เรื่องเล่าจากSMS - เรื่องเล่าจากSMS นิยาย เรื่องเล่าจากSMS : Dek-D.com - Writer

    เรื่องเล่าจากSMS

    เมื่อวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา ผมได้รับSMSจากผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม สำหรับผม...มันคือการเขียนSMSส่งความสุขได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวร้ายสาระซึ่งไม่น่าจะมีใครในโลกคิดทำเช่นนี้มาก่อน

    ผู้เข้าชมรวม

    283

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    283

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 ม.ค. 52 / 10:58 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      1.

      สวัสดีครับ

       

      อย่าได้แปลกใจนะครับที่คุณได้รับSMSต่อเนื่องติดกันยาว ๆ เช่นนี้ บางทีนี่อาจจะเป็นการได้รับSMSที่ยาวที่สุดในชีวิตการใช้โทรศัพท์มือถือของคุณก็ได้

       

      บางทีผมอาจรู้จักคุณโดยที่คุณไม่รู้จักผม หรือบางทีคุณอาจรู้จักโดยที่ผมไม่รู้จักคุณ แต่ไม่ว่าผมจะรู้จักคุณหรือไม่ และไม่ว่าคุณจะรู้จักผมหรือไม่ นั่นไม่สำคัญ แต่สำคัญที่คุณได้รับข้อความนี้จากผมแล้ว

       

      เหตุผลที่คุณได้รับข้อความนี้ก็เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของผม ใช่แล้วครับ ผมบังเอิญมีวันเกิดตรงกับวันปีใหม่พอดี และโทษฐานที่มันเป็นวันพิเศษของผมและคนทั่วโลก ผมก็เลยอยากจะทำอะไรที่มันพิเศษ ๆ

       

      อันที่จริงผมตั้งใจจะทำสิ่งพิเศษ ๆ ที่ว่านี้ในวันเกิดหรือวันปีใหม่ตั้งหลายปีมาแล้วล่ะ แต่ไม่เคยสบโอกาสสักที จนมาในปีนี้เองความตั้งใจของผมจึงสัมฤทธิ์ผล

       

      ผมไม่ควรจะลืมบอกคุณว่า อีกเหตุผลหนึ่งที่ส่งเสริมให้ผมทำสิ่งพิเศษในวันเกิดปีนี้ได้สำเร็จก็เพราะในเช้าวันก่อนวันปีใหม่หนึ่งวัน ผมได้รับSMSข้อความว่า

       

      "AISขออวยพรและส่งความสุขในวันเกิดของคุณด้วยโบนัสโทรฟรีภายในประเทศและส่งSMS, MMS, GPRSได้ไม่จำกัดในวันเกิดของคุณ"

       

      อ่านข้อความเสร็จ ผมก็ถามตัวเองว่าจริงหรือ? เพราะนับตั้งแต่ผมปวารณาตัวเป็นสาวกAISมากว่า20ปี ผมมีแต่เป็นฝ่ายจ่ายค่าบริการหลักและบริการเสริมต่าง ๆ ในแต่ละเดือนเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย แถมบางเดือนต้องเสียค่าต่อสัญญาณเพราะขาดชำระเกินเวลาที่กำหนดอีกต่างหาก

       

      นี่เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ผมได้รับอภินันทนาการใช้โทรศัพท์มือถือฟรีจากAIS

       

      โอ้! พระเจ้า ผมอยากจะแสดงอาการดีใจอย่างออกหน้าเหลือเกินที่อยู่ ๆ ก็ได้รับโบนัสพิเศษเช่นนี้ แต่คิดไปคิดมาก็ไม่กล้าซะงั้น บอกตามตรงกลัวจะเข้าใจอะไรผิดไปเอง

       

      คิดไปคิดมาอีกคำรบหนึ่งก็บอกกับตัวเองว่า

       

      ...เอาวะ ช่างแม่ง!!! อย่ากระนั้นเลย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเงื่อนไขหรือวาระซ่อนเร้นใด ๆ ที่อาจจะกลายมาเป็นระเบิดเวลาทำลายตนเองในภายหลังได้ โทรศัพท์ไปคุยกับแม่งให้มันรู้ดำรู้แดงเลยดีกว่า...

