คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : (os) Jungkook's essay | rapmonster x j-hope
Jungkook’s essay
Rapnonster x J-hope
25.12.14
...เรียงความ...
โอเคนี่มันชักจะเกินกำลังผมไปแล้วนะ...นี่ใครครับ ผมจองกุกนะครับ! จอนจองกุกมักเน่ทองคำแห่งบังทันเชียวนะ!
ผมอายุสิบเจ็ดแล้วนะ! แล้วครูยังต้องการเรียงความเหมือนเด็กประถมอยู่เหรอครับ ให้ตายเถอะ!
“มีอะไรไม่เข้าใจในใบโปรแกรมเหรอจอนจองกุก?”เสียงถามจากคุณครูที่เคารพเรียกให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปให้ความสนใจ แกยกมือขึ้นดันแว่นก้นขวดนมของแกให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะจ้องหน้าผมแบบเหยียดๆ
“เปล่าครับ”ผมตอบไปแบบนั้น แต่ความจริงผมนี่แหละมีปัญหามากที่สุด!
“ไม่มีก็ดีไป อย่าคิดว่าการที่เธอเป็นคนดังจะทำให้เธอได้รับสิทธิ์พิเศษอะไรนะ...เพื่อนคนอื่นๆของเธอก็เตรียมตัวเพื่อที่จะเดบิวต์เป็นนักแสดงและนักร้องทั้งนั้นแหละ”พูดจบสายตาทิ่มแทงจากรอบด้านก็ส่งตรงมาที่ผมทันที
ครับๆ...เข้าใจแล้ว การที่เป็นไอดอลแล้วยังต้องมาโรงเรียนมันก็น่ารำคาญแบบนี้แหละครับ ผมถึงไม่ชอบการเรียนหนังสือไง มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมได้เรียนก่อนเดบิวต์ เพื่อนร่วมห้องจะได้ไม่พากันหมั่นไส้ผมแบบนี้...
...เอ๊ะ หรือความจริงแล้วผมทำตัวน่าหมั่นไส้เองวะ?
ผมเลิกสนใจชีวิตด้านมืดของการเป็นไอดอลของตัวเองแล้วหันมาอ่านการบ้านวันวันคริสต์มาสในมืออีกครั้ง
ให้นักเรียนเขียนเรียงความเรื่องวันคริสต์มาสและครอบครัวของฉันอย่างน้อยหนึ่งหน้ากระดาษ มาส่งในชั้นเรียนคาบต่อไป (ปิดวันคริสต์มาส)
...นี่สิเรื่องใหญ่...
ก็วันคริสต์มาสผมได้กลับบ้านไปหาครอบครัวที่ไหนกันล่ะ.....
- Jungkook’s essay -
“กลับมาแล้วคร้าบบบบบ~”ผมร้องบอกเสียงยาวด้วยความเซ็งทันทีที่ปิดประตูหอพัก ความเงียบที่ตอบกลับมาทำให้ผมรู้ว่าพี่ๆคนอื่นๆคงจะออกไปทำธุระกัน
“อ้าวกลับมาแล้วเหรอ”แต่ผมก็คิดผิดเพราะเสียงงทักแสนร่าเริงเอกลักษณ์ประจำตัวของโฮปฮยองตอบกลับมาเสียก่อน
“มาก็ดีเลย...มานี่เร็ว! ฉันลองเมนูใหม่ล่ะ!”โฮปฮยองแด๊นซ์มาสเตอร์ของบังทันในเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นสำหรับอยู่บ้านสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อนลายแมวผีสีชมพูของจินฮยองวิ่งทั่กๆตามเสียงของตัวเองมา
ในมือข้างหนึ่งก็ถือตะหลิวไว้ส่วนอีกข้างก็มีจานพลาสติกที่วางทิชชูซับน้ำมันเอาไว้อย่างลวกๆ ปลายจมูกโด่งรั้นน่าเอ็นดูนั่นมีคราบแป้งเปื้อนอยู่เป็นจุดๆอย่างน่ารัก
...โฮปฮยองจะน่ารักกว่านี้ครับถ้าเขาเลิกใช้ผมเป็นหนูทดลองเมนูใหม่ของเขา!...
“ฮยองอ่า...ผมเพิ่งกินมาเอง ยังอิ่มอยู่เลย”ผมเบ้ปากออดอ้อน ผมรู้ว่าลูกอ้อนของผมใช้ได้ผลเสมอ และมันก็จะได้ผลดีที่สุดกับเจโฮปฮยอง
“อ่าเหรอ...งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเก็บไว้ให้ทีหลัง...จะเอาน้ำอะไรมั๊ยเดี๋ยวฉันเอามาให้ไปนั่งพักก่อนเหอะ”ใบหน้าร่าเริงของโฮปฮยองหงอยลงเล็กน้อยก่อนเขาจะส่งยิ้มกว้างมาให้ผมอีกครั้งแล้วเดินกลับเข้าครัวไป
...แย่แล้วครับ! จอนจองกุกกำลังโดนลูกศรแห่งความรู้สึกผิดปักลงกลางใจ!...
ผมรู้ว่าผมอ้อนเก่ง แต่เหนือจอนจองกุกยังมีจองโฮซอก! แค่เห็นหน้าหงอยๆของโฮปฮยองเข้าไปใครก็รูปสึกผิดบาปแล้วครับ...
...โฮปฮยองอ่า ผมขอโทษน้า....จะรีบไปกินเมนูใหม่ของฮยองเดี๋ยวนี้แหละ...
ผมเดินตามหลังคนตัวเล็กกว่าผมเข้าไปในครัว...ความจริงแล้วเมื่อก่อนผมรู้สึกว่าโฮปฮยองสูงมากเลยครับ ผมคิดว่าผมสูงไม่ทันเขาแน่ๆ แต่นี่เพิ่งผ่านมาปีกว่าๆหลังจากเดบิวต์ผมโตแซงฮยองไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ
ช่วงหลังมานี้ทุกคนโตขึ้นกันหมด สูงขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น เป็นหนุ่มกันไปหมดยกเว้นโฮปฮยองนี่แหละครับ เหมือนว่าอยู่ๆเขาก็หยุดโต...แต่ผมว่าก็ดีนะ เพราะโฮปฮยองตัวแค่นี้แหละกำลังน่ารัก อิอิ ถ้าเขารู้ว่าผมคิดแบบนี้ผมต้องเก็บห้องนอนเองแน่ๆ...เพราะฉะนั้นห้ามบอกโฮปฮยองนะครับ
“ทำอะไรอยู่อ่าฮยอง”ผมเห็นโฮปฮยองกำลังตั้งใจทำอะไรสักอย่างอยู่ที่เค้าเตอร์เครื่องดื่มจนไม่ได้สนใจผมที่เดินเข้ามาเลยแม้แต่น้อยเลยขอเข้าไปอ้อนซะหน่อย กลัวเขาน้อยใจที่ผมไม่ยอมกินเมนูใหม่ของเขาอ่ะครับ...
