[BTS] Jinnam นอนโรงพยาบาลสามวัน [SF/Yaoi]
เรื่องมันเกิดจากตัวคนเขียนเองป่วยเท่านั้นแหละ
ผู้เข้าชมรวม
705
ผู้เข้าชมเดือนนี้
15
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[BTS] Jinnam นอนโรงพยาบาลสามวัน [SF/Yaoi]
“พี่นัมจุน”
ใจสั่นแล้ว...
“ตอนพี่เป็นบ.ก.
พี่เคยรับผิดชอบมากกว่านี้อะ”
น้ำตาคลอแล้ว
“ตอนนี้พี่เหมือนคนที่ผมไม่เคยรู้จักเลย”
โกรธ เจ็บ จุก และเกลียดตัวเองในตอนนี้เหลือเกิน
“ถ้าไม่พอใจ จะย้ายไปอยู่ห้องข้าง
ๆ แทนก็ได้นะ”
และเซอร์ทารีน 45 เม็ดก็กรอกปากลงไปเพียงครั้งเดียว
คิม นัมจุน ชายหนุ่มวัย 20
ที่โคตรไร้อนาคตเพราะจบม.6 แล้วบ้านแตกสาแหรกขาด
ต้องกระเสือกกระสนมาใช้ชีวิตร่วมกับรูมเมทซึ่งเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนมัธยม
แม้ว่าจะรู้จักกันมานาน แต่การอยู่ด้วยกันภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ
มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ
เริ่มจากตกงานมาพักใหญ่และเงินเก็บเริ่มร่อยหรอ
แต่นัมจุนก็ยังเลือกใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์โดยใช้ข้ออ้างว่าที่ผ่านมาทำงานหนักโคตร
ขอพักผ่อนอีกสักหน่อยเถอะ พอออกไปทำงานจ็อบเล็ก ๆ แบบเสร็จในวันเดียว ก็ดันเอาแต่หลับไม่รู้เรื่องเพราะฤทธิ์ของยาซึมเศร้า
จนรูมเมทที่ชื่อพัค จีมิน กลับห้องมาแล้วต้องหงุดหงิดกับความเละเทะที่เห็น
นัมจุนรู้ดีว่าเขาผิด
และไม่มีสิทธิ์โกรธอะไรจีมินที่ตักเตือนอย่างมีเหตุผล
แต่มัน...โกรธมากเลย
แต่ก็ไม่ควรโกรธจีมินใช่ไหมล่ะ?
...โกรธตัวเองชะมัด
“...คุณคิมครับ”
คิ้วเรียวขมวดแน่นเมื่ออะไรบางอย่างรบกวนการนอนหลับ
พอเริ่มมีสติก็รู้สึกถึงอาการแสบท้องและพะอืดพะอมจนแทบอาเจียน ไหนจะมือกับเท้าที่สั่นจัดจนควบคุมแทบไม่ได้
“คุณคิม...ตื่นมาวัดความดันก่อนครับ”
ดวงตาตี่เล็กฝืนขึ้น
มันหยีลงเล็กน้อยเพราะแสงไฟจากด้านบน และเมื่อภาพทุกอย่างเริ่มชัดเจน
เขาก็เห็นผู้ชายใส่กาวน์และผู้หญิงในเครื่องแบบพยาบาล
จีมินมาส่งที่โรงพยาบาลสินะ...
ร่างสูงลุกขึ้นนั่ง
ยื่นแขนให้พยาบาลใส่ปลอกวัดความดันและปล่อยมือตามสบาย แรงบีบทำให้รู้สึกชีพจรเต้นตุบ
ๆ ยามเลือดไหลเวียน และมันจะเป็นแบบนี้ทุกสองชั่วโมงตลอดการนอนโรงพยาบาล
“คนไข้ชื่ออะไรครับ?”
“คิม.. นัมจุน”
เท่าที่ดูจากกาวน์สั้น
และใบหน้าอ่อนเยาว์นั่น...น่าจะเพิ่งเป็นหมอไม่นานล่ะมั้ง ?
พยาบาลเก็บเครื่องวัดความดันและปรอทวัดไข้ออกไป
เหลือเพียงคุณหมอรูปหล่อ พูดได้ว่าหล่อเหี้ย ๆ เลยแหละ สูง ขาว ตาคม จมูกโด่ง
ปากอิ่ม หน้าเล็ก ไหล่กว้าง หุ่นดี เสียงนุ่มละมุน และบุคลิกดีสุด ๆ
ตรงข้ามกับไอ้ห่วยซึมเศร้าคนนี้โดยสิ้นเชิง
“เป็นอะไรมาถึงต้องแอดมิทครับ?” คุณหมอขยับมายืนที่ข้างเตียงแถวปลายเท้าและมองลงมาด้วยสายตาอ่อนโยน
รอยยิ้มเผยเล็กน้อยทำให้นัมจุนรู้สึกสบายใจขึ้นมา
“โอเวอร์โดสเซอร์ทารีน...45 เม็ด”
เสียงแหบทุ้มตอบอย่างเหนื่อยอ่อนพร้อมกับหลุบตามองมืออันสั่นเทาของตัวเอง บนผ้าห่มมีชื่อโรงพยาบาลที่เขากำลังรักษาตัวอยู่
ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับที่เขารักษาโรคซึมเศร้าอยู่ด้วย
“หือ...ทำไมมีเซอร์ทารีนอยู่ในมือล่ะครับ?”
