MIRRORS {'ZeloxYou'} - MIRRORS {'ZeloxYou'} นิยาย MIRRORS {'ZeloxYou'} : Dek-D.com - Writer

    MIRRORS {'ZeloxYou'}

    ผู้เข้าชมรวม

    409

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    409

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 พ.ค. 56 / 22:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    **ดราม่า ดราม่า ดราม่า ไม่มีมาม่า
    เขียนไม่เก่ง เขียนด้วยความติสล้วนๆ ไม่พอใจ  กราบขออภัย**


    ____________________________________________________________________


              ถ้าคุณเป็นหัวหน้าห้องไม่ว่าจะระดับชั้นไหนก็ตามคุณจะต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องของเพื่อนๆในห้อง


              และแน่นอน มันคงจะฮือฮาน่าดูถ้าเพื่อนในของคุณดันเป็นไอดอลอีกซะด้วย คุณจะต้องดูแลไอดอลในฐานะหัวหน้าห้อง....มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ ถ้ายิ่งเขาเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต แถมยังไม่ค่อยรู้จักสังคมในโรงเรียนแบบนี้


     

    "ใครขอให้เธอช่วยกัน? ฉันทำเองได้น่า จะไปไหนก็ไปสิ"


    มัน คงไม่ดีแน่ๆ ถ้าคุณจะต้องโดนดุเพราะคนคนเดียว ที่ไม่ค่อยจะได้มาโรงเรียนเพราะ ต้องทำงาน แถมยังไม่ยอมตามงานไปส่งอาจารย์ เป็นเหตุให้คุณต้องได้ฟังคำด่าของอาจารย์แทนฟังเพลงไปเลย


    คุณจะจัดการเขายังไง?









     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ที่นี่คือ ไฮสคูลขนาดกลางของโซล ถึงมันจะเป็นขนาดกลางแต่ความวุ่นวายในโรงเรียนนี้ไม่กลางเหมือนกับขนาด เลย...  เหล่าอาจารย์ต้องวุ่นวายกับพวกเกเรปี2 แถมวันนี้ยังเป็นวันที่น่าตื่นเต้นของพวกสาวๆในโรงเรียนอีก....

      ทำไมน่ะเหรอ?


      ได้ ยินมาว่า มีไอดอลย้ายมาใหม่น่ะสิ น่าแปลกทั้งๆที่โรเงรียนเก่าของนายคนนั้นก็มีเพื่อนศลป.อยู่ด้วยแท้ๆ  ก็น่าจะมีเพื่อนสิ ทำไมถึงต้องย้ายมากันนะ?


      "
      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แก๊เจลโล่มารึยังแก๊" เสียงสะดีดสะดิ้งของสาวๆในโรงเรียนก็เริ่มดังขึ้นๆเรื่อย

      "ย่าส์ๆพวกเธอ  นี่ใกล้จะได้เวลาเรียนแล้วมาทำอะไรกันอยู่แถวนี้หน่ะ?"
      เสียงอาจารย์ใหญ่จองซู เดินลงมาเคลียร์สถานการณ์วุ่นวายที่พวกสาวทำไว้

      "คะๆ ไปแล้วค่า" พวกสาวๆทำหน้าหงอยๆ เพราะแทนที่จะได้รอรับไอดอลย้ายมาใหม่ แต่กลับต้องไปเจอหน้าอาจารย์เหี่ยวๆที่ห้องเรียน



      ฉัน เองก็มาถึงโรงเรียนแต่เช้าเหมือนกัน เพราะฉันต้องมาตรวจความเรียบร้อยของห้อง ไม่ได้มารอเจอหน้าเจลโล่อะไรนั่นซะหน่อย ข่าวเรื่องเจลโล่จะมาดังก่อนหน้านี้เป็นเดือนๆ สาวๆในโรงเรียนก็รอคอยตาเป็นมันน่าดู แน่นอน ก็ไอดอลเลยนี่นะ..

      _______________________________________________________________
      ปี2 ห้อง1
      "
      นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ"      ฉันบอกทำความเคารพอาจารย์ในคาบแรก
      "เอาล่ะ พวกเธอได้ยินแล้วใช่มั๊ยว่า มีนักเรียนมั๊ยมาที่นี่" อาจารย์จุดประเด็นเรื่องนี้อีกแล้ว    ทำเอาสาวๆในห้องเริ่มหันแลหันข้างซุบซิบกันให้แซ่ด ทั้งๆที่อาจารย์ยังพูดไม่จบ

      "อ่าวๆ ใจเย็นๆหน่อยสิพวกชะนีน่ะ นี่่ฉันยังพูดไม่จบนะ" อาจารย์เริ่มมีน้ำโหกับพวกสาวๆ

      "ก็รีบๆพูดสิคะอาจารย์ หนูอยากรู้ใจจะขาดแล้ว" สาวสวยคนนึงในห้องพูดขึ้น ยิ่งทำให้เรื่องมันน่าตื่นเต้นเข้าไปอีก

      "อ่าๆ อะแฮ่ม คืองี้ เขาจะย้าย.....มาห้องนี้น่ะ" อาจารย์พูดอย่างช้าๆ พอสิ้นประโยคเท่านั้น พวกชะนีทั้งหลายแหลในห้องก็กรี๊ดกันจนหูฉันอื้อ ไม่แน่อาจจะเกือบบอดเลยด้วยซ้ำ

      "โอยยยยย พวกเธอนี่ อะไรกันนักหนาแค่ผู้ชายคนเดียว" สุดหล่อในห้อง อาจจะไม่หล่อนะ ของเราก็เริ่มฉุนที่ต้องมีคู่แข่ง แถมยังเหนือกว่าร้อยเท่า

      "เขาไม่ได้ปลวกเหมือนนาย แถมความสามารถก็เยอะกว่าเป็นกองเลยนะ" สุดสวยกับสุดหล่อในห้องเถียงกันไม่เกรงใจอาจารย์ที่ยังยืนอยู่ข้างหน้าห้อง

      "เห้ยๆๆ  ฉันยังอยู่ตรงนี้นะ  หุบปากเลยๆ เราจะเริ่มเรียนกันแล้ว" ดีอย่าง ที่อาจารย์โรงเรียนนี้ดุยิ่งกว่า.....ช่างเถอะ เลยทำให้พวกเกเรในโรงเรียนไม่ค่อยจะอะไรมากเท่าไหร่


