ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WONKYU ft. KIHAE] DAMNCUPID . พรหมลิขิตพิสดาร

    ลำดับตอนที่ #19 : . เพราะใจสั่งให้ทำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 443
      4
      10 มี.ค. 56


    ไม่ใช่เพราะอะไร
    แต่ใจสั่งให้ทำ

     

                โจวคยูฮยอนสาบานได้ว่าเขาค้านหัวชนฝาแล้วจริง ๆ กับสิ่งที่ตัวเองกระทำอยู่ตอนนี้... คือเขาปฏิเสธเสียงแข็งไปแล้วกว่า 100 ครั้ง แต่มันก็คงยังไม่เพียงพอต่อการขืนตัวเองเอาไว้สินะ ถึงได้มายืนอยู่ที่หน้าห้องของชเวซีวอนอยู่อย่างนี้ ! คือ อย่าพึ่งมองหน้าเขาแบบนั้น.... ทั้งที่เพิ่งรับคำพี่จองฮุนมาเสร็จสรรพเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้กลับแหกคำพูดของตัวเองออกมาทุกข้อ แต่เขาทำไปเพราะมีเหตุผลนะ ! ก็ถ้าไม่เจอสีหน้าออดอ้อนของคิมคิบอมที่มีพระคุณกับเขาอย่างเหลือหลายตั้งแต่เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์วันนั้นกับเพื่อนเฮที่มาครางงุ้งงิ้งใส่โทรศัพท์และมานอนครวญอยู่ถึงเตียงในบ้านพักของเขา โจวคยูฮยอนก็จะไม่มายืนตรงนี้หรอก !

     

     

                อย่ามองแบบนั้นสิ.....

     

                .....

     

     

     

                ... อย่าจับผิดผมด้วยสายตาแบบนั้น !!

     

                …

     

     

     

     

                …        

     

     

     

                ….

     

     

     

                โอเค ! ยอมรับก็ได้ !!

     

     

    ก็คิดถึงชเวซีวอนเหมือนกันนี่ -3- !

     

                มือบางเอื้อมเอาคีย์การ์ดที่ได้มาจากคิบอมไปแตะลงไปบนเครื่องแสกน เพื่อให้มันปลดล็อคบานประตู ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาตี่สามย่างเข้าสู่ตีสี่ เวลานอนของคนส่วนใหญ่ แต่โจวคยูฮยอนก็ไม่ลืมที่จะเอาผ้าขนหนูพันหัวมิดชิด ใส่เสื้อโค้ทตัวหนาที่ทำให้เขาดูเป็นคนอ้วน แล้วก็สวมแว่นสายตารุ่นปู่รุ่นย่าที่ทงเฮไปขุดมาจากห้องอากงเอาไว้ ใบหน้าหวานเหลือบมองซ้ายทีขวาทีอย่างระมัดระวังแล้วค่อยแทรกตัวเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว

     

                “ฟู่ววววววว ~” พรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อตัวเองสามารถเข้ามาในห้องของชเวซีวอนได้โดยสวัสดิภาพ ความมืดในพื้นที่คับแคบนั้นทำให้โจวคยูฮยอนต้องคลำหากำแพงแล้วพาตัวเองเดินลัดเลาะตรงไปยังโซนของห้องนั่งเล่น ละครั้งนี้เขาก็ไม่พลาดที่จะเดินอ้อมไปชักมู่ลี่ปิดลงมาให้หมดด้วย... เขาจะไม่ยอมให้มีความผิดพลาดใดเกิดขึ้นอีกแล้ว !

     

                “ฮัลโหล... ถึงแล้วนะครับคุณคิบอม ไม่ต้องห่วง.... ครับ... ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมโทรหาอีกทีนะครับ” คยูฮยอนป้องปากกรอกเสียงใส่โทรศัพท์หาคนที่จอดรถอยู่ด้านล่างหลังจากพาตัวเองมานั่งบนโซฟาเรียบร้อยแล้ว พอกดวางสายจากการรายงานสดไปถึงคิบอมที่อุตส่าห์แหกขี้ตาแต่เช้าเพื่อมาส่งเขาโจวคยูฮยอนก็เริ่มสอดส่องดวงตามองซ้ายมองขวาไปตามมุมต่าง ๆ ของห้องที่เขารู้สึกคิดถึงราวกับมันเป็นบ้านหลังที่สองของตัวเอง

     

                เผลอหลุดยิ้มออกมากับชามข้าวที่วางซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ แล้วก็กองชีทอันโตที่เดาว่าชเวซีวอนคงใช้เวลาคร่ำเคร่งอยู่กับมันทั้งวันเมื่อไม่มีตารางงานเช่นนี้ คยูฮยอนลุกขึ้นจากโซฟาแล้วคว้ากองชามนั่นขึ้นมาในมือ เดินตรงไปที่อ่างล้างจานซึ่งมีเศษอาหารติดอยู่เพราะการทำความสะอาดที่ไม่ละเอียดลออนัก

     

                มันมีหลายอย่างเหลือเกินที่รอให้เขามาจัดการ.... เจ้าตัวจึงไม่รีรอที่จะเดินไปเปิดสวิชต์ไฟสักดวงสองดวงให้พอมีแสงสว่างได้ส่องมองดูบ้างว่าอะไรเป็นอะไร ดวงตากลมมองหาผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลที่เขาใช้เป็นประจำซึ่งสุดท้ายก็พบว่ามันวางพาดอยู่กับเก้าอี้ที่โต๊ะอาหาร จึงเดินไปหยิบมันขึ้นมาสวมใส่แล้วแปลงร่างเป็นคุณพ่อบ้านอีกครั้ง