น่าแปลก นัมจุนรู้สึกว่าเหมือนหมอถามในสิ่งที่ตัวเองรู้อยู่แล้วเลย
“...เป็นโรคซึมเศร้าน่ะ”
“อืม...งี้นี่เอง รักษาที่ไหนครับ?”
“รักษาที่นี่แหละครับ”
“อ้อ...โอเคครับ” เมื่อคุณหมอจดทุกอย่างเสร็จ
เขาก็ยืนแกว่งปากกาเล่นระหว่างมีบทสนทนาเพิ่มเติม “เล่าได้ไหมครับ
เกิดอะไรขึ้นถึงได้ตัดสินใจโอเวอร์โดส?”
“...”
เหตุผลแม่งโคตรงี่เง่าเลย
“ไม่ไหวก็ไม่ต้องเล่านะครับ
เอาเท่าที่คุณไหว”
“...โดนเมทเตือนเรื่องไม่ทำความสะอาดห้อง”
เริ่มมาแค่ประโยคแรกเท่านั้นแหละ
น้ำตาเม็ดแรกก็มาเลย
“ผมก็เข้าใจว่าผมผิดจริง แต่ผมก็โกรธ...โกรธที่เมทบอกว่า
ตอนที่ผมเป็นบ.ก. ผมดีกว่านี้...และ...”
นัมจุนเริ่มสะอื้นเมื่อนึกถึงคำพูดเสียดแทงที่ทำให้ใจร้าวไปหมด
ใช่ เขาโกรธ โกรธมาก ๆ และโกรธโดยที่รู้ว่าไม่ควรโกรธด้วย มันเลยยิ่งไปกันใหญ่
“ฮึก...”
นั่นแหละ...พูดยังไม่ทันจบ
ก็ร้องไห้จนพูดต่อไม่ได้แล้ว
“หมอเข้าใจครับ
หมอเองก็กินยาซึมเศร้าเหมือนกัน มันแย่มากเลยใช่ไหมล่ะ?”
นัมจุนพยักหน้าหงึกหงักเป็นการตอบรับแม้จะยังเบ้ปากร้องไห้อยู่เหมือนกัน
“แต่โอเวอร์โดสแบบนี้มันก็ทรมานใช่มั้---
อุ่ยเชี่ย”
เพราะคุณหมอเอาแต่แกว่งปากกาเล่นตอนคุย
ปากกาเลยหลุดมือกระทบปลายเตียงและร่วงสู่พื้นต่อหน้าคนไข้
พร้อมกับคำสบถที่แสน...หยาบคาย
นัมจุนหยุดร้องไห้ทันที
“หมดแล้วภาพพจน์หมอกู...”
คนไข้ปาดน้ำตาแล้วหัวเราะออกมาเบา
ๆ เผลอหลุดขนาดนี้ไม่ได้เป็นหมอมานานแน่นอน
“นี่ฝึกงานหรือใช้ทุนเนี่ย?”
