คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : MABAE 03
\begin again
วันนี้จินยองเดินมาโรงเรียนเองเพราะพี่ชายตัวโตของเขาต้องรีบไปส่งงานที่มหาลัยซึ่งไม่รู้ว่าเขากำหนดส่งวันนี้หรือดงโฮเพิ่งทำงานเสร็จเลยต้องติดสปีดที่ก้นแล้วปฏิเสธน้องชายตัวเองโดยการปล่อยให้มาเอง
นี่จักรยานก็ถีบไม่เป็นเลยต้องมายืนถอนหายใจอยู่หน้าโรงเรียน จริงๆพี่ดงโฮจะสอนผมปั่นหลายรอบแล้วแหละแต่ผมก็มัวอิดออด สมน้ำหน้าตัวเองแล้วก็งอนพี่ดงโฮด้วยที่ไม่ยอมมาส่ง คว่ำปากจนปวดหน้าไปหมด
จินยองตั้งท่าจะเข้าโรงเรียนถึงกับชะงักขาหยุดเดินเมื่อสายตาเห็นรุ่นพี่ตัวสูงที่เขาคุ้นเคยเดินสวนออกมา
"พี่ยงกุก" เด็กหนุ่มร่างสูงที่แต่งตัวด้วยชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนฮันริมหันมามองเจ้าของเสียงที่ยืนมองอยู่ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา จินยองแอบใจหวิวเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินมา
"เดินมาเรียนเองเหรอ" เขาถามพลางสอดส่องสายตามองว่าคนตัวเล็กไม่ได้มากับใคร
"ครับ ปกติพี่ชายผมจะมาส่ง"
"อือ"
"...."
แล้วไงต่อ? ผมควรชวนเขาคุยหรือลากันตรงนี้ อมพิกุลไว้เหรอไง
"เออ งั้นเจอก็ดี นี่กำไลข้อมือนาย" ยงกุกล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกำไลเส้นสีน้ำเงินเข้มออกมา "ฉันหยิบมันขึ้นมาก็ขาดแล้ว"
"พี่เจอมันที่ไหน"
"บนรถไอ้แดน" จินยองรับกำไลมาจากมือของยงกุกแต่สีหน้าดูเป็นกังวลจนคนเอามาคืนรู้สึกผิด "โกรธเหรอ"
"เปล่าครับ ผมแค่ไม่กล้าบอกแม่ว่ามันขาด" ยงกุกถึงกับทำตัวไม่ถูกไม่รู้เพราะประโยคที่อีกคนพูดหรือสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ของจินยอง
"...."
"แม่ผมต้องดุแน่ๆเลย"
"งั้นเดี๋ยวฉันเอาไปซ่อมให้" ไม่พูดอย่างเดียว ยงกุกเอื้อมมือไปหยิบกำไลที่อยู่ในมือของจินยองมาก่อนจะยัดใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม
"ไม่เป็นไรครับ ผมเอาไปซ่อมเองก็ได้" จินยองมีสีหน้าเหลอหลา เขาพยายามจะแบมือขอกำไลของตัวเองคืนแต่ยงกุกก็ไม่สนใจ
"ฉันเจอมันก็ขาดแล้ว ถือว่าฉันทำขาดแล้วกัน"
"พี่ยงกุก..."
"เงียบแล้วก็เข้าไปได้แล้ว" ยงกุกพยักพเยิดหน้าให้คนตัวเล็กเข้าไปในโรงเรียน จินยองชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปข้างในแต่ก็ยังคงหันหลังมองยงกุกอยู่เรื่อยๆ "มองด้านหน้าซะ ไม่ต้องหันมามองฉัน" เขาพูดทิ้งท้ายพลางชี้นิ้วไปที่อาคารเรียนตรงหน้า จินยองเลยจำใจมุ่งหน้าเข้าตัวอาคารโดยไม่หันไปมองคนด้านหลัง อยู่ๆก็มีความผิดปกติเกิดขึ้นบนหน้าเขา นี่เขากำลังยิ้ม...