       

      2.

      ผมจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปถามเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการลูกค้าAIS ณ บัดนั้น แล้วผมก็ได้รับคำยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า

       

      "คุณสามารถใช้ได้ตั้งแต่เวลา0.00หรือเที่ยงคืนของวันที่31ธ.ค2551ไปจนถึงเวลา23.59ของวันที่1ม.ค2552ค่ะ"

       

      เท่านั้นล่ะ ผมรู้สึกเหมือนถูกหวยรางวัลเลขท้ายสองตัว แต่ดีใจได้เดี๋ยวเดียว ความรู้สึกลิงโลดนั้นก็ค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงจนหมดไปในที่สุด เมื่อมานั่งใคร่ครวญดูว่า สิทธิพิเศษเช่นนี้ไม่ควรจะตกเป็นของคนแบบผมเลย

       

      ทำไมน่ะหรือ?

      ผมกำลังจะแจกแจงให้คุณอ่านนี้ไงล่ะ

       

      โทรฟรี-ไม่มีความหมายกับผมสักนิด เพราะผมเป็นคนไม่มีเพื่อน ผมไม่รู้จะโทรศัพท์ไปคุยกับใคร อีกอย่างผมไม่ก็ใช่มนุษย์ประเภทชอบจ้อทางโทรศัพท์มือถือนาน ๆ ด้วย

       

      SMSฟรี-ปกติผมได้รับมากกว่าส่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะข้อความประเภทโฆษณาขายสินค้าสารพัดรูปแบบ ส่งมาจนน่ำรำคาญ

       

      MMSฟรี-ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ตั้งแต่มีบริการนี้ขึ้นมาใช้ในโลกมือถือ ผมยังไม่เคยใช้บริการเลยแม้แต่ครั้งเดียว

       

      ผมว่ามันแพงเกินไป ตอนบริการนี้ออกมาใหม่ ๆ ถ้าผมจำไม่ผิด คิดค่าบริการครั้งละ 15 บาทหรือไงเนี่ย แต่ไม่ว่าทุกวันจะลดลงมาเหลือ 9 บาทหรือ 6 บาทต่อครั้ง ผมว่าก็ยังแพงเกินไป  ต่อให้เหลือ 3 บาทต่อครั้งผมก็ว่ายังแพง ราคาที่เหมาะสมจะเป็นเท่าไหร่ผมไม่รู้ แต่ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นบริการฟรีหรอก ของฟรีไม่มีในโลก ข้อนี้ผมรู้ดีครับ

       

      GPRSฟรี-หลายคนอาจจะไม่เชื่อถ้าผมจะบอกว่า เห็นเป็นคนหัวโบราณคร่ำครึแบนนี้แต่ผมเป็นคนที่ใช้เวลาท่องอินเตอร์เน็ตบนมือถือไม่ใช่น้อยเลย

       

      ผมเล่นอินเตอร์เน็ตบนมือถือมาตั้งแต่สมัยที่ยังคิดค่าบริการตามจำนวนDATAที่ดาวน์โหลด

       

      ตั้งแต่สมัยที่การดูทีวีบนโทรศัพท์มือถือยังคิดค่าบริการนาทีละ 18 บาท ตั้งแต่ยังไม่มีแพ็คเก็จลดแหลกแจกแถมจนถูกเป็นขี้อย่างทุกวันนี้

       

      การได้GPRSฟรีจึงเป็นบริการอย่างเดียวที่ตอบสนองการใช้โทรศัพท์มือถือของผมมากที่สุด

       

      ผมชอบเล่นอินเตอร์เน็ตบนมือระหว่างนั่งรถเมล์ไปทำงานหรือกลับบ้าน การได้โบนัสGPRSฟรีจึงน่าจะสอดคล้องกับความต้องการใช้งานของผมมากที่สุด

       

      โปรดสังเกต ผมใช้คำว่า "น่าจะ"

       

      ที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องจากตลอด365วันที่ผ่านมา ผมเล่นอินเตอร์เน็ตบนมือทุกวัน นอกจากตอนเดินทาง บางทีก็เล่นตอนเข้าห้องน้ำ โดยเฉพาะห้องน้ำให้ห้างสรรพสินค้า บางทีก็เลยเถิดไปห้องน้ำหญิง ห้องลองเสื้อ บันไดเลื่อน ฯลฯ

