คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : (os) Lust | rapmonster x j-hope (แก้ไขสามรอบแล้วค่ะ)
Lust
rapmonster x j-hope
9.1.15
จงอย่าลืมว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับ ความโลภ ตัณหา และ ราคะ
- Lust -
- Lust -
“โฮซอกเมื่อไหร่มึงจะเลิกแต่งหน้าแต่งตาห่าเหวอะไรของมึงสักที”เสียงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงติดจะปลงตกเอ่ยถามขึ้นเรียกให้คนที่ใช้กระจกภายในรถในการเช็คความเรียบร้อยของตนเองต้องหยุดมือแล้วหันไปให้ความสนใจที่มาของเสียง
“เอ้า...แล้วมึงจะให้กูหน้าศพออกจากบ้านรึไงนัมจุน”คนตัวบางเลิกคิ้วถามขำๆอย่างไม่คิดจะติดใจในคำถามของอีกคนก่อนที่มือเรียวจะจัดการกับคิ้วอีกข้างที่เขียนทิ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ต่อไป
“แล้วมึงได้ไปเจอใครวะ ก็อยู่แต่กับกูเนี่ย...กลัวหน้าศพแล้วหาเมียไม่ได้รึไง?”เอ่ยแซวเพื่อนขำๆพลางหักพวงมาลัยในมือเพื่อให้รถเคลื่อนเข้าสู่เขตมหาวิทยาลัยของตน
“อื้อหือ กูจะหาเมียไม่ได้ก็เพราะมึงนี่แหละ...ไอ้ห่าบอกจนปากจะฉีกแล้วว่าอย่าทำรอย ไอ้เหี้ยนี่ก็ล่อซะอย่างกับกูเป็นอีสุกอีไส”คนตัวบางกว่าเบ้หน้าพลางส่งสายตาค้อนไปให้กับชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งฮัมเพลงอยู่ข้างกายด้วยความหมั่นไส้
“แล้ววันนี้มึงนัดกับเมียมึงไว้ที่ไหน”คนตัวบางกว่าเอ่ยถามพลางเก็บร่องรอยจากบทรักร้อนแรงเมื่อเช้าลงถุงขยะเพื่อนำเอาไปทิ้งให้เรียบร้อย
“วันนี้ยุนกิมีควิซตอนเช้าเลยจะรออยู่ที่คณะวิทย์เลย”ชายหนุ่มเจ้าของรถเอ่ยตอบคำถามพลางสอดส่องสายตาหาที่จอดรถหน้าคณะวิทยาศาสตร์เพื่อลงไปรอรับคนที่ได้ชื่อว่าแฟนเหมือนที่ทำเป็นประจำ
“เออดี...ตามไปเฝ้าเมียมึงให้ดีเถอะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้มีหนุ่มวิศวะมาตามจีบ”คนตัวบางกว่าเอ่ยแซวพลางส่งสายตาแพรวพราวระยิบระยับอย่างล้อเลียนไปให้เพื่อนรักที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย คนโดนแซวละมือข้างหนึ่งออกจากพวงมาลัยก่อนจะยกขึ้นตบหัวทุยๆของอีกคนข้อหาพูดไม่เข้าเรื่องไปหนึ่งทีเรียกเสียงด่าขมุบขมิบจากเพื่อนรักตัวบางได้เป็นอย่างดี
“หาเมียให้ได้ก่อนเหอะมึงน่ะ...ก่อนจะมาห่วงเรื่องเมียกู”คิมนัมจุนเอ่ยพลางยักคิ้วล้อเลียนซึ่งสิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือการเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้จากเพื่อนตัวบางเท่านั้น
