คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : V'lism chapter I :: First time we meet
Vivian’s Part
“เฮ้อ..”
ผมทิ้งตัวลงนั่งบนระเบียง ข้างกายมีถังน้ำกับผ้าขี้ริ้วฝุ่นเขรอะเป็นเพื่อนข้างกาย
ท้องฟ้าที่ไร้ดาว แสงไฟในใจกลางเมืองแบบนี้บดบังแสงดาวไปจนหมด ต่อให้เอากล้องดูดาวมาดูก็คงมองไม่เห็นอยู่ดี
บัตรประชาชนของผมที่วางอยู่ข้างตัวระบุไว้อย่างชัดเจน "วิเวียนนา" ใช่แล้ว ผมชื่อวิเวียน ถึงแม้ใครจะบอกว่ามันเหมือนผู้หญิงก็เถอะ
นามสกุล "เกียรติกรกฏ" บ่งบอกถึงความร่ำรวยของผม ไม่สิ ต้องบอกว่าของพ่อผมต่างหากเพราะว่าสถานะตอนนี้คือเด็กหนีออกจากบ้าน สถานที่พักอาศัยตอนนี้คือคอนโดแคบๆ พอกับรูหนู ส่วนสถานะทางการเงินตอนนี้คือ มีติดตัวอยู่แสนเดียว... กับหนึ่งปีในเมืองที่ค่าครองชีพสูงกะซวกไส้
ตอนนี้ผมเป็นคุณหนูตกอับดีๆนั่นเอง
เนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้
...
“พ่อครับ ผมจะเรียนที่ยอร์คฟอร์ดนะคระ...”
“ใช้สมองส่วนไหนคิด?”
ผมยังพูดไม่จบประโยค เสียงเย็นชาเฉียบขาดของคุณพ่อก็ดังขึ้นสกัดจุดผมแบบไม่ให้พูดต่อได้เลยทีเดียว
“เอ่อ แต่..ยอร์คฟอร์ดเก่งที่สุดในประเทศแล้วนะครับ..”
“เก่งแล้วไง? ถ้าอันตรายที่สุดในประเทศแบบนั้น จะเก่งแค่ไหนก็ไร้ค่า”
“ไม่ไร้ค่านะครับ ผมเชื่อว่ายอร์คฟอร์ดทำให้ผมเก่งได้”
“แลกกับความเสี่ยงจากพวกกุ๊ยข้างถนนน่ารังเกียจพวกนั้นน่ะเหรอ? เหอะ ไร้สาระน่าวิเวียน ใครสั่งใครสอนให้คิดเข้าไปเกลือกกลั้วในที่สกปรกโสมมแบบนั้น”
“แต่พ่อครับ.. เพื่อให้ผมเก่งขึ้น ลงทุนแค่นี้คงไม่เป็นไร...”
“ไม่เป็นไร? ไม่เป็นไรเนี่ยนะ!? บ้าไปแล้วหรือไง คิดว่าเข้าไปเรียนในที่แบบนั้นแล้วจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นกลับมาหรือไง!? เป็นไปไม่ได้!”
“เพื่อความรู้ของผม พ่อยังต้องสนใจอะไรอีกล่ะครับ! พ่อเป็นคนใหญ่คนโต แค่ปกป้องผมคนเดียวไม่ได้หรือไงครับ!?”
“ไอ้เด็กไร้เดียงสา!! แกยังไม่รู้อะไรอีกเยอะ! พ่อไม่ให้ไป! นี่คือการเตือน ฝันไปเลยว่าพ่อจะยอม”
“ผมไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่พ่อพูดนะ อย่างน้อยผมก็รู้ว่ายอร์คฟอร์ดคือแหล่งมั่วสุมการค้าประเวณี!!”
“รู้แบบนี้แล้วแกจะยังจะไปเรียนอีก คิดว่าแกจะรอดออกมาหรือไง!? ที่อันตรายแบบนั้น คนอย่างแกยิ่งอันตราย”
“ผมไม่สน! ผมมั่นใจว่าผมเอาตัวรอดได้ อีกอย่างผมไม่ใช่ผู้หญิงนะพ่อ ใครเขาจะมาทำอะไรผม!”
