ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( SF OS ; BTS ) ✩ Zillion HOPE ( all x j-hope )

    ลำดับตอนที่ #9 : (os) Pay Back | #songficbts | jungkook x j-hope

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 58


    Pay Back


    #songficbts
    Jungkook x j-hope  ||  PG  ||  Author: ppbhy.
     

    Rapmonster – P.D.D.

     

     

     

     

     

    ในโลกนี้มีกฎอยู่ว่าทุกอย่างต้องแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม  ได้รับอะไรมาก็จงจ่ายคืนด้วยสิ่งที่เท่าเทียม...เช่นเดียวกัน  หากถูกช่วงชิงอะไรไป...

     

    ...ก็จงแย่งชิงสิ่งที่เท่าเทียมกันกลับคืนมา...

     

    Pay Back

     

     

    ติ๋ง

     

    ความเย็นเยียบจากของเหลวบางอย่างที่สัมผัสลงกับผิวเนื้อขาวเรียกให้แพขนตายาวขยับเพียงแผ่วเบา  หัวสมองที่ว่างเปล่าค่อยๆกลับมาทำงานอีกครั้ง  กลิ่นเหม็นของความชื้นลอยเข้ามาในประสาทการรับรู้เป็นอย่างแรก

    เมื่อสติการรับรู้เริ่มกลับมาความเจ็บปวดก็แล่นริ้วกลับมาอีกครั้งจนต้องนิ่วหน้า  มือที่กำลังจะยกขึ้นสัมผัสแผลบริเวณหางคิ้วที่ปริแตกอยู่พลันชะงักค้างเมื่อระลึกได้ว่าไม่อาจขยับร่างกายได้อย่างที่หวัง

     

    กริ๊ก!

    เสียงโซ่โลหะที่พันธนาการข้อมือบางทั้งสองข้างเอาไว้เหนือหัวกระทบกับกำแพงหินแผ่วเบาทว่ากลับดังก้องไปทั่วทั้งห้องและโสตประสาทของเขา  ลองขยับอีกสองสามครั้งก็พบว่าแขนทั้งสองข้างนั้นไม่ต่างกับเป็นอัมพาตแต่อย่างใด

    เวรเอ๊ย...เสียงที่สบถผ่านริมฝีปากที่แห้งผากนั้นอ่อนระโหยราวกับไม่ใช่เสียงของตน ยามที่พยายามเปล่งเสียงออกมาลำคอก็แสบร้อนไปหมดเลยทำได้เพียงเม้มริมฝีปากที่บวมช้ำของตนแน่นแทนการร้องตะโกนออกมาให้หายหงุดหงิด

    แกร๊ก!

    เสียงปลดล็อคกลอนประตูที่ดังขึ้นเรียกให้เปลือกตาบางที่หนักอึ้งค่อยๆปรือขึ้นมามองที่มาของเสียงช้าๆ  แสงสว่างจากด้านนอกนั้นสว่างจ้าเสียจนต้องเสหลบสายตา  เสียงฝีเท้าแผ่วเบาและสม่ำเสมอดังขึ้นเป็นระยะแต่เขาก็ไม่มีความคิดที่จะเงยหน้ามองผู้มาใหม่เลยแม้แต่น้อย

    แก้วตาใสวาววาบทุกครั้งที่ได้ยินเสียงพื้นรองเท้าย่ำลงบนพื้นหินชื้นๆที่ตนใช้แทนเตียงมาตลอดทั้งคืน  และมันยิ่งลุกวาวมากขึ้นไปอีกเมื่อมองเห็นปลายรองเท้าหนังสีดำสนิทที่ก้าวเข้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้าตน

     

    ...เนิ่นนานที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ...

     

    หลับสบายมั๊ยครับโฮซอกน้ำเสียงทักทายอย่างเป็นมิตรนั่นมันช่างน่ารังเกียจสิ้นดีในความคิด  เจ้าของชื่อ โฮซอก ตวัดสายตาเงยหน้าขึ้นมองบุคคลที่ยืนค้ำหัวตนอย่างไร้มารยาทด้วยประกายตากร้าว

    อ่า...ดูสิ  บวมไปหมดแล้ว...น้ำเสียงนั่นแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความเวทนา  แต่นั่นมันกับเรียกแรงอารมณ์ที่เคยสงบลงไปแล้วครั้งหนึ่งของจองโฮซอกให้ลุกโหมขึ้นอีกครั้ง  ดวงตาคู่สวยน่าหลงใหลนั่นโชนแสงถลึงมองชายหนุ่มตรงหน้าราวกับจะแผดเผาให้กลายเป็นเถ้าทุลีลงไปต่อหน้าตนอย่างไรอย่างนั้น

    ริมฝีปากของคุณออกจากสวยงามขนาดนี้...ชายหนุ่มผู้มาใหม่ทรุดกายนั่งลงให้อยู่ในระดับเดียวกับอีกคนก่อนมือหนาจะเอื้อมออกมาเชยคางมนให้แหงนขึ้นมองหน้าตน  นิ้วหัวแม่มือบรรจงเกลี่ยไล้ไปที่ริมฝีปากนิ่มที่ปริแตกและบวมช้ำอย่างน่าสงสารนั่นช้าๆอย่างอ่อนโยน

    คนถูกสัมผัสนิ่วหน้าด้วยความขยะแขยงราวกับสิ่งที่สัมผัสตนนั้นยิ่งกว่าสิ่งปฏิกูล  ใบหน้าสวยสะบัดหนีไปอีกทางอย่างแรง  ก่อนจะเหลือบสายตากลับมามองใบหน้าหล่อเหลาอ่อนเยาว์ของคนตรงหน้าอย่างท้าทาย

    ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคายและดวงตาคมทรงเสน่ห์กรีดยิ้มร้ายก่อนหลังมือขวาจะถูกยกขึ้นแล้วฟาดลงที่ใบหน้าสวยของอีกคนอย่างแรงจนร่างบอบบางนั้นเซถลาไปตามแรง

    มองผมแบบนั้นไม่น่ารักเลยนะครับ...ดวงตาสวยๆของคุณเหมาะจะส่งสายตาอ้อนวอนผมมากกว่านะคนดีน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเหนือกว่าของอีกคนเรียกให้จองโฮซอกทำได้เพียงแค่กัดฟันแน่นด้วยความคับแค้นใจ  ความเจ็บร้าวที่ซีกหน้าด้านขวานั้นมากมายเสียจนไม่มีแม้แต่แรงที่จะยันกายให้แก้มขาวอีกข้างออกห่างจากพื้นหินสกปรกนี่เสียด้วยซ้ำ

    ทำไมไม่ยอมแพ้สักทีล่ะครับ?น้ำเสียงที่เอ่ยถามออกมานั้นฉายแววความสงสัยราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา เพียงแต่ริมฝีปากบางนั่นยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มร้าย

    กลุ่มผมนิ่มของจองโฮซอกถูกกระชากดึงให้ร่างลอยหวือขึ้นตามแรงของอีกคน  ชายหนุ่มผู้ได้เปรียบกว่าออกแรงกระชากอีกครั้งให้ใบหน้าสวยที่ตนหลงใหลนั้นเชิดขึ้นมาสบกับตน

    ต่อให้ใบหน้าและร่างกายของจองโฮซอกจะหมดสภาพเพียงใด แต่แววตาแข็งกร้าวไม่ยอมแพ้ราวกับราชสีห์นั้นก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

    คุณยังจ้องผมแบบนี้อีกเหรอ?  ตอนนี้คุณไม่ใช่จองโฮซอกหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียชื่อดังเหมือนเดิมแล้วนะครับ...ถึงจะถูกจ้องมองด้วยสายตาเอาเรื่อง  แต่ชายผู้มีแต้มต่อก็ยังคงรักษาใบหน้าระรื่นและรอยยิ้มร้ายไว้ได้เป็นอย่างดี  จะมีก็เพียงนัยน์ตาสีรัตติกาลนั่นเท่านั้นที่แข็งกร้าว

    ไม่ได้เป็นหัวหน้าแล้ว...สนใจเปลี่ยนมาเป็นนายหญิงของเรามั๊ยครับ....