       

      เมื่อต้องเล่นในสถานการณ์ดังกล่าว GPRSจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด เพราะหลังจากเสร็จกิจผมจะต้องรีบส่งเข้า E-mail Address และรีบลบทิ้งทันที เผื่อถูกจับได้หรือมีใครโวยวายขึ้นมาก็จะไม่มีหลักฐานใด ๆ ผูกมัด

       

      เพราะฉะนั้นการที่จะมาให้ผมเล่นGPRSในวันแรกของปีใหม่ซึ่งผมไม่ได้ออกไปไหนมาไหนนั้น ถึงจะฟรีแต่ไม่มีองค์ประกอบที่เอื้อต่อการเล่นตามแบบฉบับของผม และขอบอกตามตรงว่าผมเบื่อที่จะเล่น(ว่ะ) เพราะการเล่นอินเตอร์บนมือถือในวันปีใหม่นั้น โดยเฉพาะการDownload คลิปเด็ดหรือภาพฉาวจากเว็บต้องห้ามสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีจะไม่workเลย มันจะerrorบ่อยมาก

       

      กล่าวโดยสรุป ผมแค่จะบอกว่าน่าเสียดายที่ผมไม่สามารถฉวยโอกาสได้ของฟรีนี้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง

       

      ถ้าเป็นสมัยที่มีการตั้งโต๊ะให้บริการโทรฯทั่วไทยนาทีละ 2 บาท ผมคงได้เงินใช้ไม่ใช่น้อยเลย แต่ในยุคที่คนทั้งประเทศมีโทรศัพท์มือถือใช้กันคนละเครื่องสองเครื่อง เครื่องเดียวสองเบอร์ หรือเครื่องเดียวสองซิมการ์ด ใช้สลับกันไปมาเพื่อการล่อลวง หลอกแดก จนถึงหลอกฟันกันอย่างทุกวันนี้ ผมคงทำอะไรไม่ได้

       

      อย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องขอบคุณAISล่ะนะ

       

      3.

      ผมลองมาสมมุติดูเล่น ๆ สมมุตินะครับสมมุติ สมมุติว่าผมเป็นคนมีเพื่อนเยอะ แต่ว่ากันโดยนิสัยใจคอของผมนั้น ผมก็คงไม่คิดจะใช้สิทธิประโยชน์นี้ไปรบกวนช่วงเวลาความสุขของเพื่อนคนไหน เพราะผมจะคิดของผมเสมอว่านี่คือช่วงเวลาที่เขากำลังมีความสุขจากการฉลองวันขึ้นปีใหม่กับพ่อ แม่ พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา เครือญาติ คนรัก คนพิเศษ หรือใครสักคนก็ตามที่เขาตั้งใจจะใช้เวลาในวันที่แสนพิเศษนี้ร่วมกัน

       

      ผมก็ชอบที่จะคิดไปเองแบบนี้ล่ะครับ อาจจะเป็นเพราะปีนี้ผมอายุ 41 ปีแล้ว แก่ขึ้นอีกหนึ่งปี แถมยังตัวเปล่าเล่าเปลือยไม่มีครอบครัวเหมือนคนอื่น หน้าที่การงานก็งั้น ๆ เป็นมนุษย์เงินเดือนน้อยนิด แต่เป็นหนี้บัตรเครดิตมหาศาล แถมวันดีคืนดีในใบแจ้งหนี้ประจำเดือนเสือกระบุรายการที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ใช้อีกรวมกันอีกนับแสนบาท ต้องรีบโทรฯ สั่งอายัตและเลิกใช้บัตรเครดิตไปโดยปริยาย จนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร เฮ้อ!