“แกไม่รู้รึไงว่าผู้หญิงหรือผู้ชายเขาก็ไม่สนหรอก หรือแกตั้งใจจะไปทำอย่างนั้นอยู่แล้ว คิดจะไปเรียนหรือมีผัวกันแน่ ห๊ะ!!”
…
ผมไม่เคยโดนด่าขนาดนั้นมาก่อนเลย ผมโกรธมาก สิ่งแรกที่ผมทำคือ เดินหนีจากจุดนั้น หนีออกมาจากบ้านของคนที่ด่าผมว่าผมไม่ต่างจากพวกโสเภณี โลกนี้ไม่มีอะไรที่ผมรังเกียจเท่าผู้หญิงพวกนั้นแล้ว เมื่อถูกเปรียบเทียบเป็นเหมือนพวกนั้น ผมก็อดไม่ได้ ผมทนไม่ได้!
ผมเก็บกระเป๋าออกมาจากคฤหาสถ์ เก็บมาแต่ของสำคัญ สมุดบัญชี พาสปอร์ต เอกสารสำคัญ เงินสดอีกสักห้าหมื่น บัตรประชาชนอยู่ในกระเป๋าสตางค์ผมอยู่แล้ว ผมสลัดการสะกดรอยตามของบอดี้การ์ดทุกคน ปลอมตัวหนีออกมา... มาที่ มหาวิทยาลัยยอร์คฟอร์ด
ใช่ครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่มหาลัยยอร์คฟอร์ด ที่คุณพ่อห้ามนักหนาไม่ให้ผมมานั่นแหละครับ
ผมก็เสียใจเหมือนกันนะครับที่กระทืบเท้าปึงปังออกมาตัวคนเดียวโดยไม่สนใจความคิดของคุณพ่อแบบนี้ แต่มันจำเป็น ผมทำทุกอย่างนี้เพื่อที่จะเก่งขึ้น และเก่งให้มากที่สุด
ผมรู้ตัวว่าถ้าผมกลับไปตอนนี้ ผมคงไม่ได้ออกมาข้างนอกอีกแน่นอน ตอนนี้ผมจึงตัดสินใจว่า ถ้าผมเรียนไปสักหนึ่งปี มีผลงานดีๆไปให้คุณพ่อเห็น ให้คุณพ่อพอใจในตัวผม ท่านคงให้อภัยผม และอนุญาตให้ผมเรียนที่นี่ต่อไปแน่นอน
ฉะนั้น หนึ่งปีนี้ ผมต้องอยู่ตัวคนเดียว...
ให้ตายเถอะ!! ผมไม่เคยอยู่แบบไม่มีคนรับใช้ด้วยซ้ำไป!! ผมจะอยู่ยังไงเนี่ย!!
…
Vivian’s Part
ผมยืนอยู่หน้ายอร์คฟอร์ด แอบอยู่หลังต้นไม้ มองนักศึกษาแต่ละคนเดินเข้าไปในมหาลัย มีแต่พวกกุ๊ยๆ สาวเปรี้ยวๆ ผมเริ่มไม่กล้าจะเข้าไปซะแล้วสิ ข้างในนั้นจะเป็นยังไงนะ จะมีใครต้อนรับผมไหม
ผมเปิดนาฬิกาล็อคเก็ตออกมา อีกสิบห้านาทีจะต้องเข้าเรียนแล้ว ทำไงดี
ยังไงก็ต้องเข้าไป แค่ตอนนี้หรือตอนที่สายแล้ว เข้าไปซะตั้งแต่ตอนนี้นี่แหละ!
ผมก้าวเข้ารั้วยอร์คฟอร์ดเข้าไป สายตาของคนรอบข้างหันมามองผมราวกับผมเป็นจุดสนใจของทุกคน ผมประหม่ามากเลย มองผมทำไมเหรอ ผมมีอะไรผิดปกติเหรอ อย่ามองผมแบบนั้นสิ
"พลั่ก"
แรงกระแทกที่ไหล่ผมเบาๆเรียกให้ผมหันกลับไปมอง
คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมนั้นมองผมด้วยสายตาคมกริบผ่านแว่นกันแดดสีชา
สวย...