     

    ถุย!

    ยังไม่ทันจะได้เอ่ยจนจบประโยคดีคนตรงหน้าเขาก็พ่นหยาดโลหิตที่คั่งค้างอยู่โพรงปากจากแรงตบเมื่อครู่ใส่ใบหน้าเขาอย่างไม่สนใจมารยาทที่บิดามารดรเพียรสั่งสอนมาเลยสักนิด

    และมันคงไม่ได้ยั่วโมโหเขาได้มากมายขนาดนี้ถ้าหากจองโฮซอกไม่ยกยิ้มเยาะอย่างไม่เจียมตนว่าอยู่ในฐานะใดแบบนี้  ...คิดว่าสูงส่งมากนักหรือ?  คิดว่าอยู่เหนือกว่าคนอื่นด้วยสภาพอย่างในตอนนี้น่ะหรือ?

    ...หึ....คุณมันก็แค่ม้าพยศที่โดนตัดขาจนเดินไปไหนไม่ได้เท่านั้นแหละครับจองโฮซอก...

    ...ส่วนนายมันก็แค่ลูกไก่โง่ๆที่เอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นพญาอินทรี จอน จองกุก...อั่ก!”ถากถางอีกคนได้ไม่เท่าไหร่คำพูดที่เหลือก็ต้องกลืนกลับเข้าไปในลำคอที่แห้งผาดเช่นเดิมเพราะฝ่ามือที่ปะทะเข้ากับใบหน้าซีกซ้ายอีกครั้งอย่ารุนแรง

    ...ปากดีไม่ดูสภาพตัวเองเลยนะครับคนดี...จอนจองกุกกรีดยิ้มร้ายอีกครั้งก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง  ดวงตาสีนิลคู่นั้นทอดต่ำมองลงมายังร่างบางที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้นหินเปียกชื้นนิ่งๆก่อนเรียวขายาวภายใต้กางเกงสแลคเนื้อดีจะออกแรงเตะเข้าที่หน้าท้องแบนราบใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ขาดรุ่งริ่งนั่นอย่างแรงเสียจนคนตัวบางต้องขดกายงองุ้มเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด

    พักผ่อนก่อนเถอะครับโฮซอก...เพราะอีกชั่วโมงหลังจากนี้คุณจะได้พบกับความหฤหรรษ์เสียจนลืมไม่ลงเชียวล่ะ...รอยยิ้มไร้เดียงสาสมวัยปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบางของจอนจองกุกเสียจนเห็นฟันกระต่ายน่ารักคู่นั้นขัดกับเนื้อความของประโยคโดยสิ้นเชิง

    จองโฮซอกถลึงจ้อง ส่งสายตาวาววับเอาเรื่องตามแผ่นหลังกว้างของอีกคนไปทั้งที่ยังคงไอค่อกแค่กเสียจนตัวโยน  เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับความมืดที่เข้ามาปกคลุมไปทั่วอีกครั้ง  จอนจองกุกเดินออกไปแล้ว  เหลือเพียงจองโฮซอกที่ยังคงสำลักไม่หยุดเท่านั้น  ความแสบร้อนของน้ำย่อยจากภายในช่องท้องปะปนไปกับรสข่มปร่าฝาดเฝื่อนของหยาดโลหิตในโพรงปากชวนให้คลื่นเหียน

    จองโฮซอกยอมทิ้งกายนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหินเย็นเยียบอย่างเหนื่อยอ่อน  เปลือกตาบางปิดลงช้าๆหลังจากที่อาการสำลักเลือนหายไปแล้ว  ลมหายใจที่หอบถี่ค่อยๆกลับมาคงที่อีกครั้ง

    ท่ามกลางความมืดมิดและเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจผะแผ่วของตนเองและเสียงโซ่โลหะดังกริ๊กๆทุกครั้งที่เขาขยับกาย ด้วยความรำคาญโฮซอกจึงเลือกที่จะอยู่นิ่งๆเสียดีกว่าปล่อยให้เสียงโลหะกระทบกันนั่นทำลายประสาทเขา

     

     

    อดีต มาเฟียหนุ่มผู้องอาจหวนคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้เพียงชั่วข้ามคืน...คืนที่พลิกชีวิตเขาให้ตกต่ำลงอย่างที่กำลังพบเจอในตอนนี้...

     

     

    ภาพร่างไร้วิญญาณของเหล่าลูกน้องที่นอนแน่นิ่งทอดกายอยู่ท่ามกลางหยาดโลหิตสีแดงฉานหวนกลับเข้ามาอีกครั้ง  กลิ่นเหม็นคาวที่ลอยคลุ้งปะปนไปกับกลิ่นเหม็นไหม้และเขม่าดินปืนจากรอบตัวชวนให้ขย้อนของเก่าออกมายิ่งนัก

    จองโฮซอกหัวหน้าแก๊งมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ยืนหอบหายใจอยู่ท่ามกลางวงล้อมของศัตรู  ชุดสูทราคาแพงที่บรรจงตัดขึ้นมาเพื่อเขาขาดรุ่งริ่งจากการปะทะกันอย่างรุนแรงเสียจนคฤหาสน์ของเขาแทบลุกเป็นไฟ

     

    ฟิ้ว~

    เสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดีที่ดังขึ้นเรียกให้ดวงตาคู่สวยต้องตะหวัดกลับไปมองยังที่มาของเสียง  ร่างสูงสมส่วนและใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ตนจำได้ดีเรียกให้ร่างทั้งร่างของมาเฟียหนุ่มเกร็งแข็ง

    จอน...จองกุกน้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นแผ่วเบาราวกับกระซิบ  แต่แววตาที่ลุกโชนนั่นก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าผู้พูดนั้นกำลังเก็บอารมณ์มาเพียงใด

    สวัสดีครับโฮซอก...น้ำเสียงสุภาพพร้อมกับรอยยิ้มการค้าที่ถูกส่งมาให้ไม่ได้ทำให้จองโฮซอกรู้สึกปลาบปลื้มแต่อย่างใด  กลับกันคนตัวบางกลับมีแต่ความเกลียดชังที่พวยพุ่งขึ้นจนแทบจะล้นใจ

    ยอมแพ้เถอะครับ...คุณเหลือตัวคนเดียวแล้วนะโฮซอกของผมเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พร้อมกับปลายรองเท้าหนังราคาแพงที่เคลื่อนมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวบางกว่า  แต่กระนั้นก็ยังคงรักษาระยะห่าง...

     

    ...ต่อให้สะบักสบอมแค่ไหน  แต่อย่างไรเสียความจริงที่ว่าจองโฮซอกขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งค์ด้วยความสามารถของตนเองนั้นก็ยังคงอยู่...

     

    ...บุคคลอันตรายที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องระวังตัว...