      หลัง จากนั้นสาวๆในห้องก็ไม่เป็นอันเรียนสักเท่าไหร่ เอาแต่รออยากเห็นหน้าของไอดอลหนุ่ม ไม่ว่าจะคาบ2ก็แล้ว คาบ 3 ก็แล้ว จนตอนนี้ก็กำลังจะพักกลางวันแล้ว เขาก็ยังไม่มา

      "นี่ หัวหน้า เธอช่วยไปถามอาจารย์ให้หน่อยสิ ว่าจุนฮงจะมารึป่าวอ่า วันเนี้ย?" 
      คน สวยประจำชั้น(ห้องนี้คนสวยเยอะ)เดินมาถามฉันแทนสาวๆทั้งห้อง เพราะฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่ใช่แม่เขาซะหน่อยจะไปรู้ได้ยังไงว่า เขาจะมารึป่าว

      "เอ่อ... ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันอะ  ฉันเองก็อยากรู้ เดี๋ยวไปถามให้แล้วกันนะ" 
      ไม่อยากจะตอบไปแบบทำร้ายจิตใจเพื่อน ก็เลยจำใจเดินไปถามอาจารย์ที่ห้องพักครูให้



      _______________________________________________________________
      (
      ห้องพักครู)
      "อาจารย์คะ...." ฉันยังไม่ทันจะได้อ้าปากถาม ก็โดนอาจารย์ใช้ซะแล้ว
      "นี่เธอหัวหน้าห้อง1 ใช่ป่ะ? ช่วยไปซื้อข้าวกลางวันไปให้เด็กที่อยู่ห้องพยาบาลให้หน่อยเห็นเขาว่าอยู่ห้องเธอนี่" 
      ฉัน งงกับประโยคที่อาจารย์พูด  ในห้องยังไม่มีใครป่วย ถ้ามีก็ต้องขอฉันไม่ก็อาจารย์ประจำชั้นก่อนสิ? ไม่ควรจะโดดไปเองแบบนี้? เอ๊ะ..รึว่า....

      "ก็ เด็กใหม่น่ะ ที่ชื่อ....ชเว จุนฮง อะไรเนี้ยล่ะ เขาปวดท้องนิดหน่อยเลยไม่ได้เข้าเรียนภาคเช้า ช่วยทีนะ ครูเองก็ยังไม่ว่างเหมือนกัน"
      มันเลยกลายเป็นภาระฉัน ตังฉันว่างั้นเถอะ  ให้ตายสิ หัวหน้าห้องนี่ทำหน้าที่อย่างกะแม่เลยแฮะ


      เพราะแบบนี้ ฉันถึงต้องออกเงินค่าข้าวกลางวันให้จุนฮงก่อน แล้วก็ตรงไปที่ห้องพยาบาล 
      พอเข้าไป ก็เจอคนตัวสูงๆที่นอนอยู่ที่เตียงข้างในสุดในห้องแล้ว....

      นั่นคือจุนฮงสินะ?


      "นาย....จุนฮง ใช่มั๊ย?" เขานอนหันหลัง ฉันล่ะกลัวทักผิดจริงๆ บรรยากาศห้องพยาบาลก็น่ากลัวอย่างกับฉากในหนังสยองขวัญ

      "หือ? อื้อ ใช่ ฉันเอง" ร่างยักษ์หันกลับมาพร้อมสีหน้าแสนจะสดใสราวกับพระอาทิตย์ในช่วงฤดูร้อน

      "เอ่อ.... อาจารย์ให้ฉันซื้อข้าวกลางวันมาให้นายน่ะ เห็นบอกว่านายป่วย"
      "อ่อ ขอบใจ ฉันเองก็กำลังหิวอยู่เลย" จุนฮงรีบคว้าถาดจานข้าวจากมือฉันไปอย่างรวดเร็ว เขาดูไม่เหมือนคนป่วยที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงเลย

      "หน้านายก็ดูปกตินะ? นายไม่ได้โกหกพวกเรากับอาจารย์ใช่มั๊ย?"  ฉันถามเพราะเป็นหน้าที่นะ
      "ฮ่ะ? ทำไมอะ? เธอเป็นหัวหน้าห้องเหรอ?" เขาก็ดูฉลาดดีนี่
      "อื้อ"

      "เพื่อนๆในห้องหน่ะ รอต้อนรับเธออยู่นะ" ฉันพูด
      "นี่ เสร็จธุระแล้วเธอก็ไปสิ"  จุนฮงพูดสีหน้านิ่งๆ เขาไล่ฉันด้วยความเย็นชา
      "ฮ่ะ? อะไรนะ?"

      "ฉันขอบใจเธอแล้วนะ หมดธุระเธอแล้วเธอก็ควรไปได้แล้วสิ"  เขาย้ำประโยคก่อนหน้า
      "ย่าส์ นายสบายดีนี่ นายจะมานอนเล่นที่ห้องพยาบาลไม่ได้หรอกนะ นี่วันแรก นายควรจะเข้าเรียนสิ ไปเจอหน้าเพื่อนๆสิ" 
      ฉันเริ่มทำหน้าที่หัวหน้าห้องจนถึงที่สุด

      "ฉันเหนื่อย ไม่ไปอะ" เขาตอบโดยที่ไม่คิดที่จะมองหน้าฉันเลยแม้แต่นิดเดียว
      "เฮอะ ไม่! นายต้องไปไม่งั้นฉันจะฟ้งอาจารย์ห้องพยาบาลนะ"

      "ก็เอาดิ" จุนฮงไม่กลัวคำขู่ฉันเลยแม้แต่นิดเดียว เขานี่หยิ่งจริงๆ

      ฉัน หมดคำพูดกับนายคนนี้แล้วยังไงๆก็ต้องลากไปเรียนด้วยให้ได้ ฉันไม่อยากให้เพื่อนๆต้องรอเก้อเพราะนายหรอก  ฉันพยายามจะลากเขาไปจริงๆ ด้วยพละกำลังของฉันเอง แน่นอนว่ามันงี่เง่า และไม่มีทางสำเร็จ เขายังนั่งไม่ขยับเขยื้อนบนเตียงพยาบาล