“ทำมาเป็นเรียกเมีย...แค่จะขอมีอะไรด้วยยังไม่กล้า...ยุนกิมันยากเกินไปหรือมึงอ่อนเองวะนัมจุน”เอ่ยแซวขำๆก่อนจะต้องหุบปากฉับเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากชายหนุ่มร่างสูง
“ใครจะไปง่ายเหมือนมึง...ไม่ทันขอกูก็ได้ละ”
“เดี๋ยวปากแตกหรอกไอ้ห่านี่!”คนตัวบางกว่าเงื้อหมัดขึ้นทำท่าจะเหวี่ยงใส่หน้าเพื่อนรักสักทีด้วยความหมั่นไส้ แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นข้อมือบางของโฮซอกก็ถูกมือหนาของนัมจุนฉวยเอาไว้เสียก่อน
ออกแรงเพียงน้อยนิดร่างบางของโฮซอกก็เซถลาเข้าไปทางที่นั่งคนขับทันที ริมฝีปากอิ่มช่างพูดนั่นถูกทาบทับด้วยเรียวปากหนาของชายหนุ่มร่างสูง นัมจุนจัดการมอบรสจูบร้อนแรงให้กับเพื่อนรักปากดีตรงหน้าอย่างถึงใจก่อนจะผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
ใบหน้าสวยๆของจองโฮซอกขึ้นสีเรื่ออย่างน่ามอง ริมฝีปากอิ่มบวมเจ่อ น่าเอ็นดูจนนัมจุนอยากจะรังแกต่ออีกสักหลายๆยก แต่ดวงตาคู่สวยที่ฉายแววไม่พอใจจิกมองเขาอยู่นั่นก็สั่งให้ชายหนุ่มต้องยอมถอยออกมาในที่สุด
“ไปๆลงๆ ยุนกิรอจนรากงอกแล้วมั้ง”เอ่ยไล่อีกคนลงรถด้วยรอยยิ้มก่อนจะยอมปล่อยข้อมือบางของโฮซอกให้เป็นอิสระ คนตัวบางบ่นออดแอดไปตลอดทางแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรกับการกระทำอุกอาดของคนที่ได้ชื่อว่าเพื่อน...
...ก็แน่นอนล่ะ จะโวยวายสะดีดสะดิ้งไปทำไมในเมื่อมันเป็นสิ่งที่เคยๆกันอยู่...
...จองโฮซอกกับคิมนัมจุนน่ะ เกินเลยกว่าขั้นจูบมาตั้งนานแล้ว...
“นัมจุน โฮซอก! ทางนี้ๆ!”ยังไม่ทันที่จะก้าวเข้าคณะวิทยาศาสตร์ได้เต็มเท้าเสียงที่เอ่ยเรียกชื่อของพวกเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน คิมนัมจุนสอดส่องสายตาหาเจ้าของเสียงแสนคุ้นเคยนั่นก่อนจะเผยรอยยิ้มอบอุ่นให้กับคนตัวเล็กที่ฉีกยิ้มกว้างโบกไม้โบกมือโดดหยองแหยงอยู่ไม่ไกลนัก
โฮซอกลอบเบ้ปากเล็กน้อยยามที่มองตามแผ่นหลังกว้างของคิมนัมจุนไป ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้าไปหาคนที่ได้ชื่อว่าแฟนพลันบรรยากาศรอบกายของคนทั้งสองก็กลายเป็นสีชมพูวิบวับจนหน้าหมั่นไส้แต่โฮซอกก็ชินชากับมันเสียแล้ว
...สมัยที่ความสัมพันธ์ของคิมนัมจุนและมินยุนกิยังไม่ได้พัฒนาขึ้นจากความเป็นเพื่อน มินยุนกิก็เป็นคนที่เขาทั้งสองคนคอยดูแลเอาใจใส่มาโดยตลอดอยู่แล้ว การที่เห็นคิมนัมจุนอ่อนโยนดูแลเอาใจใส่มินยุนกินั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำให้โฮซอกประหลาดใจแต่อย่างใด...ถึงแม้ว่าคนตัวสูงจะปฏิบัติกับเขาต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็เถอะ...
