คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : . ทูตสวรรค์จากพระเจ้า
เรามีความจริงที่ไม่กล้าเปิดเผย
ก็เลยต้องให้คนอื่นมาพูดแทน
“ฮยองเป็นไรป่าวเนี่ย ?”
“เออใช่ ทำไมดูลอยๆ...” คนโดนทักเบนหน้าไปมองเด็กแฝดที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตัวเอง คยูฮยอนเลิกคิ้วดำเข้มของตัวเองขึ้นเหมือนจะขอฟังคำถามใหม่อีกครั้งเพราะมัวแต่เหม่อคิดไปไกลซึ่งมันถือเป็นการเปิดช่องทางให้คู่แฝดแสนกะล่อนทั้งคู่ได้หยอกได้ล้อเขาไปอีกมุก
“แหนะ... ยาดีหล่ะสิท่า”
“ยาดีห่าอะไร -____” แม้ว่าจะทำใจไม่โกรธไอ้แฝดนรกหมกไหม้ทั้งสองตัวแล้วแต่เมื่อโดนพูดซ้ำย้ำทวนถึงเรื่องคืนนั้น (?) อีกครั้ง คยูฮยอนก็ไม่ได้เป็นพรหมถึงขั้นสร้างจิตเมตตาแล้วคิดว่าการโดนแทงตูดโดยดาราชื่อดังมันเป็นธรรมชาติของโลกได้หรอกนะ ทุกครั้งที่ถูกย้ำเรื่องนี้ โจวคยูฮยอนก็พร้อมจะกระตุกคิ้ว ปั้นหน้าขรึมขึ้นมาเตรียมโวยวายได้ทุกเมื่อนั่นแหละ
“โหพี่อย่าหยาบคายสิครับ”
“ผมเป็นห่วงนะเออ ถึงได้ถามเนี่ย ~”
“ห่วงตัวเองเถอะจะสอบผ่านไม่ผ่าน” ติวเตอร์ตัวขาวแยกเขี้ยวใส่เด็กที่ไม่เคยจะกลัวเขาเลยสักนิดก่อนจะก้มหน้าลงอ่านชีทในมือตัวเองอีกครั้ง เดี๋ยวนี้เด็กแฝดต้องมาเรียนที่บ้านของเขาแทนเพราะการสอนในร้านกาแฟตามห้างสรรพสินค้าเหมือนจะไม่ปลอดภัยสำหรับโจวคยูฮยอนอีกต่อไปแล้ว มันก็ดีอย่างเสียอย่างคือคยูฮยอนไม่ต้องลำบากเดินทางออกนอกบ้าน แต่ต้องทนฟังอีแฝดบ้าโวยวายได้อย่างอิสรเสรีเพราะมันเป็นบ้านของเขาเอง... ไม่ต้องเกรงใจใคร
ทีนี้อีแฝดเลยแซะเขาได้สารพัดแบบไม่ต้องคิดให้หนักใจ
อีห่า... ชีวิตคยูฮยอนนี่จะโดนแม่เลี้ยงและลูกกดขี่ตลอดไปใช่ไหม -___-
“โห่พี่ อย่ามาทำแชเชือนบิดเบือนประเด็น” ไอ้โซรยองแฝดน้องหยอกเขาด้วยน้ำเสียงที่กวนนิ้วเท้าที่สุดในโลก แล้วมันยังมีหน้ามาหรี่ลูกตาใส่เขาทำเหมือนว่าตัวเองมีอำนาจมากมายนักแหละ เหอะ ! คยูฮยอนหล่ะอยากจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ ให้กับความแก่แดดของไอ้คู่แฝดนี่จริง ๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาคือคยูฮยอนผู้มีเมตตานะ... ไม่อย่างนั้นหล่ะก็..........
“เงียบไปเถอะหน่า”
“โถ่พี่อย่าคิดว่าเราไม่รู้นะ เครียดเรื่องพี่ซีวอนก็พูดมา”
“นี่ ๆ! เงียบปากไปเลย... เห็นมั๊ยว่าข้อนี้มันต้องแก้สมการข้างซ้ายก่อน” เอาปลายดินสอแจกมะเหงกให้กับเด็ก ๆ เสียคนละทีแล้วรีบหันเหประเด็นเข้าหาหนังสือทันที ก่อนที่ไอ้สองแฝดจะพาเขาเดินลงคูคลองไปมากกว่านี้ คยูฮยอนจิ้มตัวเลขแล้วเอ่ยคำอธิบายเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนเสียงอ้อล้อของไอ้คู่แฝดตรงหน้าแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไหร่ เพราะยิ่งพยายามกลบเกลื่อนมากเท่าไหร่ สองแฝดก็มีแต่จะยิ่งได้เรื่องจับผิดพี่ชายคนสวยของตัวเองมากเท่านั้น
“พี่ซีวอนอ่ะดิ ๆ”
“พี่ซีวอนสุดหล่อ...”