“โอ้! ช็อคโกแลตร้อนน่ะ นายกลับมาเหนื่อยๆน่าจะกินของหวานๆนะจะได้อารมณ์ดี”ว่าแล้วก็หันมายิ้มกว้างให้ผมจนตาหยี โอ๊ยยยยยยพี่ใครวะน่ารักที่สุด ถ้าผมเป็นหมาสาบานได้เลยครับว่าตอนนี้ผมต้องกำลังหูตั้งหางกระดิกอยู่แน่ๆ
“เย้ฮยองน่ารักที่สุด!”ผมเลยให้รางวัลเจโฮปฮยองที่น่ารักของผมไปหนึ่งทีด้วยการสวมกอดเอวบางจากด้านหลังแล้วก็หอมแก้มนิ่มนั่นไปฟอดใหญ่ๆ ได้ยินเสียงโฮปฮยองหัวเราะคิกคักเลยอยากแกล้งต่ออีกนิด พ่นลมใส่แม่ง...โฮปฮยองรีบหดคอหนีทันทีเลยครับ
“อะแฮ่ม!”เสียงกระแอมไอจากประตูครัวเรียกให้ผมที่กำลังแกล้งฮยองและโฮปฮยองที่กำลังรินช็อคโกแลตร้อนใส่แก้วให้ผมต้องหันไปมอง
ลีดเดอร์กำลังยืนกอดอกพิงประตูจ้องมาที่ผมด้วยสายตาเหมือนผู้ใหญ่ดุเด็กที่ทำตัวไม่น่ารัก....แต่ขอโทษเถอะถึงจะเป็นเด็กแต่จองกุกรู้ทันฮยองหรอกเว้ย!
นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วผมเลยจัดการกอดเอวบางๆของโฮปฮยองแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม เอาหน้าซุกผมนิ่มๆของฮยองตัวบางไปด้วยเลยดีกว่า...อยากเห็นคนแก่ดิ้น ฮ่าๆๆๆๆๆ
ตามคาดครับ...นัมจุนฮยองถลึงตามองผมจนแทบทะลักออกจากเบ้า แต่ก่อนที่ขายาวๆของลีดเดอร์จะก้าวเข้ามาเพ่นกะบาลผมจริงๆ ผมก็ชิงปล่อยอ้อมกอดให้โฮปฮยองเป็นอิสระซะก่อน ไม่ได้กินผมหรอกฮยอง...หึหึหึ
“นายทำอะไรอยู่อ่ะ”นัมจุนฮยองเอ่ยถามโฮปฮยองทันทีที่ผมถอยออกมา...ก็แหมตอนนี้ช็อคโกแลตร้อนแก้วใหญ่ฝีมือโฮปฮยองมันมาอยู่ในมือผมแล้วนี่นา
“ตอนแรกก็กำลังทำเมนูใหม่อยู่...แต่จองกุกกลับมาพอดีเลยมาทำช็อคโกแลตร้อนให้น้องกิน....นายจะกินอะไรด้วยป่ะล่ะ”โฮปฮยองส่งยิ้มหวานเอ่ยถามลีดเดอร์ บอกเลยครับว่าหวานมาก...ถ้านึกภาพไม่ออกผมจะอธิบายให้ก็แล้วกัน หวานซะจนนัมจุนฮยองต้องกระแอมไอกลบเกลื่อนอ่ะคิดดู
“เดี๋ยวรอกินเมนูใหม่นายก็ได้...แล้วทำอะไรอ่ะ”ไม่พูดเปล่านัมจุนฮยองเดินเข้ามาแทรกระหว่างผมกับโฮปฮยองเฉย เฮ้ยฮยองงงงงงง....ไม่ค่อยนอกหน้าเลยเอาจริง คนหล่อเบื่อแป๊บ...
“อ่อ วันนี้ลองปลาดอลลี่ชุมแป้งทอดแล้วก็ว่าจะโรยชีสอ่ะ มันจะได้เยิ้มๆ น่ากินเนอะ”โฮปฮยองตอบก่อนจะยิ้มกว้างอย่างน่ารัก ฮรือออออ อยากบอกโฮปฮยองว่าถ้ายิ้มแบบนี้ฮยองนี่แหละครับที่จะน่ากินกว่าปลาดอลลี่ แต่ติดตรงลีดเดอร์ที่ยืนคุมเชิงอยู่ข้างๆโฮปฮยองนั่นแหละ หมั่นไส้จังครับทำยังไงดี...
“ฟังดูน่ากินนะ แต่นายแน่ใจใช่มั๊ยว่ามันจะกินได้จริงๆอ่ะ”นัมจุนฮยองเอ่ยแซวก่อนจะปล่อยกร๊ากออกมาเมื่อเห็นว่าโฮปฮยองเบ้ปากแล้วเอาตะหลิวฟาดตัวเองโครมๆ
เอ่อฮยองครับ...ความจริงแล้วฮยองเป็นพวกชอบความเจ็บปวดใช่มั๊ย? กุกกี้อยากรู้...
“ละจะกินไม่กิน?”โฮปฮยองยกตะหลิวชี้หน้าคนตัวสูงกว่าก่อนจะตีหน้ายักษ์ถาม ปกติโฮปฮยองเขายิ้มทั้งวันแหละครับ เห็นทีจะมีแต่ลีดเดอร์นี่แหละที่กวนประสาทโฮปฮยองจนต้องตีหน้ายักษ์ได้สำเร็จ
“คร้าบๆ กินครับกิน...กับข้าวของโฮปปี้อร่อยทู๊กกกกกกอย่างเลยคร้าบบบบ”ลีดเดอร์รู้ตัวครับว่ากำลังจะอดข้าวเขาเลยรีบเข้ามาออดอ้อนโฮปฮยองใหญ่ แต่ให้ตายเถอะ...ผมขอพูดในฐานะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออดอ้อนหน่อยนะครับ นัมจุนฮยองทำแล้วอ้อนได้อย่างเดียวครับ...ตีน!