      "ฮ่าๆๆ เธอทำอะไรอะ? แรงอย่างกับมด" เขาหัวเราะกับท่าทางของฉัน
      "แฮ่กๆ นายก็ช่วยไปเรียนดีๆไม่ได้รึไง?"ฉันหมดปัญญาจริงๆ

      "เธอนี่โง่ชะมัด คิดว่าใช้แรงแค่นั้น ฉันจะขยับมั๊ยล่ะ?"  =.= นายเคยตายมั๊ย? จุนฮง?
      "
      เออๆ ไปเรียนสิๆ ว่านอนสอนง่ายหน่อยได้มั๊ย? เด็กใหม่"

      เขาหันมามองหน้าฉันแวบเดียวแล้วก็ทำท่าไม่สนใจฉันเหมือนเดิม ข้าวก็กินหมดแล้วแท้ๆ ทำไมนายถึงไม่ยอมไปเรียนนะ

      "ก็ได้.... จะเอางั้น?... งั้นฉันไปล่ะ" ฉันกะว่าจะบอกอาจารย์อยู่เหมือนกัน แต่ก็คงจะทำอะไรไม่ได้มากนักหรอก บอกไปก็เท่านั้น ปล่อยให้ตานี่นอนให้เต็มอิ่มก็ได้

      ฉัน ยอมแพ้เลยเดินออกมาห้องพยาบาลแล้วกลับไปเรียนตามปกติที่ห้อง สรุปว่าทั้งวันจุนฮงก็ไม่ยอมเข้าเรียนจริงๆ ส่วนสาวๆในห้องก็ตั้งตาตั้งตารอกันตาแฉะ ส่วนฉันก็อึดอัดใจมากๆที่ต้องบอกว่า ทั้งวันนี้ยังไม่เห้นเขามาเลย ทั้งๆที่เขานอนอืดอยู่ที่ห้องพยาบาลแท้ๆ


      ______________________________________________________________
      วันรุ่งขึ้น
      พอคาบ3 ฉันรีบตรงไปที่พยาบาลโดยทันที  คราวนี้ฉันจะไม่ให้เขานอนฟรีๆอีกแล้ว นี่มันได้เวลาเรียนแล้วนะ  จุนฮง นายต้องไปเรียนแล้ว

      แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เขาไม่อยู่ที่ห้องพยาบาล แอบโดดไปอยู่ทางไหนอีกนะ
      "อ่าว.... วันนี้ไม่เอาข้าวมาให้ฉันด้วยเหรอ?"  ฉันหันทันทีที่ได้ยินเสียง
      "ฮ่ะ? " ฉันเห็นจุนฮงตัวแสบยืนพิงประตูห้องพยาบาลอยู่
      "มาทำอะไร? มาหาฉันเหรอ?" เขาพูดกวนๆ

      "ป่าว นี่นาย นายควรจะไปเรียนได้แล้วนะ แล้วเมื่อวานอะ ข้าวกลางวันก้ตังฉัน เอาตังคืนมาให้ฉันด้วย"  ฉันทวงด้วยความโมโห ทะเลาะเรื่องอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องเงิน

      "ฉันยังไม่อยากไปอะ"  เขาตอบด้วยสีหน้าน่ารำคาญ
      "อะไร? เมื่อวานนายก็น่าจะพักจนหายเหนื่อยแล้วสิ"
      "เธอนี่ยุ่งจัง  เป็นแค่หัวหน้าห้องแท้ๆ ไม่ใช่ประธานนักเรียนซะหน่อย!" เขาตะคอกฉันด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความรำคาญสุดๆ

      ฉันส่ายหัวให้กับความดื้อด้านของเขาเลย เขาไม่ฟังใครเลยจริงๆ ฉันเบื่อเขาจริงๆ
      "คาบ ต่อไปเป็นพละ นายจะมาก็มา ไม่มาก็ไม่ต้องมา ฉันเบื่อแล้ว ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่านายบอกกับอาจารย์ว่าป่วยหรืออะไร แต่เพื่อนทั้งห้องรอการมาของนายอยู่" แล้วฉันก็เดินออกจากห้องไปด้วยความโมโห

      'รอเหรอ? ฉันไม่ได้เป็นที่รักของใครขนาดนั้นหรอกนะ




      ____________________________________________________________
      โรงยิม
      "เอาล่ะ นักเรียนทุกคน นี่แค่เป็นการวอร์มร่างกายก่อนนะ วิ่งรอบสนามบาสสัก 3รอบแล้วกัน" อาจารย์พละเริ่มสอนแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เห็นจุนฮงโผล่หัวมาเลย

      "ไหวมั๊ย? หัวหน้าห้อง ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องวิ่งก็ได้" อาจารย์เดินเข้ามาถามฉันในขณะที่ทุกคนกำลังออกวิ่ง
      "เอ่อ ไหวคะ ไม่เป็นไร" 

      "อ่าว นี่เธอ เด็กใหม่เหรอ ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้" ทุกคนหันไปตามเสียงของอาจารย์  คราวนี้สาวๆในห้องก็คงจะสมใจแล้วสินะ เขามาแล้วล่ะ ชเว จุนฮงที่สาวๆรอคอย

      "เขาน่ารักมากจริงๆ" สาวๆเริ่มซุบซิบ
      "ย่าส์ๆ พวกเธอ ฉันสั่งให้วิ่งไม่ใช่เหรอ ทำไมเอาแต่มองจุนฮงตาเป็นมันแบบนั้นเล่า วิ่งเร็วๆสิ" อาจารย์รีบหันไปว่ากล่าวสาวๆในห้อง

      หลัง จากที่เรียนพละเสร็จ พวกเราได้เหงื่อไปเยอะ จุนฮงเองก็ดูท่าทางจะมีชีวิตชีวาขึ้นมานิดนึง เพราะพวกสาวๆเอาแต่รุมล้อมหน้าล้อมหลัง เอาอกเอาใจกันอย่างกะสส.ใหม่

      ฉันเดินไปล้างหน้า วิชาพละมันเรียกเหงื่อดีจริงๆ แต่ก็ทำให้ฉันเกือบตายด้วย
      "ทำไม หน้าซีดแบบนั้นล่ะ" ฉันสะดุ้งกับเสียงของจุนฮงจากข้างหลัง เขาหลุดออกมาจากกลุ่มสาวๆพวกนั้นได้ยังไง?
      "
      หนีออกมาได้ยังไงหน่ะ?" ฉันถาม