“หาค่า x ได้แล้ว !!!!!!”
“กลับดี ๆ หล่ะ... ถึงบ้านแล้วโทรมาด้วย !” คยูฮยอนสั่งกำชับเด็กทั้งสองที่ยืนสะพายกระเป๋า หอบหนังสือเล่มหนาอยู่หน้าบ้าน ถึงแม้ว่าไอ้แฝดนรกจะทำให้เขาเหนื่อยจนหัวบาน ทำอะไรต่อไม่ได้แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ถ่อสังขารออกมาส่งมันที่หน้าปากซอยด้วยความเป็นห่วงตามประสาพี่ชายผู้แสนดี เห็นไหมหล่ะว่าโจวคยูฮยอนหน่ะเป็นคนดีมากขนาดไหน...
“โอเค ๆ ครับคุณแม่... แม่แท้ๆไม่เห็นจะห่วงเราอย่างนี้เลย”
“ก็ฉันไม่ใช่คนแบบแม่แก.... ไป ๆ กลับไปได้แล้ว”
“คร้าบบบบบบบ ~ อย่าลืมโทรหาพี่ซีวอนนะ มิสคอลเต็มโทรศัพท์แล้วหน่ะ”
“ยุ่ง ! ไปเลยชิ้ว ๆ ~” เบิกลูกตาออกมากว้างเมื่อโดนแดรยองล้อเลียน คยูฮยอนกำโทรศัพท์เอาไว้แน่นแล้วตะเบงเสียงดังแข่งอีกฝ่ายเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอายของตัวเอง โชคดีที่ฟ้ามันมืดแล้วแฝดโซแดเลยไม่ได้เห็นว่าแก้มของเขากำลังแดงปลั่งเพราะคำพูดจาอ้อล้อของมัน ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเลยหล่ะ
“เข้าบ้านดี ๆ นะครับ”
“พี่ซีวอนเป็นห่วง~”
“ฮึ่ยยยย ! ไปเลยไป ชิ้ววววววววว! ~” สุดท้ายเส้นความอดทนของพี่ชายคนดีก็ขาดผึ่ง เจ้าของร่างผอมกระหร่องในชุดลำลอง(ที่ใส่นอนได้เลย)กับแตะคีบเดินจ้ำเท้าส่งเสียงปึงปังไปทั้งซอยกลับบ้านของตัวเองไป ทิ้งให้ไอ้สองแฝดช่างแกล้งได้แต่อมยิ้มขำคิกคักกันสองคนในขณะเดินตรงออกไปยังป้ายรถเมล์เมื่อเห็นว่าพี่ชายของตัวเองหายลับตาไปแล้ว
“เออโซ... กูว่าเราควรไปเคลียร์กับพี่ซีวอนป่าววะ”
“หือ...”
“ก็เรื่องพี่คยูไง... เขาอาจจะกำลังผิดใจกันอยู่ก็ได้” แดรยองทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในร่มหลังคาบริเวณป้ายรถเมล์ร้างผู้คน แฝดน้องที่ทิ้งตัวลงด้านข้างตามลงมาพยักหน้าหงึกหงักพลางคิดตามคำพูดนั้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เขาสังเกตอยู่ว่าคยูฮยอนมีสายเข้าหลายสิบสายระหว่างที่กำลังสอน แต่พี่ชายตัวดีก็เลี่ยงที่จะรับมันแล้วจัดการเปิดโหมดเงียบแล้วโยนโทรศัพท์มือถือของตัวเองไปบนโซฟาเพื่อไม่ให้มีเสียงดังรบกวนการเรียนการสอน
แน่นอนว่าความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาชะโงกหน้าไปดูก็เลยรู้ว่ามันเป็นเบอร์ของพี่ซีวอน -..-
“เออ นั่นดิ... แต่ซีวอนอะไรนั่นจะจริงจังเหรอวะ...”