“งั้นก็ไปนั่งรอไป จะเสร็จแล้ว....แล้วก็ถ้าน้องมีการบ้านก็ช่วยน้องด้วยล่ะ”โฮปฮยองชี้ตะหลิวสั่งแล้วก็กลับไปทำอาการต่อทิ้งให้นัมจุนฮยองได้แต่ทำหน้าเหมือนคนกลัวเมีย(?)ไปนั่งรอดีๆเพียงลำพังเท่านั้น....แต่เดี๋ยวนะ? เมื่อกี้โฮปฮยองพูดว่าอะไรนะครับ? การบ้าน?
....เอ้อใช่การบ้าน!..
ผมรีบคุ้ยเศษใบโปรแกรมในกระเป๋าออกมาเปิดอ่านอีกครั้ง ไหนๆจะไม่ได้กลับบ้านแล้วครอบครัวที่ผมมีตอนนี้ก็คือพี่ๆบังทันที่แหละ เพราะงั้นเรียงความนี่ผมจะเขียนถึงบังทัน!
ผมไม่ได้ขอให้นัมจุนฮยองช่วยเขียนหรอกครับ ถึงเขาจะเก่งคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษแต่ก็ใช่ว่าเขาจะเขียนเรียงความเก่งเสียหน่อย ผมอยากเริ่มพยายามด้วยตัวเองมากกว่า ตอนนี้ผมเลยกำลังนั่งเค้นเซลล์สมองทั้งหมดมาคิดเรียงความนี่แหละครับ
“กับข้าวร้อนๆได้แล้ว.....โอ๊ยน่ากินจริงๆ”ทำเองชมเองแบบนี้มีแต่โฮปฮยองแหละครับ ปลาดอลลี่ชุปแป้งทอดหอมฉุยสองจานถูกวางลงตรงหน้าผมกับนัมจุนฮยอง และแน่นอนน้ำส้มคั้นสองแก้วเพียบพร้อม โฮปฮยองนี่ดูแลคนอื่นเก่งจริงๆครับ เวลาอยู่กับเขาผมรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่เลย....
...แม่เหรอ?...
ผมละสายตาออกจากแผ่นกระดาษรายงานที่ว่างเปล่าขึ้นไปมองโฮปฮยองที่กำลังจัดเตรียมอาหารให้ลีดเดอร์อย่างคล่องแคล่วพลางใช้ความคิด...
ดูๆไปแล้วสองคนนี้นี่ให้ความรู้สึกคุณพ่อคุณแม่จริงๆนะครับ....นัมจุนฮยองที่มีความเป็นผู้นำ ดุผมบ่อยแต่ก็มีเหตุผลเสมอ โฮปฮยองที่คอยปลอบใจและให้กำลังใจผม รอยยิ้มอบอุ่นชวนให้สบายใจเหมือนแม่ผม...
...อืมมมมม เข้าท่า!...
“โฮปฮยอง....พรุ่งนี้ว่างเปล่า?”โฮปฮยองหันมาตามเสียงผม เขาส่งยิ้มกว้างให้ผมก่อนจะเอ่ยตอบ
“ก็ไม่มีงานอะไรนะ....แต่อย่าลืมว่าตอนดึกๆพวกเรามีตารางงานที่รายการวิทยุ”ผมพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปมองฝั่งลีดเดอร์บ้าง
“มีอะไรไอ้น้องเล็ก”เหมือนว่าผมจะมองนานไปหน่อยนัมจุนฮยองเลยเอ่ยถามออกมาเสียก่อน
“แล้วฮยองอ่ะ...พรุ่งนี้ว่างป่ะ?”
“ก็ว่างนะ....ทำไมอ่ะ”นัมจุนฮยองหรี่ตามองผมอย่างจับผิด คนหัวไวอย่างเขาคงรู้แหละครับว่าผมถามอย่างนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ จะมีก็แต่เจโฮปฮยองนั่นแหละที่ยิ้มรับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่คนเดียว
“คือผมต้องทำรายงานส่งครูอ่ะ แล้วเขาให้เขียนเรื่องครอบครัวในวันคริสต์มาส ฮยองสองคนมาช่วยผมหน่อยได้เปล่า?”ผมเอ่ยถามทำตาบ๊องแบ๊ว นี่ใส่ลูกอ้อนเต็มที่เลยนะ ถ้าไม่ยอมช่วยนี่ก็ใจทมิฬเกินไปแล้ว
“การบ้านนายก็ทำเองดิ”นัมจุนฮยองผู้มีใจด้านชาไม่แพ้หนังหน้าตอบกลับมาแบบไร้เยื้อใย ผมเลยเบะปากเพิ่ม สำออยนิดหน่อยทำเหมือนจะร้องไห้แม่ง...
“เฮ้ยนัมจุนไมพูดงี้อ่ะ! น้องมันอุส่าขอร้องนะเว้ย แค่ช่วยน้องเขียนเรียงความเองไม่เป็นเป็นไรเลย”นั่นไงครับ บอกแล้วว่าลูกอ้อนของผมน่ะใช้ได้ผลเสมอ โฮปฮยองตีไหล่หนาของนัมจุนฮยองเบาๆไปหนึ่งทีก่อนจะเอ็ดเข้าให้
“นัมจุนไม่ช่วยก็ช่างมัน เดี่ยวฉันช่วยเองนะกุกกี้”ว่าแล้วก็ยิ้มหวานมาให้ผมโดยไม่ได้รู้เลยว่านัมจุนฮยองจ้องหน้าผมแบบดุร้ายแค่ไหน
....หึหึหึ ผมว่าผมรู้แล้วครับว่าจะทำยังไงให้นัมจุนฮยองยอมช่วยผม....
“เย้ดีใจจังเลย! โฮปฮยองน่ารักที่สุด! พรุ่งนี้เราไปเที่ยวกันสองคนนะครับฮยอง!”นี่ดูไว้ มารยาจอนจองกุกมันระดับไหน เน้นคำว่าสองคนเลยด้วย ถ้าลีดเดอร์จะยอมปล่อยให้โฮปฮยองที่น่ารักไปกับผมสองต่อสองก็เอาครับ!
“โอเคงั้นฉันช่วยก็ได้!”นั่งไงโผล่งออกมาจนได้ สงสัยว่านัมจุนฮยองคงรู้ถึงความมารยาของผม เขาเลยได้แต่ขมุบขมิบปากด่าผมว่า
‘ไอ้มักเน่ปีศาจ’
...หึหึหึ แล้วผมบอกตอนไหนกันว่าเป็นมันเน่น้อยที่น่ารักน่ะ....