จองโฮซอกปั้นยิ้มกว้างทันทีที่ยุนกินหันมาหาเขา มือขาวของเพื่อนตัวเล็กคว้ามือหนาข้างหนึ่งของนัมจุนผู้ที่ได้ชื่อว่าคนรักมาจับเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็เอื้อมมาคว้าข้อมือบางของโฮซอกไปกอบกุมไว้ก่อนจะออกแรงลากคนทั้งคู่ไปตามทิศที่ตนอยากไป
“วันนี้มีร้านอาหารที่คณะวิศวะเปิดใหม่ น่ากินมาก ไปกินกันเหอะพวกมึง!”มินยุนกิเอ่ยอย่างร่าเริงก่อนจะออกแรงลากเพื่อนตัวสูงกว่าทั้งสองคนให้เดินตามตนไปท่ามกลางสายตาเอ็นดูของคนรอบข้าง
...ภาพของเพื่อนสนิททั้งสามคนที่เต็มไปด้วยความสดใส...
...ใช่แล้ว....
จองโฮซอก คิมนัมจุน และมินยุนกิ ทั้งสามคนเป็นเพื่อนรักกัน....
และคิมนัมจุนกับมินยุนกิก็เป็นคนรักกัน....
- Lust -
ยามค่ำคืนที่เงียบสงัดและอากาศเย็นสบายจะเครื่องปรับอากาศเรียกให้ร่างที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงกว้างครางฮือด้วยความพึงพอใจ คนตัวบางขยับซุกกายเข้ากับผ้านวมผืนหนามากขึ้นเพื่อหามุมที่สบายยิ่งขึ้น
Rrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่ร้องเตือนดังลั่นเรียกให้คนที่กำลังจมลงสู่ห้วงนิทรารมย์ต้องปรือตาขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด มือบางควานสะเปะสะปะไปทั่วเตียงกว้างเพื่อไล่หาที่มาของเสียง ก่อนจะหยิบเจ้าเครื่องมือสื่อสารเครื่องบางขึ้นรับโดยไม่คิดจะดูรายชื่อที่โทรเข้ามาเลยสักนิด
“...อื้อ...โหล...”
(อยู่ปากซอยบ้านมึงแล้วมาเปิดประตูให้หน่อย) เสียงทุ้มที่ตอบกลับมานั้นติดจะหงุดหงิดไม่น้อยแต่เพราะความง่วงงุนเลยทำให้จองโฮซอกไม่ได้ใส่ใจมันเท่าไรนัก เสียงหวานจึงเอ่ยตอบอืออาไปตามเรื่องเท่านั้น
“อือ...”ทันทีที่ได้ยินเสียงตอบรับของเขาปลายสายก็ตัดไปทันที โฮซอกวางหูโทรศัพท์ด้วยความง่วงงุนก่อนจะค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจเพื่อคลายความง่วงที่มีมากมายในตอนนี้
จองโฮซอกใช้เวลาตั้งตัวสักพักก่อนจะเดินออกไปเปิดไฟที่ห้องรับแขกเพื่อรอต้อนรับผู้มาเยือนยามวิกาลที่โทรเข้ามาสั่งเขาฉอดๆเมื่อครู่นี้ คนตัวบางไม่ลืมที่จะเตรียมกาแฟร้อนๆของโปรดของอีกคนไว้รอเหมือนดังเช่นทุกครั้งที่อีกฝ่ายมาหาเขาที่ห้อง
ไม่นานหลังจากนั้นเสียงกดออดระรัวเหมือนรีบหนักหนาก็เรียกความสนใจของเจ้าของห้องไปได้จนหมดโฮซอกอดที่จะก่นด่าเพื่อนรักตัวสูงไม่ได้ว่ามันจะรีบห่าอะไรนักหนา กลัวไม่ได้เข้าห้องหรืออย่างไร? แต่กระนั้นคนตัวบางก็ยังลากร่างง่วงงุนของตัวเองไปเปิดประตูให้กับผู้มาใหม่อยู่ดี
“....จะกดรัวหาพ่อ....”ทันทีที่บานประตูเปิดออกร่างของเจ้าของห้องก็ถูกดันเข้ากับกำแพงอบ่างแรงจนคำด่าที่เตรียมไว้กลืนหายไปกับความจุกจากแรงกระแทกที่ไม่เบานัก
“เป็นเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย!”เอ่ยปากด่าได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องเบิกตากว้าง ไอ้ที่ง่วงๆอยู่นี่ตาสว่างขึ้นมาทันใดเพราะความตกใจที่เข้ามาแทนที่เมื่อริมฝีปากอิ่มถูกครอบครองโดยไม่ทันตั้งตัว
ตามล่าหาลูกม้า
จงอย่าลืมว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับ ความโลภ ตัณหา และ ราคะ
- Lust -
จองโฮซอกแบกร่างใกล้พังเต็มทีของตัวเองมาเรียนอย่างช่วยไม่ได้ ก็วันนี้ที่คณะดันมีควิซน่ะสิ ใจนี่อยากจะโดดแทบขาดรอนๆ...แต่นักเรียนลุ้นเกียรตินิยมแบบเขาจะไม่ยอมให้เสียการเรียนหรอก
ร่างบางหย่อนกายนั่งลงที่เก้าอี้โรงอาหารช้าๆด้วงความยากลำบาก ก็แน่ล่ะ! เมื่อวานโดนไปซะจนหมดสติไม่เจ็บก็บ้าแล้ว!
คนตัวบางถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น แล้วอีกอย่างเขาก็ไม่ได้บริสุทธิ์มากมายอะไร ไม่ใช่ว่าไม่เคย...เพียงแต่ความเจ็บปวดมากมากกว่าก็เท่านั้น
เจ้าของร่างบางน่าทะนุถนอมวันนี้กลับน่าทะนุถนอมมากขึ้นไปอีกเมื่อใบหน้าสวยๆนั้นซีดเซียวเสียจนน่าเป็นห่วง ริมฝีปากสีสดก็แห้งผากแถมยังเป็นแผลอีกต่างหากร้อนถึงคนเป็นห่วงสภาพตัวเองอย่างโฮซอกที่ต้องหาหน้ากากมาปกปิดเป็นการใหญ่
...ความผิดคิมนัมจุนทั้งนั้น...
มองกับข้าวจานโปรดตรงหน้าแล้วก็ไม่ได้มีอารมณ์อยากจะกินเข้าไปเลยสักนิด ในหัวยังคงสงสัยว่าอะไรที่ทำให้คิมนัมจุนผีเข้าแบบเมื่อวาน มีอะไรกันมาก็ไม่น้อย แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่มันจะโหดร้ายป่าเถื่อนห่างไกลจากคำว่าสวรรค์ไปไกลโขแบบเมื่อคืน
“โฮซอก...”เสียงเรียกชื่อพร้อมกับร่างเล็กของใครบางคนที่หย่อนกายนั่งลงตรงข้ามเขาเรียกให้คนที่นั่งเขี่ยข้าวอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นไปให้ความสนใจ
“อ่าว...มาทำไรวะ”เอ่ยถามเพื่อนรักเสียงใสพลางส่งยิ้มบางๆให้ทางสายตาเพราะปากของเขาถูกปกปิดด้วยหน้ากากอนามัยจนมิดเสียแล้ว
“มีเรื่องจะปรึกษามึงหน่อยว่ะ”มินยุนกิเอ่ยขึ้นเสียงเบา แก้มขาวๆของคนน่ารักก็ขึ้นสีน้อยๆด้วยความเขินอาย ไม่ต้องบอกโฮซอกก็รู้ว่าเรื่องที่ว่าน่ะมันเรื่องอะไร คนตัวบางลอบแค่นยิ้มภายใต้หน้ากากอนามัยนั้นอย่างแนบเนียน
...เรื่องที่มินยุนกิไม่กล้าปรึกษาใครนอกจากเขา...
...จะเป็นเรื่องอื่นไปได้อย่างไรนอกจากเรื่องของคิมนัมจุนแฟนหนุ่มของคนตัวเล็ก...
บางทีจองโฮซอกก็คิดนะว่าเสน่ห์ตรงไหนของมินยุนกิที่ทำให้คิมนัมจุนหลงไหลถึงขั้นตกลงปลงใจคบกัน...
...โฮซอกไม่ปฏิเสธว่าคนตรงหน้าน่ารัก...
แต่เพราะน่ารักจริงๆนั่นแหละ เขาเลยยิ่งเกลียด....
ใช่แล้ว....
จองโฮซอกเกลียดมินยุนกิ....และในขณะเดียวกันก็รักเพื่อนคนนี้สุดใจเช่นกัน...