       

      พูดถึงหนี้ ผมนึกขึ้นได้ว่ายังมีหนี้อีกก้อนหนึ่งที่รอวันชำระ จะเรียกว่า 'หนี้ชีวิต' หรือ 'หนี้แค้น' ก็ไม่รู้ ผมขอสงวนสิทธิ์ที่จะบอกว่าผมเป็นหนี้ก้อนนี้กับใครที่ไหนเมื่อไหร่ เอาเป็นว่าก่อนดินกลบหน้าผมต้องหาทางชดใช้ให้จงได้

       

      ขอสารภาพอย่างไม่อายเลยว่า เหงาไม่ใช่น้อยที่ต้องฉลองวันเกิดและวันปีใหม่ด้วยการนอนฟังเสียงพลุเสียงประทัดอยู่กับบ้านเหมือนทุกปีที่ผ่านมา

       

      นี่ถ้าพวกพันธมิตรยังปิดสนามบินสุวรรณภูมิ หรือกลุ่มคนเสื้อแดงยังชุมนุมกันอยู่ที่หน้ารัฐสภา ผมก็คงจะออกไปร่วมเค้าท์ดาวน์กับพวกเขาด้วย

       

      น่าเสียดายที่เลิกชุมนุมกันไปก่อน

       

      อย่าถามนะว่าผมจะใส่เสื้อสีอะไรออกจากบ้าน ถึงนาทีนี้ผมไม่คิดอะไรมากแล้วล่ะว่าจะเลือกยืนข้างไหน จะสีเหลือง สีแดง สีเขียว หรือสีช้ำเลือดช้ำหนองผมก็เอาทั้งนั้น ขอแค่ว่าอย่าแก้ผ้าเอาหน้ารอด

       

      เพราะถ้าทำอย่างนั้น ต่อให้รูปหล่อขั้นเทพประทานจากสรวงสวรรค์หรือตาเหล่ปากห้อยถืออภิสิทธิ์มาจากซ่องโจรห้าร้อย ผมก็คงรับไม่ได้เหมือนกัน

       

      อันที่จริงผมออกตัวว่าอยากจะทำสิ่งพิเศษ ๆ เนื่องในวันเกิดซึ่งตรงกับวันปีใหม่ เป็นความตั้งใจมาหลายปีแล้ว

       

      เรื่องของเรื่องคือผมก็แค่อยากจะหาอะไรทำเพื่อให้รู้สึกดี ๆ กับชีวิตที่ต้องฉลองวันเกิดและปีใหม่อย่างเหงา ๆ แล้วในที่สุดผมก็สามารถทำสิ่งพิเศษ ๆ ที่ตั้งใจได้สำเร็จในปีนี้เอง

       

      สิ่งพิเศษที่ว่านี้ก็คือ การส่งความสุขผ่านข้อความทั้งหมดที่คุณได้อ่านมาตั้งแต่จนถึงบรรทัดนี้ยังไงล่ะครับ

       

      ผมได้แต่หวังว่าคุณคงจะไม่ถือสาหาความหรือถือโทษโกรธผมนะครับ ผมไม่ได้บ้าครับ ผมขอยืนยันว่าผมตั้งใจส่งข้อความทั้งหมดนี้โดยที่ยังมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์

       

      ก็ถ้าการที่มีคนประท้วงโดยการยึดทำเนียบปิดสนามบินไม่ใช่ความบ้า!!!

       

      หรือการรับเงินมาชุมนุมขัดขวางการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีคนที่27ของประเทศไทยไม่ใช่ความบ้า!!!

       

      การที่ผมส่งข้อความที่ยาวมากที่สุดในชีวิตการได้รับSMSของคุณนี้ก็ไม่ใช่ความบ้าเช่นกัน

       

      ขอให้เชื่อเถอะครับว่าผมตั้งใจส่งมาถึงคุณด้วยความปรารถนาดีจริง ๆ

       

      4.

      ตามธรรมเนียมเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ผมควรจะมีคำอวยชัยให้พรคุณด้วย แต่ผมไม่รู้ว่าจะเขียนคำอวยพรให้คุณยังไงดี เพราะโดยส่วนตัวแล้วผมเบื่อคำอวยพรที่เป็นทางการหรือเป็นแบบแผน

       

      ยกตัวอย่างคำอวยพรที่ผมได้รับ เช่น

       

      ขอให้มีความสุขมาก ๆ

      (นึกอะไรไม่ออก ขอ play save ไว้ก่อน ยังไง ๆ ก็มาตรฐานสากลล่ะน่า)