- Jungkook’s essay -
“พ่ออออออ อยากได้อันนี้!”
“พ่อผมอยากกินไอติมอ้ะ!”
“พ่อออออออออ~”
“โอ๊ยยยยอะไรนักหนาวะจอนจองกุก!”นัมจุนฮยองโวยวายพลางกระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด แต่ผมว่าเขาเหมือนลิงยักษ์ที่กำลังโมโหมากกว่าไอดอลที่กำลังโกรธซะอีก ฮ่าๆๆๆๆ
“เลิกเรียกฉันว่าพ่อได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดว่าฉันเป็นพ่อนายจริงๆหรอกไอ้เด็กนี่!”อยากสวนกลับไปอยู่หรอกว่าก็ตั้งใจแบบนั้น แต่แหม...ถึงจะเป็นมักเน่ปีศาจแต่ก็กลัวตีนลีดเดอร์ระดับนึงเหมือนกันนะครับ อิอิ
“เข้าใจผิดละไง ไม่มีใครจำเราได้หรอก เนอะ!”คราวนี้เป็นโฮปฮยองที่พูดออกมาก่อนจะหัวเราะลั่นเพราะดันไปได้ยินเสียงนินทาจากผู้หญิงโต๊ะข้างๆเรา
“แกดูโต๊ะนั้นดิ คุณพ่อลูกติดอ่ะ...เสียดายนะยังหนุ่มอยู่เลย”
“เห็นมะ ถ้าเกิดชาตินี้ฉันหาแฟนไม่ได้ขึ้นมาจะทำไง”ลีดเดอร์บ่นเสียงเบา มือก็ยกขึ้นขยับแว่นดำที่สวมปิดใบหน้าของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางราวกับกลัวนักหนาว่าจะมีคนจำตัวเองได้แล้วพุ่งเข้าชาร์ตเหมือนในการ์ตูน
ผมอยากบอกนัมจุนฮยองจริงๆเลยครับว่าชุดที่เขาใส่อยู่นี่มันคิมนัมจุนคอลเลคชั่นสุดๆไปเลย ถ้าเป็นอาร์มี่ล่ะก็แว่บแรกก็รู้แล้วครับ แว่นดำที่ใส่มามันไม่ช่วยอะไรหรอก
“ไม่เห็นต้องกลัวไม่มีแฟนเลย พ่อก็มีแม่แล้วไง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”ชวนช็อคที่สุดก็คำพูดของโฮปฮยองที่พูดออกมานี่แหละครับ เจ้าตัวพูดด้วยรอยยิ้มน่ารักแถมยังมีหน้าหันมาขอความเห็นผมด้วยนะ
“ใช่มั๊ยจองกุกลูกรัก? ฮ่าๆๆๆๆๆ”พอเห็นหน้าปุเลี่ยนๆของนัมจุนฮยองกับหน้าหมาเอ๋อของผมเข้าไป โฮปฮยองเลยปล่อยกร๊ากออกมาอย่างถูกอกถูกใจทันที
ไอ้ผมน่ะแค่ช็อคครับ ลีดเดอร์นี่เคโอไปเรียบร้อยเลย....
คิดว่าถ้าไม่ได้นั่งอยู่นัมจุนฮยองคงหงายหลังลงไปกองกับพื้นแล้วแน่ๆ ที่สำคัญคือคนพูดอย่างโฮปฮยองนี่ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้นเลยครับ เจ้าตัวเอาแต่นั่งขำอย่างถูกอกถูกใจที่เห็นหน้าเหวอๆของลีดเดอร์
เหมือนนัมจุนฮยองจะกลับมาได้สติเพราะเสียงหัวเราะของโฮปฮยองนี่แหละครับ คงรู้ตัวแล้วล่ะว่าโดนโฮปฮยองป่วนประสาทเล่น นัมจุนฮยองยกยิ้มชั่วร้ายที่มุมปาก....ขนาดผมที่เป็นมักเน่ปีศาจยังแอบเสียวสันหลังวาบแทนโฮปฮยองเลยครับ...
....แต่ก็นั่นแหละครับ โฮปฮยองก็คือโฮปฮยอง....ซื่อซะจนเข้าขั้นบื้อ....ไม่รู้เรื่องหรอกครับ ขำเขาเข้าไปเถอะฮยอง...เรื่องนี้จองกุกไม่เกี่ยวนะครับบอกเลย
“ว่าแต่แม่จ๋า...พ่อมีเรื่องจะปรึกษาแม่อยู่นะ”นัมจุนฮยองพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวานหยดจนผมยังขนลุกชันทั้งตัว โฮปฮยองหยุดหัวเราะทันทีเลยครับ จับสัญญาณอันตรายได้แล้วล่ะสิ
“เฮ้ย!”โฮปฮยองร้องเสียงหลงเพราะนัมจุนฮยองเล่นคว้าเอวบางของเขาเข้าไปจนไหล่ของโฮปฮยองชนเข้ากับแผ่นอกของลีดเดอร์
“พ่ออยากมีลูกอีกสักสองสามคนแม่จะว่าไง?”
...ออลคิลเลยครับจุดนี้!!!!....
ไม่ใช่แค่โฮปฮยองหรอกครับที่นั่งตัวแข็งทื่อเหมือนโดนสต๊าฟ แก้มกลมๆของความหวังแห่งบังทันขึ้นสีแดงก่ำเหมือนลูกมะเขือเทศสุกเปล่ง
แม้แต่ผมจอนจองกุกที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของทั้งสองคนยังอดช็อคไปไม่ได้เลย! ก็คิดดูสิครับนัมจุนฮยองน่ะเล่นพูดประโยคนั้นด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่แหบเสน่ห์ของเขา แถมยังมีการก้มลงไปพูดที่ข้างใบหูของคนในอ้อมแขนเสียอีก!
โอ๊ยฮยองครับบบบบบบบ!!! เกรงใจผู้เยาว์อย่างผมบ้าง!
“บ...บ้า”นั่น.... แล้วโฮปฮยองก็เขินได้น่ารักเหลือเกินครับ มือเรียวทั้งสองข้างของโฮปฮยองออกแรงผลักอกนัมจุนฮยองออกห่างจากตัว แต่ดูเหมือนนัมจุนฮยองจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ สงสัยแค้นฝั่งหุ่นครับ ก่อนหน้านี้โฮปฮยองทำเขาเขิน ลีดเดอร์คงไม่ปล่อยให้รอดไปง่ายๆแน่นอน....ผมว่าวันนี้มันจะต้องวุ่นวายแน่ๆเลยครับ....