พูดได้คำเดียวเลยว่าสวย สวยมาก สวยกว่าผู้หญิงเป็นพันเท่า
ถ้าผมไม่รู้จักเขาก็คงจะแยกไม่ออกว่าผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่
ใช่ครับ คนที่ยืนข้างหลังผมนี่คือผู้ชาย ร่างบาง ผิวขาว หน้าหวานรูปไข่รับกับผมสีดำระต้นคอ
คนที่ทุกคนล้วนตาคุ้นหน้าคุ้นตาดี ทั้งในนิตยสาร ทีวี สื่อต่างๆล้วนมุ่งความสนใจไปที่ผู้ชายคนนี้ทั้งนั้น
‘เกล กีเอลล่า’ ลูกชายนักการเมืองแต่กลับไปโด่งดังในแวดวงบันเทิง แต่ความสามารถทางการเมืองก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าพ่อเลยทีเดียว
เข้ามาวันแรกก็เจอตัวบิ๊กเลยแหะ เรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายดี
“มายืนเกะกะขวางทางอะไรตรงนี้ หลบไปซะไป!”
สวยแต่ดุจัง
“ขอโทษครับๆ” ผมรีบเขยิบหลบทางให้เกล เขามองผมด้วยหางตาพลางลดแว่นกันแดดลง เผยให้เห็นดวงตาเรียวสวยที่ถูกกรีดอายไลน์เนอร์บางๆอย่างแนบเนียน ทำให้ดวงตาคู่นั้นดู... มีเสน่ห์ขึ้นมาก จนอดไม่ได้ที่จะทำให้คนรอบข้างเคลิ้มไปตามๆกัน
“จะจ้องกูไปถึงไหน ไม่เคยเห็นหรือไง” เกลแว๊ดขึ้นมา ผมสะดุ้งนิดๆก้มหน้างุดๆ งือ ทำไมสวยแต่น่ากลัวจังเลยอ่า
“ขะ ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษครับ” ผมรีบเดินก้มหน้าหันหลังออกมา แต่มือเรียวในถุงมือหนังสีน้ำตาลเข้มก็วางลงบนไหล่ผม
“เด็กใหม่สินะ จะไปไหน” เกลดึงไหล่ผมให้หันกลับไปพลางเสียบแว่นกันแดดไว้กับคอเสื้อยืดคอวีสีขาวแบรนด์ดัง คิ้วขมวดมุ่นเหมือนกับรำคาญคนอย่างผมเต็มที่
ให้ตายสิ ทุกอิริยาบถของเขาเหมือนมีออร่าแผ่กระจายฟีโรโมนตลอดเวลา แต่ก็ใจดีแฮะ
“ผมจะไปตึกคาเนลน่ะครับ ไม่ทราบว่าจะต้องไปทางไหนเหรอครับ” ผมยิ้มให้เป็นมารยาท โค้งตัวเล็กน้อยเป็นการขอบคุณ
แต่เกลกลับเดินผ่านหน้าผมไปเฉยๆ ถามแล้วจากไป? =0=??
“จะมัวแต่ยืนนิ่งทำไมล่ะ! ตามมาสิ!”
“อะ อะ ครับ! มาแล้วครับๆ”
ผมโชคดีจัง ที่ได้เจอคนดีๆแบบนี้ >_<
ผมรีบจ้ำตามเรียวขายาวๆในกางเกงดำรัดรูปนั่นไป เห็นตัวเล็กๆแบบนั้นก้าวเร็วน่าดูเลย ผมรีบเดินขึ้นไปตีคู่กับเกลตามมารยาท
“คุณเกลเรียนอะไรเหรอครับ ^_^” มีคนบอกผมว่า การเริ่มบทสนทนาคือการสร้างเพื่อนที่ดีที่สุด
“อยู่หลังเขาหรือไงถึงไม่รู้ว่ากูเรียนอะไรน่ะ! - - รัฐศาสตร์”
“เหมือนกันเลยครับ โชคดีจังเลย ^_^”
“เลิกพูดสุภาพ คร้ง ครับ กับกูสักทีเหอะ อย่าเฟค มันขวางหูขวางตา กูเจอมาเยอะและ แบบเนี้ยไปไม่รอดซักราย -*-”
“ครับ? ว่าอะไรนะครับ? =0=??”
