[BTS] Jinnam นอนโรงพยาบาลสามวัน [SF/Yaoi] - [BTS] Jinnam นอนโรงพยาบาลสามวัน [SF/Yaoi] นิยาย [BTS] Jinnam นอนโรงพยาบาลสามวัน [SF/Yaoi] : Dek-D.com - Writer

    [BTS] Jinnam นอนโรงพยาบาลสามวัน [SF/Yaoi]

    โดย PetchMaya

    เรื่องมันเกิดจากตัวคนเขียนเองป่วยเท่านั้นแหละ

    ผู้เข้าชมรวม

    619

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    619

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    10
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ก.พ. 62 / 22:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      [BTS] Jinnam นอนโรงพยาบาลสามวัน [SF/Yaoi]

       

                      “พี่นัมจุน”

                      ใจสั่นแล้ว...

                      “ตอนพี่เป็นบ.ก. พี่เคยรับผิดชอบมากกว่านี้อะ”

                      น้ำตาคลอแล้ว

                      “ตอนนี้พี่เหมือนคนที่ผมไม่เคยรู้จักเลย”

                      โกรธ เจ็บ จุก และเกลียดตัวเองในตอนนี้เหลือเกิน

                      “ถ้าไม่พอใจ จะย้ายไปอยู่ห้องข้าง ๆ แทนก็ได้นะ”

                      และเซอร์ทารีน 45 เม็ดก็กรอกปากลงไปเพียงครั้งเดียว

       




                      คิม นัมจุน ชายหนุ่มวัย 20 ที่โคตรไร้อนาคตเพราะจบม.6 แล้วบ้านแตกสาแหรกขาด ต้องกระเสือกกระสนมาใช้ชีวิตร่วมกับรูมเมทซึ่งเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนมัธยม แม้ว่าจะรู้จักกันมานาน แต่การอยู่ด้วยกันภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ

                      เริ่มจากตกงานมาพักใหญ่และเงินเก็บเริ่มร่อยหรอ แต่นัมจุนก็ยังเลือกใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์โดยใช้ข้ออ้างว่าที่ผ่านมาทำงานหนักโคตร ขอพักผ่อนอีกสักหน่อยเถอะ พอออกไปทำงานจ็อบเล็ก ๆ แบบเสร็จในวันเดียว ก็ดันเอาแต่หลับไม่รู้เรื่องเพราะฤทธิ์ของยาซึมเศร้า จนรูมเมทที่ชื่อพัค จีมิน กลับห้องมาแล้วต้องหงุดหงิดกับความเละเทะที่เห็น

                      นัมจุนรู้ดีว่าเขาผิด และไม่มีสิทธิ์โกรธอะไรจีมินที่ตักเตือนอย่างมีเหตุผล

                      แต่มัน...โกรธมากเลย

                      แต่ก็ไม่ควรโกรธจีมินใช่ไหมล่ะ?

                      ...โกรธตัวเองชะมัด

       




                      “...คุณคิมครับ”

                      คิ้วเรียวขมวดแน่นเมื่ออะไรบางอย่างรบกวนการนอนหลับ พอเริ่มมีสติก็รู้สึกถึงอาการแสบท้องและพะอืดพะอมจนแทบอาเจียน ไหนจะมือกับเท้าที่สั่นจัดจนควบคุมแทบไม่ได้

                      “คุณคิม...ตื่นมาวัดความดันก่อนครับ”

                      ดวงตาตี่เล็กฝืนขึ้น มันหยีลงเล็กน้อยเพราะแสงไฟจากด้านบน และเมื่อภาพทุกอย่างเริ่มชัดเจน เขาก็เห็นผู้ชายใส่กาวน์และผู้หญิงในเครื่องแบบพยาบาล

                      จีมินมาส่งที่โรงพยาบาลสินะ...

                      ร่างสูงลุกขึ้นนั่ง ยื่นแขนให้พยาบาลใส่ปลอกวัดความดันและปล่อยมือตามสบาย แรงบีบทำให้รู้สึกชีพจรเต้นตุบ ๆ ยามเลือดไหลเวียน และมันจะเป็นแบบนี้ทุกสองชั่วโมงตลอดการนอนโรงพยาบาล

                      “คนไข้ชื่ออะไรครับ?”

                      “คิม.. นัมจุน”

                      เท่าที่ดูจากกาวน์สั้น และใบหน้าอ่อนเยาว์นั่น...น่าจะเพิ่งเป็นหมอไม่นานล่ะมั้ง ?