     

                น่าประหลาดที่การทำงานครั้งนี้ทำให้เขามีรอยยิ้มขึ้นมาได้... เป็นครั้งแรกในรอบหลายอาทิตย์ที่โจวคยูฮยอนรู้สึกว่าตัวเองอยากจะลุกขึ้นมาทำกับข้าวแล้วกินมันให้หมด แล้วมันก็คงจะดีไม่น้อยที่เจ้าของห้องตัวสูงคนนั้นจะตื่นจากฝันเพราะกลิ่นอาหารจากในครัว เดินหัวยุ่งตรงมาที่บาร์ กอดเขาจากทางด้านหลังพลางกระซิบเบา ๆ เพื่อถามหาอาหารเช้า.... อ่า บรรยากาศแบบนี้มัน.... -/////////////////////-

     

                “เพ้อใหญ่แล้วโจวคยูฮยอน.... แกควรจะเป็นคนเดินไปกอดเมียที่หน้าซิงค์นะ” บ่นพึมพำออกมาเมื่อรู้สึกว่าความคิดตัวเองชักจะพิลึกพิเรนทร์ไปใหญ่แล้ว ให้ตายสิ ! เขาเผลอนึกภาพซีวอนทำแบบนั้นกับตัวเองได้ยังไงนะ นั่นมันแต๊ะอั๋งชัด ๆ ! โจวคยูฮยอนไม่ควรจะสมยอมและโอนอ่อนไปตามนั้นนะ !

     

                จัดการกับชามในอ่างเสร็จก็หันมาจับไม้กวาดทำความสะอาดพื้นไม้ในครัวเสียหน่อย ก็ว่าจะทำแค่นิดเดียวแต่เพราะทนสภาพห้องรกไม่ได้เลยตัดสินใจเปิดสวิชต์ไฟมันทั้งห้องแล้วจับเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติขึ้นมาวางบนพื้นพรมให้มันทำความสะอาดเสียให้เรียบร้อย ฝ่ายตัวเองก็หันไปเก็บกองชีทมาวางรวมกันไม่ให้สะเปะสะปะ จัดหนังสือที่ถูกดึงออกมากลับเข้าไปในชั้นพร้อมกับปัดฝุ่นบนชั้นหนังสือไปด้วย

     

                ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดไปตามโต๊ะเก้าอี้ต่าง ๆ ที่อมฝุ่นอย่างเหลือทน ชเวซีวอนคงเขาวัฏจักรจ้างแม่บ้านอาทิตย์ละครั้งเหมือนเดิมสินะ ห้องถึงได้รกเยี่ยงรังหนูขนาดนี้... นี่ขนาดแค่ห้องนั่งเล่นนะ แล้วถ้าในห้องนอนหล่ะ... โถ่ โจวคยูฮยอนไม่อยากจะคิดเลยว่าตัวเองต้องสังคายนาจากมุมไหนก่อนดี

     

                จะว่าไปเขายังไม่ได้เข้าไปในห้องนอนซีวอนเลยนี่นา....

     

                “อ่า จะกวนหรือเปล่านะ...” ถึงปากจะบ่นออกมาอย่างนั้น แต่เท้านี่ก้าวไปถึงหน้าประตูห้องเรียบร้อยแล้ว คยูฮยอนเอื้อมมือไปจับลูกบิดแล้วลองหมุนมันดูว่าอีกคนล็อคห้องหรือเปล่า ซึ่งเมื่อลองหมุนไปจนสุดแล้วเขาก็พบว่าชเวซีวอนเป็นดาราที่ประมาทที่สุดในโลกเลยหล่ะ

     

                “ไม่กลัวโดนดักฆ่าหรือไงกันนะ” ขยับปากบ่นแบบไม่มีเสียงเพื่อไม่ให้รบกวนเจ้าของห้องที่แผ่กายอยู่บนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่เขาจำได้ชัดเจนว่ามันนุ่มและสปริงดีมาก.... อ่า ช่างเถอะ อย่าพูดถึงมันเลยดีกว่า -______-

     

                คยูฮยอนเขย่งเท้าเดินไปตามพื้นพรมไปยังมุมห้องโดยที่ในมือก็ถือไม้ปัดฝุ่นเอาไว้ สภาพด้านนอกว่าเห็นแล้วอนาถลูกตามาก สภาพในห้องนี่อย่าใช้คำว่าที่อยู่อาศัยเลยจะดีกว่า นี่ชเวซีวอนเป็นคนขี่ซาเล้งหรือไงทำไมถึงมีกองชีทกับหนังสือกระจายระเกะระกะไปทั่วห้องขนาดนี้ นี่ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนเขาคงจะเข้าใจว่าซีวอนเป็นพวกคนรับซื้อกระดาษมาชั่งกิโลขายไปแล้วหล่ะ

     

                ร่างผอมย่อตัวลงเก็บกระดาษแผ่นที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นมาสุมให้มันวางเป็นกองเดียวกัน สายตาก็เหลือบมองคนบนเตียงที่ยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่ไปด้วยเป็นระยะ... ถึงคิบอมจะย้ำนักย้ำหนาว่าซีวอนไม่โกรธหรอกแต่ก็อดกังวลใจไม่ได้อยู่ดีว่าซุปเปอร์สตาร์ที่นอนอ้าปากให้น้ำลายยืดอยู่ตรงหน้านี่จะไม่ชอบใจเท่าไหร่ถ้าหากตื่นมาเห็นเขากำลังค้อมตัวเก็บเศษกระดาษแบบนี้

     

                ครึ่ก....