พี่ยงกุกเก็บกำไลของเราไว้กับตัวตลอดเลยเหรอ
:
เด็กหนุ่มตัวสูงผมยุ่งไม่เป็นทรงหลังจากเขาใช้มือขยี้มันอยู่หลายครั้งเมื่อรู้สึกง่วงนอนแต่จะหลับก็ทำไม่ได้เพราะเขากำลังนั่งรอของที่เขาเอามาซ่อมที่ร้าน คิมยงกุกนั่งสั่นขาตัวเองไปมาด้วยความเบื่อหน่าย จะว่าคนก็ไม่ได้เยอะมากมายทำไมลุงถึงทำช้าแบบนี้นะ
"ไอ้หนู จะให้ลุงเปลี่ยนสายให้ใหม่ด้วยเลยไหม"
"ลุงมีสีน้ำเงินแบบอันเดิมเปล่าละ"
"มีแต่สีคล้ายๆ"
"งั้นไม่ต้องเปลี่ยนครับ" ยงกุกเงยหน้าไปตอบก่อนจะก้มหน้าแนบลงไปกับโต๊ะเหมือนเดิม เขาแทบจะเลื้อยไปนอนบนโต๊ะเสียด้วยซ้ำถ้าไม่เกรงใจประชากรที่เดินอยู่ภายในห้าง ลึกๆเขาก็แอบระแวงคนรู้จักมาเจอเหมือนกัน เดี๋ยวมีคนคาบข่าวไปบอกครูอีกว่าเขาโดดเรียน
นอนเอาหัวหนุนแขนตัวเองอยู่พักใหญ่จนมันเริ่มชา หัวทุยๆยกขึ้นหวังจะพักแขนแต่ก็ต้องค้างกลางอากาศเมื่อสายตาไปพบเจอกับบางสิ่งตรงหน้า
จูฮักนยอน...
"ไอ้หนูเสร็จแล้ว" ยงกุกสะบัดภาพตรงหน้าออกแล้วหันไปมองลุงด้านหลังแต่ก็อดที่จะหันมองอีกทีไม่ได้ จูฮักนยอนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของเขาคนที่เพิ่งจะเดินไปส่งที่โรงเรียนเมื่อเช้า ทำไมตอนนี้กลับมาอยู่ในห้างกับไอ้รุ่นพี่จินอู...
"ขอบคุณครับลุง"
“เอามาซ่อมให้แฟนเหรอ"
"อะไรครับ?"
"กำไลนี่ไง ดูไม่ค่อยเหมะกับเราเท่าไหร่" ลุงเจ้าของร้านยื่นกำไลคืนให้ร่างสูงพลางวิเคราะห์พิจารณา ยงกุกไม่ได้ตอบอะไรเขารับกำไลนั่นมาเฉยๆแต่ก็รู้สึกมวลท้องยังไงชอบกลพอได้ยินคำว่า แฟน หน้าเด็กจินยองก็ลอยเข้ามาในหัวเขาเฉย
"ไปก่อนนะลุง"
"เอ้อ ถามแค่นี้ทำเขิน" ลุงหัวเราะชอบใจพอเห็นเด็กหนุ่มหน้าซึนเดินกำกำไลออกไปจากร้าน "หูแดงขนาดนั้นไอ้หนุ่มเอ้ย"
:
เด็กหนุ่มหน้าตาสดใสร่าเริงตลอดเวลากำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับคำพูดของคนข้างๆ จูฮักนยอนกระชับกระเป๋าเป้ของตัวเองแน่นเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากว่าจะช่วยถือ
"ผมถือเองได้ครับ"
"เอามาเถอะ นายจะได้เดินชิวๆไง" รุ่นพี่จินอูยังคงย้ำความตั้งใจเดิมที่จะอาสาถือกระเป๋าให้ ฮักนยอนชั่งใจอยู่แปบนึงก่อนจะยอมปล่อยกระเป๋าให้ไปอยู่ในความดูแลของอีกคน
"แล้วอย่ามาบ่นว่าหนักละ"
"กระเป๋านายไม่หนักหรอก ดินสอสักแท่งก็ยังไม่มี" ฮักนยอนหยุดเดินทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยมาจากทางด้านหลัง เขาหันไปมองก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
"พี่... พี่ยงกุก"
"เออ ตกใจเหรอ" ยงกุกเดินเข้ามาประจันหน้ากับเด็กที่เขามักจะเป็นห่วงเป็นใยอยู่เสมอ แถมยังคอยดูแลเงียบๆถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่ค่อยแสดงอะไรออกไปสักเท่าไหร่ สายตานิ่งเฉยมองแฟนตัวเองสลับกับคนที่ฮักนยอนเรียกว่ารุ่นพี่มาตลอด
"พี่ไม่ไปเรียนเหรอครับ" ถึงปากจะถามไปแบบนั้นแต่น้ำเสียงและสีหน้าดูแตกตื่นจนแทบจะทำตัวไม่ถูก
"ก็เสียเวลาไปส่งนายที่โรงเรียนจนเข้าคาบแรกไม่ทันก็เลยโดดแม่ง" พูดจบยงกุกก็เผลอกำมือจนกระดูกลั่นฮักนยอนเห็นแบบนั้นถึงกับใจหล่นวูบ
เขาโกรธ... โกรธมากจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ อยากจะต่อยอัดหน้าไอ้รุ่นพี่ที่ยืนทำตัวสบายๆอยู่ตรงหน้าให้แม่งเลือดกำเดาไหลแต่ก็ได้แต่ยืนเฉยๆ
"จะไม่พูดอะไรสักหน่อยเหรอ"
"คือ..."