      "ฮ่ะ? ฉันก็แค่บอกว่า ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ"
      "นายไม่รู้เหรอ ว่าห้องน้ำไปทางไหน?" ฉันคิดว่าเขาไม่รู้ เลยคงจะมาถามฉัน
      "ป่าว ฉันแค่จะคุยกับเธอหน่ะ"

      "คุยอะไร?"
      "ก็มะตะกี้ พวกสาวๆบอกว่า เธอหน่ะเก่งเรื่องศิลปะด้วยนิ" พวกนั้นปากโป้งจริงๆ
      "แล้วทำไม?"
      "ก็แค่อยากให้เธอมาสอนหน่อย ฉันอยากวาดรูปเก่งๆหน่ะ"  แปลกแฮะ เป็นศิลปินดีๆไม่ชอบรึไงนะนายเนี้ยยย?

      "
      ฮ่าๆๆๆ เป็นไอดอลต้องวาดรูปเก่งด้วยเหรอ? นี่ฉันไม่รู้เลยนะเนี้ย"
      "ขำอะไร? ก็แค่ความสามารถพิเศษน่ะ ความสามารถพิเศษไง"
      "งั้นก็ไปทำอย่างอื่นสิ เท่กว่านี้ก็มี"
      "ไม่ ฉันอยากวาดรูปนิ เธอช่วยสอนฉันหน่อยไม่ได้รึไง?"

      "ก็ได้ๆ แต่นายต้องตั้งใจเรียนนะ"
      "โอเคๆ ฉันจะพยายามมาเรียนกับเธอทุกวันก็แล้วกัน หลังเลิกเรียนที่ห้องชมรมศิลปะได้มั๊ย?"  เขานัดแนะให้ฉันเสร็จสับเลยแฮะ ท่าทางจะอยากเรียนจริงๆ

      "อื้อ แล้วแต่นายล่ะกัน ฉันไปล่ะ"

      เรา แยกกันตรงนั้น แล้วไปเรียนตามปกติ พอวันอื่นๆ จุนฮงก็เริ่มมาเรียนตามปกติแล้ว พอเลิกเรียนฉันก็ไปสอนศิลปะเขาทุกวัน พวกเราสนุกกันมากๆ ทั้งเล่าเรื่องต่างๆในห้อง เม้าท์เพื่อนในห้อง เขาเองก็เริ่มลงสีได้ดีกว่าฉันแล้วด้วย

      "นายเก่งนะ เรียนไม่กี่วันก็จะเก่งกว่าฉันแล้ว" ฉันมองรูปที่เขาวาดแล้วก็อดชมไม่ได้ เขาหัวไวจริงๆ
      "ฉันจะเก่งเฉพาะเรื่องที่อยากทำหน่ะ"
      เขา ยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่กำลังจับพู่กันจุ่มน้ำ เพื่อไล่สีให้จางลง ฉันเห็นแล้วก็ไม่อยากจะขัดความสุขเขาจริงๆ เลยแอบเดินออกไปซื้อน้ำช้าๆ






      'โครมมมมมม'



      เสียงดังมาจากห้องชมรมศิลปะ ในขณะที่ฉันยังเดินไปไม่ถึงบันไดเลยแท้ๆ เกิดเรื่องอะไรอีกล่ะเนี้ย ฉันเลยต้องรีบวิ่งกลับมาดู

      ก็ พบว่าภาพวาดของจุนฮงกระจัดกระจายเต็มพื้นห้องไปหมด ฉันเห็นจุนฮงกับชานวู เด็กที่แอบจะเกเรในห้อง ผลการเรียนดี แต่เรื่องรักๆใคร่ๆก็เยอะเหมือนกัน แถมยังเคยมีเรื่องชกต่อยกับต่างโรงเรียนเพราะเรื่องผู้หญิงมาแล้ว

      "เห้ย ตุ๊ดป่ะ? วาดรูปเงี้ย?" ชานวูพูดด้วยน้ำเสียงกวนตีนสุดๆ
      "......"
      "
      ไม่มีปากแง่ะ? ไม่ยอมพูดอะ" ฉันทำอะไรไม่ถูกจริงๆ

      'ปั่ก' ชานวูต่อยเข้าที่แก้มซ้ายของจุนฮง แรงเขาเยอะมาก ทำเอาจุนฮงล้มไปนอนกองที่พื้นเลย ฉันเห็นท่าไม่ดีจริงๆแล้ว เลยรีบวิ่งเข้าไปห้ามชานวู

      "ย่าส์ๆ ชานวู หยุดเดี๋ยวนี้นะ" ฉันรีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนชานวู
      "อ่าว หัวหน้าสวัสดีครับ ทำไมอยู่ด้วยกันล่ะ? อ่อ คบกันเหรอ?"

      "หุบปากน่า" จุนฮงลุกขึ้นด้วยความหมดสภาพ แต่ก็ยังจะปากดี
      "ว่าไงนะ?" เพราะคำพูดที่ยั่วโมโหโทสะแบบนั้น ชานวูเลยถีบสะโพกจุนฮงจนล้มลงไปนอนกองอีกครั้ง

      "เห้ยยยยยย ชานวู อะไรของนายเนี้ย" น้ำตาของฉันเริ่มไหลไม่หยุด เพราะฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆชานวูถึงได้มาซ้อมจุนฮงแบบนี้

      'ปึ้กๆๆ ชานวูกระน่ำฝีเท้าลงที่สะโพกของจุนฮง

      "อะ อั่ก อั่ก"  หน้าจุนฮงเริ่มแดง และเลือดกำเดาไหล ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะจัดการกับพละกำลังมหาศาลของชานวูยังไง

      "ชานวู! หยุด ฉันบอกให้หยุดไง นายจะฆ่าเขารึไง?!" ฉันเริ่มตะโกนสุดเสียงเท่าที่จะทำได้ ต่อให้ชานวูจะเป็นเด็กเกเร แต่เขาก็ต่อฟังฉันบ้างแหละน่า

      ฉันเริ่มมึนหัวด้วยความตกใจ และเป็นกังวลว่าจุนฮงกำลังจะตายคาตีนชานวู และก็กำลังรู้สึกผิดที่ทำอะไรไม่ได้