       

      ขอให้มีความสุขความเจริญตลอดปี

      (นี่ก็ยึดมาตรฐานสากลแบยาวขึ้นมาอีกนิด)

       

      ขอให้มีความสุข มีความเจริญก้าวหน้า สุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดขอให้สมความปรารถนา

      (รายนี้มาเป็นแพ็คเก็จเลย)

       

      ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้ท่านมีความสุขความเจริญตลอดปี

      (คนนี้มาแบบนิ่ง ๆ ธรรมมะธรรมโม)

       

      ขอให้สิ่งให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือจงคุ้มครองท่าน

      (แอบไสยศาสตร์เล็กๆ)

       

      Keep Walking

      (อันนี้เน้นทันสมัย สั้น กระชับ ถูกใจวัยโจ๋ แต่บ่งบอกว่าเป็นคนติดเพื่อน ชอบเลียนแบบ ไม่มีความคิดสร้างสรรค์)

       

      ขอให้รวย ขอให้รวย

      (โอ้โห! โคตรจะกว้างเลย น่าจะบอกด้วยว่ารวยวิธีไหน รวยแบบใคร รวยแล้วเป็นอย่างไร เช่น ต้องโกงชาติจนรวยเป็นแสนล้านแบบทักษิณแต่ต้องระเหเร่ร่อนไม่มีแผ่นดินจะอยู่เป็นหลักแหล่ง และสุดท้ายก็อาจจะ...รวยแต่เขือ)

       

      ขอให้คนไทยรู้รักสามัคคี

      (คนอวยพรไม่บอกว่าเป็นพวกเสื้อเหลืองเสื้อแดง)

       

      ขอให้ประเทศไทยสงบสุข

      (นี่ก็มาแบบเพื่อชีวิต)

       

      ขอให้หยุดทำลายประเทศชาติ คืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการยุบสภา

      (โอ้! คนนี้ออกแนวการเมืองแท้ ๆ เลย)

       

      ประเทศไทยฉิบหายเราไม่ว่า ขอให้ท่านกลับมาเป็นนายกฯ

      (เอากะพ่อสิ ถึงไม่บอกก็รู้ว่า

      'ท่าน' ในที่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้)

       

      ปีใหม่ ขอการเมืองใหม่เพื่อเมืองไทย ไม่เอาเพื่อไทย เพื่อแผ่นดิน เพื่อเนวิน

      (ก็หวังลม ๆ แล้งกันไปนะ)

       

      เย้!!! ปีใหม่แย้วว..ว อิ อิ

      Happy New Year คริ คริ

      ขอห้ายตัวเองมีฟาม..สุกก มั่ก ๆ ๆ ๆ ๆ

      รักนะ จุ๊บ ๆ

      อย่าลืมเม้นท์กลับเค้าด้วยนะ 5555(อาการป่วยไข้ทางภาษาแบบนี้บอกให้รู้เลยว่าเล่นอินเตอร์เน็ตมามาก และคงจะเป็นสาวก Blog Hi5 หรือ Tagged คิดดูนะ ขนาดส่งSMSยังติดขอให้commentกลับ)

       

      5.

      เอาล่ะ วิพากษ์วิจารณ์คำพรของคนอื่นมาเยอะแล้ว เห็นทีจะต้องเป็นฝ่ายขออวยชัยให้พรบ้างล่ะนะ แต่ขอออกตัวก่อนว่าเพื่อไม่ให้ซ้ำกับคนอื่น ผมจะขออวยพรเป็นกลอนปล่อยกลอนประตูตามแบบฉบับของผมก็แล้วกันนะครับ

       