เกลหยุดเดิน ริมฝีปากสีสดตามธรรมชาติถูกขบจนขาว เขาเชิดหน้าขึ้นแล้วใช้หางตามองผม(อีกแล้ว) ด้วยสีหน้าเหมือนกับพร้อมจะฆ่าคนได้ทุกเมื่อ พร้อมกับกระทืบเท้าสองครั้งอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะออกเดินต่อ
“ใครมันเอาไอ้เด็กเนิร์ดนี่เข้ามาวะ!!”
....
กริ๊งๆๆ
เสียงเรียกเข้าสุดเบสิกดังมาจากไอโฟนของผม ผมรีบคว้าขึ้นมากดรับทันทีตามมารยาทเมื่อชื่อคนโทรเข้า เพื่อนใหม่ของผมเอง เกล
"สวัสดีครับเกล มีอะไรเหรอครับ"
ก็หลังจากที่เกลพาผมไปส่งที่ตึก ผมก็ได้รู้ว่าเขาก็เข้าเรียนคลาสเดียวกันกับผม อาจไม่ได้เรียนเหมือนกันหมด แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เรียนด้วยกันเลยใช่ไหมครับ ผมก็เลย เชื่อมสัมพันธ์ไมตรีกับเกลซะเลย ถึงเขาจะทำท่ารำคาญผมตลอดเวลาก็เถอะ แต่เขาก็ยังพาผมมาส่งถึงห้องโดยปลอดภัยอยู่ดี อาจแอบเป็นคนดีอยู่ลึกๆล่ะมั้งครับ ^_^
"ไอ้เห่ย เจอกันหน้า Port 24 สี่ทุ่ม”
“อะไรนะครับ =0=??”
“พอร์ท ทะเวนตี้โฟร์ไง =_=* ไม่รู้จักหรือไงไอ้เฉิ่ม”
“แถวนี้มีท่าเรือด้วยเหรอครับ =0=??”
“...”
“แถวนี้ไม่มีทางออกทะเลนะครับเกล =0=;;”
“...กูไปรับมึงดีกว่า”
“เสียงเกลดูเพลียมากเลยนะครับ ออกไปไหนดึกๆดื่นๆจะดีเหรอครับ”
“กูเพลียก็เพราะคุยกับมึงนี่แหละ -*- เชื่อฟังกูแล้วรอกูอยู่ที่ล็อบบี้คอนโดมึงตอนสี่ทุ่ม เข้าใจ๊!?”
“อ่า ครับๆ ไว้เจอกันใหม่นะครับ ^^”
“ถ้าไม่เจอมึงกูจะดีใจมาก - -+”
ตู๊ดๆๆๆ
ช่างเป็นคำลาที่น่าตกใจจังเลยครับ -0-;;
...
พอร์ชสีขาวเปิดประทุนของเกลจอดอยู่ที่หน้าคอนโดผม พร้อมกับเจ้าของที่นั่งหน้าระรื่นอยู่ในรถพลางกวักมือเรียกผมให้ขึ้นไปนั่งข้างๆ
ผมเปิดประตูเข้าไปนั่ง ผมยังนั่งไม่ทันติดเก้าอี้ดี เกลก็เหยียบคันเร่งพรืดพุ่งออกไปแบบผมหลังติดเบาะเลยทีเดียว
"เออ.. เกลครับ เราจะไปไหนเหรอครับ ไม่ต้องรีบมากก็ได้นะครับ เหวอ!" ผมร้องลั่นตอนที่เกลปาดหน้ารถเป็นคันที่แปด ซึ่งเกลดูจะสนุกมากกว่ากลัว แต่ผมกลัวนะครับ ฮือ
เกลหันมาค้อนผมตาขวางหนึ่งทีก่อนจะหันกลับไปหักพวงมาลัยหลบรถบรรทุกที่ขับเฉื่อยๆอยู่ข้างหน้า นี่ถ้าเกลหลบช้ากว่านี้นิดเดียวเราคงได้พุ่งเข้าหารถคันนั้นเต็มๆแน่เลย ฮือ เอาผมลงสักทีเถอะ! ผมหวาดเสียวแทนเกลเลยล่ะครับ!!