      "ฉัน...... บอกให้หยุดไง!!!"  ฉันให้เสียงเฮือกสุดท้ายตะโกนออกไปให้สุด ก่อนที่จะล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้น และอาการปวดที่หน้าอกของฉันก็เริ่มกำเริบ

      จุน ฮงตัดสินใจโต้กลับด้วยเก้าอี้ เขาฟาดเก้าอี้เต็มแรงเข้าที่กำแพง แต่ไม่โดนชานวู แต่ชานวูก็กลัวไม่หน่อย เพราะตัวของจุนฮงเองก็ใหญ่กว่าเขามาก

      "กลับไป! ไปซะ! แกไม่เห้นรึไง ว่าแกทำให้หัวหน้าป่วยน่ะ" จุนฮงตะคอกใส่ชานวู
      "หึ เป็นห่วงนักรึไง"
      "มีอะไรเคลียร์วันหลังเซ่! ถ้าแกยังไม่ไปเก้าอี้ตัวนี้ก็ไม่เฉียดแค่หัวแกแน่ๆ มันผ่าครึ่งหัวแก!"

      จุน ฮงไล่นักเลงชานวูออกไปได้แต่เขาก็เจ็บที่สะโพกไม่น้อยเหมือนกัน เขารีบอุ้มหัวหน้าห้องส่งไปที่โรงพยาบาล เพราะตอนนี้เย็นมากแล้ว ห้องพยาบาลคงจะปิดแล้ว สีหน้าเขาทั้งสองซีดพอๆกัน พอมาถึงโรงพยาบาล จุนฮงก็รีบส่งตัวหัวหน้าให้ถึงหมอและนั่งเฝ้าหน้าห้องตรวจไม่ยอมห่างไปไหน

      "คุณหมอ หัวหน้าห้องของผมโอเคดีรึป่าวครับ?" จุนฮงรีบตรงไปถามคุณหมอ เมื่อคุณหมอออกมาจากห้องตรวจ

      "คนไข้เข้าสู่สภาวะปกติ และก็ฟื้นแล้วครับ" คุณหมอตอบอย่างยิ้มๆแล้วเดินไป

      จุนฮงจึงรีบเดินเข้าไปหาคุณด้วยความเป็นห่วง เขากังวลจริงขณะที่อุ้มมาโรงพยาบาลคนรอบข้างก็มองกันใหญ่

      "เป็นอะไรรึป่าว" ฉันถาม
      "ป่าว ฉันป่าว เธอนั่นแหละ ลงไปนอนกองเลยนี่ หมอบอกรึป่าวว่าเธอเป็นอะไร?" จุนฮงดูร้อนรนและเป็นห่วงฉันมาก

      "ปะ...ป่าว หมอไม่ได้บอก แล้วชานวูเกิดบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้ซ้อมนายอย่างนั้นน่ะ" ฉันเองก้เป็นห่วงเขามากจริงๆ
      "มันก็แค่เรื่องผู้หญิงปยอ.ในห้องน่ะ ช่างมันเถอะ" เขาตอบอย่างสบายใจ ทั้งๆที่ฉันเองก็รู้ว่าสะโพกของเขาคงจะช้ำเอามากๆ

      "นี่สะโพกนายน่ะ โอเครึป่าว นายควรจะเอาไปให้หมอดูนะ" ฉันแนะ
      "ไม่หรอก แค่ช้ำน่ะ อาทิตย์เดียวก็หายแล้ว"
      "ผู้จัดการรู้จะไม่ด่าเอาเหรอ?"
      "ไม่หรอก ก็อย่าให้รู้สิ"

      เรา สองคนคุยกันสักพัก เขาก็แยกกลับบ้าน ฉันล่ะเป็นห่วงอาการของเขาจริงๆ โดนกระทืบซะขนาดนั้นจะไม่เป็นไรแน่ๆเหรอ? แต่พ่อแม่ของฉันรู้เรื่องนี่แล้ว ท่านกำลังตรงเข้ามาที่โรงพยาบาล

      "เกิดอะไรขึ้น ลูกแม่?" คุณแม่พุ่งเข้ามาถามฉันด้วยความเป็นห่วง
      "ไม่มีอะไรคะ แค่เครียดเรื่องสอบกลางภาคนิดหน่อย" ฉันแสร้ง
      "แน่ ใจนะ? อย่าเครียดมากสิลูก แม่บอกว่าแล้วอย่าเป็นเลยหัวหน้าห้องน่ะ ร่างกายเราก็ไม่ค่อยจะปกติ แม่ว่า......ออกจากโรงเรียนดีกว่ามั๊ยลูก?"

      "คะ? แม่พูดเรื่องอะไรน่ะ? แม่จะบ้าเหรอ? เพื่อนๆยังต้องการหนูนะ" ฉันท้วง
      "แต่ว่า... ก่อนหน้านี้ แม่ไปคุยกับคุณหมอก่อนจะมาหาลูกแล้วล่ะ คุณหมอบอกว่า......"








      _________________________________________________________________
      วันรุ่งขึ้น
      "จุนฮงเมื่อวาน คุณหมอบอกกับนายว่าฉันเป็นอะไร?" ฉันรีบตรงเข้าไปถามจุนฮง
      "ป่าวนิ เขาบอกว่าเธอสบายดี" ฉันรู้สึกโล่งอกที่เขารู้แบบนั้น
      "ทำไมเหรอ? เธอยังป่วยอยู่อีกเหรอ?" เขาเอื้อมมือมาแปะที่หน้าผากของฉัน
      "อะป่าวๆ ฉันสบายดี" ฉันพยายามฉีกยิ้มสุด

      "เหรอ? หน้าเธอซีดๆนะ"
      "......"
      "
      งั้นวันนี้เราเรียนตามปกติล่ะกัน" เขาทวงให้ฉันสอนวาดรูปให้

      "เอ่อ..... จุนฮง ฉันขอโทษนะ ฉันคงสอนนายไม่ได้แล้วล่ะ"
      "อ่าว ทำไมล่ะ? ฉันยังวาดรูปไม่เก่งเลย"
      "ฮ่าๆ ไม่หรอก นายวาดเก่งแล้วล่ะ นายแค่ต้องมั่นใจตั้งหาก"