....เรามาร่วมสงบนิ่งไว้อาลัยให้กับโฮปฮยองความหวังของบังทันกันเถอะครับ....
“ขอโทษที่ให้รอค่ะ ไอศกรีมที่สั่งไว้ได้แล้วค่ะ”แต่เพราะสาวเสิร์ฟที่ยกไอศกรีมที่สั่งไว้มาเสิร์ฟพอดีนัมจุนฮยองเลยต้องคลายอ้อมแขนออกแต่ผมยังแอบเห็นมือฮยองที่โอบเอวโฮปฮยองไว้ไม่ยอมปล่อยอยู่ดี...
...อะแฮ่ม ฮยองครับ ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะลีดเดอร์!
ผมได้แต่หัวเราะกับความฉวยโอกาสของนัมจุนฮยองถึงจะดูน่าหมั่นไส้ไปหน่อยแต่การที่ได้เห็นลีดเดอร์ยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนั้นผมก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดครับ ตั้งแต่เรามาเป็นบังทันก็มีอะไรบางอย่างที่พวกเราไม่มีทางได้กลับคืนมา แล้วผมก็คิดว่าความรับผิดชอบมากมายที่ลีดเดอร์แบกเอาไว้ก็คงทำให้รอยยิ้มผ่อนคลายของเขาลางเลือนไปบ้าง ต้องขอบคุณโฮปฮยองนะ...
ผมเลิกสนใจฮยองทั้งสองคนที่เริ่มตบตีกันงุ้งงิ้งเหมือนคู่แต่งงานใหม่แล้วหันมาสนใจช็อคโกแลตซันเดย์ถ้วยโตตรงหน้าที่มันล่อตาล่อใจกว่าเป็นไหนๆ ว่าแล้วผมก็จัดการวิดไอศกรีมเข้าปากทันทีเลยครับ เรื่องหล่อเอาไว้ที่หลัง เรื่องกินมาก่อนเสมอครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ
“จองกุกอ่า....เลอะหมดแล้ว”เสียงของโฮปฮยองที่ร้องขึ้นเรียกให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมาจากถ้วยไอศกรีม มือเรียวของโฮปฮยองเอื้อมออกมาเช็ดคราบไอศกรีมที่ปลายจมูกของผมออกให้อย่างอ่อนโยนด้วยกระดาษทิชชู รอยยิ้มอ่อยโยนน่าหลงใหลของโฮปฮยองทำให้อากาศหนาวเย็นของเกาหลีไม่ได้หนาวอีกต่อไป ผมกลับรู้สึกอบอุ่นเสียจนรู้สึกร้อนๆที่ใบหน้า อ่า....อากาศมันจะร้อนเกินไปสำหรับฤดูหนาวป่ะวะ
“อิ่มแล้วเหรอ ของโปรดไม่ใช่เหรอ ช็อคโกแลตอ่ะ”โฮปฮยองขมวดคิ้วถามผมด้วยความเป็นห่วง มือเรียวของเขาก็เอื้อมมากระชับผ้าพันคอสีแดงของผมให้แน่นขึ้น
การกระทำแสนอ่อนโยนของเขาพาลเอาขอบตาของผมร้อนผ่าว....
....ผมคิดถึงแม่...
“เฮ้ยจองกุก!”คราวนี้เป็นเสียงของนัมจุนฮยองที่ร้องลั่นขึ้นมา เขาผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างร้อนรนโดยไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นๆในร้าน
โฮปฮยองกระชากแขนนัมจุนฮยองให้นั่งลงตามเดิมก่อนจะหันไปก้มหัวขอโทษคนอื่นๆในร้านที่ทำให้ตกใจ มือเรียวของโฮปฮยองก็ดึงทิชชูออกมาราวกับจะเอามาถมที่
“จองกุกอ่า...อย่าร้องนะ มีอะไรก็บอกพวกฉันได้นะ ยังไงเราก็ครอบครัวเดียวกัน”โฮปฮยองพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนแบบฉบับของเขาก่อนจะค่อยๆเอาทิชชูมาซับความเปียกชื้นที่แก้มของผม
...ตอนนั้งเองแหละที่ผมรู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้...
นี่ผมกำลังทำตัวเป็นโฮปฮยองสองงั้นเหรอครับ....
“หัวเราะแล้ว”โฮปฮยองพูดออกมาด้วยความร่าเริงที่เห็นว่าผมหลุดหัวเราะออกมา ผมคว้าเอาทิชชูในมือของโฮปฮยองมาเช็ดหน้าต่อเอง ถ้าเกิดโฮปฮยองเขารู้ว่าที่ผมหัวเราะเพราะนินทาเขาในใจคงไม่ยิ้มอ่อนโยนให้ผมแบบนี้หรอก ฮ่าๆๆๆๆ
“เอางี้ดีกว่า ไหนๆวันนี้เราก็ฟรีทั้งวันจนถึงตอนดึกๆละ เราพาน้องเล็กไปเที่ยวเล่นดีกว่า”โฮปฮยองเสนอความคิดขึ้นด้วยใบหน้าร่าเริง หันไปขอความเห็นกับนัมจุนฮยอง แต่ดูเหมือนนัมจุนฮยองจะขี้เกียจเกินกว่าจะพาผมไปเที่ยวเล่น โฮปฮยองเลยจัดการต่อยหัวไหล่ลีดเดอร์ไปสองสามทีเป็นการบังคับกลายๆ นัมจุนฮยองเหลือบมองผมที่ตีหน้าบ๊องแบ๊วใส่อยู่ครู่หนึ่กก็หันไปพยักหน้าส่งๆให้กับโฮปฮยอง
“เย้!!!!”ทั้งผมและโฮปฮยองตะโกนขึ้นด้วยความร่าเริง โฮปฮยองคว้าคอนัมจุนฮยองเข้ามากอดแน่นๆหนึ่งทีด้วยความดีใจซึ่งผมเองก็ทำตาม เห็นลีดเดรอร์ทำหน้าเบ้แล้วผมกับโฮปฮยองก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นร้านไอศกรีม
...สำหรับผมในตอนนี้แค่นั่งเฉยๆก็มีความสุขแล้วครับ เพราะผมได้อยู่กับ ครอบครัว พ่อนัมจุน กับคุณแม่โฮซอก ฮ่าๆๆๆๆ....
...แค่นี้ผมก็รู้ได้ล่วงหน้าเลยครับว่ามันจะเป็นคริสต์มาสที่ดีที่สุดของผม...