"ก็ไปผับไง นี่คืนวันศุกร์นะ! - -"
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! เอาผมกลับไปที!!!
Vest’s Part
ผมเดินเข้ามาในผับสุดหรูข้างๆมหาลัย เสียงเพลงดังสนั่นเมื่อก้าวเข้ามาข้างใน หญิงชายต่างเต้นกันอย่างลืมโลก ดื่มแบบไม่สนใจราคาของมัน เพื่อให้ความสุขตัวเอง
วันนี้ผมมาตัวคนเดียว ก็จะมาตกเหยื่อไปโรงแรมสักคน วันนี้อารมณ์เสีย อยากจะลงกับอะไรสักอย่าง ขาวๆสักคนคงดี
ทำไมคนมันเยอะจังวะ เหมือนคนที่อยู่ในแถบนั้นจะสนใจไปที่ตรงนั้นอย่างเดียว ดารามาหรือไง
ผมเดินเข้าไปกลางวง สาวๆที่อยู่ใกล้ๆพอเห็นผมก็ต้องถอยกรูดกันเป็นแถว บางคนไม่กล้ามองหน้าผมด้วยซ้ำไป
ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่กลางวงล้อมของประชากรอันหนาแน่น หน้าขาวใส แก้มขาวอมชมพู ตากลมใสสีดำที่มองไปรอบๆอย่างตื่นตระหนก ตัวเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับคนที่อยู่รอบข้าง บอบบางชะมัด น่ารักซะด้วย หึหึ
มือของไอ้หื่นแถวๆนั้นสักคนเริ่มทำเนียนไปกับฝูงชน ลูบไปตามเอวคอดบางนั่น หลายคนเริ่มเห็นเหตุการณ์ บ้างก็ถอยห่างออกมาเพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับตัวเอง บ้างคนก็ทำหน้ากรุ่มกริ่ม เหมือนจะเข้าไปร่วมกับมันด้วย
ส่วนผมน่ะเหรอ? ไม่ใช่เรื่องของผม ก็หันหลังเดินออกมาดิ แมร่งน่ารักเว่อร์ อยู่ในที่แบบนี้ได้ไม่เกินวันเดียวก็โดนกินเรียบแล้วแบบนี้น่ะ
“เอามือออกไปนะครับ!”
นั่นไง เสียงเริ่มมาก่อนแล้ว เสร็จแล้วไง สมน้ำหน้า น่ารักเกินหน้าเกินตาคนอื่นเขาเอง
“กรุณาอย่าแตะต้องตัวผมด้วยครับ!!”
แหม สุภาพซะด้วย แบบนี้คงฉุดง่าย เสร็จพวกเงี่ยนๆหมดแน่ สมควรว่ะ ขนาดผมยังอยากเข้าไปร่วมด้วยเลย น่ารักขนาดนี้ ใครจะทิ้งไว้ให้คนอื่นคาบไปกินล่ะครับ
“ปล่อยผมไปนะครับ!!!”
เรียบร้อย โดนแน่งานนี้ อยู่ที่นี่บริสุทธิ์ได้ไม่เกินวันเดียวหรอก แต่มันก็ไม่แน่...ไม่แน่ว่าจะบริสุทธิ์มาตั้งแต่ก่อนนี้รึเปล่า... ขนาดผู้หญิงแถวๆนี้แต่ล่ะคนยังประมาทไม่ได้เลย
“ช่วยด้วยครับ!! ช่วยผมด้วย!! ขอร้องล่ะครับ!! คุณตรงนั้นน่ะ ช่วยผมด้วยครับ!!”