“เออหว่ะ เขาเป็นดารา ส่วนพี่เราเป็นแค่ผู้ชายติงต๊องที่เชื่อคนง่าย....”
“เนอะ... เฮ้อ ~” พรูลมหายใจออกมาราวกับว่าหัวข้อสนทนาที่กำลังว่ากันอยู่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แฝดทั้งสองหันมาจ้องหน้ากันท่ามกลางความเงียบ ใช้แววตาสี่ข้างสองคู่ประสานถ่ายทอดความคิดกันไปมา สร้างพลังงานให้กับบรรยากาศเงียบสงบดูอึมครึมหนักขึ้นไปอีก
...
...
....
...
“ไอ้เหี้ย แต่เรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้หว่ะ !” แดรยองตบตักของตัวเองโพล่งขึ้นมาพร้อมขยับตัวขึ้นนั่งหลังตรง เข้าจ้องมองสายตาของแฝดน้องซึ่งเต็มไปด้วยคำถามมากมาย “ก็พี่คยูดูเหมือนจะตกหลุมรักคุณซีวอน...”
“มันไม่ได้ดูเหมือน แต่กูว่าพี่เขาตกหลุมรักเลยแหละหว่ะ...”
“เราก็ควรจะช่วยพี่เราป่าววะ ?”
“...”
“...”
“...”
“...”
“ถึงเมื่อกี้เขาจะด่าแม่เราก็เถอะ...”
“พูดเหมือนมึงไม่เคยด่าหน่ะ”
“เออไง...”
“...”
“...”
“...”
“กูว่างานนี้เราต้องออกโรงแล้วหล่ะ”
“เออ ! กูก็ว่างั้น... เราวางยาเขา เราก็ต้องเคลียร์เว้ย !!” แดรยองส่งสายตามุ่งมั่นไปทางน้องชายของตัวเองที่ก็สะท้อนแววตาแบบเดียวกันออกมา ทั้งสองคนประสานมือกันกลางอากาศเป็นสัญญาณของการร่วมมือกันอีกครั้งหลังจากที่ทำมันพังไม่เป็นท่าไปเมื่อครั้งก่อนด้วยความสะเพร่าเล็ก ๆ น้อย ๆ สองพี่น้องหรี่ดวงตามองกันและกันเพื่อย้ำคำสัญญาอีกครั้ง
“โซ-แดสู้เว้ย !!”
“มึงพร้อมไหมแด...”
“กูพร้อมเสมอ...”
“มึงมั่นใจนะ”
“กูยิ่งกว่ามั่น.... มึงหล่ะ”
“ก็...ก็มั่น..... มั้ง” ส่งเสียงกระซิบกระซาบกันอยู่หน้าบานประตูห้องในคอนโดหรูใจกลางเมื่อ ทั้งสองคนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไปในคอเพื่อรวบรวมความกล้าในการเอื้อมมือไปกดกริ่ง แต่ยิ่งเข้าใกล้ปุ่มสีน้ำเงินเท่าไหร่ ปลายนิ้วก็พาลจะสั่นหงึก ๆ เข้าไปทุกทีจนต้องรั้งแขนตัวเองกลับมา
“ฮึ่ยยยยยยยย... กูกลัวหว่ะ”
“ไอ้เหี้ยแดอย่าป๊อดดิวะ...” คนที่ไม่ป๊อดแต่ชักมือกลับมาก่อนคนแรก (?) หันไปสบถใส่พี่ชายฝาแฝดของตัวเอง เด็กหนุ่มในชุดมัธยมปลายทั้งสองเหลือบมองหน้ากันอีกครั้งแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดจนเกิดเสียงดังฟืดฟาด (ติดขี้มูในโพรงจมูก) ก่อนจะเอื้อมมือไปที่กริ่งอีกครั้ง
“ฮึ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ~ กลับบ้านกันดีไหมวะ T__T”
“เฮ้ย อย่าบ้าดิวะ... มาถึงนี่ จะกลับไปหาเตี่ยหาม๊าอะไร”
“ม๊ามึงก็ม๊ากูป่ะวะเชี่ยโซ...” แดรยองสบถออกมาพลางทำสีหน้าระอาเอือมใส่คนที่ด่ากราดแบบไม่คิดแล้วตบลงกลางกบาลของไอ้แฝดน้อง คนโดนตบลูบหัวตัวเองแบบเคือง ๆ ก่อนยื่นมือไปเอาคืนแฝดพี่ของตัวเองบ้าง
“เชี่ยโซ... กูพี่มึงนะ”
“นาทีสองนาทีมึงอย่ามาถือ”
“นาทีนึงก็ออกมาดูโลกก่อนมึงป่าววะ”
“อย่ามาทำกร่าง เรามันต่างกันไม่เท่าไหร่”
~ ผลั่ก !........... กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!