“ทะเลาะกันมาเหรอ?”โฮซอกเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนอย่างเป็นห่วงเป็นใย
....และแน่นอนว่านั่นมันโกหกทั้งเพ...
“ป...เปล่าหรอก แต่...”มินยุนกิอ้ำอึ้ง ยิ่งพอนึกถึงเรื่องที่ต้องการจะมาปรึกษาเพื่อนรักด้วยแล้ว แก้มขาวทั้งสองข้างก็ขึ้นสีเรื่ออย่างน่าเอ็นดู โฮซอกไม่ปฏิเสธว่าในเวลานี้เพื่อนรักหน้าขาวของเขาช่างน่าเอ็นดูนัก...แต่ก็ยังเกลียดอยู่ดี
“คือว่า.....”โฮซอกรู้สึกว่าคิ้วข้างขวาของตนนั้นเริ่มที่จะกระตุกน้อยๆเพราะอาการอ้ำอึ้งของอีกคน อยากจะปีนข้ามโต๊ะไปเขย่าคอเสื้อคนตัวเล็กตรงหน้าแล้วตะโกนว่าพูดออกมาสักทีมันน่ารำคาญ แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะลำพังแค่ขยับตัวตอนนี้เขายังเจ็บร้าวไปทั้งกาย ไล่ตั้งแต่สะโพกมนที่ถูกรังแกอย่างรุนแรงเมื่อคืนเรื่อยไปจนถึงแผ่นหลังขาวและหัวไหล่บางด้วยซ้ำ
“นัมจุน...ขอ...ขอมีอะไรด้วยว่ะ...”คนตัวเล็กเอ่ยออกมาเสียงแผ่วด้วยท่าทางเขินอายอย่างหน้าเอ็นดู
โฮวซอกเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ อ๋อ...สาเหตุที่เมื่อวานผีบ้าเข้าสิงคิมนัมจุนสินะ
...เฮอะ....
“แล้วมึงตอบมันไปว่าไงอ่ะ”จองโฮซอกแกล้งเอ่ยถามออกไปด้วยความอยากรู้ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาก็พอจะเดาออกถึงคำตอบของมินยุนกิหรอก
...คงไม่พ้นปฏิเสธกระมัง...ไม่อย่างนั้นคิมนัมจุนคงไม่ผีบ้าลงหรอก...
“ก็...กูอยากมาปรึกษามึงก่อน...กูเลยยังไม่ได้ตอบอะไรไป....”มินยุนกิเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเป็นกังวลจนคนเป็นเพื่อนอย่างโฮซอกต้องเอื้อมมือไปกุมมือขาวของคนตรงหน้าเอาไว้คล้ายให้กำลังใจ
“มึงก็คบกันมานานแล้วนะเว้ย...เป็นปีแล้วอ่ะมึงก็ยอมๆมันไปเหอะ”โฮซอกแกล้งทำเป็นแซวทีเล่นทีจริง แถมเสียงหัวเราะขบขันให้ลอดออกมาจากหน้ากากอนามัยดัวยซ้ำ
...ถึงแม้ความจริงเขาจะไม่รู้สึกขำเลยสักนิดก็ตาม...
“มึงก็พูดง่ายดิ...มีอะไรกับผู้ชายเลยนะเว้ย แม่งน่ากลัวชิบหาย”
....ก็ง่ายสิมีกับผัวมึงอยู่แทบทุกวันน่ะ....
ประโยคนั้นโฮซอกได้แต่เก็บเอาไว้ในใจพลางยกยิ้มเยาะเล็กน้อยเท่านั้น....มินยุนกิน่ะใสซื่ออย่าบอกใคร...บางทีก็ซื่อเกินไปจนโง่...
“เฮ้ยของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้นะเว้ย...รีบรวบหัวรวบหางไอ้นัมจุนซะเดี๋ยวมันแอบไปมีชู้ละมึงจะรู้สึก”แกล้งหยอกอีกสักนิดเห็นคนตัวเล็กกว่าเบ้หน้าก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแล้วก็อดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้
“นัมจุนมันรักกูจะตาย...ไม่มีชู้หรอก”คำตอบทีเล่นทีจริงของมินยุนกิเรียกเสียงหัวเราะของจองโฮซอกได้เป็นอย่างดี
...ก็ไอ้คนที่รักมึงจะตายน่ะ...เมื่อคืนมันเพิ่งมาเอากับกู...
