขมาตลอดเวลาที่ได้อยู่กับเค้า ฉันไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเรียกว่า “พรหมลิขิต” ได้หรือเปล่า แต่ถึงยังไงตอนนี้ฉันก็ได้พบกับคนที่ฉันรักแล้ว ฉันก็ไม่ต้องการสิ่งอื่นสิ่งใดอีกต่อไป แค่มีเค้าอยู่ข้างๆ ก็พอ
“ยูอิจิ ฉันรักนาย”
“ฉันก็รักเธอ” เราทั้งสองสวมกอดกันอย่างอบอุ่น ฉันอยากหยุดเวลาไว้ตอนนี้ตลอดไป ไม่อยากให้มันผ่านไปเลย
“นี่อาขิ พี่จะพาเธอไปที่แห่งหนึ่ง”
“ที่ไหน”
“ตามมาเดี๋ยวก็รู้” เด็กหญิงกับเด็กชายวิ่งจูงมือกันไปในที่แห่งหนึ่ง เด็กชายใช้ไม้ปักเป็นรูปหัวใจตามพื้นทราย
“เข้ามาในนี้สิ”
“อื้อ” เด็กหญิงเดินเข้าในนั้นอย่างสงสัย “พี่พาฉันมาที่นี่ทำไม”
“พี่มีเรื่องจะบอก” เด็กหญิงทำงง “ฉากวันนี้มันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่หรอกนะ แต่พี่สัญญาว่าโตขึ้นพี่จะต้องทำให้มันสวยกว่านี้ให้ได้”
“พี่มีเรื่องจะบอกฉันแค่นี้หรอ” เด็กชายทำหน้าซึม
“คือว่า...พี่จะไปอยู่ที่อเมริกา”
“ทำไม” เด็กสาวน้ำตาคลอ เด็กชายดึงเด็กสาวเข้ามากอด
“อย่าร้องไห้นะ พี่ไปเดี๋ยวก็กลับแล้ว”
“ไม่จริงหรอก พี่ไปแล้วพี่จะไม่กลับมา” เด็กสาวถอยออกยิ่งร้องไห้มากขึ้น เด็กชายซับน้ำตาให้
“พี่สัญญา วันนั้นพี่จะกลับมา แล้วเราจะมาเจอกันที่นี่”
“พี่โกหก” เด็กสาวปล่อยน้ำตาที่มีทั้งหมดออกมา
“พี่สัญญา พี่จะต้องกลับมา กลับมาหาเธอ กลับมาเพราะว่ายูอิจิรักอาขิ และจะรักตลอดไป”
ผลงานอื่นๆ ของ MTC. ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ MTC.
ความคิดเห็น