     

                “O__O!” คยูฮยอนสะดุ้งตัวเมื่อได้ยินเสียงประหลาดที่ดังมาจากการขยับขาของเขา... ร่างบางรีบตวัดหน้าขึ้นไปมองคนบนเตียงแล้วก็ต้องโล่งอกไปเมื่อชเวซีวอนยังไม่ลืมตา ลมหายใจสม่ำเสมอกับท่าหลับน้ำลายยืดพิฆาตใจยังคงค้างอยู่อย่างเดิม โถ่เวรกรรม.... กระดูกกระเดี้ยวของเขาเสือกมาดังอะไรเอาตอนนี้หล่ะ

     

                ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก ครื่กกก.......

     

                “อื้อ....”

     

                ไอ้เหี้ย....................................................

                =_________________=

     

     

     

     

                สบถอยู่ในใจด้วยความรู้สึกลุ้นระทึก ไม่กล้าแม้แต่จะหันหน้ากลับไปมองคนบนเตียงที่เริ่มขยับตัวจนเขาสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนกลาย ๆ ดวงตากลมที่ปิดสนิทค่อย ๆ หรี่ขึ้นเหลือบมองเจ้าของร่างที่ตอนนี้พลิกตัวไปอีกฟากของเตียง ซึ่งมันยิ่งทำให้คยูฮยอนลุ้นระทึกหนักมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าเพราะเขาไม่มีทางรู้เลยว่าชเวซีวอนตื่นหรือหลับอยู่

     

                เอาไงดีวะ...

     

     

     

     

                คยูฮยอนเกิดอาการลังเลใจขึ้นมาชั่วครู่.... เขามาที่นี่เพื่อมาเจอซีวอน แต่ตอนนี้กลับกลัวว่าซีวอนจะตื่นมาเจอ มันช่างดูขัดแย้งกันเหลือเกิน.... ถ้าเป้าหมายคือ มาเพื่อ “เจอ” ซีวอน ดังนั้นสิ่งที่เขาควรทำก็คือ.....

     

     

     

     

                ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก แหมะ......

     

     

     

                นั่งเก็บแม่งให้เป็นหลักแหล่ง มึงตื่นมากูค่อยอธิบายแล้วกัน

                =__________________=

     

     

                จากการทำความสะอาดด้วยท่าทีเก้กัง กลับกลายเป็นนั่งลงแล้วตั้งใจจัดเรียงเอกสารปึกใหญ่เหล่านั้นให้เข้าที่เข้าทางให้เสียงเบาที่สุด ไม่สนใจว่ากระดูกตัวเองจะส่งเสียงดังแค่ไหนแล้ว แค่พยายามดำเนินการทำความสะอาดของตัวเองให้เงียบเชียบที่สุดก็พอ....

     

                ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ตั้งแต่ตะวันยังไม่โผล่ขึ้นมาบนฟ้า จนตอนนี้แสงแดดเริ่มส่องสว่างจ้าลอดเข้ามาในห้อง คยูฮยอนที่เพิ่งจะเรียงเอกสารจึงค่อยเหลือบมองไปทางร่างสูงบนเตียงอีกครั้ง ชเวซีวอนยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้าง ที่พอเขาลุกขึ้นยืนดูแล้ว บนที่นอนนั่นก็ยังมีหนังสือที่วางไว้อยู่อีกสองสามชุด เขาเผลอหลุดรอยยิ้มออกมาเมื่อสังเกตว่าที่ข้างแก้มของอีกฝ่ายมีรอยปากกาไฮไลท์สีเขียวติดอยู่ ซึ่งก็ไม่ต้องประหลาดใจเลยว่าได้มาจากไหน เพราะเครื่องเขียนต้นเหตุนั่นถูกเปิดฝาทิ้งไว้อยู่ข้างหมอนนั่นเอง

     

                “จริง ๆ เลยนะ...” เสียงหวานบ่นขึ้นมาก่อนจะค้อมตัวลงไปคว้าปากกาไฮไลต์มาปิดฝาให้เรียบร้อย แล้วก็หยุดไม่ได้ที่จะขยับตัวเข้าไปใกล้อีกหน่อย เก็บหนังสือกับเอกสารที่วางอยู่บนเตียงมากองรวมไว้ที่หัวนอนก่อน

     

                เงาที่พาสะท้อนดวงตาไปทำให้คนที่อยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่นรู้สึกตัวขึ้นมาถึงการขยับเขยื้อนของอะไรบางอย่างรอบกาย ชเวซีวอนคิดว่าตัวเองคงจะกังวลมากเกินไปเลยได้กลิ่นโคโลญจ์อ่อน ๆ ที่คยูฮยอนใช้ลอยอยู่เหนือจมูก... เขาจึงปัดความคิดที่ว่าลูกแมวกำลังนั่งรออยู่ข้างเตียงออกไปแล้วพยายามกดตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทราต่อ

     

                กระนั้นกลิ่นหอมก็ยังคงหลอกหลอนและชัดเจนมากยิ่งขึ้น....