“ฝึกงานครับ อยู่ปี 6 แล้ว”
คุณหมอฝึกงานเกาแก้มเขิน ๆ เพราะหลุดภาพพจน์หมอไปไกลเหลือเกิน
“งั้นขอหมอตรวจร่างกายหน่อยนะครับ”
อะ เปลี่ยนเรื่องหรือต้องตรวจจริง ๆ ก็ไม่รู้ล่ะ แต่นัมจุนจะไม่ดื้อ
ตรวจตรงไหนก็ให้ตรวจหมดเลยจ้า
“มองตรงไปข้างหน้านะครับ
ขอดูม่านตาหน่อย”
แล้วพี่แกก็เอาแสงไฟฉายจากไอโฟนตัวเองมาส่องตา
อื้อหือ สว่างกว่าอนาคตกูอีก
“ม่านตายังขยายอยู่เลยเนอะ
งั้นรบกวนคนไข้นอนลงเลยครับ แล้วงัดข้อกับผมหน่อย”
คุณหมอฝึกงานแค่ตั้งแขนไว้ให้พยายามงัด
ในขณะที่นัมจุนออกแรงเต็มที่เพื่อให้แขนตัวเองอยู่กับที่
แน่นอนว่ามันเหนื่อยใช้ได้เมื่อร่างกายเขายังไม่พร้อมเลย
“ตอนนี้ก็พยายามดันแขนผมนะครับ
ฮึบ”
มันก็ดันได้แหละ แต่รวบรวมแรงทุกเฮือกในการดันเลย
“จากนั้นก็บีบมือผมนะครับ
ไม่ต้องกลัวเจ็บนะ บีบให้แรง ๆ เลย”
แม่มึ้ง...มือหมอนิ่มเหี้ย ๆ
นัมจุนใช้มืออันสั่นเทาพยายามบีบมือคุณหมอให้แรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่เหมือนผลข้างเคียงของเซอร์ทารีนจะหนักเกินไปจนไม่สามารถออกแรงได้เต็มที่นัก
ไม่ค่อยต่างอะไรกับแมวบีบมือเจ้าของสักเท่าไหร่
คุณหมอปี 6 พยักหน้าหงึกหงักระหว่างคิดอะไรบางอย่างในหัว
“ยังไม่ค่อยมีแรงเนอะ
มือก็ยังสั่นอยู่...ดื่มน้ำเยอะ ๆ นะครับ แล้วก็”
นัมจุนลุกขึ้นมานั่ง
เงยมองอีกฝ่ายที่สบตาลงมาอย่างจริงจัง
“อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ”
...น้ำตาไหลอีกรอบ
“คุณมีค่านะ
อย่าให้ความโกรธมันย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองเลย”
“...อื้อ”
แขนเสื้อชุดคนไข้ถูกดึงมาปาดน้ำตาพร้อมกับสูดน้ำมูกฟืดใหญ่
“แล้วพรุ่งนี้หมอจะมาดูอาการอีก
ดื่มน้ำเยอะ ๆ แล้วก็ทำใจให้สบาย ถ้ารู้สึกไม่ดีหรือต้องการคนคุย
แจ้งพยาบาลได้เลยนะครับ”
“ขอบคุณครับคุณหมอ”
เมื่อคุณหมอฝึกงานเดินออกไปแล้ว
นัมจุนก็หยิบโทรศัพท์จากใต้หมอนขึ้นมา
มีแจ้งเตือนจากกาเกาของรูมเมท...ถึงจะใจบางที่จะกดเข้าไปอ่านก็เถอะ แต่ก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าส่งอะไรมา
-ทำเรื่องส่งเข้าผู้ป่วยในกับยื่นสิทธิประกันให้แล้วนะ-
-ขอโทษ-
-ผมไม่อยากเป็นสาเหตุการตายของใครหรอกนะ-
-ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก-
หยาดน้ำตาร่วงลงมาอีกครั้ง
มือที่สั่นเทาพยายามพิมพ์ตอบข้อความแทนความในใจให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
-ขอโทษนะ-
-ต่อไปนี้จะซักผ้า-
-จะถูห้อง จะล้างจาน-
-จะไม่ดองงาน-
-จะหางานทำจริงจังด้วย-
-แล้วก็-
-ถ้าไม่ไหวจะพูดว่าไม่ไหว-
-จะไม่ฝืนตัวเองอีกแล้ว-
จีมินอ่านข้อความแล้ว...
-เอาแค่สองข้อหลังพอ-
-ที่เหลือช่วยกันทำ-
แค่นี้ก็โล่งใจสุด ๆ แล้ว...
-ออกจากโรงบาลแล้วเดี๋ยวเลี้ยงแซลมอน-
นัมจุนยิ้มกว้าง
ปาดน้ำตาและพิมพ์ข้อความที่อยากบอกที่สุดออกไป
-ขอบคุณนะ จีมิน-
END.
ไม่มีอะไรเลยจ้า มันเริ่มมาจากอีนี่แอดมิทเพราะโรคซึมเศร้ากำเริบจนขาดสติ
ซดเซอร์ทารีนไป 45 เม็ด ลำบากเมทแบกร่างพาเข้าโรงพยาบาล ยื่นสิทธิ 30 บาทให้
จ่ายเงินให้ ทำทุกอย่างให้ พอตื่นมาแล้วมีสติถึงได้รู้ว่ากูทำอะไรลงไปวะเนี่ยยยย
โคตรโง่ววววววว
ฟิคเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก แค่ตอนแอดมิทอยู่
หมอเอ็กซ์เทิร์นหล่อเหี้ย ๆ หล่อโคตรพ่อโคตรแม่ และอุทานอุ่ยเหี้ยใส่หน้ากู
ก็เลยเอามาเขียนจ้ะ
ผลงานอื่นๆ ของ PetchMaya ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ PetchMaya
ความคิดเห็น