     

    แก...เสียงหวานเอ่ยรอดไรฟันออกมาด้วยความคับแค้น  ทั้งแค้นเคืองที่ตนดันเสียท่าให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมตรงหน้า  ทั้งหงุดหงิดกับใบหน้าเปื้อนยิ้มของอีกฝ่าย

    ...ลืมกฎของมาเฟียไปแล้วเหรอครับ?  ถ้าจะฆ่า...ต้องเอาให้ตาย ให้ร่างแหลกเป็นผุยผง...ไม่อย่างนั้นผมก็จะปีนขอบนรกกลับมาทวงคืนสิ่งที่ผมเสียไปแน่นอน....รอยยิ้มนั้นหายไปแล้ว  เหลือเพียงแค่ใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ของจอนจองกุก ทว่าดวงตาสีรัตติกาลทรงเสน่ห์คู่นั้นกลับสั่นไหวด้วยเพลิงโทสะและความแค้นที่แทบล้นทะลักยามนึกถึงสิ่งที่ตนเคยถูกช่วงชิงเอาไป...

     

    หึ...แกพลาดเองไม่ใช่เหรอที่เปิดเผย สิ่งที่สำคัญที่สุด ออกมาให้ฉันรู้น่ะ...ลำบากหน่อยนะ...ต้องคอยดูแลคนพิการอย่าง หมอนั่น น่ะ....อึก!”วาจาถากถางแสนระคายหูถูกกลืนหายลงไปในลำคอตามด้ามปืนที่ถูกฟาดลงมายังใบหน้าอย่างรวดเร็ว  ด้วยเพราะความเหนื่อยล้าจากการปะทะกันก่อนหน้านี้และไหล่ขวาที่บาดเจ็บทำให้คนตัวบางไม่อาจปัดป้องการจู่โจมนั้นได้ทันท่วงทีนัก

    รสขมปร่าของหยาดโลหิตแผ่ซ่านไปทั่วทั้งโพรงปาก  ใบหน้าสวยที่หันไปตามแรงไม่ได้หันกลับมา  มีเพียงสายตาเอาเรื่องของจองโฮซอกเท่านั้นที่เหลือยกลับมามอง

    ...ปาร์คจีมินน่ะไปสบายแล้วครับ...เขาไม่ต้องทรมาณอีกต่อไปแล้ว...ชั่วขณะหนึ่งที่นัยน์ตาสีนิลคู่นั้นสั่นไหว  แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็กลับมาแข็งกร้าวดังเดิมยามที่เจ้าของมันจ้องมองชายหนุ่มร่างบางตรงหน้าที่กำลังกรีดยิ้มเยาะออกมาอย่างไม่ห่วงสภาพตัวเองเลยสักนิด

    ...เพราะคนที่ต้องทรมาณต่อจากนี้ไปมันก็คือคุณจองโฮซอก!”สิ้นเสียงตะโกนอย่างกราดเกรี้ยวของจอนจองกุก  ความเจ็บแปล๊บก็แล่นเข้ามาที่ท้ายทอยของเขา  ร่างบางของจองโฮซอกที่ใกล้หมดแรงซวนเซเล็กน้อยก่อนจะทรุดลงบนพื้นเพราะความมึนงงที่วาบขึ้นมาเสียจนทรงตัวเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป

     

    ...เคยได้ยินมั๊ยครับโฮซอกว่าโลกนี้มีกฎการแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียมอยู่....ในเมื่อคุณทำลาย  สิ่งที่สำคัญที่สุด ของผมไป...ผมก็จะทำลาย สิ่งที่สำคัญที่สุด ของคุณเช่นเดียวกัน....

     

     

    Pay Back

     

    จองโฮซอกถูกปลุกให้ออกมาจากห้วงนิทรารมย์ด้วยฝีมือของใครบางคนที่แทบไม่ต้องเดาด้วยซ้ำ  เสื้อเชิ้ตสีขาวสภาพยับเยินไม่ต่างจากตัวผู้สวมใส่เท่าใดนักเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำที่เกาะพราวไปทั่วทั้งร่าง

    ฟันคมกระทบกันกึกกักเพราะความหนาวเย็นของน้ำเย็นที่ถูกสาดลงมาใส่ร่างของตนอย่างแรงเสียจนจุกไปทั้งร่าง

    ดวงตาคู่สวยตะวัดมองผู้กระทำอย่างเอาเรื่อง  ก่อนจะถูกชายในชุดดำสองคนปรี่เข้ามาหิ้วปีกให้ร่างของเขาลุกขึ้นนั่งได้  จองโฮซอกสะบัดศีรษะสองสามครั้งเพื่อไล่ความง่วงงุนและอ่อนล้าออกจากร่างกายตนก่อนจะเงยหน้าจ้องมองรอยยิ้มชวนหงุดหงิดของจอนจองกุกด้วยแววตาไม่ยอมแพ้

    เลิกขี้เซาได้แล้วครับโฮซอกน้ำเสียงนั้นยังคงเต็มไปด้วยความขี้เล่นเฉกเช่นเดียวกับรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาอ่อนเยาว์นั่น

    นัยน์ตาสีรัตติกาลต้องมองร่างสะบักสบอมตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ  ไล่สายตาตั้งแต่ใบหน้าสวยที่บวมช้ำด้วยฝีมือตนไปจนถึงผิวกายขาวเต็มไปด้วยรอยแผลที่โผล่พ้นอาภรณ์ของอีกคนออกมานั่นยิ่งทำให้รอยยิ้มของชายหนุ่มยิ่งเปิดกว้างมากขึ้นไปอีก

    แต่ที่น่าหงุดหงิดก็เห็นทีคงจะหนีไม่พ้นสายตาวาววับเอาเรื่องของคนตรงหน้านี่เป็นแน่  จองโฮซอกมาเฟียหนุ่มบอสของแก๊งค์ชื่อดังที่ปัจจุบันถูกเขาเหยียบย่ำเสียจนย่อยยับไม่ได้มีท่าทีของผู้พ่ายแพ้เลยแม้แต่น้อย...กลับกัน  ดวงตาสวยที่เขาหลงใหลคู่นั้นมันกลับลุกโชนดั่งราชสีห์ผู้ที่ยืนอยู่เหนือสัตว์ป่าทั้งปวง

    ...ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้

    ...และยังคงเชื่อมั่นว่าคนเหนือกว่า

     

    นั่นมันทำให้เขาหงุดหงิด...

     

    ผลัวะ!

    ใบหน้าสวยของจองโฮซอกสะบัดไปตามแรงหมัดของชายหนุ่มตรงหน้าเขาอย่างแรง  รสฝาดเฝื่อนของหยาดโลหิตบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าแผลที่สมานปิดแล้วกำลังปริแตกอีกครั้ง

    “ไปเอาของมา”จอนจองกุกเอ่ยสั่งลูกน้องของตนเสียงเรียบด้วยใบหน้าเครียดขึงที่น้อยคนนักจะได้พบเห็น  ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มรับคำผู้เป็นนายก่อนจะกุลีกุจอออกจากห้องขังไปอย่างรวดเร็ว  สัญชาติญาณของเขาร้องเตือนว่านายน้อยของตนกำลังอารมณ์เสียอย่างถึงที่สุด  หากไม่รีบเร่งเอาสิ่งที่เจ้านายต้องการมาให้ล่ะก็  คงเป็นเขานี่แหละที่จะจบชีวิตลงตรงนี้

    “ระหว่างรอของขวัญ...ผมว่าเรามานั่งคุยกันสบายๆดีกว่านะครับโฮซอก”น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นหวานจ๋อยเสียจนหัวใจคนฟังนั้นสั่นไหว  แต่เพียงครู่เดียวจองโฮซอกก็สามารถฝังความรู้สึกนั่นลงไปยังส่วนลึกของจิตใจได้สำเร็จ

    “ไม่ได้เจอกันตั้งสี่ปีสินะครับโฮซอก...ผมขอโทษจริงๆนะครับที่เราเจอกันอีกครั้งแต่ผมต้องให้คุณมาอยู่ที่ห้องเหม็นอับแบบนี้”มือใหญ่เอื้อมไปสัมผัสเบาๆที่พวงแก้มขาวของคนตรงหน้า  บรรจงใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยไล้เบาๆที่รอยช้ำเขียวคล้ำหน้ากลัวที่โหนกแก้มขาวราวกับหวังให้มันช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้กับอีกคน

     

    ...และจองโฮซอกคงจะเผลอไผลไปกับสัมผัสอ่อนโยนนั่นหากว่าผู้ที่ทิ้งมันเอาไว้บนใบหน้าของเขาจะไม่ใช่ตัวมันเองน่ะนะ!