     

                ฝันห่าอะไรจะชัดได้ขนาดนี้ หนัง 4D ยังเทียบไม่ติด - -

     

     

                “อื้อ ~” ถ้าขืนอยู่ในฝันนานก็กลัวว่าตัวเองจะต้องละเมือเพ้อภพไปไกลกว่านี้แน่ ซีวอนจึงตัดสินใจว่าจะต้องลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วหล่ะ เผื่อความฟุ้งซ่านจะหายไปบ้าง... ร่างสูงจึงยืดแขนยืดขาออกแล้วตะแคงตัวไปทางหัวเตียงของตัวเองเพื่อดูนาฬิกาว่านี่กี่โมงแล้ว

     

                “..อ่ะ”

     

                “เฮ้ยยยยยยย !!” แต่ก็ต้องสะดุ้งอย่างแรงเมื่อมีคนหน้าเหมือนเจ้าลูกแมวทุกระเบียดนิ้วกำลังก้มตัวลงมาจัดหนังสืออยู่เหนือหัวเขา... และให้ตายสิ แม้แต่ท่าทางตกใจของผู้ชายคนนั้นก็ยังลอกเลียนแบบโจวคยูฮยอนมาได้เหมือนจนหาที่ผิดไม่เจอเลยหล่ะ !

     

                “เอ่อะ....”

     

                “น นาย...” ร่างสูงถลาตัวออกมาห่างคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงเล็กน้อยเพื่อสำรวจให้แน่ชัดว่านั่นใช่โจวคยูฮยอนหรือเปล่า แต่การขยับตัวออกจากผ้านวมแบบนั้นมันทำให้ผ้าห่มร่นต่ำลงมาที่ระดับเอว เผยอกเปลือยเปล่าที่มีมัดกล้ามรายล้อมอยู่ให้คนที่ยืนอยู่ต้องชะงักค้างไปอีกฝ่าย

     

                หน้าของคยูฮยอนขึ้นสีเหมือนโดนแต้มภายในเวลาไม่กี่วินาทีที่เห็นสัดส่วนของคนบนเตียงในระยะคว้าได้.... ให้ตายสิ เข้ามาในห้องนี้ทีไร ต้องได้เห็นเนื้อหนังใต้ร่มผ้าของซีวอนทุกทีสินะ ! -////////////-

     

                “คยู...คยูฮยอน...”

     

                “ค... คระ..ครับ” เอกลักษณ์การติดอ่างกับแก้มแดงเป็นปื้นทำให้ซีวอนที่กำลังงัวเงียอยู่ต้องเบิกตาโพล่งขึ้นมา ร่างสูงขยับตัวเองที่นั่งคู้เกร็งให้เปลี่ยนมาอยู่ในท่านั่งสบาย ๆ พร้อมกับขยับตัวเข้าไปใกล้คนที่ยังชะงักค้างอยู่ตรงข้างเตียงอย่างไว้วางใจ

     

                “คยูฮยอนจริงป่ะ ?”

     

                “จ จริง... จริงครับ”

     

                “ลูกแมววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว ~” โดยไม่ทันตั้งตัว ร่างผอมบางก็ถูกฉุดรั้งให้หล่นลงมาบนเตียงอย่างง่ายดายเพียงเพราะแรงกระตุกจากเจ้าของเสียงตะโกนดังลั่นเมื่อครู่ ใบหน้าของซีวอนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่ดีที่สุดเท่าที่คนเพิ่งตื่นนอนจะพึงมี วงแขนแกร่งโอบรัดลูกแมวของตัวเองเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเจ้าแมวเหมียวตัวขาวที่อยู่ในท่าทางเลิกลักจะหายไปจากอ้อมกอดของเขาอีก

     

                “ครับ...ลูกแมว...ลูกแมวอยู่นี่ครับ” ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองควรจะทำหน้าทำตา แสดงท่าทางออกมาอย่างไร โจวคยูฮยอนจึงได้แต่ปล่อยให้ริมฝีปากของตัวเองยกรอยยิ้มอ่อน ๆ ในขณะที่พึมพัมบอกถึงการมีอยู่ของตัวเองคลอไปด้วย ฝ่ามือเปื้อนฝุ่นลูบเบา ๆไปบนแผ่นหลังเปล่าของผู้ชายขวัญเสียที่ตระกองกอดเขาเอาไว้แน่นจนหายใจแทบไม่ออก โดยที่เจ้าลูกแมวตัวขาวก็ทิ้งใบหน้าซบลงกับอกเปลือยเปล่าอย่างไม่ขัดขืนอะไรกับอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นนั้น

     

                “นึกว่าจะไม่ได้เจอกันแล้ว....” แขนล่ำสันคลายออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มองหน้าของคนที่ใจถวิลหามันทุกวินาที (คิดถึงมากกว่าพี่จองฮุนล้านเท่า) ซีวอนใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเหงื่อตามขมับและแก้มขาว จ้องดวงตากลมโตที่ช้อนมองเขาแบบหมิ่นเหม่เพราะความเขินอายก่อนจะกดริมฝีปากแนบลงไปที่ปลายจมูกรั้นเสียครั้งหนึ่ง

     

                “...”

     

                “คิดถึงมากเลยทำไมไม่รับโทรศัทพ์ ?”

     

                “คือ.... ผม...”