      สวัสดีปีฉลู

      ตัวกูของกูใหญ่แค่ไหน

      ตัวมึงของมึงใหญ่เท่าใด

      ตัวใครของใครใหญ่เท่ากู


      ถ้ายังแย่งกันใหญ่อย่างสิ้นคิด

      ถ้ายังยึดติดชั่วดีเหมือนปีหนู

      ถ้ายังแบ่งนั่นของมึงนี่ของกู

      อาจจะรู้สำนึกเมื่อสายไป


      มาเถอะมาร่วมผสมกลมเกลียว

      เป็นตัวเดียวอันเดียวกันได้ไหม

      ทั้งตัวดีตัวชั่วตัวจัญไร

      ปล่อยให้กาลเวลาช่วยกล่อมเกลา


      สวัสดีอีกครั้งนะ...ปีวัว

      จะดีชั่วที่ตัวใครก็ช่างเขา

      เพียงหยั่งรู้ชั่วดีที่ตัวเรา

      ไม่มัวเมายึดติดจนชีวิตพัง


      ปีใหม่...ก็มาเริ่มต้นกันใหม่

      ก้าวต่อไปอย่างมีความหวัง

      เข้าใจโลกและชีวิตอนิจจัง

      มีพลังสร้างสรรค์แต่สิ่งดี...เอย

       

      แต่งกลอนเสร็จ ผมก็นอนฟังเสียงพลุสลับเสียงประทัดจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีตอนได้ยินเสียงไซเรนดังต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ กดไฟนาฬิกาดูเวลาเพิ่งจะย่างเข้าปีใหม่มาได้ไม่ถึงชั่วโมง เสียงพลุยังดังสลับประทัด ผมเพลินฟังจนผล็อยหลับไปอีกครั้ง มาตื่นอีกทีก็เช้าแล้ว กดรีโมทเปิดโทรทัศน์ซึ่งกำลังรายงานข่าวไฟไหม้ที่ 'ซานติก้า'

       

      เห็นภาพแล้วใจผมร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที จะไม่ให้ใจร่วงได้ยังไง ก็เมื่อไม่กี่วันก่อนปีใหม่ ผมเพิ่งได้รับSMSจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทางร้านส่งมาเชิญชวนให้ไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการปิดตำนานสถานบันเทิงที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งบนถนนเอกมัย ซึ่งผมก็ร่ำ ๆ ว่าจะไป แต่ก็หาคนไปเพื่อนไม่ได้ เพราะเพื่อนที่มีอยู่น้อยนิดของผมส่วนใหญ่ถ้าไม่อยู่ต่างจังหวัดก็แต่งงานมีครอบครัวอยากฉลองปีใหม่บ้านใครบ้านมัน

       

      คุณเชื่อไหม ตอนดูข่าวซึ่งเล่าโดยคุณสรยวยหัวคุด แวบนึ่งผมนึกถึงหนังเรื่อง '7ต้องตายโกงความตาย' ขึ้นมาเฉยเลย

       

      เฮ้อ! ขอถอนหายใจให้กับความตายที่ข้ามผมไป

       

      ใครจะไปคาดคิดนะว่างานเลี้ยงที่เริ่มต้นด้วยสุข และดำเนินไปอย่างสนุกสนาน แสงสีเสียงถูกออกแบบอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา จะจบลงด้วยความมืดมิด ควันไฟ เปลวเพลิงที่เผาผลาญมอดไหม้จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมต้อนรับศักราชใหม่เช่นนี้

       

      อยู่ ๆ ผมก็รู้สึกว่า ช่างโชคดีที่ผมไม่ได้ไปที่นั่นเมื่อคืนนี้ เขียนมาถึงตอนนี้ผมนึกออกแล้วล่ะว่าจะอวยพรคุณอย่างไร อยู่ ๆ มันก็โผล่พรวดมาพร้อมกัน 3 ประการ ถ้าจะเหมาเอาว่ามันเป็นสิ่งพิเศษที่ผมตั้งใจเนื่องในวันเกิดและปีใหม่ก็ไม่น่าจะผิดกติกามารยาทแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นผมจะขอมอบพร 3 ประการนี้ให้แด่คุณล่ะนะ

       

      โอมเพี้ยง!!!

      ขอให้คุณได้เดินทางไปที่ชอบ ๆ

      ขอให้คุณมีโอกาสเค้าท์ดาวน์ในปีหน้า

      และสุดท้าย...ไม่ว่าคุณจะนั่งรถลงเรือ ไปเหนือล่องใต้ บุกป่าฝ่าดง ขึ้นเขาลงห้วย หรือมีแผนจะเค้าท์ดาวน์ที่ไหนในปีหน้าฟ้าใหม่ก็ตาม

       

      ขอให้ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ 

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×