"ถ้านายใส่ใจฮักนยอนมากกว่านี้น้องมันคงไม่มาคุยกับฉันหรอก"
"ผมถามพี่เหรอครับ" ยงกุกหันมองจินอูที่เป็นฝ่ายเปิด รุ่นพี่ที่ดูค่อนข้างสุขุมไม่ใช่น้อยในสายตาของยงกุกกำลังสูดลมหายใจเข้าเพื่อข่มอารมณ์
"ฉันแค่พูดในสิ่งที่น้องมันไม่กล้าบอกนาย" ฮักนยอนยกมือกำแขนเสื้อของจินอูเมื่อรู้สึกไม่ดี ถึงเขาจะเคยบ่นให้คนข้างๆฟังว่ายงกุกไม่ค่อยแสดงความรักใส่เขาก็ตามแต่ก็ใช่ว่าจะรู้สึกดีที่จินอูพูดออกไป
"ชอบแบบนี้เหรอ"
"พี่ยงกุก..."
"ฉันถามว่าชอบแบบไอ้นี่เหรอ" ยงกุกเริ่มกดน้ำเสียงของตัวเองเมื่อรู้สึกหงุดหงิดจนคนฟังแทบอยากจะร้องไห้ จริงๆแล้วยงกุกไม่เคยมีอาการแบบนี้ใส่ฮักนยอนเลยตลอดเวลาที่คบมาเกือบ 9 เดือน มันเลยทำให้ฮักนยอนหวั่นๆอยู่ไม่น้อย
"เราไว้คุยกันทีหลังดีกว่า"
"ไม่อะ เพราะหลังจากวันนี้ฉันจะไม่รู้จักเด็กที่ชื่อจูฮักนยอน"
"...."
"ค่อยกลับไปคุยกับน้องมันก่อนสิวะ"
"อย่าเสือกครับ ผมไม่ชอบอะไรค้างคา มันน่ารำคาญ"
"พี่ยงกุก ฮึก..." เจ้าของชื่อแอบใจหล่นวูบเมื่อเห็นน้ำตาของคนตรงหน้า ถ้าสถานการณ์ปกติเขาคงดึงคนตรงหน้ามากอดแล้วแต่สำหรับตอนนี้มันไม่ใช่ เขาไม่ใช่พวกที่จะมาอ้อนวอนขอร้องให้กลับมาหาเสียด้วยสิถึงแม้ว่าในใจแม่งโคตรเจ็บ
ผมต้องทำยังไงวะ...
"คืนนี้ ฮึก.. ผมโทรหาพี่นะครับ"
พูดปฏิเสธออกไปดิ
"พี่ต้องรับสายผมนะ"
อย่าไปสนใจคำพูดพวกนั้น
"พี่ครับ..."