     

                “...” เขาเงียบเสียงตัวเองแล้วก้มหน้าลงมองคนที่กำลังหาคำตอบของคำถาม โจวคยูฮยอนหลุบดวงตาลงและเอาแต่กลอกลูกตาสองข้างไปมาด้วยความลังเลใจ กระนั้นแขนขาวที่คล้องอยู่รอบเอวเขาก็ไม่ยอมปล่อยไปไหน ซ้ำยังยึดแผ่นหลังกว้างเอาไว้เสียแน่น

     

                “ผม....”

     

                “....”

     

                “ผมก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอคุณซีวอนแล้วเหมือนกันอ่ะ....T____T” อยู่ดี ๆ เจ้าแมวน้อยก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วปล่อยน้ำตาของตัวเองให้ไหลลงมาอาบแก้ม ริมฝีปากบิดเบ้เมื่อพบว่าตัวเองกลั้นความอ่อนแอเอาไว้ไม่ได้ดั่งใจหวัง แต่ท่าทางแบบนั้นก็ทำให้ชเวซีวอนยิ้มกว้างออกมาแล้วกดหัวกลม ๆ ของคนตรงหน้าเข้ามาซบกับอกของเขาก่อนจะเอนตัวทิ้งลงไปบนเตียงนอนโดยมีเจ้าลูกแมวตัวขาวปล่อยโฮซบอยู่กับอกเปล่ากว้างขวาง

     

                “อ่า อย่าร้องสิลูกแมว ~

     

                “ฮึก...ผม...ผมคิดถึง...ฮือ... คิดถึงคุณซีวอนอ่ะ” คยูฮยอนเลื่อนมือออกมาจากเอวแล้วเปลี่ยนไปกำผ้านวมด้านล่างเสียแน่น เขาไม่คิดว่าตัวเองจะมาเปิดเขื่อนอะไรเอาในเวลาแบบนี้หรอกนะ แต่พอเห็นหน้าชเวซีวอนกับการโดนลูบผมเบา ๆ ย่างที่อยากได้อยากโดนมานานแบบนี้มันเหมือนไปทุบสันเขื่อนที่ขอบตาของเขานั่นแหละ และมันก็ทำให้โจวคยูฮยอนรู้สึกว่าการไม่มีชเวซีวอนอยู่ในกรอบสายตามันช่างเป็นเรื่องที่ลำบากเหลือเกิน

     

                “อ่า ฮยองก็คิดถึงนาย...”

     

                “ฮึก....ฮือออ... คิดถึงมากจริง ๆ นะ”

     

                “เหมือนกันหน่า... ไหนเอาหน้าขึ้นมาก่อน น้ำมูกเลอะอกฮยองหมดแล้วเนี่ย ~” ชเวซีวอนที่ขนนมเริ่มลุกเพราะโดนน้ำหูน้ำตาน้ำมูกเย็น ๆ ของคยูฮยอนไหลเปื้อนไปทั่วอกดันร่างผมให้เงยหน้าขึ้นมาแบบขำ ๆ อย่างไม่ได้นึกรังเกียจ คยูฮยอนที่กลายเป็นคนว่าง่ายไปโดยปริยายยอมเอาหน้าออกมาจากอก เงยมองอีกคนด้วยดวงตากลมใสแจ๋ว แล้วก็ต้องเขินหน้าแดงอีกรอบเมื่อปลายนิ้วของคนที่นอนเป็นเตียงให้เขาซ้อนตัวยกปลายนิ้วขึ้นมาเกลี่ยรอบขอบตา แถมเช็ดน้ำมูกที่ไหลย้อยลงมาให้เขาอีกต่างหาก

     

                “จมูกแดงหมดแล้วลูกแมวน้อยของฮยอง ~” เสียงทุ้มต่ำเปรยบ่นออกมาพร้อมกับจัดการเกลี่ยนิ้วไปบนผิวเนื้อเนียนอย่างทนุถนอม ครั้นเห็นใบหน้าของเจ้าลูกแมวตัวขาวสะอาดแล้ว ซีวอนก็คลี่ยิ้มกว้างออกมาแล้วกดสันจมูกลงบนแก้มนุ่มทั้งสองข้าง

     

                “...”

     

                “คิดถึงโจวคยูฮยอนสุดหัวใจเลยครับ” วินาทีที่อีกคนแตะริมฝีปากลงมาเบา ๆ ที่กลีบปากร่างของเขา คยูฮยอนชักไม่แน่ใจแล้วว่าเขายังหายใจอยู่หรือเปล่า....

     

     

     

     

     

     













     

     

     

     

     

                “อ๋า ~ ปล่อยก่อนนะฮยอง ผมกลับไม่ถนัดเลย” บ่นงุ้งงิ้งใส่คนที่อยู่ดี ๆ ก็มารวบเอวเขาไปไว้ในอ้อมแขนทั้งที่เห็นกันอยู่ว่าเขากำลังวุ่นวายกับการนาบพาจอนลงในกระทะ แต่ถึงจะโดนบ่นงุ้งงิ้ง ชเวซีวอนที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมาหมาด ๆ และยังไม่ได้แต่งตัวให้เรียบร้อยก็ส่งเสียงหัวเราะหึหึในลำคอให้คนที่ยืนเป็นพ่อครัวสะดุ้งเล่น จมูกโด่งกดลงหอมที่หัวไหล่ของอีกคนแล้วซุกหน้าลงไปกดจูบซ้ำอยู่อย่างนั้นจนคยูฮยอนเริ่มจั๊กจี๋

     