     

    “แต่จะว่าไปแล้ว...คุณที่อยู่ในสภาพลูกแมวบาดเจ็บไร้ทางสู้แบบนี้ก็น่าหลงใหลไปอีกแบบนะครับ...”นิ้วหัวแม่มือที่เลื่อนลงมาสัมผัสกับริมฝีปากเบาๆก่อนจะออกแรงเคล้นคลึงกลีบปากบางที่ปริแตกจากแรงหมัดก่อนหน้านี้อย่างแรงโดยไม่สนใจสักนิดว่าผู้โดนกระทำจะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่

     

    งั่ม!

    ฟันคมขบกัดลงบนเรียวนิ้วของจอนจองกุกอย่างแรงตามแรงอารมณ์ของผู้กระทำ  จองโฮซอกอาศัยช่วงที่จองกุกเผลอกัดนิ้วของอีกฝ่ายอย่างแรง  แต่คนอายุน้อยกว่าก็ไหวตัวทัน  เขารีบชักมือออกทันทีแต่มันก็ยังช้ากว่าปลายฟันที่ขบลงมาอย่างแรงอยู่ดี

    “คุณนี่มันพยศจริงๆ”จองกุกสะบัดมือไล่ความเจ็บปวดจากแผลถลอกที่นิ้วยาวของตนพลางถลึงตาจ้องมองม้าพยศตรงหน้าด้วยแววตาเอาเรื่อง  ซึ่งจองโฮซอกก็ตวัดสายตากร้าวใส่อีกคนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน

    “แกมันโรคจิต...”เสียงหวานที่แหบแห้งเอ่ยขึ้นเบาๆก่อนคนตัวบางจะยกยิ้มเย้ยหยันที่เรียกให้ความหงุดหงิดของจอนจองกุกพุ่งสูงขึ้นจนแทบทะลุปรอท

    “อั่ก!”ลำคอขาวถูกฝ่ามือหนากำแน่นเสียจนลมหายใจสะดุด  ใบหน้าหล่อเหลาของจอนจองกุกไม่ได้ประดับไปด้วยรอยยิ้มอีกแล้ว  มีเพียงใบหน้าเครียดขึงกับดวงตาแข็งกร้าวเท่านั้น

    จองโฮซอกจ้องมองใบหน้าหล่อเหลานั่นอย่างไม่ยอมแพ้  ถึงแม้ว่าดวงตาของตนจะเริ่มพร่ามัวเพราะม่านน้ำตาแล้วก็ตาม  โฮซอกตอบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหยาดน้ำใสที่รื้นขึ้นมาที่หน่วยตาทั้งสองข้างนี่เป็นเพราะเขาขาดอากาศหายใจหรือเป็นเพราะคนที่ทำให้เขาขาดอากาสหายใจกันแน่...

    ชั่วขณะที่ความทรมาณทำให้สติสัมปชัญญะลดน้อยลง หน้ากากความชิงชังที่จองโฮซอกหยิบขึ้นมาใส่ก็ถูกปลดออกอย่างง่ายดาย  แววตาเอาเรื่องก้าวร้าวที่เคยส่งให้อีกคนก่อนหน้านี้บัดนี้กำลังสั่นไหวราวกับแก้วใสที่เริ่มแตกร้าว...

    ...ไม่ใช่เริ่ม...

    ...หัวใจของจองโฮซอกมันแตกร้าวมาตั้งนานแล้วต่างหาก...

     

    ภาพด้านหน้าเริ่มพร่าเบลอเมื่อลมหายใจถูกลิดรอนจนต้องดิ้นพล่าน  ริมฝีปากอิ่มเผยออ้าออกเพื่อกอบโกยเอาอากาศหายใจเข้าไปแต่มันก็เป็นไปได้ยากเสียเหลือเกินเมื่อมีมือหนาที่กำลังบีบปิดทางเดินของลมหายใจอยู่แบบนี้

    ดวงตาคู่สวยปรือปรอยใกล้หมดสติเสียเต็มทน  แต่ท่ามกลางสติสุดท้ายและสมองที่เริ่มขาวโพลนดวงตาคู่นี้ก็ยังคงจับจ้องไปที่คนคนเดียว...

     

    ...จอนจองกุก...

     

    ...เรื่องมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อใดกัน?

    ...ความเจ็บปวดนี่มันเริ่มตั้งแต่เมื่อใด?

    แล้วเพราะอะไรกันนะ?

    ...เพราะอะไรคนที่เคยรักกันสุดใจจึงได้แปรเปลี่ยนเป็นศัตรูคู่แค้นเช่นวันนี้...

     

    เพราะจอนจองกุกหรือ?

    เพราะปาร์คจีมินหรือ?

     

    หรือเป็นเพราะตัวเขาเอง.....?

     

     

     

    จองโฮซอกเติบโตมาในตระกูลมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ในฐานะทายาทผู้สืบทอดเพียงคนเดียว  ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยมีสักครั้งที่ใครจะกล้าขัดใจเขา  เช่นกัน...ไม่มีสักครั้งที่เขาไม่ได้ดั่งใจ

    ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นทายาทคนสำคัญ  แต่เป็นเพราะความสามารถที่เพียบพร้อมไปเสียทุกด้าน...จึงไม่อาจมีใครกล้าขัดใจนายน้อยคนนี้

    จะมีก็เพียงคนเดียว...คนที่ว่านั่นคือเด็กหนุ่มคนหนึ่ง  ผู้ที่เป็นเพียงลูกของที่ปรึกษาจากแก๊งค์เล็กๆแก๊งค์หนึ่ง  จอนจองกุก...

     

    เด็กหนุ่มผู้มีรอยยิ้มสดใสและแววตาแสนซื่อตรง...

     

    ...มันช่างใสซื่อบริสุทธิ์เสียจนจองโฮซอกตกหลุมรัก

     

    มาเฟียหนุ่มทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองใจของเด็กหนุ่มคนนั้น  จอนจองกุกตอบตกลงรับคำที่จะเข้ามาเป็นมือขวาของว่าที่บอสอย่างโฮซอกในที่สุด

    ความสนิทชิดเชื้อของจองโฮซอกและจอนจองกุกแม้แต่คนภายนอกยังดูออกว่าสถานะของคนทั้งคู่คืออะไร

     

    สำหรับจองโฮซอกจอนจองกุกไม่ใช่เพียงแค่มือขวาที่รู้ใจแต่เป็น คนรัก ของเขาด้วย  และสำหรับจอนจองกุก  จองโฮซอกก็ไม่ใช่เพียงเจ้านายคนสำคัญ แต่เป็น เจ้าของหัวใจ ด้วยเช่นกัน

    ความรักของคนทั้งคู่สวยงามเสียจนน่าอิจฉา  จองโฮซอกหลงรักในความใสซื่อบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่มเจ้าของชื่อจอนจองกุกเสียจนหมดใจ  และจองกุกเองก็หลงรักความสง่างามและเด็ดเดี่ยวของบอสคนนี้จนหมดใจเช่นกัน

     

    ...หากเพียงแต่โลกที่พวกเขาอยู่  ความรักอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ...