"ฉันไปละ"
คงไม่มีใครขี้ขลาดได้เท่าผมตอนนี้แล้ววะ ไอ้น้ำตาเชี่ยนี่แม่งจะไหลออกมาทำไม ไว้อาลัยให้กูเหรอสัด แม่งเอ้ย
:
มือเล็กยกขึ้นเอาปิดหูด้วยความรำคาญเมื่อรู้สึกเหมือนมีลมคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จินยองนอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะนานอยู่หลายชั่วโมงตั้งแต่คาบสามเป็นต้นไปเขาก็เอาแต่หลับไม่เกรงใจคุณครูที่อุตส่าห์ตั้งใจเตรียมบทเรียนมาสอนเลยสักนิด คิ้วขมวดเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมาปรามเพื่อนด้วยสายตา
"อะไรของนายเนี่ย มาเป่าหูฉันทำไม"
"ก็นายไม่สนใจฉันเลยอะ นั่งเงียบๆคนเดียวมันน่าเบื่อนะเว้ย!" แดฮวีโวยวายแต่ก็พยายามทำเสียงให้เบาที่สุดเกรงใจครูที่สอนอยู่หน้าห้อง ถึงอย่างนั้นจินยองก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดแดฮวีสักเท่าไหร่เพราะตั้งแต่เข้าห้องเรียนมายังไม่ได้ยินเด็กนี่หยุดคุยเลย สังคมแน่นขนาดอีแดฮวีเหรอจะอยู่เงียบๆเป็น
"ก็ตั้งใจเรียนไปสิ"
"ไม่เอา จะฟ่ง" แดฮวีทำหน้างอแงใส่จินยองคนเห็นเลยได้แต่ยอม
"งั้นฟ่งมา ไม่สนุกโดนฟาดแน่" คนตัวเล็กกว่าได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มร่าก่อนจะขยับตัวมาใกล้ๆ
"ไม่สนุกหรอกแต่อาจจะตกใจหน่อยๆ"
"อะไรอ่ะ"
"จำคนที่ชื่อจูฮักนยอนได้ไหม" จินยองเงียบไปแปบนึงพอได้ยินชื่อนั้น เขาจำได้ดีเลยแหละน้องจู น้องฮักนยอนอะไรเนี่ย...
"อื้อ"
"เขาเรียนโรงเรียนเดียวกับเราแหละ"
"...."
"แต่เหมือนจะเป็นรุ่นน้องเรามั้ง"
"ไปรู้มาจากไหน"
"ก็หลังจากไปส่งนายที่บ้านวันนั้นพวกพี่เขาก็คุยกันต่ออะ น่าจะเป็นแฟนพี่ยงกุกมั้ง" เขาอยากจะฟาดหัวเพื่อนสนิทของตัวเองเสียเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ว่าเรื่องเล่าไม่สนุกแต่จะมาเล่าให้เขาฟังทำไม! หงุดหงิดเฉย...
"แล้วมาเล่าให้ฉันฟังทำไมอะ"
"นายไม่ได้อยากรู้หรอกเหรอ" แดฮวีมีสีหน้าหยอกล้อ เขารู้ว่าจินยองเหมือนจะสนใจคิมยงกุก ก็ผมเป็นเพื่อนสนิทนายนี่นะ! ทำไมผมจะไม่รู๊
"รู้ไปแล้วทำไรได้"
"ทำใจไง"
"หะ"
"หยอกเย่นนนน" แดฮวีรีบเอาหน้าแนบแขนเพื่อนตัวเองทันที คนฟังถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกเพราะเขาคงไม่คิดว่าเพื่อนของตัวเองจะรู้หรอกนะว่าเขาแอบสนใจรุ่นพี่ยงกุกอยู่
นับวันผมยิ่งอยากเจอพี่เขาทุกวันเลยอะ ฮืออ หัวใจเลว
จินยองพยายามดันหัวของเพื่อนตัวเองออกด้วยความหมั่นไส้ที่อยู่ๆก็มาเล่าอะไรก็ไม่รู้ให้ฟัง เขาเกือบจะหยิกคนข้างๆอยู่แล้วแต่ก็ต้องทิ้งความคิดนั้นไปเมื่อเสียงประกาศของคุณครูดังขึ้น
"อย่าลืมเอาการบ้านเมื่อวานมาส่งท้ายคาบด้วยละ"
"ครับบบ / ค่าาา"
"เอาการบ้านมา เดี๋ยวเดินไปส่งให้" แดฮวีพอได้ยินคุณครูแถลงการเขาก็หันไปสนใจสมุดการบ้านของตัวเองไม่ลืมที่จะขอของจินยองด้วยแต่คนโดนขอได้แต่นั่งสตาฟตัวเองอยู่อย่างเงียบๆ ...