      "แล้วไหง? เธอหนีฉันไปไหนล่ะ"
      ฉัน เงียบไปสักพัก ฉันไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับจุนฮงรึป่าว แต่เรื่องนี้เพื่อนทุกคนในห้องรู้กันแต่ขึ้นไฮสคูลปี1 แต่นายเป็นเด็กใหม่เลยยังไม่รู้

      "ว่าไงล่ะ?....." เขารอคำตอบจากฉัน
      "อ่อ คือฉันมีเรียนพิเศษน่ะ"
      "อ่อ แค่นี้เอง เรามาเรียนตอนกลางวันก็ได้นิ" เขาดื้อจริงๆ

      "มะไม่ได้หรอก" น้ำตาของฉันมันก็จะไหลออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ
      "เป็นอะไรไปหน่ะ? หัวหน้า"
      "ปะ ป่าวๆ เราไปเรียนกันเถอะ"

      ฉันชวนเขาเข้าห้องเรียนเพราะมันได้เวลาเรียนแล้ว ฉันรู้สึกลำบากใจจริงๆกับตอนพักกลางวัน มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะยังได้วาดรูปด้วยกัน


      _________________________________________________________
      "
      นี่ ทำไมมาสายล่ะ อีกสิบนาทีก็จะเรียนแล้วนะ" เขารอฉันตั้งแต่หลังเลิกเรียนคาบ3
      "
      นายกินข้าวรึยังน่ะ?" ฉันถาม
      "ยังเลย ฉันกลัววาดรูปไม่เสร็จน่ะ"

      "นายวาดรูปอะไรน่ะ" ฉันแอบเดินไปดู แต่เขาก็รีบหลบทันที
      "เห้ย อย่าแอบดูดิ เดี๋ยวมันไม่สวยหรอก"
      "โห มันอยู่ที่ฝีมือนายตั้งหาก"

      "จุนฮง นายชอบที่นี่รึป่าว ฉันหมายถึงโรงเรียนนี้หน่ะ" ฉันถาม
      "มันก็โอเคนะ ตั้งแต่มีเธอช่วย ทำนู่นทำนี่ ฉันก็รู้สึกว่าชีวิตที่นี่ง่ายขึ้นเยอะ" เขาตอบแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย

      "งะ งั้นเหรอ แล้วถ้าฉันไม่อยู่ล่ะ"
      "เธอจะไปไหนล่ะ เห็นพูดแปลกๆตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วมีอะไรเหรอ?"
      "ป่าวๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะมาให้เร็วก็แล้วกันนะ"


      ___________________________________________________

      ผม(จุน ฮง)มารอเธอ(คุณ) ที่ห้องทุกวัน สะโพกของผมเริ่มหายแล้ว ผมกะจะอวดให้เธอดูซะหน่อย แต่วันนี้เธอดันไม่มาโรงเรียน ผมเองก็ยังไม่กล้าถามเพื่อนในห้องซะด้วย

      วันนี้ผมเลยต้องนั่งวาดรูปเธอตามจินตนาการของผมแทน

      มัน ลำบากจริงๆที่ต้องวาดภาพคุณในจินตนาการทั้งๆที่เมื่อก่อนคุรเคยอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆผม คอยติชมงานของผมทุกงาน จนเกิดเรื่องวันนั้น เราก็คุยกันแปลกๆ แล้วผมก็ไม่เคยเห็นคุณอีกเลย

      ผมตัดสินใจไปหาคุณที่บ้าน วันนั้นฝนตกหนักมาก แต่ผมก็อยากจะไปหาคุณ ไปคุยกันให้รู้เรื่องทำไมคุรถึงไม่ยอมมาโรงเรียน นี่ก็เกือบจะอาทิตย์นึงแล้ว ที่ผมนั่งเคยคุณอยู่ห้องชมรมศิลปะ ทั้งตอนกลางวันและตอนเย็น บางวันก็โดดไปนั่งรอคุณทั้งวัน ผมไม่อยากจะเข้าไปถามเพื่อนในห้องเพราะไม่คิดว่าเขาจะตอบตรงคำตอบผมอยู่แล้ว

      'ก็อกๆ'  ในที่สุดผมก็บ้านถึงบ้านเธอ
      คุณแม่เปิดประตูออกมา ผมทักทายท่านด้วยความสุภาพสุดๆ และถามถึงคุณ
      คุณแม่บอกว่าคุณกำลังนอนพักอยู่ที่ห้อง ผมจึงขอเข้าไปดูหน้าสักหน่อย

      "อ่ะ จุนฮง" เธอดูท่าทางตกใจมากที่เห็นผม
      "ไง ทำไม ไม่ไปโรงเรียนล่ะ นี่เธอป่วยมาจนจะครบอาทิตย์แล้วนะ" ผมถาม
      "ฉันยังป่วยอยู่เลยไม่เห็นเหรอ" เธอแอบดุผมด้วยล่ะ แต่หน้าเธอซีดจนผมต้องเชื่อว่าเธอป่วยเอามากๆ แต่ผมไม่รู้ว่าเธอป่วยเป็นอะไร?

      "
      เธอเป็นอะไรน่ะ?"
      "ไม่มีอะไรมากหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไป" สภาพแบบนี้น่ะเหรอครับ?
      "
      นี่ รู้มั๊ย? ฉันเหงามากเลยนะ ตอนกลางวันฉันไปนั่งรอเธอที่ห้องชมรมศิลปะทุกวันเลย"

      "ฮ่าๆ จริงเหรอ ทั้งๆที่รู้ว่าฉันป่วยอยู่ไม่ได้มาอ่านะ ฮ่าๆ นายตลกจัง" น่าขำตรงไหน?
      "
      ย่าส์ ขำอะไรนักหนา ก็ฉันคิดถึงเธอนี่ ชานวูเองก็เงียบๆลงแล้ว เพราะ ฉันไม่ค่อยได้คุยกับพวกผู้หญิงเท่าไหร่น่ะ ช่วงนี้"

      "นายคุยกับใครบ้างตอนอยู่โรงเรียนหน่ะ แค่กๆ" อาการเธอไม่ค่อยเลย ผมเป็นห่วงเธอจัง
      "หลังจากที่เธอไม่มา ฉันก็ไม่ได้คุยกับใครมาเท่าไหร่หรอก"
      "แค่กๆ นายควรจะพูดมากๆ เหมือนตอนอยู่กับฉันน่ะ เพราะว่า....."  เธอพูดค้างไว้ มันทำให้ผมอยากรู้สุดๆ

      "เพราะอะไร? เธอจะหนีฉันไปไหน" ผมกลัวจริงๆ ถ้าในความคิดผมเป็นเรื่องผมอยากจะขอร้องกับพระเจ้าให้เธออยู่กับผมก่อน อยู่ผมก่อน...