ใครวะ? ผมหันซ้าย แลขวา นอกจากพวกที่ยืนนัวเนียกันอยู่ ก็มีแต่ผมที่ยังยืนหัวโด่ไม่แคร์โลกอยู่ นี่มันเรียกผมเหรอ? งานเข้าแล้วไงกู
ขณะที่ผมกำลังออกฝีเท้าเตรียมเดินหนีปัญหา ผมก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางเด็กคนนั้น
“ไม่รอดหรอกคนสวย มากับพี่ดีกว่านะน้อง อยู่กับพี่สบายตลอดชาติแน่”
เฮ้ย!! เสียงไอ้ซันนี่หว่า แฟนน้องสาวกู!!
ผมรีบเดินกลับมาที่ไอ้เด็กนั่น กระชากไอ้เหี้ยซันออกมา ต่อยมันเข้าไปเต็มที่หนึ่งหมัด
“นอกใจน้องสาวกู!!! มึงคิดดีแล้วใช่ไหมถึงทำแบบนี้!!” ผมเตะมันเข้าทีท้องอีกที มันแทบจะลงไปกลิ้งกับพื้น ผมยกขาขึ้นเหยียบซ้ำกลางหน้าอกมัน ตัวมันกระเด้งขึ้นมาตามแรงเหยียบด้วยความเจ็บ
“สิ่งที่พี่เห็นเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด! ผมจะนอกใจวาวาได้ไง! พี่ก็รู้อยู่ว่าผมรักวาวา!” เหี้ยซันพยายามจะลุกขึ้นมาคุยกับผม คิดว่าผมจะให้มันลุกเหรอ! ไม่มีทาง!! ผมกดน้ำหนักลงไปกลางอกมันแรงๆอีกที
“หลักฐานคาตากูแบบนี้!! มึงยังจะหาข้อแก้ตัวอีกหรือไง!! มึงมันก็แค่ไอ้ชั่วที่เข้ามาเอาประโยชน์จากวาวาเท่านั้นแหละ!!” ผมเหวี่ยงขาไปเตะบ้องหูมันอีกที มันแทบจะน็อกลงไปกองกับพื้น แบบนี้คงแผลงฤทธิ์ไม่ได้แล้วสินะ
“อย่าหวังว่ามึงจะมีโอกาสได้เห็นหน้าวาวาอีก!!!”
ตอนนี้รอบตัวผมแทบจะไม่มีคน นอกจากเหี้ยซัน คนที่มารุมเด็กนั่นที่กำลังวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง และ.. ไอ้เด็กน่ารักนั่น
“ฮึก”
ขณะที่ผมกำลังเดินออกมาจากตรงนั้น ผมก็รู้สึกถึงแรงดึงที่ชายเสื้อ เสียงสั่นๆเหมือนคนที่เสียขวัญเต็มที่ดังขึ้นด้านหลังผม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร นอกจากไอ้น่ารัก
ผมก้าวไปอีกหนึ่งก้าว แต่แรงดึงก็ไม่ได้หลุดออกไป แค่ลดลง สายตาของคนรอบข้างเริ่มมองเราสองคน เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดังขึ้นระงม พร้อมกับสายตาน่ารังเกียจพวกนั้น
ผมเกลียดนักล่ะ เสียงพวกนี้
สิ่งแรกที่คิดออกคือช้อนตัวไอ้เด็กโง่นี่ขึ้นมา รีบเดินออกไปด้านหลังผับ อย่างน้อยที่นั่นไม่ก็ไม่มีสายตาแทะโลมหรือเสียงกล่าวหาโดยไม่รู้ความอีก
ทำอะไรต่อไปกับเด็กนี่ค่อยคิดอีกทีแล้วกัน
-
Talk with Casberry :D
อร๊ายยย ตอนแรกออกมาได้สักที!! >[]<!!
ใช้ความกล้าหาญราวกับออกรบเลยล่ะค่ะ! ลงดีไม่ลงดีลงดีไม่ลงดี สุดท้ายก็ลงมาแล้วววว โคตรตื่นเต้นอ่ะค่ะ!!
คนคงหาว่าเว่อร์ (ฮา) แต่มันคือความจริงนะคะ >_<
ความคิดเห็น