ผม-ลืม-ทำ-การ-บ้านนน !!!!
:
ไม่รู้อะไรลากเขาให้มายืนเอาเท้าเขี่ยพื้นอยู่หน้าโรงเรียนที่เขาเพิ่งจะมาเมื่อเช้า นักเรียนหลายคนจับตามองไปที่เด็กหนุ่มชุดนักเรียนฮันริมด้วยสีหน้าตื่นเต้นโดยเฉพาะนักเรียนหญิง คิมยงกุกแสร้งมองไปทางอื่นเมื่อสังเกตเห็นว่ามีนักเรียนหญิงกลุ่มนึงกำลังจ้องมองมาที่เขาพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนรู้สึกอึดอัด แต่แทนที่จะเดินหนีไปเขากลับยืนเด่นหราอยู่หน้าโรงเรียน
"อ้าว พี่ยงกุกหนิ!" เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อตัวเองก็อดโล่งใจไม่ได้ยิ่งเห็นว่าเป็นคนรู้จักยิ่งลดความอึดอัดลง
"ไง"
"มารับแฟนเหรอครับ" แดฮวีอมยิ้มชอบใจหลังจากแซวคนตรงหน้าไปหนึ่งดอก ยงกุกไม่ได้ยิ้มหรือแสดงสีหน้าไม่พอใจแต่กลับเปลี่ยนประเด็นไปดื้อๆ
"แล้วเพื่อนนายอยู่ไหน"
"จินยองเหรอ"
"มีคนอื่นคบด้วยเหรอนายอ่ะ" เด็กตัวเล็กตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากของคนตรงหน้าก่อนจะทำหน้างอใส่ คงต้องทำตัวให้ชิน เห็นพี่แดเนียลบอกว่าพี่ยงกุกเป็นคนปากหมาแล้วก็ชอบทำหน้ากวนตีน ตอนแรกก็ว่าแรงไปอยู่หรอกแต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว...
"ไม่บอกดีไหมเนี่ยว่าเพื่อนผมอยู่ไหน"
"ฉันยืนรอต่ออีกหน่อยก็ได้ถ้างั้น" ยงกุกทำท่าจะเดินไปแดฮวีเห็นแบบนั้นก็ขว้าแขนของอีกคนไว้ก่อน
"แหม จะอ้อนวอนหน่อยก็ไม่ได้นะคนเรา"
"แล้วตกลงเพื่อนอยู่ไหน"
"ทำไมถึงอยากเจอจินยอง" เรื่องไรผมจะยอมให้เจอง่ายๆ นั่นเพื่อนผมนะแล้วอีกอย่างพี่เขามีแฟนแล้วด้วย อยู่ๆมาหาแบบนี้มันไม่ถวก!
“ไม่บอก ชื่อจินยองเหรอนายอ่ะ” จริงๆผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากนะ แต่ตอนนี้ผมหมั่นไส้คนตรงหน้ามากเลย มีดีแค่หน้าตาจริงๆ
“รอให้หัวเข่าผุจินยองก็ยังไม่ออกมาหรอก”
“ทำไม”
“ก็จินยองโดนทำโทษอยู่”
“ทำไมโดนทำโทษ”
“พี่ชื่อจินยองเหรอ ทำไมผมต้องบอก” ดูเหมือนต่อให้แดฮวีจะยอกย้อนอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ก็ไม่สะใจเพราะยงกุกเอาแต่ยืนมองหน้าเขาด้วยสีหน้าเดิม ที่ขยับอยู่บนหน้าก็คงจะมีแค่ตานี่ละที่กระพริบกับปากที่เอาไว้กวนตีนชาวบ้าน “มองหน้าทำไม”
“กำลังคิดว่านายสูงได้เท่านี้เหรอ”
“….”
“ถ้าผลักนายล้มกระดูกคงหักง่ายน่าดู”
“พี่จะผลักผมเหรอ!”
“….”