...โธ่ มินยุนกิคนโง่...
“เออ...แล้วแต่เลย”
แล้วคนทั้งคู่ก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยตามสไตล์เพื่อนสนิท มินยุนกิหัวเราะไปกับมุกของโฮซอกเสียจนหน้าดำหน้าแดง เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังขึ้นกลางโรงอาหารโดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า จองโฮซอกนั้นเสแสร้งแค่ไหน...
- Lust -
คิมนัมจุนและจองโฮซอกก้าวข้ามคำว่าเพื่อนสนิทมาตั้งแต่ม.ปลายปีสอง เหตุเกิดจากความเมามายและคึกคะนองไปตามวัย คิมนัมจุนเสนอ....จองโฮซอกก็สนองให้อย่างถึงใจ
ยอมรับเลยก็ได้ว่าเพื่อผูกมัดผู้ชายที่ชื่อคิมนัมจุนให้เป็นของเขาจองโฮซอกยอมได้ทุกอย่าง ความรักที่มีให้เพื่อนสนิทคนนี้มันมากมายเกินกว่าที่ใครจะหยั่งถึง ในเมื่อคิมนัมจุนไม่คิดจะยกเลิกความสัมพันธ์ทางกายกับเขา...จองโฮซอกก็ไม่เห็นความจำเป็นที่เขาจะต้องถอยห่าง
...ต่อให้คิมนุมจุนมีคนรักเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ตาม...
นัมจุนกับยุนกิตกลงปลงใจคับกันตอนมหาลัยปีสอง แต่นัมจุนก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม....ในหลายๆความหมาย ชายหนุ่มยังคงพึ่งโฮซอกในการระบายความต้องการเหมือนก่อนหน้านี้
อยากจะถามอยู่เหมือนกันว่าไม่เบื่อรึไง? แต่เอาเถอะโฮซอกไม่ได้อยากรู้คำตอบมากนัก รู้แค่ว่ามันทำให้คิมนัมจุนต้องคอยมาป้วนเปี้ยนรอบตัวเขาเท่านั้นก็พอแล้ว...
ถ้าถามว่ารู้ตัวหรือไม่ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันก็การเป็นชู้ดีๆนี่เอง...จองโฮซอกตอบได้เต็มปากว่ารู้ แถมเป็นชู้ยังเป็นชู้ของเพื่อนสนิทอีกต่างหาก...ถามว่ารู้ว่าผิดหรือไม่ โฮซอกก็ตอบได้ด้วยคำตอบเดิมคือรู้....
รู้....แต่ก็ยังทำ รู้สึกผิด...ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น...
จองโฮซอกยอมรับด้านมืดในตัวเองและเห็นด้วยไปกับมัน...เขามาก่อนมินยุนกิ...มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องยอมถอย...
ในเมื่อจองโฮซอกและมินยุนกิก็รักคิมนัมจุนไม่ต่างกัน...
ถามว่าไม่กลัวมินยุนกิเสียใจหรือ? ตอบได้เต็มปากเลยว่ากลัว...ก็เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งหลายปีจะให้ไม่ห่วงเลยคงไม่ใช่
แต่โฮซอกเลือกที่จะไม่แคร์...ธรรมชาติของมนุษย์นั้นเห็นแก่ตัวกันทุกคน และจองโฮซอกก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา...เขาจึงไม่เห็นว่าการที่เขาต้องการจะเหนี่ยวรั้งความรักเอาไว้กับตัวนั้นเป็นเรื่องผิดแต่อย่างใด
จงอย่าลืมว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับ ความโลภ ตัณหา และ ราคะ
โลภ...ต้องการในสิ่งที่ตอนเองไม่มี ต้องการในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน...