....ขอบคุณครับลีดเดอร์ ขอบคุณครับโฮปฮยอง.....
- Jungkook’s essay -
...นี่มัน สนุกกว่าที่ผมคิดอีกนะ....
“ย๊า จอนจองกุก! คิดอะไรของนายห๊ะ?”โฮปฮยองร้องลั่นทันทีที่ผมกับนัมจุนฮยองใช้แรงเอารัดเอาเปรียบเขา...
หยุดครับอย่าเพิ่งคิดลึก....ผมกับนัมจุนฮยองแค่จัดการล็อคแขนเขาคนละข้างแล้วเดินตรงรี่เข้าหาบ้านผีสิงอย่างเร็วเลยครับ
แล้วตัวเท่าลูกหมาอย่างโฮปฮยองจะเอาอะไรมาสู้ชายหนุ่มวัยเจริญพันธุ์แถมยังสูงกว่า ล่ำกว่า(?)อย่างผมกับนัมจุนฮยองได้ล่ะครับ
....แต่ก็ต้องยอมรับครับว่าสำหรับขนาดตัวเท่านี้ โฮปฮยองแรงเยอะมากจริงๆ กว่าผมจะลากเขามาที่หน้าประตูบ้านผีสิงได้ก็เล่นเอาหอบเลยครับ
“ย๊า! นายก็เหมือนกันนะคิมนัมจุน! ไหนตอนแรกทำหน้าไม่อยากมาเที่ยวเล่นกันเล่า! ทำไมตอนนี้ถึงได้เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยขนาดนี้ห๊ะ!”โฮปฮยองแหวใส่ลีดเดอร์ แถมให้ด้วยการทุบตีแก้แค้นไปอีกสองสามที แต่มือทั้งสองข้างก็เกาะแขนของนัมจุนฮยองเอาไว้แน่นราวกับว่ากลัวจะโดนทิ้งไปไหน
.....โฮปฮยองก็เป็นคนแบบนี้แหละครับ ไม่ชอบแต่ก็ยอมเข้ามาเพราะผมอยากเข้า....เอาความจริงผมก็ไม่ได้อยากเล่นเท่าไหร่หรอกไอ้บ้านผีสิงนี่น่ะ ผมอยากเห็นอะไรสนุกต่างหากเล่า ฮ่าๆๆๆๆ
“แว๊กกกกก! อะไรวะๆๆๆ”โฮปฮยองร้องเสียงหลงพลางโถมตัวเข้าใส่นัมจุนฮยองอย่างแรงจนทั้งสองคนแทบหงายหลัง ดีที่นัมจุนฮยองคว้าตัวเอาไว้ได้เสียก่อน
ผมที่เดินตามมาเงียบๆข้างหลังได้แต่อมยิ้มกับอาการของโฮปฮยองและนัมจุนฮยอง ลีดเดอร์พยายามอยู่พักหนึ่งที่จะแกะโฮปฮยองออกจากตัว แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้เพราะอาการประสาทเสียขี้ตกใจเกินเหตุของโฮปฮยอง ลีดเดอร์หนัมามองผมนิดหน่อยเป็นการถามว่าผมโอเคมั๊ย
ผมเลยฉีกยิ้มกว้างให้เขาเพื่อเป็นการบอกว่าไม่เป็นไร ก่อนจะบุ้ยใบ้ไปทางโฮปฮยองที่กำลังตัวสั่นงั่กๆด้วยความกลัว นัมจุนฮยองพยักหน้ารับก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับคนที่เกาะตัวเองแน่น
ลีดเดอร์เปลี่ยนจากการถูกเกาะมาเป็นฝ่ายโอบกอดเอาไว้แทน มือหนาของนัมจุนฮยองรั้งไหล่บางของโฮปฮยองเข้าไปในอ้อมกอดพลางเอาตัวโอบเอาไว้จนมิดคล้ายกำลังปกป้องคนตัวเล็กกว่าในอ้อมแขน
ผมได้แต่ยิ้มกับภาพที่เห็น ผมรู้อยู่แล้วล่ะครับว่าสำหรับนัมจุนฮยองน่ะโฮปฮยองมีความสำคัญแค่ไหน และนัมจุนฮยองรู้สึกยังไงกับโฮปฮยอง ยิ่งเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่นัมจุนฮยองเผลอยิ้มออกมายามที่ก้มมองคนในอ้อมแขนผมก็ยิ่งมั่นใจโดยไม่ต้องเอ่ยปากถาม....
....ปัญหาคือโฮปฮยองนั่นแหละ....รู้รึเปล่านะ....
การเดินฝ่าบ้านผีสิงของเราสามคนทุลักทุเลหน้าดูครับเพราะนัมจุนฮยองต้องคอยกระชับอ้อมกอดที่โอบรอบตัวโฮปฮยองเอาไว้ทุกครั้งที่มีอะไรสักอย่างโผล่ออกมา ตอนที่เดินผ่านโซนโรงพยบาลนี่โฮปฮยองเกือบจะปล่อยโฮเลยครับ ดีที่ผมกับนัมจุนฮยองเข้าไปปลอบทัน
....อ่า ถึงโฮปฮยองจะตกใจกลัวได้น่ารักมาก แต่ผมชักจะรู้สึกผิดแล้วสิครับ....
....โฮปฮยองอ่า ผมขอโทษนะ....สัญญาว่ากลับหอไปจะเป็นเด็กดีหนึ่งวันเลยเอ้า!
“พวกนายมันนิสัยเสีย...ซื้ด! ทำไมต้องแกล้งฉันด้วยวะ!”โฮปฮยองโวยวายพลางสูดน้ำมูกซื้ดซ้าด จมูกโด่งรั้นของเขาขึ้นสีแดงก่ำเหมือนกวางเรนเดียร์เลยครับ ไม่รู้ว่าเพราะอากาศหนาวหรือเพราะเพิ่งร้องไห้มากันแน่
“เฮ้ไม่เอาน่า....หยุดร้องซะทีเดี๋ยวจองกุกมันก็รู้สึกผิดหรอก”นัมจุนฮยองเอ่ยปลอบพลางยื่นทิชชูให้โฮปฮยองรับเอาไปเช็ดหน้าเช็ดตา
ดูหน้าลีดเดอร์ก็รู้ครับ ไม่ได้เป็นห่วงความรู้สึกผมหรอกครับ รำคาญโฮปฮยองจอมขี้แยชัวร์....อย่าเอาผมมาเป็นข้ออ้างเลยครับลีดเดอร์! จองกุกรู้ทันหรอก!