“น่ากลัววว ผมไม่คุยกับพี่แล้ว ขอให้ไม่เจอจินยอง เพี้ยง!” แดฮวีรีบขยับถอยหลังทีละก้าวพลางสาปแช่งด้วยวาจาแล้วหมุนตัววิ่งหนีไป ยงกุกถอนหายใจกับความติงต๊องของแฟนเก่าเพื่อน
แม่งสเปคไอ้แดนจริงๆ
เขายืนรออีกสักพักใหญ่ตั้งแต่แดฮวีไปก็เกือบๆสองชั่วโมงจนนักเรียนเริ่มเหลือน้อยลง อันที่จริงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กจินยองหลุดรอดพ้นสายตาเขาไปหรือเปล่าแต่ไม่รู้ทำไมเขารู้สึกยังไม่อยากกลับบ้าน เขาอยากจะเจอหน้าเด็กนั่นก่อนอาจจะเป็นเพราะอยากจะคืนกำไลให้มันรู้แล้วรู้รอดไปก็เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากจะโผล่มาโรงเรียนนี้อีกเสียด้วยซ้ำ
มือเล็กกระชับกระเป๋าสะพายบ่าของตัวเองเมื่อสังเกตเห็นรุ่นพี่ที่เขาเพิ่งเจอเมื่อเช้านี้ยืนอยู่หน้าโรงเรียน ต่อให้ไม่สังเกตก็ต้องเห็นเพราะชุดนักเรียนสีเด่นขนาดนั้น แต่พอนึกขึ้นได้ว่าพี่เขาอาจจะมายืนรอแฟนก็เลยไม่ทักดีกว่า ทำเป็นเดินไม่เห็นก็แล้วกัน
“รีบเดินไปไหน คนอุตส่าห์ยืนรอ” จินยองหยุดเดินเมื่อเขาเดินผ่านร่างสูงไปได้นิดเดียว ยงกุกเดินมายืนอยู่ตรงหน้าไม่ได้พูดอะไรต่อ เขายืนมองจนกว่าอีกคนจะเงยหน้ามามองเขา
“พี่มายืนรอผมเหรอ”
“ก็ใช่สิ มัวทำอะไรอยู่”
“ติดทำอะไรนิดหน่อยครับ”
“ไม่ได้โดนทำโทษอยู่หรอกเหรอ”
“….”
“แดฮวีบอก” ยงกุกรีบขยายความเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามีสีหน้าแปลกใจ
“พี่รู้หมดแล้วอะสิว่าผมไม่ทำการบ้าน”
“อ๋อ อันนั้นแดฮวีไม่ได้บอก” จินยองถึงกับสบถเบาๆแต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังอมยิ้มอยู่เขาก็อดรู้สึกดีไม่ได้เพราะนานๆทีจะเห็นคนตรงหน้ายิ้ม
“ผมคิดว่าพี่มายืนรอแฟนพี่ซะอีก”
“ฉันไม่มีแฟน”
“แล้ว... ฮักนยอน” นี่ทำไมผมถึงดูเหมือนคนที่กำลังจะสารภาพรักกับพี่เขาอยู่เลยเนี่ย โว้ยย แบจินยอง!!
“เลิกแล้ว”
“….”
“ทำหน้าแบบนั้นนี่ดีใจหรือเสียใจ” คนโดนทักได้แต่กลืนน้ำลายหนืดลงคอ นี่พี่เขาจะเป็นคนจริงไปถึงไหนเนี่ย ถามอะไรไม่มีอ้อมสักประโยค
“พี่อยากได้ยินคำตอบไหนละครับ”
“เก็บไว้ตอบหลังฉันจีบนายติดก็แล้วกัน”
“พี่พูดว่าอะไรนะครับ” จินยองถึงกับต้องเอียงหูฟัง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายพูด เขาแค่ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรผิด
“นายมีแฟนหรือยัง”
“ยะ ยังครับ”
“แล้วมีคนที่ชอบแล้วยัง”
“อันนั้น... ก็น่าจะยังครับ”
“ดี งั้นเตรียมรับมือไว้เลย”
“ทำไมครับ”
“เพราะฉันจะจีบนายตั้งแต่วันนี้ จนกว่านายจะยอมรับว่านายก็ชอบฉันเหมือนกัน”
_______________
ไม่มีใครคนจริงเท่าพิยงกุกอีกแล้วค่ะ
ขอเตือนไว้ก่อน
เรื่องนี้ไม่มีกลิ่นไอของความดราม่าแน่นอน 5555555555
hashtag : #มบฟช
ความคิดเห็น