                “คิดถึงคนน่ารัก คิดถึงคนน่ารัก คิดถึงคนน่ารัก....” คือแค่รอบเดียวคนฟังก็จะตายแล้ว นี่พูดซะหลายรอบ กลัวคยูฮยอนได้หายใจเยอะไปเหรอครับ T//////////T

     

                “อื้ออออ.... รู้แล้ว ~ ไปแต่งตัวได้แล้วนะครับ” ทันที่รู้สึกอยากจะโวยวายแก้เขิน แต่คยูฮยอนก็เค้นคำพูดอะไรออกมาจากปากของตัวเองเพื่อหยุดร่างสูงเอาไว้ไม่ได้ เพราะเขาเองก็ชอบเหมือนกันเวลาซีวอนมาซุกมาไซร้แบบนี้..... เอ่อ....คือ.... ก็นั่นแหละ... ที่จริงเขาก็ชอบนั่นแหละ แค่ไม่ได้บอกซีวอนว่าชอบเท่านั้นเอง ._____.

     

                “ออกมาต้องได้กินแล้วนะ”

     

                “อ่า... งั้นฮยองแต่งตัวนาน ๆ นะครับ”

     

                “งั้นเราไปแต่งให้ฮยองดีไหม จะได้นานๆ.....”

     

                “...พูดอะไรไม่รู้ !” ยกตะหลิวที่เลอะแป้งขึ้นมาฟาดลงไปกับสีข้างของคนที่ยังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ ซีวอนที่วันนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วโน้มตัวลงไปหอมแก้มของคยูฮยอนเป็นการส่งท้ายก่อนจะเดินเบี่ยงเข้าไปในห้องของตัวเอง... เขายอมรับเลยว่าหุบแก้มของตัวเองลงมาไม่ได้แล้ว คนที่อยู่หน้าเตากำลังจะทำให้ใบหน้าหล่อ ๆ ของเขาระเบิดกระจุยกระจายเป็นผุยผง

     

                เสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดีกับเสียงหัวเราะหึหะไปตามประสาของซีวอนทำให้คนที่ยืนอยู่หน้าเตาได้แต่มุ่ยหน้าเพราะต้องการกลบเกลื่อนอาการเขิน อายเหลือเกินที่จะบอกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงมาก แต่อกที่สั่นกระเพื่อมก็ตอกย้ำเสียเหลือเกินว่าโจวคยูฮยอนกำลังใจเต้นเพราะไอ้ดาราบ้ากามที่ชอบทำตัวเหมือนคนไม่เต็มบาทแล้วก็สอยซิงเขาไปนั่นแหละ... มาถึงขั้นนี้แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธใจตัวเองยังไงว่าไม่ได้รักไอ้คนหื่นกามที่ชอบแทะโลมเขาเป็นงานอดิเรกแล้วหล่ะนะ

     

                แต่การพูดออกไปว่ารักมันยากมากเลยนะ !

     

                ยิ่งคน ๆ นั้นเป็นชเวซีวอนผู้แสนโด่งดัง......

     

                “ตัดใจซะ ตัดใจซะคยูฮยอน....” เอาตะหลิวกดลงไปบนเนื้อแป้งเหมือนกับที่ตัวเองพยายามจะข่มเสียงในอกที่มันร้องบอกว่าให้เดินหน้าต่อ คยูฮยอนหันเหความสนใจของตัวเองไปยังแป้งพาจอนตรงหน้าแล้วพยายามลบความคิดที่เป็นเรื่องใหญ่มากเกินกว่าจะมานั่งกระวนกระวายใจในเวลานี้ออกไปเพื่อใช้เวลากับปัจจุบันให้คุ้มค่าที่สุด มีโอกาสทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วก็อย่าไปคิดหน้าคิดหลังให้มันมาก มีความสุขกับตอนนี้ไปก่อนก็พอแล้วหล่ะ

     

                “ยังไม่เสร็จอีกเหรอเนี่ย หิวแล้วนะ”

     

                “หยา ! คุณซีวอน อย่ากัดแก้มสิครับ !!” คนที่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงฝังเขี้ยวลงไปบนแก้มนุ่มของคยูฮยอน มือหนาถือโอกาสโอบเข้าไปรอบเอวบางเหมือนที่ตัวเองชอบทำพลางเกยคางวางหน้าลงไปบนบ่าแคบ ๆ ของเจ้าลูกแมวที่กำลังกดตะหลิวทอดพาจอนอย่างขะมักเขม้น ชเวซีวอนเหลือบมองเสี้ยวหน้างอ ๆ ของคนที่พยายามจะส่งสายตาค้อนเคืองใส่เขาแล้วก็อดใจไม่ได้ที่จะดันหน้าของอีกคนให้หันกลับมาหา

     

                ระยะประชิดระหว่างใบหน้าทำให้คยูฮยอนลืมตัวเผลอหลับตาลงมาแล้วรอให้อีกคนประทับริมฝีปากเหมือนอย่างที่พระนางในหนังเขาชอบทำกัน และพระเอกที่ผ่านละครมาแล้วหลายเรื่องก็ไม่เคยหลุดสคริปต์ด้วยการกดริมฝีปากของตัวเองลงที่มุมปากอีกฝ่ายเบา ๆ ขยับสัมผัสนุ่มนิ่มเคลื่อนไปแนบบนริมฝีปากบางแล้วเม้มคลึงอยู่สักพักเพื่อให้คยูฮยอนได้ตั้งหลักเสียก่อน ครั้นเมื่อฝ่ามือบางปล่อยตะหลิวลงเปลี่ยนมาคล้องที่รอบคอของเขาเอาไว้จึงค่อยแทรกลิ้นร้อนชอนไชเข้าไปด้านในอย่างเชื่องช้า