     

    จองโฮซอกได้ตระหนักถึงอุปสรรคครั้งใหญ่ของตนได้ในวันนั้น  วันที่ปาร์คจีมินก้าวเข้ามาในชีวิตของพวกเขา...

    จองโฮซอกชายหนุ่มร่างบางผู้ถูกเลี้ยงดูมาด้วยการตามใจและเอาใจอย่างถึงที่สุด  ผู้คนรอบกายต่างให้ความสำคัญกับเขามากกว่าสิ่งใด  แม้แต่ชีวิตของคนเหล่านั้นเอง...

     

    ...หากเพียงว่าจองโฮซอกจะเป็นคนที่สำคัญที่สุด....

     

    ...หากว่าไม่ได้มี ใครคนนั้น สำคัญกับจองกุกมากกว่าเขา...

     

    “จองกุก! นายจะไปไหน!”เสียงหวานตะหวาดดังลั่นเรียกให้เจ้าของชื่อที่กำลังจะก้าวเท้าออกจากห้องทำงานไปต้องหันกลับมามองอย่างเร่งร้อน

    “ผมจะไปช่วยจีมินครับ!”น้ำเสียงร้อนรนของคนรักเรียกให้ดวงตาหวานสั่นระริก

    “หมอนั่นมันทำตัวเองนะ! เพราะความใจร้อนของตัวเองปาร์คจีมินมันถึงโดนจับไปแบบนั้น! ในฐานะมือซ้ายของฉันมันถือเป็นความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย!”คนตัวบางกว่าเอ่ยแย้งเสียงดัง  ขาเรียวภายใต้กางเกงสแลคเนื้อดีก้าวเข้าไปหาร่างของชายหนุ่มอีกคนที่หยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของตน

    “ผมรู้ครับโฮซอก! แต่ยังไงผมก็จะไปช่วยเขา”นัยน์ตาทรงเสน่ห์ของจอนจองกุกผู้เป็นมือขวาฉายแววแน่วแน่อย่างต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าอย่างไรการตัดสินใจของเขาก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

    “จองกุก...”มือเรียวของมาเฟียหนุ่มเอื้อมออกไปคว้าแขนเสื้อของอีกคนอย่างเชื่องช้า  ดวงตาคู่สวยที่ฉายแววความเด็ดเดี่ยวเสมอบัดนี้กำลังสั่นไหว  ใบหน้าสวยของจองโฮซอกฉายแววความเจ็บปวดออกมาอย่างชัดเจนเสียจนจองกุกต้องเบือนหน้าหนีด้วยไม่อาจทนมองหยาดน้ำตาของคนรักที่กำลังเอ่อคลออยู่ที่หน่วยตาคู่นั้นได้

    “ผมจะรีบกลับมาครับ”คนอายุน้อยกว่าคว้าร่างบางของผู้เป็นหัวหน้าเข้ามาสู่อ้อมกอดอย่างง่ายดาย  จอนจองกุกจัดการดันท้ายทอยของคนตัวบางกว่าให้ใบหน้าสวยเปื้อนน้ำตานั่นซบลงกับแผ่นอกของตน

    “สำคัญมากเหรอ...เพื่อนสมัยเด็กคนนั้นน่ะ...”น้ำเสียงหวานที่เอ่ยนั้นสั่นไหวปะปนไปกับเสียงสะอื้นเสียจนน่าสงสาร  รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองกำลังจะทำตัวงี่เง่า...แต่จองโฮซอกเพียงต้องการเป็นคนที่สำคัญที่สุดในหัวใจของจองกุกเท่านั้น

    “ครับ...”และคำตอบที่ออกมาก็เรียกให้ฝ่ามือขาวทั้งสองข้างที่โอบรอบแผ่นหลังของอีกคนออกแรงขยุ้มเสื้อเชิ้ตเนื้อดีตัวนั้นเสียจนยับยู่ยี่ราวกับกลัวว่าคนตรงหน้านี้จะหันหลังจากตนไป

    ...ใช่แล้ว...จอนจองกุกกับปาร์คจีมินเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน

    ...จองโฮซอกเป็นเพียงแค่คนที่มาที่หลังเท่านั้น  แต่กระนั้นเขาก็เป็น คนรัก ของจองกุกมิใช่หรือ?

    ...มันถูกแล้วหรือที่จะมีใครอีกคนที่จองกุกให้ความสำคัญขนาดนั้น...

     

    “สำคัญ...แค่ไหน?”คำถามที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากอิ่มที่ถูกฟันคมของเจ้าของขบเม้มจนบวมช้ำนั้นเบาหวิวราวกับสายลม  แต่มันกลับก้องสะเทือนไปทั่วทั้งใจของคนฟัง  จอนจองกุกกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเมื่อรู้ว่าเผลอทำให้คนรักของตนต้องเสียใจเสียแล้ว

     

    ...เพียงแต่...

     

    “มากกว่า...ชีวิต...”

     

    “แล้วเขากับฉัน...ใครสำคัญมากกว่ากัน?”ทั้งที่ในใจหวาดกลัวกับคำตอบนั้น  แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดปากเจ้ากรรมจึงเอ่ยถามออกไป  จองโฮซอกสัมผัสได้ถึงร่างกายของชายหนุ่มที่โอบกอดตนอยู่นั้นเกร็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    “...”ความเงียบที่ปกคลุมอยู่นานเรียกให้หัวใจของจองโฮซอกคล้ายค่อยๆถูกบีบจนเริ่มปริร้าว

     

    ...ลังเล...

    ...แค่ความลังเลนี่ก็เป็นคำตอบได้อย่างชัดเจนแล้ว...

     

    ...เขา...ไม่ใช่คำตอบ

     

     

     

    “ขอโทษครับ....”

     

     

     

     

    ...จองโฮซอกเป็นมาเฟีย...และเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่มีความอิจฉา ริษยา  หรือแม้แต่ความโกรธแค้น...

    ...จองโฮซอกไม่ใช่คนดี...แน่นอน  ตั้งแต่ที่พร้อมใจจะรับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งค์  เขาก็ไม่ใช่คนดีอีกต่อไปแล้ว...

    ...แต่เขาก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนทำลงไปนั้นเป็นความผิด...

    ...ในเมื่อเขาเชื่อว่าตนต้องได้ทุกสิ่งที่ต้องการ  และครั้งนี้ก็เช่นกัน...

    ...จองโฮซอกต้องการเป็นคนที่สำคัญที่สุดในหัวใจของจอนจองกุก...

     

    ...แต่ในเมื่อไม่ได้...เขาก็ไม่ลังเลที่จะกำจัด  เสี้ยนหนาม ให้สิ้นซาก...

     

    กระบอกปืนสีดำสนิทจ่อตรงไปที่เบื้องหน้าของตน  แววตาสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวระคนกับความเจ็บปวดฉากชัดในดวงตาเรียวรีคู่นั้น  ใบหน้าน่ารักของ อดีต มือซ้ายของตนกำลังบิดเบี้ยวด้วยความผิดหวัง

    “คุณ...ทำแบบนี้ทำไมครับ”น้ำเสียงนั้นที่เอ่ยถามออกมาด้วยความพรั่นพรึงเรียกให้เรียวปากสวยต้องยกยิ้มเอ็นดูขึ้นอย่างที่เคยมอบให้คนตรงหน้าเสมอมา

     

    ...เอ็นดูกับความใสซื่อ...

    เอ็นดูกับความโง่เขลา...