      "ป่าว ฉันไม่หนีนายไปไหนหรอก^^" เธอพยายามฉีกยิ้มด้วยหน้าซีดของเธอ

      ผม เดินลงมาข้างล่าง ทั้งๆที่ในใจไม่อยากจะห่างจากคุณไปไหนเลยจริงๆ แต่ผมคงต้องไปผมต้องให้คุณได้พักผ่อน บางทีเรื่องทั้งหมดมันอาจจะเป็นเพราะผมเอง
      ยังไง ผมก็ต้องรู้ให้ได้ว่าคุณเป็นอะไร ทำไมต้องปิดผมด้วย


      ____________________________________________________________
      วันรุ่งขึ้น
      ในที่สุดเธอก็มาตามที่เธอสัญญา ผมรู้สึกโล่งอก ที่หน้าเธอไม่ซีดมากเหมือนเมื่อวานแล้ว
      วันนี้ผมกะจะเอารูปที่วาดไปให้เธอ แต่ผมว่ามันยังไม่เสร็จเลยขอโดดเรียนไปทำตอนเช้า  แล้วตอนกลางวันผมจะให้เธอ


      เอาล่ะ ผมว่าเธอคงไม่มาแล้ว เพราะนี่ก็จะเริ่มเรียนบ่ายแล้วแท้ๆ เขาไม่เคยผิดสัญญากับผมนี่ มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ

      ผม ตัดสินใจถือรุปนั่นและเดินกลับไปเรียนที่ห้อง แต่ก็ต้องพบกับเหตุการณ์ที่น่าตกใจ ทุกคนกำลังมุงอยู่ที่หน้าห้องผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ข้างนอกตึกมีรถพยาบาลมารอรับด้วย
      ผมพยายามจะฝ่าผู้คนเข้าไป แต่ก็ทำไม่ได้เลย ต้องยืนรอจนคนซาแล้วค่อยถาม

      "นี่ เมื่อตะกี้เกิดอะไรขึ้นเหรอ?" ผมถามผู้ชายในห้อง
      "ก็หัวหน้าห้องน่ะสิ อยู่ๆก็ล้มไป ฉันว่าคราวนี้เธอคงจะไม่รอดแล้วจริงๆ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
      "ฮ่ะ? อะไร? นายว่าอะไรนะ? หัวหน้าอะไร? ทำไม ทำไมไม่รอด อะไร" ผมตกใจมากจริงๆ ทุกคนสีหน้าดูเศร้าๆและทุกคนก็กำลังจะร้องไห้

      "นี่จุนฮง นายเป็นแฟนหัวหน้าห้องประสาอะไรไม่รู้จริงๆเหรอ?" ชานวูเดินเข้ามาถามผม
      "......"
      "
      หัวหน้าห้อง เป็นโรคหัวใจตั้งแต่เด็กๆ เขาถึงได้เจอเรื่องเครียดๆไม่ได้ยังไงล่ะ"
      ผมเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ทำไมผมถึงไม่รู้นะ! ทำไมเขาถึงเอาแต่ปิดผมคนเดียว ทำไมเขาถึง..... ทิ้งผมไป

      "ฉันขอโทษนะ เรื่องวันนั้น ฉันรู้สึกผิดจริงๆที่ทำให้หัวหน้าอาการกำเริบ" ผม ไม่ได้ตั้งใจฟังชานวูสารภาพผิดเพราะตอนนี้ในหัวผมคิดถึงแต่เรื่องคุณ ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ผมย้ายมาที่นี่ เดือนนึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเพื่อผมไม่ว่าจะในฐานะเพื่อนหรือหัวหน้าห้อง ผมก็ไม่เคยลืม ทุกครั้งที่เราวาดรูปด้วยกัน เรามักจะเอาสีมาป้ายเล่นที่หน้า ผมลืมช่วงเวลาที่สนุกเหล่านั้นไม่ได้เลยจริงๆ


      ผมรีบวิ่งไปหาคุณ แม่ของคุณที่บ้าน ผมไม่ลืมที่จะเอาภาพของคุณที่ผมวาดติดมือไปด้วย แก้มของผมเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและฝนที่กำลังกระหน่ำตกไม่เกรงใจใคร ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมพระเจ้าต้องรับคุณไปตอนนี้ด้วย!

      "คุณแม่ครับ" ผมตะโกนเรียกหาคุณแม่ ตอนแรกผมนึกว่าท่านจะไม่อยู่เพราะตอนนี้ คุณคงจะเป้นเจ้าหญิงอยู่ที่โรงพยาบาล

      "ฮึก จ้ะ?" คุณแม่ของคุณเข้มแข็งเหมือนคุณจริงๆ ท่านไม่เคยตะคอกใส่ผม แม้ผมจะมาไม่ถูกเวลาแบบนี้
      "คุณแม่กำลังจะไปไหนครับ?" เธอแต่งตัวด้วยชุดสีดำ นั่นทำไมให้ผมใจไม่ดีเลยจริงๆ

      "ขอโทษด้วยนะ แต่เมื่อตะกี้ โรงพยาบาลโทรมาบอกว่า'เธอจากเราไปแล้วล่ะ' ขอโทษด้วยนะ ที่เธอคงจะทำให้เธอรออีกแล้วใช่มั๊ย"

      คุณ แม่แอบฟังผมคุยกับคุณเมื่อวาน ผมไม่คิดเลยว่าเธอจะจากผมไปเร็วขนาดนี้ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าจะเสียโลกของผมทั้งใบ ผมนึกไม่ออกจริงๆว่าโรงเรียนพรุ่งนี้เป้นยังไง ห้องศิลปะ ที่เต็มไปด้วยฝีมือของเราสองคน รูปของเธอ รูปของเธอที่ผมเพิ่งวาดเสร็จ

      ผมจะเอาไปให้คุณยังไง ผมยังไม่ได้บอก ขอบคุณ คุณเลย
      มีหลายสิ่งที่คุณทำมันเพื่อให้ผมชอบโรงเรียนนี้ ชอบที่นี่ แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อคุณเลย!
      ทำไม คุณต้องหนีผมไป! คุณไม่อยากอยู่กับผมเหรอ! อยู่กับผมก่อนไม่ได้เหรอวาดรูปกับผมก่อนไม่ได้เหรอ? สอนผมอีกสิ ผมยังวาดรูปคุณไม่สวยเท่าตัวจริงเลย


      อย่า....ทิ้งผมไปสิ ผมขอร้อง ผมขอ....