                      พยาบาลเก็บเครื่องวัดความดันและปรอทวัดไข้ออกไป เหลือเพียงคุณหมอรูปหล่อ พูดได้ว่าหล่อเหี้ย ๆ เลยแหละ สูง ขาว ตาคม จมูกโด่ง ปากอิ่ม หน้าเล็ก ไหล่กว้าง หุ่นดี เสียงนุ่มละมุน และบุคลิกดีสุด ๆ

                      ตรงข้ามกับไอ้ห่วยซึมเศร้าคนนี้โดยสิ้นเชิง

                      “เป็นอะไรมาถึงต้องแอดมิทครับ?” คุณหมอขยับมายืนที่ข้างเตียงแถวปลายเท้าและมองลงมาด้วยสายตาอ่อนโยน รอยยิ้มเผยเล็กน้อยทำให้นัมจุนรู้สึกสบายใจขึ้นมา

                      “โอเวอร์โดสเซอร์ทารีน...45 เม็ด” เสียงแหบทุ้มตอบอย่างเหนื่อยอ่อนพร้อมกับหลุบตามองมืออันสั่นเทาของตัวเอง บนผ้าห่มมีชื่อโรงพยาบาลที่เขากำลังรักษาตัวอยู่ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับที่เขารักษาโรคซึมเศร้าอยู่ด้วย

                      “หือ...ทำไมมีเซอร์ทารีนอยู่ในมือล่ะครับ?” น่าแปลก นัมจุนรู้สึกว่าเหมือนหมอถามในสิ่งที่ตัวเองรู้อยู่แล้วเลย

                      “...เป็นโรคซึมเศร้าน่ะ”

                      “อืม...งี้นี่เอง รักษาที่ไหนครับ?”

                      “รักษาที่นี่แหละครับ”

                      “อ้อ...โอเคครับ” เมื่อคุณหมอจดทุกอย่างเสร็จ เขาก็ยืนแกว่งปากกาเล่นระหว่างมีบทสนทนาเพิ่มเติม “เล่าได้ไหมครับ เกิดอะไรขึ้นถึงได้ตัดสินใจโอเวอร์โดส?”

                      “...”

                      เหตุผลแม่งโคตรงี่เง่าเลย

                      “ไม่ไหวก็ไม่ต้องเล่านะครับ เอาเท่าที่คุณไหว”

                      “...โดนเมทเตือนเรื่องไม่ทำความสะอาดห้อง”

                      เริ่มมาแค่ประโยคแรกเท่านั้นแหละ น้ำตาเม็ดแรกก็มาเลย

                      “ผมก็เข้าใจว่าผมผิดจริง แต่ผมก็โกรธ...โกรธที่เมทบอกว่า ตอนที่ผมเป็นบ.ก. ผมดีกว่านี้...และ...”

                      นัมจุนเริ่มสะอื้นเมื่อนึกถึงคำพูดเสียดแทงที่ทำให้ใจร้าวไปหมด ใช่ เขาโกรธ โกรธมาก ๆ และโกรธโดยที่รู้ว่าไม่ควรโกรธด้วย มันเลยยิ่งไปกันใหญ่

                      “ฮึก...”

                      นั่นแหละ...พูดยังไม่ทันจบ ก็ร้องไห้จนพูดต่อไม่ได้แล้ว

                      “หมอเข้าใจครับ หมอเองก็กินยาซึมเศร้าเหมือนกัน มันแย่มากเลยใช่ไหมล่ะ?”

                      นัมจุนพยักหน้าหงึกหงักเป็นการตอบรับแม้จะยังเบ้ปากร้องไห้อยู่เหมือนกัน

                      “แต่โอเวอร์โดสแบบนี้มันก็ทรมานใช่มั้--- อุ่ยเชี่ย”

                      เพราะคุณหมอเอาแต่แกว่งปากกาเล่นตอนคุย ปากกาเลยหลุดมือกระทบปลายเตียงและร่วงสู่พื้นต่อหน้าคนไข้ พร้อมกับคำสบถที่แสน...หยาบคาย

                      นัมจุนหยุดร้องไห้ทันที

                      “หมดแล้วภาพพจน์หมอกู...”

                      คนไข้ปาดน้ำตาแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ เผลอหลุดขนาดนี้ไม่ได้เป็นหมอมานานแน่นอน

                      “นี่ฝึกงานหรือใช้ทุนเนี่ย?”

                      “ฝึกงานครับ อยู่ปี 6 แล้ว” คุณหมอฝึกงานเกาแก้มเขิน ๆ เพราะหลุดภาพพจน์หมอไปไกลเหลือเกิน

                      “งั้นขอหมอตรวจร่างกายหน่อยนะครับ” อะ เปลี่ยนเรื่องหรือต้องตรวจจริง ๆ ก็ไม่รู้ล่ะ แต่นัมจุนจะไม่ดื้อ ตรวจตรงไหนก็ให้ตรวจหมดเลยจ้า

                      “มองตรงไปข้างหน้านะครับ ขอดูม่านตาหน่อย”

                      แล้วพี่แกก็เอาแสงไฟฉายจากไอโฟนตัวเองมาส่องตา อื้อหือ สว่างกว่าอนาคตกูอีก

                      “ม่านตายังขยายอยู่เลยเนอะ งั้นรบกวนคนไข้นอนลงเลยครับ แล้วงัดข้อกับผมหน่อย”