     

    “อยากรู้จริงๆหรือปาร์คจีมิน”น้ำเสียงราบเรียบช่างขัดกับรอยยิ้มเอ็นดูที่ได้รับเสมอจากคนเป็นบอสเรียกให้หนาวสะท้านไปทั้งกาย  ยิ่งยามที่มองสบเข้าไปในดวงตาคู่สวยของจองโฮซอก  ปาร์คจีมินก็มั่นใจ...มั่นใจว่าคนตรงหน้าจะไม่มีคำว่าปราณีมอบให้กับตนแน่นอน

    “จองกุกต้องเสียใจแน่ถ้าคุณทำแบบนี้...”

     

    ...เสียใจที่คนที่รักสุดใจกำลังเดินบนทางเดินที่ผิดพลาด...

     

    “นายไม่ได้ผิดอะไรหรอกนะปาร์คจีมิน...”

     

    กระบอกปืนถูกขึ้นนกเตรียมพร้อมสำหรับการลั่นไกทุกเมื่อ  ดวงตาคู่สวยจับจ้องมองร่างเล็กของคนตรงหน้านิ่ง  ปาร์คจีมินไม่มีท่าทีว่าคิดจะหลบหนีเลยแม้แต่น้อย  เปลือกตาบางคู่นั้นปิดลงช้าๆคล้ายการยอมจำนน

     

    ...สำหรับปาร์คจีมินที่สาบานว่าจะมอบชีวิตให้กับบอสอย่างโฮซอกแล้ว  การที่ถูกผู้เป็นบอสชี้ปลายกระบอกปืนมายังตนเช่นนี้ไม่ต่างกับคำสั่งให้จบชีวิต...

    ...ซึ่งเขายอมรับคำสั่งนั้น...ถึงแม้รู้อยู่แก่ใจว่าตนนั้นไร้ซึ่งความผิดใดๆ...

     

    ...แต่ก็รู้อยู่แก่ใจเช่นกัน...รู้ถึงเหตุผลที่จองโฮซอกตัดสินใจทำอย่างนี้...

     

    “ไม่ต้องยกโทษให้ฉันหรอก...ลาก่อนปาร์คจีมิน...”สิ้นคำปลายนิ้วเรียวของบอสหนุ่มก็ออกแรงเหนี่ยวไกปืนทันที  เสียงของดินปืนที่ระเบิดส่งกระสุนออกจากรังปืนดังลั่นไปทั่วในความคิด  แต่กระนั้นมันก็ยังไม่ดังเท่ากับเสียงตะโกนของใครบางคน

     

    ...เสียงที่เป็นดั่งระฆังสัญญาณที่ดังบอกว่าเวลาของความรักได้หมดลงแล้ว...

     

    ...ตลอดกาล...

     

     

    “จีมิน!!!!!

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

    “จอง...กุก...”น้ำเสียงหวานที่เอ่ยออกมาแผ่วเบาราวกับละเมอนั่นเรียกให้แรงที่บีบแน่นที่ลำคอขาวคลายออกอย่างรวดเร็ว  ชั่วขณะในเปลวเพลิงแห่งความเคียดแค้นจอนจองกุกมองเห็นภาพของจองโฮซอกคนเก่า  จองโฮซอกคนนั้นคนที่ตนหลงรัก...

     

    ...คนที่เป็นมาเฟียแต่กลับใจดียิ่งกว่าใคร...

    ...คนที่เอาแต่ใจและแสนดื้อดึงแต่กลับออดอ้อนได้น่ารักเสียจนไม่อาจขัดใจได้...

    ...จองโฮซอก...คนที่ไม่ได้ลั่นไกออกไปทำร้ายปาร์คจีมิน...

     

    “แค่กๆ! แค่ก!”คนตัวบางที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระตะกุยตะกายสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดอย่างเร่งร้อน  ร่างบางทิ้งกายนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นหินเย็นเยียบ  หยาดน้ำตามากมายไหลพรั่งพรูออกมาจนดวงตาพร่าเบลอ  แต่กระนั้นดวงตาที่เคยมองเห็นเพียงสีขาวโพลนก็กลับมามองเห็นได้อย่างที่เคยแล้ว

    จองกุกจ้องมองร่างบางของคนที่นอนหมดสภาพอยู่ตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

     

    เขาเคียดแค้นจองโฮซอก...แค้นที่ถูกพรากสิ่งที่สำคัญไป...

    ...แต่ในขณะเดียวกันก็รักคนตรงหน้านี้สุดใจ...

    ...แต่เพราะว่ารักสุดใจ  จึงอยากจะฆ่าให้ตายด้วยมือของตน...

    ...ฆ่าให้ตายเพื่อให้จองโฮซอก ที่เขารัก อยู่กับเขา...อยู่ในความทรงจำตลอดไป...

    ...เพียงแต่เขายังต้องทวงสิ่งที่เสียไปกลับคืนมาเสียก่อน...

     

    ...จองโฮซอกทำลายสิ่งสำคัญของเขาไป  จอนจองกุกก็จะทำลายสิ่งสำคัญของอีกคนเช่นกัน...

     

    จองกุกสั่งให้ลูกน้องร่างสูงคนเดิมยึดร่างบางที่อ่อนแรงของจองโฮซอกขึ้นนั่งเช่นเดิม  ถึงจะยังคงหอบหายใจเหนื่อยอ่อนแต่สตินึกคิดของจองโฮซอกก็เริ่มกลับมาแล้ว

    คนตัวบางจ้องมองใบหน้าของอีกคนด้วยแววตารวดร้าวอย่างไม่คิดจะปิดบัง  ความร้าวรานที่ระคนไปด้วยเพลิงแค้นที่สุมอก...เช่นเดียวกับจอนจองกุก  ทั้งสองต่างรู้ดี...

    ...เพราะรักมาก...จึงเกลียดมาก...

     

    “...คุณเคยบอกผม...บอกว่าผมพลาดเองที่ให้คุณรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไร...”น้ำเสียงทุ้มนั่นยังคงเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เสียจนยากจะต้านทาน  แต่มันก็ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

    “ผมพลาดที่มีสิ่งสำคัญ...”ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบแก้มขาวของคนตรงหน้าแผ่วเบาอีกครั้งด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก  จองโฮซอกจ้องมองใบหน้าของชายผู้เป็นที่รักนิ่งราวกับจะเก็บเอาไว้ในความทรงจำ  สลักลึกลงไปให้ตราตรึงในจิตใจ

    ...ให้จดจำจอนจองกุกที่รักเขา...จำ...

    ...ต่อให้จากนี้ไปต้องเจอกับอะไรก็ตาม...

     

    “แต่คุณเองก็พลาดไม่ต่างกัน...รู้มั๊ยครับคนดี”สัมผัสนั้นยังคงอ่อนโยนจนหัวใจที่เคยเหี่ยวเฉาพองโตขึ้นอีกครั้ง  เปลือกตาบางของโฮซอกค่อยๆปิดลงช้าๆเอียงใบหน้าอิงซบกับสัมผัสนั้นอย่างเผลอไผล

     

    “ในโลกนี้มีกฎอยู่ว่าทุกอย่างต้องแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม  ได้รับอะไรมาก็จงจ่ายคืนด้วยสิ่งที่เท่าเทียม...เช่นเดียวกัน  หากถูกช่วงชิงอะไรไป......ก็จงแย่งชิงสิ่งที่เท่าเทียมกันกลับคืนมา...

     

    “คุณเป็นคนสอนผมเอง...จำได้มั๊ยครับ?”คำถามนั้นไม่ได้รับคำตอบจากคนตัวบางกว่า  แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้จองกุกหงุดหงิดแต่อย่างใด  เพราะเขารู้อยู่แล้ว...รู้ดีแล้วว่าจองโฮซอกยึดถือคำสอนข้อนี้ยิ่งกว่าใครๆ

     

    ...ถึงแม้สภาพของคนตัวบางตอนนี้จะไม่ใช่มาเฟียผู้องอาจและหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีอีกแล้วก็ตาม...