     

                ซีวอนละเมียดละไมกับการเก็บความหวานจากริมฝีปากนุ่มดุจมาชเมลโล่ ใช้ฟันมขบเบา ๆ หยอกเย้าให้อีกฝ่ายยอมเผยอกลีบปากสีกุหลาบออกมาอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งคนไร้เดียงสาอย่างโจวคยูฮยอนก็ยอมแง้มมันออกมาจริงตามอย่างที่คาดเอาไว้ เขาปล่อยให้ร่างสูงกดตัวเองทาบลงมา ให้ลิ้นรอนของซีวอนทำหน้าที่บุกรุกเข้ามาในโพรงปากชื้นอย่างเต็มที่ ส่วนตัวเองก็มีหน้าที่แค่กวัดลิ้นหลีกไปมาเหมือนกำลังเล่นวิ่งไล่จับกันอยู่

     

                กลิ่นพาจอนที่เริ่มไหม้ทำให้คยูฮยอนสะดุ้งตัวและทำท่าว่าจะเบี่ยงตัวออกมา แต่คนแขนยาวมือไวก็คว้าไปบิดหัวแก๊สให้ดับลง เพื่อไม่ให้มีอะไรมารบกวนการจูบมาราธอนของตัวเองได้ ซีวอนกดริมฝีปากของตัวเองแนบชิดปิดทางลมแล้วต้อนเกลียวลิ้นเล็ก ๆ ให้จนมุมอยู่ในโพรงปากของตัวเองอย่างสนุกสนาน

     

                “อือ...” เผลอหลุดเสียงครางเบาหวิวออกมาเมื่ออีกฝ่ายถอนริมฝีปากห้เขาได้หายใจรอบแรก แต่ยังไม่ทันจะโกยอากาศเข้าปอดได้มากอย่างที่หวัง ชเวซีวอนก็ปิดริมฝีปากของตัวเองลงมาอีกครั้ง ตามด้วยการโอบรัดกักขังเขาเอาไว้อย่างเอาแต่ใจ ร่างสูงไซร้ปลายจมูกโด่งของตัวเองไปตามข้างแก้มหลังถอนริมฝีปากออกมาแล้ว จมูกชื้นแดง ๆ ของคยูฮยอนกำลังทำให้เขาอมยิ้มแล้วโน้มใบหน้าลงไปกดจูบเสียสักครั้ง

     

                “คยูฮยอนนา...”

     

                “คะ ครับ...”

     

                “รัก...จะบ้าแล้ว”

     

                พูดอย่างนี้ไม่ต้องด่งต้องแดกมันแล้วครับพาจอนเนี่ย !

                วานพี่ซีวอนช่วยอุ้มโจวคยูฮยอนไปแดกต่อที่เตียงทีครับ !!! -////////////-

     

                “ร รู้...รู้แล้ว....” เพราะโดนทำให้เขินจนวางตัวไม่ถูก คยูฮยอนก็เลยได้แต่กำเสื้อยืดของอีกคนเอาไว้แน่นแล้วก้มหน้าตัวเองจนคางชิดอก จะขยับตัวไปไหนก็รู้สึกเกะกะไปหมดจน เขินจนชาไปทั้งแขนทั้งขา ไม่แน่ใจว่าจะสามารถทอดพาจอนต่อได้หรือเปล่าด้วยซ้ำ

     

                “รักพี่บ้างนะครับ” คนที่ไม่ได้คำตอบอะไรกลับไปนอกจากคำว่ารู้แล้ววางมือของตัวเองลงบนกลุ่มผมนุ่มของพ่อครัวที่ไม่น่าจะทำกับข้าวต่อได้ถ้าเขายังอยู่ตรงนี้ ร่างสูงจึงขยี้เบา ๆ บนกลุ่มผมนั้นแล้วปลีกตัวออกไปนั่งรอตรงโซฟา ปล่อยพ่อครัวที่กำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองให้หันหน้าเข้าหาเตาแก๊สแล้วบ่นพึมพัมกับพาจอนในกระทะเพียงลำพังโดยที่เขาไม่ได้ยิน

     

                “รักบ้างอะไรเล่า นี่กูรักจนจะบ้าตามมึงไปแล้วเนี่ย !”  

     

     















     

     

     

     

     

                กว่าจะเซ็ตสติตัวเองให้เข้าร่องเข้ารอยได้คยูฮยอนก็ต้องทำนั่นทำนี่ให้ตัวเองเหนื่อยล้าแทบตาย จนได้ห้องสะอาดสะอ้านคืนมาในขณะที่เจ้าของห้องก็นอนอ่านชีทอย่างสบายใจอยู่บนโซฟาด้วยความตั้งอกตั้งใจ... ตั้งใจมากเสียจนเมื่อคยูฮยอนหันกลับมาอีกทีก็เจอซีวอนฟุบหน้าลงไปกับกองชีทเสียแล้ว

     

                มือบางวางแก้วน้ำส้มคั้นสดที่ตัวเองตั้งใจว่าจะเอามาเติมพลังให้คนที่กำลังเหนื่อยเสียหน่อยลงบนโต๊ะกระจกแล้วขยับกองกระดาษออกมาให้ซีวอนนอนหลับได้สบายขึ้น ส่วนตัวเองที่เหนื่อยล้าจากการทำความสะอาดมาเกือบค่อนวันก็หย่อนตัวลงนั่งอยู่ข้างหัวกลม ๆ ของคนที่ฟุบหน้าลงไป