เพราะแรงผลักของแฝดน้องทำให้แฝดพี่กระเด็นไปโดนกริ่งพอดี แผ่นหลังกว้างขนานราบนาบลงไปกับปุ่มสีฟ้าที่หน้าห้อง เกิดเป็นเสียงสัญญาณคำรามดังยาวเหยียดให้ได้ยินออกมาถึงด้านนอก แดรยองที่รู้สึกตัวได้ว่าเสียงนั้นดังยาวไปแล้วรีบดีดตัวออกมายืนอยู่ข้างเจ้าของแรงผลักแล้วกลืนก้อนน้ำหลายหนืดที่มันดีดขึ้นมาจุกอยู่ตรงลำคอลงไป ฝ่ามือทั้งสองข้างประสานกันโดยอัตโนมัติเมื่อนึกว่าอีกสักพักเจ้าของห้องคงจะเดินมาเปิดประตูเป็นแน่
เสียงกุกกัก ๆ ทำให้ทั้งคู่พากันยืนตัวเกร็งอีกครั้ง ต่างฝ่ายต่างปลอบประโลมหัวใจที่กำลังเต้นแร็พแรง ๆ จนคล้ายจะกระเด็นหลุดออกมาจากอก ต่างคนต่างกลืนน้ำลายที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนเยอะแยะลงคออย่างไม่รู้จักหมดจักสิ้น....
“เชี่ยแล้วไงโซ...”
“เอาเว้ย เราก่อเรื่องเราก็ต้องจบเรื่อง นี่แหละถูกแล้ว.... อย่าป๊อดเว้ยยยยย !”
“เออ.... ห้ามป๊อดเว้ย !” กระซิบงึมงำกันอยู่สองคนจนกระทั่งประตูเปิดออกเผยให้เห็นเสี่ยวใบหน้าของผู้ชายที่เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ ชเวซีวอนเหมือนจะเพิ่งตื่นนอน สังเกตได้จากผมชี้ฟูกับดวงตาที่ยังลืมไม่เต็มดวง เด็กแฝดทั้งสองคนคลี่ยิ้มออกมาจาง ๆ อ้าปากทำท่าจะอธิบายการมาของตนแต่ก็โดนสายตานิ่งงันของซีวอนปรายมองเข้าเสียก่อน
“เอ่อ....”
“คือ....”
“...มาหาใคร ?” น้ำเสียงพร่าของคนเพิ่งตื่นเอ่ยถามคนหน้าคล้ายกันสองคนที่ยืนตัวเกร็งอยู่หน้าห้อง ซีวอนมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวังตัวก่อนจะเพ่งสายตาของตัวเองกลับมาที่เด็กทั้งสองอีกครั้งเพื่อรีดเอาคำตอบของคำถามเมื่อครู่
“มา...มาหาคุณซีวอนครับ”
“อาฮะ... มีธุระอะไร ?”
“คือ...”
“...คือ พวกเรา...”