“ฮือ จองกุกขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้นายรู้สึกแย่ แต่มันตกใจอ่ะ น้ำตามันไหลออกมาเองนี่หว่า!”โฮปฮยองตอบก่อนจะหันไปเช็ดหน้าต่อโดยมีนัมจุนฮยองนั่งปลอบอยู่ข้างๆไม่ห่าง
....ถึงปากจะบอกว่ารำคาญแต่นัมจุนฮยองก็ดูแลโฮปฮยองอย่างดีตลอดแหละครับ....
“งั้นเครื่องเล่นหน้าผมสัญญาเลยว่าจะเลือกแบบดีๆ ฮยองต้องชอบแน่ๆ!”ผมเสนอความคิด นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว อีกไม่นานพระอาทิตย์ก็คงตกดิน พวกเรามีงานกันคืนนี้และผมก็ไม่อยากให้โฮปฮยองของเราไม่สบาย เพราะงั้นผมเลยคิดว่ามันคงจะเป็นเครื่องเล่นสุดท้ายของเราในวันนี้....
...ผมสาบานว่าคราวหน้าผมจะพาโฮปฮยองกับนัมจุนฮยองมาเที่ยวเล่นแบบนี้อีก ก็ตอนนี้พวกเราเป็น ครอบครัวเดียวกัน แล้วนี่เนอะ!
“แล้วนายอยากเล่นอะไรล่ะ นี่ก็เย็นแล้ว พวกเราไม่ควรกลับดึกนะเดี๋ยวจะป่วยเอา”เป็นนัมจุนฮยองที่เอ่ยถามออกมาโดยที่มือหนึ่งก็ยังถือซองกระดาทิชชูส่งให้โฮปฮยองอยู่เหมือนเดิม
....ผมคิดพลางมองหน้าโฮปฮยองอีกครั้ง เห็นจมูกรั้นๆกับแก้มกลมๆที่ขึ้นสีเพราะอากาศหนาวของเขาแล้วฝั่งอธรรมในความคิดผมก็นึกแผนการร้ายขึ้นมาอีกครับ...
...ขอโทษนะโฮปฮยอง....เดี๋ยวผมจะเป็นเด็กดีให้ฮยองเพิ่มอีกวันเลย แต่วันนี้เป็นวันของผมนะครับ...
ผมฉีกยิ้มกว้างให้โฮปฮยองจนเห็นฟันกระต่าย เห็นโฮปฮยองขมวดคิ้วมองหน้าผม ผมว่าเขาคงรู้แล้วล่ะครับว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาแน่นอน
“ชิงช้าสวรรค์”
....โฮปฮยองน่ะกลัวความสูง....
“ย๊า! จอนจองกุก!!!!!”
....แล้วผมก็ต้องรีบผุดลุกขึ้นวิ่งหนีโฮปฮยองที่เริ่มวิ่งไล่เตะผมอย่างเต็มกำลังทันที...
...ถึงจะเหนื่อยแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงได้หัวเราะออกมามากขนาดนี้....ผมว่าวันนี้วันเดียวผมหัวเราะอย่างมีความสุขมากกว่าที่หัวเราะทั้งเดือนรวมกันเสียอีก...
...ขอบคุณอีกครั้งนะครับโฮปฮยอง นัมจุนฮยอง...
.
.
.
.
.
การได้มานั่งชมวิวจากมุมสูงๆนี่มันสุยอดไปเลยนะครับ....
ตอนนี้ผมจอนจองกุกมักเน่แห่งวงบังทันกำลังนั่งมองวิวพระอาทิตย์ตกดินในวันคริสต์มาสเพียงลำพังอยู่บนกระเช้าชิงช้าสวรรค์เพียงลำพัง....
ครับ....ลำพังจริงๆ
เรื่องก็คือกระเช้ามันขึ้นได้แค่สองคนครับ เราสามคนเลยต้องแยกตัว....ตอนแรกโฮปฮยองก็งองแงจะขึ้นสามคนให้ได้ เกือบจะไปท้าตีท้าต่อยกับพนักงานคุมเครื่องเขาแล้วล่ะ โชคดีที่ลีดเดอร์คว้าตัวเอาไว้ได้ก่อน...
...ส่วนผมเห็นว่าวันนี้แกล้งโฮปฮยองมาเยอะ แถมทำให้นัมจุนฮยองลำบากใจมาอีกหลายอย่างเลยว่าจะให้ของขวัญคริสต์มาสกับฮยองทั้งสองคนซะหน่อย...
เลยอาสามานั่งแยกคนเดียวแล้วปล่อยให้นัมจุนฮยองลากโฮปฮยองขึ้นกระเช้าไปโดยไม่สนใจเสียงโวยวายเลยแม้แต่น้อย....
....แต่แน่นอนครับ ไม่มีทางที่คนอย่างจอนจองกุกจะยอมให้อะไรฟรีๆหรอก....
...มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนครับ...
....ซึ่งผมทำสัญญากับลีดเดอร์เอาไว้แล้ว...
แล้วก็ได้รับคำเดิมกลับมาเช่นกัน ‘มักเน่ปีศาจ’ อิอิ...
ผมทอดสายตามองกระเช้าที่นำอยู่ด้านหน้านิ่งๆ ลีดเดอร์นั่งหันหน้ามาหาผม ส่วนโฮปฮยองหันหลังให้ผม แอบเห็นว่านัมจุนฮยองเหลือบมองผมบ่อยๆด้วย ผมเลยโบกมือบ๊ายบายให้เขาไปสักหน่อย
เขาสองคนคุยอะไรกันผมยังไม่รู้หรอกครับ....แต่เดี๋ยวรู้แน่ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
นัมจุนฮยองเลิกสนใจผมแล้วหันไปมองหน้าโฮปฮยองด้วยสายตาจริงจัง มือหนาของเขาเอื้อมมาคว้ามือเรียวทั้งสองข้างของโฮปฮยองไปกอบกุมไว้ แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของนัมจุนฮยองที่พยายามส่งไปให้อีกคนพาเอาผมที่มองดูอยู่ชักจะเขินแทนโฮปฮยอง
อ่า...ให้ตายสิ ทำไมพี่ชายของผมคนนี้ถึงได้เป็นผู้ชายที่โรแมนติคขนาดนี้นะ...