     

    “สิ่งสำคัญของคุณคือศักดิ์ศรี...อย่างแรกในฐานะบอสของแก๊งค์มาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุด....”มือหนาเปลี่ยนเป้าหมายจากแก้มขาวไปเป็นเรือนผมสีดำสนิทของอีกคน  ลูกไล้เส้นผมอย่างเบามือ  เก็บเกี่ยวเอาสัมผัสที่คุ้นชินนี้ให้ตราตรึงเข้าไปในหัวใจ

     

    ...จอนจองกุกยังจำได้ว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้างตลอดสี่ปีนี้เพื่อให้ตนเองได้ทวงคืนสิ่งที่เสียไป...

     

    สำหรับคนที่ถูกเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นเจ้านาย  เลี้ยงดูมาเพื่อปกครองอย่างจองโฮซอก  ไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปยิ่งกว่า ศักดิ์ศรี อีกแล้ว...

    หลังจากเหตุการณ์นั้นจอนจองกุกได้พาตนเองและปาร์คจีมินออกจากแก๊งค์ของโฮซอกมา  และแน่นอนว่าจองโฮซอกก็ยอมให้เป็นแบบนั้น  จะเรียกว่านับเป็นความผิดพลาดของคนตัวบางก็ได้ที่ปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่กับความเคียดแค้น

     

    ...ในวันนั้น...วันที่เห็นกระสุนปืนเจาะทะลุหน้าอกของปาร์คจีมิน  เขาก็สาบานกับตนเองว่าต้องทำลายสิ่งสำคัญของจองโฮซอกทั้งหมด  เช่นเดียวกับที่คนรักของเขาทำลายสิ่งสำคัญของเขาไป...

    เริ่มจากทำลายศักดิ์ศรีความเป็นหัวหน้าแก๊งของจองโฮซอก...ทำลายแก๊งค์ที่เป็นเหมือนที่พักพิงเพียงสิ่งเดียวของโฮซอกให้ย่อยยับ

    สี่ปีที่ผ่านมาจอนจองกุกรวบรวมคนและก่อตั้งแก๊งค์ใหม่ขึ้นมา  เขาทำทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นวิธีที่สกปรกแค่ไหน...ทุกวิถีทางเพื่อให้ตนได้ผงาดขึ้นมาอยู่ในจุดที่ทัดเทียมกับจองโฮซอก...

    ...ทัดเทียมกันเพื่อเตรียมพร้อมที่จะขยี้อีกฝ่ายให้กลายเป็นผุยผง...

     

    ...และเขาก็ทำสำเร็จ...

     

    ...ไม่มีอีกแล้วจองโฮวอกผู้ที่เป็นดั่งราชสีห์ผู้องอาจในวงการมาเฟีย...

     

    ...บัดนี้มีเพียงชายหนุ่มเจ้าของชื่อจองโฮซอกเท่านั้น...

     

     

    “อีกอย่างก็คือศักดิ์ศรี...ศักดิ์ศรีของจองโฮซอก  ศักดิ์ศรีของผู้ชายคนหนึ่ง....”มือหนาที่เคยลูบไล้เส้นผมนิ่มอย่างอ่อนโยนเปลี่ยนมาเป็นกระชากดึงให้ใบหน้าสวยเงยขึ้นจ้องมองตน

    ของขวัญของคุณมาแล้วครับโฮซอก...”เอ่ยออกมาทั้งรอยยิ้มก่อนจะปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระ  จองกุกหันไปสั่งให้ลูกน้องยึดร่างบางของโฮซอกเอาไว้ไม่ให้คนตัวบางได้มีโอกาสดิ้นหนีไปไหน

    จองกุกละความสนใจออกจากร่างบางที่ถูกคุมตัวเอาไว้ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับของขวัญที่ตนให้ลูกน้องจัดมาให้

    “...!”ดวงตาคู่สวยของจองโฮซอกเบิกโพลงด้วยความตกใจยามที่เห็น ของขวัญ ที่ว่าของอีกคน  ฟันคมขมเม้มเข้าหากันอย่างแรงเพราะความเครียดที่เข้าเกาะกุมหัวใจ  คนตัวบางเริ่มดิ้นรนหาทางหนี...อย่างน้อยก็ขอให้หลุดพ้นจาก ของขวัญ ที่ว่านี่ก็ยังดี

    “ผมเลือกลายเองเลยนะรู้มั๊ยครับ...มีชื่อของผมแล้วก็เครื่องหมายของแก๊งค์ผมด้วยนะเห็นมั๊ย?”จองโฮซอกเบือนหน้าหนีเมื่อไอร้อนจากโลหะตรงหน้าแผ่เข้ามาให้หัวใจเต้นระรัว  เพียงแค่คิดว่าตนเองกำลังจะโดนทำอะไรสัญชาตญาณก็สิ่งให้เขาดิ้นรนเอาตัวรอด  เพียงแต่มันก็เป็นไปได้ยากเหลือเกินเมื่อสิ่งที่ประสบพบเจอมาก่อนหน้านี้มันช่างหนักหนาเสียจนเรี่ยวแรงเหือดหาย

    “จับเอาไว้ให้แน่น”คำสั่งของผู้เป็นนายเรียกให้แรงดึงรั้งร่างของจองโฮซอกนั้นเพิ่มมากขึ้น  เสื้อเชิ้ตเปียกชื้นของเขาถูกมือหนาของจอนจองกุกฉีกกระชากออกอย่างแรงเสียจนทั้งร่างผวาตามแรง

    “เจ็บแป๊บเดียวเท่านั้นนะครับคนดี...”จองกุกเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคล้ายกำลังปลอบเด็กน้อยที่หวาดกลัว  เพียงแต่สิ่งที่คนตัวบางกำลังจะเจอนั้นมันคงไม่ได้เป็นเพียงแค่ปลายเข็มของคุณหมอเท่านั้น

    “ผมจะให้มันอยู่ตรงนี้...ตรงที่เห็นชัด...ตรงที่ใครต่อใครก็จะได้รู้ว่าคุณเป็นของผม...สมบัติของแก๊งค์ผม....”สิ้นเสียงโลหะเผาไฟจนแดงฉานก็ถูกวางทาบลงไปที่หน้าท้องแบนราบของจองโฮซอกทันที  ความร้อนจากโลหะเผาไหม้ผิวเนื้อเสียจนเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม  กลิ่นเหม็นไหม้ลอยคลุ้งปะปนไปกับเสียงกรีดร้องด้วยความทรมาณอย่างสุดหัวใจจากผู้ที่เคยยืนอยู่บนต่ำแหน่งสูงสุดของวงการมาเฟีย

     

    ...บอสมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่  ที่บัดนี้กลับถูกตรีตราจองว่าเป็นเพียงสมบัติของศัตรู...

     

    ...จอนจองกุกทำสำเร็จแล้ว...ทำลายศักดิ์ศรีในฐานะบอสมาเฟียของจองโฮซอกให้ป่นปี้ได้ไม่มีเหลืออีกต่อไปแล้ว...