“พวกเราเป็นน้องของพี่คยูฮยอนครับ” เสียงที่ประสานพูดขึ้นมาพร้อมกันทำให้ชเวซีวอนหรี่ตาลงมองเด็กแฝดตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ เขาเพ่งสายตาไปบังชื่อที่ปักอยู่ตรงสูทนักเรียนตัวนอกของเด็กทั้งสองและนามสกุลโจวก็ทำให้ใบหน้าเรียวได้รูปขยับขึ้นลงเป็นอันรับรู้แม้จะยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ก็ตามที ดวงตาคมเข้มหรี่มองใบหน้าซื่อ ๆ ซีด ๆตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจเปิดบานประตูออกกว้างแล้วเชิญทั้งสองคนเข้ามานั่งข้างใน อย่างน้อยถ้าไอ้เด็กสองคนนี้เล่นตุกติกอะไรเขาก็น่าจะพอรับมือได้แหละนะ
“ถ้าตุกติก...ฉันเอาพวกนายถึงตายนะ” คำขู่นั้นทำให้แฝดโซแดหน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มซีอิ้ว ทั้งสองคนพยักหน้าหงึกหงักแล้วรีบเดินตามแผ่นหลังกว้างขวางเข้าไปด้านในห้องโดยไม่ลืมที่จะหันกลับไปปิดประตูลงกลอนให้เรียบร้อย
การได้เข้ามาในห้องพักของดาราใหญ่ทำให้ทั้งสองพี่น้องฝาแฝดเริ่มเกร็งขึ้นมาเพราะไม่รู้ว่าตัวเองควรจะวางตัวอย่างไรต่อหน้าคนที่สอยพรมจารีของพี่ชายตัวเองไป แถมชเวซีวอนยังเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ที่พวกเขาเห็นเป็นประจำในจอแก้วและบิลบอร์ด พอมาเจอตัวจริงแล้วแม่งหล่อหนักเข้าไปอีก.... ไม่ประหลาดใจเลยถ้าพี่คยูฮยอนจะตกหลุมรักหน่ะ
“นั่งก่อนสิ” เดินมาจนถึงโซฟาก็ได้รับคำเชิญกับการผายมืออย่างผู้ดี (วิถีที่พวกเขาไม่ค่อยคุ้นชิน) ให้นั่งลงไปบนโซฟา ทั้งสองแฝดซึ่งอยู่ในท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเชื่องชา สายตาก็จับจ้องไปทางชเวซีวอนไม่ยอมวาง
“...”
“... มีอะไรว่ามา” เมื่อถูกเสียงเข้มซักถาม ความกล้าหาญที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็หดสั้นลงไปยิ่งกว่านิ้วของอาจารย์เยซอง เด็กนักเรียนทั้งสองกลืนน้ำลายลงคอ หันหน้ามาส่งสายตาถกเถียงกันว่าใครจะเป็นฝ่ายเริ่มพูดออกไปก่อนกัน
มึงสิ...
มึงก่อนเลย..
มึงดิวะ มึงเริ่ม !
มึงต่างหาก มึง มึง !!
มึงก่อนเลย...
ไอ้ห่า... มึงเลย
“ถ้าจะมาจ้องหน้ากัน เชิญที่อื่นก็ได้นะ” ชเวซีวอนมองสงครามสายตากลางอากาศของเด็กตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจทำตัวเป็นผู้ยุติสงครามนั้นเสีย ยิ่งต้องมานั่งดูไอ้เด็กแฝดที่อ้างตัวเป็นน้องชายของโจวคยูฮยอนนานเท่าไหร่ เวลาที่เขาจะเอาไปสวีทกับพี่ชายของมันทั้งสองก็ยิ่งมีน้อยลงเท่านั้น ! ดังนั้นเขาไม่ควรเสียเวลาอันมีคุณค่าอย่างหาที่เสมอเหมือนมิได้นี้ไปโดยเปล่าประโยชน์
“ครับ ! คือพวกเรา... พวกเราอยากสารภาพบาปครับ !”
“ไปโบสถ์สิอย่างนั้น... ฉันไม่ใช่บาทหลวง” ชเวซีวอนขยับเปลี่ยนท่านั่งของตัวเองให้มาเป็นการนั่งไขว่ห้าง ปลายคางแหลมวางลงบนฝ่ามือที่ท้าวอยู่กับที่วางแขนของโซฟา ใช้ดวงตาคมคู่ดุทอดมองเด็กทั้งสองที่นั่งปากสั่นมือไหวอยู่ตรงหน้าเพื่อบีบคั้นให้รีบเข้าประเด็นเสียที
“ไม่ใช่ครับ... คือว่าเรา...เราสองคน เป็นคนใส่ยานั่นลงไปในข้าวกล่องเองครับ” แฝดคนที่ผมสีน้ำตาลรีบพูดต่อขึ้นมาด้วยท่าทีตื่นตระหนกซึ่งคล้ายกับคยูฮยอนเวลาตกใจไม่มีผิด แต่นั่นก็ไม่น่าสนใจฟังเท่าเนื้อความทีเด็กนั่นพูดออกมาหรอก คำว่า เป็นคนใส่ยาลงไปในข้าวกล่อง ทำให้ซีวอนต้องหรี่ดวงตาของตัวเองเล็กลงเพื่อมองเด็กตรงหน้า
“หมายความว่า ?...”