ตัณหา...ความต้องการตามสัญชาตญาณดิบของมนุษย์...ราคะ
...จองโฮซอกก็แค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีสิ่งเหล่านี้ก็เท่านั้นเอง...
โฮซอกนั่งดูดน้ำปั่นภายในแก้วอย่างเซ็งๆระหว่างรอคิมนัมจุนขึ้นไปรับมินยุนกิที่หน้าห้องเรียน...
ถามว่าทนได้อย่างไรกับภาพบาดตาบาดใจทุกวันแบบนี้....
....ก็ทนไม่ได้น่ะสิ...
แต่เพราะรู้อย่างไรเล่า ว่ายังไง...คิมนัมจุนก็ขาดจองโฮซอกไม่ได้...
นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ได้ไม่นานก็เห็นคิมนัมจุนเดินยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมลงมาพร้อมกับมือหนาทั้งสองข้างที่โอบประคองร่างเล็กของมินยุนกิที่เดินไม่ถนัดนัก
แล้วจองโฮซอกก็ถึงกับบางอ้อ...
“พวกมึง....”ทันทีที่คนทั้งสองมาถึง ใบหน้าสวยก็แสดงอาการที่เรียกได้ว่าตื่นตะลึงใส่ทันที ริมฝีปากอิ่มสีสวยของโฮซอกอ้าค้างด้วยความประหลาดใจ
“อ...อะไรเล่า”มินยุนกิก็ยังคงเป็นมินยุนกิ แก้มขาวขึ้นสีแดงเรื่อด้วยความเขินอายก่อนจะพยายามดันตัวเองให้ออกห่างจากร่างสูงที่โอบประคองเอาไว้
“พวกมึง....อยากบอกนะว่าแซ่บกันแล้ว”เห็นเพื่อนตัวเล็กเขินจนแทบเอาหน้ามุดดินจองโฮซอกก็ขอแหย่ตออีกสักหน่อย
“โฮซอก ไอ้เชี่ย!”มินยุนกิด่าพลางตีหน้าเขินสุดฤทธิ์ เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนรักทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี
“กูไม่อยู่กับพวกมึงแล้ว!”ว่าแล้วคนตัวเล็กกว่าก็สะบัดตัวออกจากการกอบกุมของแฟนหนุ่ม มินยุนกิเดินลิ่วๆล่วงหน้าไปก่อนด้วยท่าทางที่ค่อนข้างทุลักทุเลท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างขบขันของเพื่อนตัวบาง
“ได้แดกซะทีนะมึง...”ริมฝีปากอิ่มแสนยั่วยวนเอ่ยขึ้นเบาๆพลางเหลือบหางตาไปมองชายหนุ่มร่างสูงข้างกายที่เหลือบมองเขาเช่นกัน
“เป็นไงล่ะเมียมึง...เด็ดมะ?”เอ่ยถามพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างล้อเลียนเรียกรอยยิ้มร้ายให้ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของคิมนัมจุนได้ไม่ยาก
“ก็ดี...”ตอบแค่นั้นเรียกเสียงเค่นหัวเราะจากคนตัวบางข้างกายได้เป็นอย่างดี โฮซอกพยักหน้ารับรู้ส่งๆก่อนจะหมุนกายเตรียมเดินตามเพื่อนตัวเล็กอีกคนไปบ้าง แต่ก้าวได้ไม่เท่าไหร่ข้อมือบางก็ถูกมือหนาของคิมนัมจุนรั้งเอาไว้เสียก่อน
โฮซอกหันกลับมามองคนที่รั้งตัวเขาเอาไว้ด้วยสายตาไม่เข้าใจ ก่อนทั้งร่างจะเซถลาไปตามแรงดึงของอีกคน นัมจุนรั้งร่างบางของโฮซอกให้เข้ามาใกล้ตนก่อนจะก้มลงกระซิบเบาๆที่ใบหูบางของอีกคน