                      คุณหมอฝึกงานแค่ตั้งแขนไว้ให้พยายามงัด ในขณะที่นัมจุนออกแรงเต็มที่เพื่อให้แขนตัวเองอยู่กับที่ แน่นอนว่ามันเหนื่อยใช้ได้เมื่อร่างกายเขายังไม่พร้อมเลย

                      “ตอนนี้ก็พยายามดันแขนผมนะครับ ฮึบ”

                      มันก็ดันได้แหละ แต่รวบรวมแรงทุกเฮือกในการดันเลย

                      “จากนั้นก็บีบมือผมนะครับ ไม่ต้องกลัวเจ็บนะ บีบให้แรง ๆ เลย”

                      แม่มึ้ง...มือหมอนิ่มเหี้ย ๆ

                      นัมจุนใช้มืออันสั่นเทาพยายามบีบมือคุณหมอให้แรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่เหมือนผลข้างเคียงของเซอร์ทารีนจะหนักเกินไปจนไม่สามารถออกแรงได้เต็มที่นัก ไม่ค่อยต่างอะไรกับแมวบีบมือเจ้าของสักเท่าไหร่

                      คุณหมอปี 6 พยักหน้าหงึกหงักระหว่างคิดอะไรบางอย่างในหัว

                      “ยังไม่ค่อยมีแรงเนอะ มือก็ยังสั่นอยู่...ดื่มน้ำเยอะ ๆ นะครับ แล้วก็”

                      นัมจุนลุกขึ้นมานั่ง เงยมองอีกฝ่ายที่สบตาลงมาอย่างจริงจัง

                      “อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ”

                      ...น้ำตาไหลอีกรอบ

                      “คุณมีค่านะ อย่าให้ความโกรธมันย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองเลย”

                      “...อื้อ”

                      แขนเสื้อชุดคนไข้ถูกดึงมาปาดน้ำตาพร้อมกับสูดน้ำมูกฟืดใหญ่

                      “แล้วพรุ่งนี้หมอจะมาดูอาการอีก ดื่มน้ำเยอะ ๆ แล้วก็ทำใจให้สบาย ถ้ารู้สึกไม่ดีหรือต้องการคนคุย แจ้งพยาบาลได้เลยนะครับ”

                      “ขอบคุณครับคุณหมอ”




                      เมื่อคุณหมอฝึกงานเดินออกไปแล้ว นัมจุนก็หยิบโทรศัพท์จากใต้หมอนขึ้นมา มีแจ้งเตือนจากกาเกาของรูมเมท...ถึงจะใจบางที่จะกดเข้าไปอ่านก็เถอะ แต่ก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าส่งอะไรมา


                      -ทำเรื่องส่งเข้าผู้ป่วยในกับยื่นสิทธิประกันให้แล้วนะ-

                  -ขอโทษ-

                  -ผมไม่อยากเป็นสาเหตุการตายของใครหรอกนะ-

                  -ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก-


                      หยาดน้ำตาร่วงลงมาอีกครั้ง มือที่สั่นเทาพยายามพิมพ์ตอบข้อความแทนความในใจให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


                      -ขอโทษนะ-

                  -ต่อไปนี้จะซักผ้า-

                  -จะถูห้อง จะล้างจาน-

                  -จะไม่ดองงาน-

                  -จะหางานทำจริงจังด้วย-

                  -แล้วก็-

                  -ถ้าไม่ไหวจะพูดว่าไม่ไหว-

                  -จะไม่ฝืนตัวเองอีกแล้ว-


                      จีมินอ่านข้อความแล้ว...


                      -เอาแค่สองข้อหลังพอ-

                  -ที่เหลือช่วยกันทำ-


                      แค่นี้ก็โล่งใจสุด ๆ แล้ว...


                      -ออกจากโรงบาลแล้วเดี๋ยวเลี้ยงแซลมอน-


                      นัมจุนยิ้มกว้าง ปาดน้ำตาและพิมพ์ข้อความที่อยากบอกที่สุดออกไป

       




       

                      -ขอบคุณนะ จีมิน-







      END.


      ไม่มีอะไรเลยจ้า มันเริ่มมาจากอีนี่แอดมิทเพราะโรคซึมเศร้ากำเริบจนขาดสติ ซดเซอร์ทารีนไป 45 เม็ด ลำบากเมทแบกร่างพาเข้าโรงพยาบาล ยื่นสิทธิ 30 บาทให้ จ่ายเงินให้ ทำทุกอย่างให้ พอตื่นมาแล้วมีสติถึงได้รู้ว่ากูทำอะไรลงไปวะเนี่ยยยย โคตรโง่ววววววว

      ฟิคเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก แค่ตอนแอดมิทอยู่ หมอเอ็กซ์เทิร์นหล่อเหี้ย ๆ หล่อโคตรพ่อโคตรแม่ และอุทานอุ่ยเหี้ยใส่หน้ากู
      ก็เลยเอามาเขียนจ้ะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×