“ครับ พวกเราเป็นคนทำเอง ไม่ใช่พี่คยูฮยอน...” เด็กที่หัวออกไปทางโทนสีส้มกล่าวสมทบขึ้นมาเพื่อยืนยันในสิ่งที่แฝดของมันพูด... อ่าว ถ้าอย่างนี้ซีวอนก็กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าผู้มีพระคุณที่ทำให้เขาได้แต๊บตูดโจวคยูฮยอนคนงามสินะ -,,-
“อาฮะ...” อย่างไรก็ตาม แม้จะอยากเข้าไปเชคแฮนด์และแสดงความขอบคุณมากแค่ไหน แต่ซีวอนเห็นว่าการนั่งปั้นหน้าโหดแล้วฟังเรื่องจากปากของเด็กแฝดตรงหน้าน่าจะเวิร์คกว่า
เพราะเขาอาจได้รู้อะไรเพิ่มก็ได้ -..-
“พวกเราไม่อยากให้คุณซีวอนเข้าใจพี่คยูฮยอนผิดไปนะครับ”
“อื้ม...”
“ที่พี่คยูฮยอนทำไม พี่เขามีเหตุผลนะครับ” บอกแล้วว่าการฟังไอ้เด็กสองคนนี้ไปสักพักมันจะต้องมีอะไรดี ๆ ให้เขาตงิดหูบ้างแหละ ซุปเปอร์สตาร์หนุ่มยังคงตีสีหน้านิ่งโดยใช้วิชาการละครที่เล่าเรียนมาทั้งหมดกดอารมณ์ของตัวเองลงไป ทำเหมือนกับว่าเขากำลังเข้าใจผิดคยูฮยอนอยู่ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่มีอะไรเลยแม้แต่น้อย แถมระหว่างชเวซีวอนกับโจวคยูฮยอนทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความราบรื่นดี มีแต่คนข้างนอกเท่านั้นแหละที่วิ่งเต้นไปมา ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตไปเรื่อย
“ทำไมหล่ะ ?”
“เพราะคุณมุนจองฮยอกครับ !” ไอ้เด็กหัวน้ำตาลโพล่งชื่อที่เขาไม่อยากจะได้ยินมากที่สุดออกมา ซึ่งมันก็ทำให้คิ้วของเขากระตุกได้อย่างไม่ยาก ไอ้หมีมุนจองฮยอกนี่เที่ยวหลอกเที่ยวหลอนชาวบ้านเขาไปทั่วเลยสินะให้ตาย...
“มุนจองฮอยอกงั้นเหรอ ? ทำไม ?”
“คุณจองฮยอกบอกว่าถ้าพี่คยูจบสัญญาได้ภายในหนึ่งอาทิตย์เขาจะให้เงินเพิ่มเป็นสองเท่าครับ !”
“แล้วพอพี่คยูเล่าให้เราสองคนฟัง เราก็เลยยุพี่คยูให้ใช้ยาสมุนไพรครับ !”
“...” เขาเงียบและไม่แสดงท่าทีอะไรออกไปเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กแฝดสองคนนั้นบอกเล่ามา หากภายในอกกว้างเสียงหัวใจกลับเต้นถี่รัวไม่เป็นจังหวะเพราะความโกรธ... มุนจองฮยอกแม่งเป็นเปรียบได้ดั่งหมีที่ชอบเอาไม้ไปแหย่รังผึ้งของคนอื่นชัด ๆ ! แม่งเสือกเรื่องของเขาไม่เลิกแถมยังมีหน้ามาพยายามกีดกันความรักของเขากับน้องคยูฮยอนอีก... หนอยยยยยยยยยยยยยยย ~ แล้วมาด่าเขาปาว ๆ ว่าเลี้ยงไม่เชื่อง
เหอะ ! ใครเลี้ยงใครอย่าให้พูด
ถ้าไม่มีชเวซีวอน บริษัทมันจะดังได้ขนาดนี้หรือไงวะ !!
“ที่จริงเรื่องมันมีแค่นี้เองครับ มันเป็นความผิดของพวกเรากับคุณจองฮยอก พี่คยูไม่ผิดอะไรเลย...”