“แต่ลีลาเด็ดยังห่างจากมึงอีกหลายขุม...”ประโยคนั้นดังขึ้นพร้อมกับแรงขบเม้นที่ใบหูบางให้ได้เสียวซ่านเล่น รอยยิ้มร้ายแบบที่มินยุนกิไม่มีทางได้เห็นปรากฏขึ้นบนเรียวปากสวยของโฮซอก
“คืนนี้..ที่ห้องกู”จองโฮซอกเขย่งขึ้นไปกระซิบเบาๆที่ใบหูของคิมนัมจุนก่อนจะผละออกมาจ้องมองอีกคนด้วยสายตาที่เรียกได้ว่าเชิญชวนอย่างปิดไม่มิด
นัมจุนจ้องมองใบหน้าสวยของเพื่อนรักที่กำลังตั้งใจยั่วยวนตนด้วยความพึงพอใจ ชายหนุ่มเผลอแล่บลิ้นเลียริมฝีปากของตนด้วยความต้องการ นัมจุนยอมปล่อยข้อมือของอีกคนให้เป็นอิสระ ซึ่งโฮซอกก็ผละออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนจะไปคนตัวบางกว่าก็ยังไม่วายหันมาส่งสายตาท้าทายให้กับเขาอีก
“แสบจริงๆ”นัมจุนบ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินตามหลังโฮซอกไปหายุนกิที่ยังคงเขินไม่เลิกอยู่ที่ข้างรถของตน
...แต่ก็เพราะแบบนี้แหละเขาถึงขาดจองโฮซอกไม่ได้...
...จองโฮซอกมีฤทธิ์ร้ายแรงยิ่งกว่ายาเสพติดขนาดใดในโลกใบนี้ กล่อมประสาทมอบความสุขให้อย่างเหลือเชื่อ แต่กลับมอมเมาให้ลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้นไปพร้อมๆกัน...
...กว่าจะรู้ตัวก็เสพติดจนยากจะถอนตัว ต่อให้ต้องทำผิดแค่ไหนก็ยอมเพื่อให้ได้มาครอบครอง...
จงอย่าลืมว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับ ความโลภ ตัณหา และ ราคะ
Finish.
TALK. หวีดดดดดด และแล้วมันก็มาค่ะ 55555555555555555555 โอ๊ยยยยย นี่ฉันแต่งอะไรลงปัยยยยยยย์
ลาก่อยโฮซอกคนใสซื่อที่เคยมีมา 5555555555 แต่นี่ยังถือว่าซอล์ฟๆนะคะ ตอนแรกที่คุยพล๊อตเรื่องนี้กับพี่สาวร่วมอุดมการณ์อีกคนนี่มันเลวกว่านี้มาก 55555555555 แต่สงสารเมนอ้ะ เอ็นดู กลัวคนเกลียดนาง 555555555
แต่ก็เกลียดอยู่ดีป้ะ 5555555555555555555 เรื่องนี้จบมันแบบนี้แหละค่ะ ความจริงละมันก็มีภาคต่ออีกแหละ แต่จะแต่งมั๊ย? ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตโน๊ะ
จะโดนแบนมั๊ยเนี่ย 55555555555555 เราพยายามไม่ให้มันหวือหวาแล้วนะ แง๊งงงงงงงงง พอค่ะ เลิกคร่ำครวญ 555555
ฟิคเรื่องนี้สนองนี้ดและความหื่นของคนเขียนอย่างเดียวเบย ช่วงนี้รู้สึกอีเพชรจะหื่นใส่โฮซอกบ่อยละเกิลลล 555555555555 ไฟลุกกับชอทฟิควันชอทอะไรแบบนี้เหลือเกินค่ะช่วงนี้ โดนน้องสาวที่น่ารักคนหนึ่งไล่ไปแต่งฟิคยาวที่ดองไว้แล้ว 555555
เจอกันคราวหน้าน่าจะเป็นฟิคยาวนะ ไม่รู้เหมือนกัน ตามอารมณ์ไปอีกทีค่ะ 555555555555
ไม่มีเรื่องพูดแล้วบุ่ยๆ มีอะไรก็ติดต่อได้ที่ทวิตเตอร์เลยข่าบบบบบ @ppbhy รักคนอ่านที่น่ารักทุกคนเบย เจอกันเรื่องหน้าค่ะ บ๊ะบายยยยยยย เยิ้ฟฟฟฟฟฟฟ
ความคิดเห็น