     

    “อดทนได้ดีมากครับคนเก่ง”โลหะร้อนนั่นถูกเก็บไปแล้ว  แต่ความเจ็บปวดทรมาณอย่างแสนสาหัสยังคงฝังรากลึกอยู่ภายในจิตใจของจองโฮซอก  เสียงกรีดร้องของตนเองยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท  กายบางสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว  เหมือนความเจ็บปวดจะทำให้การรับรู้อื่นๆของคนตัวบางเลือนหายไปเสียหมด  กระทั่งว่าโซ่โลหะที่เคยพันธนาการตนเอาไว้ถูกปล่อยออกเมื่อใดโฮซอกก็ไม่อาจรับรู้

    อย่าเพิ่งรีบตายล่ะครับ....นี่เป็นแค่การโหมโรงเท่านั้น...คุณยังต้องอยู่กับผมไปอีกนานนะครับคนดี...”สติที่เลือนหายเพราะความเจ็บปวดบัดนี้เริ่มกลับมาอีกครั้ง  จองโฮซอกจึงได้รู้ตัวว่าถูกกระชากเข้าไปในอ้อมกอดของอีกคนเสียแล้ว  แถมชายหนุ่มอีกสี่ห้าคนที่เคยยืนรอรับคำสั่งจากจอนจองกุกก็หายไปหมดแล้ว  ทั้งห้องขังจึงเหลือเพียงแค่เขาและจอนจองกุกเพียงสองคนเท่านั้น

     

    “ผมไม่ยอมให้คุณตายหรอกครับ...คุณยังตายไม่ได้ ความตายมันสบายเกินไปสำหรับคุณ คุณต้องอยู่รอดูความสำเร็จของผมก่อน...ความสำเร็จในการทำลายคุณให้ย่อยยับ!สิ้นเสียงตะโกนกร้าวของจอนจองกุก  ร่างบางก็ถูกคนอายุน้อยกว่าดันให้นอนแผ่ลงบนพื้นหินเย็นเยียบอย่างแรงเสียจนจุกไปทั่วทั้งร่าง

    “หยุด! อย่า!”เสียงหวานที่เคยคิดว่าแหบแห้งไปกับการกรีดร้องเมื่อครู่หมดแล้วกับร้องตะโกนออกมาอย่างร้อนรนเมื่อเสื้อเชิ้ตที่ถูกฉีกออกเมื่อครู่ถูกกระชากออกจากร่างอย่างแรงจนผิวขาวแสบร้อนไปหมด

    “ไม่! ออกไป!”จองโฮซอกกรีดร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเป้าหมายต่อจากเสื้อเชิ้ตของตนคือกางเกงสแลคเนื้อดีที่ตนสวมใส่อยู่

    คนตัวบางออกแรงดิ้นสุดชีวิตหวังให้หลุดพ้นออกจากปีศาจตรงหน้าเสียที  ความเจ็บแปล๊บจากแผ่นหลังไม่ได้ทำให้คนตัวบางล้มเลิกความพยายามแม้สักนิด  แผ่นหลังขาวครูดไปกับพื้นหินเย็นเยียบเสียจนแสบร้อนไปหมด

     

    ...ศักดิ์ศรีสุดท้ายที่ตนเพียรรักษาเอาไว้กำลังจะถูกทำลายลงไปแล้ว...

     

    ...ทำลายด้วยฝีมือของคนที่เคยรักจนหมดหัวใจ...

     

    หยาดน้ำตาพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวย  มันล้นทะลักไหลบ่าออกมาเสียจนตัวเขาเองยังแปลกใจ  ไม่เคยคิดจะเสียน้ำตาให้ใครเพราะภาระหน้าที่ที่ทำให้เขาต้องแข็งแกร่ง

    ...แต่ในเวลานี้จะเหลืออะไรเล่า...ในเมื่อไม่ว่าจะศักดิ์ศรีหรือที่ยึดเหนี่ยวใจเพียงหนึ่งเดียวอย่างแก๊งค์ของเขาก็ถูกทำลายเสียจนย่อยยับไปแล้ว...

     

    ...ถูกตีตราว่าเป็นเพียงสิ่งของยังไม่พอ...

     

    ...ตอนนี้แม้แต่ศักดิ์ศรีของความเป็นจองโฮซอกก็กำลังจะถูกทำลายเสียอีก...

     

     

     

     

    ...ผิดหรือ?

     

    จองโฮซอกผิดมากนักหรือที่ต้องการกำจัดเสี้ยนหนามตำใจ?

     

    ผิดมากนักหรือที่ต้องการเป็นคนสำคัญที่สุดของจอนจองกุก

     

     

     

    ดวงตาคู่สวยเหม่อลอยจ้องมองภาพเบื้องหน้านิ่งงันราวกับร่างไร้วิญญาณ  ฝ่ามือเรียวเอื้อมออกไปด้านหน้าหวังไขว่คว้าอะไรบางอย่างให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ  แต่มือหนาของใครบางคนกลับคว้ามันกลับมากอบกุมเอาไว้เสียก่อน  จุมพิตแผ่วเบาที่เรียวนิ้วนั่นคล้ายกำลังปลอบใจให้ความเจ็บปวดจากคนที่เคลื่อนกายอยู่ด้านบนนั้นทุเลาลง

     

    คนหนึ่งก็ต้องการเพียงแค่เป็นคนสำคัญที่สุดของใครอีกคน...

     

    ...ส่วนอีกคนก็ไม่อาจยกให้ได้แต่เพียงผู้เดียว...

     

    ...จองโฮซอกสำคัญที่สุด...ใช่  แต่ปาร์คจีมินก็ไม่แพ้กัน...

     

    ...จองโฮซอกยังมีตำแหน่ง มีหน้าที่ มีผู้คนคอยสนับสนุน...

     

    ...ในขณะที่ปาร์คจีมินไม่มีใคร...นอกจากจอนจองกุก...

     

     

     

     

    ...ผิดหรือ?

     

    ...ผิดหรือที่จอนจองกุกไม่อาจปล่อยมือจากปาร์คจีมินได้...

     

    ...มันก็คงเป็นเช่นเดียวกับที่เขาไม่อาจหยุดรักจองโฮซอกได้...

     

    ...ต่อให้เคียดแค้นจนสุดใจ...

     

    ...หรือต่อให้ต้องฆ่าให้ตายกับมือนี้ก็ตาม...

     

     

    “ได้โปรดอย่าเพิ่งตายนะครับคนดี...ให้ถึงเวลาที่ผมช่วงชิงทุกสิ่งคืนมาจากคุณเสียก่อน...”

     

    “เมื่อถึงเวลานั้น...ผมจะลั่นไกตัดขั้วหัวใจของคุณเองจองโฮซอก...”

     

     

    Pay Back

     

     

    ในโลกนี้มีกฎอยู่ว่าทุกอย่างต้องแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม  ได้รับอะไรมาก็จงจ่ายคืนด้วยสิ่งที่เท่าเทียม...เช่นเดียวกัน  หากถูกช่วงชิงอะไรไป...

     

    ...ก็จงแย่งชิงสิ่งที่เท่าเทียมกันกลับคืนมา...

     

     



     

     

    END.

     
     

    TALK. เอามาลงแก้ขัดค่า ฟิคเก่าเล่าใหม่ อิอิ  ฟิคนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็ค #songficbts ค่า หลายๆคนคงได้อ่านกันแล้ว  แต่นี่ไปขออนุญาติเขาเอาออกมาไว้ในบทความนี้ด้วยเผื่อใครยังไม่ได้อ่านก็อยากแบ่งปันกันเนอะ  หรือใครอ่านแล้วจะอ่านอีกเราก็ไม่ว่ากันนะ

    สำหรับใครที่สนใจจะอ่านเรื่องของไรเตอร์ท่านอื่นๆนะคะ ตามไปที่บทความซองฟิคเลย นี่ค่ะ >>  #SONGFICBTS อ่านแล้วก็เม้นเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ท่านอื่นๆด้วยน้า อิอิ

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×