“อย่าโกรธพี่คยูเลยนะครับ... พี่คยูฮยอนเป็นห่วงคุณซีวอนมากจริง ๆ” เด็กทั้งสองนั่งตัวเกร็งมองหน้าพี่ชายที่อยู่ดี ๆ ก็เงียบไป แววตาของซีวอนกำลังวาวโรจน์ไปด้วยเพลิงแค้นร้อนระอุที่ขนาดพวกเขานั่งห่างออกมายังรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว...
โอ้ยตาย นี่จะโดนฆ่าหมกห้องดาราดังไหมวะเนี่ย !
T______________T
“อื้ม... ฉันไม่โกรธพี่ชายพวกนายหรอก”
“...”
“...เราสองคนโอเคมาก มีแต่ไอ้ห่าจองฮยอกนั่นแหละที่ไม่โอเค” ซีวอนพรูลมหายใจร้อนระอุของตัวเองออกมาแล้เอนแผ่นหลังลงไปอิงกับพนักพิง เขาเบือนใบหน้านิ่งเฉยของตัวเองไปมองเด็กแฝดที่ยังคงนั่งตัวเกร็งอยู่อย่างเดิมก่อนจะหลุดขำออกมาเล็กน้อยเพราะท่าทางตื่นตระหนกนั่นแสดงออกมาชัดเจนมากกว่าเมื่อตอนที่ก้าวมาในห้องเสียอีก
“ O__O”
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอก... ฮยองไม่ได้จะฆ่าจะแกงพวกนายเสียหน่อย”
“...”
“ดีเหมือนกันที่พวกนายบอกเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นฮยองก็คงสงสัยอยู่นาน...”
“พวกเราเชียร์ฮยองนะครับ !”
“ใช่ครับ ผมอยากให้ฮยองได้กับพี่ชายผม *___*”
“อืม... ได้ยินแบบนี้แล้วค่อยรู้สึกน่าคบหน่อย ~ หึหึ” ซีวอนยิ้มกว้างออกมาและไม่คิดจะปิดความความรู้สึกอะไรของตัวเองอีก ผิดกับเด็กสองคนที่มองเขาด้วยแววตางงงวยเป็นไก่ตาแตก มีเครื่องหมายเควชั่นมาร์คลอยเคว้งอยู่เหนือหัวมากมายเหมือนรอให้เขาอธิบาความให้กระจ่าง
“งั้น...”
“ฮยองก็เล็งพี่เราอยู่นั่นแหละ... คนอะไรไม่รู้ น่ารักเป็นบ้า” นี่พูดแล้วยังเขินเลย.... บ่องตง -/////-
“โป๊ะเช๊ะครับ !!” ไอ้เด็กแฝดดีดนิ้วดังเป๊าะพร้อมกันแล้วฉีกยิ้มกว้างราวกับประสบความสำเร็จอะไรสักอย่างในชีวิต
“หืม...”
“พวกเราได้ยินมาว่า คุณจองฮุนจะจัดงานแถลงข่าว...”
“และเราก็อยากให้พี่ชายของเราสมหวังครับ”
“อาฮะ ?” ผมมองเด็กตรงหน้าที่ทำการต่อบทได้อย่างลื่นไหลราวกับเป็นนักพูดมืออาชีพ เด็กสองคนนั่นขยับตัวเข้ามาใกล้กัน ทอดสายตามุ่งมั่นที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความหวังมาทางผม
“พวกเราเลยคิดว่า...จะให้คุณซีวอนขอพี่คยูเป็นแฟนในงานแถลง...”
“...ห้ะ ?”
“คุณซีวอนว่าดีไหมครับ ?!”
“...”
“...”
“...”
“แม่งเยี่ยมที่สุดเลยต่างหาก !!” ร่างสูงปรี่เข้าไปนั่งแทรกกลางระหว่างแฝดทั้งสองที่เขาคิดว่าเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีไอเดียดีชิพหาย แขนทั้งสองข้างโอบผู้มีพระคุณของตัวเองเอาไว้ทั้งข้างซ้ายข้างขวาแล้วทั้งสามคนก็หันมามองหน้าส่งยิ้มที่มีความหมายให้กันอย่างมีเลศนัย...
อย่างน้อยพระเจ้าก็ส่งทูตสวรรค์มาช่วยชเวซีวอนหล่ะว้า ~
DAMN CUPID
ฉันรักอีแฝดสองคนนี้จังเลย 555555555555555
ความคิดเห็น