     

                เพราะอะไรดลใจไม่รู้ทำให้เขาตัดสินใจยกศีรษะกลม ๆ ของซีวอนขึ้นมาวางไว้บนตักของตัวเอง พลางเกลี่ยปลายนิ้วลงไปบนเส้นผมสีน้ำตาลนั้นอย่างเบามือเพื่อขับกล่อมคนที่นอนหลับฟุบไม่ได้สติ

     

                “อื่อออ ~” ซีวอนครางอือเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าตัวเองโดนบังคับให้ขยับตัว แต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่เขาคุ้นเคยก็ทำให้ร่างสูงไม่คิดจะลืมตาขึ้นมาและปล่อยให้อีกคนจัดสรรท่าทางไปตามความต้องการ ใบหน้าคมสันถูกจับให้ตะแคงเข้าหาลำตัวของคยูฮยอนและคนที่ไม่เคยจะปล่อยให้โอกาสผ่านไปก็ใช้จังหวะเจาะเหมาะนั้นฝังหน้าลงไปที่หน้าท้องนุ่มนิ่มนั้นพร้อมยกแขนขึ้นโอบเอวแนบแน่น

     

                “อา จั๊กจี๋...”

     

                “ตัวหอมอ่ะ”

     

                “ฮื่อ.... ทำไมชอบทำผมเขิน”

     

                “หืม ?” เป็นครั้งแรกที่คยูฮยอนยอมพูดอะไรแบบนี้ออกมา ซึ่งมันก็ทำให้คนที่กำลังเมาขี้ตาถึงกับต้องเงยหน้ามองเจ้าของใบหน้าหวานที่พยายามจะหันหนีออกไปหลังจากพูดจบประโยค คยูฮยอนแกล้งอมลม พองแก้ม ทำตัวเหมือนไม่ได้พูดอะไรออกมาเมื่อครู่ แต่มันก็ไม่อาจกลบเกลื่อนสีแดงปื้นใหญ่ตรงแก้มนั้นได้เลย

     

                “...”

     

                “ก็เวลาเขินแล้วน่ารัก”

     

                “...”

     

                “น่ารักมาก... แล้วก็รักมาก...รักมาก”

     

                “ฮื่อ !” คยูฮยอนร้องคำรามออกมาเมื่อรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกำลังถูกทำให้เต้นหนักเกินกว่าจะควบคุมให้มันกลับมาเป็นปกติ ฝ่ามือเรียววางลงไปปิดปากของอีกคนข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ปิดไปที่ดวงตาทั้งสองข้างของซีวอน กระนั้นร่างสูงก็ยังคงส่งคำว่ารักมากและรักมากซ้ำแล้วซ้ำเล่าออกมาจากริมฝีปากหยักสวยด้วยน้ำเสียงอู้อี้ไม่เลิกจนเขารู้สึกจั๊กจี้

     

                “อั๊กอาก อั๊กอาก อั๊กอาก รักมาก....”

     

                “...”

     

                “รักมาก รัก......” สุดท้ายฝ่ามือบางก็ยอมปล่อยออกมาจากริมฝีปากของอีกคน แต่กลับเปลี่ยนเครื่องมืออุดปากเป็นริมฝีปากของตัวเองที่แนบลงไปแทน ซีวอนที่ถูกปิดหูปิดตาด้วยมือเรียวทั้งสองข้างสะดุ้งเมื่อรู้สึกได้ว่าใครบางคนกำลังแตะกลีบปากลงมาเบา ๆ แล้วแช่ค้างไว้อย่างนั้นโดยไม่ได้รุกล้ำอะไรไปมากกว่าการแนบลงมาธรรมดาเพื่อปิดเสียงของเขา

     

                “...”

     

                “...” ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วทั้งห้อง บรรยากาศดูเหมือนถูกกดให้อึดอัดอย่างน่าประหลาด ชเวซีวอนไม่อาจจะสั่งการให้ตัวเองทำอะไรได้นอกจากนอนนิ่งอยู่เฉย ๆ ให้อีกคนวางริมฝีปากทาบลงมา กระทั่งเมื่อคยูฮยอนมั่นใจแล้วว่าเขาจะไม่ได้ยินคำว่ารักพรูพร่ำออกมาจากริมฝีปากคู่นั้นเขาจึงถอนใบหน้าออกมาแล้วก้มลงไปกระซิบข้างใบหูทั้งที่มือยังคงปิดตาไม่ให้คนทีนอนหนุนตักเห็นใบหน้าขึ้นสีหน้าอายของตัวเองหลังจากที่ตัดสินใจว่าจะแง้มความรู้สึกของตัวเองออกมา

     

                “ฟังผมบ้างนะครับ”

     

                “...”

     

                “ผมเองก็รักฮยองไปแล้ว”

     

                กลายเป็นชเวซีวอนที่สติแตก.... กลายเป็นซีวอนที่หัวใจเต้นรัว

                กลายเป็นชเวซีวอนที่กำลังตัวชาและรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะลอยไป

     

     

    DAMN CUPID
    ตอนนี้ไม่เน้นฮา เน้นหวาน -///////////-
    และหวังว่ามันจะหวานพอนะ

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×