...สักวันผมต้องเรียนรู้วิธีการจีบ(หนุ่ม?)ของนัมจุนฮยองไปใช้บ้างแล้วล่ะ
เป็นเวลาสักพักที่ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าผมยังนิ่งงัน นัมจุนฮยองยังคงกอบกุมมือบางของโฮปฮยองอยู่แบบนั้น ผ่านไปอีกเพียงชั่วครู่ลีดเดอร์ก็ค่อยๆปล่อยให้มือนิ่มของคนเป็นความหวังให้เป็นอิสระ นัมจุนฮยองส่งยิ้มบางๆที่แสนอบอุ่นมาให้โฮปฮยอง แต่แววตาของเขากลับมีรอยของความเศร้า
แล้วสิ่งที่ทั้งผมและนัมจุนฮยองไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆโฮปฮยองที่นั่งอยู่ก็ผุดลุกขึ้นก่อนจะคว้าคอของนัมจุนฮยองให้โน้มลงมา!
...พระเจ้า!!!! ถึงจะเห็นแค่ด้านหลัง แต่ผมก็ไม่ได้ใสซื่อขนาดจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!
โฮปฮยองจูบนัมจุนฮยอง!
แถมเป็นจูบที่นัมจุนฮยองไม่ทันตั้งตัวด้วย! ดูได้จากดวงตาคมของลีดเดอร์ที่เบิกกว้างแบบนั้น แต่มันก็เป็นความตกตะลึงเพียงชั่วครู่ เพราะนัมจุนฮยองที่ดึงสติของตัวเองกลับมาได้ก็เอื้อมมือขึ้นมาโอบรอบเอวบางของโฮปฮยอง ทั้งสองคนปล่อยให้เวลามันผ่านไปแบบนั้นสักพักก่อนที่จะค่อยๆผละออกจากกัน
...แล้วนัมจุนฮยองก็พูดบางอย่างกับโฮปฮยอง....คำพูดที่ความรู้สึกของเขาส่งมาถึงผมได้ด้วยซ้ำ...
...ต่อให้ผมไม่ได้อ่านปากของเขา...ผมก็รับรู้ความรู้สึกของเขาที่มีให้โฮปฮยองได้เป็นอย่างดี...
‘ฉันรักนาย’
....อ่า....วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆนั้นแหละ...
ผมเหลือบมองโทรศัพท์มือถือของตนที่ตั้งอยู่ที่เบาะนั่งข้างๆตัวพลางยกยิ้มกว้างออกมาด้วยความสุขใจ...
...คงไม่ต้องใช้เจ้านี่แล้วล่ะ...
....ผมทำข้อตกลงกับนัมจุนฮยองไว้ตอนที่โฮปฮยองไปห้องน้ำ ผมบอกให้เขาสารภาพรักกับโฮปฮยองวันนี้ไปเลย เพราะดูเหมือนโฮปฮยองจะแอบมีใจให้เขาเหมือนกัน...
ในตอนแรกลีดเดอร์ดูตกใจมากที่ผมรู้เรื่องนี้เพราะเขาไม่เคยบอกใคร แต่ก็นั่นแหละ ก็ความรักของนัมจุนฮยองมันทะลักออกมาขนาดนั้น ผมพนันได้เลยว่าพี่ๆคนอื่นในวงก็ดูออกกันทั้งนั้น...อ่อ อาจจะมีแค่โฮฮยองนั่นแหละที่ไม่รู้เรื่อง ก็เล่นเป็นคนซื่อซะขนาดนั้นนี่นา...
...ผมเลยวางแผนให้เขาได้อยู่ด้วยกัน แต่ข้อแลกเปลี่ยนก็คือ ผมอยากรู้ว่าเขาพูดอะไรกันบ้าง...แหมก็เรื่องอยากรู้อยากเห็นมันมาคู่กับเด็กอย่างผมนี่นา
....แต่ก็นะ แค่คำนั้นคำเดียวที่ผมรับรู้ได้ คำพูดอื่นๆที่เคยอยากรู้ก็ไม่จำเป็นแล้ว...
....ผมรู้แล้วแหละว่า พ่อนัมจุน กับ แม่โฮซอก ของผม รักกันแค่ไหน....
เรียงความครอบครัวที่มีความสุขที่สุดในวันคริสต์มาสของผมรับรองได้เลยว่าต้องได้คะแนนเต็มแน่ๆ!
....ขอบคุณนะครับนัมจุนฮยอง ขอบคุณครับโฮปฮยอง...
ขอบคุณครับ ครอบครัว ของผม...
FINISH.
TALK. แงงงงงงงง เมอร์รี่คริสต์มาสค่าทุกคนนนนน วันนี้วันดีเลยเอาวันชอทคิ้วท์ๆวันคริสมาสมาลง 55555555 เรื่องนี้เป็นอีกแนวที่อยากลองแต่งมาสักพักแล้วค่ะ แบบที่ความรักในมุมมองของคนอื่นอะไรแบบนี้ 55555 เลือกน้องกุกมาเป็นคนเล่าเรื่องค่ะ เพราะชอบเคมี พ่อแม่ลูก ของสามคนนี้มาก เพชรว่าพี่นัมจุนเหมือนคุณพ่อแสนอบอุ่นเลย ส่วนโฮซอกก็ขี้บ่นเหมือนแม่อ่ะ 5555 จองกุกก็น่าเอ็นดูจริงๆ 55555
ชอบไม่ชอบยังไงก็ติชมกันได้นะคะ เรื่องนี้ค่อนข้างสั้นและสดมากค่ะ 5555555 เพราะเป็นพล๊อตแบบฉุกละหุก อยากแต่งฟิคคริสต์มาสน่ารักๆสักเรื่อง เลยคิดว่าความรักแบบครอบครัวนี่ก็น่ารักดีนะ 5555555555 เลยออกมาอย่างที่เห็นค่ะ
ตอนนี้ห้องหัวใจโดนม่อนโฮปยึดครองแบบเต็มรูปแบบเลยค่ะ เป็นชิปหลักเลยเนี่ย อย่าแปลกใจนะคะถ้าเห็นฟิคคู่นี้เยอะหว่าชาวบ้านเขาในบทความนี้ 55555555 แอบแง้มเบาๆนะว่าวันชอทเรื่องนี้มีภาคต่อนะ แต่จะได้แต่งมั๊ยมันอีกเรื่องเนอะ 55555 ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านค่า วันนี้เท่านี้แหละค่าบ่นมานานแล้ว เจอกันคราวหน้าค่ะ มีอะไรติดต่อได้ที่ทวิตเตอร์เลยนะคะ @ppbhy จะเม้ามอยจะทวงฟิคก็ได้ทั้งนั้นเลยค่า บ๊ายบายยยย
ความคิดเห็น