      ผมล้มตัวลงที่ หน้าบ้านของคุณ ส่วนคุณแม่ท่านพยายามที่จะปลอบผม แต่มันไม่สำเร็จ ผมขอให้ท่านไปรับศพเธอโรงพยาบาล และผมจะขอขึ้นไปบนห้องเธอเพื่อเอารูปของเธอไปให้เป็นครั้งสุดท้าย


      นี่คือห้องของคุณสินะ
      มัน ดูน่ารักแล้วก็เรียบง่ายเหมือนตัวของคุณเลย ผมแอบค้นโต๊ะทำงานของคุณ ผมเจอสมุดไดอารี่เล่มเล็กๆ ผมไม่รู้ว่าคุรอนุญาติให้ผมอ่านรึป่าว แต่ผมขอดูมันหน่อยล่ะกันนะ

      'จุนฮง ทำไมนายดื้อจังนะนี่เป็นวันแรกที่เราพบกัน แต่ทำไมนายไม่ยอมไปเรียนนะ นายดื้อกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะ ต่อให้นายหล่อแค่ไหน ฉันก็จะไม่ยอมให้นายโดดเรียนมาแบบนี้หรอก ช่วยเข้าใจทีเถอะ ฉันเองก็เป็นห่วงนายนะ

      23 Sep

      ผมขอโทษ..... สิ่งที่คุณบันทึกมันเริ่มมาจากผม และมันก็มีเรื่องผมเท่านั้น มันทำให้ผมรู้ว่าคุณพยายามที่จะใส่ใจเด็กใหม่อย่างผมมากขนาดไหน คุณพยายามหนักแค่ไหนที่จะทำให้ผมมีความสุขกับโรงเรียนนี้


      วันนี้ ฉันสอนจุนฮงเหมือนปกติ แต่เขาเก่งขึ้นมากเลยล่ะ ฉันว่ามันไม่ใช่เพราะฉันหรอก มันเป็นเพราะว่าจุนฮงหน่ะเก่งอยู่แล้วตั้งหาก แถมวันนี้เรายังแอบเอาสีน้ำมันที่อาจารย์โจรักนักรักหนามาเล่นกันด้วย ขอโทษนะคะอาจารย์เดี๋ยวหนูจะซื้อให้ใหม่แล้วกัน ฮิฮิ วันนี้จุนฮงน่ารักมากๆ เหมือนลูกหมาเลย

      7 Oct


      ฉันอาจจะไม่ได้อยู่จนนายจบ โรงเรียนนี้ไปพร้อมกับเพื่อนๆหรอกนะ หมอบอกว่า เรื่องวันนั้นอาจจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่ก็เสี่ยงสำหรับลูคีเมียที่ฉันกำลังรักษาอยุ่เหมือนกัน โรคแทรกซ้อนทั้งสองโรค ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ในคนเดียวกันแบบนี้ หมอบอกว่าฉันไม่รอดแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าโรคไหนที่จะคร่าชีวิตฉันไป ฉันขอโทษนะ..จุนฮง นายคงต้องหาเพื่อนใหม่แล้วล่ะ

      ฉันอยากให้นายเห็นไดอารี่เล่มนี้นะ เผื่อวันที่ฉันไปแล้ว นายจะได้ไม่ลืมฉันไง :')

      Today....

      ผม ร้องไห้อีกครั้ง ผมรู้สึกว่าผมร้องไห้บ่อยในการเกิดเป็นผู้ชายในชาตินี้ แต่ผมมั่นใจว่าน้ำตาแต่ละหยดของผมมันมีความหมายแน่นอน และผมจะร้องไห้ให้ฉันคนที่ผมรักเท่านั้น


      หลังจากวัน นั้น ผมไม่ได้ไปงานศพเธอ และไม่ได้ไปบ้านเธออีก แต่ขอแค่ไดอารี่ของเธอมา และผมก็ให้ภาพวาดของเธอกับแม่ของเธอไป ผมยังอยู่ที่เดิม ยังอยู่โรงเรียนเดิม ยังวาดรูปเธอที่ลอยอยู่ในผมเหมือนเดิม ที่ห้องเดิม ผมยังคงคิดถึงเธออยู่เหมือนเดิม


      ผมอยากให้เธอกลับมา ผมรู้มันเป็นไปไม่ได้
      ผมเคยว่าจะไปหาเธอ แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้อีก ในไดอารี่ของเธอ เธอเขียนอีกอย่างนึงว่า

      'ถ้า คิดถึงฉันล่ะก็นะ ฉันหน่ะไม่ได้ตายจากนายไปไหนซะหน่อย ฉันอาจจะเกิดใหม่เป็นเบบี้ของเธอก็ได้ เพราะฉะนั้น ต่อให้นายเหงามากแค่ เบบี้ของนายก็จะอยู่กับนายตลอด ขอแค่อย่าหันหลังนี้กัน อย่าตะคอกใส่กัน แบบเมื่อก่อนก็พอ ฉันว่า ฉันอยากเป็นเบบี้แล้วล่ะ'

      ผมเองก็อยากจะอยู่เพื่อคนที่อยู่เพื่อผมเหมือนกัน ผมอยากจะทำเพื่อสิ่งที่ผมรัก และเบบี้ทุกคนก็รักผม




      ขอบคุณนะ






      ________________________________________________________
      ใช้สรรพนามมึนล่ะสิ เยอะล่ะสิ
      เราปวดตามากเบย ;________; อ่านมึนๆไปก่อนนะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×